มหาทาน ยิ่งให้ยิ่งได้, หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย Lukhgai, 15 พฤษภาคม 2009.

  1. Lukhgai

    Lukhgai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    3,000
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +8,239
    [​IMG]


    นี่แหละท่านทั้งหลายเอ๋ย

    พระเวสสันดรตัดใจได้หมดทุกอย่าง
    และก็ได้คืนหมดเช่นกัน ขอพรจากพระอินทร์
    ได้อานิสงส์จากพระราชทานสองกุมารหนึ่ง
    สองได้พระราชทานนางมัทรีต่อยาจกคือพระอินทร์
    พระอินทร์ก็อนุโมทนาให้ศีลให้พร
    ทศพรก็มีพร ๑๐ ประการ

    ข้อสำคัญอยู่ข้อ ข้อที่ว่าให้ชาวเมืองที่โกรธเคือง ให้หายโกรธ
    คิดว่าพระเวสสันดรตายไปหมด ไปอยู่สิงห์สาราสัตว์กลายเป็นสามัคคี
    ให้สองกุมารสิงห์สาราสัตว์ไม่กัดกิน ไม่ฆ่าสัตว์เห็นไหม
    ทานอันนี้สำคัญมาก เรียกว่า มหาทาน

    มหาทานได้บุญได้ทานการกุศล ทุกคนตัดใจไม่ค่อยจะได้ จะให้ทาน
    อาตมามานึกดู เออยิ่งให้ยิ่งได้ ยิ่งหวงอด นี่จริงแน่นอน หมดไม่มาแน่นอน
    ยิ่งไม่ให้ยิ่งไม่ได้ ไม่ให้ใคร ใครเขาจะได้อะไร

    คิดว่าเราจะไม่ตายหรือ ไปอยู่ที่ชาติไหนก็ติดตามเราไป
    พรอันสำคัญคือ ถูกเนรเทศกลับไม่ได้ คืนคำไม่ได้ แต่ขอพรจากพระอินทร์ได้
    พระอินทร์ก็บอกให้ขอพรมา ขอให้ชาวเมืองที่โกรธเคืองหายโกรธเคือง
    และขอให้ฝนโบกขรพัตร์ ฝนแก้วฝนเงินฝนทอง ตกมาอย่างที่ให้ทานไป
    ตกหน้าบ้านใครให้บ้านนั้นเป็นเจ้าของ ไม่ต้องเก็บไม่ต้องแย่งกัน
    ทานที่ให้แล้วกลับคืนมาได้แน่นอน ขอฝากโยมไว้

    มารไม่มี บารมีไม่เกิด ประเสริฐไม่ได้
    ถ้าคนไหนไม่มีมาร คนนั้นใช้ไม่ได้
    ไปไหนเอาสบายอย่างเดียว เอาสบายอย่างเดียวไม่มีมาร
    รับรองท่านจะไม่ปลอดภัย
    ท่านจะมีแต่เสนียดจัญไรตลอดรายการ มารนั้นทำให้เราดี

    อาตมาถึงพูดให้โยมฟัง วันไหนโยมถูกด่ามากวันนั้นเป็นมงคล
    วันไหนโดยถูกป้อยอเขาจะล้วงไส้เราโดยไม่รู้ตัว
    หลงเชื่อเราจะประมาท จะเสียท่าเสียทีต่อมารร้าย
    และที่เขามาป้อยอกับเรา ระวังให้ดี เขาไม่ได้รักเราจริง
    เพราะฉะนั้นก็ขอฝากไว้ มีอะไรระลึกเสมอ อย่าขาดสติ ท่องไว้

    อย่าเสียสติกับขาดสติ เสียสติไม่มีสตางค์ เงินทองหมดไม่มีโอกาสดี
    อย่าไปโลภมากอยากได้ของเขา ไม่โลภอยากได้
    ยิ่งให้ยิ่งได้ มิใช่เป็นของเรา ถ้าของเราก็รักษาไว้ไม่ใช่โลภ

    พระพุทธเจ้าสอน บางคนเข้าใจผิด อยากมีเงินมีทองเป็นของเราเอง
    ถ้าเป็นของเราเองล่ะไม่ใช่เป็นโลภะ
    หากินมาด้วยความสุจริต หากินมาด้วยความเหนื่อยยาก
    อาบเหงื่อต่างน้ำได้มาด้วยปัญญา ได้มาด้วยน้ำพักน้ำแรง
    โลภอยากได้ของเราที่ไม่ได้เป็นทุจริต ผิดศีลธรรมก็เป็นใฝ่ดีเป็นกุศล
    โลภอยากได้ของเขามิใช่เป็นของเรา เป็นอกุศลเท่านี้เอง

    ฝากไว้ให้คิด ให้เรามีสติอย่าเสียสติ
    ถ้าขาดสติท่านจะเสียสติ ท่านจะไม่มีโอกาสที่จะคิดดี
    คิดแต่ทางที่เอาแต่ใจตัวเอง
    ถ้าเรามีสติแล้วจะคิดโดยดุลพินิจพิจารณาด้วยเหตุผลข้อเท็จจริง
    จะแสนลำบากอย่างไรก็ทน

    นี่แหละถึงจะได้เป็นพระเอก นางเอกในเรื่องละครชีวิต
    ในละครเห็นไหม พระเอกลำบากไหม นางเอกลำบากไหม
    ตัวโกง ตัวเลวตัวร้าย มารร้าย มารไม่ดี ไม่มีปัญญา
    ไร้เหตุผลดังกล่าวมาขั้นต้นทุกประการ

    บางคนเป็นชาวพุทธเคยมานั่งเจริญพระกรรมฐาน
    พอไปชอบกับอิสลาม รักเขาจนหมดตัวแล้วทิ้งศาสนา
    เขาบอกว่าถ้ารักเราจริงเอาล็อคเก็ตพระมากระทืบได้ไหม
    เพื่อนอยู่ตรงนั้นก็ถ่ายรูปไว้ แหมสามารถทำได้

    ลูกศิษย์ที่ดีเรียนจบปริญญาโท
    อาตมาเคยให้พระสุโขทัยสวยไปองค์หนึ่ง
    คือ อาตมาไปธุดงค์ได้มา เหยียบเพราะรัก แล้วไม่น่าเหยียบย่ำศาสนา
    หากเป็นไปได้ถ้าจะดีด้วยกัน ต่างคนต่างนับถือไม่ได้หรือ
    แล้วทำไมถึงไปทำกันเช่นนี้ อาตมาไม่เคยเหยียบย่ำศาสนาใด
    เป็นเรื่องที่เราต้องประทับใจจนมาทุกวันนี้

    ขอฝากญาติโยมมีพระกรรมฐาน ก็จะทำให้กำหนดจิตได้ ไม่ไปโกรธเขา
    เขาก็บาปเสียเอง เดี๋ยวนี้ไม่มีงานทำเลยก็ย่ำแย่ไปตามๆ กัน
    ไม่มีกตัญญูกตเวทิตาธรรมเลย เราสอนไปยังไม่ดี
    อุตส่าห์จบปริญญาโท มาหลายเป็นอย่างนี้ไป
    ถ้าจะให้ดีต่างคนต่างนับถือไม่ได้หรือ ต้องทำกันอย่างนี้ด้วย

    ให้ข้อคิดนะ โม่ง ๓ ตัวช่วยได้ นั่งเจริญพระกรรมฐานจะรู้ว่าโม่งดำคือใคร
    โมงแดงคือใคร โม่งขาวคือใคร ชายประหลาดเราไม่เห็นตัว คือบุญกุศลนั่นเอง...

    คัดลอกจาก...คุณปิยะพันธุ์ อินทสุวรรณ์
    http://www.jarun.org/v6/board/viewtopic.ph...06f72e0eebbda47
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 17 พฤษภาคม 2009
  2. bortong

    bortong สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2009
    โพสต์:
    134
    ค่าพลัง:
    +24
    sa tu co boen bara mie cog lung pou jaran jong raak sa coon thai toek coon
     
  3. Lukhgai

    Lukhgai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    3,000
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +8,239
    อนุโมทนา สาธุ
     
  4. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    “ ดูกรภิกษุทั้งหลาย
    ทาน ๕ ประการนี้เป็นมหาทาน
    เป็นทานอันบัณฑิตพึงรู้ว่าเป็นเลิศ
    มีมานาน เป็นเชื้อสายแห่งพระอริยะ
    เป็นของเก่ามานานไม่เคยกระจัดกระจาย ไม่ควรรังเกียจ
    เป็นห้วงบุญห้วงกุศลโดยแท้

    ทาน ๕ ประการเป็นเช่นไร
    ๑. เป็นผู้สละ การปาณาติบาต
    ๒. เป็นผู้สละ อทินนทาน
    ๓. เป็นผู้งดเว้น กาเมสุมิจฉาจารา
    ๔. เป็นผู้งดเว้น มุสาวาทา
    ๕. เป็นผู้งดเว้น สุราเมรัย

    จากพระสูตร ปุญญภิสันทนสูตร


    เสนาสนะทาน

    การให้ที่อยู่ที่อาศัย ชื่อว่าให้ทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ก็ยังเป็นรองจากการให้เสนาสนะทาน เหตุนี้เพราะอะไร จะเป็น กุฏิ ศาลา วิหาร ที่มุงบัง หรืออะไรก็ตามแต่หากพออาศัยอยู่ได้ก็เป็นเสนาสนะ สามารถเข้าหลบฝน แดด ลม เย็นร้อนหนาว น้ำหมอกน้ำค้าง และสัตว์ก่อความรำคาญทั้งหลายอันมีเหลือบ ริ้นไร ยุงแมลงเป็นต้น

    เป็นที่คนทั้งหลายมาทำบุญ – ทำความดี
    เป็นที่เร้นหลีกพักผ่อน พิจารณาศึกษาวิจักษ์วิจัยธรรม
    เป็นที่บดบังอิริยาบถอันไม่งาม
    ได้ฟังธรรมได้แสดงธรรม ได้สนทนาธรรม ได้อยู่สบายก็เพราะอาศัยร่มเงาของเสนาสนะ

    ด้วยเหตุนี้ การให้เสนาสนะเป็นทาน ท่านจึงว่าเป็นผู้สร้างได้บุญมาก ได้บุญอยู่เรื่อย ๆ ได้บุญอยู่ทุกขณะ ได้บุญทุกครั้งที่มีผู้เข้าพักอาศัยใช้สอยใช้ประโยชน์
    เข้าใช้ชั่วคราวก็ได้ชั่วคราว ใช้มากก็ได้มาก ตลอดเวลาก็ได้ตลอดเวลา
    ทั้งนี้เพราะมันเป็นประโยชน์ถาวร ก่อประโยชน์ยาวนาน ให้คุณค่าตลอดเวลาไปจนรื้อถอน หรือใช้การอะไรไม่ได้

    ผู้ทำได้บุญ ผู้ใช้ได้กุศล

    เป็นที่สังเกต บางวัดบางที่มันมากมายใหญ่โตโอ่อ่า คือ มันมีมากเกินไป มากจนไม่ได้ใช้ จนเป็นเสนาสนะเหลือเฟือเหลือใช้หลังหนึ่งปีหนึ่งใช้หนสองหน หรือหลายเดือนใช้เสียครั้ง นอกนั้นปิดตายไม่ใช้ ทำให้ผู้สร้างและผู้ใช้ได้ประโยชน์น้อยมาก ได้บุญน้อย ไม่คุ้มเลยกับปัญหามากมายระหว่างก่อสร้าง
    บุญมันขึ้นอยู่กับการใช้ประโยชน์

    มิได้ขึ้นอยู่กับการสร้างให้ใหญ่โตสวยงาม แล้วขี้เหนียวปิดไว้
    บางทีก็ก่อสร้างจนงามเลิศ แต่หวงแหนไม่ให้ใครใช้หรือไม่ก็หวงไว้ สงวนไว้ให้แก่ผู้มีอำนาจ ผู้มีหน้ามีตา อย่างน้อยก็เป็นผู้มีอำนาจในวัด

    (สมภารได้ใช้คนเดียว แขกคนสำคัญได้ใช้ พระเจ้าพระนายได้ใช้ คนอื่นหมดสิทธิ์ พระขจอก ๆ มุงหญ้าอยู่ท้ายวัดโน่นเลย)

    บางวัดก็ใช้คุ้มค่ามากในรอบ ๗ วัน ไม่มีวันใดไม่ใช้ ใช้ทุกวัน ดูจะมากซ้ำไป อันนี้ก็น่าปลื้ม เป็นบุญเป็นกุศลทั้งผู้สร้างและผู้อยู่อาศัย

    แต่ชื่อว่าการก่อสร้างถาวรวัตถุเสนาสนะใหญ่โตดูดีพอจะอวดอ้างว่ามีบารมี มันก็จะต้องใช้เงินมาก มีปัญหามากมายต้องแก้ปัญหาและทุกอย่างก็เป็นราคาค่างวด จึงต้องช่วยกันหลายแรง หลายคน หลายกำลังระดมหลายฝ่าย หลายช่างมารวมกันจนเสร็จเป็นศาลาวิหารเสนาสนะบางที่ก็เสร็จได้ บางที่ต้องทั้งค้างเอาไว้ (เที่ยวเรี่ยไรให้ชาวบ้านเขารำคาญตารำคาญหูรำคาญใจต่อไป)

