อยากถามครับ ว่าเว็บนี้มีใครเคย นึกถึงสติและสมาธิเวลาเมาอะครับ

ไม่รู้ว่ากระทู้นี้จะโดนต่อต้านรึเปล่า เพราะเว็บนี้คนที่เคร่งศาสนาแบบขวาจัด ซ๊ายจัดมีมากครับ อาจจะขัดกับศีล5นิดหนึ่งอะครับ

เลยจะโดนต่อต้านรึเปล่าครับ

ผมเคยไปสังสรรค์กับเพื่อนที่ทำงานนะครับ
แล้วทีนี้ปรากฏว่าเมามาก
ครับ เดินเซไปเซมา

แต่กลับปรากฏว่าเหมือนมีความคิดแวบหนึ่งเข้ามาในใจ
ว่าให้ลองพิจรณากายและใจเวลาเมาครับ
ทันใดนั้นก็นั้งลงกับพื้นในออฟฟิต เวลาประมาญตีสอง
แล้วก็เริ่งกำหนดจิตพิจรณาถึงร่างกายครับ
ตอนนั้นปรากฏว่าจิตนิ่งมากครับ
แต่กายครับ รู้สึกว่าเหมือนมีกระแสเลือดแบบแปรปรวนไหลวนทั่วร่างกายไปคงที่
แต่ตอนนั้นสติก็เกิดขึ้นครับ
สามารถคุมสติได้ดีครับ
แต่พอพิจรณาร่างกายครับว่ามัน ทำงานผิดปกติจริงๆครับ
ผมพิจรณาอยู่นานมากครับ
จึงรู้ว่าเวลาเมาเรามักจะปล่อยจิตไปตามฤธิของสุรา
และทำให้คึกคนองตาม
ฉะนั้นไม่ดื่มดีกว่าครับ
เอาดื่มแค่เป็นโอสถ ก็พอนะครับ
ผมมีเรื่องจะเล่าเท่านี้แหละครับ


ก็เลยอยากถามว่าเวลาเมาแล้วใครเลยลองกำหนดจิตพิจรณากายใจดูบ้างไหมครับ

เพราะเชื่อว่ายังมีหลายคนในนี้ที่ยังต้องเจอสังคมแบบอบายมุข อยู่
บางคนก็ไม่ชอบดื่มนะครับแต่บางครั้งมันสังคมครับ บางครั้งก็เกี่ยวกับงาน บางครั้งก็ เกี่ยวกับเจ้านนายครับ บางครั้งคนเราเลยเลี่ยงไม่ได้ครับ

เลยอยากถามอะครับ

 

เราไม่ได้กินเหล้านะ ก็เลยไม่ได้เมาเหล้า
แต่เรามักจะเมาความคิด แหะๆ เหมือนกันรึป่าว ก็ไม่รู้นะ
รู้แต่ว่า เราหลงอยู่ในความคิด เต็มๆ แต่บางครั้ง เราก็มีสติรู้ตัวนะ
พอรู้ว่า หลงคิดไปอีกแล้วนะ รู้ว่าถูกความคิดครอบงำอยู่นะ เราก็หยุดคิด
แล้วก็ถอยออกมา ดูความคิดมันทำงานของมันไป ก็แปลกดีเหมือนกัน

 

เมื่อก่อนยายผีป่าเมาเหล้าทุกยี่ห้อ ตั้งแต่สามนิ้วน้ำแดง เชี่ยงชุน ยันบรั๋นดีราคาแพงๆ คอนยัคสุดโก้ เต็มตู้โชว์ไปหมด เพราะคิดว่า ตนคือคนที่สังคมเขารับได้ กินแล้วเมาตาลาย อ๊วกแตกรากราดประจำ ผู้ชายเห็นแล้วระอา แต่ไม่ว่าจะเมาเพียงไร ส่วนใหญ่ชอบไปส่างเมาที่วัดบ่อยครั้ง เพราะว่าพอเมาแล้ว ได้ที่ บึ่งรถไปรอให้พระเทศน์ประจำ ตักบาตรขณะที่กลิ่นเหล้าหึ่งนั่นแหละ พระท่านถามว่า ทำไมถึงเมาละโยม

ยายผีป่าก็บอกว่า สังคมเขาเป็นอย่างนี้

แต่ตอนหลังๆ มันได้หลายๆ อย่างมาพิจารณา

ไอ้เราไม่ได้ติดเหล้าขนาดไม่กินเป็นชักแหง่กๆ หรอกนะ แต่เรากินเพราะเราอยากรู้ว่า มันดีตรงไหน ทำไมใครๆ ถึงกิน ทำไมพ่อแม่จึงติด แต่ทีนี้พอเรากินหนึ่งขวด ต่อๆ ไปพอเพื่อนชวนกิน เราปฏิเสธ เขาหาว่าตอแหล ออกงานสังคม เขาบอกว่า มันช่วยให้เข้ากับคนได้ง่าย

