รวมพลคนสัมผัสญาณ"เจ้าแม่กวนอิม" 觀世音菩薩 結緣

ขอประกาศธรรม ทั่วแผ่นดิน

เพื่อรักษาถิ่น พระพุทธศาสนา

 

ถูกต้องแล้วค่ะ ลูกทั้งสองคนเป็นลูกของไอยเอง แต่เรื่องนี้
มีที่มาที่ไปค่ะ เนื่องจากเดิมทีโครงการนี้ ทางแม่ชีบุญช่วย
(ขณะนี้ได้ลาสิกขาบทแล้ว) ได้มาปรึกษากับจารนีโม่
เนื่องด้วยแม่ชีมีเหตุจำเป็นต้องไปบวชชี แต่เป็นห่วงลูก ๆ
ของแม่ชีว่าจะไม่มีใครส่งเสียเลี้ยงดู จารโม่จึงได้มาปรึกษา
กับไอยและจารแพท ซึ่งจารแพทรับปากว่าจะช่วยเป็น
การส่วนตัว ส่วนไอยก็รับปากว่าจะช่วย และเป็นคนจัดการ
บอกข่าวคราวเรื่องนี้ไปกับพรรคพวกเพื่อนฝูงให้เข้ามาช่วย
ดูแลจัดการซึ่งหลาย ๆ คนก็แสดงเจตจำนงค์ ซึ่งเป็นการบอก
กล่าวกันภายใน ไม่ได้แจ้งลงหน้าเวป ซึ่งโครงการแรกนั้น
มีหลาย ๆ คน มีความจำเป็นขอถอนตัว ไม่สามารถโอนเงิน
ให้โครงการได้ ทำให้ยอดเงินไม่ตรงตามเป้าหมาย<O</O
ที่จะให้ลูกแม่ชีบุญช่วย ซึ่งไอยได้นำเงินส่วนตัวออกมา
support ตรงนี้ โดยไม่ได้แจ้งให้ใคร ๆ ทราบ
ซึ่งทำให้โครงการแรก บัญชีต้องติดลบ จึงได้เริ่มทำ
โครงการที่สอง เนื่องจากแม่ชียังอยู่ในเข้าพรรษา
จึงต้องทำโครงการต่อเนื่องออกไป
<O</O
ทางจารนีโม่จึงแจ้งรายละเอียดลงหน้าเวป ซึ่งในเรื่องการดูแล<O</O
บัญชีต่าง ๆ นั้น ไอยไม่ได้มีความประสงค์จะเข้ามาดูแลเลย<O</O
แต่ทุก ๆ คนต่างมีมติให้ไอยเป็นคนดูแลจัดการ และมีอำนาจ<O</O
ในการตัดสินใจในโครงการนี้ทั้งหมด ซึ่งเรื่องนี้ผู้ที่อยู่ใน<O</O
โครงการรุ่นที่ 1 ทราบดีทั้งหมด ว่าจริงหรือไม่<O</O

 

เนื่องจากพอมีโครงการรุ่นที่ 2 เกิดขึ้นนั้น ทางอาจารย์<O</O
นีโม่เห็นว่า ไอยเป็นผู้ support โครงการนี้มาตั้งแต่แรก<O</O
รวมทั้งค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ของสถานธรรม ไอยก็ได้ใช้เงิน<O</O
ส่วนตัวออกให้ทั้งสิ้น ซึ่งเรื่องนี้มีอาจารย์นีโม่เป็นผู้ทราบ<O</O
แต่เพียงผู้เดียว ซึ่งหลาย ๆ คนทราบแต่เพียงว่า<O</O
ไอยออกมาทำหน้าที่นี้ให้กับสถานธรรม 100 % โดย<O</O
ไม่ได้ทราบเลยว่า ไอยเองก็มีหน้าที่การงาน มีรายได้<O</O
ที่เกิดจากการทำงาน ร่วมกับน้องชาย คือคุณใหญ่<O</O
เนื่องจากไอยต้องการปฏิบัติธรรม และช่วยสถานธรรม<O</O
อย่างเต็มตัว จึงได้ขอสละหน้าที่การงาน และรายได้<O</O
ทั้งหมด ให้กับน้อง ๆ ไอย เป็นคนดูแลและจัดการ<O</O
โดยให้ทุก ๆ คนรับปากว่า จะช่วยดูแลไอย เรื่องค่าน้ำ<O</O
ค่าไฟ เพื่อให้ไอยได้ปฏิบัติธรรมได้อย่างเต็มที่ <O</O
ซึ่งทำให้อาจารย์นีโม่เห็นว่า ไอยก็ที่จะสละความสุข<O</O
ส่วนตัว กล้าสละทรัพย์สินเงินทอง ทรัพย์สมบัติ<O</O
ทั้งหมด เพื่อความเจริญในทางธรรม และยอมสละ<O</O
รายได้ส่วนใหญ่ของตนเอง มาดูแลเรื่องค่าใช้จ่าย<O</O
ให้กับสถานธรรม ซึ่งยอดเงินตัวเลขต่าง ๆ เหล่านี้<O</O
ไอยมีหลักฐานทางการเงินทุกอย่าง ว่ารายได้ของไอย<O</O
แทบทั้งหมด นอกจากให้กับลูก ๆ ไอยแล้ว มาเป็น<O</O
ปัจจัยให้กับสถานธรรมทั้งสิ้น <O</O
<O</O

