ปิดรับบริจาค สำเร็จแล้ว... เชิญชมภาพรูปหล่อ ลป.ญาท่านสวน (ขนาดเท่าองค์จริง) วัดนาอุดม อุบลฯ

ในห้อง 'พระพุทธรูป - วิหารทาน - สิ่งก่อสร้าง' ตั้งกระทู้โดย Noo Norway, 29 มิถุนายน 2009.

  1. Noo Norway

    Noo Norway เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    23,623
    ค่าพลัง:
    +82,120
    ขอขอบพระคุณมากค่ะ... ถือเป็นความโชคดีของหนูจริงๆ
     
  2. Noo Norway

    Noo Norway เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    23,623
    ค่าพลัง:
    +82,120
    มาต่อกันด้วยประสบการณ์ที่หนูได้รับความเมตตาจากหลวงปู่ค่ะ

     
  3. Noo Norway

    Noo Norway เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    23,623
    ค่าพลัง:
    +82,120
    พี่สมาชิกท่านหนึ่งได้ไปทำบุญที่วัดนาอุดมมาและได้นำภาพความคืบหน้าในการลงเสาของพระธาตุเจดีย์ที่กำลังดำเนินการสร้างอยู่ค่ะ

    ขอขอบคุณพี่ท่านนี้เป็นอย่างสูงค่ะ

    [​IMG]
     
  4. Noo Norway

    Noo Norway เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    23,623
    ค่าพลัง:
    +82,120
    เหรียญหล่อ 3 บูรพคณาจารย์ สร้างปี 2542 เหรียญรุ่นนี้มีเพียง 2 เนื้อคือเนื้อเงินและเนื้อทองแดง

    ด้านหน้าเป็นรูปครูบาอาจารย์ของท่าน 3 องค์คือ "ท่านสำเร็จลุน แห่งนครจำปาศักดิ์ ประเทศลาว ท่านกรรมฐานแพง และท่านอาจารย์หม่อน"

    ด้านหลังเป็นรูปหลวงปู่นั่งเต็มองค์ ด้านขอบเหรียญเขียนว่า "บูชาครู... อุดมโภคทรัพย์... ๒๕๔๒ ขอบด้านล่างเขียนว่า "ญา่ท่านสวน ฉันทโร"

    โชว์นะคะไม่มีให้เช่าบูชาค่ะ

    ราคาบูชาออกจากวัดองค์ละ 300 บาทแต่ตอนนี้เห็นให้เช่าประมาณองค์ละ 4-5,000 บาทค่ะ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  5. Noo Norway

    Noo Norway เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    23,623
    ค่าพลัง:
    +82,120
    อีกเหรียญหนึ่งที่สร้างพร้อมเหรียญหล่อ 3 บูรพคณาจารย์ คือพระกลีบบัวรูปเหมือน หลังศรีปราชญ์ เหรียญรุ่นนี้มี 3 เนื้อ คือเนื้อเงิน เนื้อทองแดง และเนื้อผง สร้างเมื่อปี 2542 เมื่อหลวงปู่มีอายุครบ 90 ปีตามคำดำริของหลวงปู่เอง

    หลวงปู่ท่านอยากให้ลูกศิษย์ของท่านมีความรู้ความฉลาดเหมือนเด็กนักเรียนในตัวเมือง เด็กนักเรียนแถวต่างจังหวัดที่ทุรกันดารนั้นจะมีโอกาสได้เล่าเรียนอย่างเต็มที่เหมือนเด็กนักเรียนในตัวเมืองนั้นน้อยมาก

    ดังนั้นหลวงปู่จึงอยากให้สร้างรุ่นนี้เป็นกรณีพิเศษ เด็กนักเรียนแถววัดนาอุดมจะแขวนพระรุ่นนี้กันเยอะมากค่ะ เพราะมีประสบการณ์ทำให้เด็กนักเรียนมีหัวสมองที่ปลอดโปร่ง มีความจำดีขึ้นและผลสอบออกมามีเกรดที่ดีเกินความเป็นจริงที่จะเป็นไปได้

    พระกลีบบัวรูปเหมือน หลังศรีปราชญ์นี้ด้านหน้าเป็นรูปหลวงปู่นั่งเต็มองค์ ที่ขอบด้านข้างมีตัวอักขระและตอกโค้ดยันต์ 4 ตัว

    ด้านหลังเป็นรูปศรีปราชญ์นั่งห้อยเท้าข้างซ้าย ที่ขอบด้านข้างเขียนว่า "ญา่ท่านสวน ฉันทโร ๙๐ วัดนาอุดม จ.อุบลฯ" ที่ขอบด้านล่างเขียนว่า "จอมกวี ศรีปราชญ์"

    โชว์นะคะไม่มีให้เช่าบูชาค่ะ

    ราคาบูชาออกจากวัดองค์ละ 300 บาทแต่ตอนนี้เห็นให้เช่าประมาณองค์ละ 4-5,000 บาทค่ะ

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  6. Noo Norway

    Noo Norway เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    23,623
    ค่าพลัง:
    +82,120
    ล็อกเกตสีขาวปี 2546 ด้านหลังบรรจุเกษาเพชร เกษาธาตุ และผงพุทธคุณ

    มูลเหตุที่เรียกเกษาเพชรนี้ไม่ใช่เกษากลายเป็นเพชรนะคะ ก็เป็นเส้นเกษาธรรมดานี่แหละค่ะแต่ที่เรียกว่าเกษาเพชรเนื่องจากว่าศิษย์สายท่านสำเร็จลุน แห่งนครจำปาศักดิ์ ประเทศลาว และท่านกรรมฐานแพงนั้นสามารถอธิษฐานจิตให้เส้นเกษาแข็งดุจเพชรได้ ของมีคมหรือใบมีดโกนก็ไม่สามารถที่จะตัดขาดได้ และองค์หลวงปู่ญาท่านสวนท่านสามารถทำได้จริงๆค่ะ

