เรื่องเล่า ก่อนนอนคืนนี้..ของเหล่าคนผู้มีตาทิพย์

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย The Third Eyes, 12 พฤศจิกายน 2008.

  1. ดาวทะเลทราย

    ดาวทะเลทราย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    3,424
    ค่าพลัง:
    +13,166

    ตัวกลมๆ...........นี่ มีความรู้กว้างขวาง ดี เน้อ...
    รู้ หลายเรื่อง ดี ( ไม่กล้า ชม ว่า รู้ไปหมด ........55 )
    อันไหน สงสัย ต่ออินเตอร์เน็ต ค้นหา Enter .... เดี๋ยวก็จะได้คำตอบ
    ความรู้มากๆ ระวัง นะ...
    สมอง เก็บจนเต็ม ....... เมมโมรี่ เต็ม ต้อง เอามาเก็บไว้ ที่ พุง.....555
     
  2. Baby_par

    Baby_par เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2007
    โพสต์:
    2,743
    ค่าพลัง:
    +3,265

    เมื่อก่อนเขาสืบทอดกันในตระกูลค่ะ แต่ตอนนี้คงไม่ใครอยากสืบทอดแล้วมั้งค่ะ แหะๆ

    ปลาก้ไม่อยากสืบทอดเพราะว่า ถ้าเป็นไปได้ไม่อยากจะพึ่งบรรพบุรุษเท่าใดนัก

    และที่สำคุญปลาตายไปก็ไม่อยากที่จะอยู่ดูแลลูกหลานด้วยค่ะ อยากไปเกิดหรือไปนิพพานมากกว่าที่จะมาติดในวังวลอย่างนี้

    ส่วนพระ..ไม่ได้พกค่ะ ก็พอดีเล่นคอมอยู่ที่บ้านจนดึกๆดื่นๆแล้วก้ยังแปลกๆใจว่าทำไมยังมีเสยีงเพราะแถวบ้านกลางคืนเราหลับกันหมดแล้วด้วย แหะๆ
     
  3. ตัวกลมๆ

    ตัวกลมๆ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    722
    ค่าพลัง:
    +5,941
    5555 ตัวกลมยังรู้น้อยมากเลยค่ะพี่ เทียบกับพี่หรือหลายๆคนในนี้ล่ะก็ ตามได้แค่ขี้ฝุ่น
    แต่ถ้าใครจุดประกายอะไรสักอย่าง จะไปค้นหา เรียกได้ว่า อยากรู้อยากเห็น คิดถึงลูกหมาเวลามันเอียงหัว
    เงี่ยหูฟัง ทำตาปริบๆนะคะ แล้วก็ดีใจที่เรารู้อะไรเพิ่มขึ้น สนุกดีจริงๆเลยค่ะ

    นี่ก็กะว่าจะลากเพื่อนสมัยเรียน คนที่ทำให้สนใจเรื่องผีๆมาหาอาจารย์สักหน่อย ค้างคาใจมานาน
    อิอิ ส่วนเรื่องพุง ไขมันล้วนๆ กำลังกินยา อ.สุวิ รักษาเลือดข้นอยู่ค่ะ เผื่อหุ่นดี จะเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้อาจารย์เลย

    นู๋ปลาคิดอย่างนั้นถูกแล้วจ้าาา ไม่งั้นอดนิพพานแน่ เคยฟังจากแม่บ้านเมื่อ2-3 ปีก่อน แม่สามีเขา
    ไปเจอคนทรงเจ้า คนทรงแนะให้ไปถือขัน(?)เอาบายศรีมาบูชา แต่สุดท้ายไม่ใช่ผีบรรพบุรุษ
    เป็นผีประมาณปอบ แอบขโมยกินของอย่างเดียว ลืมไปแล้วว่าจบยังไง ่สุดท้ายก็ทิ้งบายศรีนั้นไปเลย
     
  4. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    วันที่ 23 และ24 มีค 52 สามตาและลูกทีมอีกสี่ท่าน ไป ทัวร์ ไกลไปตรวจงานที่ โรงงานน้ำตาล ที่ สตึก บุรีรัมย์ แล้วเลยไป บูชา หลวงปู่หงส์ พรมปัญโญ ที่ วัดทุ่งมน
    โดยวันที่ 24 มีค 52 แวะชม สถานที่ดังนี้

