การปฏิบัติธรรมที่ถูกต้องตามหลักพระพุทธศาสนาและได้บุญเยอะที่สุด

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย รสมน, 21 พฤษภาคม 2009.

  1. รสมน

    รสมน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,451
    ค่าพลัง:
    +2,047
    การปฏิบัติธรรมนั้นมีอยู่ด้วยกันหลายวิธีสมาธิแบ่งเป็นสมถะและวิปัสสนา
    สมถะนั้นมี 40 วิธี แต่วิปัสสนา เป็นเพียงกำหนด รูป-นาม และสิ่งที่กำลังปรากฏ ซึ่งตัวเราเองนั้นมีประสบการณ์ในการปฏิบัติมามากซึ่งถ้ามีอารมณ์
    ของกรรมฐานในการปฏิบัติสามารถปรึกษาสอบถามได้ตลอดเวลา
    จะรับสอบอารมณ์กรรมฐานเท่านั้น และจะรับปรึกษาเรื่องธรรมะเท่านั้น

    ซึ่งถ้าจะปฏิบัติให้ได้นิพพานจริงๆนั้นต้องวิปัสสนากรรมฐานเท่านั้น
    ซึ่งในชีวิตประจำวันนั้นสามารถปฏิบัติธรรมได้ตลอดเวลา คือ
    การกำหนดอิริยาบทย่อยนั่นเอง
    ขอยกตัวอย่าง เช่น
    ในการเดินไปทำงาน ขณะเดินนั้นก็กำหนดสติว่า ขวา-ซ้าย พร้อมกับ
    เอาสติไปไว้ที่เท้าพร้อมระลึกรู้อยู่ในขณะที่กำหนด

    ถ้าตอนเรียนหนังสอนตอนที่อาจารย์สอนก็กำหนดว่า ฟังหนอ

    ถ้าโกรธก็กำหนดว่าโกรธหนอ

    ถ้าปั่นจักรยานก็อาจจะกำหนด ขวา-ซ้าย หรือ ถีบหนอก็ได้

    ซึ่งถ้าว่าตามจริงแล้วถ้าปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานนั้น
    แม้แค่เซี่ยววินาทีเดียวก็ได้บุญเยอะกว่าการบวช

    แม้จะบวชมาล้านๆชาติก็สู้วิปัสสนาแค่เซี่ยววินาทีไม่ได้

    แม้ให้ทานมาล้านๆชาติก็สู้วิปัสสนาเซี่ยววินาทีไม่ได้

    แม้แต่การปฏิบัติสมถะมาล้านๆชาติก็สู้วิปัสสนาแค่เซี่ยววินาทีไม่ได้

    ขอไล่การทำความดีที่ได้บุญเยอะบุญน้อยให้ดู

    การทำทาน<การรักษาศีลหรือบวช<ปฏิบัติสมถะ<วิปัสสนากรรมฐานบุญสูงสุดในบรรดาการทำความดีทั้งหลาย

    ในขณะปฏิบัติอย่าลืมว่าเราสามารถปฏิบัติธรรมได้ตลอดเวลา
    แม้ขณะรับประทานอาหารก็ทำได้คือ ยกไปจับ(ช้อน)-ยกมาใส่-อ้า(ปาก)-อม-รสหนอ-หุบ(ปาก)-ปล่อย(ช้อน)-เคียวหนอ-รสหนอ-กลืน

