ไม่เคยฝึกมโนมยิทธิ แต่สิ่งที่ตัวเองสื่อได้ คล้ายๆจะมาทางด้านนี้

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย Me, myself, 3 มีนาคม 2009.

  1. jajamicky

    jajamicky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +768
    สวัสดีค่ะกัลยาณมิตรทุกท่าน หลังจากที่เราเริ่มนั่งสมาธิไม่นาน เราก็เห็นอะไรแปลกๆขณะนั่งสมาธิอย่างที่เราเคยเล่าให้ฟังเมื่อ 2 อาทิตย์ที่แล้ว แต่เราจะเห็นเฉพาะเวลาเราอยู่ในสมาธิ

    แต่เมื่อคืนที่ผ่านมา เราฝันค่ะ เราฝันเห็นท่านยมบาลมาบอกว่า

    "เราคือพญายมราช อีกไม่นานวิญญาณของเจ้าจะกระเด็นหลุดออกจากร่างนี้แล้ว ถ้าเจ้ายังอยากมีชีวิตอยู่ต่อไป เจ้าต้องชวนคนมาทำความดีให้เยอะที่สุด เจ้าจึงจะสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้"

    บางคนจะบอกว่า มันเป็นเพียงแค่ความฝันก็ได้ แต่เสียงท่านยมบาลดังกึกก้องมากซะจนเหมือนเป็นเรื่องจริง เหมือนเรามีสติสามารถควบคุมตัวเองได้ตอนที่เราฝัน บอกไม่ถูกอ่ะ เวลาฝันทุกทีจะฝันไปเรื่อย ควบคุมตัวเองไม่ได้ แค่มองเฉยๆ แต่ครั้งนี้เหมือนเรามีความรู้สึกและมีความคิดจริงๆด้วยอ่ะ

    ถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง เราก็ไม่รู้ว่าเราจะไปชวนใครทำความดี พ่อแม่เราก็ปฏิบัติธรรมอยู่แล้ว ส่วนเพื่อนๆเรามันไม่สนใจเลยค่ะ ถึงชวนยังไงก็ไม่สนใจ เราเลยมืดแปดด้านเลยว่าจะไปชวนใคร เราก็ไม่ได้รักตัวกลัวตายหรอกนะ แต่เราแค่เป็นห่วงพ่อแม่เรา เราอยากตายหลังพ่อแม่เราเท่านั้นเอง ถ้าอีก 20-30ปี หมดอายุขัยพ่อแม่เรา เราก็ไม่ห่วงชีวิตตัวเองแล้วล่ะ

    เคยมีคนที่นั่งสมาธิเก่งๆหลายคนเตือนว่าให้ระวัง ช่วงอายุตอน 31 ไว้จะมีเคราะห์ ตอนนี้เรา 26 เราเลยไม่แน่ใจว่าที่ท่านยมบาลบอกว่า "อีกไม่นาน" หมายถึง อีก 5 ปี หรือเร็วกว่านั้น

    เราเคยฝันในทำนองนี้ครั้งนึง ช่วงก่อนที่เราจะมาปฏิบัติ เราฝันเห็นพระพุทธเจ้า ท่านบอกว่า "อยากให้เราปฏิบัติธรรม ถ้าเราปฏิบัติธรรม เราจะสมหวังทุกอย่าง" หลังจากนั้นไม่นาน เราก็ตามแม่มาปฏิบัติธรรมสายหลวงพ่อฤาษี

    แต่ที่กลุ้มใจอีกเรื่องคือ เราจะตกนรกหรือนี่ ท่านยมบาลถึงเป็นผู้มาบอก ทั้งๆที่เราก็ตั้งจิตอธิษฐานขอไปพระนิพพานในชาติปัจจุบัน แล้วเราไปทำกรรมอะไร เราถึงตกนรก เฮ้อ กลุ้มใจ
     
  2. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    อย่าคิดมากค่ะ ถึงท่านยมบาลจะมาบอกก็ไม่ใช่ว่าคุณต้องตกนรกนี่คะ จริงๆท่านใจดีมากนะคะ เพราะท่านจะคอยคัดกรองคนให้ไปสวรรค์ก่อน ท่านไม่ค่อยส่งคนไปลงนรกหรอกค่ะ ถ้าคนๆนั้นไม่ทำผิดชนิดร้ายแรงแล้วลงนรกไปเลยไปผ่านท่าน

    การชวนคนให้ทำดี มันก็ไม่ใช่ว่าเราจะต้องตั้งหน้าตั้งตาไปพูดไปบอกทุกคนหรอกค่ะ บางคนถ้าไม่เคยทำบุญร่วมกันมาหรือไม่เคยมีกรรมเกี่ยวเนื่องกันมา พูดให้ตายก็ไม่เชื่อหรอกค่ะ อยู่ที่วาระกรรมด้วยค่ะ ก็แค่เราปฏิบัติตนของเราให้ดี หากว่ามีโอกาสก็ชักชวนผู้อื่นให้ร่วมทำบุญทำกุศลด้วยอันนั้นก็จะเป็นสิ่งที่ดีค่ะ แต่อย่าไปกังวลมาก

