วิธีเลิกหลงใหลกับคนที่คิดว่าเป็นคู่แท้

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย ZeGiNe_SiN, 14 กรกฎาคม 2009.

  1. ZeGiNe_SiN

    ZeGiNe_SiN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    164
    ค่าพลัง:
    +270
    [​IMG]


    ถาม – แฟนดิฉันเคยชวนให้มั่นใจว่าเราเป็นคู่แท้แต่ปางก่อน พูดอย่างโน้นพูดอย่างนี้จนกระทั่งดิฉันปักใจเชื่อตามกัน และยอมให้เขาทุกอย่าง แต่ในที่สุดหลังจากคบกันมาระยะหนึ่งเขาก็จะขอแยกจากไป ดิฉันรักเขามาก อยากได้เป็นคู่ชีวิตจริงๆ จะมีวิธีทำบุญแบบใดไปดลใจให้เขากลับมาหาเราได้ไหมคะ?

    ตอบ
    ผมว่าทำบุญอธิษฐานขอให้ตาสว่างเถอะครับ เวลาโดนความพิศวาสครอบงำ เราจะนึกว่านี่แหละใช่ที่สุด รักเขาไม่มีทางถอน ฉะนั้นความลุ่มหลงพิศวาสจึงเปรียบเหมือนเมฆหมอกมืดมัว ทำให้เราไม่สามารถเห็นถนัดว่าเขาดีเลวอย่างไร ต่อเมื่อมีแสงสว่างฉายสาดมาชำแรก เมฆหมอกจึงสลายตัวไป เปิดให้เห็นทัศนวิสัยปกติ ซึ่งคุณอาจรู้สึกไปอีกแบบหนึ่งอย่างสิ้นเชิง ที่สุดแล้วเขาคือคนแปลกหน้าคนหนึ่ง ดีตรงไหน เลวประมาณใด คุ้มหรือไม่คุ้มกับการเสียเวลาลงทุนลงแรงให้

    หากทำบุญแล้วคิดอยากให้เขากลับมา ก็เหมือนใช้บุญแทนเสน่ห์ยาแฝด อันนั้นแหละจะยิ่งผูกจิตของคุณให้แนบกับความหลงอย่างแน่นหนา ในที่สุดจะแก้ยากเข้าไปอีกครับ เพราะบุญเปรียบเหมือนยาหรืออาหารบำรุงกำลัง คุณกินเข้าไปก็เพิ่มเรี่ยวแรงทุกครั้ง แต่หากตั้งเข็มไว้ผิด แทนที่จะใช้กำลังวังชาหาทางออกจากป่า กลับวิ่งหลงเข้าป่ารก คุณก็จะพบความทึบตันหนักขึ้นเรื่อยๆ คราวนี้พอหมดกำลังงานจากยาอาหารก็จอดสนิทเลยครับ กระดุกกระดิกออกจากป่าไม่ไหวแน่แล้ว
    เรื่องภพๆชาติๆนี้นะครับ พอเราโดนใครกล่อม แล้วยอมร่วมสะกดจิตตัวเองไปกับเขา เฝ้าบอกตัวเองย้ำๆอยู่ทุกวันว่าเราเป็นคู่แท้ เป็นเนื้อคู่ เป็นคู่บุญที่ร่วมกันมา หอบหิ้วกันมานับชาติไม่ถ้วน ในที่สุดจะเกิดพลังโมหะ บีบให้ปักใจเชื่อตามนั้นเป็นจริงเป็นจัง แล้วคนเราพอหลงยึดหลงเชื่อด้วยอำนาจความพิศวาส ก็ยากมากที่จะปล่อยวางลงด้วยอำนาจปัญญา

    การจะเชื่อว่าใครเป็นคู่ของเราจริงๆหรือเปล่า ก็น่าจะถามตัวเองได้ครับว่าโดยรวมทั้งหมด การคบหากันระหว่างเรากับเขาเป็นสุขหรือเป็นทุกข์ และที่สำคัญคือคบแล้วชวนกันมีจิตเป็นบุญหรือเป็นบาปโดยมาก เพราะถ้าเคยร่วมบุญกันมาจริง บุญเก่าย่อมนำคู่บุญมาต่อยอดความสุขความเจริญยิ่งๆขึ้นไป ไม่ใช่เพื่อให้ฝ่ายหนึ่งแหนงหน่าย และอีกฝ่ายหนึ่งทนทุกข์อยู่อย่างเดียวดาย