    ปราสาท ตาเมืยน
    ปราสาทตาเมียนโต๊จ
    ปราสาท ตาเมียน ธม
    ปราสาทพนมรุ้ง
    ปราสาทเมือง ต่ำ
    รวม 5 ปราสาท พบเรื่อง น่าอัศจรรย์มากมาย
    จะนำมาเล่า ต่อ จากจบ เรื่อง วัดไลย์ ..คงเป็นหนังยาวอีกเรื่อง
    .........................................................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มีนาคม 2009
  5. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    เรื่องเล่า ก่อนนอน คืนนี้ วัดไลย์ (ต่อ)
    พอจบทางด้าน ตัววังของ บุเรงนอง ผู้ยิ่งใหญ่
    ก็ออกมายืน ทางที่ ว่างด้านหลังของวัง ที่ โล่งตลอด
    มองไป ไกล มากกว่า สนามฟุตบอลล์
    ......................................................
    ลองใช้จิตมอง ย้อนยุค ก็พบ ว่า ด้านหลังที่ ว่างเปล่า นั้น
    เป็นแนวบ้านเป็นหลังๆๆ แบบ รีสอร์ท ในปัจจุบันเรียงเป็นแถว
    ด้านหน้า กว้าง มีเรียงสี่..และแถวเรียงลงไป ประมาณ ห้า ชั้น
    รวมบ้านรีสอร์ท ประมาณ 20 หลัง.หรือมากกว่า...........
    ...................................................................
    แต่ละหลัง ปลูกแยกกัน เป็นเรือนไม้ชั้นเดียว สร้าง ด้วยไม้อย่างดี
    ตกแต่ง ด้วยต้นไม้พุ่มมีดอกสวยงามเหมือน อยู่ในสวนรุกขชาติ
    นี่คือ พระราชวังชั้นใน ที่ ห้ามคนนอกที่เป็น ชายเข้า
    เป็นที่อยู่ของ พระมเหสี และ นางสนม ของ ผู้ยิ่งใหญ่
    ...................................................................
    ด้านหน้า เรียงกัน เป็น ของ ตะละแม่ กุสุมา / ตะละแม่ จันทรา ฯลฯ
    มเหสีเอก..แถวตัดไป ก็เป็นที่อยู่ ของ พระสนมลำดับรองลงมา
    ........................................................................
    พระสนมคือ ก็คือ ลูกสาวเจ้าเมือง แคว้น และประเทศ ต่างๆๆ
    ที่ บุเรงนอง ไป ยึดรบชนะ กลับมา และเอาตัวลูกสาวเขามาด้วย
    ในที่ นี้..มีพระพี่นางสุพรรณกัลยา พระเชษฐคินีของ
    องค์พระนเรศวรมหาราช.. มาอยู่ด้วย..ในฐานะตัวประกัน
    ...............................................................
     