    แล้วก็อย่าไปกังวลเรื่องที่จะมีอันเป็นไปตามที่ท่านว่ามา คิดในมุมกลับ ดีซะอีกที่ท่านมาเตือน แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณแล้วละค่ะว่าจะปฏิบัติตนยังไง ถ้าเชื่อมั่นในพระรัตนตรัยก็จงดำเนินรอยตามคำสั่งสอนของพระองค์ นั่นก็คือ "จงอย่าประมาท" ค่ะ
     
  3. ต้องตา

    ต้องตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    213
    ค่าพลัง:
    +1,282
    เอาบุญมาฝากครับวันนี้ทำบุญตักบาตรตอนเช้า ผมขอให้ผลบุญนี้จงบังเกิดแก่ท่านกัลยาณมิตรทุกท่าน ขอให้ทุกท่านปฏิบัติธรรมด้วยความสะดวก มีความเจริญก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรมอย่างรวดเร็ว และสมปราถนาในสิ่งที่ต้องการนะครับ
     
  4. jajamicky

    jajamicky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +768
    ขอบคุณ พี่ Me , Myself มากค่ะ สบายใจขึ้นเยอะมากๆเลยค่ะ ขอบคุณจริงๆนะคะ _/\_
     
  5. paitoon01

    paitoon01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,480
    ค่าพลัง:
    +4,160
    เห็นด้วยครับ


    ขอสนับสนุน 1 เสียงครับ
    เช่นไปร่วมทำบุญในโอกาสต่าง ๆ ของวัดท่าซุงหรือศูนย์พุทธศรัทธา
    สำหรับศูนย์พุทธศรัทธานี่ผมยังไม่มีโอกาสได้ไปเลยครับ
    น่าจัดไปร่วมกันในหมู่สมาชิกกระทู้นี้นะครับ
     
  6. paitoon01

    paitoon01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,480
    ค่าพลัง:
    +4,160
    คุณเข้ามาโพสต์ในกระทู้นี้บ่อย ๆ แนะนำเรื่องธรรมะต่าง ๆ ก็เท่ากับว่าคุณได้ชักชวนคนทำความดีแล้วครับ
     
  7. jajamicky

    jajamicky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +768
    ขอบคุณมากๆค่ะ จริงด้วยเนอะ ลืมคิดเรื่องนี้ไปเลย
    ขอโมทนากับทุกๆท่านด้วยอย่างใจจริงค่ะ
     
  8. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0

    อนุโมทนาค่ะ ที่คุณ paitoon กล่าวมานั้นถูกต้องแล้วค่ะ
     
  9. ต้องตา

    ต้องตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    213
    ค่าพลัง:
    +1,282
    ถึงคุณ jajamicky ครับท่านก็เลยบอกว่าไปหาปลามาปล่อย เท่านี้ก็ใช้ได้ นี่เป็นการต่ออายุ ถ้าจะอยู่ทรงต่อไปแต่หากจะเอาดีวิเศษละก็ ถวายไตรจีวรกับพระสงฆ์แล้วก็พระสักองค์หนึ่ง อันนี้เรียกว่าเป็นการประดับบารมีของเราให้เพิ่มขึ้น เพิ่นพูนบารมี เพียงแค่ต่ออายุ เพียงแต่ปล่อยปลา 1 ตัว ก็มีอายุ 1 ปี การต่ออายุนี้ก็เรียกว่าต่อได้พอสมควรนะ จะต่อเป็น 100 เป็น 1,000 ปีนะไม่ได้ นี่คือวิธีที่หลวงปูปานท่านแนะนำให้หลวงพ่อฤาษีลิงดำในการต่ออายุนะครับพอดีผมอ่านเจอเมื่อกี้นี้นะครับ ลองไปทำดูนะครับและขอให้การปฏิบัติธรรมของท่านเป็นไปด้วยความสะดวกและก้าวหน้าอย่างรวดเร็วนะครับ
     
  10. jajamicky

    jajamicky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +768
    โอ้ว ขอบพระคุณมากๆค่ะคุณต้องตา

    ขอบคุณกัลยาณมิตรทุกๆท่านจริงๆค่ะ กระทู้นี้อบอุ่นมากๆเลย จะนำคำแนะนำของทุกๆท่านไปปฏิบัติอย่างเต็มใจและยินดีค่ะ ขอโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยค่ะ
     
  11. nahathai

    nahathai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2009
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +2,393
    กระแสความอบอุ่น แผ่ซ่านรู้สึกได้เลย

    พออ่านความกังวลของคุณjajamiky ก็นึกไว้ในใจว่าเดี๋ยว อาจารย์me/myself มาแน่นอน หัวเรือใหญ่ของเราไม่ทิ้งพวกเราค่ะ คอยตามดูข่าวคราวของพวกเราทุกขณะจิตที่คิดได้ ขอให้คุณ Jajamiky ทำใจให้สบายและปฏิบัติดีต่อไปนะคะ อย่างอาจารย์ว่าไว้่ ความดีจะเป็นเกราะให้คุณอย่างดี เอาใจช่วยค่ะ
     
  12. wara43

    wara43 ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2006
    โพสต์:
    9,108
    ค่าพลัง:
    +16,130
    วันนี้วันพระ ไปทำบุญ ใส่บาตรที่วัดใหม่บางปลากด มาครับ
    ก็ขอเชิญ ทุกท่านอนุโมทนาสาธุบุญร่วมกันครับ

    หากท่านคิดหวังสิ่งใด ก็ให้สมหวังตามจิตปรารถนาทุกประการครับ สาธุ...
     
