ทำไมจึงเปลี่ยนศาสนาจากอิสลามมาเป็นพุทธ :ดร.ดาราวรรณ

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย ธัมมนัตา, 19 มีนาคม 2009.

  1. ธัมมนัตา

    ธัมมนัตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,515
    ค่าพลัง:
    +9,765
    ประวัติ ดร.ดาราวรรณ ครูอิสลามที่เคร่งครัดแต่เปลี่ยนมานับถือพุทธศาสนาและสอนปฏิบัติธรรม (ที่เพิ่งออกรายการคลับเซเว่นของไตรภพ)
    <O:p</O:p




    <CENTER>ฉันเปลี่ยนศาสนาเมื่อหลายปีก่อน เพราะ???

    </CENTER>

    <TABLE class=alt1 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ท


    ครูอิสลามเปลี่ยนมานับถือพุทธ


    ครูดาราวรรณ เด่นอุดม เกิดเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2494 ที่กรุงเทพมหานคร สนใจฝึกสมาธิภาวนาตามหลักพระพุทธศาสนา เนื่องจากอ่านหนังสือเกี่ยวกับการปฏิบัติสมาธิภาวนาแบบเซ็น คือ เรื่องกุญแจเซ็น และปาฏิหาริย์แห่งการตื่นอยู่เสมอ เกิดความประทับใจว่าการฝึกสมาธิและการอยู่อย่างมีสติสามารถทำให ้พ้นทุกข์ได้ จึงศึกษาค้นคว้าและปฏิบัติธรรมอย่างจริงจังจากพระราชวุฒาจารย์ (หลวงปู่ดูลย์อตุโล) และพระราชสังวรญาณ (หลวงพ่อพุธ ฐานิโย) ค้นพบองค์ความรู้เกี่ยวกับความสำคัญของจิตหลักการฝึกจิตและผลของการฝึกจิต แล้วนำมาเผยแพร่ โดยการพิมพ์และแปลหนังสือธรรมะของครูบาอาจารย์ แ ละถ่ายทอดความรู้โดยการอบรมให้แก่ครู
     
  2. sitbudda

    sitbudda สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มกราคม 2009
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +18
    พระพุทธศาสนาเป็นวิทยาศาสตร์ พิสูจน์ได้ จำนนต่อเหตุผล เป็นปัจจัตตัง เป็นเนื้อนาบุญของโลก เกิดชาติใดก็ขอให้ได้อยู่ในร่มพระพุทธศาสนา สาธุ สาธุ สาธุ
     
  3. wishbone

    wishbone สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2008
    โพสต์:
    113
    ค่าพลัง:
    +24
    เฮียต๋อยนี่จริงๆเลย
    เหมือนกับไปถามว่าทำไมceoของไมโครซอฟท์ถึงมีไอพ็อดอยู่กระเป๋าทั้ง2ข้าง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มีนาคม 2009
  4. a5g1aeka

    a5g1aeka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    728
    ค่าพลัง:
    +1,578
  5. j.chaisat

