ถามเรื่องพญานาคค่ะใครรู้ช่วยตอบทีค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับคุณนาคาที่ช่วยให้ความกระจ่างเรื่อง การถืออุโบสถศีลค่ะ

 

อยากถามพี่น้ำใสว่า...ลักษณะผู้ครอบครองเพรชนาคาว่าเป็นผู้มีวาสนาใช่ไหมหรือว่าท่านต้องการอยู่กับคนนั้นค่ะ คือว่า..พึ่งบูชาได้มาเมื่อวานจากหลวงพ่อรูปหนึ่งเป็นลักษณะรูปวงรีจะออกสีทองๆส้มๆพอสำผัสจับเเตะต้องเหมือนมีพลังงานเเรงดึงดูดเข้ามาในข้อมือ เหมือนตัวชาๆคล้ายๆไฟฟ้่าช๊อตเเบบนี้หมายถึงอะไรค่ะไม่รู้จะถามใครเลยถามพี่น้ำใสเพราะพี่น้ำใสรู้รายละเอียดดีมากค่ะ...ขอบคุณพี่น้ำใสล่วงหน้านะค่ะoishi_:VO

 

สวัสดีค่ะ น้อง Lukhgai

ลักษณะเพชรพญานาคที่ได้มาเป็นสัณฐาน ลูกรักบี้ หรือบางท่านเรียกว่า เหล็กไหลน้ำค่ะ จะมีอานุภาพ และพลังงานที่สูงกว่าสัณฐานอื่น ๆ ถ้ามีน้ำหนักมากจะเป็นพญานาคที่ถืออุโบสถศีล (ศีล ๘ ) ถ้าน้ำหนักเบา เป็นพญานาคถือศีล ๕ ค่ะ สำหรับความหมายมีดังนี้..

สีเหลือง หมายถึงความนุ่มนวลมีสง่าราศีสีที่แสดงถึงความมั่งคั่งมีโชคมีลาภไหลมาเทมามีความเจริญสดใสรุ่งเรืองดัง”ทองคำ”ที่มีคุณค่าในตัวเอง กระแสแห่งสียิ่งสีสดใสเท่าใดยิ่งมีกระแสแห่งโชคลาภทรัพย์สินเงินทองเปล่งประกายมากขึ้นเท่านั้น

เป็นกระแสที่ทำให้น่าเกรงขามเคารพศรัทธาในความมีสง่าราศีดังเจ้าขุนคุณนายเจ้าพระยาผู้มีศักดิ์มีศรีจะได้รับการช่วยเหลืออนุเคราะห์สงเคราะห์ทำให้หน้าที่กิจการเจริญก้าวหน้าราบรื่น

ครูบาอาจารย์ท่านกล่าวว่า...ผู้ที่ได้ครอบครองดูแล จะเป็นผู้ที่มีวาสนา และเคยเนื่องกับพญานาคองค์นั้น เมื่อได้มาพญานาคผู้ดูแลจะทำการปรับธาตุในร่าวกายเราให้สมดุลย์ บางทีจะรู้สึกว่าเกิดกระแสร้อน ๆ หนาว ๆ หรือปวดศีรษะในบางคน ประมาณ ๑ - ๒ สัปดาห์ แล้วแต่กรณีค่ะ

ถ้าเกิดอาการแบบนั้น ถือว่าเป็นปกติให้ถือศีล ๕ ให้บริสุทธิ์ และหมั่นนั่งสมาธิแผ่เมตตาให้แก่พญานาค ผู้รักษาให้มาก ๆ อาการเหล่านั้นจะหายไปเองค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับน้องด้วยค่ะ

P'Numsai

 

อนุโมทนาครับ มิน่าทำไม บางวัน ร้อนๆ หนาวๆ ปวดหัว เป็นแบบนี้นี่เอง

 