  6. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ต่อมาเมื่อ สิ้นยุค บุเรงนอง..พระเจ้านันทบุเรง ขึ้นครอง แทน
    ก็เท่ากับ ว่า ในวัง ทั้งหมดที่เป็น สนม ก็ ต้องถูกโอนมาด้วย
    เมื่อ สงคราม ชนช้าง ยุทธหัตถี..มังสามเกียด หรือ พระมหาอุปราช
    ถูกพระนเศวร ฟัน สิ้นพระชนม์.พระเจ้านันทบุเรง จึงพิโรธ
    เข้าใช้ พระดาบ แทงสังหาร พระพี่ นางสุพรณกัลบยา ที่ กำลัง
    มีพรครรภ์ สิ้นพระชนม์..คาเตียงที่ ประทับ
    .........................................................................
    พระศพพระพี่นาง ทางพม่า ยัดใส่ ตุ่มพิเศษ ทำพิธีไสยศาสตร์
    ปิดปากตุ่ม ไม่ให้ วิญญาณ ออกมา..เพราะ วิญญาณ
    ที่ ตายโหง จะ อันตราย..ต่อผู้ที่เกี่ยวข้องกับการตาย นั้น
    ...............................................................
    ตอนที่ พระพี่นางเสด็จไป พม่า ในฐานะ ตัวประกัน
    พม่า มอบให้ทหารไทยระดับสูงเป็นผู้ ดูแลความสะดวก
    ในการเดินทางครั้งนั้น...นายทหารผู้นั้นมีควาสำคัญ
    ...........................................................
    เพราะ หลังจากเวลาผ่านไป..มีพระสงฆ์ไทยองค์หนึ่ง
    ที่ เดินจาริก ไป พม่า..แล้วไป เปิดตุ่ม นำเอากระดูก
    พระพี่นางกลับเมืองไทยได้..พระสงฆ์ ที่เคยเป็น นายทหารไทย
    ยุค เมื่อ กว่า สี่ร้อยปีที่ ผ่านมา..และกลับมาเกิดใหม่คือ
    "หลวงปู่โง่น สรโย" นั่นเอง
    .................................................................
    จากรูปที่เห็น จากจิต พระนางสุพรรณกัลยา ทรงมีพระพักเหลี่ยม
    ไว้พระเกศาสั้น แบบ ดอกกระทุ่มรัดเกล้า..เพราะผู้หญิงไทย
    ในสมัยนั้น ไม่ใว้ผมยาว เพราะ บ้านเมือง อยู่ในการสงคราม
    การไว้ผมยาวจะเสียเปรียบ ถูก ข้าศึก คว้ายึดได้ ง่าย......
    ..................................................................
    พรพัตร์ก็ มีสีน้ำผึ้ง..ทาแป้ง นวลขาวของพม่า ที่เรียกว่า "ทานากา"
    ทาแบบไทยๆๆ ไม่ได้ ทาแบบพม่า ที่ ทำเป็นวงๆๆ บนแก้ม
    .........................................................................
    ไม่เหมือนที่ มีผู้วาด เป็น สาวหน้ายาว ผมยาว หน้า ขาว
    เหมือน ดาราภาพยนต์ ในปัจจุบัน...แต่อย่างใด
    ...................................................................
     
  7. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ออกจาก พระราชวังบุเรงนอง ในระยะไม่เกิน 1 กม.
    เราก็มาถึงวัดหลวงใหญ่ ประจำหงสา ที สร้างตั้งแต่ยุคโบราณ
    ที่ วัดนี้ เป็นวัด ที่ สมเด็จพระนเรศวร ทรงเคยมาไหว้พระเป็นประจำ
    ระหว่างวัด กับ วัง ใหญ่ เป็นที่ โล่ง แบบ ท้องสนามหลวงของไทย
    ....................................................................
    มีศาลา ที่ประทับ ของ กษัตริย์พม่าเวลาเสด็จมาวัด
    มีลานกว้าง เป็นสถานที เคยมีการชนไก่ ระหว่าง
    พระนเรศวร กับ มังสามเกียด.และของพระนเศวร ทรงชนะ
    ..................................................................
    วัดนี้ ต่างกับที่ เจดีย์ใหญ่ ชะเวดากอง ที่ อยู่ในกรุงย่างกุ้ง
    กรุงย่างกุ้ง พมา ออกเสียง "ยางกอน"
    ที่ นั่น ตัวเจดีย์ ตั้งอยู่กลาง มีถนน รอบพอลงจากรถก็ขึ้นบันได
    ได้ ทันที แบบ ที่ พระปฐมเจดีย์ ของไทย
    ............................................................
    ต้องเดิน บนแท่นแผ่น ปูน ร้อนโดยรอบ..เท้าแทบพอง
    ข้างใต้ มีห้องทำเป็น พิพิธภัณฑ์..
    สะสมของมีค่าพวกทอง มากมาย
    ........................................................
    ครั้งหนึ่ง อาจารย์ แม่ สุนีย์ สินธุเดชะ เคยได้ รับเชิญไป เที่ยว พม่า
    พอชมพระเจดีย์ ชะเวดากองเสร็จ..ไกด์ ถาม ว่า พระเจดีย์ สวยใหม
    อาจาย์แม่ตอบว่า " สวย ซิ..เพราะทองของกูจากกรุงศรีอยุธยาทั้งนั้น"
    .............................................................................
     
