ท่านว่า ทำไมในขันธ์ 5 จึงไม่มีจิตขันธ์

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Waritham, 14 พฤศจิกายน 2009.

  1. รำมะนาด

    รำมะนาด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    226
    ค่าพลัง:
    +251
    คำว่า "รู้ทุกอย่าง"

    ชาวพุทธสงวนไว้
    สำหรับ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    เท่านั้น

    พระปัจเจกพุทธเจ้าก็ รู้
    แต่ไม่เท่าพระพุทธเจ้าอยู่ดี

    ธรรมดาอย่างเรา หากละอวิชชาได้
    ก้ "รู้" ได้

    แต่ไม่ทุกเรื่องแน่ ยืนยัน

    รู้ เท่าที่ รู้
    เท่านั้น
     
  2. Waritham

    Waritham เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +124
    ป่าวครับ เพียงแต่เห็นว่าคำตอบนั้นตรงกับกระทู้ที่สุด
    ลองกลับไปอ่านดูสิครับ
     
  3. รำมะนาด

    รำมะนาด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    226
    ค่าพลัง:
    +251
    พระโพธิสัตว์ก็รู้เท่าที่รู้
    จะรู้ทุกอย่าง
    ก็ต่อเมื่อ
    ท่านบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณ

    เท่านั้น
     
  4. Waritham

    Waritham เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +124
    ครับ แต่เป็นรู้คนละตัว จริงป่าว
     
  5. รำมะนาด

    รำมะนาด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    226
    ค่าพลัง:
    +251
    ทำไม
    มันถึงตรงกระทู้ที่สุดหละ
     
  6. รำมะนาด

    รำมะนาด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    226
    ค่าพลัง:
    +251
    ทำไม
    เป็นคนละตัวกันหละ
     
  7. Waritham

    Waritham เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +124
    ก็ท่านบอกว่าไม่มีในตำรา ก็น่าจะจบแล้ว
    คำตอบอื่นมาจากไหนล่ะ
     
  8. รำมะนาด

    รำมะนาด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    226
    ค่าพลัง:
    +251
    ก็มาจากความทรงจำ
    มาจากการทบทวน หาลู่ทางใหม่ๆบ่อยๆ

    มันไม่ได้งอกออกมาเองทั้งหมดหรอกนะ

    กว่ามันจะออกมาได้นะ
     
  9. Waritham

    Waritham เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +124
    กลับไปอ่านที่ท่านก็รู้ว่าคนละตัว
    แต่ไม่มีตัวหรอก
     
  10. จีโอ14

    จีโอ14 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    194
    ค่าพลัง:
    +262
    แล้วเมื่อไรจะเข้าเรื่องสะทีละเนีย..

    หรือว่า..เข้าเรื่อง..ไปแล้วchearr
     
  11. Waritham

    Waritham เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +124
    คุณมองจุดประสงค์ที่ผมตั้งกระทู้นี้ใหม่ละกัน
    ผมไม่ใช่คนอวดรู้ หรือสั่งสอนใครหรอก
    อยากให้ทุกคนมาแสดงความคิดกัน คนละหนึ่งคำตอบ
    จะได้เก็บไปคิด แลกเปลี่ยนกันก็เท่านั้น
    แต่วันนี้ผมก็ทำผิดความตั้งใจแล้วล่ะ
    กระทู้ที่ไม่มีความบริสุทธิ์ใจผมขอลา เช่นกระทู้นี้
     
  12. WLL_1514

    WLL_1514 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +40
    เพราะจิตไม่มีที่อยู่หรือมีที่อยู่ มันไม่มีตัวตนโดยสมบูรณ์(เป็นความว่างเช่นเดียวกับขันธ์5) แล้วจะให้จิตไปอยู่ในหรืออยู่นอก หรือท่ามกลางขันธ์5ได้อย่างไรกัน การคิดว่าอะไรอยู่ในอะไร หรือไม่อยู่ในอะไร เป็นความความคิดที่ติดอยู่ในกรงสังสารวัฏ
     
