นะหน้าทอง

การลงนะหน้าทอง ในจำนวนพระเกจิอาจารย์ที่มีวิชาอาคมที่มีไสยเวทย์แก่กล้าอยูในชั้นแนวหน้าที่ยังอยู่ในปัจจุบันก็ถือกันว่า "หลวงพ่อเปิ่น" วัดบางพระ อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ก็หนึ่งไม่เป็นรองใครเพราะลูกศิษย์ลูกหาที่ได้รับวัตถุมงคลของท่านต่างได้รับประสบการณ์จากอุบัติเหตุต่างๆแล้วรอดปลอดภัยบ้างก็ทำมาค้าขึ้นมีความเจริญรุ่งเรืองมีโชคมีลาภร่ำรวยขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
เมื่อมาดู อักขระเลขยันต์ ถือกันว่ายันต์พุฒซ้อน หรือ ยันต์พระเจ้า ๕ พระองค์ ซึ่งเป็นยันต์ที่โด่งดังมากมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ถือเป็นมหายันต์สูงสุดกว่ายันต์ทั้งปวง อุปเทห์ใช้ได้สารพัดประโยชน์ โดยเฉพาะยันต์พุฒซ้อนหลวงพ่อเปิ่นท่านได้นำมาใช้ในการลงนะหน้าทอง เมตตามหานิยม โชคลาภแก่สาธุชนทั้งหลายที่ไปกราบนมัสการท่าน
การลงอักขระเลขยันต์นี้ เท่าที่มีการบันทึกจำกันได้ ก็ในสมัยพระร่วงเจ้า ที่ขอมดำดินมาเพื่อจะทำร้ายพระร่วง ขณะนั้นพระร่วงกำลังกวาดลานวัดอยู่ ขอมดำดินก็โผล่ขึ้นมาถามหาพระร่วง พระร่วงเจ้าก็เลยใช้วาจาสิทธิ์สาปพวกขอมจนกลายเป็นหินเป็นเวลาร่วมพันปี เพิ่งจะมีการทำพิธีปลดปล่อยวิญญาณขอกขอมให้ไปเกิดใหม่ จะเห็นได้ว่าพวกขอมมีวิชาอาคม เนื้อตัวลงอักขระจนตัวดำ ใช้วิชาดำดินเพื่อแฝงกายไม่ให้เป็นที่สังเกตในการเดินทางไม่ให้คนทั่วไปพบเห็น ส่วนพระร่วงเจ้าท่านเรียนวิชาอาคมแก่กล้า จนมีวาจาสิทธิ์ จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่คนในสมัยโบราณ ในการศึกษาอักขระเลขยันต์ ชายชาตรีทุกคนนิยมลงอักขระเลขยันต์ตามเนื้อตามตัว เพื่อใช้เป็นการป้องกันภัยให้ร่างกายอยู่ยงคงกระพัน เพราะในสมัยนั้นผู้คนต้องรบทัพจับศึกต่อสู้กับข้าศึกทุกสารทิศ ช่วยปกป้องบ้านเมืองไม่ให้ตกเป็นเมืองขึ้นของชาติอื่นที่เข้ามารุกราน จนเป็นประเทศให้เราอยู่อาศัยจนทุกวันนี้
ในเสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน เราจะรู้ถึงการศึกษาเล่าเรียนสรรพวิชาความรู้ต่างๆ ในสมัยนั้นต้องไปเรียนที่วัด มีพระภิกษุเป็นอาจารย์คอยสั่งสอน มีการเรียนอักขระเลขยันต์ มูลกัจจายนะ ในเรื่องกล่าวถึงขุนไกร พ่อของขุนแผนที่ต้องโทษพระอาญาจากพระเจ้าอยู่หัว ขณะทรงเสด็จล่าฝูงควายป่า แต่ฝูงควายป่าแตกตื่นวิ่งมาจนถึงที่ประทับ จึงถูกตัดสินประหารชีวิต เพชฌฆาตใช้คมหอกคมดาบ แต่หาทำอันตรายแก่ขุนไกรได้ ตัวขุนไกรรำลึกได้ว่าหากตัวเองไม่ตาย จะเป็นการขัดพระราชอาญา พระเจ้าอยู่หัวตรัสให้ตายก็ต้องตาย เพราะเป็นข้าแผ่นดินของพระองค์ ขุนไกรจึงร่ายพระคาถาปล่อยของที่คุ้มกายออกจากตัว ยอมให้เพชฌฆาตประหารชีวิต ส่วนตัวขุนแผนนั้นมีการกล่าวถึง วิชาสะเดาะกลอน มนต์สะกดให้คนหลับทั้งเรือน ตอนขึ้นไปหานางวันทอง วิชามหาระรวย วิชาการทำดาบฟ้าฟื้น วิชาการทำพรายกุมาร และวิชาปราบพยศม้าสีหมอก
เราจะเห็นได้ว่าในสมัยโบราณกาลนิยมการลงอักขระเลขยันต์ศึกษาวิชาอาคมกันมาก มีการมอบตัวเข้าเป็นศิษย์เพื่อศึกษาหาความรู้ การสักลงอักขระเลขยันต์ต่างๆ มักนิยมลงหัวใจคาถาเป็นรูปสัญลักษณ์ต่างๆ เช่น หนุมาน ฤาษี เสือเผ่น หรือเก้ายอด ใช้ในทางอยู่ยงคงกระพัน ส่วนด้านเมตตามหานิยมก็นิยมใช้รูปหงส์ และนกสาริกา หัวใจตัวนะต่างๆ นอกจากนั้นก็มีพวกเครื่องรางของขลัง จะเป็นพวกเสื้อยันต์ ผ้าประเจียด ผ้ายันต์ ตะกรุด พิศมร ลูกสะกด การกินว่าน อาบน้ำว่าน แต่คนสมัยก่อนนิยมการสักยันต์ลงบนร่างกายมากกว่า เพราะสะดวกในการพกพาติดตัว ไม่ต้องกลัวการหลงลืม หรือตกหล่นสูญหาย
มาถึงยุคปัจจุบัน วิชาการลงอักขระเลขยันต์ยังไม่หายสาบสูญไปดังที่เราจะพบได้นั่นคือ หลวงพ่อเปิ่น แห่งวัดบางพระ อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ผู้คนต่างยกย่องให้ท่านเป็นเทพเจ้าแห่งลุ่มแม่น้ำนครชัยศรี
หลวงพ่อเปิ่น ท่านมีชื่อเสียงโด่งดังมานานแล้ว ตั้งแต่ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดโคกเขมา ประชาชน ทหาร ตำรวจ รู้จักท่านดี ต่างพากันมาให้ท่านลงอักขระสักยันต์ให้ เพื่อเป็นเสมือนเกราะคุ้มครองภัย พวกแม่ค้า พ่อค้า นักธุรกิจ เจ้าของโรงงานต่างพากันมาให้ท่าน ลงอักขระ เลขยันต์ ลงนะหน้าทองให้เพื่อเป็นเมตตามหานิยม ค้าขาย มหาโชค มหาลาภ
