ไม่มีชื่อประเทศไทย ในแผนที่อนาคต

ถ้ามีข้อความใดอันทำให้ชาวสยามขุ่นเคืองใจ คนไทยอย่างผมต้องขออภัยอย่างแรงครับ
ผมเกิดไม่ทันจริงๆเลยไม่รู้ว่า ถ้าใช้ชื่อสยามแล้วมันจะทำให้คนเราศิวิไลขึ้นได้แค่ไหน
แม้แต่ชื่อแทนตัวยังไม่ค่อยจะใช้ภาษาไทยกันเลย...ชาวสยาม

 

ผมก็ขออภัยด้วยครับที่ใช้ชื่อตัวแทนเป็นภาษาอังกฤษแล้วทำให้รู้สึกข่นเคืองใจ
เนื่องจากตอนผมสมัครเข้ามาเว็บนี้ผมใช้ชื่อตามอีเมล์ของผมเลยไม่ได้ทันคิดขออภัยด้วยครับ

 

ดีครับ

ถ้อยที ถ้อยอาศัยกัน

ดูเหมือน ขุ่นเคืองกัน แต่ก็ขอโทษ ขอโพยกัน

น่ารักดีครับ คนเราเข้าใจผิดกันได้

ไม่ยึดอัตตา มากนัก เรื่องก็ ไม่บานปลาย

สาธุด้วยครับ

 

สยามก็คือไทย ไทยก็คือไทย

ผืนดินสยาม ผืนดินไทย

อดีตกับปัจจุบัน ปัจจุบันกับอดีต

สยาม กะ ไทย ก็ไม่เห็นจะต่างกัน ผืนดินก็ผืนเดียวกัน

จะใช้ไทย หรือ อังกฤษ ถ้าใจมันยังเป็นไทย

รักบ้าน รักชาติ มันก็ไม่ได้ต่างอะไรกัน

การศึกษาประเทศอื่น ก็อย่าลืมบ้านตัวเอง

เพราะถึงจะเป็นคนที่ไหนก็ต้องรัก ชาติกำเนิดตัวเอง

ศึกษาภาษาเค้า เพื่อปรับให้ประเทศเราก้าวหน้า

ไปแสดงให้คนเค้ารู้ว่า บ้านเราก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าใคร

สยามก็ต่อสู้ ไทยก็ต่อสู้ ชื่อเก่ากะชื่อใหม่ มีอะไรแตกต่าง

มันอยู่ที่ใจคน มันต่าง ตะหาก ชื่อน่ะ ไม่ได้มีอะไร

ถ้าคนมันยังรักชาติบ้านเมืองอยู่

 

ทุกสรรพสิ่งมีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ไม่มีสิ่งใดจีรังยั่งยืน
ติดยึดมากก็ ชาติภพมาก ทุกข์มาก
เหตุแห่งการเวียนว่ายตายเกิด จะหนาแน่นเพิ่มขึ้น
เส้นแบ่งต่างๆของคนเกิดจากอคติ
ว่าสิ่งนั้นเป็นของตน ว่าสิ่งนี้เป็นของตน
ทำให้ติดยึด กับสิ่งนั้นสิ่งนี้
ขอพิจารณา การยึดติด
ครับ
ขอสรรสิ่ง บุญญาบารมี ในสรรพสิ่ง นำทางด้วยครับ

 

พี่ๆ น้องๆ เวปนี้นิสัยดีกันจริงๆ เลยฮะ

 

ที่จริงเราใช้ทั้ง สยามและไทยครับ จาก พระราชนิพนธ์ของล้นเกล้ารัชกาลที่ 6

"หาก "สยาม" ยังอยู่
ยั้งยืนยง
เราก็เหมือนอยู่คง
ชีพด้วย


หาก "สยาม"พินาศลง
ใครอยู่ ได้ฤา
เราก็ม้วยหมด
สิ้นสุกล "ไทย"