    อะไรสูงกว่าวัตถุทาน

    การให้วัตถุทานนั้นทำง่าย และง่ายต่อจริตนิสัยของคนส่วนมาก ทั้งนี้เพราะเห็นเป็นรูปธรรม ให้กันเห็น ๆ ยินดีพอใจกันเห็น ๆ ได้ให้กันและกันเห็น ๆ
    หนักกว่านั้นอยากให้อะไร แก่ใครที่ไหนก็จะให้แต่คนที่ตนรักและคุ้นเคยชอบพอ หรือถือเป็นการส่วนตัว
    พระองค์นั้น หลวงพ่อหลวงตาองค์นั้น

    วัดวัดนั้น เป็นอันพอใจก็เลยให้แต่ขอกล่าวไว้ว่า ผู้มีกำลังสร้าง (หาเงินง่ายหรือมีมาก) ก็ควรถัวเฉลี่ย กระจาย แบ่งๆ กันไปบ้าง อย่ากระจุก หรือให้แต่ที่ๆ เดียว คนๆ เดียว ให้ไปในที่คนอื่นที่อื่นเขายังไม่มีหรือขาดแคลนบ้าง
    สรุป การให้วัตถุเป็นทาน ท่านก็ว่าดี แต่ยังสู้การประพฤติปฏิบัติ
    ธรรมมิได้
    อะไรพาเป็นเช่นนั้น ก็ลองคิดดู

    ต้องเลือกให้หรือเปล่า

    ให้โดยไม่เลือก โปรยหว่านตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ สักแต่ว่าให้ ฉันอยากให้ ฉันพอใจ หรือเป็นพระเป็นนักบวชแล้วให้ทั้งนั้น ให้โดยมิได้ วิจักษ์วิจัย ท่านบอกว่าขาดปัญญา ขาดความรอบคอบ
    วิเจยยะทานัง ทาตัพพํ ควรเลือกให้
    ยัตถะ ทินนัง มหัปผลัง ในที่ที่มีผลมาก
    เลือกให้ในที่จะให้ผลมาก ทำไมต้องเลือกให้

    ๑. เรามีทุนน้อย พืชพันธุ์เราก็น้อย
    ๒. กว่าจะหามาได้ และเสาะหาที่ได้ จนได้มีโอกาสให้ จึงควรหว่านเมล็ดพันธุ์ลงในดินดี น้ำอุดม มากด้วยแร่ธาตุอาหารพืช สะเปะสะปะ ส่งเดช หว่านไปตามใจอยากทำ มันจะได้อะไร

    วัดเหมือนกันแต่ไม่เหมือนกัน
    พระเหมือนกันแต่ไม่เหมือนกัน
    ปริมาณ คุณภาพ และคุณธรรม มันต่างกัน วันแรกบวชมีศีลครบจำนวนนานวันไป จะมีถึงศีล ๕ หรือเปล่า มันน่าคิดและติดตาม
    ให้แก่ผู้มีธรรมย่อมมีผลมากกว่าให้แก่ผู้ไม่มีธรรม
    บางคนดีน้อย มีความดี (คุณภาพและคุณธรรม) น้อย
    บางคนดีปานกลาง (มีความดีบ้างเหลืออยู่บ้าง)
    บางคนดีมาก (มากด้วยคุณภาพและคุณธรรม)

    จะให้แก่บุคคลเช่นไรก็เลือกได้ (แต่ในที่นี้ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า การหาคนดีในอุดมคติของเรามันหายากเพราะมีน้อย โดยมากก็มีประเภท ดีไม่ทั่วชั่วไม่หมด แต่ให้เลือกเอาที่มันมีความชั่วน้อยที่สุด เลือกผู้บกพร่องน้อยที่สุด มิใช่เลือกเสียจนไม่มีดี ไม่มีที่จะให้ ทุกคนมันต้องพร่องไปบ้าง แม้แต่ตัวเราเอง ก็ใช่ว่าจะดีได้ ๑๐๐ % จะเอาไม่พร่องเลยก็คงไม่ต้องทำบุญสุนทรทาน หรือไม่ต้องนับถือใคร เลือกบ้างตามสมควร)

    สรุปแล้ว ก็ควรเลือกบ้างตามหน้าที่ของผู้จะให้ทาน

    ๑. ควรให้ในที่ตนเลื่อมใสและศรัทธา
    (แต่ก่อนจะเลื่อมใสปักใจศรัทธาเล่า จะต้องทำการบ้านมาก่อนจนรอบคอบ)
    ๒. หากหวังผลมากต้องให้แก่ผู้มีศีลมีธรรม
    (หากไม่หวังผลก็แล้วไป…)
    ๓. ทำดีกับคนดี มันมีผลมาก
    เพราะเหตุอาศัยท่านเป็นทักขินัยบุคคล
    (ทำดีบ่อยๆกับคนดีลองคิดดูจะได้ผลมากมายเท่าใด)

    ให้ทานอย่างไรจึงจะให้ผลมาก

    ไทยธรรมวัสดุกรรมข้าวของ ที่จะนำมาทำบุญให้ทาน
    ต้องได้มาโดยบริสุทธิ์และชอบธรรม ควรแก่ผู้รับ
    เหมาะสมแก่ผู้รับ ไม่เดือดร้อนผู้ให้และเป็นภาระแก่ผู้รับ
    เป็นของเสมอแก่ผู้รับ (เขาควรจะได้รับอย่างนั้น ไม่เกินตัวเขา)
    เป็นของที่จำเป็นแก่คนเขาต้องการ (เขาจำเป็นจะต้องใช้)
    ไม่ให้ของที่เป็นโทษ (เว้นการให้อันไม่ควร)
    เป็นของสะอาด เป็นของปราณีต (เป็นของดีพอใช้ได้)
    เป็นของที่แรกมาแรกเป็น (ข้าวใหม่ ผลไม้ออกใหม่)
    ให้ในเวลาเขาต้องการ (กำลังหิว – กำลังจำเป็น)
    อะไรเหมาะสมแก่ใคร ภาวะเพศใด อะไรทำให้เสียผู้เสียพระก็อย่าให้
    แม้พระเณรเถรชีก็อย่าอยากฟุ้งเฟ้อเกินไป
    อะไรทำให้นักบวชเหมือนชาวบ้านก็อย่าอย่าขวนขวายเอาไปให้มันเป็นบาป เป็นกรรม เป็นทุกข์ เป็นโทษ
    บำรุงศาสนาให้ถูกต้องด้วย

    ทักขิไณยบุคคล – ผู้รับ หรือ ปฏิคาหกะ จะต้องให้เป็นผู้ที่ดีที่สุดเท่าที่จะดีได้ เป็นผู้มามากด้วยคุณธรรมหาก ผู้รับพรั่งพร้อมด้วยคุณธรรมเท่าใดก็อำนวยผลของการให้ทานมากตามเท่านั้น

    ผู้รับทาน ผู้รับการให้ก็ถือว่าได้ให้ด้วย (ให้ด้วยการรับ) ให้ด้วยการมี ความสามารถที่จะนำของที่ได้มาไปทำให้เป็นของมากที่สุด
    ผู้รับควรทำใจยินดีในการให้ยินดีในการเจตนาจาคจิต และยินดีในกุศล ทำใจให้ตรงต่อคุณของทานบารมี
    ไม่ยินดียินร้ายในวัตถุของทาน
    ไม่ยินดียินร้าย ในผู้ให้ทาน ในของทาน – ได้อย่างไรพอใจอย่างนั้น
    ไม่โลเลด้วยกับวัตถุ ไม่โลเลในการรับ ไม่มีอคติในผู้ให้มา
    อันใดไม่ควรแก่ตนไม่เหมาะแก่ตนก็ปฏิเสธได้ ไม่อนุโลมตามบาป
    รับแล้วก็ชื่นบานด้วยการให้ (การให้ของผู้ให้ – การให้ของผู้รับ)
    เป็นผู้รับผู้อ่อนโยน อ่อนน้อมถนอมน้ำใจมีปิยวาจา
    รวมความ ผู้รับ - ต้องเป็นผู้มุ่งขัดเกลาจิตใจตนเอง และสามารถทำของน้อยให้เป็นของมากได้ มีเจตนาอันดีที่สุด

    ผู้ให้ทาน - หน้าที่ของผู้ให้ทานนอกจากจะต้องเป็นผู้เสาะหาวัตถุไทยทาน แสวงหาผู้รับทานแล้ว ต้องมาทำเจตนาให้พร้อม

    - ก่อนให้มีความยินดีพอใจ
    - กำลังให้มีจิตใจเลื่อมใส
    - ครั้นให้แล้วจิตใจชื่นบานเป็นสุข
    - จากนั้นจึงรักษาเจตนาอันดีเป็นกุศลเอาไว้

    นึกถึงบ่อยๆนึกถึงคราใดจิตใจอบอุ่นชื่นบานแต่มิใช่นึกเสียดายหมายให้เศร้าใจ นึกคิดวันใดเป็นอันได้บุญ เพราะ บุญเป็นของที่ระลึกถึงแล้วได้ความสุขใจ
    มิใช่แค่นั้น

    หน้าที่ของผู้ให้ยังมีอีก

    มาดูที่เจตนาในการให้ว่า อนุเคราะห์
    สงเคราะห์ ปูชาคุณ ต่ำกว่า – เสมอกว่าหรือสูงกว่าคนบริโภค
    ให้ด้วยการเจาะจง หรือการไม่เจาะจง
    ให้ด้วยอาการไม่เคารพ โยนให้ ทิ้งให้
    ให้ข้างหลัง ให้ด้วยสำทับด้วยวาจาไม่รื่นหู
    ให้ด้วยขณะความตระหนี่แทรก หรือความตระหนี่
    เจตนาจาคจิตอ่อนแอหรือไม่
    คิดบ้างหรือไม่ว่าตนเคยให้ด้วยอาการใด
    อีกนิดหนึ่ง

    ต้องฝึกหัดในการให้ – ให้เชี่ยวชาญชำนาญและถูกต้อง
    นอกจากนั้นน้ำใจของตนสำคัญกว่าอื่นใด
    ฝึกหัดเป็นผู้มีจิตใจอันปราณีต มีจิตใจอ่อนโยนในการให้
    เป็นผู้มีจิตใจอันปราณีต ผู้ให้สามารถบันเทิงด้วยการให้
    อย่าให้เป็นว่า ทำบุญกับพระอรหันต์ไปนรก
    ทำบุญกับยาจกได้ไปสวรรค์

    สำคัญการให้อะไรแก่ใครแล้วอย่า อย่าให้ใจเศร้าหมอง โทมนัส
    รักษาความผ่องใสของจิตเอาไว้ตลอด
    ให้ด้วยศรัทธา – ให้ด้วยความเคารพ สุภาพอ่อนโยน
    ให้ด้วยจิตใจอนุเคราะห์ เมื่อให้เลื่อมใส ให้แล้วชื่นบาน
    ให้ด้วยการไม่กระทบกระทั่งโภคะ แลศรัทธา (ตนผู้ให้ไม่เดือดร้อนไม่กระทบผู้อื่นให้หมางศรัทธา บางครั้งผู้ให้ – ให้จนหมดทำบุญจนเป็นหนี้สิ้นนุงนัง เรียกว่าขาดความรอบคอบในการให้ (ตรงนี้ที่ว่าขาดความรอบคอบมิใช่เหนียวแต่กันเหนียว) ให้ด้วยการไม่ยกตนข่มผู้อื่น (เอาการให้เป็นเครื่องทับถม)

    สรุป การให้ทานจะสมบรูณ์เป็นทานบารมีได้ต้อง
    ประกอบด้วยความพรั่งพร้อม ๓ อย่าง

    ๑. ผู้ให้
    ๒. ผู้รับ
    ๓. ไทยธรรม

    ให้ด้วยการเจาะจงหรือไม่เจาะจง

    การให้ด้วยอาการ ๒ อย่าง อะไรจะดีกว่ากัน
    ดีเสมอกัน มันขึ้นอยู่กับโอกาส และบุคคล
    แต่การให้ด้วยการเจาะจงของตนดีกว่าอื่น เพราะ
    ในใจของเรานั้น มีมัจฉริยะจิต (ความขี้เหนียว) มันมักจะให้อะไรแก่ใครก็ต้องรบราฆ่าฟันกันทุกครั้ง ใจชนะ ความขี้เหนียวตาย
    ความขี้เหนียวมันชนะ ใจมันแพ้
    สู้กันจนฝ่ายใดชนะ ก็เอาฝ่ายนั้นเป็นผู้ว่าการ
    หวง ห่วง อาลัยอาวรณ์ กลัวจะสูญหาย สิ้นเปลือง มัจฉริยะจิต
    มันวิ่งทำงานของมันอยู่โดยรอบใจ
    เอาให้ดีนะ ต่อสู้ให้ดี

    ส่วนการจะเจาะจง หรือให้เป็นสาธารณ์ นั้นก็ดูเหตุการณ์ก่อน
    บุคคลดีมีศีลธรรม ส่วนรวมดีมีศีล มีธรรมมุ่งประโยชน์อันกว้างขวางมากมายก็ควรให้ ให้บ้าง เช่น โรงเรียน วัด โรงพยาบาล สถานสาธารณะ หรือจะเป็นหมู่คณะส่วนรวม

    การให้ไว้ในส่วนรวมมุ่งประโยชน์ใช้สอยของชนหมู่มากเป็นสมบัติของสาธารณะ เรียกว่า สังฆทาน

