นั้งแล้วตัวตั้งตรงขึ้นมาเอง

เมื่อเช้านั่งแล้วมีอาการแปลกๆ ครับ คือ พอนั่งแล้วมันจะหงายหลัง ผมก็เลยพยายามเอนตัวไปข้างหน้า ทีนี้พอเอนตัวไปข้างหน้าแล้ว ตัวมันค่อยๆดันขึ้นมาตั้งตรงเอง อย่างช้าๆ คือไม่รู้สึกว่ามีใครมาดึงหรือมาดัน เพียงแต่ตัวมันค่อยๆตั้งขึ้นมาตรงเอง ตลกดี พอตรงแล้วก็หงายอีก ก็ต้องเกร็งขาเพื่อไม่ให้ล้ม พอรู้ตัวว่าเกร็งขา ก็เลยคล้ายกล้ามเนื้อขา ก็เลยต้องก้มตัวอีก แล้วตัวก็ดันขึ้นมาอีก วนไปวนมาแปลกดี

เลยกลายเป็นเมื่อเช้าผมทำจิตรู้ที่กายอย่างเดียวเลยครับ ขำๆ

อ่อ แล้วก็ เวลาเอนตัวผมมักเอียงซ้ายอ่ะครับ

ปัญหาคือ ผมควรจะช่างมันไม่ว่าจะเอียงแค่ไหน แล้วเอาจิตไว้ที่ลมอย่างเดียว โดยไม่ต้องสนใจความเอียงใช่ป่าวครับ

ปล.แล้วไอ้ที่ตัวมันดันขึ้นเองนี่คืออะไรครับ เป็นอาการที่กล้ามเนื้อจำรูปร่างหรือเปล่า หรือคืออะร

 

อนุโมทนาครับ เท่าที่ความรู้อันน้อยนิดที่ผมมี ท่านได้ถึงปิติครับ ท่านทำถูกแล้วครับ ไม่ต้องไปสนใจกายครับ จับลมอย่างเดียวดูลมอย่างเดียวเหุตุที่เกิดกับกายไม่ต้องไปสนเดียวมันก็ผ่านไปเอง

 

การตัดกรรมตัดไม่ได้หรอก แต่หนีกรรมได้ หรือไม่ได้ ก็มี
เขาถึงบอกให้เอาน้ำละลายเกลือค่ะ

 

ก็แล้วแต่ คุณ John จะคิด มันเป็นปัตจัสตังค่ะ คุณ
จะว่าฉันโง่ก็ได้ เพื่อความสะบายของคุณนะ

 

ตราบใดที่ยังมี รูป (ร่างกาย) + จิต = วิบาก
ความเจ็บป่วยของร่างกายก็เป็นวิบาก

 

หากเรายึดติดปรุงแต่งว่าสุข หรือทุกข์ เขาก็เรียกว่ากรรม กรรมของขันธ์
การเราไม่ได้ยินดียินร้าย กรรมก็ไม่สามารถทำอะไร กับเราในส่วนนี้ ได้เช่นกัน

 

อ้าว เห็นคุณอ้างอิงฉันนี่
ฉันก็ว่าไปตามความจริง
จริง ๆ ไม่ได้จำกัดความคิดใครหรอก อย่าคิดมากซิ มันก็จริง กรรมไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยสมาธิเสมอไป แต่เราก็อย่าไปทุกข์เพราะกรรมเลยว่าไหมคุณJohn เหมือนไปติดกับอดีต นะ เอาปัจจุบันนี้แหละ ทำดีที่สุด
อยู่อย่างร่าเริงแต่สงบนะ ไม่มีทุกข์แน่นอน <label for="rb_iconid_30"></label>

 

จริงก็บอกเจ้าของกระทู้นั้นแหล่ะ ว่าอย่าสงสัยอาการที่เกิดขึ้น จริง ๆ อาการแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน จะให้อธิบายอย่างถ่องแท้นั้นมันยาก ดังนั้น เราควรสังเกตุและฝึกเทียบเคียงเองดูจ้า