(k)(k)ขอบคุณค่ะพี่น้ำใสขอบคุณพี่มากๆ เมื่อคืนว่าจะไหว้พระสวดมนต์เหมือนทุกๆวันที่ผ่านมาเลยไม่ได้สวดมนต์มีเมื่อคืนเกิดอาการปวดหัวร้อนๆหนาวๆนอนไม่ค่อยหลับกว่าจะหลับก็ปาไปเกือบตี2จนต้องไปหาสร้อยพระที่เคยใส่ประจำมาใส่ถึงนอนได้ไม่งั้นคงพลิกไปพลิกมาไม่หยุดทั้งคืนเเน่ รูปร่างสันฐานที่ได้มาเหมือนพี่น้ำใสพูดมาทั้งหมดน้ำหนักหนักมากค่ะ....เเล้่วเวลาบูชาบูชาท่านยังไงค่ะถวายอะไรบ้างค่ะเมื่อถึงวันพระเเล้วเอาติดตัวตลอดเวลาได้ไหมค่ะเวลาที่เดินทางไปไหนอ่ะค่ะ น้องขอรบกวนพี่น้ำใสเเค่ก่อนนี้ค่ะ

 

งั้นถ้าใครได้เพชรพญานาคมาหลายๆสี แสดงว่า...ขาดคุณสมบัติด้านนั้น เลยได้มาเพื่อเติมเต็มหรือเปล่าคะพี่น้ำใส ^___^
เริ่มจากเหลือง...ม่วงคราม...ต่อมาก็เป็น แดง ส้ม ม่วงอ่อน..ม่วงเข้ม...เขียว
และ ขาวใส... ท้ายสุดเป็นลูกแก้ว สีน้ำเงิน ...
(ขาดแต่สีชมพู สีเทา สีดำมังคะ...ที่ยังไม่ครบ ใครอยากเอื้อเฟื้อให้ครบก็ได้ค่ะ...อิอิ)
ตอนได้มา...ไม่มีอาการใดกับเค้า นอกจากฝันประหลาดถึงงูยักษ์ ทำให้กลัว...พออธิษฐานก็หายไป ...พอลืมๆ บางวันก็มีฝันถึง...พญางูกายโปร่งใส แฝงเร้นกายในห้อง...

 

พี่มีรูปให้ชมนะคะ ลองดูว่า เหล็กไหลน้ำเป็นอย่างไร สีแดงนี่แรงกว่าสีอื่น ๆ ค่ะ

บุญรักษาค่ะ

P'Numsai

 

ตามที่ได้ทราบมา การได้มาแต่ละสี เพื่อเติมเต็มในด้านนั้น ๆ ค่ะ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ขาดคุณสมบัตินั้น ๆ หรอกค่ะ เป็นเรื่องของบุญมากกว่าค่ะ แต่พี่รักสีขาวที่สุด บางท่านจะเรียกว่า แก้วสารพัดนึก เพราะได้มาเงินไหลมาเทมาไม่ขาดสาย..อิอิ...

สำหรับพญานาคกายโปร่งใส ท่านเป็นผู้ดูแลลูกแก้วสีน้ำเงินค่ะ แต่ว่าไม่อยากให้บูชาสีดำมานะคะ เพราะเป็นกระแสของฝ่ายมิจฉาทิฐิค่ะ

บุญรักษาค่ะ

P'Numsai

 

อ่าาา คือตอนนี้ผมได้มณีพญานาคมาเป็นสีแดง สันฐานแบบลูกรักบี้
(ไ้ด้มาแบบว่าไม่ตั้งใจ เขาเอามาให้) ก็เพิ่งมาอ่านเจอเห็นเขาบอกว่าเอามากำไว้
ตอนนั่งสมาธิเหรอครับและเขาจะเชื่อมบารมีหรือปรับธาตุ อะไรนี่แหละผมว่าจะ
ลองดูครับ แต่รู้สึกมีน้ำหนักจังลูกไม่ใหญ่ ไม่รู้ว่าตัวเองเกี่ยวข้องกับพญานาคหรือปล่าว

และขออนุโมทนาบุญกับพี่น้ำใสด้วยครับกำลังติดตามอ่านยังไม่จบเลย สนุกมาก
ครับ

 

สวัสดีค่ะ คุณ Ga_t

ปกติเพชรพญานาค ไม่ว่าจะเป็นสัณฐานแบบไหน เช่น เป็นทรงกลม หลังเบี้ย พระขรรค์ หรือลูกแก้วพญานาค เป็นต้น

ถ้ามีขนาดใหญ่เกินไป สามารถนำมาวางบนมือเวลานั่งสมาธิ จะช่วยเรื่องการปรับธาตุ หรือปรับสมดุลย์ในร่างกายเรา บางท่านจะทำให้การฝึกสมาธิดีขึ้นค่ะยิ่งน้ำหนักมาก อานุภาพยิ่งสูง