    j.chaisat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    299
    ค่าพลัง:
    +842
    ใช่ครับ...ผมรักพระพุทธศาสนา...ผมเคยทำไม่ดีไว้เยอะ แต่ต่อไปผมจะตั้งใจทำความดีให้มากขึ้นๆๆๆๆๆ มาลดบาปสะสมบุญกันเถอะครับพี่น้อง
    วิธีสวดมนต์ที่ได้อนิสงค์สูงสุด
    ผมจันทรัสม์ ขออนุญาตนำเสนอบทความของคนดีๆ เพื่อให้ทุกท่านรับได้สิ่งดีๆ ครับ (ถ้าจะสวดบทไหนๆ ก็ดี งั้นผมแนะนำพาหุงมหากาครับกระผม)
    อย่าลืม..แผ่เมตตา ทำบุญ ทำทาน ลดบาปสะสมบุญกันครับ
    บทสวดมนต์หลายบทนั้นมีอานุภาพในตัวเองมากมายมหาศาล แต่ต้องขึ้นอยู่กับ "ผู้สวด" ด้วย มีหลายท่านได้ยินได้ฟังมาว่า คนนั้นคนนี้สวดมนต์บท
    นั้นบทนี้แล้วจะได้รับสิ่งที่ดีๆ อย่างนั้นอย่างนี้ จึงมีผู้เลือกเอาบทสวดมนต์ต่างๆ มาบอกเล่ากันว่าควรสวดบทไหน ขอเรียนให้ท่านทราบด้วยความ
    จริง....ว่า...
    การที่สวดมนต์ตามบทสวดมนต์ต่างๆ แล้วได้สมหวังตามความปรารถนา หรือสวดแล้วได้โชคลาภต่างๆ นั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับ " บทสวดมนต์ " แต่เพียง
    อย่างเดียว มีองค์ประกอบอย่างอื่นด้วย
    องค์ประกอบของการได้ทุกอย่างตามที่ปรารถนานั้น มีส่วนสำคัญอยู่ 3 ส่วน
    1. กรรม 2. ตัวเราเอง 3. ผู้ช่วยหรือสิ่งต่างๆ ช่วย
    1. กรรม มีอัตราส่วน 50 %
    ถ้าคนเราไม่มีส่วนของการกระทำที่ได้เคยทำไว้ในอดีตมาเป็นพื้นฐานแล้ว ไม่มีทางที่จะดีขึ้นมาได้เปรียบเทียบว่า กรรม ดีที่เราทำนั้น เป็นกำลังพื้น
    ฐานที่รองรับเรื่องราวต่างๆ
    2. ตัวเราเอง มีอัตราส่วน 25 %
    ถ้าเราเองไม่ทำตัวให้ดี เพื่อรองรับ หรือรอรับสิ่งที่ดีๆ แล้ว ก็ไม่มีทางที่จะได้ดีขึ้นมาได้
    3. ผู้ช่วยหรือสิ่งที่มาช่วย มีอัตราส่วน 25 %
    ผู้ช่วยในที่นี้ รวมถึงทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นครูบา อาจารย์ ผู้ที่มีจิตดี จิตบริสุทธิ์ พรหม เทพ เทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ บทสวดมนต์ พระคาถา เครื่องราง
    ของขลัง วัตถุมงคล ฯลฯ
    สิ่งเหล่านี้ เป็น " อุปกรณ์ " เสริมที่มีความจำเป็น เพื่อให้สิ่งที่เราต้องการ สิ่งที่เราปรารถนา สมตามความต้องการ นี่เป็นการเปรียบเทียบเพื่อให้เห็น
    ชัดๆสมมติว่า ถ้าเป็นการสอบ ต้องการคะแนน 50 เพื่อ " ผ่าน "
    ลองคิดดูง่ายๆ ว่า ถ้าเราจัดอัตราส่วนแล้วเราต้องใช้ส่วนไหนมากที่สุด ถ้าใช้ส่วนที่มากที่สุด ก็คือ ส่วนที่เป็น " กรรม " เรามีอัตราส่วนถึง 50 % ถ้าเรา
    เคยทำกรรมดีไว้พอสมควร คือทำกรรมดีไว้เต็มเปี่ยมได้ครบ 50 % เราก็ไม่จำเป็นต้องไปหาคะแนนมาจากไหนมาเพิ่ม เพราะได้ครบ 50 % แล้วเคย
    สังเกตหรือไม่ว่า คนบางคนแค่เพียง " นึก" ก็ได้สมตามความปรารถนาแล้ว ไม่จำเป็นต้อง " ร้องขอ " จากสิ่งใดๆ อีก ก็ได้ทุกอย่างตามที่ปรารถนา นั่นก็
    แสดงว่าบุคคลนั้นได้กระทำ " กรรม " ที่ดีๆ มาอย่างเต็มเปี่ยมแล้วในอดีต
    แต่ถ้าท่านยังทำความดีไม่เพียงพอ กระพร่องกระแพร่ง หรือขาดตกไปบ้าง สมมติว่ามี " กรรมดี " ได้คะแนนเพียง 30 % จำเป็นที่จะต้องหาคะแนนจาก
