จริต 6 และการปฏิบัติธรรมที่เหมาะกับคนแต่ละจริต เพื่อความเร็วไวในการปฏิบัติ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 30 กันยายน 2009.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,892
    จริต 6

    บุคคล ผู้ประสงค์จะฝึกจิตให้บรรลุคุณวิเศษของการฝึกจิตจำเป็นต้องรู้จริต (นิสัย) ของตนและคนที่จะมาเรียนกับตนด้วยเพราะจริต 6 ประการนี้ มีความเกี่ยวข้องที่สำคัญต่อการฝึกจิต ถ้าไม่รู้จริตตนเองและลูกศิษย์ของตนจะเลือกแนวปฏิบัติให้เหมาะแก่จริตของตน และลูกศิษย์ไม่ถูกก็จะเกิดความเบื่อหน่ายแล้วก็เลิกล้มไปในที่สุด ต่อไปนี้เรามาศึกษาเรื่องจริต 6 อย่าง ดังนี้

    1. ราคะจริต คนราคะจริต จะเป็นคนรักสวยรักงามแต่งตัวเรียบร้อย ชุดแต่งกายก็สะอาด ไมชอบความรุนแรง กินอาหารดีและสะอาด จัดที่นอนให้ดีแล้วค่อยบรรจงนอนนอนก็เป็นระเบียบไม่เคว้งคว้าง เก้งก้าง เวลานอนสีหน้าก็คงงดงามไม่ย่นยู่ เวลาตื่นก็ค่อยๆบรรจงตื่น เก็บที่นอนเรียบร้อย เวลาเดินก็อิริยาบถสม่ำเสมอไม่รีบร้อน บรรจงวางเท้าลงอย่างเป็นระเบียบ แต่รอยเท้าคนราคะจริตจะเว้ากลาง

    การฝึกจิตที่เหมาะแก่คนราคะจริต คือ

    สถาน ที่ปฏิบัติก็ให้เป็นที่ร้างผุพัง คนที่ถวายข้าวให้ฉันก็เป็นคนขี้เหล่ พูดจาไม่ไพเราะ ทางเดินก็ให้ขรุขระ ผู้เป็นพระนั้น บาตรก็ใช้บาตรดินที่สีเลอะๆผ้านุ่งผ้าห่มก็ให้เป็นผ้าขาดๆที่ปะเอาไว้ อาหารก็เป็นอาหารปอนๆ คนให้อาหาร ก็เป็นอาหารที่ไม่สวย อสุภกรรมฐาน ซากศพที่เน่าจะเหมาะสำหรับคนราคะจริตนี้ เขาจึงจะคลายราคะได้
    แม้การ ฝึกจิต ก็อิริยาบถยืน คือ เดินจงกรม จึงเหมาะแก่เขา แม้การจะเพ่งกสิณ ก็ ควรเป็นวรรณกสินที่เป็นสีเขียว ที่ไม่สดใสจึงจะเป็นอารมณ์กำราบกิเลสประจำเรือนใจคนราคะจริตได้ โดยสรุป การฝึกจิตที่เหมาะแก่คนราคะจริต คือ อสุภ 10 กับ กายตาสติ 1 นั้นเอง

    2. โทสจริต ลักษณะของคนโทสจริต คือ ทำอะไรก็รีบร้อน กวาดบ้านก็กวาดเร็ว สะอาด แต่ไม่เรียบร้อย เวลายืนก็ยืนขึงขังเหมือนทหาร เวลาปูที่นอนพอนอนได้ก็ทิ้งตัวลงนอน เหมือนกระโดดน้ำ ตอนนอนก็ทำคิ้วขมวดเหมือนนอนคิดด้วย เวลาลุกก็ลุกรวดเร็วเหมือนโกรธ เวลาเดินเดินด้วยอาการ ผลุน ผลัน เวลาเดินปลายเท้าจะขยุ้มจิกลงในดิน

    การฝึกจิตที่เหมาะแก่คนโทสจริต

    สิ่ง ที่สามารถกำราบกิเลสประจำใจของคนโทสจริต ที่มิไม่ให้ฟุ้งขึ้น คือ สถานที่ปฏิบัติให้เป็นที่สะอาดสวยงาม ประดับตกแต่งไว้ดีมีกลิ่นสะอาด ทางไปบิณฑบาตก็เป็นทางสะอาดไม่ขรุขระ ผ้าสำหรับที่ใช้ในการปฏิบัติก็เป็นผ้าที่สวยงามเนื้อละเอียด แม้ภาชนะใส่อาหารก็ควรเป็นภาชนะที่สะอาดที่สวยงาม แม้คนบริการอาหาร ก็เป็นคนสวยงามพูดจาไพเราะ มีนิสัยดี แต่งตัวสะอาด แม้อาหรก็เป็นของที่สะอาดประณีต มีสีและกลิ่นสะอาด
    แม้อิริยาบถ ในการปฏิบัติธรรมของคนโทสจริต ควรเป็นอิริยาบถนอน หรือนั่งก็ได้ กสิณที่ควรเพ่งควรเป็น วรรณกสิณ 4 กับพรหมวิหาร 4