    หากอยู่กับเขาเพื่อเป็นสุขในเชิงกามแป๊บๆแล้วโดนเบื่อ ไม่เกิดความเจริญก้าวหน้าอันเป็นบุญกุศล ไม่มีความสว่างทางจิตเอาเลย ก็ขอให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเขาไม่ใช่ ‘คู่บุญ’ หรอกครับ แค่เป็นคู่เวรที่ตามมาเอาคืนมากกว่า
    การถามว่าใช่เนื้อคู่หรือไม่นั้น รังแต่จะทำให้สับสนและไม่ยอมรับความจริง ประสบการณ์เทือกนี้น่าจะชวนให้คุณเห็นเสียทีครับ ว่าปุถุชนคนหนึ่งพูดอะไรอย่างที่ใจอยาก ไม่ได้พูดอย่างที่ใจรู้ ตอนเขาอยากได้เราเขาก็บอกว่าคงเคยร่วมพนมมือต่อหน้าเจดีย์ทอง อธิษฐานขอเป็นคู่ชีวิตร่วมกันไปทุกภพทุกชาติ แต่ตอนโกรธกันหรือเวลาเขาอยากจากไป ก็อาจหาว่าเราเคยจงเกลียดจงชัง สาปแช่งและขอผูกเวรกันต่อหน้าจอมปลวก ขอจองล้างจองผลาญเป็นคู่อาฆาตไปชั่วกัปชั่วกัลป์
    นี่แหละอำนาจความไม่รู้ของมนุษย์ ผลักดันให้พูดอย่างไรก็ได้ทั้งนั้น ความเชื่อเรื่องผูกใจข้ามภพข้ามชาติกลายเป็นเพียงเครื่องมือสนองราคะหรือโทสะเป็นคราวๆเท่านั้น ภพชาติและกรรมสัมพันธ์ถึงได้เป็นเรื่องฟั่นเฝือ เห็นจริงเห็นเท็จคละกันมั่วไปหมด

    สำหรับการทำบุญเพื่อให้ตาสว่าง ผมขอแนะแนวทางง่ายๆไม่ต้องเสียเงินเสียทอง คุณแค่ไปนั่งหน้าพระปฏิมาที่ไหนสักแห่ง ในบ้านหรือที่วัดก็ได้ พนมมือแล้วคิดในใจหรือเอ่ยปากเปล่งเสียงชัดถ้อยชัดคำ อ้างความจริงอันประเสริฐ เช่น พระพุทธเจ้าทรงทำลายความหลงผิดได้เด็ดขาดแล้ว ทรงเป็นผู้บริสุทธิ์ เป็นพระอรหันต์แล้ว ข้าพระพุทธเจ้าขอนอบน้อมด้วยความเลื่อมใส และขออำนาจความเลื่อมใสนี้ จงเป็นแสงสว่าง ทำให้ข้าพระพุทธเจ้าตาสว่างในทุกเรื่องที่ยังหลงผิดมัวเมาอยู่ด้วยเถิด

    เอาประมาณนี้ หรือจำคำสำคัญๆด้วยความเข้าใจไว้ก็พอครับ นั่นคือพระพุทธเจ้าไม่ทรงหลงผิดแล้ว เมื่อเราเลื่อมใสในท่าน ก็ย่อมเกิดโสมนัสขึ้นมาปรุงแต่งจิตเป็นมหากุศลชั่วขณะหนึ่ง มหากุศลจิตมีความสามารถซึมซับพลังของผู้ที่คุณศรัทธา หมายความว่าเมื่อคุณศรัทธาพระปัญญาของพระพุทธเจ้า ก็เท่ากับได้ส่วนแห่งแสงปัญญาของท่านมาฟรีๆ ยิ่งถ้าอธิษฐานแบบจำเพาะเจาะจงสำทับลงไป ว่าขอให้เลิกหลงเลิกงมงายอะไรผิดๆ ในที่สุดก็ต้องได้ผลตามแรงอธิษฐาน