    ถ้าการปฏิบัติลืมกำหนดก็กำหนดว่า-เผลอหนอ
    ถ้าคิดก็กำหนดว่าคิดหนอ

    ถ้าการกำหนดอย่าที่บอกยากไปก็ค่อยๆฝึกไป
    ถ้ามันยากจะแนะนำให้คือ กำหนดอย่างเดียวก่อนในอายตนะ 6
    แบ่งเป็น ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
    สมมุติว่า ในขณะที่ได้ยินเสียงก็กำหนดว่า ยินหนอโดยไม่ต้องกำหนด
    ทางทวารอื่นเลย ถ้าคิดว่าการกำหนดยินหนอชินแล้วค่อยเพื่อไปเป็น2 อย่าง
    คือกำหนดยินหนอ และเพิ่มเห็นหนอซึ่งกำลังปรากฏทางตา เมื่อชินแล้วก็เพิ่มไปอีก จนครบหก การปฏิบัตินั้นอาจจะเอาอายตนะใดก่อนก็ได้ไม่จำเป็นต้อง
    เอายินหนอขึ้นก่อน
    ขอให้ทุกท่านที่อ่านปฏิบติตามที่บอกไปซึ่งเป็นการปฏิบัติที่ถูกต้องตามหลักพระพุทธศาสนา
     
  2. toangsg

    toangsg สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +2
    ผู้เจริญวิปัสสนากรรมฐานสามารถล้างปมทางจิตได้3ประการปมทางกาม ปมในทางเห็นแก่ตัว ปมในทางเห็นแก่พวก(sexual,Ego,and Herd complex)ออกจากจิตของตนได้โดยเด็ดขาด
     
  3. กะละมัง

    กะละมัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    192
    ค่าพลัง:
    +150
    เห็นด้วยกับ อ.สุจินต์ ค่ะ

    อนุโมทนาอย่างแรงค่ะ
    อนุโมทนาอย่างแรงค่ะ
    อนุโมทนาอย่างแรงค่ะ
    อนุโมทนาอย่างแรงค่ะ
    อนุโมทนาอย่างแรงค่ะ
    อนุโมทนาอย่างแรงค่ะ
    อนุโมทนาอย่างแรงค่ะ

    [​IMG]

    .
    .
    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤษภาคม 2009
  4. nanakorn

    nanakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +155
    อนุโมทนา
    เจริญสติในชีวิตประจำวัน คือสมาธิชั้นดี สาธุ
     
  5. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    ท่านแน่ใจแล้วเหรอว่าคำว่า.....หนอ....เป็นวิปัสสนา......

    ขอคำตอบที่แท้จริงของสมถะ กับ วิปัสสนาหน่อยครับ.....

    ผมว่าอาจยังไม่มีความเข้าใจที่แน่ชัด...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤษภาคม 2009
  6. รสมน

    รสมน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,451
    ค่าพลัง:
    +2,047
    ขอตอบว่า คนเรานั้นมีจริตต่างกัน แบ่งเป็นจริต 6 ประเภท เช่นโมหะ
    โทสะ เป็นต้น จึงเรียกว่าจริต 6 จริตนั้นใช้ในทางสมถะ คือต้องแยกประเภท
    ว่าคนจริตเช่นนี้เหมาะสำหรับ สมถะประเภทนั้นประเภทนี้
    แต่ว่าวิปัสสนานั้นใช้ได้กับบุคคลทุกจริตและเป็นทางเดียวที่จะบรรลุนิพพานได้
    สมถะถึงแม้ว่าเป็นสมาธิก็จริงแต่ว่าแค่ทำให้จิตสงบเท่านั้นโดยการข่มอำนาจของฌานซึ่งจะเป็นตัวข่มกิเลสเอาไว้ เหมือนก้อนหินกดทับหญ้า เมื่อเอา
    หินออกไปหญ้าก็จะขึ้นมาได้อีก ฉันใดก็ฉันนั้น กิเลสเปรียบเสมือนหญ้า
    ก้อนหินเปรียบเสมือนฌาน แต่วิปัสสนาเป็นการกำจัดกิเลสโดยจะกำจัดกิเลสให้
    สิ้นไปเหมือนหญ้าที่ถูกถอนทั้งราก
     
  7. nanakorn

    nanakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +155
    ขอเรียนถามคุณรสมน เกี่ยวกับวิหารทานค่ะ
    ไม่ค่อยทราบรายละเอียด เลยอยากขอรายละเอียดสักหน่อย เกี่ยวเนื่องกับกระทู้ที่แล้ว
    เรื่องเกี่ยวกับการให้ทาน อนุโมทนา
     