  13. albertalos

    albertalos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,462
    ค่าพลัง:
    +1,137
    จิต เป็นคำเรียก ที่กำหนดขึ้นใช้เรียกกับอาการ และสภาวะธรรม บางรูปแบบเช่น
    1จิต ใช้ แทน สภาวะของใจทั้งหมดเช่น ส่วนของนามทั้งหมด
    2จิต ใช้ แทน สภาวะธรรมในส่วนที่เข้าไปรู้เจตสิกคือส่วนที่มากระทบ จิต ตัวนี้เป้นวิญญานขันธ์
    3จิต ใช้ แทน สภาวะธรรมที่ละวางขันธ์ได้
    จิตจึงมี3อาการ
    1อาการของจิตที่ยังมีเหตุมีปัจจัยมีรูป
    2อาการของจิตที่หมดเหตุหมดปัจจัยมีรูป
    3อาการของจิตที่หมดเหตุหมดปัจจัยไม่มีรูป

    คำพูดที่ถูกกำหนดขึ้นโดยใช้คำๆเดียวกันแต่คนละสภาวะนี้ จึงต้องตีความเมื่อเวลาพบเจอ
    คำอีกคำที่ใช้เรียกเหมือนกันคือ รู้ คำนี้ก้ใช้เรียกสภาวะและอาการที่แตกต่างกันหลายแบบแต่ใช้คำเดียวกัน รู้ หมายถึง รู้ เข้าใจ เห็น วาง ปลอดโปร่ง ไม่มี มี
    สภาวะเหล่านี้ก้ใช้คำว่า รู้

    ขันธ์ เป็น ตัวเราในปัจจุนบันนี้ ที่มีอวิชาอยู่
    ขันธ์ ไม่เป็นตัวเราในปัจจุบันนี้เมื่ออวิชาหมด
    ขันธ์ ยังคงมีและแสดงอาการเมื่อยังมีเหตุ
    ขันธ์ ไม่มีอีกเมื่อดับเหตุได้

    ขันธ์ในส่วนนามก้คือจิต จิตมี3สภาวะ ตามที่กล่าวมา
    จิตที่ละวางขันได้ ก้คือนามที่ไม่ยึด และไม่มีอวิชา ไม่มีเหตุปัจจัย ไม่มีรูป
    ก้เป็นสภาวะหนึ่งที่เหนือบันหยัดแต่เราจะบันหยัดเรียกตัวเราอยู่เพราะเราอทิบายด้วยภาษาในสันยาขันมันเลยยังถูกเรียกว่าจิต มันจึงไม่ใช่ขันธ์ และไม่ใช่จิต มันเป็น นิพาน

    เอาที่สุดมาพูดมันก้ตอบกันได้ไม่เต็มที่ ยังไงก้ พิจารนาตามกำลัง ท่านอื่น คง ทราบในสภาวะเหล่นี้ดี ทั้ง มีจิต และไม่มีจิต มี ขันธ์ และไม่มีขันธ์
     
  14. albertalos

    albertalos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,462
    ค่าพลัง:
    +1,137
    คำว่ารู้สักแต่ว่ารู้นี้ รู้ในที่นี้ไม่ใช่วิญญาน
    วิญญานขันธืแสดงอาการว่าไม่มีตัวตนไม่ใช่เราไม่เป็นของเราและอาพาทไปตามที่พระพุทธเจ้ากล่าว ตรงนี้ผู้ใดเห็นไม่ชัดถึงการเกิดดับก้จะไม่รู้เท่าทันและไม่รู้อาการของมันด้วย ผมไม่อทิบายให้นะไปควานหาใจตัวเองเอา