  8. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ที่ วัดประจำหงสา คือ วัด ชะเวดอร์มอ หรือ มุเตา
    เป็นวัดที่อยู่ลึก ต้องเดินยาว มากกว่า 100 เมตร
    แต่โชคดี ที่ มีหลังคาเป็น ชั้นๆๆ ลดหลั่นลงมาจากที่ สูง
    ไม่น้อยกว่า 5 ระดับ..การมีหลังคา ก็เพื่อ กษัตริย์พม่า
    มาไหว้ พระ จะได้ ไม่ถูกแสงแดด
    ........................................................
    เราก็แค่หิ้วรองเท้าใส่ถุง เดินเข้าไป อย่างสะบาย
    เพราะไม่ถูกแดด เดิน ตีนไม่พอง
    สวนกับ หนุ่มสาวพม่า ที่ นุ่งโสร่ง ถือดอกไม้ไหว้ พระ
    ทาแป้ง รากไม้ฝน "ทานากา "แก้ม ขาวเป็น ดวง
    ไม่รู้คำตอบว่า ทำไม ทาเป็นวงๆๆที่แก้ม..
    ไม่ทาทั่วหใบหน้าท แบบไทย
    ..........................................................
    พอพ้นหลังคาออกไป ก็เห็น องค์ พระเจดีย์ ขนาด ย่อมๆๆ
    มีผู้คน พม่ามาเดิน วนรอบพระเจดีย์แบบไทย คือ ทักษิณาวัตร
    แต่พวกพระพม่า ที่แต่งจีวรแดง ที่ต่างของไทยที่แต่งเหลือง
    มานั่ง สวดมนต์ ทำ สมาธิ ออกันแน่น
    ที่ หน้า ช่อง ประตูเข้าในเจดีย์ ที่ มีอยู่ สี่ด้าน
    .................................................................
    ชาวพม่า ไหว้พระ บูชา พระไม่เหมือนแบบไทย
    เขาจะ มีการนำรูป นักษัตร 12 ราศี
    ที่เราเรียก ชวด ฉลุ ขาล เถาะ มะโรง มะเส็ง ฯลฯ
    มาเรียงเป็นระยะ รอบพระเจดีย์..ชาวพม่า ทำบุญที่ ช่อง
    ที่ตรงกับ ราษีเกิด ของ ตัว
    ...........................................................
    ของไทย เราจะไหว้พระ ทำบุญ กับ พระพุทธรูป ปางวันเกิด
    เช่น ปางอุ้มบาตร/ ปางรำพึง/ ปางถวายเนตร/
    ปางนาคปรก/ ปางนิพพาน ฯลฯ
    ...............................................................
    อย่างนี้ ก็ง่าย นะซิ..ง่ายนะซิ...ง่ายนะซิ
    เอาดอกบานไม่รู้โรย ไป กว่า 1000 ดอก ตามจำนวนวิญญาณที่ ตกค้าง
    ในกรุงศรีอยุธยา กลับไป แบ่ง เป็น สิบสองกอง
    แล้วยัดเข้าไป ที่ ช่องราศี เกิด รวมๆๆกันไป
    ............................................................
    ใครจะไปรู้ว่า วิญญาณ พม่า แต่ละคน เกิด ราศีไหน
    เมื่อ ยัดเข้าไป แล้ว..ถ้าไม่ถูก..วิญญาณทั้งหมด ก็ วิ่งแลก กันเอง
    ก็แล้วกัน...คงไม่วุ่นวาย น่ะ
    ...............................................................
    พอดี จะมีสมาชิก ชมรมคนตาทิพย์ สอง สาวจะไป พม่า วันนี้ ที่ 24 มีค 52
    บอกให้เขา เซอร์เวย์ด้วยว่า การจะเอา ดอกบานบุรี วิญญาณพม่า
    เข้า ประเทศ พม่า มีปัญหาใหมไป..อีกสามวัน เขาจะกลับมาให้ คำตอบ
    ............................................................................
     
  9. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ถ้าข้อมูลแน่นอน..เราก็อาจจะจัดพิธือัญเชิญ วิญญาณ ทหารพม่า
    ตกค้างและอยากกลับกรุงหงสาวดี..ที่ บางปะหัน และอยุธยา
    แล้ว พาวิญญาณ กลับไป ส่ง ที่ เขาจากมา...
    บ้านเมืองไทย จะสงบเสียที
    .....................................................................
     