คนส่วนมากที่เข้าหาหลวงพ่อ จะแบ่งออกเป็น ๒ พวกคือ พวกที่ต้องการสิ่งของป้องกันตัวให้แคล้วคลาดปลอดภัย พวกนี้นิยมการสักอักขระเลขยันต์
อีกพวกหนึ่งส่วนมากเป็นพวกแม่ค้า พ่อค้า นักธุรกิจ เจ้าของกิจการ โรงงาน มาเพื่อขอให้ ลงนะหน้าทอง สาลิกาลิ้นทอง เพื่อให้ธุรกิจ กิจการ การค้า เจริญรุ่งเรือง ทำมาค้าขึ้น มีโชคมีลาภ มีเมตตามหานิยม ใครเห็นใครรัก ใครเห็นใครชอบ
จากกิตติศักดิ์ชื่อเสียงความเก่งกล้าในพุทธาคม ไสยเวทย์ ของหลวงพ่อเปิ่น ทำให้ทุกวันนี้ประชาชนทุกสารทิศ ต่างเข้ามากราบนมัสการหลวงพ่อ พร้อมทั้งบริจาคทรัพย์ ร่วมทำบุญกุศลสร้างศาสนะสาธารณะประโยชน์ร่วมกับท่านเป็นจำนวนมาก
หลวงพ่อเปิ่นท่านได้ตรากตรำรับแขกญาติโยมที่มาหาท่าน อย่างเสมอภาคเท่าเทียมกัน แววตาของหลวงพ่อ สงบเยือกเย็นไม่ยินดียินร้ายเต็มเปี่ยมไปด้วยเมตตาบารมี โดยหลวงพ่อยังคงยึดถือตำราจากบูรพาจารย์ตั้งแต่สมัยโบราณ ในการ ลงนะหน้าทอง ซึ่งเป็นวิชาสุดยอดทางด้านเมตตามหานิยม มหาโชค มหาลาภ ผู้ที่ได้ไปต่างทำมาค้าขึ้น พลังอันเปี่ยมล้นก็ผ่านแผ่นทองคำเปลว เข้า ไปในหน้าผาก ให้รู้สึกถึงพลังอันเยือกเย็นที่แผ่ซ่านเข้าไปทุกขุมขนจนขนลุกซู่
การลงนะหน้าทองของหลวงพ่อเปิ่นที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากบูรพาจารย์ชื่อดังหลายสำนัก กล่าวได้เลยว่า หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ สุดยอดที่สุดในเมืองไทย ก็ว่าได้ การลงนะหน้าทองส่วนมากนิยมนำทองคำเปลว ๑๐๐ เปอร์เซ็น มาลง
การลงนะหน้าทองมีการลง ตั้งแต่ ๑ แผ่น ๓ แผ่น ๕ แผ่น หรือ ๙ แผ่นก็ได้ หลวงพ่อท่านจะเป่าทองให้เข้าไปในหน้าผากจนทองหายไป ว่ากันว่าทองนี้จะติดตัวผู้ที่ได้ไปจนวันตาย
ปัจจุบัน พระครูอนุกูลพิศาลกิจ ( เจ้าอาวาส ) เป็นลูกศิษย์ที่หลวงพ่อเปิ่นได้ถ่ายทอดวิชาให้ทุกอย่างเป็นผู้ลงนะหน้าทองและเป่าครอบแก่ลูกศิษย์ที่มาสัก ซึ่งความเข้มขลัง พลังแห่งพุทธคุณความศักดิ์สิทธิ์ยังเหมือนเดิมทุกประการ