 

ซึ่งเรื่องนี้ ไอยไม่ประสงค์ออกนาม และไม่ได้ออกหน้าแต่อย่างใด
<?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O< p O<>ซึ่งทำให้อาจารย์นีโม่เห็นว่า ในเมื่อไอยเองยอมสละรายได้</O<><O< p O<>
ให้สถานธรรม อย่างน้อยก็ควรให้ลูก ๆ ของไอย
อยู่ในโครงการพ่อแม่บุญธรรม เนื่องจากไอยออกมา
ปฏิบัติธรรม เฉกเช่นเดียวกันซี่งรายได้ที่ไอยได้ให้กับ
สถานธรรมนี้ มากกว่าที่ลูกของไอยเข้าโครงการ
เป็นคนละ 1,000 บาท หลายเท่านัก+
<O< font O<>
พูดง่าย ๆ ในภาษานักธุรกิจ คือ อัฐิยาย ซื้อขนมยาย<O< font O<>
แต่ถ้าพูดในทางสายบุญกันแล้ว ไอยไม่ได้คิดเช่นนั้นเลย<O< font O<>
ซึ่งเรื่องลูกไอยเข้าโครงการนี้นั้น ไอยไม่ขอยอมรับตั้งแต่แรกแล้ว<O< font O<>
เนื่องจากทางครอบครัวไอยเอง สามารถเลี้ยงดูลูกของไอยได้
โดยไม่จำเป็นต้องมาให้ทุนอะไรหรอก แต่จารโม่บอกว่า<O< font O<>
ทุกคนต้องเท่ากัน เพราะโครงการนี้ ไม่ได้ทำเพื่อบุคคลใด<O< font O<>

บุคคลหนึ่ง หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือครอบครัวใด ครอบครัวหนึ่ง
<O< p O<>ในเมื่ออีกฝ่ายปฏิบัติธรรมในทางธรรม และอีกฝ่ายปฏิบัติในทางโลก<O< font O<>

ทุกคนต้องได้รับเท่าเทียมกันทุก ๆ คน ซึ่งเรื่องนี้ไอยเองก็ยังนึก<O< p O<> </O<>
<O< p O<>ขอบคุณในความเมตตาและความยุติธรรม อย่างไม่มีพวกฉัน <O< font O<>
พวกเธอของจารโม่ แต่อย่างใดทั้งสิ้น <O< p O<></O<>
</O<></O<></O<></O<></O<></O<></O<></O<></O<></O<></O<>

 

สำหรับเรื่องบัญชีโครงการพ่อแม่บุญธรรมนั้น ไอยได้แจ้ง
รายละเอียดรวมทั้งหลักฐานทางการเงินที่ชัดเจน แน่นอน
และยินดีเปิดเผยทุก ๆ ข้อมูลให้ทราบ ซึ่งเรื่องนี้ในที่ประชุม
ก็รับทราบกันหมดทุก ๆ คนและปราศจากข้อโต้แย้งใด ๆ ทั้งสิ้น

ในเรื่องการทำบุญบริจาคต่าง ๆ ไอยได้ทำเป็นการส่วนตัว และ
<O</Oไม่ประสงค์ออกนามมานานแล้ว ก่อนที่จะมาทำงานให้กับ
สถานธรรมซึ่งเรื่องนี้ หลาย ๆ คนในเวปพลังจิตก็ทราบดี
รวมทั้งบริจาคให้กับวัดวาอารามต่าง ๆ โดยไม่ได้ป่าว
ประกาศบอกใครทั้งสิ้น