  10. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    หลังการสิ้นพระชนม์ ของ พระพี่นางสุพรรณกัลยา
    องค์พระนเรศวรทรงแค้นมาก..หลังจาก จัดกองทัพไทยได้ เข้มแข็ง
    ก็ยกทัพมาตี เมืองหงสาวดี เพื่อแก้ แค้น
    นันทบุเรง เห็นว่า สู้ไม่ได้ ก็ ย้ายหนีไปอยู่เมือง แปร
    ก่อนไปได้พวก พม่า เผาเมือง หงสาวดี เพื่อไม่ให้ พระนเรศวรยึดและใช้
    แต่ไม่ได้ เผา พระเจดีย์ใหญ่มุเตา เพราะกลัวบาป
    และ พระนเรศวร ก็ไม่ทรงเผา วัด นี้เช่นกัน
    วัดนี้คง คงอยู่ผ่านมาได้ จยถึงปัจจุบัน..ไม่ได้ ถูกเผา
    .........................................................
    นันทบุเรง หนีไป อยู่เมืองแปร..แต่ก็ไม่รอด
    ถูกพระเจ้าแปร วางยาพิษจนสิ้นพระชนม์..ตามกรรม
    ที่ก่อไว้กับ พระพี่นางสุพรรณกัลยา
    ........................................................
    (มีต่อ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มีนาคม 2009
  11. visnu

    visnu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,844
    ค่าพลัง:
    +23,778
    [​IMG]

    บรรยากาศการตรวจฮวงจุ๋ยบางส่วนครับ

    [​IMG]

    และการทัวร์ครับ ยั่วน้ำลายครับเดี๋ยวค่อยลงรายละเอียดครับไปเยอะครับ
    ถ่ายรูปมาเป็นร้อย เลยคัดนิดนึงครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1000252.jpg
      P1000252.jpg
      ขนาดไฟล์:
      60.6 KB
      เปิดดู:
      1,535
    • P1000342.jpg
      P1000342.jpg
      ขนาดไฟล์:
      110 KB
      เปิดดู:
      1,560
  12. ตัวกลมๆ

    ตัวกลมๆ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    722
    ค่าพลัง:
    +5,941
    ไชโย!!! ในที่สุดมีเรื่องให้อ่านอีกเยอะเลย ออกไปทางอิสานใต้บุรีรัมย์ สุรินทร์ติดเขมรโน่น
    คราวนี้อาจารย์ได้ไปปราสาทหินพนมรุ้งรอบใหม่ เป็นยังไงหนอ ขอบคุณคุณvisnu
    เอารูปมาให้ดู(อย่าลืมบอกด้วยนะคะที่ใด)

    เขาทาหน้าด้วยตานาคา อย่างที่อาจารย์ว่าแหละค่ะ ยกเว้นเวลาไปทำงานเขาก็เอามารองพื้น
    แล้วทาแป้งสมัยใหม่ทับ เดี๋ยวนี้เขาทำเป็นแป้งแข็ง แล้วเกลี่ยทั่วหน้า มีขายในไทยด้วย
    [​IMG]

    เท่าที่เคยอ่านนะคะ...ในสมัยชาติก่อนของหลวงปู่โง่น ที่เป็นทหาร มีฝีมือในการสร้างบ้าน
    ได้ดูแลพี่น้องสามพระองค์ระหว่างทางไปเป็นเชลย รวมทั้งพระมหินทราธิราช
    พระเจ้าบุเรงนองไม่โปรดพระมหินฯ แต่ก็ไม่กล้าทำอะไรนัก เพราะหลวงปู่โง่นชาตินั้น
    ท่านมีความสามารถรักษาโรคได้ด้วย ในตอนนั้นรู้สึกว่าจะเป็นโรคผิวหนัง (ว้าาา ก็
    ไม่หล่อเหมือนในหนังผู้ชนะสิบทิศสิเนาะ)

    สงสารพระนางสุพรรณกัลยา ชื่อพระองค์ไม่ปรากฏในพงศาวดาร เนื่องจาก สมัยก่อน
    กษัตริย์ต่างมีสนม มีลูกมากมาย ลูกผู้หญิงก็เหมือนของบรรณาการ ยกให้เมืองโน้นเมืองนี้
    เพื่อความเป็นปึกแผ่น แถมทางพม่า เมียพ่อก็โอนมาให้ลูกอีก พระองค์ถูกนันทบุเรง ทรมาน
    ให้อดข้าว อดน้ำ ทั้งที่ท้องได้8 เดือน ให้ทหารมาทุบตี แล้วแทงตายด้วยดาบเองเลย
    มิหนำซ้ำ ยังใช้ไสยศาสตร์เพื่อตรึงดวงพระวิญญาณพระองค์ไว้ด้วย
    [​IMG]
    ส่วนทรงผม นักประวัติศาสตร์คาดว่า พระนางน่าจะไว้ผมทรงแบบอยุธยาแสกกลาง สั้น หน้าเหลี่ยม
    รูปที่หลวงปู่โง่น ได้ถ่ายด้วยจิต อาศัยกล้อง 2ตัว มีผมยาว รวบไว้ด้านข้าง แต่เรื่องทรงผมก็คง
    ไม่เป็นปัญหา เพราะ ยาว สั้นเป็นเรื่องปกติ ส่วนทรงผม ก็แล้วแต่ว่า อยู่ที่ใดนั่นเอง
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มีนาคม 2009
  13. visnu