ส่วนคุณJohn นะ การร่าเริง ไม่จำเป็นกระโดดโลดเต้น ครึกครื้น อย่างนั้นเขาเรียกว่าไม่สำรวม
แต่ร่าเริงและสงบคือ การที่เราไม่เศร้ามอง ไม่จมทุกข์ และมีปัญญาคิดไปในทางกุศล
อันนี้ อืม พอจะเข้าใจหรือยัง

 

[FONT=Arial, Helvetica, sans-serif][FONT=Arial, Helvetica, sans-serif][FONT=Arial, Helvetica, sans-serif][FONT=Arial, Helvetica, sans-serif][FONT=MS Sans Serif][SIZE=2][COLOR=#cc3333][COLOR=#666666][FONT=Arial, Helvetica, sans-serif][SIZE=3][COLOR=#cc3333][FONT=MS Sans Serif][SIZE=2][COLOR=#cc3333][COLOR=#666666][FONT=MS Sans Serif][SIZE=2][COLOR=#cc3333][COLOR=#666666][FONT=Arial, Helvetica, sans-serif][SIZE=3][COLOR=#cc3333][FONT=MS Sans Serif][SIZE=2][COLOR=#cc3333][COLOR=#666666][FONT=Arial, Helvetica, sans-serif][SIZE=3][COLOR=#cc3333][FONT=Arial, Helvetica, sans-serif][SIZE=3][COLOR=#ff0000][B]happy doing the simple chores of life.
and You never want to end.
For You Khun John
[/B][/COLOR][/SIZE][/COLOR][/SIZE][/COLOR][/COLOR][/SIZE][/FONT][SIZE=2][COLOR=#cc3333][COLOR=#666666][SIZE=3][COLOR=#cc3333][/COLOR][/SIZE][/color][/color][/size][/COLOR][/SIZE][/COLOR][/COLOR][/SIZE][/FONT][SIZE=2][COLOR=#cc3333][COLOR=#666666][SIZE=3][COLOR=#cc3333][SIZE=2][COLOR=#cc3333][COLOR=#666666][/COLOR][/COLOR][/SIZE][/color][/size][/color][/color][/size][/COLOR][/COLOR][/SIZE][/FONT][SIZE=2][COLOR=#cc3333][COLOR=#666666][SIZE=2][COLOR=#cc3333][COLOR=#666666][SIZE=3][COLOR=#cc3333][/COLOR][/SIZE][/color][/color][/size][/color][/color][/size][/COLOR][/SIZE][/COLOR][/COLOR][/SIZE][/FONT][SIZE=2][COLOR=#cc3333][COLOR=#666666][SIZE=3][COLOR=#cc3333][SIZE=2][COLOR=#cc3333][COLOR=#666666][SIZE=2][COLOR=#cc3333][COLOR=#666666][/COLOR][/COLOR][/SIZE][/color][/color][/size][/color][/size][/color][/color][/size][COLOR=#cc3333][COLOR=#666666][SIZE=3][COLOR=#cc3333][SIZE=2][COLOR=#cc3333][COLOR=#666666][/COLOR][/COLOR][/SIZE][/color][/size][/color][/color][COLOR=#666666][SIZE=3][COLOR=#cc3333][/COLOR][/SIZE][/color][/FONT][/FONT][/FONT][/FONT][/FONT][/FONT][/FONT][/FONT]

 