    จะเป็นหมู่ชนหมู่ใดก็ได้ เช่น หมู่พระเณร หมู่สังคม ไม่เจาะจง ไปที่ใครคนใดคนหนึ่ง ใครมาก็ใช้ได้ ได้ใช้กันทุกคน มีสิทธิ เป็นสมบัติเสมอกัน
    ให้แก่ผู้มีคุณธรรมย่อมจะเกิดผลมากกว่า
    ให้แก่หมู่คนดีย่อมมีผลมากมาย

    ทำบุญด้วยบาท ๑
    หนึ่งหน่วยเท่ากับหนึ่งพันหน่วย
    เป็นคนทุกข์ยากลำบาก แม้จะกินเข้าปากเข้าท้องก็หายาก
    ของเรามีอยู่น้อย เรายังแบ่งให้ทานได้
    เราเป็นคนมีเงินน้อย แต่อยากทำบุญ
    ทั้งครอบครัวมีสตางค์ไม่ถึง ๑๐๐ แต่เราได้ทำบุญ
    ทำบุญในคราวตกยาก แม้จะมีน้อยก็ให้ทำ ทำไปและหมั่นทำ
    เจียดส่วนรวมของครอบครัวมาทำบุญทำทาน เฉลี่ยแล้วตกหัว
    หัวละบาท หรือครัวใดมากคนก็เป็นสตางค์
    หากเป็นเช่นนี้ มันก็น่ารักดี น่าสรรเสริญ ขออนุโมทนาการ
    แม้เป็นคนยากจนอยู่แล้วก็คิดว่าปล่อย – ให้เศรษฐีเขาทำ
    – ให้คนมีเงินเขาทำ
    แล้วเมื่อไหร่จะพ้นจากความจน
    เมื่อไหร่จะพ้นจากทุกข์ยากและร่ำรวยขึ้นมาบ้าง
    มีน้อย มีนิด มีหน่อย แต่ทุกคนเคารพการให้ มีศรัทธา ไม่ประมาทในการให้ทาน
    ไทยธรรมของเราก็บริสุทธิ์
    เจตนาเราก็ฆ่าความตระหนี่ได้

    ๑ จึงมีมูลค่าเท่ากับ ๑,๐๐๐
    ๑ บาทของคนทุกข์เท่ากับ ๑,๐๐๐ บาทของคนรวยแล้วทีนี้เราทำ ๑๐ บาท คิดดูว่าจะได้เท่าไหร่ (๑๐ คูณ ๑,๐๐๐)
    ทีนี้มองไปที่คนรวย เขามีมาก มากจนเป็นทุกขลาภ และเหนียวมากจนให้ไม่ได้ หรือนานๆ ให้เสียครั้งหนึ่ง นิดหน่อยเมื่อรวยแล้ว ประมาทในทาน ก็จะทุกข์ยากแน่นอน
    ไม่เป็นไรหรอก

    เราคนเดียวใช้ชาตินี้ก็ไม่หมด
    ไม่จำเป็นต้องให้ใคร, ไม่ต้องทำบุญหรอกเดี๋ยวหมด
    คนทุกข์เขาทำบุญทุกวัน
    คนรวยนานๆ วันจึงได้ทำ
    มันน่าคิด และอนุโมทนา

    คนรวยที่รวยได้ หาเงินใช้ได้ง่าย ก็เพราะทำตัวเป็นคนดีเอาไว้ สร้างนิสัย อุปนิสัยใจคอ ให้เป็นคนหนักในการให้ทานมาแล้วมากต่อมากภพมากชาติ จึงได้รวยสวยงาม

    คนทุกข์ยากลำบากอยู่กินที่เป็นคนทุกข์เพราะเป็นคนขี้เหนียว การให้การเสียสละมีน้อย เจตนาอ่อนแอและปล่อยโอกาสให้ล่วงไปเปล่า
    ควรคิดอ่าน รวยและจนทำอย่างไรจะรวยยิ่งขึ้นทำอย่างไร จึงจะหายจนพ้นภาวะขาดเขิน

    คนดีแม้มีน้อยก็เอาชนะคนชั่วได้คนให้แม้มีน้อย ก็เอาชนะคนไม่ให้ได้
    เอาชนะคนขี้เหนียว ด้วยการให้ (ชี้ประโยชน์ของการให้)
    ควรให้บ้าง ตามกำลังสามารถ
    มากก็มาก น้อยก็น้อย ค่อยๆทำไป
    หนึ่งหน่วยจึงเท่ากับหนึ่งพันหน่วย

    ของให้ต้องห้าม
    กริยาให้ที่ต้องห้าม

    ๑. ให้โดยไม่เคารพ
    ๒. ให้โดยไม่นอบน้อม
    ๓. ไม่ให้ด้วยมือ
    ๔. ให้ของที่เป็นโทษ
    ๕. สักแต่ว่าให้ของให้ต้องห้าม
    ยาพิษยาเมา ของมึนเมา ของประหารชีวิต
    มหรสพดนตรี ศิลปะกรรมเมถุน
    ให้หญิงแก่ชาย ให้ชายแก่หญิง
    ให้ผู้แก่เมีย ให้เมียแก่ผู้ให้กาม
    ให้ของไม่ควร ให้ของเศษของเดนของเหลือ
    ให้ฟ้อนรำทำเพลง
    ให้เครื่องลุ่มหลงมัวเมา
    ให้ของต้องห้ามนอกจะไม่เป็นมงคลแล้วยังชักนำ
    ให้ได้เป็นอริกันต่อไปอีกภายหน้า หรือ เราจะมองว่าล้วนแต่เป็นของบั่นทอนกายและใจก็ได้
    เคยให้อะไรใครผิดๆ หรือเปล่า

    ศีลกับการให้ทาน

    ก่อนให้ทานด้วยการสมาทานศีลหรือไม่
    ต้องไหว้พระรับศีลก่อนหรือ
    ผู้ให้มีศีล ผู้รับมีศีล อานิสงส์อย่างไร
    ผู้ทุศีลให้ทานแก่ผู้มีศีล (ผู้ไม่มีศีลมาให้ทาน)
    ผู้มีศีลให้ทานแก่ผู้ทุศีล (ผู้มีศีลให้โอกาสแก่ผู้ไม่มีศีล)
    ทั้งหมดนี้มันน่าคิด
    ทั้งหมดนี้อาศัยการให้ทานเป็นเหตุให้ได้ทำบุญอย่างอื่น
    มี

    ๑. ได้ไหว้พระสวดมนต์
    ๒. ได้ระลึกในคุณของการให้
    ๓. ได้สมาทานศีลได้รักษาศีล
    ๔. ได้อนุโมทนาการ
    ๕. ได้กระทำอุทิศาโนบาย
    ๖. อื่นๆ อีก….โปรดระบุได้

    ชาวไร่ชาวนามีที่นาน้อยไร่น้อยแปลงแต่เขาลงพืชหลายชนิดอีกทั้งหมั่นบำรุง ดูแลกำจัดวัชพืช บำรุงมันทุกวัน เขาก็จะได้ผลผลิตมากมายหลายอย่าง ได้กินหลายๆอย่างพร้อมๆกันได้ข้าว ได้น้ำ ได้ผล ได้ผัก ได้เก็บ ได้ออม
    ผู้ให้มีคุณธรรมด้วยยิ่งดี เพราะเป็นผู้ทรงศีล ทรงธรรม ไม่รอคอยท่านผู้ใด อาศัยตนเองมันแน่นอนกว่า
    อาศัยผู้อื่นบ้างเป็นบางคราว
    เหตุผล ปัญญา เสรีภาพการใช้เหตุผลในเหตุผลของธรรมมะจึงเป็นหน้าที่ของชาวพุทธ ผู้ศึกษาพุทธศาสนา

    ........................................................................................................................................
    ขอขอบพระคุณหนังสือ การทำทาน โดย ครูบาแจ๋ว วัดป่าวิเวกวัฒนาราม ( วัดหลวงปู่จาม ) บ้านห้วยทราย คำชะอี จ.มุกดาหาร

    ที่มา : ��÷ӷҹ : �͹ 2 - � � � � � � � �
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤษภาคม 2009
  5. sitbudda

    sitbudda สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มกราคม 2009
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +18
    อนุโมทนากับธรรมทานดีดีจากคุณLukhgai และคุณKomodo ขอให้มีความสุขจากอานิสงค์แห่งธรรมทานค่ะ
     
  6. thth

    thth เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    537
    ค่าพลัง:
    +887
    ขออนุโมทนากับทุกท่านที่ร่วมกันเผยแผ่ธรรมะ โดยเฉพาะของคุณKodomo ในเรื่องของทาน ๕ ประการ โดยใจมากครับ
     
  7. num_mon

    num_mon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    579
    ค่าพลัง:
    +912
    อนุโมทนาครับ หลวงพ่อจรัญเทศน์ ชอบฟังท่านมากครับ

    อ่านแล้วรู้เลย ว่าสำเนียงเป็นอย่างไร
     
  8. Faithfully

    Faithfully เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    656
    ค่าพลัง:
    +2,459
    การให้ช่วยชำระจิตใจ ให้ด้วยเจตนาที่บริสุทธิ์และไม่หวังผลตอบแทนดีที่สุดค่ะ

    ขออนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ
     
  9. Francis_NY

    Francis_NY เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    162
    ค่าพลัง:
    +585
    ขอบคุณครับ
     
  10. neap123

    neap123 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +16
    พุทธพยากรณ์ภัยพิบัติโลก คัมภีร์กับป์สุดท้าย(หนังสือศักดิ์สิทธิ์อินทร์ตก) อ่านเถอะ ผมหวังดีน่ะ

    พุทธพยากรณ์ภัยพิบัติโลก คัมภีร์กับป์สุดท้าย(หนังสือศักดิ์สิทธิ์อินทร์ตก) เสียเวลาอ่านหน่อยน่ะผมขอร้อง เพื่อคุณ ส่งต่อไปเยอะเยอะน่ะ สะสมบุญเอาไว้เทอญช่วยๆกัน


    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>สวัสดีครับ สิ่งที่จะพูดทั้งหมดนี้ ขอให้เชื่อเถอะน่ะ แล้วรีบทำบุญกันเข้าไว้น่ะ จะได้ไม่เป็นไร ผมเป็นห่วงน่ะ ผมนั่งพิมพ์ สิบชั่วโมงเต็ม ยังไงถือว่าให้สะกิตตาหน่อยน่ะครับ





    ภัยพิบัติโลก




    "อานนทะ ดูก่อนอานนท์ ก่อนกึ่งพุทธกาล 15 ปี จะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรง จะมีการรบราฆ่าฟังซึ่งกันและกัน ฝนเล็กจะตกจากอากาศ

    ไฟจะลงมาจากอากาศ จะเผาผลาญประชาชนให้พินาศ จะมีการล้มตายซึ่งกันและกันเป็นอันมาก แต่ว่า ดูก่อนอานนท์ ก่อนกึ่งพระพุทธกาล

    15ปี จะถือว่าเป็นเหตการร้ายแรงหาไม่ได้ ทั้งนี้เพราะว่าหลังกึ่งพุทธกาลไปแล้ว


    อานนทะ ดูก่อนอานนท์ จะมีความร้ายแรงมาก กว่าก่อนกึ่งพุทธกาลมาก ยักษ์นอกพระพุทธศาสนาจะรบราฆ่าฟันซึ่งกันและกัน ต่างฝ่ายจะล้มตาย

    กันฝ่ายละมากมาก สมณะ ชี พราหมณ์ จะล้มตายจะตายไปฝ่ายละครึ่ง จึงจึงจะเลิกรากัน สำหรับประเทศไทยที่นับถือพุทธศาสนาจะมีภัยเหมือนกัน แต่ไม่ร้ายแรงนัก"


    พระพุทธเจ้า บอกว่า ค.ศ 2000 กว่าปี โลกจะไม่สลาย..... พระพุทธศาสนาจะทรงอยู่ได้ตลอด 5,000 ปี

    ทรงตรัสชี้ว่า เขตประเทศต่อไปนี้จะเป็นประเทศที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาก จะสามารถทรงพระพุทธศาสนาครบ 5,000 ปี

    นี้หมายถึงประเทศไทย ......

    ถ้าสงครามใหญ่เกิดขึ้น คนไทยจะมีความมั่นคงในศาสนามากขึ้น ในเมื่อเห็นการสูญเสียความตายเกิดขึ้น ความทุกข์ก็เกิดขึ้น

    จิตใจก้เริ่มเป็นกุศล เวลานั้นบรรดาพุทธศาสนิกชนก็จะมีความมั่นคงในพระพุทธศาสนามากขึ้น เพราะกลัวตาย....

