บุคคลที่ไม่อาจจะบรรลุมรรคผลได้

การปฏิบัติธรรมเพื่อความพ้นทุกข์นี้

มีบุคคลที่ไม่อาจบรรลุมรรคผลได้ แม้ว่าจะปฏิบัติถูกต้องและแม้ใช้ความพากเพียร พยายามอย่างไรก็ดีมีอยู่ 10 จำพวกคือ<O</O
1. ผู้ที่ทำกรรมหนักเป็นอนันตริยกรรม ได้แก่ ฆ่าบิดา มารดา ฆ่าพระอรหันต์ ทำให้สงฆ์แตกแยก<O</O
2. เป็นผู้มีมิจฉาทิฏฐิ คือไม่เชื่อในผลแห่งกรรม<O</O
3. เป็นผู้ที่มีจิตไม่สมประกอบ เช่นเป็นกระเทยหรือเพศคู่<O</O
4. เปรตและสัตว์ที่เกิดในภูมิดิรัจฉาน<O</O
5. ผู้ที่ปลอมเป็นภิกษุ สามเณร รวมถึงทั้งภิกษุที่ต้องอาบัติปราชิก ซึ่งถือว่าไม่ใช่ภิกษุแล้ว<O</O
6. บุคคลที่บวชเป็นภิกษุแล้ว แต่กลับไปถือลัทธินอกศาสนา<O</O
7. บุคคลที่ประทุษร้ายภิกษุณี<O</O
8. เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 7 ขวบ เพราะปัญญายังอ่อนอยู่<O</O
9. ภิกษุที่ต้องอาบัติสังฆาทิเสสและมิได้อยู่ปริวาสกรรมกระทำตนให้บริสุทธิ์ก่อน<O</O
10. ผู้ที่กล่าวดูหมิ่นล่วงเกินพระอริยบุคคลซึ่งเรียกว่าเป็นอริยุปาวาท


บุคคล 8 จำพวกแรก ไม่มีโอกาสบรรลุมรรคผลได้เลยเพราะประกอบกรรมหนัก
และเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 7 ขวบนั้นไม่อาจบรรลุมรรคผลได้ เพราะปัญญายังอ่อนอยู่แต่บุคคล 2 ประเภทหลังยังมีโอกาสที่จะบรรลุมรรคผลได้ โดยภิกษุที่ต้องอาบัติสังฆาทิเสสต้องชำระอาบัติ โดยการอยู่ปริวาสกรรม ตามหลักพระวินัยเสียก่อนสำหรับผู้ที่ล่วงเกินพระอริยบุคคลนั้นต้องขอขมาโทษต่อพระอริยะบุคคลเสียก่อน ส่วนบุคคลนอกจากนี้มีโอกาสบรรลุมรรคผลได้ทุกคน

ตามข้อความดังกล่าวข้างต้นสำหรับข้อสุดท้ายนั้นบุคคลทั่วไปมักจะประมาทและ พลาดพลั้งละเมิดได้โดยง่าย โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี ด้วยมี เจตนาหรือไม่มี เจตนา ก็ดี ทั้งกาย วาจา ใจ ทำให้ไม่สามารถบรรลุมรรคผลได้ ซึ่งสามารถที่จะ ขอขมาพระรัตนตรัยตามคำขอขมาดังนี้

<O</O</O

คำขอขมาพระรัตนตรัย<O</O​

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะฯ (ว่า ๓ จบ)<O</O​

สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทวารัตตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเตฯ<O</O
(ถ้าหลายคนว่า...ขะมะตุ โน ภันเต,ฯลฯ...ขะมะตุ โน ภันเต, อุกาสะ ขะมานะ ภันเต ฯ)<O</O
<O</O
หากข้าพระพุทธเจ้า ได้เคยประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินต่อพระรัตนตรัย อันมีพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระธรรมและพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ในชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ด้วยทางกายหรือวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี และด้วยมีเจตนาหรือไม่มีเจตนาก็ดี รู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี ขอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระธรรมและพระอริยสงฆ์ทั้งหลายและผู้มีพระคุณทุกท่าน ได้โปรดอดโทษให้แก่ข้าพระพุทธเจ้า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ

<O</O</O<O</O
และยังมีในส่วนที่ยังประมาทพลาดพลั้งและไม่ให้ความสำคัญอยู่อีกอย่าง ที่ทุกคนค่อนข้างจะมองข้ามไปคือ ความเป็นผู้มีมิจฉาทิฏฐิ ไม่เชื่อในผลแห่งกรรม <O</O

 

ชอบแล้ว......
อนุโมทนา....สาธุ

ท่านที่เผลอไปล่วงเกินพระรัตนตรัยบ่อยๆ
สวดมนต์ไหว้พระทุกคืนก็ต้องขอขมาทุกคืนด้วยนะครับ

คำขอขมาโทษพระรัตนตรัย

<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o> </o>
โยโทโส โมหะจิตเต นะ พุทธัสสมิง ปาปะกะโต มะยา ขะมะ ถะเม กะตังโทสัง สัพพะปาปัง วินัสสันตุ<o></o>
<o> </o>
โยโทโส โมหะจิตเต นะ ธัมมัสสมิง ปาปะกะโต มะยา ขะมะ ถะเม กะตังโทสัง สัพพะปาปัง วินัสสันตุ<o></o>
<o> </o>
โยโทโส โมหะจิตเต นะ สังฆัสสมิง ปาปะกะโต มะยา ขะมะ ถะเม กะตังโทสัง สัพพะปาปัง วินัสสันตุ

<o></o>

 

สาธุกรรมใดอันข้าพเจ้าได้ล่วงเก.นไปแล้วก็ขอขมาพระรั.ตนตรัยและเจ้ากรรมนายเวรไว้นะที่นี้ เกิดชาติหน้าฉันใด.ขอนิพพานเป็นทื่ตั้ง สาธุ...

 

<TABLE cellSpacing=1 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>กิเลสไม่ได้อยู่ที่กาย...กิเลสอยู่ที่ใจ <HR width="100%" color=#dddddd SIZE=1></TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff>

หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน​

</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff>
<TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>

กิเลสไม่ได้อยู่ที่กาย กิเลสอยู่ที่ใจ
เหมือนฝึกม้าพยศ กิเลสไม่มีพอ ไม่เคยอิ่ม
หิวตลอด อยากตลอด เหมือนเชื้อไฟกองใต้ภูเขา กิเลสเก่งแบบนี้
แต่พอธรรมเก่ง ธรรมก็พอกันกับกิเลส ตามฟาดฟัน กันตลอด
ธรรมทำกิเลสหมอบได้ จนขาดสะบั้นลงในที่สุด

หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี
</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ปฎิบัติผิดวิธี ก็ท่านนั้นแหล่ะ
เป็นบ้า จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากท่าน
ปัญญาไม่ถึง ในความเป็นจริงท่านมันปัญญาอ่อนด้วยซ้ำไป

แล้วท่านจะบรรลุธรรมได้อย่างไร
ฮ่าฮ่าฮ่า