    เรื่องนี้เกิดขึ้นโดยจากการขอชมบารมีจากพระลูกศิษย์ของท่านที่ได้ปลงเกษาให้หลวงปู่เป็นประจำถ้ามีโอกาส วันหนึ่งพระลูกศิษย์รูปนั้นได้ขอชมบารมีว่าเส้นเกษาเพชรเป็นยังงัยเพราะเคยแต่ได้ยินไม่เคยเห็นกับตาตัวเองสักที ขอหลวงปู่เมตตาแสดงให้ประจักษ์สายตาด้วย

    หลังจากหลวงปู่ได้ยินคำขอจากพระลูกศิษย์ หลวงปู่ท่านก็นั่งนิ่งไม่ตอบรับและไม่ปฏิเสษ เมื่อพระลูกศิษย์เห็นหลวงปู่ไม่บอกอนุญาตจึงคิดว่าหลวงปู่ไม่ต้องการให้รู้ให้เห็น จึงเริ่มลงมือปลงเกษาท่านอย่างที่เคยทำทุกครั้ง

    แต่ปรากฏว่าครั้งนี้ไม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมาเพราะเส้นเกษาของหลวงปู่มีความแข็งมาก ใบมีดโกนก็ไม่สามารถที่จะตัดขาดได้ พระลูกศิษย์รูปนั้นคิดว่าอาจจะเป็นเพราะว่าใบมีดโกนเก่าจึงไม่มีความคม เมื่อคิดอย่างนั้นแล้วท่านจึงเปลี่ยนใบมีดโกนใหม่ 2 ใบก็แล้ว 3 ใบก็แล้ว เปลี่ยนใหม่ถึง 6 ครั้งแต่ก็เหมือนเดิม

    แทนที่เส้นเกษาจะขาดตามความเป็นจริง แต่นี่ไม่ เมื่อกดใบมีดโกนลงไปจะมีแต่เสียง "เอี๊ยดๆ" เหมือนเมื่อนำของแข็งหรือของมีคมถูกับกระจก เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนั้นพระลูกศิษย์รูปนั้นจึงฉุกคิดได้ว่านี่คือ "เกษาเพชร" ที่ท่านอยากเจอกับตาตัวเอง หลวงปู่ท่านได้เมตตาแสดงให้เห็นแล้ว

    พระลูกศิษย์รูปนั้นจึงกราบขอบคุณหลวงปู่ที่เมตตา จากนั้นหลวงปู่ท่านได้กล่าวว่า "ทีหลังอย่าขออย่างนี้อีก"

    กับคำพูดประโยคนี้ดิฉันเข้าใจความหมายได้ดีค่ะ เพราะหลวงปู่ท่านไม่ชอบแสดงอะไรโอ้อวดทั้งสิ้น

    ใบมีดโกนทั้ง 6 ใบนั้นพระลูกศิษย์รูปนั้นได้พกติดตัวตลอดเป็นที่ระลึกในความเมตตาจากหลวงปู่

    โชว์นะคะไม่มีให้เช่าบูชาค่ะ

    ราคาบูชาออกจากวัดอันละ 300 บาทแต่ตอนนี้เห็นให้เช่าประมาณอันละหลายพันบาทค่ะ

    [​IMG]<!-- google_ad_section_end -->
     
  7. Noo Norway

    Noo Norway เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    23,623
    ค่าพลัง:
    +82,120
    "เหรียญรุ่นเทพยินดี ปี 2536"

    มีอยู่วันหนึ่งสมาคมนักข่าวแห่งจังหวัดอุบลราชธานีได้ขออนุญาตหลวงปู่ญาท่านสวนสร้างเหรียญถวายเพื่อแจกจ่ายแก่ญาติโยมที่ได้มาร่วมทำบุญสร้างศาลาการเปรียญหลังใหม่

    หลวงปู่ท่านได้อนุญาตและแนะนำให้ติดต่อพี่ชัยวิทย์ให้เป็นผู้ออกแบบและดำเนินการให้และเป็นผู้ตัดสินใจได้เลย ถือว่าเป็นเหรียญรุ่นฉลออายุครบรอบ 84 ปี พี่ชัยวิทย์ได้ออกแบบเป็นเหรียญรูปไข่ครึ่งองค์หน้าตรง ด้านหน้าจารึก "ครบรอบ ๘๔ ปี" "ญาท่านสวน ฉันทโร" ด้านหลังเป็นยันต์แก้วสารพัดนึก "วัดนาอุดม อ.ตาลสุม จ.อุบลราชธานี ๒๕๓๖" "คณะศิษย์สร้างถวาย"

    หลังจากพี่ชัยวิทย์ได้ส่งแบบไปให้โรงงานแกะบล็อค ปรากฏว่าคืนนั้นพี่ชัยวิทย์ฝันว่ามีผู้หญิงท่านหนึ่งเดินทางมาหาและมายืนอยู่เบื้องหน้าในความรู้สึกตอนนั้นพี่ชัยวิทย์บอกว่าดูลักษณะท่านเป็นผู้มีบุญอายุประมาณ 60 กว่าๆใส่ชุดสีขาว ผมหยักโสกยาวถึงไหล่ ใบหน้าอิ่มเอิบยิ้มแย้มแจ่มใส ดูเหมือนเป็นผู้ใจดีมีเมตตาแต่แปลกตรงที่ว่าร่างกายของผู้หญิงท่านนี้มีแสงสว่างเปร่งประกายออกจากทั่วบริเวณรอบๆร่างกายของท่าน เป็นแสงสีขาวแผ่รัศมีออกมาสว่างไสวมาก