    สำหรับท่านนักปฎิบัติที่เจริญสมาธิจิตก็จะเร่งรัดตัวเอง กำลังใจก็จะมีสมาธิ ในที่สุดอภิญญาก็จะเกิด ในเมื่ออภิญญาเกิดแล้วก็จะใช้ผลของอภิญญาและ

    ญาณต่างๆ ที่ได้จากสมาธิและวิปัสสนาญาณเอามาช่วยบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย ให่มีความสุข ปลอดภัย ขอให้ทุกท่านยอมรับนับถือความดีจองพระพุทธเจ้า

    ที่ให้ไว้ คือ

    สังคหวัตถุ ๔ ได้แก่

    ๑.๑ ทาน การให้มีการสงเคราะห์ซึ่งกันและกัน สร้างความรักเข้าไว้ อย่าได้สร้างศัตรู

    ๑.๒ ปิยวาจา พูดดี พูดให้คนที่รับฟังมีความสุข เขาจะรักเรา เราก็มีความสุข

    ๑.๓ อัตถจริยา ช่วยเหลือการงานซึ่งกันและกัน

    ๑.๔ สมานัตตตา ไม่ถือตัวถือตน

    ๒ พรหมวิหาร ๔ ได้แก่

    ๒.๑ มตตา ความรัก

    ๒.๒ กรุณา ความสงสาร

    ๒.๓ มีจิตใจอ่อนโยน เห็นใครได้ดีก้ยินดีด้วย

    ๒.๔ อุเบกขา วางเฉยเมื่อเหตุร้ายเกิดขึ้นไม่ดิ้นรนยอมรับตามความเป็นจริง


    จงอย่าประมาทในชีวิต จงทรงจิตของท่านให้มั่นคงในคุณพระรัตนตรัย ๓ ประการ คือ

    คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้จิตยึดพระพุทธคุณ ให้ภาวนาว่า "พุทโธ"

    ก่อนจะหลับ ให้กำหนดการเข้าออกของลมหายใจ หายใจเข้านึก "พุทธ" หายใจออกนึก "โธ" และเวลาตื่นนอนใหม่ๆ ทำแบบนี้เป็นปกติเวลาที่ยัง

    ตื่นอยู่ถ้าคิดขึ้นมาได้เมื่อไหร่ ก็ทำใจให้นึกถึงความดีขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ภาวนาว่า "พุทโธ" เป็นปกติอย่างนี้ ได้ชื่อว่าเป็นผู้เข้าถึงไตรสรณคมน์ พุทธรัตนะ

    ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะ ทั้ง ๓ ประการ จิตของท่านจะทรงสมาธิ อำนาจบารมีของพระพุทธเจ้า จะทำให้จิตใจของท่านทั้งหลายก็จะพ้นภัยด้วยอำนาจ ของพุทธานุภาพ

    ธัมมานุภาพ สังฆานุภาพ

    ถ้าจิตของเราไม่นิยมใน ขันธ์ ๕ หรือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ไม่ใช่เราไม่ใช่ของเรา จิตเราเกาะองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่าพระองค์อยู่ที่ไหน

    เราไปที่นั่น ท่านจะพ้นจากกิเลส จะเข้าถึงพระนิพพานได้....

    นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (๓ จบ)


    พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง

    ธัมมังสะระณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าขอถึงพระธรรมเป็นที่พึ่ง

    สังฆังสะระนัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าขอถึงพระสงฆ์เป็นที่พึ่ง


    การเตรียมตัวรับมือภัยธรรมชาติครั้งใหญ่

    ๑. ก่อนการเกิดภัยธรรมชาติ ครั้งใหญ่ ๑๕ วัน โลกจะเอียงกัมหัวให้ดวงอาทิตย์มากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้น้ำแข็งจากขั้วโลกเหนือ

    ละลาย จะนำไปสู่คลื่นยักษ์ถาโถมเข้าสู่แผ่นดิน (ปัจจุบันเริ่มเกิดขึ้นแล้ว)

    ๒. เกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่เป้นเวลา ๔๙ วัน ในระหว่างเดือนตุลาคม ~ พฤศจิกายน

    ๓. ฝนตกครั้งใหญ่ทั่วโลก (ระยะชำระล้างเป็นเวลา ๗ วัน)

    - ระยะเวลาการเกิดภัยธรรมชาติที่รุนแรงของโลกรวมแล้วมีระยะเวลาทั้งสิ้น ๕๖ วัน

    - ใน ๓ วันแรกจะเกิดสงครามนิวเคลียร์ที่ทวีปเอเชียในประเทศที่เป็นอริต่อกัน


    ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

    ๑. เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่

    ๒. พายุถล่มในทุกๆส่วนของโลก

    ๓. แผ่นดินแยกและแผ่นดินไหวตามที่ต่างๆ

    ๔ ภูเขาไฟระเบิด (จังหวัดทางภาคกลาง ๒ ลูก ภาคเหนือตอนล่าง ๓ ลูกอีกทั้งที่จังหวัดราชบุรี น่าน แพร่ อำเภอร้องกวาง)

    ๕ คลื่นยักษ์จากทะเล

    ๖ โรคระบาดที่ร้ายแรงที่สุดจะเยียวยา ได้แก่ VIRUSTERIA อหิวาตกโรคสายพันธุ์ใหม่ ผู้ได้รับเชื้อจะเสียชีวิตทันที ภายใน 6 วัน

    ๗ คลื่นเสียงที่รุงแรง ตั้งแต่เกิดมาในชีวิตยังไม่เคยได้ยินที่ดังขนาดนั้นมาก่อน

    ๘ อดอยากขาดแคลนอาหาร ในหลายประเทศ


    การเตรียมตัวและปัจจัยเพื่อตนและครอบครัว

    ๑ เตรียมอาหารและน้ำดื่มไว้ที่บ้านอย่างน้อย ให้พอใช้ในระยะเวลา ๓ ~ ๖ เดือน

    ๒ เครื่องนุ่งห่มสำหรับร่างกายได้แก่เสื้อผ้า กระเป๋าน้ำร้อน ผ้าห่ม ฯลฯ

    ๓ เครื่องใชที่จำเป็น ฯลฯ

    ๔ ที่อยู่อาศัย

    ๕ ยารักษาโรค

    ๖ ด่างทับทิมและคาราไมล์ ( จำนวนมาก ) ห้ามกินอาหารที่ไม่ได้ล้างด้วยด่างทับทิม เพราะมีทั้งเชื้อโรค

    และสารกัมมันตภาพรังสี ส่วนคาราไมล์จะมีไว้รักษาโรคผิวหนังที่ดูเหมือนจะยากต่อการรักษา แต่เมื่อทาคาราไมล์แล้ว

    จะหายได้อย่างน่าอัศจรรย์

    ๗ ยานพาหนะ เช่นเรือ เสื้อชูชีพ

    ๘ อุปกรณ์เครื่องช่วยชีวิตต่างๆ

    ๙ แสงสว่าง เช่นเทียนตะเกียง ไฟฉาย(เพราะเวลานั้นท้องฟ้าจะมืดมิดรวม ๗ ราตรี ๔๙ วันไฟฟ้าจะดับทั่วโลก)

    ๑๐ เครียมสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง


    การดูแลตัวเองในช่วงเวลาเกิดวิกฤติการณ์


    ๑ ห้ามออกนอกบ้านโดยเด็ดขาด ใครมาเคาะประตูบ้านก็ห้ามเปิด ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นญาติสนิทมิตรหรือคนที่เรารู้จักก็ตาม

    ๒ ห้ามตากฝน เพราะในฝนจะมีพิษทั้งเชื้อโรคและสารเคมีที่มนุษย์สร้างขึ้น

    ๓ ห้ามลุยน้ำหรือแช่น้ำนานๆ แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ต้องใช้ด่างทับทิมล้างทุกครั้ง

    ๔ ห้ามเปิดประตูตอนรับผู้อื่น เพราะช่วงเวลานั้นประตูมิติของโลกทั้งสามภพจะถูกเปิดเป็นครั้งแรก ผู้ไม่เชื่อเรื่องผีสาง จิตวิญญาณ

    ก็จะได้เห็นคนที่มาเยือน อาจเป็นผีเปรต ผีโขมด ที่เป้นเจ้ากรรมนายเวรของเราจำแลงมาเป็นได้ และห้ามอยากรู้อยาหเห็นโดยเด็ดขาด

    ๕ ห้ามกินเนื้อสัตว์ทุกชนิด

    ๖ ห้ามกินผักที่ยังไม่ได้แช่ด่างทับทิม

    ๗ ฝึกการกินน้อย ถ่ายน้อย

    ๘ ระวังอากาศที่หนาวเย็น

    ๙ ระวังสัตว์ร้าย สัตว์มีพิษ เช่น งูพิษ ขระเข้

    ๑๐ ห้ามอยู่ตึกสูงกว่าสามชั้น เพราะตึกสูงเกินสามชั้น จะพังทลายราบเป็นหน้ากอง


    การเตรียมจิตวิญาณ


    ๑ ชำระกรรมให้เบาบางโดย หยุดโลภ โกธร หลง ทำจิตใจให้สงบ เบิกบาน เพราะวันนั้นจะมีผู้ที่เส้นโลหิตในสมองแตก เสียชีวิต

    เป็นจำนวนมาก เพราะเสียงที่ดังกึกก้อง ทำจิตให้เป้นบวก จะช่วยได้มาก

    ๒ มีสำนึกทางจิตวิญาณ

    ๓ ฝึกการละวาง

    ๔ มีสติรู้ตัวตลอดเวลา

    ๕ ฝึกการทำโฆษกรรม ขออภัยต่อเจ้ากรรมนาวเวร หรือผู้ที่เคยล่วงละเมิด


    การดูแลแก่นแท้ยามมีภัย


    ๑ ได้ยินเสียงใดให้ละวางเสียงนั้น รู้เห็นสิ่งใด ให้ละวางสิ่งนั้น ต้องไม่รับรู้ ไม่รับเห็น ไม่รู้ ไม่ชี้ ไม่ว่า จะได้ยินเสียงคนข้างบ้าน

    ร้องกำลังจะตาย หรือได้ยินเสียงใดที่น่ากลัว ต้องได้ยินแล้วผ่านไป หากไม่ละวาง จะเกิดอาการ "ตายก่อนตาย"

    (รู้ว่าตนเองจะต้องตายแน่ๆหรือการตายทั้งเป็น)

    ๒ ยอมรับให้ได้ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องมี สติตลิดเวลา

    ๓ อย่าอยู่นิ่งเฉย เพราะจะทำให้กลัวมากขึ้น ควรหากิจกรรมทำเช่น อ่านหนังสือธรรมะ เพื่อให้จิตเป้นบวก เกิดความอิ่มเอิบ

    ๔ สังเกตุธรรมชาติก่อนนาทีวิฤกติเกิดขึ้น

    ลางบอกเหตุก่อนเกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ (ระยะ 2 )


    ท้องฟ้ามืดมิดผิดปกติ ใบไม้จะพลิกคว่ำพลิกหงายแลดูหดหู่ สัตว์ทั้งหลายจะไม่ปรากฎกายให้เห็น

    แต่ถ้า มีสัตว์เลี้ยงอยู่ในบ้าน จะเห็นมันวิ่งลุกลี้ลุกล้น

    ผิดปกจิหรือบางตัวจะนอนนิ่งน้ำตาซึม

    เรื่องเวลาที่แน่นอนนั้นขอบอกตามตรงว่าไม่ทราบเพราะจริงๆ แล้วน่าจะเกิดตั้งแต่ ค.ศ ๑๙๙๙ ตามที่นอสตราดามุสทำนายเอา

    ไว้แต่เมื่อดูจากเหตุการณ์ในปัจจุบันแล้ว ภัยธรรมชาติที่รุนแรงอย่างที่ไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อนในชีวิตนี้ และจากคำบอกเล่าของครูบาอาจารย์ต่าง คิดว่าจะเกิดภายใน ๑ ~ ๓ ปีนี้

    เป็นกรรมของสัตว์โลกนะ ครูบาอาจารย์ท่านบอกว่าระบบจะเริ่มล้างมนุษย์ปลายปี ๔๗ (ทีแรกคิดว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้ว จิต

    เกือบเผลอปรามาสครูบาอาจารย์) แล้วจะมีเหตุอื่นมาล้างเรื่อยๆ ด้วยระบบภัยพิบัติทางดิน น้ำ ลม ไฟ โรคระบาดและอุบัติภัยสงคราม

    แลพจะหนักขึ้นเรื่อยๆ จนพระจักรพรรดิ์ลงมา ภัยพิบัติจึงจะสงบ

    ต่อไปที่จะวิบัติหนักๆก็คือ ประเทศจีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อเมริกา ฯลฯ เคยถามครูบาอาจารย์ว่าไม่เคยมีใครเปลี่ยนได้

    ได้เลยหรือ ท่านบอกว่า "ไม่ได้" ท่านว่า " ปูยีเว้า ก็ปานพระเจ้าเว้านั่นแหละ ในโลกนี้ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงได้ เพราะกรรมของมนุษย์

    เป็นแบบนี้"

    สำหรับเมืองไทย ต่อไปกรุงเทพก้มิใช่จะปลอดภัยเพราะฝ่ายรักษาภายในของ กทม. เริ่มถอนระบบออกไปมากแล้ว

    และต่อไปภาคใต้แทบจะไม่เหลือ จะเป็นเกาะเป็นแก่งทั้งหมด เราเข้าใจว่าภัยพิบิต ในภาคใต้ เป็นสัญญาณของยุดจักรพรรดิ์ที่กำลัง

    จะเริ่มต้น แต่เนของเฉพาะบุคคล เช่น เรื่องแก้วเจ็ดประการที่เริ่มเข้ามาสู่ระบบแล้ว และมีสิ่งของอื่นๆ อีกหลายประการที่กระจัดกระจาย

    กันอยู่ในหลายประเทศ เป็นต้น


    ผู้ที่ไม่มีหน้าที่และเข้าไม่ถึงระบบธาตุเหล่านี้ก็จะไม่สามารถเข้าใจได้ ถ้าไม่มีใครที่เอกซเนย์ธาตุได้ ก็จะเข้าใจว่าอะไร อย่าง