  13. Doughnut

    Doughnut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    697
    ค่าพลัง:
    +15,615
    ขออนุญาต กล่าวสวัสดี สี่ยอดกุมาร และกัลยาณมิตรทุกท่านค่ะ

    ได้เข้ามาพบกระทู้นี้ เมื่อสัปดาห์ก่อนโดยบังเอิญ ติดตามอ่านมาตั้งแต่ต้น ขอบอกว่า อึ้ง.. ในสิ่งที่แต่ละท่านได้ประสบมา (โดยเฉพาะ 3 ท่าน ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ)

    และทึ่งในศรัทธาที่มีต่อพระศาสดา และองค์พระรัตนไตร หายากมากนะคะ _/\_ ขอกล่าวอนุโมทนาอีกครั้งค่ะ ไปแอบกระซิบคุณ Me,Myself ตั้งแต่ช่วงแรกๆ ที่เข้ามาอ่าน โดยที่ไม่ทราบความคืบหน้าของการปฏิบัติ ว่ากำลังเข้มข้น และได้คุยกับน้องอ้อย ยังหวั่นๆ ว่าจะตามติดสุดท้ายของกระทู้นี้ในกี่วันหนอ

    น้องอ้อยบอกว่า 5 วันทันไหมพี่..

    ตั้งใจว่า หากอ่านไม่จบ จะไม่ขอโพส วันนี้วันดีค่ะ วันพระ เลยเพลมานิดเดียวเอง อ่านจบพอดี(เจ้านายไม่อยู่ หนูระเริง..ได้ ฮ่า..)

    ขออนุญาต ทำตามเจตนาที่ตั้งไว้นะคะ ขอเล่าประสบการณ์ของตัวเองให้กัลยาณมิตรทราบค่ะ

    ไม่รู้เหมือนกันว่าบาปไปถึงไหนแล้ว ความคิดในสมัยก่อนที่เคยเห็นคนนุ่งขาวห่มขาว เข้าวัดฟังธรรมจะคิดว่าเป็นผู้สูงอายุ ที่ว่างจากงานประจำ มีเวลาว่างเหลือเฟือ ต่อมาเริ่มเห็นว่ามีคนหนุ่มสาวเข้าปฏิบัติธรรมเยอะขึ้น ยังแปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้น และมีเหตุจูงใจอะไรให้ไปปฏิบัติธรรม

    ในครอบครัว ยายและแม่จะทำบุญสุนทาน ทั้งการตักบาตรพระในตอนเช้า เข้าวัดทำบุญถวายอาหารเพลตามเวลาสะดวก จากการที่ใส่บาตรพระทุกเช้า ทำให้ได้เห็นพฤติกรรมของพระสงฆ์ ซึ่งพวกเราได้ทำบาปโดยไม่รู้ตัวจริง (ขอขมา มา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ) นินทาพระค่ะ และปฏิเสธการใส่บาตรพระรูปนั้นเลย

    น้องๆ ที่ทำงาน มีการชักชวนไปปฏิธรรมที่นั่นที่นี่ ซึ่งเราเองได้แต่ขออนุโมทนาไปกับเค้าด้วย เพราะคิดว่า เรายังไม่พร้อม เรายังมีกิเลสที่หนาอยู่ จากการที่อ่านมาครบ 113 หน้า ทำให้รู้ว่า "เราคิดผิด"

    เหตุจูงใจที่ทำให้เราเบื่อจากโลกปัจจุบัน เริ่มหันหน้าเข้าหาพระพุทธศาสนาอย่างจริงจังด้วยการเริ่มสวดมนต์ และปลงในวัฏฏะสังขาร การเวียนว่ายตายเกิด มาจาก การเสียชีวิตของยายที่เป็นที่รัก เริ่มเห็นความเศร้าโศกของแต่ละคน รวมถึงตัวเราด้วย เห็นถึงสังขารที่ยายทิ้งไว้ให้เราปลงได้ โดยบังเอิญ เก็บศพยายไว้ 1 ปี ในที่บรรจุศพ แตกพอจะนำออกมาสวดพระอภิธรรมก่อนเผ่า เชื่อไหมคะ ว่าโลงศพผุพัง ไม่สามารถยกนำออกจากสถานที่บรรจุได้ เจ้าหน้าที่นำออกมาวางข้างๆ แล้วให้ญาติเฝ้าไว้ ไม่ให้สุนัขแถวๆ นั้นมาแทะ..ก่อนที่โลงใหม่จะมา...หันไป หันมา..ทุกคนหายหมด..เราเองต้องเป็นคนอยู่กับยาย

    ระหว่างรอโลงใหม่มาเปลี่ยน ไม่รู้จะทำอะไรดี เห็นหนังสือสวดมนต์ที่วางข้างๆ ยาย จึงขออนุญาตหยิบมาอ่าน นี่เป็น จุดเปลี่ยนแรกค่ะ