<O</Oทั้งนี้ทั้งนั้น ไอยมีเพือนมีกัลยณมิตรทุกสาย ทุกกลุ่ม ที่อยู่
ในสายธรรมะและสายพลังแทบทั้งนั้น และเมื่อถึงเวลา
อันสมควรที่จะออกมาปฏิบัติธรรมด้วยตัวเอง โดยมีธรรมะ
ของพระพุทธองค์ท่านเป็นแนวทางนั้นไอยก็ศึกษาและ
ปฏิบัติ โดยมีครูบาอาจารย์และกัลยณมิตรให้คำแนะนำ<O</O
ปรึกษามาโดยตลอด ซี่งไอยไม่ได้ยึดติดกับกลุ่มใด บุคคลใด
รวมทั้งอาจารย์นีโม่เอง

ดังนั้น ไอยปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม โดยอยู่ในแนวทางปฏิบัติ
ของพระพุทธองค์แต่เพียงผู้เดียว เพราะฉะนั้น การตัดสินใจ<O</O
เลือกทางเดินของตนเองในทางธรรม ไอยไม่ได้ถูกครอบงำ
ของบุคคลใดกลุ่มใด หรือสำนักใด ทั้งสิ้น แต่เป็นทางเดิน
ที่ไอยยึดและปฏิบัติอันถูกต้องตรงตามพระสัทธรรมเท่านั้น

แต่ในเมื่อหลาย ๆ คนมีข้อสงสัยในทาง อันก่อให้เกิดประเด็น
ที่พูดเกินความเป็นจริง ไอยก็ยินดีเปิดเผยข้อมูลเท็จจริงทั้งหมด
ซึ่งข้อมูลต่าง ๆ เหล่านี้ ไอยได้เปิดเผยกับ พี่ ๆ น้อง ๆ ทุกคน
ที่พุทธรรมสถานธนบุรีรมย์ ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รวมทั้ง
พยานหลักฐานทางการเงินและพยานหลักฐานทางบุคคล
ที่มีที่มาที่ไปอย่างชัดเจน แน่นอน ซึ่งทุก ๆ คน ปราศจาก
ข้อกังขาใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะฉะนั้น ไอยเลือกที่จะปฏิบัติใน
สายธรรมะที่เป็นแก่นแท้ ของจริง ตามแนวทางของ
พระพุทธองค์

เพราะฉะนั้นข้อขัดแย้งใด ๆ ที่เกิดขึ้น เพราะต่างคน
ต่างเดินคนละแนวทาง ก็อย่าได้พยายามให้ไอยเข้าไป
เกี่ยวข้องด้วย เพราะไอยก็มีเส้นทางเดินเป็นของตัวเอง
เฉกเช่นเดียวกัน
<O</O<O</O

 

ที่สุดแล้ว ก็ได้เห็นความกระจ่าง คนเราก็ยังมีทุกข์ ไม่ว่าปฏิบัติธรรมหรือไม่ สุดท้าย ก็ยังเป็นคนปฏิบัติอยู่เพื่อชำระกิเลส ประเด็นคือ รู้ตัวเองว่าทำสิ่งใด เป็นสัมมาทิฐิ สิ่งใดไม่ใช่ และกล้าชี้แจงความจริง อันนี้น่ายกย่องด้วยใจ จากนี้ไปคุณน้องไอย ก็คงได้มีความสุข เพราะทุกข์ก็ได้ถูกชี้แจงบน web นี้ แล้ว คนที่คิดฝืนฝอย ก็น่าจะยุติ เพราะทุกคนมุ่งสร้างความดี เพียงแต่คนละวิถี ต่างวิธี ดังนั้น สมาชิกที่เคยรับรู้ที่มาที่ไป จนวันนี้ก็คงได้คำอธิบายแจ่มแจ้ง รวมทั้งผมด้วย ก็คงต้องอนุโมทนา ให้ทุกคนได้เกิดประโยชน์สุขถ้วนหน้า พวกเราเข้ามาต่างก็เพื่อขัดเกลากิเลส ให้เบาบาง ด้วยวิธีที่ถูกต้องตามคำสอนพระพุทธองค์ ยิ่งรู้ว่าตนว่ายังต้องปรับปรุง ยิ่งควรให้กำลังใจ และสรรเสริญ ซึ่งก็ต่างจากคนหลงทาง เพราะเราเกิดมาเพื่อแก้ไขตัวเองกันทั้งนั้น ไม่มใครดีกว่าใครแน่ ขอให้เจริญธรรมกันทุกคน มากบ้างน้อยบ้างตามกำลังแห่งความเพียร ก็ขอฝากหนทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน ยังใช้ได้เสมอ บาย everybody