และผู้ที่ได้มาครอบครองนั้น ต้องเนื่องกับพญานาคนั้น ๆ แน่นอนค่ะ ส่วนใหญ่จะเกี่ยวเนื่องกันเป็นพ่อ แม่ พี่น้อง หรืออาจจะเป็นเพื่อนในชาติที่เป็นพญานาคค่ะ ท่านเหล่านั้นจึงต้องตามหาเจ้าของ เพื่อสร้างบุญต่อไปจนกว่าจะไปจุติในภพใหม่

ช่วงนี้พี่ยุ่ง ๆ เรื่องบอกบุญสร้างพระ กับสร้างห้องน้ำค่ะ ยังไม่มีเวลาเขียนเรื่องให้จบ รอนิดนึงนะคะ

ขออนุโมทนาบุญค่ะ

P'Numsai

 

ผู้ตรวจการ

ผู้ตรวจการคือใคร บัญญัติเทพมีอะไรบ่างใครรู้ช่วยบอกที

 

ขออภัยไม่ทราบค่ะ ลองไปถามในห้องวิทยาศาสตร์ทางจิตดูนะคะ มีผู้รู้เรื่องเทพมากมาย พอที่จะบอกท่านได้ค่ะ

ขออนุโมทนาบุญค่ะ

Numsai

 

เคยฝันเห็นพญานาคค่ะเมื่อปีที่แล้วในแม่น้ำโขง ฝันเห็น 2 องค์ค่ะ สีดำ กับสีเหลืองทองค่ะ สีดำอยู่ในน้ำส่วนสีทองเลื่อยขึ้นมาบนบกค่ะแล้วดิฉันก็ก้มลงกราบท่านก็แปลงร่างเป็นคนแก่ค่ะแล้วก็บอกว่าต่อไปนี้ให้สวดมนนี่งสมาธิค่ะ ส่วนอีกครั้งหนึ่งฝันเห็นเดือน ธค.52 ค่ะ ฝันเปชห็นอยู่บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลหลักเมือง มาโอบรัดกายดิฉันลอยขึ้นสูงแล้วเหมือนเราจะพูดกันด้วยกระแสจิตค่ะอ้อท่านตัวสีเขียวเป็นผู้หญิงค่ะ และได้พูดกับฝ้ายว่า คุณหนูดิฉันตามหาคุณหนูมานานแล้วดิฉันดีใจเหลือเกินแล้วท่านก็เอาหน้าของท่านมาถูกับหน้าของดิฉันแล้วดิฉันก็ตื่นค่ะ อ้อดิฉันเป็นคนไม่ค่อยเชื่อความฝันเท่าไหร่ค่ะแบบว่าไม่ค่อยเชื่อว่ามันจะเกิดขึ้นจริงค่ะ ดิฉันตั่งแต่เด็กจะมองเห็นวิญญาณและสัมผัสวิญญาณได้ค่ะจนทุกวันนี้ก็ยังสัมผัสได้ดีอยู่ค่ะแต่ทุกวันนี้จะเห็นเป็นเจ้าที่มากกว่าสัมพเวสีค่ะยิ่งถ้าได้ปฎิบัติจะเห็นชัดค่ะแต่ถึงกระนั้นดิฉันก็ยังไม่เชื่อว่าสิ่งที่เห็นคือวิญญาณหรือเทวดาเจ้าที่ค่ะแต่รู้ว่ามีจริงแน่นอนค่ะทั้งสัมพเวสีและเทวดานางฟ้า ดิฉันเคยฝันเห็นเทวดานางฟ้าด้วยค่ะ อยากฟังไหมค่ะจะเล่าให้ฝังต่อ ในความฝัน ดิฉันจะไปสถานที่แห่งหนึ่งแต่ไม่รู้ว่าที่ใด มีแม่น้ำ และ็ก็มีคนพายเรือมาบอกว่ามารับจะพาไปเที่ยวค่ะพอดิฉันขึ้นเรือและคนพายเรือไปได้ซักพักก็เจอน้ำวนดูดทั้งเรือและดิฉันลงไปใต้น้ำ พอลงไปใต้น้ำจะมีปากทางเข้าเหมือนเป็นปากถ้ำค่ะเข้าก็บอกว่าถึงแล้วเข้าไปนี่เหรอสถานที่เราจะไปที่เราตามหาอยู่พอเดินเข้าไปมีบ้านคนเป็นทุ่งนาส่วนใหญ่จะเป็นทุ่งนามากกว่า แล้วดิฉันก้เดินตามริมคลอง อยู่ก็มีแลงส่องลงมาที่ตัวฉันดิฉันก็เลยเงยหน้าขึ้นไปดูพบว่าเป็นนางฟ้ากำลังใช้มือแบบแบมือแล้วก็ส่องมาที่ดิฉันแล้วก็เห็นพระอินแบบมีแสงสีเขียวตัวเขียวแล้วก็นางฟ้ากำลังพัดให้ท่านก็นั่งบนที่ประทับเป็นเหมือนแท่นที่นั่งค่ะซักพักก็มีพานทองลอยมาแล้วก็มีอาหารหมายถึงผลไม้ค่ะมาอยู่บนพานบางท่านก็ร้องรำทำเพลงบางท่านก็ดีดพิณเป็นเครื่องดีดค่ะไม่แน่ใจเหมือนกันท้องฟ้ามีเส้นแบ่งครึ่งเป็นเส้นสีดำก้อนเมฆทางที่เห็นเทวดา นางฟ้าเป็นรูปดอกไม้ค่ะส่วนอีกครึ่งเป็นเหมือนก้อนเมฆบนโลกมนุษย์เรานี่แหละค่ะ แน่แหละค่ะก็คือความฝันของฝ้าย