    จุดเปลียนที่ 2 เมื่อปี 46 ปีที่วุ่นวายที่สุดในชีวิต
    มิ.ย. แม่ของน้องเขยเสียชีวิต โดยการหลับไป(ช่วง 11 โมงเช้า) และหมาน้อยที่รักที่สุด (โดนัท) ป่วยหลังจากที่แม่น้องเขยเสียชีวิต 2หรือ 3 วัน
    ก.ค. โดนัทจากไปอย่างสงบ เมื่อวันที่ 12 หลังจากนั้นอีก 7 วัน พ่อหกล้มด้วยอาการเส้นเลือดในสมองตีบ (อาการในช่วงนั้น หนักหนาพอควร) แต่บังเอิญที่ถึงมือหมอได้ทันเวลา ทำให้พ่อยังคงใช้ชีวิตที่เกือบจะปกติได้ต่อ ใช้เวลาทำกายภาพนาน 3 ปี ปัจจุบันเดินได้ค่ะ ใช้ไม้เท้า

    ช่วงขณะที่พ่อป่วยนี่เอง พวกเราถึงกับ "ปลงในสังขาร" ได้ เริ่มสวดมนต์กันมากขึ้น ทำสมาธิ โดยการท่องพุทโธ ไม่มีครูสอนค่ะ ปัจจุบันจึงย่ำอยู่กับที่ ทั้งแม่และลูกสาว (ฮ่า..)

    เมื่อสองปีที่ผ่านมา พ่อล้มอีกรอบ ครั้งนี้กระดูกต้นขาหัก ต้องผ่าตัดใส่เหล็กมาจนถึงทุกวันนี้

    มีเรื่องแปลกมาเล่าให้ฟังค่ะ
    จากที่ล้มครั้งแรก พ่อล้มที่บ้านที่อยู่คนเดียว คนละบ้านกับพวกเรา แต่พ่อจะมาที่ร้านในตอนเช้า ซึ่งวันนั้น 8 โมงกว่าพ่อยังไม่มา บังเอิญว่าเจ้านายไม่อยู่ มีเราคนเดียวที่ขับรถเป็น จึงลางานไปหาพ่อ ขณะที่ขับรถไปก็ภาวนาไปว่า ด้วยอานิสงค์ที่พ่อให้เลือดมาตั้งแต่สมัยวัยรุ่น (ชอบบริจาคเลือดมากค่ะ สมัยก่อนน้อยคนที่จะไปบริขาคเลือด) กลัวว่าพ่อจะเป็นอันตรายระหว่างทาง ตกน้ำ ช่วงกลับบ้านเมื่อวาน หรือ ฯลฯ แต่ไปเจอว่าพ่อล้มในบ้าน ตัวพ่อเองคิดว่าจะไม่รอดเหมือนกัน แขนขาไม่มีแรง (พวกเราโทรหาพ่อ แต่พ่อไม่รับสาย ทั้งมือถือและที่บ้าน)

    เหตุการณ์ที่สอง ช่วงล้มครั้งหลัง ในวันที่พ่อต้องเข้ารับการผ่าตัดใส่เหล็ก พ่ออายุมากแล้ว พ่อเองก็คงจะหวั่นใจลึกๆ หลังจากหมอนัดวันเวลา ว่าจะผ่าตัด ถึงวันจริง พวกเราทั้งแม่และน้องๆ บอกว่าจะสวดมนต์ให้พ่อ มารู้ทีหลังว่า พวกเราสวดพระคาถาชินบัญชรเหมือนกัน และในเวลาที่ใกล้เคียงกันโดยมิได้นัดหมาย (เล่าผิดกระทู้ ป่าวเนี่ย)

    เรื่องการทำสมาธิ สนใจค่ะ แต่ยังเริ่มต้นไม่ถูก พยายามหาข้อมูลอยู่ แต่มีคำถามที่อยากถามท่านผู้รู้สักเล็กน้อยค่ะ
    ว่า .. ถ้าเราไม่มีครู และไม่ทราบว่า เรามีของเก่าเป็นทุนเดิมที่จะช่วยส่งเรา เราจะสามารถปฏิบัติตาม เพื่อเป็นกองหนุนช่วย แม่ทัพใหญ่ทั้ง 4 ได้หรือไม่คะ

    ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
     
  14. กำแพง

    กำแพง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +232
    โมทนาบุญด้วยกันนะจ๊ะ

    <meta http-equiv="Content-Type" content="text/html; charset=utf-8"><meta name="ProgId" content="Word.Document"><meta name="Generator" content="Microsoft Word 11"><meta name="Originator" content="Microsoft Word 11"><link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CUser%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Angsana New"; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; mso-bidi-font-size:14.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Angsana New";} @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> วันนี้ได้ทำเช็คเพื่อถวายแด่ครูบาอาจารย์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
    1. เพื่อสร้างตึกสงฆ์อาพาธ โรงพยาบาลศุนย์อุดรธานี 2,000 บาท
    2. เพื่อซื้ออุปกรณ์การแพทย์สำหรับตึกสงฆ์อาพาธ 2,000 บาืท
    3. เพื่อร่วมบุญโครงการผ้าป่าช่วยชาติกับท่านหลวงตามหาบัว 2,000 บาท

    เรียนเชิญทุกๆท่านร่วมโมทนาบุญนะ
    สาธุ สาธุ สาธุ...(deejai)