 

สุข..ทุกข์...อยู่ที่ใจ
จริง คือเท็จ...เท็จ คือ จริง....ยิ่งกว่านิยาย
เดินตามสายพุทธ.... ขุดกิเลส...อย่าเหลือเศษเสี้ยวแห่งทุกข์....ทุกสถาน
เคยมีสุข.... กลับทุกข์... แล้วสุขอีก....โอ้อนิจจา....ชีวิตหนอชีวิต.......
มัวมาหอบ..... มาแบก.....ให้หนักชีวิต.....กันทำไม.......ปล่อยเบาบาง...สบายๆ
แบบเบิร์ดๆ......เจริญสุขจริง.....สาธุ........ข้าน้อย ..ฮวบเล้ง..เอง

 

ทานโทษ ครับ คุณมองตน ก็มีอัตตา นะครับ เพราะชื่อ "มองตน" มันบอกว่ามีอัตตาอยู่ ร้อยเปอรเซน อยู่ไงครับ ยังไปว่าเขาอีกแหนะ ทุกคนมีทั้งนั้นแหละ ก็กำลังขัดให้เบาบางไง เรื่องเปลี่ยนถ้าเปลี่ยนในทางที่ดี เดินทางที่ถูกก็ไม่น่ามีข้อกังขานี่ เมื่อทางที่เดินรุ้ว่าไม่ใช่ การเปล่ยนก็ย่อมส่งผลให้ได้กุศล เป็นมิจฉาทิฐิ ไม่ได้กระทบใครเขา อันนี้น่าส่งเสริม อย่าลืมว่าทุกคนเปลี่ยนอยูตลอดเวลามิใช่หรือ แต่... ถ้าอ.นีโม่ เปลี่ยนเป็นอะไรที่มีเขา มีขาแขนเพิ่มขึ้น อันนี้ไม่น่าชื่นชม เพราะเป็นตัวประหลาด อันนี้สิน่าแปลกนะครับ จริงหรือเท็จคงไม่ต้องรอให้เราๆท่านๆตัดสินหรอก เพราะยังเดินดินเหมือนกันหมด งานนี้จานบินไม่เกี่ยวนะฮะ คือยังเป็นคนธรรมดา รอการแก้ไข ให้เป็นเทวดาไง ก็ให้กำลังใจในการ change ๆๆๆๆ มันเลย ถ้า change แล้วดีขึ้น อนุมัติ คะรับ ห้ามเคือง อะล้อเล่งง ห้องนี้มีสีสรรจริง ๆ พรุ่งนี้มาใหม่

 

เซี่ยม หยุดเถอะนะ หยุดเถอะ ตัวหยุดจะทำให้เซี่ยมสำเร็จ
ตอนที่พวกเค้าร่วมสังฆกรรมกัน เซี่ยมอยู่ไหนหรอ ?? เรางงกะเซี่ยมจริงๆ เซี่ยมจะแสดงไปทำไม ให้ผู้รู้เค้าแสดงข้อมูลกันไม่ดีกว่าหรอเซี่ยม
นะเซี่ยมนะ หยุดเถอะ รู้เท่าที่ตัวเองรู้ ไม่รู้ก็บอกไม่รู้ อยู่เฉยๆไม่ใช่เรื่องน่าอายแต่อย่างไรเลย ให้เจ้าตัวเค้าแสดงกันเถอะนะเซี่ยมนะ

 

ชื่อ มองตน มิใช่เป็นอัตตา แต่เป็นการเตือนตนเองให้มองดูเข้าไปข้างใน คือการดูกายและจิตของตนเอง เป็นการปล่อยวางโดยไม่ส่งจิตออกนอก ตามแนวทางการปฎิบัติของหลวงปู่ดุลย์ เพราะความรู้ที่ยื่งใหญ่ที่จะนำเราหลุดพ้นจากวัฎฎสงสาร มันอยู่ในกายของเรานี่แหละ ไม่ต้องไปดูที่ไหน

ปกติ มองตน จะไม่ส่งจิตออกนอก จะส่งจิตออกนอกเฉพาะเมื่อถึงเวลาเท่านั้น และจะต้องเป็นการกระทำเพื่อปกป้องพระพุทธศาสนา เพื่อป้องกันไม่ให้คนหมู่มากต้องหลงเดินทางผิด ด้วยการยึดติดในอิทธิปาฎิหาริย์ใดๆ ที่มีคนอวดอ้าง อวดอุตริ เพื่อหวังผลใดๆ

