การช่วยตัวเอง ถือเป็นบาปไหม?

เป็นธรรมดาของคนที่ยังไม่สามารถตัดกิเลสตัณหาได้ครับ

สงสัยมานานแล้วว่า การช่วยตัวเองนั้นบาปไหม

ไม่ได้ทะลึ่งหรือลบหลู่นะครับ แต่อยากรู้จริงๆ ตอบหน่อยค๊าบบบ

 

ไม่บาปนะ เพราะไม่ได้ไปทำร้ายใคร

หรือ ไม่ได้ไปผิดคู่ของตัวเอง หรือ ผิดสามีหรือภรรยาใคร

การช่วยตัวเอง เป็นการวิธีทางธรรมชาติ ไม่มีผลร้ายต่อใคร

จะบาปก็ต้องมีผลร้ายต่อบุคคลอื่นๆๆ

แต่ก็อย่าไปลุ้มหลงมานเลยคับ

หมั่นทำบุญ ทาน รักษาศิล สมาธิ ภาวนา

แล้วหมั่นอุทิศกุศลไปให้ศิลข้อ3 พวกนี้ ด้วยมันจะช่วยเราให้ผลได้นะงับ

 

ศีลข้อสามไม่ขาด
หากแต่ว่าใจหม่นหมองเพราะติดในกาม

 

ไม่บาป แต่จิตไม่บริสุทธิ์

 

ไม่ผิดศีล 5 แต่ผิดศีล 8

และจิตใจจะหมอง และจะติดนิวรไม่ขาด

ให้พิจรณาเมื่อกำลังทำกิจกรรมแล้วพอเสร็จกิจ ก็ดูว่าความอยากมันหายไปนะ
แล้วก็จะซ้ำๆกันแบบนี้เรื่อยๆไป ว่ามันอยาก แล้วมันก็หายไปอีกแล้วนะ...

แล้วมันก็จะเริ่มเกิดอาการเบื่อ กับสิ่งที่เกิดขึ้นมันตั้งอยู่แล้วก็ดับไปแบบนี้เรื่อยๆ

 

จิตใจจะหม่นหมอง ไม่สงบ

 

ดีกว่าไปผิดศีล ข้อ3 ครับ...
ค่อยๆทำ ค่อยๆเพียร ค่อยๆละครับ

 

เห็นด้วยกับข้อความนี้ จริงจิตใจไม่สงบแน่ เพราะมีครั้งที่ 1 ต่อไป 2 3 4 5..... ก็ตามมานะ

 

พูดถึงศีลห้านั้นไม่บาปหรอกครับเพราะว่ายังไม่ครบองค์แต่ว่าก็อย่างที่ท่านอื่นๆว่ามาคือจะทำให้อารมณ์จิตหม่นหมองเพราะติดในกามารมณ์ซึ่งถือเป็นอารมณ์ร้อน แต่ถ้าเป็นศีลแปดหรือศีลอุโบสถนั้นผิดเต็มๆเลยหล่ะครับ ยังไงก็พยายามลด ละ เลิกนะครับ รู้ว่ามันยากแต่ต้องพยายาม

 

แหม่เฮียคนนี้ -*- ผมอยากรู้เฉยๆ
แต่เจ้าของกระทู้ที่เฮียแนะนำมาว่าเหมือนผมนี่
ออกแนวโรคจิตนิดดๆเลยนะ ค๊าบบ

ขอบคุณทุกท่านที่ตอบครับ พวกผมและเพื่อนๆจะได้กระจ่าง 555 ^0^

 

ไม่บาปจ้า

 

อารายอ่ะ คิกๆ

 

บาปคืออะไร

รับความแปดเปื้อนมาป้ายจิตเป็นอย่างนั้นไหม?

สำหรับผู้มุ่งพระนิพพาน ผมจะขอนิยามดังนี้คือ

ผู้ใดก็ตามกระทำการด้วย มโนกรรม วจีกรรม กายกรรม อันเป็นผลทำให้ไกลจากพระนิพพานมากขึ้น เป็นบาป

ได้โปรดอย่าทุกข์เพราะคำเขียนผม เพราะผมต้องการให้ทุกคนเข้านิพพาน

ฉะนั้น โปรดรักษากำลังใจด้วย

 

ไม่บาปหรอกครับ
แต่ถ้าเป็นพระ ผิดศีลแน่นอน

 

แต่งงานเถิดน้อง....จะได้ไม่เครียด....คิดมาคิดไป.....เปลี่ยนจากเครียดมาเป็นปวดหัวแทน...

 

ยึดถือสายกลาง ไม่ตึงไป ไม่หย่อนไป