 

ใครรู้ช่วยตอบทีนะค่ว่าดิฉันมีอะไรเกี่ยวพันกันหรือเปล่าถึงได้ฝันแบบนั้นรบกวนท่านผู้ตอบทาง PMนะค่ะขอบคุณค่ะ

 

ไม่ได้แวะเข้ามาซะนาน ดูคึกคักดีจังเลยนะค่ะ

แวะมาให้พี่น้ำใสช่วยอีกแล้วเจ้าค่ะ ว่าพักหลังๆนี้ส้มมักจะฝันว่าตัวเองลงไปเล่นน้ำอยู่ในน้ำบ่อยมากเลย อีกอย่างมักจะมีคุณแม่อยู่ในน้ำด้วยเกือบทุกครั้งในฝันส้มใส่ชุดโบราณๆผมยาววววอีกตะหาก ม่ะรู้ว่าฟุ้งซ่านมากเกินไปจนฝันแบบนี้รึเปล่า รึว่ามีอะไรบางอย่างอะไรซักอย่างที่ส้มไม่เข้าใจ ฝันนี้สื่อถึงอะไรค่ะ
ช่วงนี้ก็ไม่ค่อยได้สวดมนต์ไหว้พระซักเท่าไหร่เลย
เฮ้ยยยอยากฝึกตัวเองอยากนั่งสมาธิจริงๆจังๆ ในกรุงเทพพอจะไปฝึกสมาธได้ที่ไหนมั้งค่ะิ อยากไปสงบจิตสงบใจ
ใครพอมีที่ทางที่รู้จักแนะนำหน่อยนะค่ะ

 

สวัสดีค่ะ

ขออยู่นครนี้ด้วยคน ตามอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับพญานาคจนเจอกระทู้นี้ สวัสดี จขกท นู๋ปุยฝ้าย(ชื่อเดียวกับน้องสาวพี่เลยน๊า...) พี่น้ำใส ท่านปุโลหิต และสมาชิกทุกๆท่านค่ะ ;hi2

 

ยินดีต้อนรับสู่นครปุยฝ้ายค่ะคุณ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->pk010209<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2919986", true); </SCRIPT> ^____^

ขอให้สนุกกับการติดตามอ่านเรื่องราวตื่นเต้น เยอะแยะ จากนครนี้นะค๊ะ

อิอิ ^O^

 