อาการนั่งสมาธิแล้วตัวเอน ตัวโยกไปมาเป็นอาการปกติของการนั่งสมาธิเพราะเมื่อก่อนเราก็เป็นแบบนี้เหมือนกันตอนนั่งแรก ๆ แต่ตอนนี้ผ่านขั้นนี้มาแล้วไม่เป็นแล้วช่วงนั้นตัวเราเอนไปข้างหน้าจนหน้าผากจรดพื้นแล้วก็ขึ้นมาเอง แล้วก็เอนไปข้างหน้าใหม่อีกเป็นอย่างนี้ หลวงพ่อฤาษี ฯ ท่านบอกไว้ในหนังสือว่าเป็นอาการของปีติที่ต้องผ่านขั้นต่าง ๆ มี 5 ขั้น ถ้าคนที่เป็นพุทธภูมิต้องผ่านหมดทั้ง 5 ขั้น แต่สำหรับคนที่เป็นสาวกภูมิอย่างเรา ๆ ท่าน ๆ ทั้งหลายไม่ต้องผ่านทั้งหมด 5 ขั้น ผ่านแต่เพียงบางขั้นเท่านั้น การเกิดปีติเป็นอาการของอุปจารสมาธิแต่ถ้าเลยสมาธิขั้นนี้ไปแล้วก็จะไม่ปรากฏอีก เป็นเรื่องธรรมดาที่พบเห็นได้ทั่วไปของคนที่ปฏิบัติธรรม

 

I want stop the next world But U!!!

 

....

 

สาธุ..กับผู้ปฏิบัติครับ
ก็ดีอยู่แล้วนี่นา..มีสติรู้ตลอด
มันจะเอน จะเอียง จะหมุน จะวูป จะอะไรก็ช่างมัน ก็รู้ชัดอยู่อย่างนั้น
นี่ถึงเรียกว่า จับอยู่ที่กาย หมวดกายก็ทำให้คล่องไปเลยครับ
อะไรมากระทบตรงจุดไหนก็เอาจิตไปรู้ที่นั่นแหละครับ ถึงจะได้เรียกว่า รู้กาย
เกิดขึ้นก็รู้ กำลังทรงอยู่ก็รู้ ดับไปก็รู้
เหมือนเดินจงกลมน่ะ แต่ไปรู้ที่อื่น ส่วนไหนก็ได้ในกายนี่แล..

และหลังจากออกจากสมาธิแล้วก็ทรงอารมณ์รู้นั้นไว้ด้วยนะครับ
ถึงแม้จะเป็นการรู้บ้างไม่รู้บ้างก็อย่าให้พล่องนะครับ

ส่วนเรื่องกรรมนั้นท่านคิดว่ามันแทนกันได้ไม๊ล่ะ ?
ลองระลึกถึงกรรมหรือการกระทำนี่แหละ
ไม่ว่าจะเป็นกรรมดี หรือ กรรมไม่ดี ที่กระทำล่วงไปแล้ว
วันดีคืนดีมันแวปเข้ามาในหัวอีก แล้วสังเกตุตัวเองสิ จิตยังจมเข้าไปยินดี ยินร้ายในกรรมที่กระทำลงไปแล้วหรือไม่ล่ะ ?
ก็จะได้คำตอบเรื่องกรรมซะทีนี้ และก็จะรู้ว่าตนเองนั้น ตัดกรรมได้หรือยัง ก็จะรู้ในตอนนั้นเดี๋ยวนั้นแล.. (^^)


อนุโมทนาสาธุ มีวิริยะ ต่อไปนะครับ
และอย่าลืมว่า เราไม่ควรเข้าไปยึดมั่นถือมั่นอะไรต่อมิอะไรล่ะ เพราะมันยึุดไม่ได้ หรือไม่ก็ลองดู..พิสูจธ์ก่อนก็ได้

 

เอ เราก็เป็นเหมือนกันนะ

แต่เราฝึกยุบหนอพอง พอสวดมนต์ ตัวมันจะตั้งตรงเลยนะ

ท้องพองยุบมาก และเร็วจนเหมือนนั่งแล้วตัวมันขโยก ๆ เลยแหละ

แต่เวลาอื่นมันไม่เป็นนะ

แม้แต่นั่งสมาธิ ก็ ยังรู้สึกน้อยกว่าตอนสวดมนต์อีก