การมองคน การฟัง การอ่านข้อความใดๆ อย่าสักแต่ว่ามอง อย่าสักแต่ว่าฟัง อย่าสักแต่ว่าอ่าน แล้วเชื่อโดยสนิทใจ ต้องมอง ต้องฟัง ต้องอ่านด้วยจิตที่ละเอียด มองให้ทะลุ แล้วจะทราบว่า คนๆนั้นต้องการอะไร อะไรจริง อะไรเท็จ

คุณเซี่ยมหล่อนั้ง พื้นฐานเป็นคนมองคนในแง่ดี อีกทั้งเพิ่งเริ่มต้นในการฝึกปล่อยวาง จึงไม่ได้มองคนด้วยจิตที่ละเอียด และหลงเชื่อคารมหรือข้อความของคนได้โดยง่าย หากได้ฝึกในแนวทางที่ถูกต้องอีกนิดจะไปได้ไกลทีเดียว ขอให้พิจารณาฝึกตามขั้นตอนตามนี้ สมาธิเป็นเบื้องต้นแต่อย่าลึกเพราะจะเป็นการหลง การยึดติด สติสัมปัญชัญญะ เป็นเบื้องกลาง ปล่อยวาง เป็นเบื้องปลาย

ขออนุโมทนาครับ

 

โดยปกติ ผู้ที่อาสาเข้าร่วมกิจกรรมที่เป็นสาธารณกุศล จะต้องเข้าร่วมด้วยความเสียสละโดยไม่เห็นแก่ค่าตอบแทนใดๆ แต่ถ้าการอาสาเข้าร่วมนั้นเป็นการเบียดบังตนเอง ทำให้เกิดทุกข์กับตนเองหรือผู้อื่น ก็ไม่สมควรอย่างยิ่ง

การเข้ามาช่วยด้วยการเสียสละ ด้วยการละทิ้งหน้าที่การงาน หรือไม่มีหน้าที่การงานจะให้ละทิ้ง และละทิ้งผู้อื่น เข้ามาช่วยงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ ก็คือ การหลง การเข้าไปยึดติดดีๆ นั่นเอง

โครงการพ่อแม่บุญธรรม เริ่มแรกเกิดจากความจำเป็นและเป็นการบอกกันและช่วยเหลือกันในกลุ่ม เคยมีผู้โพสไว้ว่ามีจำนวน 5-6 คน เท่านั้น เด็กที่อยู่ในความอุปการะก็มีเพียง 2 คน ต่อมาช่วงใกล้ออกพรรษาก็มาเพิ่มอีก 2 คน ซึ่งเป็นบุตรของผู้ร่วมโครงการ จึงเห็นว่าเป็นการไม่สมควร ไม่ถูกต้อง และไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เมื่อแม่ชีลาสิกขาและยุติโครงการก็เป็นการถูกต้อง แต่โครงการพ่อแม่บุญธรรมกลับไม่ยอมยุติ และยังคงดำเนินการต่อไป โดยเรื่มออกเรี่ยไรหาบุคคลเข้าร่วมมากขึ้นตามลำดับ

ที่สงสัยก็คือ ที่ว่าโครงการแรกมีผู้ถอนตัวออกไปหลายคน ทำให้ตนเองสำรองจ่ายหรือเสียสละจ่ายแทนนั้น น่าจะไม่จริง เพราะดูจากรายชื่อแล้ว กลุ่มคนที่ช่วยเหลือโครงการแรกเป็นผู้ที่ปฎิบัติธรรมทั้งสิ้น คงจะไม่ยอมเสียสัจจะเป็นแน่แท้

 