    รู้สักแต่ว่ารู้ เป็นปัญญา เป็นการรู้อย่างมีสติและไม่ยึดมั่น เช่น
    รู้อาการรู้ของวิญญานขันธ์ เห็นไหม เราก้มีสติรู้ รู้อีกละคำเดียวกันเลย
    มีสติละลึกรู้ในวิญญานขันที่เกิดขึ้นรู้เวทนาบ้างสันยาบ้างสังขารบ้างในขนะนั้น
    เปปหากขนะนั้นมีสติละลึกรู้ในวิญญานที่รู้ในสันยาที่จำได้หมายรู้อาการของเวทนาที่เกิดจากธรรมมารมของสังขารธรรม ก้จะจัดว่ามีรู้ตอนนี้อยู่ 3 รู้ละแต่อาการและเป็นนามธรรมที่แตกต่างกันมีอาการรู้เหมือนกัน
    ที่นี้ไอ้รู้ที่ว่าสักแต่ว่ารู้นี่มันเป็นอีกรู้นึงแล้ว

    เป้นรู้ที่เห็นจริงตามสภาวะความเป้นจริง ทีนี้มันมีระดับยังไงในการรู้ล่ะ
    รู้ว่าอาการของขันธ์ที่กล่าวด้านบนที่ละลึกรู้ด้วยสติ มีอาการเกิดขึ้น รู้ในอาการที่เปลี่ยนแปลงไป รู้ในอาการดับลง เรียกว่ารู้เกิดดับ แต่ยังไม่ใช่รู้ทั้งหมดทะลุนะ
    นี่รู้อาการยังไม่เข้าใจ เมื่อนรู้แล้วเห็นความเกิดดับนี้มีความเป็นธรรมดาจึงรู้อีกว่า ไม่ต้องไปยึดมัน ไม่ต้องไปจับกับมัน นี้รู้มากขึ้น และสุดท้านพอมันมีอะไรเกิดมันรู้รอบไปหมดตั้งแต่ต้น และเกิด รู้ก้สักแต่ว่ารู้ ละทีนี้ เป็น ปัญญา รู้ แจ้ง วาง โปร่ง มันก้มี รู้ อีก

    ท่าจะกล่าวว่ามีตรงไหนในพระไตรปิดก มีครับแต่รู้แต่ละตัวนี้ท่านบันหยัดแยกระเอียดและชัดเจนมีชื่อเรียกต่างกันไป
    รู้ วิญญานขัน ปัญญา สติ สันยา ญานทัศนะ ... อื่นๆ ไม่ได้ใช้คำๆเดียวกัน
    เด่วจะบอกว่า รู้ในพระไตรไม่ได้มีหลายรู้ มันใช้คนละคำไม่เหมือนภาษาไทย
     
  15. albertalos

    albertalos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,462
    ค่าพลัง:
    +1,137
    คุนรำมะนาด จะรู้ไม่รู้ จะเห็นไม่เห็นเนี่ย สำหรับคุนที่ถามว่าจำเป็นต้องรู้ไหมและจำเป็นต้องเห็นไหม การรู้และเห็นเหล่านี้เป็นปกติที่จะเกิดกับจิตที่มีสติมาก กล้า ไม่ต้องบังคับ แต่มีเหตุ ดังเช่นการกระทำ นักปติบัติจะมีช่วงที่ เกิดการเห็นสิ่งหนึ่งในการละวางเริ่มต้น จึงคิดไปว่า กุศล อกุศล อพยากตา จะเลือกทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งก้ได้ด้วยคส่มไม่ยึด จึงเกิดการกระทำต่างๆนานาที่ตัวเองจะเลือกกระทำ แต่เมื่อผ่านช่วงนั้นมาแล้วจิตจะรู้เองว่า สิ่งที่ควรและเหตุที่เหมาะสม ที่ไม่เป็นไปเพื่อการเกิด หรือสานต่อ อีกนั้นควรทำเช่นไรไม่ใช่การเลือกกระทำอีกต่อไป