    visnu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,844
    ค่าพลัง:
    +23,778
    [​IMG]

    หลังจากดูฮวงจุ้ยเสร็จก็เริ่มทัวร์กันเลยครับ ก็ได้ไปที่วัดเพชรบุรีหาหลวงปู่หงส์ครับ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    บรรยากาศในวัดครับ แต่ท่านไม่ได้อยู่ที่วัดครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มีนาคม 2009
  14. ploy_manee

    ploy_manee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +1,229
    ภาพท่องเที่ยวของพี่ วิษณุ ค่ะ


    <EMBED style="WIDTH: 600px; HEIGHT: 475px" name=flashticker align=middle src=http://widget-96.slide.com/widgets/slideticker.swf type=application/x-shockwave-flash flashvars="cy=lt&il=1&channel=3530822107871718294&site=widget-96.slide.com" wmode="transparent" salign="l" scale="noscale" quality="high"></EMBED>
    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
  15. คอสโม

    คอสโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    104
    ค่าพลัง:
    +133
    รออ่านตอนต่อไปครับ ... ทั่น อ.สามตา
     
  16. surapar

    surapar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    345
    ค่าพลัง:
    +2,408
    เคยเห็นเด็กคนหนึ่ง ประมาณ 3 ขวบมั้ง กลัวรูปวาดพระสุพรรณกัลยา กลัวมาก เห็นทีไรร้องไห้จ้าทุกที จะวิ่งหนีอย่างเดียว555
     
  17. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    เรื่องเล่าก่อนนอนคืนนี้ ตอน วัดไลย์ (ต่อ)

    กลับมาถึงกทม เกือบ สามทุ่ม
    วันรุ่งขึ้น พอได้ เวลา 10.00 น เปิดบู๊ธ 042
    มีสมาชิก ตาทิพย์ มาสามคน..ก็เลยช่วยกัน วิเคราะห์
    เรื่องพลัง และอำนาจอภิญญา ของ ต่างๆๆที่ ได้ มาจาก วัด "ไลย์"
    .......................................................................
    แยกออกได้ เป็นสี่ อย่างที่ เห็นได้ ชัดๆๆ
    1.ดอกไม้สวรรค์ /ดอกมณฑาทิพย์
    2.ใบต้นดอกไม้สวรรค์
    3. ดอกบัวสวรค์
    4. ใบต้นดอกบัวสวรรค์
    ต้นดอกไม้ดังกล่าว ปลูกเป็นแนวอยู่ในภายใน วัด
    อยู่ระหว่างกลาง ระหว่างตัวอุโบสถ และ วิหารคต
    ช่องว่างระหว่าง ตัวอุโบสถ กับ วิหารคต ประมาณ 8 เมตร
    ............................................................
    หยิบอย่างแรกมา คือ ดอกไม้สวรรค์
    เอาไว้ในมือ พนมมือ แล้ว ทำสมาธิ เพื่อดู ว่า จะเกิดอะไร ขึ้น
    เมื่อเพ่ง ที่ หว่างคิ้ว..ปรากฏมีแสงสว่างสีทอง ค่อยๆๆ ชัดเจนขึ้น
    ........................................................................
    เมื่อ ภาพชัดเต็มที่..มองเห็นเป็นบันได สีทอง ทอดขึ้นสูง สู่ ฟ้า
    นับไม่ถ้วนว่า กี่ ขั้นบันไดทอง..เพราะมองเห็นลิบๆๆ
    ว่า ขึ้นสูงไปในอวกาศ..อาจจะถึงแสนขั้น..แปลว่า ขึ้นถึงสวรรค์
    ...................................................................
    ที่เป็นภาพดังกล่าว คงจะเป็นเพราะ ต้นไม้สวรรค์ อยู่บนสวรรค์
    เมื่อมีคนมาเพ่งโดยการนำ ของ ดอกไม้สวรรค์
    ต้นดอกไม้สวรรค์ จึงพาจิตคนผู้ทำสมาธ ขึ้นสูง
    ขึ้นไป ยัง ชั้นบนฟ้าที่ ต้นนั้นอยู่
    ..................................................................
    ถ้าใครทำสมาธิโดยวิธีนี้ ..โดยก้าวขึ้นวันละ30 นาที
    เอาให้ได้ 100 ขั้นบันได ทอง..ถ้ามี100,000 ขั้น
    ก็ใช้เวลาปีนบันไดทอง 1,000 วัน หรือ เกือบ 3 ปี..
    เขาผู้นั้นก็คงได้ บุญมากพอ ที่ ขึ้นไป บนสวรรค์ นั้น โดยนัย นั่นเอง
    .......................................................................
    ลองอีกที เอาดอกไม้สวรรค์ มาวางเป็นสี่มุม รอบตัว
    แล้วทำสมาธิ แบบ วิธีแรก..ปรากฏการณ์เปลี่ยนไป
    ..............................................................
    ดอกไม้ที่ วางไว้ สี่มุม..กลายเป็นห้องลิฟท์ ทันที
    เลื่อน ขึ้นช้าๆๆ สู่เบื้องบน...ขึ้นไปสูงมาก ทะลุขึ้นไป บนฟ้า
    ไปยังที่อยู่ของต้นดอกไม้สวรรค์ นั่นเอง..
    เร็วกว่า ค่อยๆๆ ขึ้นบันไดทอง แบบแรก
    ..............................................................
     