  8. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    ช่วงระหว่างรอ ท่าน รสมนก็ฟังเพลงที่จะร้องนี้ก่อนนะเพลงนี้บอกว่า วิหารทาน ไม่จำเป็นต้องเป็นวัดวาอารามใดๆเสมอไป ยังรวมไปถึง อาคาร ที่เป็นสาธารณะ ประโยชน์ ป้ายรถเมล์ ห้องน้ำสาธารณะ โรงเรียน โรงพยาบาล ศาลาริมทาง เป็นต้น การบริจากเงินสร้างสิ่งเหล่านี้ ย่อมเรียกได้ว่า สร้างวิหารทานเช่นกัน..นะจ๊ะ
     
  9. nanakorn

    nanakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +155
    จ้า
     
  10. visutto

    visutto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,541
    ค่าพลัง:
    +1,167
    วิปัสสนาเป็นการกำจัดกิเลส
    ต้องเกิดจากปัญญาที่มีสมาธิเป็นบาทฐาน จึงจะเป็นปัญญาที่มีกำลัง และสติที่ตั้งมั่น ....
    ถ้าขาดอย่างหนึ่ง..อย่างใด
    สติ..สมาธิ..ปัญญา..เป็นแค่วิปัสสนึก..เท่านั้น
     
  11. โชเต

    โชเต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    285
    ค่าพลัง:
    +331
    ถ้าอย่างงั้น ก็บวชเรียนไปพร้อม ๆ กับนั่งวิปัสนากรรมฐานเลยซิครับ
    ยังไง ๆ ได้บุญมากเหมือนกัน
     
  12. ..กลับตัวกลับใจ..

    ..กลับตัวกลับใจ.. Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    325
    ค่าพลัง:
    +96
    ...แล้วเราปฏิบัติธรรม..เพื่อสิ่งใดกันหนอ..

    ...หลุดพ้น..ปล่อยวาง.. ..เอาบุญ..เอากุศล..
     
  13. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    :'(

    ใคร ง่ะ

    [​IMG]
     
  14. matakalee

    matakalee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    160
    ค่าพลัง:
    +367
    อนุโมทนาสาธุคะ 1 หนอ ได้ 1 บุญ จริงๆ คะ ได้ครบ ทั้ง ศีล สมาธิ และปัญญา ในการกำหนดครั้งหนึ่ง ได้ครบทั้ง 3 อย่าง เช่น ขวาย่างหนอ กำหนดทันที(ได้ปัจจุบันธรรม ) ได้ศีลก็คือ เท้าของเราก้าวออกไปจริง ๆ เราไม่ได้โกหก ได้สมาธิ รับรู้ถึงอาการของเท้าที่ย่างออกไป ได้ปัญญา เท้าที่จะสัมผัสพื้นจะสัมผัสโดนอะไร ควรจะเหยีบบย่ำลงไปหรือไม่ ถ้ามีตะปูอยู่ เราก็จะรู้ได้ทันที คำว่าหนอนั้น เป็นตัวรั้งสติได้ดีมากคะ
     
  15. รสมน

    รสมน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,451
    ค่าพลัง:
    +2,047
    ขออธิบายให้คุณ tro เข้าใจว่าฌานนั้นแค่ข่มกิเลสไม่ให้เกิดไม่ใช่กำจัดกิเลส
    กิเลสก็มีอยู่ถึงได้ฌานถ้าฌานเสื่อมกิเลสที่ถูกข่มเอาไว้ก็จะมีขึ้นมาอีกนี้ไม่ใช่ทางพ้นจากทุกข์เลย คุณลองอ่านกระทู้ เส้นทางการเดินทางหลังจากความตายที่ คุณรสมน ตั้งไว้สิ
    แล้วคิดให้ดีว่าจริงหรือไม่
     