    ขออานิสงฆ์นี้จงเป็นปัจจัย ให้ตัวข้าพเจ้า ครอบครัวและบริวาร ตลอดจนกัลยาณมิตรทุกๆท่านในเวปและนอกเวป มีดวงตาเห็นธรรมตามเสด็จองค์พระศาสดาและพ่อแม่ครูบาอาจารย์เข้าสู่พระนิพพาน ด้วยกันทั้งหมดทุกรูปทุกนามด้วยเทอญ
     
  15. konkangwad

    konkangwad เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +5,910
    สวัดดีครับคุณjajamickyขอเอาใจช่วยอีกแรงครับพอคลายกังวลแล้วรีบขึ้นเรือเลยครับ พี่สาวกัปตันเรือไม่ทิ้งลูกเรือหรอกครับ(ผูกมัดไว้ก่อน)เรื่องเป็นเรื่องตายทุกคนต้องเจอเหมือนกันหมดทุกคนครับถ้าเราจะตายในขณะที่เรากำลังทำความดีมีธรรมเป็นเครื่องอยู่(อยู่ในศีลอยู่ในธรรม)มันต้องไปที่ดีแน่นอนละครับสู้ๆๆครับ
     
  16. konkangwad

    konkangwad เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +5,910
    อนุโมทนาสาธุด้วยครับ
     
  17. พรพิสุทธิ์

    พรพิสุทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    366
    ค่าพลัง:
    +3,811
    วันนี้วันพระมีบุญมาฝากค่ะ
    ตื่นตั้งแต่เช้า ตี 5 กว่า ทำกับข้าวพาแม่ไปถวายภัตตาหารเช้า
    ถวายเงินจากหิ้งพระ 100 บาท
    แม่ถือศีล 8 ร่วมอนุโมทนากับแม่ด้วยค่ะ
    กวาดรอบศาลาใหญ่ ศาลาโรงน้ำร้อน ศาลาโรงครัว บันไดวัด
    วันนี้ช่วงเช้าได้ขับรถพาคนป่วยไปส่งโรงพยาบาลในอำเภอ
    น้องชายก็พาคนป่วยไปส่งโรงพยาบาลในจังหวัด
    ระหว่างที่รอก็แผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศลให้กับคนป่วยที่มีเป็นจำนวนมากให้เค้าหายไวๆ
    เย็นนี้ตั้งใจจะไปซื้อปลามาปล่อยค่ะ วันนี้รู้สึกสุขใจ อิ่มใจที่ได้ทำบุญ
    และขอร่วมอนุโมทนาบุญกับพี่ Me, myself และญาติธรรมทุกท่านค่ะ สาธุ.
    (เมื่อวาน ได้ซื้อเครื่องสังฆทาน 1 ชุด จัดส่ง EMS ไปถวายพระอาจารย์ตื้อที่อยู่เชียงใหม่)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กรกฎาคม 2009
  18. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    วันนี้จะมาเล่าเรื่องวิญญานในฝันให้ฟังหน่อยค่ะ หลังจากกลับจากถวายสังฆทาน 9 วัด คืนที่สองฝันว่ามีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งต้องการไปพิสูจน์เกี่ยวกับวิญญาน ซึ่งดิฉันก็ตามไปกับเขาด้วย รู้สึกว่าจะมีน้องอ้อยไปด้วยค่ะ พวกเราไปที่อาคารพาณิชย์สามชั้นที่ร้างไม่มีคนอยู่อาศัย มีอยู่สองอาคาร ดิฉันไปยืนอยู่หน้าอาคารด้านขวา มีคนสามสี่คนเดินขึ้นไปบนอาคารซึ่งดิฉันคิดว่าเขาโชคดีที่เดินขึ้นไป ส่วนดิฉันอ่ะโชคร้ายดันรออยู่ข้างล่าง ตอนรอก็เหมือนได้ยินเสียงอะไรก็เลยแหงนหน้าขึ้นไปดู เห็นเป็นวิญญานผู้หญิงห้อยตัวอยู่บนอาคาร ผมยาวกระเซิงหน้าตาน่ากลัวเชียว เธอก็จ้องมองดิฉันแล้วก็แสยะยิ้ม แล้วทันใดนั้นเธอก็เฉือนหูตัวเองแล้วมันก็หล่นปุ๊ลงมาตรงหน้าดิฉันเลย โอย...หัวใจจะวาย ใจเต้นโครมครามไปหมดยังกับตีกลอง แต่ก็ยังแหงนหน้ามองเธออยู่อีกนะ แล้วเธอก็เฉือนแก้มก้นหล่นลงมาอีก แล้วก็อีกข้าง ตอนนี้เริ่มไม่ตกใจแหละ ดิฉันหันไปบอกน้องอ้อยว่า "เอ๊า อ้อย..เพ่งสิ อสุภะ" น้องอ้อยบอก "ที่เคยเพ่งมันไม่ใช่แบบนี้นี่" ส่วนวิญญานนั้นจากที่เธอเฉือนชิ้นส่วนต่างๆแล้วสุดท้ายเธอเลยแหกอกให้ดูซะเลย ซึ่งดิฉันตอนนั้นก็ควบคุมสติตัวเองได้แล้ว เลยไม่รู้สึกอะไร