 

นะหน้าทอง
อักขระยันต์
ลงอาคม
สาลิกาลิ้นทอง
เมตตามหานิยมอันนี้เพื่อกามรมย์จริงๆ
ใช้วิชาไสยเวทย์ทำพิธีกรรม

เป็นวิชาสกปรกเพื่อความทุกข์เข้ามาเยือน

หลวงพ่อ พระครูทั้งหลาย

ท่านไม่ใช่ผู้ทรงศีลนะ

ผู้คนมักหลงงมงายหวังพึ่งพา

ที่จริงแล้วเป็นการให้โทษมากกว่า

 

โอ....มองต่างมุม
เจตนาแต่ละคนแต่ละท่านเป็นเรื่องสำคัญ....
เรา...ท่าน....ต่างก็ไม่รู้เจตนา...
ว่ากันไปมา....อาจจะเกิดบาปได้ไม่รู้ตัว
ไม่รู้ก็กลางกลางดีกว่าครับ

 

คุณ Stefaคับ
สิ่งที่คุณพูดอะคับพูดไรหัดคิดมั่งก็ได้นะคับ ผมเป็นคนนึงที่เป็นหลานศิษย์หลวงปู่เปิ่นวัดบางพระนะคับ
คุณรู้ไหมครับว่าของที่หลวงปู่ท่านได้ให้ลูกศิย์อะเพื่ออะไร
แล้วคุณรู้ไหมว่าของพวกที่คุณว่าเพื่อกามรมณ์นะเขามีข้อห้ามอะไรมั่ง ถ้าคุณรู้ดีคุณคงไม่พูดแบบนั้นหรอกคับ
สิ่งที่คุณกำลังดูถูกอยู่รู้ไหมว่ามันเป็นสิ่งที่บรรพบุรุษของคุณๆผมๆต่างเชื่อถือมาตั้งแต่สมัยโบราณ ทุกชนชั้นต่างก็ให้ความศรัทธาเรื่องพวกนี้ไม่ว่าจะเป็นชาวบ้าน ถึงพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ต่างก็ให้ความสำคัญกับเรื่องพวกนี้
บางอย่างวิทยาศาสตร์ก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้หรอกคับ
ตัวผมเองเรียนสายวิท-คณิตผมเองก็ยังเชื่อเรื่องพวกนี้เพราะเป็นสิ่งที่บรรพบุรุษของเราเองได้อุส่ามอบให้ไว้
แล้วที่ผมไม่ชอบมากที่สุดคือ คุณมาล่วงเกินบูรพาจารย์ของพวกผมทำไมคับ
ที่คุณว่าหลวงพ่อ พระครูทั้งหลายไม่ใช่ผู้ทรงศีลอะ คุณเอาส่วนไหนของสมองคิดครับ คุณทราบได้ไงคับว่าท่านไม่ทรงศีล คุณไม่ควรพูดลอยๆอย่างนี้เพราะคุณเองก็ยังไม่รู้ดี
ถ้าคุณอายุเกิน25นี่ก็ควรพิจารณาตัวเองหน่อยนะคับ
ผมอายุ15ยังมีความคิดมากกว่าคุณอีก

 

เมื่อมีความรู้มีประสบการณ์น้อย ไม่ควรออกมาวิจารณ์ตำหนิ พระคาถาหลายๆบทถูกนำมาจากพุทธโอวาทขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า การที่มนุษย์มีศรัทธาในเรื่องเหนือโลก เรื่องปาฏิหารย์เพราะทุกผู้ทุกนามยังมีกิเลสทั้งสิ้น แต่ก็คงไม่ใช่เพียงเพื่อปราถนาในเรื่องเพศเพียงอย่างเดียว มีมนุษย์มากมายต้องการเป็นที่รัก ที่พอใจ ของคนทั้งหลาย เพราะไม่ต้องการมีศัตรู ต้องการมีมิตร ต้องการการดำเนินชีวิตอย่างไม่มีอุปสรรค นะหน้าทอง ถ้าเพียงนำทองมาปิดที่หน้าแล้วใช้มือคลึงจนทองหายไปก็ไม่น่าเลื่อมใสนัก สมัยก่อนมีหลวงพ่อปานวัดบางนมโค ท่านลงนะหน้าทอง ลงยันต์เกราะเพชร โดยอาศัยวิชานะปัดตลอด โดยตัวท่านจะไม่แตะต้องผู้ที่มาขอเลย ยุคต่อมาที่เห็นน่าเชื่อถือ คือหลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม ท่านจะใช้ทองเต็มแผ่น ที่ยังมีกระดาษหุ้มอยู่ปิดตรงหน้าผากแล้วแล้วใช้มือตบเมื่อเปิดกระดาษออกจะไม่พบแผ่นทองเหลืออยู่เลย และสิ่งที่ท่านสอนสำหรับผู้ไปให้ท่านลง นะหน้าทองก็เกี่ยวกับศีลห้าทั้งสิ้น ไม่เคยบอกแม้แต่ครั้งเดียวว่าจะมีผลเป็นพิเศษกับต่างเพศ เพียงแต่ท่านบอกว่าเมื่อมีนะหน้าทองก็ต้องพยายามทำตามที่ท่านสอนและให้จิตมีเมตตาเป็นหลัก วิชาคุณไสย ที่พูดว่าสกปรกตามที่คุณพูดถึง ส่วนมากจะเกิดจากการกระทำของพวกฆราวาสที่ตั้งตัวเป็นอาจารย์หลอกลวงเอาเงินเอาตัวผู้ที่ไร้สติมากกว่า พระเกจิอาจารย์ทั้งหลายท่านถือศีล 227 ข้อ คุณถือได้สักเท่าไรในศีลห้า ลองคิดก่อนออกมาแสดงความเห็นอย่างขาดสติ ไม่รู้อะไรจริงไม่มีข้อมูลอย่าพูดเพราะมันเป็นความเชื่อของคุณคนเดียว[QUOTE=stefa]นะหน้าทอง
อักขระยันต์
ลงอาคม
สาลิกาลิ้นทอง
เมตตามหานิยมอันนี้เพื่อกามรมย์จริงๆ
ใช้วิชาไสยเวทย์ทำพิธีกรรม