ทั่นมองตน กล่าวได้มีเหตุผล จากทุกข้อเขียนแสดงว่าเป็นผู้มีภูมิธรรมสูง มีความลึกซึ้ึ้งและเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี ติงเองมิได้มากล่าวยกยอปอปั้น ให้หลงระเริง จนจิตวิญญาณกระเจิงนะ หากทั่นจะหลงระเริง จนคิดจะไปตั้งสำนัก รับเป็นเจ้าพิธี ติงก็มิอาจห้ามทั่นได้ อะไรๆก็เกิดขึ้นได้ ตามที่เข่ากะลา เขาว่าไว้ ทั่นอาวุโส เขากะลา ตอนนี้ก็ปลดภาระไปมากแล้ว ไม่ต้องมากังวลคอยเป็นห่วงดูแลทรัพย์สิน ตามที่เวฟเวิฟอะไรเขาทำมาใส่ไว้ให้ แล้วก็จากไป ป่านนี้คงเฮฮา ฉลองความว่าง ไม่มีอะไรมาผูกมัดรัดห่วงอีกแล้ว ดีใจมากนะ ที่ได้กลับคืนสู่ความว่างเปล่าอีกครั้ง คอยเฝ้าดูดวงดาว กับสอนธรรมะละวาง ก็นับว่าเป็นคุณอนันต์ ได้ประโยชน์มหันต์ น่าอิจฉาจัง

 

บางคนอาจสงสัย อยู่ๆติงโผล่มาได้อย่างไร ไม่ต้องสงสัยนะ เมื่อก่อนติงชอบโพสกวนบาทาเขาไปทั่ว เดี๋ยวนี้ติงสำนึกได้แล้ว ติงจะไม่ยุแหย่ หรือเสี้ยมเขาควายให้ชนกันอีกแล้ว ติงหันหน้ามาศึกษาธรรมะอย่างจริงจัง จนใจของติงเอง สงบลงไปมาก เกิดความรู้สึกละอายต่อกรรมที่ทำไว้ในอดีตนะ จึงอยากชดใช้ด้วยการทำดี ส่งเสริมคนดี คนมีคุณธรรม เมื่อก่อนติง ก็เคยหลงเป็นเจ้าสำนักทำพิธี ได้เงินทองมาก็ไม่น้อย แต่ก็ช่วยให้เขาทุกข์น้อยลงไม่ได้ เพราะใจของติง มีความโลภ โดยเอาธรรม มาบังหน้า จ่ายเงินให้คนข้างเคียงได้ใช้สอยอย่างสุขสบายนะ แล้วเขาก็มาช่วยเชียร์ให้ติง ว่าติงเก่งอย่างโน้น ติงเก่งอย่างนี้ ภาษาฝาหรั่งเขาบอกว่า โปรโมท อย่างนี้นะ ติงไม่เอาแล้ว มันเป็นการหลอกลวง ทำให้ติงต้องรับผลกรรมนั้น ติงเคยป่วยแทบตาย เพราะกรรมนี้นะ ติงรู้ด้วยตัวเอง เลยไม่อยากให้ใครทำกรรม แบบที่ติงเคยทำมา แค่นี้นะ

 

คงไม่ตั้งตนเป็นเจ้าสำนักเจ้าพิธีหรอกครับ
การตั้งตนเป็นเจ้าพิธีเ้จ้าสำนัก ชื่อเสียงก็จะปรากฎ ลาภสักการะก็จะตามมา อัตตาก็จะเกิด รู้ไม่เท่าทันก็ทุกข์ มันเป็นการติดสุข ตัดยาก

ลด ละ เลิก และปล่อยวาง อยู่กับความว่างดีที่สุด

ที่ต้องส่งจิตออกนอกมาครั้งนี้ ก็เพราะมีคนกำลังเิดินตามรอยของคุณติงต๊องแมน หรืออาจจะเดินมาก่อน และกำลังจะดึงคนหมู่ใหญ่ให้หลงยึดติด ซึ่งผิดแนวทางของพระพุทธศาสนา จึงต้องออกมาบอกกล่าวกัน

ขออนุโมทนากับคุณติงต๊องแมนครับที่มาเล่าบอกกล่าวกันให้ทราบ

 

[FONT=&quot]ผิดแล้วครับท่าน [/FONT]firstman[FONT=&quot] มองตน ไม่เคยได้รู้จักกับบุคคลเหล่านั้นเลย และก็ไม่ได้เป็นคนของเขากะลา แต่เป็นผู้ปฎิบัติธรรมสายหลวงปู่ดุลย์ และเห็นว่าการปฎิบัติธรรมของเขากะลา มีแนวทางปฎิบัติที่คล้ายๆกัน เพียงแต่เรียกชื่อกันไปคนละอย่าง ก็เลยติดตามอ่านข้อความในกระทู้ของเขากะลามาโดยตลอด