อ่านเรื่องราวของท่านอื่นๆ ทำให้อยากรู้เรื่องราวของตนเองบ้างค่ะ ตอนนี้ปรางก็มีพลอยพญานาคอยู่ 2 เม็ด แดง กับ ฟ้า ได้มาก็เพราะร่วมทำบุญค่ะ ไม่ได้มีใครให้ และก็เป็นคนหนึ่งที่ฝันถึงพญานาคเช่นเดียวกันค่ะ
ครั้งแรก : ท่านมาให้เห็นในร่างของพญานาคราช องค์ท่านเหมือนแก้ว(เกร็ด) เราไม่ได้คุยอะไรกันเลยค่ะ ท่านกำลังเคลื่อนมาใกล้ๆเห็นก็แต่สังวาลของท่านประดับด้วยเพชรพลอยหลายสีแต่ชัดสุดคือ สีม่วง สวยมากๆ ซึ่งตอนแรกปรางเข้าใจว่าเป็นองค์สีขาว เพราะหาข้อมูลที่ไหนก็ไม่มีเกี่ยวกับองค์ที่เกร็ดท่านเป็นแก้ว แต่ไม่นานมานี้ได้อ่านเรื่องราวหนึ่งเกี่ยวกับการสร้างองค์นาคาธิบดี 9 เศียรที่ปราจีนฯ รายละเอียดจะกล่าวถึงองค์พญานาคที่มีเกร็ดเป็นแก้วคือ องค์ภัทรนาคราช หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า องค์เกร็ดแก้วนาคราชค่ะส่วนรายละเอียดจะนำมาลงให้อ่านกันนะคะ
ครั้งที่สอง : ฝันว่าตัวเองแอบดูพญานาค 5 เศียรท่านกำลังจำศีลอยู่ในถ้ำแห่งนึง แต่เห็นได้เพียงสักพักเดียวค่ะ
ทั้งสองความฝันนี้ปรางไม่เคยได้เห็นหน้าท่านทั้งสองเลยค่ะ ต้องรบกวนพี่น้ำใสแล้วค่ะ ช่วยคลายความสงสัยให้น้องทีนะคะ ขอบคุณค่ะ
;41

 

การสร้างองค์นาคาธิบดี

เรื่องราวที่ต่อไปนี้อาจมีหลายท่านที่ทราบแล้วนะคะ นำมาลงเพื่อท่านใดที่ยังไม่ทราบ และท่านใดต้องการร่วมสร้าง ปรางเองก็เคยโทรไปคุยกับพี่ที่เป็นคนดำเนินการเรื่องนี้ ท่านแจ้งว่ายังไม่สามารถสร้างได้ เนื่องจากเรายังปฏิบัติได้ไม่ดีพอ(ท่านว่าถ้าสะดวกมาร่วมกันนั่งสมาธิที่นี่ได้)ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัดพอสมควรเลยดีเดียวค่ะ รายละเอียดมีดังนี้นะคะ

พญานาคเกิดได้ทั้ง 4 แบบ คือ แบบโอปปาติกะเกิดแล้วโตทันที แบบสังเสทชะ เกิดจากเหงื่อไคล สิ่งหมักหมม แบบชลาพุชะเกิดจากครรภ์ แบบอัณฑชะเกิดจากฟองไข่ พญานาคชั้นสูงเกิดแบบโอปปาติกะ เป็นชนชั้นปกครอง ที่อยู่ของพญานาคมีตั้งแต่ในแม่น้ำ หนอง คลอง บึงต่างๆ ในอากาศ จนไปถึงสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา พวกพญานาคอยู่ ในการปกครองของท้าววิรูปักษ์ ผู้ปกครองสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกาด้านทิศตะวันตก เหตุที่มาเกิดเป็นพญานาคเพราะทำบุญเจือด้วยราคะ

ณ วังนาคินทร์ เมืองสุวรรณนาคาเทพนคร กำลังดำเนินการก่อสร้าง
องค์นาคาธิบดี 9 พระเศียร องค์ใหญ่ที่สุดในโลก


คำอธิบายศัพท์

องค์นาคาธิบดี เทียบเท่า พระเจ้าแผ่นดิน, กษัตริย์

พญานาคราช – พญานาคิณี เทียบเท่า นายกรัฐมนตรี, รัฐมนตรี

นาค- นาคี เทียบเท่า ผู้ว่าราชการจังหวัด,ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่

นาคผู้-นาคเมีย เทียบเท่า ประชาชนทั่วไปที่ถือว่าเป็นคนมีศีล

เงือกผู้-เงือกเมีย เทียบเท่า ประชาชนทั่วไปแต่ไม่ถือศีลใดๆ

งูตัวผู้-งูตัวเมีย เทียบเท่า ประชาชนทั่วไปที่ทำดีได้-ทำชั่วได้

ปกติเหล่าพญานาคเป็นผู้ที่ถือศีลแปดเคร่งครัดมาก พญานาคจะไม่ทำร้ายใคร แต่ก็มีพญานาคชั้นเลว ชอบทำร้ายมนุษย์ตามแม่น้ำ