    ผู้หญิงท่านนี้ได้พูดกับพี่ชัยวิทย์โดยไม่ขยับปากแต่เป็นเสียงพูดออกจากจิตของท่านด้วยน้ำเสียงกังวานเยือกเย็นและนุ่มนวลมาก ท่านได้พูดว่า "ฉันชื่อพิมพานะ ฉันรู้จักกับหลวงปู่สวนและหลวงปู่สวนก็รู้จักฉัน" ฉันมาขอร่วมอนุโมทนาและแสดงความยินดีด้วยนะีที่สร้างเหรียญถวายหลวงปู่สวน ผู้หญิงท่านนี้กล่าวเพียงเท่านี้แล้วก็เดินจากไป

    รุ่งเช้าพี่ชัยวิทย์ได้โทรไปหาท่านผู้นำสมาคมนักข่าวและเล่าความฝันให้ฟัง จากนั้นจึงบอกให้ท่านผู้นำสมาคมนักข่าวเดินทางไปกราบขออนุญาตหลวงปู่ให้ตั้งชื่อเหรียญรุ่นนี้ว่า "รุ่นเทพยินดี" เพื่อเป็นสิริมงคล หลังจากหลวงปู่ได้ฟังหลวงปู่ท่านหัวเราะและบอกว่า "เออดีๆรุ่นเทพยินดี"

    พี่ชัยวิทย์จึงโทรไปสั่งโรงงานแกะบล็อคเพิ่มข้อความลงไปเป็น "รุ่นเทพยินดี" ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา และทุกครั้งที่พี่ชัยวิทย์จะกระทำการใดๆ็ก็จะเอ่ยนามของท่านให้มาช่วยและร่วมอนุโมทนาทุกครั้งและก็จะสำเร็จทุกครั้งไป

    เหรียญรุ่นเทพยินดีนี้เคยมีคนมาขอยืมบล็อคจากหลวงปู่และขออนุญาตไปพิมพ์เป็นเนื้อทองคำ 1เหรียญเพื่อจะนำมาแขวนบูชาติดตัว แต่เมื่อหลวงปู่ได้อนุญาตให้ทำตามนั้น คนนั้นกลับเกิดความโลภผิดสัจจะที่ให้ไว้กับหลวงปู่โดยพิมพ์เนื้อทองแดงเพิ่มอีกจำนวนหนึ่ง หลังจากนั้นคนนั้นก็ประสบพบเจอแต่เรื่องเลวร้ายตลดมา

    เมื่อพี่ชัยวิทย์รู้ข่าวจึงแนะนำไปว่าให้นำเหรียญทั้งหมดที่พิมพ์เพิ่มไปถวายหลวงปู่และกราบขอขมาท่านที่ได้ผิดสัจจะหรือไม่ก็ให้นำเหรียญทั้งหมดไปใช้เป็นชนวนมวลสารในการสร้างพระเพื่อถวายวัด เผื่อทุกอย่างจะดีขึ้นบ้างแต่ไม่รู้ว่าคนนั้นได้ทำตามที่พี่ชัยวิทย์แนะนำหรือเปล่า

    อย่างนี้ก็ต้องถือว่าบุญใครบุญมัน กรรมใครกรรมมัน

    โชว์นะคะไม่มีให้เช่าบูชาค่ะ

    [​IMG]

    [​IMG]

    ขอขอบคุณคุณ Jirang สำหรับรูปภาพค่ะ<!-- google_ad_section_end -->
     
  8. Noo Norway

    Noo Norway เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    23,623
    ค่าพลัง:
    +82,120
    ต่ออีกนิด... "เหรียญรุ่นเทพยินดี"

    มีลุงท่านหนึ่งซึ่งบ้านของท่านอยู่ถัดไปจากบ้านนาทม ใกล้ๆวัดนาอุดม ได้ถามความเป็นมาว่าเป็นอย่างไรถึงได้ตั้งชื่อเหรียญว่า "รุ่นเทพยินดี" เมื่อพี่ชัยวิทย์ได้เล่าให้ฟัง ลุงท่านนั้นก็บอกว่าลุงก็ฝันเหมือนกันและเล่าความฝันให้ฟังว่าเห็นหลวงปู่ญาท่านสวนขี่ม้าขาวขึ้นไปฉันอาหารอยู่บนก้อนเมฆ ขณะที่ฉันอาหารอยู่นั้นม้าขาวก็ยังยืนรอหลวงปู่อยู่คล้ายกับว่าเป็นพาหนะประจำตัวของท่าน ส่วนตัวลุงเองนั้นได้แต่มองแหงนหน้าขึ้นไปมองบนท้องฟ้า

    จากนั้นก็เห็นเทวดา (ความรู้สึกในขณะนั้น) ยืนอยู่เบื้องล่างเหมือนกัน และในมือของเทวดานั้นได้ถือวัตถุอย่างหนึ่ง ลุงท่านนั้นจึงถามเทวดาว่า "ที่ท่านถืออยู่นั้นคืออะไร" เทวดาองค์นั้นบอกว่า "นี่คือของวิเศษ" ของวิเศษนี้ได้ถวายหลวงปู่สวนแล้ว ถ้าไม่เชื่อพรุ่งนี้ไปกราบเรียนถามท่านดูก็แล้วกัน

    พอรุ่งเช้าลุงท่านนั้นก็ไปถามหลวงปู่จริงๆ เพราะอยากรู้ว่าจริงหรือไม่ ลุงท่านนั้นถามว่า "หลวงปู่ครับ เมื่อคืนนี้เทวดาท่านได้ถวายของวิเศษให้หลวงปู่ใช่ไหมครับ" เมื่อหลวงปู่ท่านได้ยินท่านเบิกตาโตพร้อมย้อนถามว่า "ไปรู้มาจากไหน" ลุงท่านนั้นกราบเรียนหลวงปู่ว่า "เทวดาบอก" เมื่อหลวงปู่ได้ยินเช่นนั้นก็นั่งยิ้มเฉยๆ ไม่ตอบรับไม่ปฏิเสธแต่ชวนคุยเรื่องอื่นแทน