    ที่อื่นมาเพิ่มให้ครบ 50 คะแนน จะไปเอาจากไหน ก็จากที่เหลือ 2 ส่วนที่เหลือ คือ จากตัวเราเองและผู้ช่วยเหลือหรือสิ่งช่วยเหลือ
    การที่จะไปหาให้ครบ 50 คะแนนนั้น ถ้าเอามาจากตัวเองน่าจะง่ายกว่าไปหาจากคนอื่น เพราะการที่ทำเอง ก็จะได้เอง และได้มากกว่าคนอื่นมาทำให้
    แต่ถ้าถามว่า เราทำเองนั้น ทำดีได้แค่ไหน จริงใจกับการทำความดีได้แค่ไหน หรือทำไปแล้วผลที่ได้จะเพียงพอกับคะแนนที่ต้องการหรือไม่
    สมมติว่าทำได้อีก 10 คะแนน (จาก 25 คะแนน) เราก็ได้เพิ่มแล้วเป็น 40 คะแนน ยังขาดอยู่ 10 คะแนน เราก็ต้องอาศัยผู้ช่วยเหลือ หรือสิ่งช่วยเหลือ เช่น
    ครูบา อาจารย์ ผู้ที่มี " จิต " ดี " จิต " บริสุทธิ์ เทพ เทวดา พรหม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ บทสวดมนต์ พระคาถา เครื่องราง ของขลัง วัตถุมงคล ฯลฯ เหล่านี้ก็
    สามารถช่วยท่านได้อีก 10 คะแนน รวมแล้วครบ 50 คะแนน ถือว่า " ผ่าน "
    นี่เป็นเพียงการเปรียบเทียบ และแสดงให้เห็นว่า ทุกส่วนต้องมีการเกื้อหนุนและประกอบกัน ถ้าแค่ผ่าน ก็ใช้เพียง 50 % หรือ 50 คะแนน แต่ถ้าจะให้ "
    เยี่ยม" ต้องใช้คะแนนมากๆ บางคนทำคะแนนได้มากถึง 90 หรือเกือบร้อย เช่น ทำแต่กรรมดี มาตั้งแต่อดีต เป็นคนที่ทำตัวเองดี และได้ผู้ช่วยเหลือดี
    เลยทำให้ได้ดี มากยิ่งขึ้น
    จำเอาไว้ว่า กรรม 50 ตัวเอง 25 ผู้ช่วยเหลือ 25
    ไปจัด***ส่วนเอาเอง ถ้าจะมานั่งรอแต่ให้คนอื่นช่วย ( 25 คะแนน ซึ่งความเป็นจริง ใครหรืออะไรจะมาช่วยได้ครบ 25 คะแนน ) แล้วไม่ทำตัวเองให้ดีๆ
    ไม่ทำกรรมดีมาแต่ก่อน จะไปได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ หรือจะได้รับสิ่งที่ดีๆ ได้อย่างไร เพราะฉะนั้นความเป็นจริง ตัวเราเองเป็นส่วนสำคัญ มีคะแนนถึง
    75 % หรือ 75 คะแนนจากการกระทำดีของเราที่ได้เคยทำไว้ ซึ่งก็คือ " กรรม " 50 ตัวเราเองทำดีด้วย 25
    ถ้าทำได้แค่นี้ 75 คะแนนแล้ว ผ่านได้อย่างสบายๆ จะมานั่งรอผู้ช่วยเหลือ หรือสิ่งช่วยเหลือทำไม แค่เพียง 25 คะแนนเองเมื่อรู้อย่างนี้แล้ว ทำไมไม่ฝึก
    ตัวเองก่อนให้ตัวเองมี " ดี " พอก่อน ก่อนที่จะไปหา "ดี" จากที่อื่น
    บทสวดมนต์ก็เช่นกัน จัดอยู่ในข้อที่ 3 คือผู้ช่วยเหลือ หรือสิ่งช่วยเหลือ อย่าลืมว่าเป็นเพียง " ส่วนประกอบเท่านั้น " คนที่ไม่มี " กรรม " ดีมาก่อน ไม่
    ได้ทำตัวให้เป็นคนดีก่อน ไม่ทำบุญทำกุศลมาก่อน ให้สวดพระคาถาชินบัญชร 100 จบ 1000 จบก็ไม่ได้อย่างที่ตัวเองต้องการ หรือเรียกง่ายๆ ว่า อาจจะ
    ไม่ได้ดีตามที่หวัง แต่การสวดมนต์ก็ได้ " กุศล " แล้ว แต่ได้อย่างมากที่สุดก็ไม่เกิน 25 คะแนน
    รู้อย่างนี้แล้วจะมามัวมานั่งทำอย่างใดอย่างหนึ่งทำไมกัน ทำทั้ง 3 ส่วนให้สมดุลย์กันไม่ดีกว่าหรือ ? ทั้งทำ " กรรม " ดี ทำตัวเองให้ดี (รวมถึงการทำบุญ
    กุศล ปฏิบัติภาวนา ฯลฯ) และหาผู้ช่วยเหลือ สิ่งช่วยเหลือที่ดี แล้วสิ่งที่คุณต้องการ...ก็จะไม่ไกลเกินความจริง