แต่ยายผีป่าเมาเมื่อไร ต่อยปากชาวบ้านเรื่อย ต่อยใครไม่ได้ ก็ปล่อยยางรถบ้าง ทำอะไรก็ได้ ที่เวลาเมาแล้วมันเพี้ยนแบบสะใจ

ครั้งหนึ่งเมาสุดๆ เพื่อนโทรมาบอกว่า ไปช่วยเป็นวิทยากรให้หน่อย สอนนักศึกษาวัยรุ่น

เราไปสอนเขาแบบว่า สภาพดูไม่ได้ เขาดูแล้วไม่นับถือ ยายผีป่าได้ที จึงบอกเด็กๆ ไปว่า

"เห็นหรือยังว่า คนกินเหล้า โดยเฉพาะผู้หญิงนั้น สภาพมันดูไม่จืด ผู้ชายเขาชอบเวลาผู้หญิงเมา เพราะรอปล้ำเอาได้ง่ายดี แต่พอจะเอาทำเมีย ทำแม่ขอลูก ไม่มีใครชอบหรอก ทำให้เพื่อนยายขอบคุณที่เอาตัวเองยกตัวอย่างให้เด็กได้ดี สมจริงจังวะเอื้อมเดือน




แต่ลุงๆ ของยายผีป่าเวลาเมาได้ที่ พวกเขาเคยบวชกันมา จะยกคำบาลีมาสอนหลานๆ

เออ...อันนี้เขาเรียก ศีลนะข้ารู้ แต่ตูไม่ปฏิบัติตาม มีปัญหาไหม

ที่เลิกสิ่งที่มันมอมเมาได้มาหลายสิบปีนี่ ก็เพราะเมาแล้วเห็นตัวเองดูไม่จืดเลย เพื่อนร่วมเที่ยวเฮฮา พอเราหมดเงินมันหน่ายหนีกันหมด หาจริงใจไม่ได้ ก็เลยหักดิบตอนเลิกจากเที่ยวดูตลกแล้วไปวัดกับเพื่อนสาวอีกสามคน ไปขอพระบวช ตั้งแต่นั้นมาก็เลิกได้เลย

 

เคยครับ ประจำเลย 5555555

 

อยากเลิกครับ มันก็เลิกไม่ได้ซักที ไม่กินก็ได้ ไม่ดื่มก็ไม่เป็นไรแล้วเราจะดื่มทำไม
คงเป็นแบบที่ยาย ผีป่าบอกอะครับ พอเงินหมดสังคมมันก็คงหาย
ผมเคยฝึกจิต จนมองทุกอย่างเป็นธรรมไปหมด มองอะไรด้วยแง่ดีและให้อภัย
บางครั้งนั่งสมาธิ จนจิตไปหาอาจารย์ได้ เกือบจะเดินธาตุขั้นแรกสำเร็จแล้วครับ

แต่พอมาพักอยู่ที่ทำงาน หลายๆๆเดิน คำว่าธรรมมันกับถูกแทนที่ด้วย บรรเทิง
เที่ยวผับบ่อยครับ เจ้านายก็พากินเหล้าบ่อย
จนพักหลังเพี่ยนชวนไปผมก็เริ่มปฏิเสธ
เพิ่งมารู้ตัวอีกที ตอนที่เมาหลายวันติดต่อกัน มันไม่สบายตัว
สิ่งที่เราปฏิบัติมา มัน ต้องนับ1ใหม่ครับ
ก็เพิ่งรู้สึกตัววัน2วันนี้เองครับ
เลยรู้ตัวก็เลยจะเพลาๆๆๆๆลงๆๆๆๆๆเยอะๆๆๆๆเลยครับ
แต่ถ้าบอกว่าเลิกไปเลยผมกลัวทำไม่ได้
เลยต้องใช้คำว่าขอลดลงไปเรื่อยๆดีกว่า
คงหักดิบ แบบ ยายผีป่าลำบากอะครับ

และมาเริ่มต้นปฏิบัติใหม่อีกครั้งครับ

ขอบคุณมากๆเลยครับ

 

เลิกดื่มไปนานแล้ว และไม่คิดจะดื่มอีก เพราะเป็นศิลข้อที่ง่ายที่สุด (สำหรับผมนะ)