    เมื่อลุงท่านนั้นได้รู้ว่าเหรียญรุ่นนี้จะใช้ชื่อว่า "รุ่นเทพยินดี" เลยถูกใจอย่างมาก<!-- google_ad_section_end -->
     
  9. Noo Norway

    Noo Norway เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    23,623
    ค่าพลัง:
    +82,120
    อนำประสบการณ์แห่งความเมตตาของหลวงปู่มาเล่าสู่กันฟังนะคะ

    ประสบการณ์ "อาตมาชื่อสวน"

    มีนายตำรวจท่านหนึ่งทำหน้าที่เป็นหน่วยลับทำงานปฏิบัติในพื้นที่ตะเข็บชายแดนไทย-ลาวแถวๆโขงเจียม นายตำรวจท่านนั้นเอาหมดทุกอย่างเป็นนักดื่มนักกิน สุรานารี เป็นอย่างนี้อยู่ประมาณ 3-4 ปี ทำให้มีปากเสียงกับภรยาหลายครั้ง

    คืนหนึ่งหลังจากออกปฏิบัติหน้าที่ก็ฝันไปว่าเห็นพระภิกษุชรารูปหนึ่งมาหา นายตำรวจท่านนั้นจึงเดินเข้าไปกราบ พระภิกษุชรารูปนั้นมีรูปร่างลักษณะค่อนข้างผอม ใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ดูเหมือนท่านมีเมตตาสูงมากๆ พระภิกษุชรารูปนั้นได้พูดกับนายตำรวจท่านนั้นด้วยน้ำเสียงอันนุ่มนวลและเยือกเย็นว่า โยมยังสบายดีอยู่หรือ ทำไมโยมจึงปฏิบัติตัวไม่อยู่ในศีลธรรม ประพฤติตัวดื่มเหล้าเมายา ลุ่มหลงแต่สิ่งที่เป็นอบายมุขซึ่งมีแต่สิ่งที่จะทำให้ชีวิตตกต่ำนำความเดือดร้อนมาสู่ครอบครัว ทำไมแต่ก่อนโยมก็เคยประพฤติปฏิบัติรักษาศีล สวดมนต์ไหว้พระเจริญสมาธิภาวนาอยู่เป็นเนืองนิจ ทำไมถึงได้เลิกเสียล่ะ ขอให้โยมกลับตัวเสียใหม่หันกลับมาปฏิบัติเช่นเดิมคือการรักษาศีล เจริญสมาธ สวดมนต์ภาวนาซึ่งจะเป็นหนทางที่จะทำให้ชีวิตของโยมและครอบครัวได้พบกับหนทางสว่าง

    เมื่อพระภิกษุชรารูปนั้นพูดจบทำให้นายตำรวจท่านนั้นอึ้งไปเลย (เพราะที่พระภิกษุชรารูปนั้นพูดเกี่ยวกับตัวท่านนั้นถูกทั้งหมด ท่านรู้ได้ยังงัย) ทำให้เกิดความซาบซึ้งจึงได้ก้มลงกราบด้วยจิตสำนึกผิด น้ำตาแทบจะไหล เกิดความปลาบปลื้มอย่างบอกไม่ถูก ก่อนพระภิกษุชรารูปนั้นจะเดินจากไปนายตำรวจท่านนั้นจึงถามว่าท่านคือใคร พระภิกษุชรารูปนั้นตอบว่า "อาตมาชื่อสวน"

    หลังจากนั้นนายตำรวจท่านนั้นจึงถามไถ่เรื่องราวเกี่ยวกับพระภิกษุชราที่ชื่อสวนแต่ก็ไม่มีใครรู้จัก จนกระทั่งได้ถามยายของภรรยาตัวเอง ยายท่านนั้นบอกว่ารู้จักซิ อยู่วัดนาอุดมนี่เอง เมื่อนายตำรวจท่านนั้นได้ยินเช่นนั้นก็ดีใจมากๆ และรีบหาโอกาไปกราบนมัสการท่านที่วัด

    เมื่อไปถึงนายตำรวจท่านนั้นถึงกับมีอาการปลื้มปิติอย่างบอกไม่ถูก เพราะพระที่ชื่อสวนคือพระภิกษุชรารูปที่ฝันเห็นนั่นเอง เมื่อนายตำรวจท่านนั้นเข้าไปกราบนมัสการหลวงปู่ หลวงปู่ท่านได้พูดขึ้นสั้นๆว่า "ดีแล้ว"

    หลังจากนั้นนายตำรวจท่านนั้นจะพาครอบครัวไปทำบุญกับหลวงปู่เป็นประจำค่ะ<!-- google_ad_section_end -->
     
  10. nishiki

    nishiki เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    522
    ค่าพลัง:
    +2,453



    มาจากกระทู้อ.เบิ้ม


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 ตุลาคม 2009
  11. Noo Norway

    Noo Norway เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    23,623
    ค่าพลัง:
    +82,120
    เห็นค่ะพี่หนึ่ง... ตรงเป๊ะเลย... เรารู้กันนะคะ... สาธุ...
     
  12. Noo Norway

    Noo Norway เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    23,623
    ค่าพลัง:
    +82,120
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 2 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 0 คน )


    </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>Noo Norway, อาณัติ

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ช่วงนี้พี่อาณัติเงียบหายไปนะคะ... สบายดีหรือเปล่าคะ... ได้ไปร่วมงานกฐินที่วัดมาหรือเปล่าเอ่ย ^__^
     
  13. Noo Norway

    Noo Norway เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    23,623
    ค่าพลัง:
    +82,120
    อนำประสบการณ์แห่งความเมตตาของหลวงปู่มาเล่าสู่กันฟังนะคะ

    ประสบการณ์ "สติ๊กเกอร์ช่วยชีวิต"