------------------------------------------------

นั่นคือพระองค์ท่านเล็งเห็น เหตุที่ทำให้ชาวไทยสิ้นจากความรักชาติ รักแผ่นดิน

ส ยา มา นั้นมีความหมายถึง สวรรค์ที่สถิตแห่งพระโพธิสัตว์
กรุงเทพ นั้นหมายถึง เมืองแห่งเทพเทวะ

มงคลนามนั้น ทำให้ ปวงชนได้เตือนใจรำลึกถึง คุณธรรม ความดีที่ ชาวประชาชาติควรตั้งมั่นและภาคภูมิใจ

ธงชาติสยามนั้น แต่เดิมจะปรากฏช้างเผือกโพธิสัตว์บนธงไตรรงค์ เป็นเครื่องหมาย ถึงช้างอันเป็นใหญ่ในป่าโดยปราศจากการเบียดเบียนใคร

ชาวไทยในสยามประเทศยุคนั้นก็มีเกียรติยศ มีความเจริญรุ่งเรืองยิ่งกว่าหลายประเทศในเอเชีย มหาอำนาจของยุโรปยังต้องเกรงใจ

แล้วบัดนี้เล่า

ไทยแลนด์ หากเรา รู้จักเรื่องการพ้องเสียง แสลง มันพ้องเสียงกับ ไทแรนท์ ต่างชาติฟังชื่อคิดถึงอะไร คิดกับเราแบบไหน คิดบวกหรือคิดลบ


บางกอก พ้องเสียงกับ ความหมายในภาษาอังกฤษว่าอะไร หลายท่านคงไม่ต้องอธิบาย รวมทั้งทราบกันดีว่า เขาหัวเราะและคิดไปถึงเรื่องใด

บางเรื่องเป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อน และมีความสำคัญอย่างยิ่ง

แต่หลายคนมองข้าม

และหลายคนตั้งใจให้เป็นไปแบบนี้

เรามาช่วยกันสร้างความภาคภูมิใจ ในชาติ อย่างสร้างสรรค์กันดีกว่าครับ

ประวัติศาสตร์มีไว้เพื่อให้เราภาคภูมิในเกียรติ๓มิของชาติและรักษาเอาไว้

ในขณะเดียวกันก็เพื่อเรียนรู้สิ่งผิดพลาดในอดีตเพื่อปรับปรุงแก้ไขและไม่ทำซ้ำความผิดพลาดเก่าๆ

ร่วมใจกันครับ เพื่อบรรพบุรุษไทย เพื่อผืนแผ่นมาตุภูมิ และที่เหนือสิ่งอื่นใด เพื่อในหลวงของเราครับ

 

ถ้าไทยไม่ได้ถอยร่นมาจากตอนใต้ของจีนแล้วเรามาจากไหนหรอครับ
อ่านจากหนังสือประวัติศาสตร์ก็บอกว่าอยู่ทางใต้ของจีนรบกวนชี้แนะด้วยครับ

 

การขุดพบแหล่งอารยธรรมโบราณที่บ้านบ้านเชียงจังหวัดอุดรธานีทำให้นักประวัติศาสตร์ไทยและต่างประเทศระบุว่าประเทศไทยมีความเจริญรุ่งเรืองมาก่อนบนผืนแผ่นดินสุวรรณภูมิแห่งนี้มากกว่าสามพันปีครับ