    3. โมหะจริต ลักษณะ ของคนโมหะจริต คือ ทำอะไรเงอะงะไม่เรียบร้อย ทำงานละเอียดไม่ค่อยได้ เวลานอนก็ปูที่นอนบ้างไม่ปูที่นอนบ้าง คล้ายหลับตั้งแต่ยังไม่ทิ้งตัวลงนอน ส่วนมากจะนอนคว่ำหน้าปลุกให้ลุกไม่ค่อยลุก มักจะครางอือๆแล้วหลับต่อ เวลาลุกก็ลุกอืดอาดเวลากวาดบ้านก็ไม่สะอาดในบ้างครั้งไม้กวาดหลุดมือก็มี เวลาเดินท่าทางเงอะงะไม่น่าดู เวลายกเท้าเหมือนกับคนกลัวอะไรอยู่นั้นแหละ รอยเท้าของคนโมหะจริตจะเลอะเลือน

    การฝึกจิตที่เหมาะแก่คนโมหะจริต

    สิ่งแวดล้อมในที่จะฝึกจิตที่เหมาะแก่คนโมหะจริตเช่น เรือนหรือกุฏิ ที่ปฏิบัติไม่แคบหันหน้าไปสู่ทิศตะวันออก หรือทิศโล่งแจ้งได้ตลอด
    อิริยาบถ ที่เหมาะแก่คนโมหะจริต ในการฝึกจิต คือ การเดินจงกรม กสิณที่เหมาะแก่การเพ่งของคนโมหะจริต ใช้ได้ทุกกสิณแต่ควรใช้สีและขนาดให้เหมาะกับจริตของตน ให้เลือกมองดูก่อนถ้าเห็นแล้วไม่รำคาญ ไม่ชวนให้ง่วนงุ่นหรือกล่อมให้หลับ แต่ทำให้เกิดความสดชื่นในอารมณ์ให้เลือกสีนั้น ขนาดกสิณก็ให้ใช้ขนาดใหญ่ ขนาดเท่าปากครกหรือขนาดกว้างเป็นศอก จึงเหมาะแก่คนที่โมหะจริต คนโมหะจริตกับคนวิตกจริต ควรเจริญอานาปานสติ จะเหมาะที่สุด

    4. สัททาจริต คนสัททาจริต จะมีลักษณะเชื่อและวางใจคนอื่น เป็นคนรักความซื่อสัตย์ นอกนั้นมีลักษณะคล้ายกับราคะจริตและพุทธิจริต การฝึกจิตที่เหมาะแก่เขา คือ อนุสติ 6 คือ พุทธานุสสติถึงเทวตานุสสติ

    5. พุทธิจริต คนพุทธิจริต เป็นคนมีปัญญา มีความรู้ดีชอบความสวยงามที่ราบเรียบเป็นธรรมชาติไม่ฉูดฉาดไม่ต้องปรุงแต่ง เหมือนคนราคะจริต เป็นคนมีเหตุผลและรอบคอบไม่เหมือนสัททาจริตที่เชื่อเอาไว้ก่อนการฝึกจิตที่ เหมาะกับคนพุทธิจริต มี 4 อย่าง คือ 1 มรณัสสติ 2 อุปสมานุสสติ 3 อาหาเรปฏกูลสัญญา 4 จตุธาตุววัตถาน(พิจารณาธาตุ4)

    6. วิตกจริต ลักษณะ ของคนวิตกจริต คือ คิดฟุ้งซ่านวาดฝันไปกับสิ่งที่เห็น และจะคิดจะทำอะไรซ้ำๆ เพราะความไม่แน่ใจไม่นั่นใจตลอดความระแวงจะเป็นปกติของคนวิตกจริต คนวิตกจริตนี้จะมีลักษณะแตกต่างกับคนราคะจริต โทสจริต และพุทธิจริตโดยสิ้นเชิงจะมีลักษณะคล้ายกับ โมหะจริตนั้นแล