ทำไมต้องสร้างองค์นาคาธิบดี 9 พระเศียร องค์ใหญ่ที่สุดในโลก ​

ที่วังนาคินทร์ เมืองสุวรรณนาคเทพนคร วัดหว้าเอน ตำบลศรีมหาโพธิ อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี

เหตุผลข้อที่ 1

หลวงปู่ดามัญ เป็นพระภิกษุไทยที่ออกธุดงค์อยู่ในประเทศกัมพูชา นานหลายปี จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2544 ขณะที่หลวงปู่ดามัญ ปฏิบัติสมาธิภาวนาตามปกติที่เคยปฏิบัติเป็นวัตร อยู่ภายในถ้ำเขากุเลน ประเทศกัมพูชา ได้เกิดนิมิตเห็น หลวงปู่สรวง, หลวงปู่สุข ธมฺมโชโต และปู่ฤๅษีอีกหลายองค์ ซึ่งเป็นพ่อแม่ครูอาจารย์ของหลวงปู่ดามัญ ได้กล่าวว่า.....

ให้หลวงปู่ดามัญ เดินทางมาที่จังหวัดปราจีนบุรี ให้กลับมาดูแลฟื้นฟูสถานที่ ที่หลวงปู่ดามัญ ได้เคยก่อสร้างบ้านเมือง, วัดวาอาราม, ปราสาท ไว้ที่วังนาคินทร์ เมืองสุวรรณนาคาเทพนคร เมื่อครั้งในอดีตชาติ ซึ่งจากนิมิตในปี พ.ศ. 2544

หลวงปู่ดามัญก็บอกกับพ่อแม่ครูอาจารย์ ว่ายังไม่พร้อมที่จะกลับมาประเทศไทย และเมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2548 หลวงปู่ดามัญ จึงตัดสินใจธุดงค์มาที่วังนาคินทร์ เมืองสุวรรณนาคาเทพนคร วัดหว้าเอน จว.ปราจีนบุรี ซึ่งในปี พ.ศ. 2548 วังนาคินทร์เมืองสุวรรณนาคาเทพนคร มีสภาพเป็นป่ารกร้าง ไม่มีคนอาศัยอยู่บนเนินเขา

คืนแรกหลวงปู่ดามัญ จึงปักกลดบริเวณบ่อน้ำทิพย์ บนสันเขา ตอนกลางคืนขณะหลวงปู่ดามัญ ปฏิบัติสมาธิภาวนาก็เกิดนิมิตเห็นพญานาคองค์สีเงินเหมือนแก้วองค์ใหญ่มากมาบอกหลวงปู่ดามัญว่า

ท่านชื่อ พญาเพชรภัทรนาคราช ซึ่งชาวบ้านจะเรียก พญาเกล็ดแก้วนาคราช บนสันเขาที่ท่านปักกลดอยู่นี้คือองค์พญาเกล็ดแก้วนาคราชและบ่อน้ำทิพย์ที่อยู่ใกล้ๆกลดท่านคือบ่อน้ำทิพย์ซึ่งเป็นประตูลงสู่เมืองบาดาลเหมือนที่เมืองคำชะโนด องค์พญาภัทรนาคราชบอกกับหลวงปู่ดามัญว่า ท่านเป็นลูกของพญาอนันตนาคราช สำหรับเศียรที่จมลงไปในพื้นดินเมื่อครั้งอดีตกาล ท่านขอให้หลวงปู่ดามัญช่วยสร้างเศียรให้ด้วย

เหตุผลข้อที่ 2
การสร้างศาสนสถานบนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เพื่อจรรโลงพระพุทธศาสนาให้คงอยู่เคียงคู่ผืนแผ่นดินไทยตลอดกาลนานนั้น ย่อมได้รับการอนุโมทนาบุญพร้อมกันทั้ง 3 ภพ คือ เมืองมนุษย์ เมืองสวรรค์(คือเทวดา) เมืองบาดาล (คือพญานาคราชทั้งหลาย) เพราะไม่ใช่แต่มนุษย์เท่านั้นที่ต้องการสร้างบุญบารมี องค์เทพ เทวา และพญานาคราชทุกพระองค์ ท่านก็ต้องการสร้างบุญบารมีเหมือนกัน