    {{ การสวดมนต์เพื่อให้ได้อานิสงส์สูงสุด }}
    1. อย่าสักแต่ว่าสวดเป็นนกแก้วนกขุนทอง คือท่องๆ บ่อยๆ ไปตามอักขระที่อ่านหรือนึกได้ ข้อนี้ไม่ได้หมายความว่าต้องให้รู้ความหมายด้วย ไม่จำ
    เป็นขนาดนั้น เพราะการรู้ความหมาย เป็นเพียงส่วนเสริมเท่านั้น (แต่ถ้ารู้ความหมายด้วย ก็เป็นเรื่องดี) จะรู้ความหมายหรือไม่รู้ความหมายก็ไม่สำคัญ
    เท่ากับการสวดมนต์อย่างมีสมาธิ
    2. ต้องสวดมนต์อย่างมีสมาธิ หมายความว่า เวลาที่จะสวดมนต์นั้น ต้องรู้ก่อนว่าสวดมนต์บทไหน (จะรู้ความหมายหรือไม่รู้ก็ได้) แต่เวลาที่สวดมนต์นั้น
    ให้รู้ว่าอักขระหรือตัวหนังสือที่เรากำลังจะท่องนั้น คือตัวอะไร ฟังดูอาจจะเข้าใจยาก เอาอย่างนี้ เวลาที่จะสวดมนต์ เช่น นะโม ตัสสะ ฯลฯ ก็ต้องรู้ว่า
    ตอนนี้กำลังสวดคำว่า นะ คำว่า โม คำว่า ตัส คำว่า สะ คือให้รู้ตัวทุกตัวอักขระว่ากำลังสวดคำไหน ทำได้มั้ยครับ ถ้าทำได้..คือรู้ตัวว่าสวดอักขระตัวไหน
    เราก็จะมีสติใจจดจ่อกับคำสวดตามอักขระ เมื่อมีสติเราก็จะมีสมาธิ การมีสติ และมีสมาธิในเวลาสวดมนต์นั้น จะได้รับ " พลังงาน " ที่ดี
    ทำให้ได้ แล้วจะได้รู้ว่า สวดมนต์เวลาที่มีสติและสมาธิ จะ " ดีกว่า " สวดมนต์แบบนกแก้วนกขุนทองอย่างมากมายมหาศาล จะท่องโดยไม่ต้องดูตัว
    หนังสือก็ได้ แต่อย่าขี้เกียจ หมั่นท่องจำไว้ให้ได้ก็ดี อย่านึกว่ามีหนังสือ มีตำรา แล้วเอาแต่เปิดหนังสือ เปิดตำราท่อง แรกๆ ก็เปิดได้ เพราะคนไม่เคย
    ท่องจะให้จำได้อย่างไร แต่ถ้านานๆ ไป ควรท่องจำเองโดยไม่ต้องเปิดหนังสือหรือตำรา เพราะการท่องด้วยจิตใจที่จดจ่อกับคำที่เราท่อง สิ่งที่เราได้ก็คือ
    จิตจะมีสมาธิ
    ...ผมจันทรัสม์ป่วน..ขอชวนเพื่อนๆ ทำดี
     