    แก้วมังกรแล้วแก้ววิเศษของเทวดาก็อาจเป็นของไร้ค่าในโลกมนุษย์ เพราะความไม่รู้


    ครูบาอาจารย์เคยเล่าว่าแค่นาคโก่งหลังขึ้นมามนุษย์ก็ตายเป้นเบือแล้ว ต่อไปบางทีก้หายไปทั้งเกาะนี้ยังไม่นับภัยพิบัติจาก

    ท้าวกกนาค แถวลพบุรีที่ในไม่ช้า(ช่วงท้ายๆของภัยพิบัติ) จะลุกขึ้นมา (ภายใน) เพื่อไปรอรับพระจักรพรรดิ์ ขณะที่ทหารลิง ๑๘

    กองพลที่เคยเฝ้ายักษ์ตนนี้อนู่ที่อื่น ครูบาอาจารย์ท่านว่า ยักษ์กกนาค ตนนี้มีพิษมาก แค่พลิกตัวพิษของยักษ์ก็จะทำให้เกิดโรคระบาด

    ร้ายแรงได้ มนุษย์จะตายไปครึ่งโรค แต่คนที่มีศีลก้ไม่เป็นไร

    เราค่อนข้างมั่นใจ ภายในปี ๒๕๖๐ ประเทศไทยจะได้เป็นมหาอำนาจ และไทยกับลาวจะรวมกันเป้นหนึ่ง (ประเทศเดียว)

    ท่านไหนที่ขยันหมั่นเพียรรักษาศีลภาวนา ก็จะได้มีโอกาสอยู่ในยุคใหม่ต่อไป ส่วนท่านที่ยังไม่มีศีลธรรมพอก็คงจะต้องไปตามวิถี

    กรรมของตนเอง
    ศาสนาอื่นนั้นไม่มีเหลือ เมื่อถึงเวลาแล้วจะหนีตายมาพึ่งศาสนาพุทธกันหมด เท่าที่ทราบต่อไปมหาอำนาจอย่างเช่น อเมริกา

    อังกฤษ ฯลฯ จะต้องมาพึ่งประเทศไทย ซึ่งต่อไป ที่แห่งหนึ่งในประเทศไทย จะเป็นใจกลางโลก ใจกลางศาสนา


    ในยุคจักรพรรดิ์ ทั้งโลกจะถูกครองโดย ๓ ร่มโพธิ์ ศรีอัญญาสิทธิ์และอัญญาธรรม พระจักรพรรดิ์จะเป็นมหากษัตตริย์

    อย่างที่พวกยิวเขาคิดจะครองโลกกันนั้น ไปไม่ถึงดวงดาว เพราะวิทยาศาสตร์ถึงทางตันแล้ว


    เหตุที่เกิดในภาคใต้ ซึ่งเป็นเขตพระพุทธศาสนายังรุนแรงมากขนาดนี้ ต่อไปเหตุที่เกิดในศาสนาอื่นๆนั้นจะรุนแรงกว่านี้มาก

    และความหายนะที่เกิดขึ้นนั้นก้จะมากด้วย

    ถ้าหากศึกษาถึงเชื้อของจิตวิญญาณของการมาเกิดจะเข้าใจว่า อย่างอิสลามและคริสต์นั้น เชื้อจิตวิญญาณเกิดหรือต้นธาตุ

    ของจิตวิญญาณของพวกนั้นเป็นยักษ์ ตระกูลต่างๆ ดังนั้นที่ครูบาอาจารย์ท่านว่าพวกยักษ์นอกศาสนาเขาตีกันนั้น ก็พวกยักษ์เหล่านี้

    แหละที่มีปัญหา และพวกยักษ์เหล่านี้ก้มาเกิดมากในยุคนี้ส่วนใหญ่ในเขตประเทศไทย และประเทศใกล้เคียงขะเป้นเชื้อ นาค เชื้อเทวดา

    เชื้อครุฑ คนในเขตประเทศไทยส่วนใหญ่ก็วนเวียนอยู่กับการเกิดเป้นเชื้อต่างๆเหล่านี้ ขึ้นอยู่กับชาติที่ทำบารมีมาเด่นๆ ว่าเคยทำบารมี

    ในภพภูมิไหนมามาก ก็จะมีความเกี่ยวพันกับภพเหล่านั้น และเมื่อถึงเวลาก็เป้นการทำบารมีร่วมกันระหว่างภพภูทิ และบางครั้งการทำ

    การทำงานจากภายในก็จะส่งผลกระทบมาสู่ภายนอก และพยายามอธิบายกัยด้วยเหตุและผลทางวิทยาศาสตร์ซึ่งเป็นการรู้นอก

    แต่ไม่รู้ใน คล้ายๆกับวิทยาศาสตร์ พยายามอธิบายเหตุผลข้างนอก แต่ไม่เข้าใจถึงกฎแห่งกรรมซึ่งเป็นเหตุอยู่ภายใน เป็นต้น

    นี้คือรู้ไม่แจ้งในเรื่องนั้นๆก็เลยเกิดความ " ประมาท " ต่อไปจะมีจักรพรรดิ์เป็นผู้ปกครองโลก พระยาธรรมิกราชจะคล้าย พระสังราช

    และจะมีพระโพธิสัตว์อีกองค์หนึ่ง จะทำให้หน้าที่คล้ายกับนายกรัฐมนตรี ซึ่งสามร่มโพธิ์นี้ก็คือสามโพธิ์สัตว์ ที่ลงมาทำหน้าที่ดูแล

    พระพุทธศาสนานั้นเอง และก็มีดเหล่าอัญญาสิทธิ์ อัญญาธรรม ที่จามลงมาทำหน้าที่อีกจำพวกหนึ่ง บางคนก็รู้ตัวแล้ว บางคนก้ยังไม่รู้

    ตัวเอง ถึงเวลาแล้วก้คงจะได้เห็นว่าของจริงเป็นอย่างไร ซึ่งบางท่านจะมีชื่อเสียงในหมู่เทพ เทวดา นาค ครุฑ กุทภัณฑ์ ฤาษี

    มุนี ดาบส ฯลฯ พวกเขาเหล่านั้นก็รอยุคพระยาธรรมิกราช แต่พวกมนุษย์ไม่รู้จัก เพราะท่านเหล่านี้จะอยู่อย่างเงียบๆ และลี้ลับ

    ครูบาอาจารย์ท่านเคยได้เปรยๆให้ฟังว่า สำหรับผู้ทำบารมีเข้าข้นแล้วนั้น "ดังบ่ดี ดีบ่ดัง"

    จากที่ครูบาอาจารย์ ท่านเล่าสู้กันฟัง สิง่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ไม่มีใครที่สามารถหลีกเลี่ยงเพราะกรรมเป็นตัวกำหนด

    และยุคพระยาธรรมิกราช ก็เป็นพุทธประเพณี เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในกึ่งกลางพุทธศาสนา ในยุคจองพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์อย่าง

    ในยุคพระเวสสันดร ( ซึ่งเป็นช่วงประมารกึ่งกลางศาสนาของพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง) หลังจากพระเวสสันดรได้พรแปดประการ

    จากพระอินทร์แล้วหลังจากนั้นไม่นาน ก็เกิดยุคพระยาธรรมิกราชหรือนุคพระจักรพรรดิ์ขึ้น ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าเป็นลูกชายของพระเวสสันดร

    จะเป็นพนะจักรพรรดิสมัยนั้น ในยุคร่วมสมัยในปัจจุบันนี้มีบุคคลผู้หนึ่งทำทานบารมี จนได้พรแปดประการจากพระอินทร์แล้วเช่นกันก็พอ

    จะอนุมานได้ว่ายุคพระยาธรรมิกราชนั้นเข้ามาใกล้ถึงปลายจมูกแล้ว

    ใครที่คิดจะทำบุญกุศลอะไร ก็ให้รีบเร่งทำหากเมื่อใดเค้าได้พรพระอินทร์ เขาทำอธิฐานบารมีดูแลศาสนา (ซึ่งเป็นส่วนหนึ่ง

    ของการปราณนาพุทธภูมิ ) ระบบที่เขาทำหน้าที่ภายในของเขาก็จะทำงานตามลำดับ เมื่อถึงตอนนั้นจะเห็นคุณค่าของศีลธรรมของศีลห้า

    ศีลแปด ของบุญบารมีที่แต่ล่ะท่านบำเพ็ญเพียรสั่งสมมา

    ให่ลองนึกถึงเหตุการณ์คลื่นยักษ์ในภาคใต้ดูว่าคลื่นยักษ์ขนาดไหนที่จะทำให้ด้ามขวานไทยเหลือเป็นเกาะเป็นแก่ง

    และคลื่นยักษ์ขนาดไหนที่สามารถทำให้เกาะขนาดเท่าประเทศไต้หวันหายไปได้ในพริบตา เมื่อไหร่ก็ตามที่นาคใหญ่ทำงาน

    จะสั่นสะเทือนไปทั้งโลกหากจะเทียบเหตุการณ์ในภาคใต้ที่ผ่านมา เป็นแค่นาคใหญ่โก่งหลังหรือสะดุ้งเพียงเล็กน้อย

    ลองจินตนาการดูว่า หากพวกนาคบ้างพวกมีหน้าที่ทำฤทธิ์ เพื่อล้างพวกมีศีลธรรมไม่เพียงพอ สำหรับผู้ที่อยู่ในโลกธรรมบนโลกนี้

    ก็จะเหลือคนไม่มากอย่างที่พระสูตรบอกไว้


    รายละเอียดของมหันตภัยที่เกิดขึ้น


    สถานที่แห่งแรกในประเทศไทยที่จะได้เผชิญกับลาวาร้อนจากไฟใต้โลก จะเกิดขึ้นจากทิศตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัดแรกในภาค

    อีสาน ตามร้อยต่อของจังหวัดที่ติดกันเป็นแนวยาว เริ่มแรกจะมีลักษณะเป็นแนวแยกของแผ่นดินคดเคี้ยวไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ ธาร

    โลหะร้อนจะไหลลามแผ่ไปเป็นบริเวณกว้างข้ามวันข้ามคืนติดต่อกัน จากนั้นพายุที่รุนแรงจะนำน้ำมาดับไฟก่อให้เกิดน้ำท่วม

    และโรคร้ายที่จะระบาดอย่างรุนแรงจนสุดที่จะเยียวยาได้โดยเฉพาะอหิวาตกโรคสายพันธุ์ใหม่ ที่มนุษย์เชื่อว่าได้กำจัดจนหมดไปจาก

    โลกนี้แล้ว แต่หารู้ไม่ว่ามันกำลังฟักตัวและมีฤทธิ์ร้ายแรงกว่าเดิม ซึ่งสามารถคร่าชีวิตผู้รับเชื้อได้ในเวลาเพียงวันเดียวเท่านั้น

    ท้องฟ้ามืดมิด ฝนเริ่มตกหนักทั่วโลกอย่างไม่หยุดยั้ง น้ำจะเอ่อขึ้นเรื่อยๆและท่วมพื้นที่ในหลายๆ พื้นที่ พายุไซโคลน

    จะพลัดกระหน่ำและจะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วประมาณ ๑๖๐ กม./ชั่วโมง พัดผ่านกรุงเทพฯ ผ่านแม่น้ำเจ้าพระยา ตึกแห่งหนึ่งริมแม่น้ำเจ้า

    พระยาที่อยู่ใกล้กับสพานกลางเก่ากลางใหม่ใรย่านฝั่งธนบุรีจะพังทลายลงมาจากการโหมกระหน่ำและความบ้าคลั่งของลมพายุ

    มีผู้เสียชีวิตในครั้งนี้ไมต่ำกว่า ๖๐๐ คนในเวลาหลังจากนั้นไม่นานนัก ตึกสีข้าวที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำตรงข้ามจะพังทลายถล่มลงมา ยอดตึกที่

    พังทลายจะแลเห็นโผล่เหนือน้ำให้เห็นเป็นอนุสรณ์ของคราบน้ำตาหลังคาบ้านเรือนในบริเวณใหล้เคียงจะปลิวว่อน เสาไฟฟ้า จะล้มระเน่

    ระนาด ด้วยความรุงแรงของลมพายุผนังตึกส่วนหนึ่งจะรูดลงมากองกับพื้น ลมพายุที่โหมกระหน่ำอย่างรุนแรงจะสร้างความเสียหาย

    ให้กับบ้านเรือนในบริเวณใกล้เคียงอย่างเหลือคณานับ

    เทือกเขาตะนาวศรีในจังหวัดราขบุรี จะพังทลายลงมาเนื่องจากแผ่นดินไหวที่รุนแรงซึ่งเปิดภูเข้าไฟลูกแรกในประเทศไทย

    จะระเบิดขึ้นอย่างรุนแรงดังกักก้องกัมปนาทดังมาถึงกรุงเทพฯ ธารลาวาจะไหลลงไปยังฝั่งพม่าไม่นานนักระเบิดลูกที่สองและลูกที่สามก็

    ก็ตามมา ลูกที่สี่จะมีความรุนแรงอย่างถึงที่สุด ซึ่งจะสร้างความอำมหิคให้กับภาคเหนือกะภาคอีสานอีกต่อไป

    ณ บ้านกุดฉิม อำเภอหนองเรือ จังหวัดขอนแก่น จะเกิดภูเข้าไฟแห่งที่สองระเบิดขึ้น มีผู้เสียชีวิตประมาณ ๕๐๐ คน

    *ที่บ้านโพธิ์ อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัยจะเกิดแผ่นดินไหวและมีลาวาจากภูเขาไฟไหลเคลื่อนตัวทำลาย