[U]แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง[/U]
----------เมื่อราว๓,๐๐๐-๖,๐๐๐ ปีมาแล้วนั้น ดินแดนแถบลุ่มแม่น้ำโขงตอนใต้ได้เกิดชุมชนโบราณขึ้นที่บริเวณบ้านเชียง ใกล้วัดโพธิ์ศรีใน อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี มนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์กลุ่มนี้ถือว่ามีความสามารถด้านเทคโนโลยีสูง รู้จักวิธีทำเครื่องปั้นดินเผาที่มีลักษณะเด่นเฉพาะท้องที่คือการเขียนลายบนภาชนะดินเผาแทนการใช้ลายแบบเชือกทาบที่มีมาแต่เดิม และเขียนลายสีประกอบกับลายเชือกทาบ เป็นลวดลายเฉพาะไม่เหมือนแหล่งโบราณคดีที่ใดในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
----------มนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ที่บ้านเชียงนี้รู้จักการหล่อโลหะสำริดเป็นเครื่องประดับ สร้างรูปแบบมีด หอก ขวาน หัวลูกศร ฯลฯ ได้เมื่อ ๔,๙๐๐-๕,๖๐๐ ปีมาแล้ว รู้จักถลุงเหล็กแล้วนำมาหลอมตีขึ้นรูปเป็นเครื่องมือเครื่องใช้เมื่อ ๓,๒๐๐-๓,๖๐๐ ปีมาแล้ว รู้จักปลูกข้าว เลี้ยงสัตว์ (ควาย) และทอผ้าไหมได้ ซึ่งพบหลักฐานทางโบราณคดีเป็นเศษผ้าไหมบนกระดูกต้นขาของกระดูกมนุษย์โบราณในหลุมสำรวจ
----------มนุษย์กลุ่มบ้านเชียงนี้มีหลักแหล่งอยู่ในดินแดนดังกล่าวมากว่า ๖,๐๐๐ ปี (จากการตรวจสอบอายุภาชนะดินเผา โดยสถาบัน MASCA แห่งสหรัฐอเมริกา) จึงมีความก้าวหน้าเช่นเดียวกับมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ในประเทศจีน อินเดีย หรือในตะวันออกกลาง ที่นักโบราณคดีให้ความเชื่อมาว่าเป็นแหล่งที่มีอารยธรรมเจริญมาก่อน
----------แหล่งอารยธรรมโบราณนอกจากพบที่บ้านเชียง อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี แล้วยังพบวัฒนธรรมแบบเดียวกันอีกหลายแห่ง ในตำบลบ้านดุง (อำเภอบ้านดุง) ตำบลศรีสุทโธ (อำเภอบ้านดุง) ตำบลบ้านชัย (ตำบลบ้านดุง) ตำบลบ้านอ้อมกอ (อำเภอบ้านดุง) บ้านเมืองพรึก ตำบลแชแล (อำเภอภุมภวาปี) บ้านต้อง (อำเภอหนองหาน) บ้านนาดี (อำเภอหนองหาน) บ้านผักตบ ตำบลผักตบ (อำเภอหนองหาน) บ้านโนนนาสร้าง ตำบลสะแบง (อำเภอหนองหาน) บ้านสะแบง ตำบลสะแบง (อำเภอหนองหาน) บ้านโพน ตำบลบ้านธาตุ (อำเภอเพ็ญ) ที่ศาลเจ้าปู่บ่อใต้ ในตำบลสร้างคอม (อำเภอสร้างคอม) ตำบลเตาไห(อำเภอเพ็ญ) และที่โนนขี้กลิ้ง ในบ้านหนองสระปลาที่ตำบลบ้านยา (อำเภอหนองหาน) ตำบลม่วงไข่(อำเภอพังโคน) ตำบลสะแบง (อำเภอหนองหาน) ซึ่งมีแหล่งถลุงสำริดขนาดใหญ่ที่บ้านนาดี (อำเภอหนองหาน)
----------จังหวัดสกลนคร พบที่บ้านโคกคอน ตำบลโคกสี (อำเภอสว่างแดนดิน) ตำบลพันนา (อำเภอสว่างแดนดิน) ตำบลแวง (อำเภอสว่างแดนดิน) บ้านสร้างดู่ บ้านโนนโคกยาง ตำบลคำบ่อ (อำเภอวาริชภูมิ) และ ที่เนินโรงเรียนบ้านม้า ตำบลทรายมูล (อำเภอวาริชภูมิ ) เป็นต้น
----------วัฒนธรรมบ้านเชียง นั้นเป็นวัฒนธรรมของเครื่องปั้นดินเผาที่เขียนลายสี ซึ่งมีการสร้างลวดลายเฉพาะท้องถิ่นได้แก่ ลายขดก้นหอย ลายตุ๊กแก จนเรียกว่า ลายบ้านเชียง ซึ่งสามารถศึกษาว่ามนุษย์ได้มีการเรียนรู้วิธีผลิตสีเขียนจากวัสดุที่พบในท้องถิ่น ปัจจุบันแหล่งโบราณคดีที่สร้างอารยธรรมบ้านเชียงได้รับการประกาศให้เป็นมรกดกโลกทางวัฒนธรรม