    การฝึกจิตที่เหมาะแก่คนวิตกจริต

    ที่ อยู่อาศัยของคนวิตกจริตนั้น ไม่ควรเป็นที่โล่งแจ้ง หรือหันหน้าไปสู่วิวหรือทิวทัศน์อันสวยงาม หรือหันหน้าไปสู่สวนดอกไม้ หันหน้าไปสู่สระน้ำอันสวยงามชวนฝันที่เช่นนี้ไม่เหมาะแก่เขาเลย เพราะจะทำให้จิตเขาเพลินไปตามทิวทัศน์นั้นที่เหมาะที่สุดคือ ถ้ำ ซอกเขา เงื้อม ผา เป็นต้น เพราะจะทำไม่ให้ฟุ้งซ่าน
    อารมณ์แห่งกรรมฐานในคนวิตกจริตนี้ให้ยึดถือตามแนวของคนโมหะจริต ต่างแต่เพียงว่าให้ทำกสิณให้หน้ากว้างขึ้นเท้านั้น
    ดั้ง นั้น ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย ผู้จะให้การฝึกจิตแก่ศิษย์ควรจะตรวจดูจริตนิสัยของลูกศิษย์ หรือคนจะมาฝึกจิตให้รู้ชัดเจนก่อนการฝึกจิตจึงจะได้ผลเต็มที่ หาไม่แล้วการฝึกจิตจะล้มเหลว




    ที่มา จากหนังสือ ประวัติและของดีสมเด็จลุน หน้า 45-48
    ของอาจารย์สวิงบุญเจิม ป.ธ.9 M.A.
    สำนักพิมพ์มรดกอิสาน
     
  2. oomsin2515

    oomsin2515 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    2,934
    ค่าพลัง:
    +3,393
    ขออนุโมทนาสาธุธรรม เป็นอย่างสูง ครับ
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p



    ------------------------------------------------------------------------------------------------<O:p</O:p
    ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์จำนวน ๕๐๐ รูป งานวางศิลาฤกษ์ และ เคลื่อนย้ายศาลาการเปรียญหลังเก่า เพื่อนำไปก่อสร้างอุโบสถไม้ เฉลิมพระเกียรติ พระมหาเถรคัณฉ่อง พระสุพรรณกัลยา สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเอกาทศรถ และ ทอดกฐินสามัคคี<O:p</O:p
    http://palungjit.org/threads/ขอเชิญร่วมเจ้าภาพทอดกฐินสามัคคี-ปี-2552-ณ-วัดย่านยาว-จ-พิษณุโลก.202385/<O:p</O:p
     
  3. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,268
    ค่าพลัง:
    +5,219
    ผมมีจริตครบทั้ง 6

    ที่หนักหน่อยคือ โทสะจริต วิตกจริต
    ที่ปานกลาง - เบา เรียงลำดับ ก็ได้แก่ โมหะจริต พุทธิจริต ราคะจริต (เมื่อก่อน สัทธาจริตจะแรง พอมีสติมากขึ้น ก็มีความยั้งคิดมากขึ้นครับ ตอนนี้ถึงจะไม่ค่อยมีแต่ยังไม่กล้าตัด เพราะยังโง่อยู่)
    ตอนนี้ไม่รู้จะเชื่อตัวเองฝ่ายที่คิดว่าตัวเองโง่ หรือฝ่ายที่คิดว่าตัวเองฉลาดดีครับ

    ควรฝึกกรรมฐานกองไหนดีครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กรกฎาคม 2016
  4. siratsapon

    siratsapon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    368
    ค่าพลัง:
    +641
    แนะนำสำหรับผู้ที่ไม่แน่ใจว่าจะเหมาะกับกรรมฐานใด หรือเราเป็นคนจริตแบบไหน เข้าไปตรวจสอบจริตในนี้ได้มีประโยชน์มากครับ

    แบบทดสอบจริต ๖ สำหรับเลือกกรรมฐาน ๔๐

    แบบทดสอบจริต ๒ สำหรับเลือกหมวดสติปัฏฐาน ๔
     
  5. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    หลักธรรมมีอยู่แล้วคือทาน ศีล ภาวนา
    1.ทานคือการทำบุญ การเสียสละทรัพย์แบ่งปัน ให้ด้วยความศรัทธา กำลังทรัพย์ และเหตุการณ์ในขณะนั้นๆ ทำเป็นประจำสม่ำเสมอแต่อย่าให้เดือดร้อน
    2.ศีลคือศีล5 สมาทานศีลและรักษาศีล5 ไม่เจตนาละเมิด ศีล5 คือ 1.ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต 2.ไม่ลักขโมย 3.ไม่ล่วงละเมิดทางเพศกับคนที่มีคู่รักหวงแหนแล้ว 4.ไม่พูดโกหก แต่อะไรเป็นความลับก็ไม่ต้องพูด รู้จักตั้งตนชอบในการพูด 5.ไม่หมกมุ่นในการกินเหล้า เอาแต่พอควร
    3.ภาวนาคือการใช้สติปัญญาพิจรณาธรรม เวลาทำสมาธิได้ที่แล้วก็ภาวนา เช่น ท่องกายนคร พิจรณาอวัยวะร่างกายโดยใช้ปัญญาโยนิโสมนสิการตามดูเห็นความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ทนยาก และเป็นอนัตตาคือความไม่ใช่ตัวตน หรืออาจจะภาวนาว่าไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงก็ได้
     

แชร์หน้านี้

Loading...