    พระพุทธคุณเป็นของไม่มีโทษ ตื่นเช้าและก่อนนอนลอง ‘ทำบุญ’ ตามวิธีที่ผมว่านี้ ขอรับรองผลภายในสามวันเจ็ดวันครับ อย่างช้าวันที่เจ็ดความงมงายในรักจะคลายฤทธิ์ หรือถึงขั้นหมดพิษสงลงสนิท คุณจะตื่นเช้าขึ้นมาด้วยจิตใจที่โปร่งโล่ง หูตาสว่าง และถามตัวเองว่าที่ผ่านมาทำไมต้องไปมัวหลงเขาไม่เลิก คำตอบก็คือเพราะอำนาจมนต์ดำแห่งความพิศวาสเสื่อมลงแล้ว ปล่อยให้ใจของคุณเป็นอิสระแล้ว!

    ที่มา
    ดังตฤณ วิสัชนา
    http://blog.hunsa.com/papamama/blog/25204
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 15 กรกฎาคม 2009
  2. BeRespectful

    BeRespectful สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +9
    ความคิดเห็นส่วนตัวนะค่ะ ก่อนอื่นต้องมีสติค่ะ
    หากคนๆหนึ่งสามารถทำให้ทุกๆคนคิดว่าเป็นคู่แท้ได้นั้นก็หมายถึงเค้าต้องมีศีลที่สมบูรณ์มาก่อน ลองรักษาศีล ๕ ดูค่ะ ง่ายๆเลย ^^
     
  3. หญิงจัน

    หญิงจัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    962
    ค่าพลัง:
    +2,655
    จริงด้วยค่ะ อนุโมทนาสาธุค่ะ แรก ๆ เราอาจจะเสียใจบ้าง แต่ถ้าเรานึกย้อนได้ว่าตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันเขาสร้าง ความสุข หรือ ความทุกข์ ให้กับเราคุณลองชั่งน้ำหนักดู ถ้าความทุกข์มันมากกว่า คุณก็ปล่อยเขาไปเถอะค่ะ ถ้าอยู่แล้วทุกข์เราจะเอาเขามาทำร้าย เบียดเบียนเราทำไม...จริงไหมค่ะ
     
  4. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,468
  5. honest

    honest สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +5
    จะหยุดนิ่งได้ ใจต้องทิ้งทุกสิ่งหมดเลย
    ต้องไม่ผูกพันกับสิ่งใดทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ สิ่งของ หรือเรื่องราวอะไรต่าง ๆ ต้องไม่ผูกพันเลย
     
  6. เล่งอ๋อง

    เล่งอ๋อง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    236
    ค่าพลัง:
    +147
    คนที่หลงอยากมีคู่ มักจะคิดอย่างงี้อะ
     
  7. donjudo077

    donjudo077 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2005
    โพสต์:
    4,719
    ค่าพลัง:
    +14,438
    อ่านแล้วได้แง่คิดดีๆมากครับ
     
  8. ZeGiNe_SiN

    ZeGiNe_SiN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    164
    ค่าพลัง:
    +270
    ขอบคุณค่ะ

    ขอบคุณค่ะพี่ตาปลา ที่มาเยี่ยมกระทู้ซินนะคะ
     
  9. Atsadong

    Atsadong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    3,187
    ค่าพลัง:
    +2,751
    ทุกวันนี้ผมยังไม่แน่ใจเลยครับ ว่าโดนสะกดจิตทุกวัน หรือว่า รัก จริงๆ ครับ แต่เท่าที่ทราบ ตั้งแต่แฟนผมเข้ามาในชีวิต ผมรู้สึกอบอุ่น และปลอดภัย รวมทั้งมีพลังด้านบวกเพิ่มขึ้น ผมว่าผมน่าจะเจอรักแท้แล้วครับ แต่ไม่ชัวร์แค่นั้นเอง
     

แชร์หน้านี้

Loading...