 

ปัญญา เกิดด้วย สมาธิ
สมาธิ ตั้งมั่นด้วย ศีลนำ
ขั้นตอนการปฏิบัติ ต้องมีศีลเสียก่อนจึงจะเกิดสมาธิ
ในหลักสติปัสฐานได้ และปัญญาก็จะเกิดตามมา
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในจิตหลังการดื่ม มันเป็นการปรุงแต่ง
ของจิตทั้งนั้น หาความจริงไม่ได้สักอย่าง นี่ดีนะครับที่คุณ
แค่เห็นกาย คุณลองไปถามเด็กวัยรุ่นที่ขาดการอบรม
ดมทินเนอร์ดู เข้าจะบอกว่าของคุณนะเด็กๆ เขา
สามารถเหาะเหินเดินอากาศได้ เดือนดาวยังเอามาได้
* เพราะฉะนั้นเลิกพูดนะครับว่า เมาเหล้าแล้วยัง
พิจารณากายได้ ผมว่าคุณยังไม่สร่างเมาค้างแน่ๆ
* และอีกข้อคุณอย่าเหมาเอาว่า คนที่ไม่เห็นด้วยกับ
คุณเป็นซ้ายจัด ขวาจัดซิครับ แสดงว่าคุณมีใจเป็น
กลางหรือครับ ทำไมไม่แยกเป็น ฝ่ายหนึ่งดี อีก
ฝ่ายหนึ่งไม่ดีละครับ คุณเล่นตั้งกระทู้แบบหมิ่นเหม่คุณ
ต้องไม่กลัวการถูกวิจารณ์ นี่เล่นตีลูกกันไว้ก่อนเลย
* ที่คุณบอกอาจขัดศีลห้านิดหนึ่ง ผมว่ามันไม่นิด
หรอกครับ สุราเป็นศีลในศีลห้าซึ่งเป็นศีลเบื้องต้นที่
ทุกคนควรปฏิบัติ และการดื่มสุราเมื่อเมาแล้วเป็นหน
ทางที่จะทำผิดศีลข้ออื่นด้วย
* ที่กล่าวมาทุกอย่างไม่ใช่ผมไม่เคยดื่ม ดื่มจัดดื่มจน
ประสาทหลอน ได้ยินคนมาพูดอยู่ข้างหู ตอนแรกนึกว่า
ได้อภิญญามีหูทิพย์ ดีนะที่เลิกดื่มไม่ยังงั้นสงสัยตอนนี้
คงยังอยู่ร.พ.โรคจิตแน่ๆ

 

เรียกว่ารู้สึกผิด เรียกว่ายังมีกุศล เรียกว่ายังอยากออกจากกองทุกข์นั้น ^-^

 

*คำเตือน การขับรถทำให้ประสิทธิภาพในการดื่มลดลง

 

เคยเหมือนกันครับ สมัยตอนหนุ่ม ๆ อิอิ
กินทุกยี้ห้อ ชนิดไม่รู้ดีกรี เหมาหมด กินท้ายสุดเล่นเอานอนจมกองอวกใต้ต้นขนุนเลย เมาเหมือน......... เกือบเป็นผีขนุนซะแล้ว ความรู้สึกเหมือนหายไม่อิ่ม อาการแย่มากนึกว่าจะตายซะแล้ว แต่ยังดีที่พอมีสติอยู่บ้างนะครับ เพราะเวลานั้นภาวนาพุท-โธสมหายใจเข้า-ออก ชัดมาก ชนิดว่าไม่เคยมาก่อนลมหายใจจเข้าถึงไหนตามถึงนั้น กว่าจะหายได้เล่นเอาแย่ไปเลย ตั้งแต่นั้นมาเหล้ากับข้าพเจ้าไม่ถูกกันอีกเลย เข็ดจนตาย

 

เดี๋ยวนี้ผมก็ห่างๆไปมาก แบบว่ากลัวเมาแล้วไม่ได้ทำสมาธิ ทำสมาธิตอนเมามันบาปหรือเปล่าอันนี้ผมไม่รู้ แต่ผมกลัวบาป.. ข้อนี้สำคัญเลยนะ..คือว่า เอ่อออ...ไม่มีตังค์

 

เคยหนหนึ่ง
อยากรู้เวลาเมาตัวเราเป็นอย่างไร
เลยลองดูเพื่อนไม่เข้าใจกินเป็นเพื่อนเต็มเลย
ทีมาเฝ้าเเพราะเป็นห่วงก็มี
ที่หวังล้วงความลับก็มี
เก็บไปแบล็คเมล์ก็มี
หวังถามความรักในใจก็มี