    ทุกสิ่งที่ขวางหน้ามีผุ้เสียชีวิตร่วมเป็นพัน

    * เกิดภูเขาไฟระเบิดในจังหวัดกาฬสินธุ์ อย่างกระทันหัน จนยากที่ผู้คนในบริเวณนั้นจัตั้งตัวทัน และจะเกิดปรากฎการณ์

    แปลกประหลาด มีจำนวกเด็กละผู้หญิงเสียชีวิตมากกว่าผู้ชาย

    * จังหวัด ตรัง เกาะทุกเกาะจะจมหายไปเนื่องจากลมพายุที่รุนแรงและทะเลคลั่งที่กลบกลืนหมู่เกาะให้ลับลึกไปอย่างรวดเร็ว

    * สมุทรปราการ จะจมหายลงไปในท้องทะเลครึ่งเมืองอย่างถาวร เนื่องจากลมพายุที่โหมกระหน่ำบวกกับน้ำทะเลหนุนสูงน้ำ

    จะท่วมอย่างรวดเร็วและมีสายน้ำเปลี่ยนทิศไหลผ่านเมืองอย่างน่ากลัว ผู้ที่ได้รับอุบัติเหตุจากครั้งนี้ จะถูกนำส่งโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง

    ที่อยู่ใกล้กับห้าวสรรพสินค้าชื่อดัง ในย่านสำโรงและโรงพยาบาลแห่งนี้จะเป็นประตูต้นทางของกระแสน้ำที่ไหลเปลี่ยนทิศทาง

    แต่ก็เป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุกของเมืองสมุทรปราการ

    * เกาะสมุย จะถูกลบหายไปจากแผ่นที่โลกเนื่องจากแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง และเกิดพายุ รวมทั้งคลื่นยักษ์ซัดกระหน่ำ

    จนกระทั่งเกาะจมหายลงไปท้องทะเลอย่างไม่มีวันหวนหลับคืน

    * เกิดแผ่นดินไหวที่ตัวเมืองบุรีรัมย์ เสียชีวิตทันที ๕๓ คนผู้บาดเจ็บที่เหลือจะเสียชีวิตอย่างมากมายในระหว่างทางไปโรง

    พยาบาล

    * เกาะปันยี จังหวัดพังงา เกิดน้ำท่วมสูงและพายุที่รุนแรงโหมกระหน่ำพัดเกาะทั้งเกาะหายสาบสูญอย่างถาวร

    ผู้คนเสียชีวิตทั้งเกาะ

    * เขื่อนบางลาง จังหวัดนราธิวาส ถูกคลื่นจากทพเลซัดกระหน่ำจนกระทั่งเขื่อนแตก น้ำไหลทะลักเข้าท่วมแผ่นดิน

    ร่วมทั่งน้ำทะเลที่ถาโถมเข้าสูแผ่นดินอย่างบ้าคลั่งจนกระทั่งไม่มีนราธิวาสหลงเหลืออยู่ในแผ่นที่โลก

    * บ้านหาดเล็ก จังหวัดตราด จะถุกคลื่นยักษ์ไซโคลนกระกน่ำแผ่นดินหายไม่เหลือ

    * ยะลา ถูกทะเลคลั่งโหมกระหน่ำ น้ำทะเลสูงแผ่นดินหายเหลือเพียงเกาะเล็กๆ ที่จะมีชื่อเรียก ใหม่ว่า เกาะยะลา

    * จังหวัดสงขลา น้ำท่วมสูง เกาะทุกเกาะจมหาย จะเหลือเพียงหาดใหญ่บางส่วนที่น้ำจะไม่ท่วมถาวร

    * ชลบุรี ชายฝั่งทะเลบางแสน ถูกคลื่นยักษ์ ๔ ~ ๕ เมตรซัดกระหน่ำอย่างรุนแรง จนกระทั่งมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งพังพินาศ

    แต่น้ำทะเลจะไม่ท่วมถาวร

    * ฉะเชิงเทรา น้ำท่วมถึงสองฝั่งบางปะกงจนถึงฐานหลวงพ่อโสธร

    * กระบี่ จะถูกพายุพักกระหน่ำ ผืนดินทางด้านตะวันออกหายไป ชาวประมงประมาณ ๑๘๐ คนจะถูกกลืนหายไปในทะเล

    * ชุมพร จะเผชิญพายุฝนที่รุนแรง คลื่นจัดน้ำท่าวมสูง ศาลกรมหลวงชุมพรจะเหลือไว้เป็นอนุสรณ์ให้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์

    * อุทยานภูริน นางย่อง สิมิลัน จังหวัดพังงา ถูกคบื่นซัดหาย

    * ภูเก็ต ถูกพายุถล่มอย่างบ้าคลั่งจนกระทั้งเกาะกายไปจากแผนที่โลก มีผู้คนเสียชีวิตประมาณ ๔๐๐๐๐ ~ ๖๐๐๐๐ คน

    * นครศรีธรรมราช จะเกิดน้ำท่วมใหญ่ มีผู้เสียชีวิต ๒,๐๐๐๐ คน

    * พังงา น้ำท่วม แผ่นดินจะถูกกลืนหายลงไปในท้องทะเล

    * ปัตตานี ฝนตกหนักจนเกิดน้ำท่วมทั้งจังหวัด แต่วัดช้างให้ ของหลวงปู่ทวดจะปลอดภัย รูปปั้นหลวงปู่ทวดจะแสดงปาฎิ

    หาริย์ ลอยท่วมกระแสน้ำเชี่ยว น้ำจะแห้ง วัดช้างให้จะกลายเป็นเกาะกลางน้ำ

    * เขื่อน สิริกิต์ จังหวัดอุตรดิตถ์จะพังทลายกระแสน้ำที่เชียวกราดจะทำลายทุกสิ่งที่ขวางหน้า มีผู้เสียชีวิตทันทีประมาณ

    ๒๐๐ คน

    * เกิดภูเขาไฟระเบิดอย่างกึกก้องกัมปนาท ที่จังหวัดอุตรดิตถ์

    * กาญจนบุรี เขื่อนศรีนครินทร์จะมีปัญหาน้ำไหลอ้อมเขื่อน ท่วมด้านล่างเสียหายบางส่วน รวมทั้งน้ำท่วมสูงแผ่นดินหาย

    ถาวรครึ่งจังหวัด

    * จังหวัดนครราชสีมา เกิดน้ำท่วมใหญ่เป้นประสัติการณ์ กระแสน้ำจะท่วมสูงถึงฐานของอนุสาวรีย์ย่าโม


    ....ทุกจังหวัดในประเทศไทยต่างได้รับความบอบซ้ำด้วยกันทั้งสิ้น จะมากน้อยต่างกันไป บริเวณใดที่มีผู้คนถือศีลอาศัยอยู่

    อาจได้รับการปกป้องภัยพิบัติให้เบาบางลงไปได้บ้าง

    ข้อมูลทุกอย่างทีกล่าวมานี้อาจเปลี่ยนแปลงได้แต่ระดับความรุนแรงไม่เปลี่ยนแปลงแน่นอน ดังเช่น ภูเขาไฟ

    ที่กล่าวว่าจะเกิดในสถานที่หลายแห่งนั้นอาจเกิดระเบิดกึกก้องกัมปนาทรวมกัน ในสถานที่แห่งเดียวกันแต่จะมีความรุนแรง

    มากกว่าปกติ กล่าวคืออาจมีลาวาพุ่งสู้ท้องฟ้าสูงเป็นพิเศษถึง ๖ กิโลเมตรเป็นต้น


    เหตุการณ์ต่างๆ ที่กล่าวมานั้น จะมีอยู่วันหนึ่งที่ เหตุการณ์รุนแรงที่สุด คลื่นพลังมหาศาลจากจักรวาลจะกระแทกลงมายัง

    โลก เป็นพลังงานที่เกิดจากจุดดับบนดวงอาทิตย์จุดที่ ๑๑ มนุษย์ทุกคนบนโลก จะได้พบกับเหตุการณ์ที่น่าสะพรึงกลัว

    บรรยากาศช่างแรกๆ จะรู้สึกหดหู่เวิ้งวาง ท้องฟ้าจะวังเวงพิกล หลังจากนั้นไม่นานนัก ลมจะแรงขึ้นแรงขึ้น เสียงฟ้าเสียงลมจะแผดเสียง

    กึกก้องดังที่สุดตั้งแต่เกิดมาไม่เคยได้ยินเสียงที่ดังขนาดนี้มาก่อนใรชีวิตเป้นเสียงของพญามุจจุราชที่พิพากษาโลกในด้านความเป็น

    มนุษย์ คนชั่วทุกคนจะถูกประหารชัวิตและจะตายอย่างทรมาน ไม่เว้นแม้แต้ผู้นำสังคม ผู้นำเศรษฐกิจ ผู้นำลัทธิ ฯลฯ

    ส่วนคนดีจะได้รับการยกเว้นเอาไว้ให้ได้ทำความดีโดยไม่มีอุปสรรคต่อไป

    ปลายปี พ.ศ ๒๕๔๘ นี้จะเกิดสงครามครั้งยิ่งใหญ่ของโลก ซึ่งจะส่งผลให่มีคนตายจำนวนมหาศาล สวนผู้ที่รักษาศีล ๕

    ขึ้นไปจะรอด และอีก ๕ ปีต่อไปน้ำจะท่วมภาคใต้ และจะร้ายแรงมากกว่าสึนามึหลายเท่าผู้คนที่รอดชีวิตจำเป้นต้องเดินทางขึ้นภาค

    เหนือเพื่อให้พ้นภัยโดยระหว่างทางจะพบกับคนนอนตายเกลื่อนกลาดจำนวนมาก

    คนที่ไม่เคยเข้าวัดก็รีบเข้าซะตอนนี้ก็ยังทัน รีบหาของดี วัตถุมงคลติดตัวไว้แต่ถ้าเป็นคนดีมีศีลดีอยู่แล้วก็ยิ่งดี

    และสุดท้ายให้นั่งสมาธิ เพราะไม่มีสิ่งใดจะช่วยเราได้นอกจากสมาธิ และผู้ปฎิบัติที่ได้อภิญญาเรียกว่าให้อยู่ใกล้คนดีเข้าไว้และปีหน้า

    (๒๕๔๙) พระศรีอารย์ซึ่งเป็นพระโพธิ์สัตว์อยู่สรววค์ชั้นดุสิตในตอนนี้จะลงมาเกิดเป็นมนุษย์ ( ท่านลงมาเกิดในคราวนี้ไม่ใช่จะมาเป้นพระ

    พุทธเจ้า แต่เพื่อช่วยให้ผุ้คนรอดพ้นจากเหตุการณ์อันเหลือที่มนุษย์จะรับมือไว้ได้ไหวครั้งนี้ เพื่อช่วยให้พ้นจากภัยพิบัติจากภัยสงคราม

    ครั้งมหึมา ที่จะทำให้คนตายมหาศาลที่กำลังจะเกิดขึ้น ท่านอาจเกิดเป็นมนุษย์แล้วก้ได้ แต่ยังไม่แสดงตัวเท่านั้น)

    หากท่านไม่แน่ใจว่าตัวท่านมีความดีพอที่จะรอดพ้นจากภัยพิบัติครั้งนี้บะก็ ขอให้หาของดีติดตัวไว้ เป็นอย่างดีหรือถ้าหาของดีไม่ได้จริงๆ ก็จงทำตัวของท่านให้เป็นคนดีเพื่อความดีจะรักษาตัวท่านเอง หากท่านไม่เชื่อก็อย่าเพิ่งปฎิเสธ เช่น โรคที่ตา

    เปล่ามองไม่เห็น แต่เราก้ไม่อาจปฎิเสธมันได้ว่าไม่มี เพราะเรามีเครื่องมือคือกล้องจุลทรรศน์ที่จะส่องเห็นแล้ว ส่วนเรื่องอย่างอื่นที่กล่าว

    ไปแล้วก่อนหน้า เครื่องมือที่เห็นก้มีแล้ว คือการนั่งปฎิบัติธรรมนั่งสมาธิ แต่ที่ท่านใช่เครื่องมือหรือวิธีใช้เครื่องมือนั้นอย่างถูกต้องหรือไม่

    ก็เท่านั้นเอง

    ผู้เขียนเคยอ่านหนังสือที่หลาวพ่อฤาษีลิงดำ ท่านเขียนไว้ว่าอีกไม่กี่ร้อยปี จะมีพระมหากษตริย์ท่านหนึ่งเดินทางจากทาง

    เหนือมาบรูณะวัดท่าซุง ขณะนี้วัดท่าซุงก็ยังคงเป้นปกติดี แสดงว่าหลังจาดนี้ไม่นานนัก วัดท่าซุงมีเหตุการณ์ที่ทำให้วักท่าซุงร้าง ซึ่ง

    ปัจจุบันวัดท่าซุงก้ยังมีคนไปทำบุญ ถือศีล ปฎิบัตธรรมอย่างไม่ขาดสายแต่จะมีเหตุใหเล่าที่ทำให้วัดร้างได้ นอกจาก.....(อาจจะเกิด

    สงครามนิวเคลียร์ระหว่างชาติอาหรับและอเมริกา ซึ่งเป้นชนวนให้เกิดอภิมหาสงครามครั้งใหญ่ซึ่งส่งผลกระทบถึงประเทศไทยก้เป้นไป

    ได้)

    ไม่เชื่ออย่าลบลู่ จงหมั่นทำดีเพื่อรักษาชีวิตรอด... ในนิมิตยอกมาว่าอีกประมาณ ๕ปีจะเกิดเหตุการณ์ดังต่อไปนี้ ( ปัจจุบันปี ๕๑ )