[/FONT][FONT=&quot]มองตน เอง ก็ไม่ได้เห็นด้วยกับเขากะลาเสียทุกอย่าง อย่างเช่นเรื่องการจัดสร้างประคำ มันเป็นสิ่งที่ทำให้คนยึดติด แต่เห็นว่าเป็นการหารายได้เพื่อก่อสร้างสถานธรรม สุดท้ายก็ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ เพราะมีอาจารย์ท่านหนึ่ง นำเงินรายได้ส่งมอบให้สถานธรรมเพียงเล็กน้อย ที่เหลือเอาไปใช้ในการดำรงชีพ และช่วยเหลือพรรคพวกเพื่อนพ้องตามที่อาจารย์ท่านนี้ ได้เคยโพสให้ทราบไว้ในกระทู้ สำหรับประคำรุ่น 2 และ 3 ก็ไม่มีการแจ้งรายละเอียดเรื่องค่าใช้จ่ายให้ทราบแต่อย่างใด

สุดท้าย อาจารย์ท่านนี้ก็แยกออกไปตั้งสำนักใหม่ ตั้งตนเป็นเจ้าสำนักเจ้าพิธีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และกำลังจะชักจูงให้คนหลงติดอยู่ในขณะนี้
[/FONT]

 

โครงการพี่แม่บุญธรรมนั้น เริ่มต้นด้วยดีเป็นการช่วยเหลือกันเฉพาะภายในกลุ่มฯ
แต่เมื่อโครงการที่สองเกิดขึ้น ก็พยายามที่จะเพิ่มเด็กเข้ามาร่วมอยู่ในโครงการ โดยการคัดเลือกลูกของคนที่คิดว่าตัวเองทำดีแล้ว ช่วยเหลืองานด้วยใจบริสุทธิ์ ไม่หวังผลตอบแทนใดๆทั้งสิ้น

จากการอวดอ้างคุณสมบัติที่ตนเองมีอยู่นั้น ต้องเสียสละงานทางโลก ทรัพย์สมบัติทางครอบครัวที่ตนเองมีอยู่ โดยไม่เดือดร้อนและสามารถเลี้ยงดูบุตรของตนเองได้เป็นอย่างดี คุณสมบัติดีเด่นทั้งทางโลกและทางธรรม อุทิศตัวเองเพื่อมาช่วยเหลือกิจกรรมที่เป็นประโยชน์

อยากทราบว่าประโยชน์ที่ว่านี้ เป็นประโยชน์ตน หรือ ประโยชน์ท่าน

เรื่องนี้จริงหรือเท็จประการใด ไม่มีใครตอบได้ นอกจากตัวเองเท่านั้น ที่จะรู้ว่า
กำลังทำอะไรกันอยู่ แต่คนภายในเขารู้กันหมดทุกคนแล้วนะ

ทำดี ย่อมได้รับผลดีตอบ
ทำชั่ว ย่อมได้รับผลชั่วตอบ

ผลของกรรมเห็นกันได้ในปัจจุบัน ไม่ต้องรอชาติหน้า

คิดดี ทำดี จิตดี ย่อมอยู่อย่างเป็นสุข ขอให้ก้าวหน้าและเจริญในธรรมยิ่งขึ้น

 