ที่มาจาก : siam_discovery
บันทึกสยาม: แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง

 

ใช่แล้วคะ ไทยก็คือสยาม สยามก็คือไทย ชอบทั้งสองชื่อ ไม่มีอะไรมาแบ่งแยก

 

ละก้อ ไอ่เรื่องที่มันย้ายมาจาก ตั้งแต่คุนหมิงไล่ลงมาถึงสิบสองปันนา

อพยพมาอยู่ที่แถบเหนือ ก็ไม่แปลก ถ้าเคยมาแล้วจะรู้

ว่าที่นี่ มีเผ่าไต และชนกลุ่มน้อย อีกเยอะ ที่มีภาษาคล้ายภาษาเหนือ

พวก ยอง อะ พูดจะคล้ายภาษาเหนือเลย แต่สำเนียงไม่เหมือนนะ

แล้วพวก แต้จิ๋ว กวางตุ้ง พวกนี้อยู่แถว ๆ เหนือ (เหนือคุนหมิงอะ)

ย้ายมา ร่วม ๆ สมัย ร. ห้า

ละก้อ จากประวัติศาสตร์ อันนี้เชื่อได้

เค้าก็สัณนิษฐาน ว่า มาจาก ทางใต้ของจีน

แยกออกมาเป็นจังหวัด ๆ อ่านะ

แต่จำไม่ได้ ไปหาใน กูเกิ้ล ระกาน


ละก้อ ไอ่พวกเรื่องงมงาย

ทุกประเทศมันก็มีทั้งคนดี และคนเลว แต่ต้องคุมคนเลว ผ่อนปรนคนดี

มันไม่ใช่ว่าจะงมงายกันทั้งประเทศ

ละพวกเรื่อง โกงกินบ้านเมือง คอรัปชั่น ตอนนี้เป็นเวลาของมันอยู่ เราทำอะไรมิได้

แต่มันก็ไม่นาน ที่มันจะพินาศกัน รอไปอีกนิดนึง มันก็ตายกันทั้งบางแล้ว

 

ข้าพเจ้าขอบอกทุกคนทั่วกันว่า คำที่เคยถูก
เรียกแผ่นดินนี้ เมื่อครั้นก่อนอย่างไร
"สยาม"
นั้นจะต้องกลับมาเป็นนามศรีคู่แผ่นดินอย่างนั้นแน่นอน​

 

ข้าพเจ้าขอบอกทุกคนทั่วกันว่า คำที่เคยถูก
เรียกแผ่นดินนี้ เมื่อครั้นก่อนอย่างไร
"สยาม"
นั้นจะต้องกลับมาเป็นนามศรีคู่แผ่นดินอย่างนั้นแน่นอน
​

 

ถามนิดนึงฮะ มีอะไรที่บอกว่ามันจะเป็นแบบนั้น
เพราะดูจากที่พิมพ์ คุณพี่มั่นใจมากๆ

 

แล้วคนที่เค้าเข้ามาอยู่ทีหลังอย่างลูกครึ่งและได้สัญชาติไทยทีหลังเค้าจะคิดงัยหนอ
จะเกิดการแบ่งแยก สยาม-ไทย -ยาวี-อยุธยา-สุโขทัย-1081009 มั้ย มีใครคิดบ้าง

 

คนไทยไม่เคยเรียกตัวเองว่าสยามนะครับ มีแต่ต่างชาติทั้งนั้นแหล่ะเรียก

 