เหตุผลข้อที่ 3

คนที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ, มีจิตใจใสบริสุทธิ์, ไม่มีซึ่งอคติในใจ ปล่อยวางแล้วและชอบความสงบ สันโดษมักจะใฝ่หาสถานที่ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ และสถานที่ที่มีความสมบูรณ์ถึงพร้อมครบถ้วนของธรรมะ สำหรับปฏิบัติธรรม เพื่อหาทางหลุดพ้นซึ่งกองทุกข์ทั้งมวล ดังนั้นวังนาคินทร์ เมืองสุวรรณนาคาเทพนคร จึงเป็นสถานที่ที่เปิดรับคณะพุทธมามกะทุกท่านที่ชอบการปฏิบัติธรรม แบบธุดงควัตรแนวทางธรรมชาติ ดังนั้น การที่หลวงปู่ดามัญซึ่งเป็นครูบาอาจารย์ของพวกเรา นำวิธีปฏิบัติธรรมโดยยึดหลัก แนวทางธรรมชาติ มาฝึกอบรมคณะพุทธมามกะ ที่มาปฏิบัติธรรม ก็ถือว่าทุกท่านนั้นโชคดีมากๆ

โครงการก่อสร้างองค์นาคาธิบดี 9 พระเศียร
องค์ใหญ่ที่สุดในโลก​

คำอธิบายศัพท์

องค์นาคาธิบดดีทั้ง 9 พระองค์ (แต่ละเศียร) นั้นคือกษัตริย์แห่งเมืองบาดาลที่ปกครองวังนาคินทร์ต่างๆ ซึ่งแต่ละพระองค์เป็นพญานาคที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ อยู่ในศีลในธรรมแล้วทั้งสิ้น

องค์นาคาธิบดีทั้ง 9 พระองค์ (แต่ละเศียร) มีพระนามดังต่อไปนี้

1.พญาอนันตนาคราช
2.พญามุจลินท์นาคราช
3.พญาภุชงค์นาคราช
4.พญาศรีสุทโธนาคราช
5.พญาศรีสัตตนาคราช
6.พญาเพชรภัทรนาคราชหรือพญาเกล็ดแก้วนาคราช
7.พญานาคดำแสนศิริจันทรานาคราช
8.พญายัสมันนาคราช
9.พญาครรตระศรีเทวานาคราช

การสร้างนาคาธิบดีหรือกษัตริย์แห่งวังนาคินทร์ทั้ง 9 พระองค์ ให้หลอมรวมเป็นพระองค์เดียวกันนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ต้องได้รับราชานุญาตจากองค์อินทร์ เพราะท่านเป็นเทวกษัตริย์หรือเทพผู้ดูแลเหล่าทวยเทพ

และจะต้องได้รับราชานุญาตจากท้าววิรูปักษ์ ซึ่งท่านเป็นจตุโลกบาลทางด้านทิศตะวันตก คือ รักษาคุ้มครองโลกด้านทิศตะวันตก และท่านมีบริวารคือ พญานาคทั้งหลาย และจะต้องได้รับราชานุญาตจากนาคาธิบดีทั้ง 9 พระองค์ จึงจะสร้างได้ และการสร้างนาคาธิบดีทั้ง 9 พระเศียรนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าใครนึกจะสร้างตรงไหน ที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้

สถานที่ที่จะสร้างองค์นาคาธิบดี 9 พระเศียรได้ต้องเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์, ต้องเป็นวังนาคินทร์, สถานที่นั้นต้องเคยเป็นแหล่งอารยะธรรม, สถานที่นั้นต้องเคยจรรโลงพระพุทธศาสนามาตั้งแต่อดีตชาติ
โครงการก่อสร้างองค์นาคาธิบดี 9 พระเศียร องค์ใหญ่ที่สุดในโลก เริ่มดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่ เดือน มกราคม พ.ศ. 2551 เป็นต้นไป โดยจะสร้างองค์นาคาธิบดี 9 พระเศียร
-ขนาดองค์กว้าง 2.90 เมตร
-ขนาดองค์ยาว 129 เมตร
-ความสูงของพระเศียรทั้ง 9 สูง 19 เมตร แผ่พังพาน พระเศียรพ่นน้ำทั้ง 9 พระเศียร
-ด้านล่างพระเศียรมีพระพุทธรูปปางสมาธิองค์สูงเกือบ 19 เมตร นั่งประทับบนดอกบัวสีชมพู
-ด้านหน้าองค์นาคาธิบดีมีสระน้ำขนาดใหญ่
-ส่วนปลายหางขด 7 รอบ เพื่อเป็นที่ประดิษฐานองค์พระศรีอาริยเมตไตรย ซึ่งพระองค์เป็นพระโพธิสัตว์ที่จะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในสมัยอนาคตกาล
-นอกจากสร้างองค์นาคาธิบดี 9 พระเศียรแล้วคณะทำงานยังจัดให้มีการปรับปรุงภูมิทัศน์เมืองสุวรรณนาคาเทพนคร วัดหว้าเอน จว.ปราจีนบุรี เข้าสู่ยุคสมัยขอมโบราณ เพื่อพลิกฟื้นแหล่งอารยะธรรมขอมโบราณแห่งนี้ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้งหนึ่ง