เป็นวิชาสกปรกเพื่อความทุกข์เข้ามาเยือน

หลวงพ่อ พระครูทั้งหลาย

ท่านไม่ใช่ผู้ทรงศีลนะ

ผู้คนมักหลงงมงายหวังพึ่งพา

ที่จริงแล้วเป็นการให้โทษมากกว่า[/QUOTE]

 

คนห้อยพระแต่ใจไม่เคยนึกถึงธรรมะก็ไร้ค่า คนมีของสักมาไม่มีคุณธรรมก็ของเสื่อม
คนมีอำนาจแต่ไม่คิดทำบุญก็ไร้ซึ่งบารมี ใครจะวิจารณ์กันอย่างไรก็ช่วงหากเรามีปัญญาต้องแยกแยะแก่นแท้ของการมีของมงคลในตัว ระดับมันสมองของคนนั้นไม่เท่ากันอย่าได้ถือสาหาความกันเลยคนบางคนที่ไม่ใช่ชาวพุทธเขาเคยสบประมาทเรามากกว่านี้อย่าได้ถือสาสิ่งที่เราต้องค้นหาคือหลักธรรมะต่างหากค้นไปเพื่อใช้ในชีวิตให้พ้นทุกข์ได้มากที่สุด สิ่งที่เป็นเมตตามหานิยมที่สุดคือคิดดี พูดดี และทำดีนี่แหละคนจะเมตตาสงสารและเป็นเสน่ห์ที่เยี่ยมที่สุด ทุกความเชื่อนั้นจะเชื่อได้หรือไม่ต้องมีเหตุผลและข้อพิสูจน์และต้องถามตัวเองว่าของเหล่านั้นมีไว้เพื่ออะไร

 

คนห้อยพระแต่ใจไม่เคยนึกถึงธรรมะก็ไร้ค่า คนมีของสักมาไม่มีคุณธรรมก็ของเสื่อม
คนมีอำนาจแต่ไม่คิดทำบุญก็ไร้ซึ่งบารมี ใครจะวิจารณ์กันอย่างไรก็ช่วงหากเรามีปัญญาต้องแยกแยะแก่นแท้ของการมีของมงคลในตัว ระดับมันสมองของคนนั้นไม่เท่ากันอย่าได้ถือสาหาความกันเลยคนบางคนที่ไม่ใช่ชาวพุทธเขาเคยสบประมาทเรามากกว่านี้อย่าได้ถือสาสิ่งที่เราต้องค้นหาคือหลักธรรมะต่างหากค้นไปเพื่อใช้ในชีวิตให้พ้นทุกข์ได้มากที่สุด สิ่งที่เป็นเมตตามหานิยมที่สุดคือคิดดี พูดดี และทำดีนี่แหละคนจะเมตตาสงสารและเป็นเสน่ห์ที่เยี่ยมที่สุด ทุกความเชื่อนั้นจะเชื่อได้หรือไม่ต้องมีเหตุผลและข้อพิสูจน์และต้องถามตัวเองว่าของเหล่านั้นมีไว้เพื่ออะไร