    แผ่นดินไทยที่สาบสูญบริเวณที่หายถาวรทั้งแผ่นดิน นราธวาส สตูล พังงา ภูเก็ต หมู่เกาะ สิมิลัน หมู่เกาะสุรินทร์ หมูเกาะ


    ตุเรา หมู่เกาะทะเลตรัง ตราด สมุย เกาะพงัน อ่างทอง ชะอำ บิเวณที่เหลือเพียงบ้างส่วนจักลายเป้นเกาะเล็กๆ เกาะยะลา เกาะปัตตานี


    เกาะพัทลุง เกาะสิชล~ขนอม เกาะหัวหิน เกาะหาดทรายรี~ชุมพรบริเวณที่หายไปส่วนใหญ่จะเหลือเพียงบางส่วน ยะลา หาดใหญ่

    พัทลุง ตรัง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรราช ประจวบครีขันธ์ เพชรบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี

    สมุทรปราการ อุบลราชธานี แผ่นดิน ริมน้ำโขงตลอดแนว กาญจนบุรี ฯลฯ


    ประเทศไทยถูกแบ่งเป็น ๓ ส่วนได้พื้นที่ในส่วนกลาง อันเป็นพื้นที่ส่วนใหย่ของประเทศและบริเวณในส่วนภาคใต้ที่จะถูก

    แบ่งออกเป็น ๒ เกาะใหญ่ๆได้แก่

    ๑. บริเวณตั้งชุมพรฝั่งตะวันตก ท่าแซะ ระนอง สุราษฎร์ธานี ฝั่งตะวันตกบริเวณด่านบนของอำเภอพนมทวน อำเภอเคียนชา

    และอำเภอ บ้านนาเดิม นครศรีธรรมราช

    ๒ บริเวณตั้งแต่จังหวัดกระบี่ นครศรีรรมราช ที่ต่อแดนกับกระบี่ด่านบน ฉวาง ร่อนพิบูลย์ ชะอวด จังหวัดตรังด่านตะวันออก

    นอกจากนี้ยังมีเกาะเล็กเกาะน้อย ที่เกิดมาอีกหลายเกาะ เช่น เกาะสัต เกาะยะลา เกาะปัตตานี เกาะพัทลุง เกาะเกาะสิชล~ชุมพร

    เกาะหัวหิน เกาะหากทรายรี~ชุมพร บริเวณสงขลาด้านตะวันตก ยะลา ทางด้านตะวันออก หาดใหญ่กระบี่ ตอนบน ด่านที่ติดกับจังหวังสุ

    ราษฎานี ตั้งแต่ที่ติดกับจังหวัดพังงา ตอนกลางของจังหวัดสุราษฎร์ธานี จั้งแต่อำเภอพนมอำดภแคยนชา จรดเขตจังหวัดกระบี่ ชุมพร

    ด้านในท่าแซะตอนล่างของเมืองประจวบคีรีขันธ์ และถนนเพชรเกษมฝั่งตะวัยออกตลอดแนวของจังหวะดประจวบคีรีขันธ์


    * ถนนธนบุรี~ปากท่อ ช่วงสมุทรสงครามและสาคร

    * ตัวเมือง แปดริ้ว อำเภอบ้านค่าย ปลวกแดง จังหวัดระยอง ตัวเทองจันทบุรี และตลาดท่าใหม่ของวังน้ำเย็นจรด

    จังหวักสระแก้ว

    * เหนือเขื่อนเขาแหลมด้านตะวันตก

    * กาญจนบุรี ศรีสะเกษ อุบลราชธานี มุกดาหาร สกลนคร

    * นครพนม เลย หนองคาย อำนาจเจริญ

    * บ้านร่มเกล้า จังหวังพิษณุโลก

    * อุตรดิตถ์ ด้านที่ติดกับประเทศลาว น่าน ด้าน ตะวันออก ตอนล่าง

    * บ้านสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน


    ... ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้จะกลายเป้นชายฝั่งทะเล...

    ประเทศไทย เป้นดินแดนศักดิ์สิทธ์ที่จะได้รับการปกป้องคุ้มครองรักษาไว้ ซึ่งจะได้รับตวามบอบซ้ำจากมหันตภัยธรรมชาติ

    น้อยที่สุดในโลก และจะเป้นอู่ข้าวอู่น้ำ ซึ้งมีความเจริญเป้นศูนย์กลางของโลกต่อไป

    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ เกาะฮาวายประเทศสหรัฐอเมริการถูกคลื่นยักษ์ที่มาพร้อมพายุไซโคลนกระแทก ก่อนเกิด

    เหตุการณ์ จะแลเห็นน้ำทะเลเป้นสีดำหม่นหมอง บรรยากาศหดหู่ เวิ้งวาง ไม่นานนักจะเกิดพายุก่อตัวขึ้น พายุไซโคลน ที่รุงแรง ข้างล่าง

    ดูด ข้างบนตีกระแทกจนกระทั่งเกาะทุกเกาะจมหายลงไปในท้องทะเล

    * ไอแลนด์เหนือยและใต้ อากาศหนาวจัดอย่างที่ไม่เคยเป้นมาก่อน ในขณะเดียวกันจะถูกคลื่นยักษ์ ซัดกระหน่ำในขณะที่หนาวจัดนั้นเอง

    * ฮ่องกงจะถูกทะเลคลั่ง น้ำทะเลสูง ชินจุงจะหายไปอย่างถาวร เหาะสนามบินแห่งใหม่จะถุกคลืนตีแตกหายไปในทะเล

    ในบริเวณแมบนั้นจะเหลือเกาะเกาลูนและประเทศจีนบางส่วนเท่านั้น

    * เกาะมาเก๊า จะเผชิญพายุฝนอย่างหนักรวมทั้งคลื่นยักษ์โหมกระหน่ำจนกระทั่งเกาทรุดเอียงน้ำทะเลขึ้นสูง ยามรุ่งเช้าหลัง

    จากพายุสงบ จะเหลือเพีบงโบสถ์คริสต์แห่งหนึ่งกับบาทหลวงที่กำลังสวดมนตร์ภาวนาเพียง ๓ รูป

    * นิวซีแลนด์ ถูกพายุโซนร้อนถล่ม ฝนที่ตกลงจะมีเม็ดเท่าลูกเห็บ น้ำท่วมสูงแต่เกาะจะไม่ท้วมหายถาวร

    * สหรัฐอเมริกา จะถูกพายุที่รุนแรงถล่มอย่างหนักหน่วง พร้อมทั้งเกิดแผ่นดินไหวฉับพลัน ๒๔ ริกเตอร์ เป้นระยะเวลานานถึง

    ๘ ชั่วโมงซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในโลกนี้

    * สหรัฐอมเริกา ถูกแบ่งออกเป้นสองซีก กลายเป็นเกาะสองเกาะ นิวยอร์กจะหลุดลงเหลือเพียงบางส่วน นอกนั้นจัจมลงไป

    ในท้องทำเลทั้งหมด

    * ตุรกี แผ่นดินไหวอย่างรุนแรง ๑๖ ริกเตอร์

    * คิวบา จมหายลงไปในทะเล ( ห่างจากอเมริกา ๑๐ นาที )

    * เกาะสิงคโปร์ หายไปจากแผนที่โลก เหมือเช่นฟิลิปปินส์จะเหลือเพียงเกาะเล็ก ในส่วนที่เคยเป้นยอดเขาของกรุงจากาตาร์

    เท่านั้น

    * เกาหลีเหนือเกาหลีใต้ เกิดน้ำท่วมใหญ่ แม่น้ำกลายเป็นทะเล แผ่นดินซีกตะวันออกจะจมหายไปทั้งหมด

    * เกาหลีใต้ จะจมหาย

    * ประเทศญี่ปุ่นหายไปจากโลก

    ก่อนเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ บรรยากาศจะเงียบงัน วังเวง หดหู่ เวิ้งว้างมนุษย์จะเห็นเห็นการณ์ประหลาด เมฆสีเทาสองก้อน

    ลอยเคลื่อนตัวเข้าหากันแล้วชนกันแตกกะจายเป็นเม็ดฝนโตๆ ใต้ทะเลเกิดพายุไซโคลนขยายตัว พุ่งเข้าหาหมู่เกาะจนกระแทก

    ทุกเกาะเหมือนล้อมรั้ว เกาะทุกเกาะจมลงหายไปในทะเล

    * ไต้หวัน เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง ตอนเกาะกลางถูกแบ่งเป้นสองซีก จากนั้นจะโดนคลื่นยักากระหน่ำซ้ำเติมเกาะทั้ง

    เกาะจมหายไป

    * สหรัฐอเมริกา แผ่นดินถูกผ่ากลางหายสาบไปหลายรัฐ กลายเป็นสองเกาะ

    * เม็กซิโกบางส่วนกลายเป็นเกาะ

    * แคนนาดา จะกลายเป็นหมู่เกาะใหญ่น้อยมากมาย

    * ไต้หวัน ญี่ปุ่น กัวเตมาลา เฒ้กซิโกซิตี้ เบนนิส ฮอนดูลัส เอลสวาดอร์ นิคารากัว คอสตาริก้ ไหหลำ แผ่นดินจีน ด้านตะวัน

    ออก เซี่ยงไฮ้ มาเก๊า ฟิลิปปินส์ ครีลังกา ฯลฯ

    วิกฤตการณ์เลวร้ายน่าหวาดกลัวจะบั่งเกิดขึ้นทั่วโลก ความหวาดกลัวไม่จำเป้นต้องรับรู้ผ่านหน้าจอทีวีเพราะมนุษย์ ทุกคน

    บนโลกจะได้รับรู้รสชาติแห่งความกลัวตายกันทุกคน


    มนุษย์ที่รอดชีวิตไปได้จะเข้าสู่ยุคใหม่ จะมีจิตใจที่ดีงามและมรอายุขัยที่ยาวน่าประหลานใจ มีอารยธรรมเจริญก้าวหน้า

    โดยที่ไม่สร้างเทคโนโลยีที่ก่อปัญหาให้กับโลกมากมายเช่นในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังติดต่อสือสารกับเพื่อนมนุษย์ต่างดาวได้

    ซึ่งในปัจจุบันคนก้ไม่เชื่อเรื่องเหล่านี้มีอยู่จิงก็ตาม ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางของโลก และเป้นประเทศแรกที่มีผุ้สร้างยานอวกาศไป

    ท่องเที่ยวจักรวาลได้ โดยใช้หลังจิตในการขับเคลื่อน โดยไม่ใช้เชื้อเพลิงในการเผาใหม้ให้เกิดพลังงานที่ทำร้ายสภาพแวดล้อม

    และทรัพยากรธรรมชาติจองโลกให้เสียหายเหมือนอย่างปัจจุบัน นอกจากนี้ ต่อไพนิล หรือตาที่ ๓ ของมนุษย์จะถูกฟื้นฟู ขึ้มาให้มี

    ประสิทธภาพขึ้นกว่าในอดีต จนเข้าถึงพระนิพพานโดยง่ายขึ้นกว่าในอดีตในระยะเวาลาไม่นานนัก( ๖ ปี )

    พระศรีอารยเมตไตรน จะเปิดเผยพระองค์เพื่อปลอบประโลมสร้างขวัญกำลังใจให้กับมวลมนุษย์ชาติที่มีความบอบซ้ำทางจิต

    ใจ ซึ่งในขณะนี้พระองค์ท่านได้เสด็จลงมาบาโลกมนุษย์แล้ว กำลังเป็นสามเณรในพุทธศาสนาและพระองค์ได้มาประกฎที่ประเทศไทย

    นี่เอง

    ดังที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านบอกไว้ว่าใครบ้ามาลองภูมืท่าน ท่านก็แกล้งทำตัวเป้นคนบ้าตอบเสียเลย เพราะพวกมาลอง

    ของกับหลวงพ่อนี้ พอพูดความจิงไม่ค่อยเชื่อ แต่พอโกหกคิดว่าเป็นเรื่องจริง

    ขอตัดตอนบางส่วน จาก คัมภีร์ใบลานอักขระธรรมซึ่งได้ทำนายภัยพิบัติโลกไว้ดังนี้

    พระอินทร์ พรหม ยมราช ได้สั่งไว้ว่าถ้าบุคคลใดรู้แล้ว จงรีบร้อนบอกเล่าสู่กันฟังหรือพิมพ์แจกจ่ายตามกำลังศรัทธา

    จะเกิดมหากุศลช่วยท่านให้หลุดพ้นจากภัยพิบัติทั้งหลายทั้งปวง ถ้าบุคลใดไม่เชื่อตามคำสอนของพระพุทธเจ้า

    จะเกิดเรื่องเดือนร้อนในปีจอนี้ ขึ้น ๔ ค่ำผู้มีบุญจะลงมาเกิดพร้อมหนังสือใบลานฉบับนี้ ถ้าไม่มีอยู่ในบ้านเรื่องบ้านช่องของผู้ใด

    ในปีจอ จะมีพวกผีปีศาจเข้ามาทำร้ายอย่างแน่นอน ในปีจอต่อปีกุนยามเดือนหงายจะเกิดงูพิษอยู่บนหัวกัดฉกให้ตาย และ