    คุน รำมะนาด สู้ๆ แต่จงรู้ไว้ว่าทำเหตุดีผลดีย่อมตามมา แต่หากมีสติ แต่ขาดปัญญาทำเหตุชั่วผลชั่วย่อมส่งผลเช่นกัน
     
  16. รอดมี

    รอดมี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    155
    ค่าพลัง:
    +161
    ผมเข้าใจจขกทครับ เวลามีความตั้งใจดีแล้วมาเจอคนบางจำพวก ที่ไม่สร้าง
    สรรค์ แสดงความเห็นยียวนกวนโทสะ คิดว่าตัวเองแน่ สำนวนภาษาที่ใช้หลง
    เพ้อว่าเหนือกว่าชาวบ้าน ชาวช่อง พวกนี้เป็นพวกสังคมรังเกียจ
    เมื่อก่อนก็เป็นแบบนี้ สมาชิกไม่อยากเสวนาด้วย จนต้องไปเปลี่ยนชื่อ
    เปลี่ยนเสียงมาใหม่ ชื่อเปลี่ยนแต่นิสัยไม่เปลี่ยน

    จขกทครับดีแล้วละครับออกห่างๆ คนพวกนี้ไว้ เสวนาด้วยหาประโยชน์ไม่ได้หรอกครับ
     
  17. เฉยชา

    เฉยชา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +103
    จิตมันเป็นอิสระจากทุกสิ่งไม่มีทุกข์ใด
    ขันธ์เป็นทุกข์ทนยาก จิตเกิดมาอาศัยขันธ์จิตจึงทุกข์
     
  18. 2ชาติตรัสรู้

    2ชาติตรัสรู้ គ្រប់គ្រាន់ รักษาดวงใจ.គ្រប់គ្រាន់

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +1,558
    เพราะจิตมีอวิชาจึงมายึดเอาสังขารขัน ว่าเป็นเรา จึงเป็นทุกข์
     
  19. albertalos

    albertalos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,462
    ค่าพลัง:
    +1,137
    รู้สึกจะมีคนหลงใน มิจฉาทิฐิของตน ความเห็นถูกยังไม่ได้มาก้ทำอะไรตามใจตนแล้วก้เที่ยวโทษคนอื่น อะไรไม่ตรงใจตนก้เลยผิดไปหมด มันไม่ใช่ไม่ตรงธรรมนะไม่ตรงใจ
    คนพวกนี้ไม่เจริญขึ้นสักที พวกนี้ใจต่ำ สัมมาทิฐิยังไม่มีจะยก ใจให้สูงขึ้นได้อย่างไรมันก้ได้แค่ครั้งคราว รักษาใจตัวเองไม่ได้เลยส่งออก ประมาท และสุดท้ายก้ไม่พ้นตกเป็นทาสของกรรม ดีหรือชั่วที่ทำ
     
  20. เสขะ บุคคล

    เสขะ บุคคล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,240
    กระทู้เรื่องเด่น:
    54
    ค่าพลัง:
    +4,021
    จิตหลงยึดอะไรก็เป็นไอ้นั่น จะขันธ์ไหนก็เถอะ จะเรียกว่าจิตขันธ์ก็ได้ก็สมมุติกันไป ถ้าไม่รู้ว่ามันไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่ใช่ตัวตน หลงยึดว่าเปนตัวตนเกิดดับเกิดตายตามสิ่งนั้น โดยหารู้ไม่ว่ามันโกหกเราอยู่ ถ้ารู้แน่แล้วมันอยู่ของมันอย่างนั้นไม่ได้ตายไปกับใครเลย มันก็สงบ สงบจากขันธ์ลงไปเรื่อยๆจนถึงที่สุดไม่หลงขันธ์อีกต่อไป มันหลอกเราโกหกเราอยู่ รู้ความจริงเมื่อไหร่ก็หมดความกลัว
    ไก่มันก็ขัน คนมันก็ขันเหมือนไก่
     

แชร์หน้านี้

Loading...