    แล้วทีนี้ทางตึกด้านซ้ายก็มีคนอีกสองคนเดินขึ้นไป แต่เหมือนโดนผีหลอกไม่สามารถเดินกลับลงมาได้ ต้องกระโดดลงมาตอนกระโดดเขาอธิฐานจิตไว้พอใกล้จะถึงพื้นดินก็ปรากฏว่ามีมือยักษ์โผล่มารับพวกเขาไว้ เลยไม่มีอันตราย ที่ตึกนี้มีวิญญานผู้ชายอยู่ จากนั้นพวกเราทั้งหมดก็พากันไปที่อาคารร้างอีกที่ แต่ที่ดิฉันเห็นมันเหมือนโครงสร้างของโบสถ์มากกว่าเป็นบ้านคนตั้งอยู่กลางทุ่งนา คนอื่นๆเขาก็พากันขึ้นไปบนนั้น เห็นมีพวกฝรั่งไปยืนถ่ายรูปด้วย ดิฉันก็คิดในใจ เออ..หนอ ฝรั่งพวกนี้สงสัยคงไม่รู้อะไร สักพักพวกเราก็ชวนกันกลับ ตอนที่เดินกลับดิฉันสังเกตุเห็นมีเงาเดินตามดิฉันมา ดิฉันก็พูดไปว่า "ตามมาทำไม ไปซะ" แล้วดิฉันก็มาคิดได้ "เออ..เราไปไล่เขาทำไมเนี่ย มันต้องอุทิศส่วนกุศลถึงจะถูก" ดิฉันเลยอุทิศส่วนกุศลให้วิญญานที่ดิฉันเจอทั้งหมดนั่น แล้วพวกเขาก็กลายเป็นเทวดานางฟ้ากันไปหมดเลย จากนั้นดิฉันก็ตื่น

    ตื่นขึ้นมาก็ขึ้นไปเฝ้าพระศาสดา พร้อมทั้งเล่าเรื่องฝันให้ท่านฟัง บอกท่านว่ายังกับไม่ใช่ฝันเหมือนจริงมากๆ ท่านว่าดีแล้วที่อุทิศส่วนบุญให้กับพวกสัมภเวสี แล้วท่านก็บอกว่าไม่ได้ฝันหรอก จิตดิฉันเดินทางออกไปเพราะว่าดิฉันไม่ค่อยเปิดจิตทำให้วิญญานที่ต้องการความช่วยเหลือบางคนติดต่อดิฉันไม่ได้ ก็ต้องอาศัยมาทางนี้ ดิฉันก็ว่ามาดีๆก็ไม่ได้ ทำไมต้องมาเฉือนหูให้ดูด้วย ตกใจแทบแย่ตอนแรก จากนั้นท่านก็ให้พรเป็นปกติทุกเช้า แล้วดิฉันก็ลาลงมา

    สายๆพวกวิญญานที่เห็นในฝันซึ่งตอนนี้กลายไปเป็นเทวดากับนางฟ้าแล้วนั้น ได้เข้ามาไหว้ขอโทษที่ไปหลอกในฝัน ซึ่งดิฉันก็อโหสิไป แต่ก็สรุปได้ว่าดิฉันไม่ได้ฝันไปจริงๆน่ะซิ ไม่งั้นพวกนี้จะมาได้ไงละตอนที่ดิฉันตื่นนี่

    ส่วนใหญ่ดิฉันไม่ค่อยจะเปิดจิตสักเท่าไหร่หรอกค่ะ ปิดได้สนิทเท่าไหร่ยิ่งดี อิอิ ซึ่งทำให้พวกวิญญานต้องหาทางติดต่อดิฉันให้ได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง บางทีก็มาทำให้โทรทัศน์ไม่มีภาพบ้าง วิทยุดับบ้าง อะไรแบบนี้ค่ะ เหตุที่ไม่ยอมเปิดจิตเพราะอะไร ใครอยากรู้ลองไปถามน้องอ้อยดูนะคะ เพราะน้องเขาเพิ่งเจอเหตุการณ์ระทึกมาสดๆร้อนๆ เนื่องจากการเปิดจิตแบบไม่มีเบรคของน้องเขานี่แหละค่ะ อิอิ

    คนที่ไม่เห็น ก็อยากเห็น ส่วนคนที่เห็น ก็ไม่อยากเห็น นี่ละน๊า คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า

    ----------------------------------------------------------------------------

    โปรดใช้ปัญญาพิจารณาในการอ่าน
     
  19. konkangwad

    konkangwad เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +5,910
    บุญพี่สาวเยอะเขาก็ต้องพยายามละเนาะแล้วก็คุ้มซะด้วยสาธุ
     
  20. เจ๋วะรัฐถะ

    เจ๋วะรัฐถะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    847
    ค่าพลัง:
    +15,386
    พี่me,myself โยนกลองยาวมาให้ เลยต้องตีซะหน่อยค่ะ ^_^

    น่าจะไล่หลังจากที่พี่ me,myself ฝัน(จริง)สัก 1 วัน ซึ่งตอนนั้นอ้อยยังไม่รู้เรื่องที่พี่ me,myself เล่ามานี่นะคะ(แต่ในฝันของพี่me,myselfที่มีอ้อยอยู่ด้วยน่ะ จริงค่ะเพราะจิตของอ้อยผูกพันกับพี่ตลอดเวลาอ่ะเพียงแต่ความจำอ้อยอ่ะเป็นประเภทปลาทองค่ะ ^^) แล้วพอดีอ้อยเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นถึงได้มาเล่าสู่กันฟังน่ะค่ะ