    มีพี่ท่านหนึ่งบ้านอยู่แถวปากเกร็ด นนทบุรี ซึ่งมีอาชีพขับรถแท็กซี่เป็นคนไม่ชอบห้อยพระติดตัว ได้รับสติ๊กเกอร์ติดหน้ารถของหลวงปู่ญาท่านสวนจาก คุณคงพรรณ เพียรไพศาลลิขิต ซึ่งรู้ว่าถ้ามอบเป็นพระเครื่องให้ก็คงจะไม่นำมาห้อยบูชาติดตัวจึงได้มอบสติ๊กเกอร์ให้ไว้ติดหน้ารถแท็กซี่เพื่อคุ้มครองปกปักรักษาเวลาทำมาหากิน พี่ท่านนั้นจึงรับไว้ด้วยความเกรงใจ

    วันหนึ่งพี่ท่านนั้นได้ขับรถไปทำธุระที่ จ.สุพรรณบุรี ในขณะที่ขับรถลงสะพานด้วยความเร็วยางหน้าเกิดระเบิด รถเสียหลักบังคับไม่อยู่พุ่งชนเสาไฟฟ้าข้างทางอย่างแรงจนเสียงดังสนั่นหวั่นไหว สภาพรถกระจกหน้าแตกละเอียด คอนโทรลหน้าขาดหลุดออกทั้งแถบ พวงมาลัยหักเป็น 2 ท่อนแกนพวงมาลัยตั้งชี้เด่มายังเบาะคนขับสภาพเละดูไม่จืด

    เมื่อพี่ท่านนั้นได้คลานออกจากรถแล้วก็ได้โทรหาหลานซึ่งอยู่ใกล้ๆบริเวณนั้นให้มารับซึ่งเป็นเวลาเดียวกันที่ไทยมุงได้มายืนลุมดูและช่วยกันหาศพแต่ก็หาไม่เจอ (จะเจอได้งัยก็คนยังไม่ตาย) เมื่อหลานของพี่ท่านนั้นมาถึงพี่ท่านนั้นจึงเดินไปหยิบสติ๊กเกอร์ในรถออกมาพร้อมทั้งบอกกับเหล่าไทยมุงว่าเขาคือคนขับเองแต่รอดตายมาได้เพราะตอนเกิดเหตุสติ๊กเกอร์ของหลวงปู่ญาท่านสวนซึ่งติดอยู่ที่ด้านซ้ายมือของคนขับได้ปลิวลอยมาติดที่กลางหน้าอกเขา

    ส่วนสภาพของรถนั้นเละจนเกินจะเยียวยาได้จึงต้องขายไปในราคาแค่ 20,000 บาท

    [​IMG]<!-- google_ad_section_end -->
     
  14. Noo Norway

    Noo Norway เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    23,623
    ค่าพลัง:
    +82,120
    อนำประสบการณ์แห่งความเมตตาของหลวงปู่มาเล่าสู่กันฟังนะคะ

    ประสบการณ์ "เอาด้วยเหรอ"

    ความเมตตาของพระอรหันต์ไม่มีขอบเขตจำกัดค่ะ ไม่ใช่เฉพาะกับลูกศิษย์ที่เป็นฆราวาสอย่างเดียวแต่กับลูกศิษย์ที่เป็นพระก็ด้วยเช่นกันค่ะ

    มีอยู่ครั้งหนึ่ง ท่านพระมหาอนันต์ ปัจจุบันเป็นเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งที่สุพรรณบุรีได้มีโอกาสไปกราบใ้ห้หลวงปู่ญาท่านสวนที่วัดนาอุดมกับพี่ชัยวิทย์และมีลุงท่านหนึ่งติดตามไปด้วย

    ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่พี่ชัยวิทย์จะขอความเมตตาใ้ห้หลวงปู่ท่านเจิมหน้าผากลงกระหม่อมให้ทุกครั้งที่ไปกราบ เมื่อหลวงปู่เจิมให้เสร็จแล้ว ลุงท่านที่ติดตามท่านพระมหาอนันต์เกิดความรู้สึกอยากจะลองให้หลวงปู่เจิมให้บ้าง จึงคลานเข้าไปหาหลวงปู่พร้อมพนมมือ หลวงปู่ค่อยๆบรรจงเจิมแป้งลงบนหน้าผาก พร้อมบริกรรมภาวนาเป่าลงไปอย่างช้าๆ

    ปรากฏว่าลุงท่านนั้นสะดุ้งเฮือกและมีอาการสั่นไปทั้งตัวคล้ายกับคนของขึ้น เมื่อหลวงปู่ท่านเจิมเสร็จแล้วลุงท่านนั้นถอยมานั่งใกล้ๆพี่ชัยวิทย์และบอกว่า "พลังจิตของหลวงปู่ญาท่านสวนสูงมาก ปกติตัวลุงเองก็ชอบแสวงหาครูบาอาจารย์และได้ไปกราบพระเกจิอาจารย์หลายรูปแล้วยังไม่มีองค์ไหนเป่าแล้วทำให้ลุงสะท้านไปทั้งตัวอย่างนี้เลย"

    ส่วนท่านพระมหาอนันต์ได้บอกกับพี่ชัยวิทย์ว่าปกติท่านก็มีครูบาอาจารย์อยู่แล้ว นอกจากครูบาอาจารย์ของท่านแล้วจะไม่เคยก้มศรีษะให้ใครทำอะไรเด็ดขาด เพราะถือว่าตนเองก็มีครูบาอาจารย์ดีอยู่แล้ว แต่เมื่อได้มาพบองค์จริงของหลวงปู่ญาท่านสวนแล้วเกิดความเลื่อมใสศรัทธาและเกิดความประทับใจในความเมตตาของหลวงปู่จึงยอมที่จะก้มศรีษะให้หลวงปู่เจิมหน้าผากเสมือนเป็นการยอมรับหลวงปู่ญาท่านสวนเป็นอาจารย์อีกองค์หนึ่ง