 

ไม่สมควรลงที่หน้าผาก

 

นะหน้าทองนั้นลงที่หน้าผาก เหมาะที่สุดแล้วครับ เพราะเป็นวิชาเพื่อการเสริมราศี (ออร่า) บนใบหน้า ใช้เพื่อเมตตา คนโบราณเขาได้กลั่นกรองภูมิรู้มานานหลายร้อยปีครับ บางอย่างเราเองยังเข้าไม่ถึง พึงสำเหนียกรับฟังและคัดกรองแต่คุณประโยชน์ครับ

 

หลวงพ่อเปิ่นท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อโอภาสี วิชาเป่าทองนี้หลวงพ่อโอภาสี(ขรัวหน้าปาน บรมครูหลวงปู่เทพโลกอุดรองค์ที่5)ท่านได้สอนให้เมื่อครั้งหลวงพ่อเปิ่นออกธุดงค์

 

เป่าแล้วมีแต่ความสิริมงคล

 

ถึงผมจะไม่เคยลงนะหน้าทองมาก่อนนะครับ แต่ผมก็เชื่อในเรื่องพวกนี้ และเชื่อมั่นเหลือเกินว่า ผู้คนส่วนมากที่อยู่ในเว็ปนี้ หรือคนส่วนใหญ่ในประเทศไทยก็ให้ความนับถือ และศรัทธาสิ่งเหล่านี้ไม่มากก็น้อย แต่การลบหลู่ดูหมื่นสิ่งที่บรรพบุรุษเราอุตส่าห์สืบทอดมาเป็นรุ่นๆ เพื่อให้พวกเราได้มีความเป็นไทย และหวังให้เราสืบทอดต่อๆไป เพื่อที่บรรพบุรุษจะได้ไม่เหนื่อยเปล่า ผมขอบอกเลยว่าผมไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งว่าพระเหล่านี้ไม่ใช่ผู้ทรงศีล พระเกจิอาจารย์ก่อนที่จะทำของดีหรือลงของดีให้ใคร พระเกจิอาจารย์ผู้นั้นก็ต้องดำรงอยู่ในศีลในธรรมเสียก่อนเป็นอันดับแรกเลยครับ มิเช่นนั้นของดีที่ให้ไปหรือลงให้ไปก็ไม่มีความขลังหรอกครับ เป็นแค่เครื่องประดับธรรมดาๆซะมากกว่า ผมก็ไม่ได้เป็นลูกศิษย์ของพระองค์ไหน หรือหลวงพ่อองค์ไหนหรอกนะครับ เพราะผมเป็นร่างทรง จำเป็นต้องถือพราหมณ์ และถืออนุตตรธรรม ไม่เคยไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อองค์ไหนสักที แต่สิ่งเหล่านี้ถ้าเราไม่เชื่อ ก็อย่าปากพร่อยไปลบหลู่ก็จะเป็นการดีนะครับ เพราะเรื่องพลังเร้นลับเรื่องลึกลับ วิญญาณ ผี เทวดา หรือสิ่งที่เหนือธรรมชาติ ผมก็สัมผัสมาเยอะแล้วครับ ฝากไว้ให้คิดด้วยนะครับ คุณ stefa..........

 

ระวังของเข้าตัวนะครับ ผมก็ลูกศิษย์คนหนึ่ง รู้ไหมครับว่าเพียงแค่คุณอ่าน คาถาหรือแค่เห็นผ่านตาของก็สามารถเข้าตัวได้ อยากลองไหมล่ะ