    วันนั้นอ้อยขับรถไปทำธุระในตัวเมืองค่ะ ปกติอ้อยจะใช้เส้นทางดอยอินทนนท์ ซึ่งขาไปก็ภาวนาไปด้วย ฟังธรรมะในรถไปด้วยค่ะ สลับกับการอุทิศบุญกุศลให้ท่านเทวดา นางฟ้า ที่มาคุ้มครองระหว่างทาง เพราะพี่me,myself ขอท่านเทวดา นางฟ้าช่วยคุ้มครองอ้อยทุกครั้งที่เดินทาง แต่ครั้งนี้พิเศษ ตรงที่เห็นเยอะเป็นประวัติการณ์ค่ะ นึกสงสัยว่าทำไมวันนี้เทวดา นางฟ้าเยอะจัง พอสงสัยเท่านั้นแหล่ะค่ะ รู้สึกถึงแสงสว่างจ้าที่อยู่เหนือหัวของอ้อย จิตกำหนดรู้ว่าพระศาสดาแผ่บารมีมาคุ้มครองด้วย เหล่าเทวดา นางฟ้าเลยมาขอรับบารมีและขอรับบุญกุศลกันค่ะ

    พอทำธุระเสร็จ ค่ำพอดี แต่ตั้งใจไว้แล้วว่าจะแวะกราบนมัสการหลวงพ่อเพื่อถวายผัก ผลไม้ สำหรับใช้เป็นอาหารในวันรุ่งขึ้นสำหรับพระภิกษุสงฆ์และผู้ปฏิบัติธรรม ระหว่างทางเผอิญไปตรวจจิตชาวบ้านเลยได้เจอกับวิญญานและได้มีโอกาสอุทิศบุญกุศลให้ ทีนี้พอเปิดไปแล้วก็เลยคุยไปเรื่อยๆ ขับรถไปด้วย(จริงๆแล้วอันตรายนะคะ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆอย่าทำแบบอ้อยนะคะ)

    จนถึงสำนักวิปัสสนาค่ะ ที่นี่เดี๋ยวนี้เค้ามีการเปิดกรรมด้วย สมัยก่อนที่อ้อยไปปฏิบัติธรรมไม่เห็นมีนะคะ สำหรับตัวอ้อยเองเชื่อในเรื่องกฏแห่งกรรม แต่กรรมนั้นใครไปชำระหนี้กรรมแทนกันไม่ได้ บางเรื่องเราไปฝืนกฏแห่งกรรมไม่ได้จริงๆ ก็เลยเฉยๆกับเรื่องนี้ แต่ว่า เจ้ากรรมนายเวรที่ไปรออยู่ที่นั่นมีเยอะมากค่ะ อาจจะไปรอรับส่วนบุญกุศลจากคนที่ปฏิบัติธรรม หรืออาจจะไปเข้าร่างใครตอนที่ทำพิธีเปิดกรรม พอเค้ารู้ว่าญาติหรือคนที่เกี่ยวข้องกับเค้าจะมาเปิดกรรม เค้าก็ตามมา บ้างก็มารอ เยอะไปหมด