    ท่านพระมหาอนันต์จึงได้เข้าไปกราบหลวงปู่ใกล้ๆพร้อมกราบเรียนให้ท่านเจิมหน้าผากให้ หลวงปู่ท่านมองและพนมมือรับด้วยรอยยิ้มอันเปี่ยมล้นไปด้วยเมตตาธรรม หลวงปู่ท่านถามท่านพระมหาอนันต์ว่า "เอาด้วยเหรอ" ท่านพระมหาอนันต์ตอบรับเบาๆว่า "ครับหลวงปู่" แต่เป็นที่น่าแปลกใจที่หลวงปู่ท่านไม่ได้เจิมหน้าผากเหมือนกับคนอื่นกลับไปเจิมข้างๆบริเวณเหนือคิ้วด้านซ้าย เมื่อเจิมเสร็จขณะที่ทุกคนสงสัยอยู่นั้น หลวงปู่ท่านได้พูดกับท่านพระมหาอนันต์ว่า "ของเก่าเขาลงไว้แล้ว ลงอะไรไว้เหรอ" แต่ท่านพระมหาอนันต์ได้แต่อมยิ้มไม่ยอมตอบ

    ยังมีอีกหลายเรื่องที่แสดงถึงความเมตตาของหลวงปู่ี่ที่มีต่อลูกศิษย์ที่เป็นพระ จะทยอยนำมาเล่าสู่กันฟังนะคะ<!-- google_ad_section_end -->
     
  15. Noo Norway

    Noo Norway เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    23,623
    ค่าพลัง:
    +82,120
    อนำประสบการณ์แห่งความเมตตาของหลวงปู่มาเล่าสู่กันฟังนะคะ

    มีอยู่คราวหนึ่งมีพี่ท่านหนึ่งซึ่งเป็นลูกศิษย์ได้ไปบวชและจำพรรษาอยู่กับหลวงปู่ ญาท่านสวนเพื่อจะไปปรนนิบัติรับใช้ท่าน อยู่มาวันหนึ่งพระรูปนั้นได้มีธุระกลับไปเยี่ยมบ้านโยม บังเอิญอยู่บ้านโยมจนค่ำกลับมาถึงวัดนาุดมก็มืดค่ำแล้ว

    เมื่อพระรูปนั้นมาถึงกุฏิซึ่งท่านจำวัดอยู่กุฏิเดียวกันกับหลวงปู่ ปรากฏว่าหลวงปู่ ท่านนั่งคอยอยู่ เมื่อพระรูปนั้นมองไปยังที่ตนเองจำวัดก็ทำให้แปลกใจเพราะมีการกางมุ้งไว้อย่างเสร็จสรรพเรียบร้อย พระรูปนั้นจึงได้กราบเรียนถามด้วยความสงสัยว่าใครมากางมุ้งไว้ให้

    หลวงปู่ท่านหัวเราะและบอกว่าเราเอง ทำให้พระรูปนี้ถึงกับตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูกและนึกในใจว่าเราจะมาปรนนิบัติรับใช้ แต่หลวงปู่กลับมาปฏิบัติต่อเราเช่นนี้ ท่านไม่ถือตัว ถือยศถือศักดิ์ ไม่ได้คิดว่าเราเป็นอื่น หลวงปู่ท่านปฏิบัติเสมือนพ่อที่ดี ความห่วงใยที่มีต่อลูกนั้นหาคำบรรยายไม่ได้จริงๆ

    ท่านที่นับถือหลวงปู่เมื่อได้รู้อย่างนี้แล้วจะยังมีความลังเลสงสัยในความเมตตาของอีกหรือเปล่าคะ<!-- google_ad_section_end -->
     
  16. Noo Norway

    Noo Norway เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    23,623
    ค่าพลัง:
    +82,120
    อนำประสบการณ์แห่งความเมตตาของหลวงปู่มาเล่าสู่กันฟังนะคะ

    ประสบการณ์ "หลวงปู่เรียกฝน"

    มีอยู่ัวันหนึ่งท่านผู้ใหญ่บ้าน บ้านนาทมได้ีมีโอกาสเข้าไปกราบและสนทนากับหลวงปู่ญาท่านสวนถึงเรื่องต่างๆหลังจากสนทนาเสร็จแล้วท่านผู้ใหญ่บ้านก็ได้พูดเปรยๆกับหลวงปู่ว่า "ช่วงระยะนี้สภาวะอากาศไม่รู้เป็นอะไร ฝนฟ้าไม่ตกเลย น้ำก็จะไม่มีทำนา ถ้าฝนไม่ตกสงสัยปีนี้จะแย่"

    หลวงปู่ท่านยิ้มปนหัวเราะเบาๆบอกกับท่านผู้ใหญ่บ้านว่า "ลืม... ลืม อาตมาลืมสวดให้" ท่านผู้ใหญ่บ้านจึงกราบเรียนถามด้วยความสงสัยว่าหลวงปู่ลืมสวดอะไร หลวงปู่ก็ตอบว่า "เอ้า...ก็ลืมสวดเรียกฝนนะซิ" ท่านผู้ใหญ่บ้านจึงกราบเรียนถามอีกครั้งว่า "ที่แล้วๆมาหลวงปู่เรียกฝนให้ทุกปีเหรอครับ" หลวงปู่ท่านไม่ตอบได้แต่อมยิ้มตามสตายล์ของท่านแหละค่ะ

    และแล้วในค่ำคืนนั้นฝนก็ตกลงมาสร้างความชุ่มฉ่ำให้กับผืนดินท้องไร่ท้องนาแม้กระทั่งฝูงหมู่ปลาีที่อยู่ในลำห้วย หนองคลองบึงที่กำลังจะเหือดแห้งต่างก็ดีอกดีใจกระโดดโลดเต้นเมื่อพลอยได้รับอานิสงส์จากน้ำฝนที่หลวงปู่ท่านดลบันดาลให้เกิดและที่ดีใจมากที่สุดก็คือชาวบ้าน ชาวไร่ ชาวนา ที่กำลังตั้งตาคอยน้ำฝนอันก่อให้เกิดความความชุ่มฉ่ำอุดมสมบูรณ์ บนผืนไร่นา