    ฝูงชนทั้งหลายจะเกิดเดือดร้อนหลายประการ เช่น


    * ทุกข์ยากร้อน เพราะศึกสงครามบ่แล้วทุกข์ร้อนเพราะมีคนตาย ตามทุ่งไร่ ทุ่งนา

    ทุกร้อนเพราะน้ำและไฟ ทุกข์ยากร้อน เพราะไม่มีผู้เฒ่า

    ทุกยากร้อน เพราไม่มีใครจะดูใคร ทุกข์อยากร้อน เพราะไปต่างประเทศไม่สะดวก

    ทุกข์ยากร้อน เพราะอดข้าวปลาอาหาร

    ทุกข์อยากร้อน เพราะนอนไม่หลับ

    ทุกข์ยากร้อน เพราะ ผัวเมียไม่เห็นหน้ากัน


    ในปีจอนี้เมืองเวียงจันทร์ จะมีองค์ฤาษีทองคำ สิกขาลาบวชออกมาเป้นพ่อค้า ในปีจอขึ้น ๘ ค่ำ ห้ามใครตักน้ำ อาบน้ำ กินน้ำตามห้วยหนอง คลองบึง หลังพระอาทิตย์ตกดิน ( ก่อนมืดค่ำ) พญายมราชจะนำเอายาพิษมาพ่นใส่โลกมนุษย์


    ในปีจอเมืองกรุงเทพฯ จะแตกพังทลาย จอยเวลาไก่ขัน พระแก้วมรกตัวเมืองเชียงใหม่เม็ดข้าวใหญ่จะได้กลับคือสู่เมืองเวียงจันทร์


    นี้คือพระคาถาของ พระอินทร์ พรหม ยมราช ได้เขียนลงในใบลาน จกรักษาเก็บไว้ให้ดี เพื่อช่วยให้รอดพ้นจากภัยพิบัติ ใน

    นามเกิดเหตุกาณณ์มหันตภัยพระคาถาได้เขียนไว้ดังนี้




    " ปะโต เมตัง ปะระชีวินัง สุขิโต จุติ

    จิตตะ เมตตะ นิพพานัง สุขะโต จุติ"


    พระคาถานี้จะเขียนลงใบลานแผ่นทองหรือแผ่นผ้าก็ดีให้ติดไว้บนประตู ห้องเรียน

    หรือรถราพหนะ หรือพันหัวไว้ยามเกิดเหตุการณ์ จะช่วยให้รอดพ้นภัยอันตราย

    ในกาลเวลานี้ เทพเจ้าเหล่าเทวดาผู้ที่คุ้มหรองรักษาเหล่ามนุษย์โลก ได้ไปกราบทูล


    ต่อ พระอินทร์ว่า มนุษย์โลกทำบุญ กุศล ( ความดี ) เพียง ๓ ส่วนและทำบาปกรรม

    (ความขั่วร้าย) ถึง ๑๐ ส่วน เมื่อเป็นเช่นนี้พระอินทร์ จะได้ลงโทษกับมนุษย์โลกถึง ๙

    ข้อ นับตั้งแต่ปีจอถึงปีกุน คือ


    จะเกิดพายุลมแรง แผ่นดินไหว

    จะเกิดสารพิษต่างๆ ( อากาศ~อาหารเป้นพิษ)

    จะเกิดไฟไหม้ ( อัคคีภัย)

    จะให้เกิดกาฬโรคต่างๆ (พยาธิตัวร้าย)

    จะให้เกิดน้ำท่วม (อุทกภัย)

    จะให้เกิดอด ขาว ปลา อาหาร

    จะให้เกิดฟ้าผ่า

    จะให้เกิดอาฆาตฆ่าฟันกันเองสำหรับคนใจบาป

    จะให้เกิดร้อนมากหนาวมาก


    มหันตภัยทั้ง ๙ อย่างนี้จะรอดพ้นเฉพาะคนใจบุญที่ปฎิบัตืตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าเท่านั้น

    รู้แล้วบอกต่อกันให้รีบเร่งทำความดีมากว่าบาป

    กรรมชั่วร้าย ผ่านปีจอ ปปีกุน ไปแล้ว ทุกคนพร้อม ลูกหลาน เหลน จะไดรับความสุขสบายกันทั่วหน้า (เวลาเหลือน้อย)

    ให้ทุกคนเคร่งครัดถือ ศีล ๕ ให้ขยัน ภาวนา ให้ทาน ไหว้พระ เพื่อการกุศลอย่างต่อเนื่อง

    ศีล ห้า ข้อได้แก่

    ห้ามเบียนเบียดสิ่งมีชีวิต ( ทุกชีวิตใครก็รัก )

    ห้ามขโมยของผู้อื่นมาเป้นของตน

    ห้ามล่วงเกิน เป้นชู้ผู้อื่น เมีย ผัว คนที่มีเจ้าของ

    ห้ามพูดปด หลอกลวงคนอื่นในทางที่ไม่ดี ให้เกิดความแตกแยกสามัคคีหรือสูญเสียทรัพย์สินเงินทอง

    ห้ามดื่มเหล้าหรือเสะของมึนเมาทั้งหลายทั้งปวง



    นอกจากหนังสืออินทร์ตก ทีได้กล่าวมาแล้วยังมีผู้ทรงศีลองค์หนึ่ง ได้พบเห็นเนื้อในอักขระธรรม เขียนจารึกไว้บนก้อนศิลา

    ที่พึ่งพ้นจาดพื้นดิน ในภูผาดงแห่งหนึ่ง

    ที่พระรูปนี้ได้เดินธุดงค์ วิปัสสากรรมฐานผ่านไป ไม่ขอบอกนามพระและกำหนดสถานที่ อย่างแจ้งได้เพราะได้สอบหาข้อมูลละเอียดแล้ว

    พระผู้ทรงศีลกล่าวว่า " โยมเอ๋ย....ถ้าไม่เชื่อสุดแล้วแต่ดวงจิตเพราะพึงเวลาแล้วที่สวรรค์จะไม่มีความลับ ถ้าโยมเชื่อก็เป็นกุศล

    ถ้าไม่เชื่อก้เป้นอกุศล" รู้เพียงเท่านั้นจึงชอบอกเล่าสู่ท่านตามคำกล่าวขอผู้ทรงศีลรูปนี้ว่า ในปีระกา~ปีจอและปีกุน เดือน ๗~๘

    จะเกิดเหตุร้ายตามถนนหนทาง เดือน ๙ ~ ๑๐ คนใจบาปหยาบช้าจะถูกล้างผลาญให้หมด

    * มีบ้านอยู่ก็ไม่มีคนอยู่

    * มีข้าวก้ไม่มีคนกิน

    * มีทางก้ไม่มีคนเดิน

    สุดท้ายพระผู้ทรงศีลยังได้กล่าวเน้นย้ำถึงความศักดิ์สิทธ์ดังหนังสือ "อินทร์ตก" " อินทร์ตื่น"

    ถ้าท่าน ผู้ใดเชื่อ ศรัทธา บูชา เคารพกราบไหว้ หรือบนบานว่า จะบอกเล่าถึงผู้อื่นหรือพิมพ์ลงแจกให้สาธุชนคนทั้งหลายรับรู้แล้ว ท่านจะปราณนา สิ่งใดจะได้สมปราณนาได้ดังใจนึก พยาธิเบียดเบียนก็จะหายขาด....

    ดังนั้นให้บุคคล อิจฉา พยายาท เมตตา กรุณา ไม่เบียดเบียน ข่มเห่ง อิจฉา พยายาท และไม่ประทุษร้าย ซึ่งกันและกัน
    ประพฤติตนอยู่ในศีลธรรมและยึดถือคาถานี้จะพ้นภัยพิบัติ ให้เจริญ ภาวนาดังนี้ ให้สวดคาถานี้ทุกเช้าเย็นเป้นประจำ



    " หิตะชิราทัน มันกะโลอังคะ ศิลากะละสา

    สาสะสะ ติโหตะถิโหคุหะคะเน"


    ให้ท่องบ่นคาถาภาวนาเป้นนิจให้จดอักษรใส่กระดาษหรือผ้าขาวปิดได้หน้าบ้านหัวนอน หรือพันศีรษะไว้ สารพักพินาศ สันติประสิทธิ์แคล้วคลาดปลอยภัย





    "บัดนี้ข้าฯ แฝงธรรมญาณ ยืมปากกาท่านไหว้วานบรรดาผู้รู้จักตัวอักษรหนังสือ คัดเขียนถ่ายทอดให้ข้า


    แม้หนึ่งเล่มจะช่วยปกป้อง รักษาร่างกายให้ร่างกายสมบูรณ์ แข็งแรง

    ถ่ายทอดให้ข้า สิบเล่มทั้งครอบครัวจะพ้นเคราะห์ภัยอัยตราย

    ถ่ายทอดให้ข้า ร้อยเล่ม จะปกปักษ์ รักษษให้อายุยั่งยืน

    อีกทั้งโชคลาภ วาสนาเพิ่มพูนทวีรีบแจกจ่ายธรรมทานคัมภีร์นี้โดยทั้นทีทันใด จะปกป้องให้เกียรติศักดิ์รุ่งโรงน์มียศฐา


    หากอยู่ใดไม่รู้หนังสือ จงใช้วาจาเมตตาบอกค่อให้เข้าได้ฟังได้เข้าใจ ถ้าแม้นมีคนโฉดเขลาชั่วร้าย ไม่ศรัทธาเคราะห์ภัยจะมาถึงตัว จะประสบวิบุติให้ถึงที่ต้องไปเมืองผีด้วยสิบเหตุภัยร้ายนั้น ข้าฯไม่อาจกล่าวให้ละเอียดไปกว่านี้ คิดอยากจะเผยความลับสวรรค์ก้เกรงด้วยเบื้องบนจะลงฑัณฑ์



    หากคนทั้งหลายไม่เชื่อไม่ศรัทธา ดูหมื่นดูแคลนว่าไม่จริง ไม่นานมหันตภัยที่กล่าวไว้จักมาถึงตัว ผู้ที่มีใจศรัทธา

    น้อมจิตเชื่อฟีงตั้งมันอยู่ในคุณธรรมความดีถือศีลกินเจ เบื้องบนย่อมโปรดเมตตา ปกป้องคุ้มครองให้แคล้วคลาด มิให้ภัยใดใดเข้าใกล้ถึงตัวได้เลย"




    ผม ภัคพงศ์ ฉายสุนทรสิริ ได้ทำดารคัดลอกมาจากหนังสือคัมภีร์ อินทร์ตก ขอให้ทุกท่านช่วยกัน เพื่อให้ได้สะสมบุญกันและเชื่อฟังคำสั่งสอนขอพระพุทธเจ้า

    ขอให้บุญที่ข้าพเจ้าทำในครั้งนี้ และขออำนาจบารมี พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ และบารมีของข้าพเจ้าที่สั่งสมมาตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบัน ให้บุญทั้งหมดนี้ถึงแก่เทวดารักษาตัวของข้าพเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุ้มคร้องข้าพเจ้า ญาติในโลกทิพย์ เปรต ยมทูต ผี ปีศาจ เทวดา มาร พรหม ยักษ์ คนธรรพ์ กุมภัณฑ์ นาค ครุฆ อสูร กินรา เงือกที่เป้นญาติข้าจงเป็นสุขเป้นสุขจากบุญที่ข้าให้เถิด และขอให้บุญนี้จงสำเร็จแก่ เจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้า ขอให้ท่านด้รับผลบุญนี้ไม่ว่าทั้งจะอยู่ภพภูมิไหนก้ตาม ข้าขออภัยในความผิดที่เคยทำกับพวกท่านไว้ เรามาสร้าง
    บุญร่วมกันมามีความสุขไปด้วยกันเทอญ และผลบุญนี้จงส่งถึงปีบ้านผีเรื่องของข้าพเจ้าให้ได้เราความสุขแล้วแต่อธิฐาน และให้บุญนี้ส่งถึง กุมารทองของจ้าพเจ้า ชื่อ แรง เจ๋ง ดีด เก่ง เร็ว ให้ได้มีกินมีใช้ไม่ขาดและอธิฐานสุดแล้วแต่เทอญ ท้ายนี้ขอให้ผลบุญที่ข้าเจ้าทำมาทั้งหมดถึงแก้ผู้อ่าน เทวาดาที่ปกป้องรักษา แม่ของข้าพเจ้า พ่อของข้าพเจ้า และ ทั้ง พ่อและแม่ให้ได้รับความสุขไปทั่ว ถึงญาติมิตรสหายของข้าพเจ้า ด้วยอำนาจของพระพุทธ พระรรมพระสงฆ์ เทอญ ขออนุโมทนาบุญครั้งนี้ครับ สาธุ


    อิทังปุญญะผลัง


    ต้องการพิมพ์หนังสือนี้กะผมได้เลยน่ะครับ ผมมีอยู่ ที่จิงเนื้อหามากกว่านี้นิดหน่อยแล้วอีกอย่างมีบทสวดมนตร์ครบอยู่ท้ายเล่มตอนจากทั้งหมดนี้อ่ะ

    เล่มละ 16 บาท กี่เล่มก้ได้ แอดเอ็มมาคุยกันก้ได้ neap123@hotmail.com หรือโทร 0846554865


    รีบทำเถอะคุ้ม

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  11. yupanatuk

    yupanatuk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    383
    ค่าพลัง:
    +418
    อนุโมทนา สาธุ กับความรู้ดีๆให้ข้อคิดดีๆ เพื่อให้นำไปปฏิบัติ
     
  12. ahantharik

    ahantharik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,595
    ค่าพลัง:
    +6,346
    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...