ปรากฎว่าเมาแล้วความคิด สติยังอยู่นะ
แต่พละกำลังถดถอยไป ไม่เข้าท่าเท่าไหร่
(ฉุกเฉินกลัวหนีไม่ทัน)

 

นอกจากสุราที่ทำให้เกิดปัญญาน้อยลง

เท่าที่สังเกตมาตัวอันตรายคือหนังละครัครับ

ตัวทำให้เราหลงและติดเลยครับ

 

ตอนนี้ ผมเบาลงมากๆเลยครับ

จนรู้ว่าสึ่งที่เราเคยฝึกปฎิบัติมาไม่ได้หายไปไหน
แปลกใจครับ ผมนึกว่าต้องเริ่งใหม่ซะแล้ว
ยังอยู่ดีครับ พอเลิกดื่มก็กลับมาจริงๆครับ

มันก็น่าขำครับ เมื่อปีหรือสองปีก่อน ผมโพสแต่เรื่อง ธรรมมะ พลังจิต กฏแห่งกรรมต่างๆ

แต่ทุกวันนี้มาโพสเรื่องเหล้า น่าสมเพสตัวเองครับแต่ก็รู้สึกดีครับที่ได้รับคำแนะนำ

 

สาธุ อนุโมทนา ด้วยคับ

น่าจะเรียกว่า เป็นการพลิกวิกฤต ให้เป็นโอกาสนะ... ผมเองก็เคยคับ แต่ไม่ถึงกับนั่งสมาธิขณะเมานะคับ อิอิ...

แต่จิตมันเห็นเอง...เห็นอาการของกาย เห็นจิต แยกออกจากกัน...คือมีผู้รู้เกิดขึ้นดูกายดูจิต...ขณะเดียวกันนั้นก็ รู้สึกถึงอาการของผู้รู้นั้นว่า มันยินดีในการกระทำนั้นๆหรือไม่...ปรากฏว่า มันเฉยมาก...ถึงจะผิดศีล ข้อ5 แต่สติจิตเรารู้ตลอด สำรวมระวังได้ในศัลข้ออื่นๆ ไม่ให้ผิดตามไปด้วย

....แต่ดีที่สุด คือไม่ดื่มเลย ปัจจุบันผมเลิกขาดแล้วคับ เลิกมา เป็นสิบปีแล้ว.....

ปล. น่าจะต้องต่อท้ายกระทู้นี่ว่า โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน..เป็นความสามรถเฉพาะตน ห้ามลอกเลียนแบบ...5555+
...เพราะ ไม่ใช่ว่าจะทำได้เช่นคุณทุกคนนะคับ... และที่ทำได้ก็ไม่ใช่คุณวิเศษ อะไรอีกเช่นกัน... จริตใครจริตมัน...แนวทางใครแนวทางมัน..สิ่งที่เราทำไม่ได้ ก็อย่าเหมาว่า คนอื่นจะทำไม่ได้ไปด้วย...และทีเราทำได้..ก็ไม่หลงคิดว่า เราเก่งกว่าผู้อื่น...เพราะถ้าคิดเช่นนั้นเท่ากับว่า ผู้ที่คิดเช่นนั้นกำลังแสดง "อัตตา" ตัวเบ้อเร่อมาอวดผู้อื่นอยู่...อิอิ

เป็นกำลังใจให้นะคับ...ขอให้เลิกได้โดยเด็ดขาด สาธุ

 

ถูกต้องแน่ นอน เลยครับ

 

โลกมนุษย์ ใบนี้ แม้น ไม่มีสุราให้เมามาย แต่ก็มีกิเลส ให้เมาอยุ่ทุกอยู่เวลาแล้ว

 

คม ชัด ลึก..

 

;hi2สมัยยังวัยรุ่นแรกแย้มผมก็ดื่ม เพราะอยากรู้ว่าเวลาเราเมาแล้วเป็นอย่างไร เห็นมาหลายรูปแบบดูไม่จืด พอลองเข้ากับตัวเองหมดน้ำยาครับ หลับไม่รู้เรื่อง พอตื่นมาวิญญาณนักวิ่ง100เมตรเข้าสิงครับ วิ่งเข้าห้องน้ำโก่งคอขันซะหมดแรง ผมถือว่าโชดดีมากครับที่ไม่ได้อยู่ในยุทธจักรนักดื่ม ตอนนี้คิดว่ารู้มามากพอแล้วไม่ต้องศึกษาอีกแล้ว ไม่ดื่มดีกว่า:z1