    ลุงท่านหนึ่งชื่อลุงเป็กเคยเล่าให้พี่ชัยวิทย์ฟังว่าหลวงปู่ท่านมีความห่วงใยชาวบ้านมากเกี่ยวกับอาชีพความเป็อยู่เพราะชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพหลักก็คือ เกษตรกรรมซึ่งจะต้องอาศัยความอุดมสมบูรณ์ของผืนดินและแหล่งน้ำ

    ลุงเป็กเองไม่ใช่คนบ้านนาทม ท่านอยู่อำเภอพิบูลมังสาหารแต่จะชอบแวะเวียนมากราบหลวงปู่เป็นประจำ บางทีถ้ามีญาติโยมมานิมนต์หลวงปู่ หลวงปู่ก็จะให้ลุงเป็กติดตามไปด้วยเสมอ และลุงเป็กเองนี่แหละที่ได้มีโอกาสดูแลปรนนิบัติหลวงปู่อย่างใกล้ชิดทุกครั้งที่หลวงปู่เจ็บป่วย

    มีอยู่ครั้งหนึ่งลุงเป็กได้เดินทางไปช่วยงานในหมู่บ้านแห่งหนึ่งและขากลับจึงแวะมากราบหลวงปู่และได้นอนพักอยู่กับหลวงปู่ 1 คืน ลุงเป็กเล่าให้ฟังว่าคืนนั้นลุงเป็กเห็นหลวงปู่ลุกขึ้นมาพื่อที่จะจุดธูปเทียนไหว้พระที่หน้าโต๊ะหมู่บูชา ตอนแรกลุงเป็กซึ่งกำลังนอนอยู่สงสัยว่าหลวงปู่จะทำพิธีอะไรจึงลุกขึ้นมาและกราบเรียนถามว่า "ปู่จะทำอะไร" หลวงปู่ท่านตอบว่า "จะสวดเรียกฝน" และได้บอกกับลุงเป็กว่า "เราจะมัวมานอนสบายอยู่ได้อย่างไรไม่เห็นเหรอว่า มันกำลังจะแห้งแล้งขนาดไหน จะมัวนอนอยู่ทำไม ลุกขึ้นมาซิ มาสวดด้วยกัน สงสารชาวบ้านเขาจะไม่มีน้ำจะทำนา"

    ลุงเป็กเพิ่งไปช่วยงานเขากลับมาและเหนื่อยมากจึงกราบเรียนหลวงปู่ไปว่า "ให้ปู่สวดไปเลย ผมไม่ไหวจริงๆ...ปู่" หลวงปู่ท่านก็ไม่ว่าอะไรท่านก็ยังคงปฏิบัติกิจ เจริญสมาธิสวดมนต์ภาวนาเรียกฝนลำพังแต่เพียงผู้เดียว และในคืนนั้นฝนก็ตกเทลงมาอย่างมากมาย เป็นอันเสร็จภารกิจของหลวงปู่ไปอีกวาระหนึ่ง<!-- google_ad_section_end -->
     
  17. arjarhnnop

    arjarhnnop เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    37,321
    ค่าพลัง:
    +76,428
    อนุโมทนา ที่มาเล่าเรื่องให้ฟัง

    ยังเข้ามาแวบ ชมอยู่เรื่อยๆนะครับ
     
  18. Noo Norway

    Noo Norway เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    23,623
    ค่าพลัง:
    +82,120
    ขอบคุณค่ะอาจารย์นพที่แวะมาเยี่ยม... ยังคงมีเรื่องราวเกี่ยวกับความเมตตาของหลวงปู่มาเล่าสู่กันฟังเรื่อยๆค่ะ
     
  19. Noo Norway

    Noo Norway เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    23,623
    ค่าพลัง:
    +82,120
    อนำประสบการณ์แห่งความเมตตาของหลวงปู่มาเล่าสู่กันฟังนะคะ

    ครั้งที่หลวงปู่ญาท่านสวนได้ไปร่วมนั่งปรกปลุกเสกวัตถุมงคลที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้วมรกต) กรุงเทพ หลังจากเสร็จพิธีก็เป็นเวลาประมาณ 1ทุ่มกว่าๆพี่ชัยวิทย์ทำหน้าที่ติดตามหลวงปู่ได้สะพายย่ามเดินพยุงหลวงปู่ออกมาจากพระอุโบสถ บังเอิญมียายสูงอายุท่านหนึ่งอายุประมาณ 60-70 ปี คลานเข้ามากราบที่เท้าของหลวงปู่และเงยหน้าขึ้นมองหลวงปู่ หลวงปู่ท่านยิ้มให้ยายท่านนั้นเหมือนกับท่านรู้จักยายท่านนั้น หลวงปู่ถามว่า "เอ้า มาได้ยังไง" ยายท่านนั้นจึงได้กราบเรียนหลวงปู่ว่า "ข้าน้อยมารอพบหลวงปู่ตั้งแต่เช้าแล้วเจ้าค่ะ ข้าน้อยตั้งใจจะมากราบนิมนต์หลวงปู่ไปที่บ้านเจ้าค่ะ" หลวงปู่จึงถามว่า "บ้านอยู่ที่ไหน ไกลมั้ย" ยายท่านนั้นไ้ด้ตอบว่า "อยู่ใกล้ๆกับสนามบินดอนเมืองเจ้าค่ะ"