จะกลายเป็น พุทธะอิสระ(เอว)....4444

 

เราคือพี่น้องร่วม เกิด แก่ เจ็บ ตาย

***ไม่ว่าจะเชื้อชาติ ศาสนา ยุคสมัยไหน คนเราผ่านการเวียนว่ายตายเกิด ไม่รู้กี่ภพชาติ แต่ละคนแต่ละดวงจิต อาจจะเคยผ่านการเกิดไปในชาติ ในสมัยต่างๆมานับไม่ถ้วน ดังนั้นเราควรจะละอัตตา ตัวตน เรา เขา เหตุการณ์ เรื่องราว (เพราะสิ่งเหล่านี้คือบัญญัติ สมมุติ ไม่ใช่ปรมัตถ์)
***คนเราเกิดมาทุกคน เป็นพี่น้องร่วมโลก เป็นพี่น้องร่วม เกิด แก่ เจ็บ ตาย ที่สุดของมวลสัตว์โลกคือ ความตาย (ไม่ใช่การมีชีวิตอยู่)
***ดังนั้นเวลาที่เหลืออยู่น้อยนิด พวกเราควรจะทำยังไง ช่วยเหลือกันยังไง ที่จะประคับประคองดวงจิตของแต่ละคนให้สูงขึ้น(ให้มีสัมมาทิฐิ ความคิดถูก ความคิดชอบ) เพื่อที่จะเดินทางสู่ที่สุดแห่งทุกข์(คือพระนิพพาน) ไม่ตกลงสู่มิจฉาทิฐิ(ความคิดผิด ความหลงผิด) มีแต่ตัวกู ของกู เหตุการณ์ เรื่องราว.....ต่อด้วยความวุ่นวาย ไม่รู้จักจบสิ้น.และนี่คือเหตุแห่งการสร้าง ภพ-ชาติ ต้องกลับมา เวียนว่าย ตาย-เกิดอีก (มีแต่ทุกข์)
กระทู้ของลุงคนเชียงใหม่มีประโยชน์มากค่ะ ถ้ามีข่าวสารใดๆเพิ่มเติม โปรดลงข้อมูลมาเรื่อยๆนะค๊ะ ถ้าเวลานั้นมาถึงจะได้เตรียมตัวเตรียมใจทันค่ะ.

 

บรรพบุรุษของไทยเรานั้น มิได้ย้ายมาจากที่ใด
พวกท่านได้อาศัยอยู่ที่ตรงนี้มาหลายพุทธันดรแล้ว
ที่มีหลักฐานจากที่ได้เคยศึกษามานั้นพบว่า
ในพุทธันดรที่4 ของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน
คือ พระพุทธเจ้าสมณโคดม
ประเทศไทยเราเรียกว่า สุวรรณภูมิ
ในราวๆปีพ.ศ.0 มีพระอรหันต์ที่มีบ้านเกิดอยู่แถวปราณบุรี
ชื่อพระโสณณะเถระ ท่านได้เผยแพร่ศาสนาพุทธอยู่ในสุวรรณภูมิ
ซึ่งตั้งอยู่บริเวณ ตำบลคูบัว อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรีครับ
อ้างอิงจาก
http://palungjit.org/threads/คนไทยมาจากไหน-ประวัติศาสตร์ไทย-พุทธสาสนสุวัณณภูมิปกรณ.276390/

 

ไม่ต้องเปลี่ยนชื่อแซ่..คนไทยก็คือคนไทยนะแหละขออย่าสร้างความแตกแยกแก่กันเท่านั้นประเทศชาติเป็นสุข...ประชาชนก็เป็นสุขแต่ถ้ารู้จักศึกษาประวัติศาสตร์ว่า..ก่อนจะเป็นประเทศมาได้ ใครคือบรรพบุรุษของเรา เรื่องอนาคตจะเป็นเช่นไรก็ไม่สำคัญหรอก....