    พออ้อยกราบนมัสการหลวงพ่อและถวายของเสร็จ ก็มืดพอดี เลยลากลับ
    ระหว่างทาง อ้อยใช้เส้นทางอีกเส้นหนึ่ง ทีนี้ด้วยความที่ไม่ได้ปิดจิต ทีนี้ล่ะค่ะ เกิดเรื่องเลยค่ะ สองข้างทางเต็มไปด้วยสัมภเวสีและเจ้ากรรมนายเวรค่ะ ไม่รู้ของใครกันมั่ง น่าจะตามมาจากที่สำนักวิปัสสนาน่ะค่ะ ตามมาขอส่วนบุญ บ้างก็มาแบบเละๆ บ้างก็มาแบบตาถลน บ้างก็น้ำเลือดน้ำหนอง บ้างก็ซีด บ้างก็ไม่ครบ32ประการ แทบจะเรียกได้ว่ามีทุกรูปแบบค่ะ ก็กำหนดจิตแผ่เมตตาและขอบารมีของพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ครูบาอาจารย์ พ่อแม่ อุทิศบุญกุศลให้เค้าไป แต่ด้วยความที่สัมภเวสีเยอะมากๆ อ้อยแทบไม่ได้พักจิตเลยค่ะ ต้องคอยอุทิศบุญกุศลให้ตลอดเส้นทาง ขับรถไปด้วย ทีนี้มีบางตนเอื้อมมือมาจะจับล้อรถมั่ง จะจับตัวรถมั่ง คราวนี้ล่ะค่ะ อ้อยน้อมจิตถึงสมเด็จองค์ปฐม พระศาสดา หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ขอบารมีคุ้มครอง
    อ้อยเพิ่งน้อมจิตรับยันต์เกราะเพชรไปไม่นานค่ะ แต่อานุภาพของยันต์เกราะเพชรทำให้อ้อยศรัทธามากกกกกก ที่อ้อยเห็น ณ ขณะนั้นคือ(เห็นในมโนมยิทธิค่ะ) ยันต์เกราะเพชรที่อยู่ในตัวเรา แผ่อานุภาพคลุมตัวเราและรถเป็นเพชรหมดเลยค่ะ รัศมีเปล่งประกาย ทำให้สัมภเวสีและเจ้ากรรมนายเวรที่จะเอื้อมมือมาจับส่วนใดส่วนหนึ่งของรถ หดกันไปหมด ไม่เท่าแต่นั้นนะคะ เหนือหลังคารถ สมเด็จองค์ปฐม พระศาสดา พระปัญเจกพุทธเจ้า พระอรหันต์ หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษี เหล่าเทวดา นางฟ้า มากันหมดเลยค่ะ เปล่งประกายฉัพพรรณรังสีสว่างจ้าไปทั่วบริเวณ จากตอนแรกที่อ้อยคิดว่าจะไม่ไหวแล้วนะ จิตเริ่มล้าแล้ว พอเห็นดังนั้น ปิติ ค่ะ บอกไม่ถูกเหมือนกันว่ารู้สึกยังไง คำว่า พระมาโปรดนี่ เป็นอย่างนี้นี่เองค่ะ จริงๆแล้ววิญญาณเค้าก็ไม่ได้คิดจะทำอะไรเราหรอกค่ะ ก็ไม่ได้กลัวอะไรมีสติตลอดเวลาแต่ว่าเหมือนเราอุทิศบุญกุศลให้ไม่ทันเค้างัยคะเพราะเยอะมากๆ ไม่รู้ว่ามาจากไหนกันน่ะค่ะ พอเกิดเหตุการณ์มหัศจรรย์ขึ้น เหมือนจิตมีพลังกลับมาอีกครั้ง ก็อุทิศบุญกุศลไปเรื่อยๆค่ะ จนเริ่มบางบางลง จนกลับมาถึงบ้าน แทบคลานลงจากรถค่ะ คือมันล้าแบบบอกไม่ถูกน่ะค่ะ น้อมจิตก้มกราบพระบาทสมเด็จองค์ปฐม พระศาสดา พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันต์ หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษี เหล่าเทวดา นางฟ้าที่คุ้มครอง

    จากนั้นรีบโทรบอกพี่me,myselfทันที พี่ก็รับรู้ได้ทันทีก็เลยช่วยกันอุทิศบุญกุศลกันไปอีกสักพัก สัมภเวสีเริ่มเบาบางลงค่ะ เค้าก็เปลี่ยนภพกันตรงนั้นทันทีเหมือนกัน บ้างก็กลายเป็นเทวดา นางฟ้า บ้างก็เตรียมจะไปเกิดเปลี่ยนจากน่ากลัวๆเป็นสดใสขึ้น คือที่รับได้ก่อนโมทนาก่อนก็ค่อยๆเปลี่ยนภพกันไป แต่ระหว่างทางมันเยอะมากแสดงว่าเส้นทางนั้นเค้าไม่ค่อยได้รับการอุทิศบุญกุศลจากใครเลย อุทิศบุญกุศลตลอดเส้นทางจนอ้อยแทบหมดแรง คราวนี้มีบางตนยังไม่กลับ แต่อ้อยปิดจิตไปแล้วเพราะไม่ไหวแล้วขอพักแปบ ก็จะมีเสียงแป๊กๆ ตรงนั้นบ้าง ตรงนี้บ้าง อ้อยก็ได้แต่มองเฉยๆแล้ว คือมันเหนื่อยแบบบอกไม่ถูกน่ะค่ะ แบบว่าขอพักก่อน เดี๋ยวค่อยอุทิศให้นะ มีการตกลงกันหน่อย ทีนี้ พี่me,myself ก็เปิดจิตรับรู้ค่ะ ก็เลยมาเจรจากับสัมภเวสีแทน แถมมีการดุด้วย อิอิ มีการบอกว่าห้ามกวนน้องอ้อยนะ เค้าเหนื่อยแล้ว เดี๋ยวจะอุทิศให้เอง ^^ (มีอาจารย์ดีเป็นศรีแก่ตัวค่ะ อิอิ)

    สรุปคือ การเปิดจิตตลอดนี่ ใช่ว่าจะดีนะคะ จริงๆแล้วยิ่งขับรถไปด้วยยิ่งอันตราย ห้ามทำตามเด็ดขาดนะคะ อันนี้อ้อยขอเลยนะคะ ที่รอดมาเนี่ย อ้อยคิดว่าเป็นเพราะบารมีของสมเด็จองค์ปฐม พระศาสดา พระปัญเจกพุทธเจ้า พระอรหันต์ หลวงพ่อปาน หลวงพ่อฤาษีและเหล่าเทวดา นางฟ้าช่วยไว้น่ะค่ะ

    ดังนั้นขอความไม่ประมาท จงมีกับเราทุกขณะจิต นะคะ ^_^

    และต้องขอกราบขอบพระคุณพี่ me,myself มากๆเลยนะคะที่ให้การช่วยเหลือลิงน้อยตัวนี้อ่ะค่ะ ซนจนได้เรื่องแหมแร่ะ ^^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 สิงหาคม 2009

แชร์หน้านี้

Loading...