    หลวงปู่่ท่านหันหน้ามามองพี่ชัยวิทย์เหมือนกับจะเกรงใจพี่ชัยวิทย์ว่าจะพาไปได้มั้ย
    พี่ชัยวิทย์จึงได้บอกกับยายท่านนั้นไปว่า "เอาอย่างงี้ดีไหมครับ คืนนี้ผมจะพาหลวงปู่ไปพักผ่อนก่อนพรุ่งนี้เช้าผมจะพาหลวงปู่ไปที่บ้านคุณป้า ดีมั้ยครับ" ยายท่านนั้นกราบเรียนถามหลวงปู่ว่า "จริงหรือเจ้าค่ะหลวงปู่" หลวงปู่ท่านยิ้มแล้วพยักหน้า ทำเอายายท่านนั้นดีอกดีใจจนออกหน้าออกตา รีบตอบทันทีว่า "ได้ๆ" จากนั้นยายท่านนั้นก็ให้เบอร์โทรเอาไว้เพื่อการสอบถามทางและรีบกุลีกุจอก้มลงกราบหลวงปู่ด้วยความดีใจ

    คืนนั้นพี่ชัยวิทย์จึงได้นิมนต์หลวงปู่กลับมาพักที่บ้านตนเอง รุ่งเช้าพี่ชัยวิทย์จึงกราบเรียนถามหลวงปู่ว่า "หลวงปู่จะไปบ้านโยมที่เขานิมนต์หลวงปู่เมื่อวานนี้หรือเปล่า" หลวงปู่ท่านถามพี่ชัยวิทย์ด้วยความเกรงใจว่า "บ้านเขาอยู่ไกลจากที่นี่มากไหม" พี่ชัยวิทย์ตอบว่า "ก็ไกลเหมือนกันครับ แต่ผมไม่มีปัญหาหรอกว่าแต่ว่าหลวงปู่จะไปไหวหรือเปล่าเพราะผมกลัวหลวงปู่จะเหนื่อย" หลวงปู่ท่านพยักหน้าบอกว่าไหว และท่านบอกว่า "สงสารเขา เขาอุตส่าห์มานั่งรอตั้งแต่เช้ายันเย็น"

    พี่ชัยวิทย์ได้โทรติดต่อสอบถามทาง เมื่อไปถึงปรากฏว่ารถไม่สามารถเข้าไปบ้านยายท่านนั้นได้ จะต้องลงเดินไปอีกตั้งไกลเพราะถนนเป็นตรอกซอยเล็กๆ ยายท่านนั้นจึงให้พี่ชัยวิทย์ขับรถเข้าไปด้านหลังบ้านท่านซึ่งติดกับรั้วโรงเรียนแห่งหนึ่ง เมื่อพี่ชัยวิทย์ได้ขับรถเข้าไปถึงก็เห็นยายท่านนั้นและลูกๆยืนรอรับอยู่ด้วยความดีอกดีใจอย่างเห็นได้ชัด ไม่คิดไม่ฝันว่าหลวงปู่จะมาจริงๆ

    เมื่อหลวงปู่ท่านลงจากรถยายท่านนั้นรีบนิมนต์หลวงปู่เข้าไปในบ้านทำให้พี่ชัยวิทย์สงสัยขึ้นมาทันทีว่าบ้านยายนั้นอยู่ไหน เพราะบริเวณนั้นมีแต่กำแพงโรงเรียน ปรากฏว่าลูกชายของยายท่านนั้นเดินเข้ามากราบเรียนหลวงปู่ว่า "นิมนต์ทางนี้ครับ" จากนั้นก็เดินนำหน้าไปที่ข้างกำแพงและปีนขึ้นบันไดไม้ี่ที่พาดชันติดกับกำแพงและเดินไต่ขึ้นกำแพง จากนั้นก็เดินตามเส้นกำแพงไปประมาณ 10 เมตร แล้วจะมีบันไดลงไปสู่บ้านยายท่านนั้นพอดี

    พี่ชัยวิทย์มองหน้าหลวงปู่ด้วยความกังวลใจว่ากลัวหลวงปู่จะขึ้นไม่ไหว แต่ยังไม่ทันที่พี่ชัยวิทย์จะกราบเรียนถามท่าน หลวงปู่ก็พยักหน้าให้พี่ชัยวิทย์และบอกว่าไหว พี่ชัยวิทย์จึงรีบไต่บันไดขึ้นไปก่อนเพื่อที่จะรอรับหลวงปู่และนิมนต์ท่านไต่ตามขึ้นมา ส่วนลูกศิษย์อีกคนประกบหลวงปู่อยู่ด้านหลังกันหลวงปู่หล่นเพราะหลวงปู่ไม่ยอมให้พยุง จากนั้นหลวงปู่ก็เดินไปตามกำแพง พี่ชัยวิทย์ัหันมามองหลวงปู่ด้วยความเป็นห่วงแต่หลวงปู่กลับยิ้มและหัวเราะอย่างอารมณ์ดีแถมยักคิ้วพยักหน้าให้พี่ชัยวิทย์เดินต่อไป

    เมื่อไปถึงบ้านยายท่านนั้น ปรากฏว่ามีลูกหลานและเพื่อนข้างบ้านมานั่งรอกันเต็มไปหมด มีการจัดตรียมอาสนะ ธูปเทียนดอกไม้และขันน้ำมนต์เอาไว้อย่างเป็นระเบียบ เมื่อหลวงปู่ท่านนั่งลงที่อาสนะที่จัดเตรียมไว้ ทุกคนต่างก็ก้มลงกราบหลวงปู่ หลวงปู่ได้สงเคราะห์โปรดญาติโยมและครอบครัวของยายท่านนั้นจนเป็นที่พอใจแล้วก็ขอตัวเดินทางกลับ<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
  20. อาณัติ

    อาณัติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2006
    โพสต์:
    6,078
    ค่าพลัง:
    +22,263
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>
    </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER"></TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>Noo Norway, อาณัติ

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ช่วงนี้พี่อาณัติเงียบหายไปนะคะ... สบายดีหรือเปล่าคะ... ได้ไปร่วมงานกฐินที่วัดมาหรือเปล่าเอ่ย ^__^[/QUOTE]

    สวัสดีครับน้องหนู

    อยู่ใกล้ๆกันนี่แหละ เข้ากระทู้คล้ายๆกัน ไปอ่านๆๆแล้วหลบๆๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...