  6. natspdo

    natspdo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,041
    ค่าพลัง:
    +1,505
    อนุโมทนครับ.. เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลยนะครับ ที่เปลี่ยนความเชื่อได้
     
  7. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    อ นุ โ ม ท น า ส า ธุ . . . หนึ่งในล้าน


    .
     
  8. cmessage

    cmessage สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +11
    ดีครับ

    :z10คนที่เปลี่ยนใจมาเชื่อในพุทธานุภาพและพุทธศานนาไม่ได้มีเพียงแค่นี้นะครับ แม้ในกาลสมัยก่อนก็เคยเกิดมาแล้วหลายครั้งอย่างอัสจรรย์ดังจะเห็นได้จากพุทธประวัติ ซึ่งในสมัยก่อนมีศาสนาและลัธธิเดียรถีมากมายที่ยึดมั่นความเห็ฯตน จนกระทั่งได้พบกับพระพุทธเจ้าก็ได้ดวงตาเห็นธรรมและมรรคผลนิพพาน และไม่ไช่เพียงในโลกมนุษเท่านั้น ท่านได้แสดงสัจธรรมนี้ไปทั่วสามโลกและอีกหลายโลกธาตุ ชาตินี้เกิดมาได้ร่างมนุษและพบพุทธศานนาถือว่ามีบุญแล้วครับ ชาติภพต่อไปก้อยู่ที่ชาตินี้ที่เรากำหนดได้ สาธุครับ
     
  9. lagunaram

    lagunaram เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    368
    ค่าพลัง:
    +697
    แม้จะต้องเกิดอีกกี่ภพกี่ชาติ ขอเกิดในประเทศที่มีพุทธศาสนาอยู่อย่างมั่นคง
    ได้พบสัตตบุรษุ ผู้รู้ธรรมอันประเสริฐ ให้เกิดท่ามกลางกัลยาณมิตรและเป็นสัมมาทิฐิทุกชาติไปขอให้ได้มีโอกาศฟังธรรม ประพฤติธรรมจนเป็นปัจจัยตามส่งทั้งชาตินี้และชาติต่อๆไป ให้เจริญด้วยสติและปัญญาญาณจนถึงพระนิพพานในกาลอันควรเทอญ สาธุ
     
  10. jiraphat_ji

    jiraphat_ji เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    184
    ค่าพลัง:
    +204
    อนุโมทนาสาธุค่ะ...ข้าพเจ้าขอเกิดใต้ร่มพระพุทธศาสนาทุกชาติทุกภพไป...สาธุ
     
  11. พุทธนิรันดร์

    พุทธนิรันดร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    1,641
    ค่าพลัง:
    +5,039
    ครับ ขออนุโมทนาด้วยครับ สาธุ
    อ่านไปก็ปลื้มอิ่มใจไปด้วยครับ
     
  12. งูขาว

    งูขาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2008
    โพสต์:
    945
    ค่าพลัง:
    +1,824
    ทองแท้ ยอมไม่กลัวไฟใดๆ ความจริง คือ ความจริง 55555555555
     
  13. อรมณีจันทร์

    อรมณีจันทร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    993
    ค่าพลัง:
    +499
    จริงๆแล้ว คนเราเลือกได้

    แต่ที่คนที่บอกว่าเลือกไม่ได้

    เพราะเขาสร้างกำแพง ขึ้นมาเองต่างหาก

    คนเรามีสิทธ์ในการนับถือศาสนา

    ดิฉันยังเคยลองเข้าโบสถ์ ไปหาพระเจ้าเลย

    เพราะมีคนชวนให้ไป รู้จักพระเจ้า

    ดิฉันก็ไปนะไม่ชอบ กฏระเบียบที่ต้องไป

    โบสถ์ทุกวันอาทิตย์เลยเผ่นตั้งแต่แรกๆ
    คิดว่าทุกศาสนาดีหมดแหล่ะ
    แต่คนรุ่นเก่า ปิดกั้น