  18. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ลองอีกที เอาดอกไม้สวรรค์ มาวาง 5 ดอก
    ดอกสุดท้ายวางตรงกลาง..เหมือนลูกเต๋าไฮ-โล ที่ 5 แต้ม
    ปรากกว่า ดอกที่อยู่กลางกลายเป็น ปุ่มกดขึ้นลง แบบลิฟท์
    พอคว่ำ ดอก กลางลง .(.พลิก เอาก้นดอกขึ้น )
    ...........................................................
    ลิฟท์ เลื่อนลงต่ำไปยังข้างล่าง..ค่อยๆๆลึกลงไป
    มองเห็น เปลวไป เต็ม ในพื้นที่ รอบๆๆตัว..อุณหภูมิ อุ่นๆๆพอทนได้
    ลงไปเรื่อยๆๆ..มองเห็น แต่คนเปลือย กาย ทั้ง ชายหญิง
    ถูก ปิ้ง /ถูกย่างไฟ บนแผ่น เหล็กแหนาๆๆ แบบ ทอด หอยทอด บนโลก
    มีเสียงดัง..ฉ่า ฉ่า..พร้อมเสียงโหยหวล
    ........................................................................
    แปลว่า ถ้าใช้ดอกไม้สวรรค์ 5 ดอก..
    เราสามารถลงไปในนรกภูมิได้
    พยายามมองหา..กะทะทองแดง..ที่ พูดกันมานานแล้ว
    ว่า คนทำบาป จะถูกต้มในกะทะทองแดง เพื่อเป็นการทรมาณ กรรม
    ...................................................................
    มองเท่าไหร่ ก็ไม่เห็น..ในนรก อุณหภูมิ สูงมาก เป็น ร้อยๆๆ องศา
    น้ำในนรก ระเหยหมด..น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ
    ที่แน่ๆๆ เห็น แต่คนบาป ถูกปิ้งไป เหมือนไก่ ย่าง เหมือน ปลาดุกย่าง
    แต่ไม่พบเห็น กะทะทองแดงใบใหญ่ที่ ว่า
    ...................................................................
     