  16. รสมน

    รสมน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,451
    ค่าพลัง:
    +2,047
    ขออนุโมทนาด้วยจากการที่ใฝ่รู้ในธรรม และขอชมเชยที่ขยันศึกษาธรรมะมาตลอด
    ขอตอบว่าเราทุกคนนั้น ที่ยังไม่บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์นั้น ได้กล่าวไว้ว่า
    ยังมีนิวรณ์ 5 อยู่ ซึ่งเป็นกิเลสที่ฝังลึกอยู่ในจิตใจ ถ้าปฏิบัติสมถะถ้าได้ฌาน
    ตัวฌานที่ได้นี้จะข่มกิเลสเอาไว้ไม่ให้ปรากฏออกมา
    การเสื่อมของฌานจะมีได้เหมือนกันเช่น เคยมีเรื่องเล่าว่า
    มีเณรองค์หนึ่งได้ฌานแล้วสามารถเหาะได้ ดำดินได้
    แต่ไม่เชื่ออาจารย์ที่แนะนำให้ปฏิบัติวิปัสสนาดีกว่า
    ในการที่ไม่เชื่อคำแนะนำของอาจารย์ที่มีประสบการณ์มาก่อน
    มีวันหนึ่งได้เหาะไปกลางป่าเห็นสาวสวย ก็เลยชอบ
    เกิดความรักขึ้นมาฌานที่ได้ทำมาก็เสื่อม
    และไม่สามารถ เหาะได้ ดำดินได้อีก เพราะฌานเสื่อม
     
  17. Premsuda (May)

    Premsuda (May) เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +646
    เมย์เอามาจาก
    http://palungjit.org/threads/ทางเดินของ-เมื่อตายไปจะไปไหน-สามารถเลือกได้ด้วยตนเอง.188589/

    รสมน นี่คือ อ.สุจินต์ ปลอมตัวมาใช่ป่ะคะ

    อนุโมทนาค่ะ




    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤษภาคม 2009
  18. รสมน

    รสมน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,451
    ค่าพลัง:
    +2,047
    ขอตอบคุณ เชโตว่า
    ถ้าบวชไปแล้วถ้าทำผิดศีลก็จะเป็นบาปมากตามจำนวนศีลที่รักษา
    ถ้ารักษาศีลได้ดีก็จะมีอานสงค์มากตามลำดับ
    เช่นพระที่ปฏิบัติดีจะได้บุญเยอะ
    ซึ่งการบวชและปฏิบัติธรรมนั้นเป็นสิ่งที่ดีน่าสนับสนุนและควรปฏิบัติ
    ขออนุโมทนาในการศึกษาธรรมใฝ่รู้ในธรรม
     
  19. Premsuda (May)

    Premsuda (May) เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +646
    เมย์ขอถาม รสมน (อ.สุจินต์)

    ถามว่า
    เวลาเมย์ตามดูจิต เช่น เวลาเดินก็มีสติที่การก้าวขาทั้ง 2 ข้าง
    เวลาเกิด โลภะ โทสะ โมหะ ก็ตามรู้ว่ามันกำลังเกิด


    ทีนี้แล้วเมย์จะมาพิจารณา รูป-นาม ว่าเป็นไปตามกฏพระไตรลักษณ์ ตอนไหนอ่าค่ะ ยังไม่เข้าใจค่ะ





    อนุโมทนาอย่างแรงค่ะ
    อนุโมทนาอย่างแรงค่ะ
    อนุโมทนาอย่างแรงค่ะ
    อนุโมทนาอย่างแรงค่ะ
    อนุโมทนาอย่างแรงค่ะ
    อนุโมทนาอย่างแรงค่ะ
    อนุโมทนาอย่างแรงค่ะ

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    .
    .
    .
     
  20. รสมน

    รสมน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,451
    ค่าพลัง:
    +2,047
    ขอตอบคุณเมล์ว่าเดี่ยวจะให้สาระทาง อีเมล์ กับคุณ เมล์ ภายในวันนี้ ขอนุโมทนา
    ในการศึกษาธรรมะครั้งนี้
     

แชร์หน้านี้

Loading...