    ไม่ให้คนรุ่นใหม่ ค้นหาสิ่งที่เหมาะกับ จริตของตัวเอง
    คนที่ชอบทางสมาธิ นับถือพุทธหน่ะถูกแล้ว
    คนที่ชอบไหว้เทพเจ้า ขอพร สารพัดจะขอ
    นับถือทางเทพก็ถูกจริตแล้ว

    แต่กรณีดิฉันจะสนใจทั้ง ทางฮินดู และทางพุทธ

    มันก็ไม่เห็นผิดตรงไหน ก็ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนอะไรเลย

    ความจริงแล้วคนเราเลือกได้นะ แต่ไม่ควรไปจำกัดสิทธิของใครว่า

    ฉันนับถือทางนี้นะ เธอต้องนับถือตามฉันนะ..ถูกมะ
     
  14. sawasdeebangkok

    sawasdeebangkok เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    172
    ค่าพลัง:
    +100
    มีโอกาสได้ดูจากรายการ ดูหน้าอาจารย์มีความสุขเยอะดี

    อนุโมทนาบุญครับ
     
  15. 我是泰国福建人

    我是泰国福建人 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2008
    โพสต์:
    298
    ค่าพลัง:
    +306
    เพื่อนๆผมหลายคนเขาก็อยากรุ้ว่าศาสนาพุทธมีอะไรบ้าง ผมก็เลยให้เขาดู เขาอ่าน และบอกว่ากรรม ความดี ให้ชัดเจน กระจ่างกว่า ทำบุญช่วงวันอาทิตย์ รู้แจ้งเห็นจริง อิสลาม ละมาดเป็นเวลา เสียเวลางานการหมด อิสลามไม่มี อัลเลาะห์ อยุ่บนสวรรค์ไมได้มาเกิดเป็นมุษย์อย่างศาสนาอื่นๆใดในโลกนี้ พูดๆไป เขาศึกษาไปจนหันมาเป็นพุทธ ทั้งๆที่พ่อแม่เขารู้และบางคนไม่รุ้ ถูกบังคับเป็นอิสลาม แต่ปากบอกว่าเป็นอิสลาม แต่ใจความคิดไม่เป็น ยังเป็นพุทธเสมอ ผมพูดๆไป ให้เขาอ่านดู หันมาเป็นพุทธก็ไม่เยอะเท่าไหร่
     
  16. คุณ 4

    คุณ 4 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    733
    ค่าพลัง:
    +5,159
    ดีแล้วคับ ชอบแล้วคับ
     
  17. pharm.taung

    pharm.taung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2009
    โพสต์:
    945
    ค่าพลัง:
    +432
    “จิตคือพุทธะ”

    ผมชอบนะ ขอบคุณครับสำหรับข้อความดีๆ ^^
     
  18. itsun

    itsun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2006
    โพสต์:
    370
    ค่าพลัง:
    +373
    ขออนุโมทนาครับ

    ขอให้พบทางสว่างนะครับ และขอให้เจริญในทางโลกและทางธรรมครับ
     
  19. komojin

    komojin สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +3
    ขออนุโมทนากับเรื่องของ ดร.ดาราวรรณ ที่เป็นตัวอย่างสำหรับ ผู้คนบางกลุ่ม บางท่านที่ยังถือตัวถือตนที่ยังไม่เปิดใจรับรู้อย่างใจเป็นกลาง เพื่อให้ท่านเหล่านั้นได้มีสติเข้าใจ
    รู้จักสมาธิอย่างเป็นเหตุเป็นผล ซึ่งไม่แบ่งว่าท่านจะเป็นใคร ศาสนาใด ก็สามารถปฎิบัติได้
     
  20. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    โมทนาสาธุครับ....

    การเผยแผ่พระธรรมของพระพุทธเจ้าให้กับชาวต่างชาติและผู้ที่อยู่นอกศาสนา.....วิธีที่ได้ผลที่สุด....เห็นจริงที่สุด....ก็คือวิธีการปฏิบัตินี่หละครับ.....
     

แชร์หน้านี้

Loading...