ที่มา: //

 

เพิ่งเข้ามาอ่านค่ะ ตัวเองจริงๆ ก็สนใจเรื่องราวเกี่ยวกับพญานาคเหมือนกันค่ะ เคยมีคนบอกว่า เคยเกิดพญานาค แต่คิดว่าเป็นแค่พลเมืองเท่านั้นเองค่ะ เมื่อหลายปีก่อน หัดนั่งสมาธิกับหลวงพ่อที่เคารพ ท่านสอนให้นั่งสมาธิ ตัวเองเคยถามท่านเหมือนกันว่า เคยเกิดเป็นพญานาคหรือเปล่า ท่านก็ได้บอกว่า อดีตชาติเป็นสิ่งที่ผ่านมาแล้ว จะไปค้นหามันทำไม เกิดมาชาตินี้ก็ให้ทำความดีในชาตินี้ให้ดีที่สุด ให้หัดนั่งสมาธิ เจริญกรรมฐานดีกว่า ก็คิดตามหลวงพ่อค่ะ ว่าชาติก่อนๆ ก็จำไม่ได้ว่า เคยทำอะไรมาบ้าง อาจจะเป็นทั้งคนดี คนเลว เป็นสัตว์ต่างๆมาก่อน แต่ชาตินี้มีโอกาสได้เกิดมาเป็นคนแล้ว สามารถบำเพ็ญบารมี สะสมบุญของเราได้ต่อๆ ไป ก็เลยไม่ได้ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับพญานาคเลยค่ะ

ตอนที่หัดนั่งสมาธิ หลวงพ่อเคยพาไปที่่ถ้ำพญานาคค่ะ ท่านบอกว่า ให้เรานึกไปถ้ำที่อยู่ใต้น้ำ จำได้ดีเลยค่ะ ตอนนี้ จิตดิ่งเหมือนตกจากที่สูง (เป็นโรคกลัวความสูง) ท่านก็บอกว่า เราเห็นไหม ตอนนี้อยู่ที่ปากถ้ำแล้วน่ะ เราก็มองไม่เห็นค่ะ ยอมรับว่าตอนนั้นโง่มาก เราพยายามใช้ตาเนื้อมอง ทั้งที่จริงๆ แล้วควรจะเป็นจิตมอง ..เพิ่งจะฉลาดมาไม่นานนี้เองค่ะ อิอิ..เราก็บอกหลวงพ่อว่ามองไม่เห็น แต่จริงๆ แอบกลัว ท่านก็บอกว่า เห็นไหม พญานาคตัวใหญ่มีหงอนสีทองออกมาต้อนรับเรา เราก็กลัวค่ะ บอกท่านว่าไม่เห็นเจอเลย ท่านบอกว่า พญานาคอยู่ตรงหน้านั้นไง จ๊าก ตอนนั้นกลัวอย่างแรงค่ะ ขนลุกซู่ ปากก็บอกว่าไม่เห็น คือ กลัวว่าถ้าเห็นอาจจะเป็นลมไปซะก่อน เลยบอกหลวงพ่อว่า ไม่เอาแล้วกลัว ขอกลับดีกว่า ท่านก็ให้กลับขึ้นมา..นี่เป็นการนั่งสมาธิพาทัวร์เมืองบาดาลของหลวงพ่อค่ะ เป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่เราได้หัดไปเมืองบาดาล...เอาเรื่องมาเล่าสู่กันฟังค่ะ

ทีนี้สงสัยนิดนึงค่ะ เคยมีคนบอกว่า คนที่จะไปเมืองบาดาลได้ ต้องเคยเกิดเป็นพญานาคมาก่อนเหรอค่ะ