นี่ก็อีกคน นอกจากมาเขียนกะแน๊ะกะแน๋แล้วมีข้อมูลอะไรบ้างหรือป่าว ข้อมูลน่ะมีไหม บอกแล้วไงว่าให้เจ้าตัวที่เค้ามีข้อมูลกันน่ะออกมาแสดงให้กันดู จะฝั่งไหนก็แล้วแต่ มีข้อมูลก็แสดงกันออกมา ไม่ใช่มาพูดพร่ามลอยๆอ้างโน่นอ้างนี่กันไปเรื่อยเปื่อย จริงๆแล้วนี่มันห้องอะไร เหอ ห้องอะไร เหลือบสายตาไปมองดูกันบ้างว่านี่มันห้องอะไร ห้องเขากะลาหรือป่าว หรือว่าห้อง astroneemo หรือว่า astroneemoเป็นผู้เปิดห้องนี้ขึ้นมาก็เลยจะเขียนอะไรยังไงก็ได้อย่างนั้นหรอหรือว่าไง อายุเท่าไหร่กันแล้ว อย่าบอกนะว่าเกิดมากี่ปีแล้วบอกว่าเหลือเวลากันอยู่อีกกี่ปีจะดีกว่า
"ห้องรวมพลคนสัมผัสญาณเจ้าแม่กวนอิม" ใครสัมผัสณานท่านได้ก็มาเล่า มาแลกประสบการณ์กัน แล้วนี่อะไรกัน อะไร มีหัวไว้แค่ให้ผมขึ้นกันหรือไงกัน
จบกันได้แล้วนะ ถ้าใครจะว่าใครอีก ก็ขอให้มีข้อมูลเอาออกมาโชว์ อย่ากล่าวอ้างกันลอยๆ จะว่าเขากะลาก็เข้าไปห้องเขากะลาโน่น เขาจะได้รู้ว่าเราว่าเขา เจ้าตัวเขาจะได้ชี้แจงกันได้ ไม่ใช่ต่างฝ่าย ต่างส่งลิ่วล้อกันมาพ่นน้ำลายในห้องนี้
ที่นี่ในนี้มันเป็นสาธารณะ มันไปทั่วโลก มันไม่ได้อยู่แค่ในห้องของคุณ หรือห้องของคนใดคนหนึ่ง ดังนั้นถ้าท่านจะทำอะไรหรือจะเขียนอะไร ขอจงได้โปรดพิจารณาด้วย ถ้ามันจะต้องกะทบกับใครแล้วไม่มีข้อมูลพอที่จะตอบโต้เขา ก็อย่าได้เขียน ก็จงอยู่เฉยๆแล้วดูข้อมูลที่เขาแสดงกันออกมา แล้วใช้วิจารณญาณ
ถ้าอยากจะแสดงธรรมมะ ขอจงได้โปรดพิจารณาความรู้ความสามารถของตัวเอง ถ้าไม่รู้จริงไม่แน่ใจ แต่อยากจะแสดง ให้ไปแสดงที่บ้านของตัวเอง อย่ามาแสดงในนี้ที่คนทั่วไปสามารถเปิดอ่านได้ คนที่ไม่รู้จริงหรือไม่แน่ใจ ก็อย่าได้ท้วงติงหรือต่อว่าคนอื่นที่แสดง เพราะก็เท่าว่าประกาศความโง่ของตัวเองให้ผู้อื่นรู้
ไม่ต้องถามว่าแล้วเราเก่งเรื่องธรรมมะขนาดไหน หรือว่าเก่งมากนักหรือไงถึงได้มาเขียนแบบนี้ เราตอบได้เลยว่าเราไม่เก่ง เราจึงไม่แสดงธรรมมะและไม่คิดที่จะแสดง แต่เราให้พวกท่านพิจารณาดูว่า นี่มันห้องอะไร แล้วพวกท่านกำลังทำอะไร
หยุดแล้วใช้สติพิจารณา

 

เรียนท่านเจ้าของกระทู้ หากท่านคิดว่าการกล่าวร้ายให้โทษ กลุ่มฯที่ท่านเคยอยู่มา ให้กับบุคคลที่เคยเกี่ยวข้องรู้จักในทางลับ เป็นสิ่งที่ท่านภูมิใจ ก็ทำไปเถิด

แต่ในทางคุณธรรม ท่านควรนำสิ่งที่ท่านกล่าวร้ายให้โทษไปลงที่กระทู้ของกลุ่มฯที่ท่านเคยอยู่มาก่อน จะดีกว่า เพื่อให้กลุ่มฯ ได้ชี้แจง ให้เกิดความเข้าใจกันโดยทุกฝ่าย
ด้วยความเคารพ

 

นี่คือตัวอย่างของคนที่ไม่ยอมหยุด
ลงทุนเรียกเราว่าแม่ เลยหรอ ชื่อของเราก็บอกอยู่แล้ว ว่า ydad89 ย่อมาจาก your dad ซึ่งก็แปลว่า พ่อของท่าน เพราะฉนั้นให้เรียกเราตามชื่อเถอะนะจะได้ถูกต้อง
คุณคิดว่าคุณเป็นใครน่ะ เก่งขนาดไหน ถึงได้ทำเป็นรู้ดีว่าเราเป็นใคร เหอ หรือว่าไง เค้าเรียกว่าพวกโง่แล้วอยากนอนเตียง คอเอียงแล้วอยากหนุนหมอน
ได้โปรดอย่าทำเป็นสู่รู้ ทำตัวเป็นผู้รู้ และได้โปรดหยุด ถ้าอยากจะแสดงก็ช่วยหาอะไรที่มันเข้าท่าเข้าทาง อย่าทำตัวกะแน๊ะกะแน๋ เป็นพวกตุ๊ดที่ชอบโดนเปิดประตูลม
กระทู้เค้าจะได้กลับเข้าสู่ปรกติ

 

ขอประกาศธรรม ทั่วแผ่นดิน

เพื่อรักษาถิ่น พระพุทธศาสนา