  19. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ต่อมา ก็ช่วยกัน ตรวจสิ่งที่ สอง คือ ใบต้นดอกไม้สวรรค์
    เอามาไว้ในมือ แล้ว พนม มือ ทำสมาธิ
    พบว่า ค่อยๆๆเกิด แนวกำแพงร้อนในตัวเรา ผ่ากลาง จาก หัวถึง เท้า
    .........................................................................
    มีความร้อนพอทน..สักอึดใจใหญ่ๆๆ แนวกำแพงร้อน
    ค่อยๆๆ แยกออกไป ทางซ้ายและขวา ของ ตัวเรา
    แนวกำแพง ขยายออกไป ห่างจากตัว ประมาณ4 เมตร
    ................................................................
    มองด้วยจิต อย่างละเอียดพบว่า..
    แนวกำแพง ล้อมตัวเราเป็น รูปสี่เหลี่ยม..
    มีความหนาของกำแพง ประมาณ สี่เมตรเช่นกัน
    เป็นกำแพง สีทองปนแสด..ซึ่งหมายถึง อภิญญา ด้านแคล้วคลาด
    ....................................................................
    ลองเอามือ ดันดู..พบว่า กำแพงนั้นหยุ่นๆๆ
    เหมือนมีฟองน้ำ ล้อมตัวเรา เป็นเกราะป้องกัน
    โดยปกติ พระเครื่อง ที่ ตรวจมาทั้งหมด พลังอภิญญา
    จะมีลักษณะ คลุมตัว ผู้ สรวมใส่พระเครื่องที่ปลุกเสกดี
    แบบเปลือกไข่หุ้มไข่แดง...
    ..........................................................
    แต่พลังของใบต้นดอกไม้สวรรค์
    พลังออกมาเป็นกำแพงเหลี่ยม ล้อมตัวเรา เหมือนเราอยู่ในห้อง
    คิดอยู่ นาน ว่า ทำไม..เป็นอย่างนั้น
    ในที่สุดก็ได้ คำตอบ มาจากจิต
    ...............................................................
    ต้นไม้สวรรค์ ที่ปลูกอยู่ในวัด เป็นแถวยาว
    ล้อมตัวอุโบสถ เป็น วงเหลี่ยมโดยรอบ
    ดอกไม้สววรค์ คงจะจำได้ ว่า กลุ่มทั้งหมด
    เรียงเป็นเหลี่ยมเพื่อ ป้องกันอุโบสถ
    จึงเอาความจำเก่า มาเรียง รอบตัวเรา
    เหมือนตัว เราเป็น อุโบสถ นั่นเอง
    .......................................................
    ที่ มหัศจรรย์ คือ เป็นพลังที่ นุ่ม ทุกคนใส่ป้องกันตัวได้
    ไม่เหมือน พระเครื่องดังๆๆ ที่ บางครั้งแรงมากๆๆ
    จนทำให้ สังขารคนใส่มีปัญหา..หน้าแดง /ปวดหัว/ มึนทั้งวัน
    ..................................................................
     
  20. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ต่อมา ก็ เอาดอกบัวสวรรค์ ที่เป็นต้นไม้อีกชนิดหนึ่ง
    ที่ปลูก อยู่ในบริเวณ อุโบสถ วัดไลย์
    เอาดอกบัวสวรรค์ มาไว้ในมือ /พนมมือ/ หลับตาทำสมาธิ
    ..........................................................
    ภาพที่เห็นในจิต คือ..เหมือนตัวเรา นั่งอยู่ บนดอกบัวใหญ่ๆๆ
    พอลอยขึ้นไป สูง..ค่อยๆๆมีฝาครอบใส..ครอบลงมา
    อีกที เหมือนเรานั่งอยู่ในยานอวกาศ..
    แบบจานบินของ มนุษย์ ต่างดาว..เคลื่อนที่ ไป ด้วยจิตบังคับ
    ................................................................
    เอ..เราบินได้ จริงๆๆ เหมือน มนุษย์ ต่างดาว กับ จานบิน
    อย่างนี้..ต้องไป เยี่ยม ที่ สามเหลี่ยม เบอร์ มิวด้า
    อาจจะเจอ บรรดา ผู้คน และ สิ่ง ของ ใหญ่ๆๆ
    เช่น เรือ บิน เรือ รบ ที่ หายไปใน..อย่างลึกลับในอดีตและปัจจุบัน
    .......................................................................
    ที่ นี้รู้แล้ว ว่า จานบิน จานผี ยูเอฟโอ..บินได้ ยังไง
    แต่เราก็บินได้ โดยใช้ ดอกบัวสวรรค์ ของวัดไลย์ ธรรมดา ๆๆๆ
    สะใจ สะใจ สะใจ
    ................................................................
    (ยังมีต่อ)
     

แชร์หน้านี้

Loading...