ชมรมนักปฏิบัติธรรมและคนมีองค์

รายนามผู้สมัครนักปฏิบัติธรรมและคนมีองค์รุ่นที่ 2 ประจำปี 2553

ยินดีต้อนรับ คุณบอล

รับจำนวน: 15 ท่าน
1) คุณเอ๋
2) คุณบุญชนะ
3) คุณจิตรักษา
4) คุณ MIKE
5) คุณจีรา
6) คุณโบ
7) คุณบอล

ยอดผู้สมัคร จำนวน 6 ท่าน
ยอดคงเหลือ จำนวน 9 ท่าน

ยังคงสมัครได้อยู่นะครับ<!-- google_ad_section_end -->

 

<TABLE class=tborder id=post2948833 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt1 id=td_post_2948833 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid">อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ JINTAWADEE
วันที่กำหนดทำสมาธิ คือวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวิธีการแก้พันธะสัญญา 14 ปี
ทำไมกระทู้นี้จึงต้องเปิดเดือน กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นเดือนแห่งความรัก และวันที่ 14 กุมภาพันธ์ คือ "วันแห่งความรัก" เป็นวันที่พลังแห่งความรักถึงจุดสูงสุด เพราะวันนั้นเป็นวันที่ทั่วทั้งโลกจะอบอวนไปด้วยความรักที่ทุก ๆ คนส่งให้กัน การส่งพลังงานความรักในวันนั้นจะให้ผลสูงสุด เปรียบเสมือนคนทั้งโลกส่งความรักพร้อม ๆ กัน ส่วนเวลา จะถูกแจ้งโดย LD 411

ด้วยรัก

JP 499
</TD></TR></TBODY></TABLE>
ขอทุกท่านได้โปรดร่วมใจแผ่เมตตา และเจริญเมตตาอัปมาณฌาณ เพื่อเพิ่มพลังทางด้านบวกให้เข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลก

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา 22:22

ยินดีต้อนรับทุกท่านด้วยความรัก

LD411<!-- google_ad_section_end -->
</TD></TR><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> <SCRIPT type=text/javascript> vbrep_register("2948833")</SCRIPT> </TD><TD class=alt1 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> </TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=1 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=thead>JINTAWADEE</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option>ดูรายละเอียดของ</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option>ส่งข้อความส่วนตัวถึงคุณ JINTAWADEE</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option>ค้นหาโพสเพิ่มเติมของ JINTAWADEE</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option>Add JINTAWADEE to Your Contacts</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option>JINTAWADEE Donation Stats</TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option>View JINTAWADEE's Videos </TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE class=tborder id=post2950020 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> วันนี้, 11:28 AM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #71 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->JINTAWADEE<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2950020", true); </SCRIPT>
สมาชิก

วันที่สมัคร: Sep 2007
ข้อความ: 761
พลังการให้คะแนน: 249


</TD><TD class=alt1 id=td_post_2950020 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start -->ข้อความจาก LD411 ถูกส่งผ่านมาเวลา 00.17 a.m.


ข้อแนะนำในการทำสมาธิ

1. ทำเดี่ยว
2. จัดเป็นกลุ่ม คือนัดหมายภายในกลุ่มของท่าน ทำพร้อมกัน ที่เดียวกันเป็นกลุ่ม

3. ทำโดยอาศัยระบบการสร้างสนามแม่เหล็ก ***โดยผู้ที่ทำเดี่ยวทุกท่าน กรุณาทำสมาธิในเวลา 22.22 น. พร้อมกัน ในขณะนั้นให้แต่ละท่านระลึกถึงความรัก ความเมตตาโดยไม่มีประมาณ นึกถึงบุญกุศลทั้งหลายที่พร้อมจะแผ่ออกไปสู่โลกและจักรวาล พร้อมกับนึกถึงชื่อของสมาชิกที่ท่านปรารถนาจะเชื่อมพลังสนามแม่เหล็กด้วยอีก 2 ท่าน (พลังงานจะถูกเชื่อมต่ออัตโนมัติตามความคิดและจินตนาการของท่าน และต้องเป็นท่านที่ทำสมาธิในเวลาเดียวกันนั้นด้วย จะต่างสถานที่ไม่สำคัญ) และทำไมต้องเป็นอีก 2 ท่าน เพราะในขณะที่พลังงานของท่านเชื่อมต่อกับบุคคลที่ท่านนึกถึงอีก 2 ท่าน จะก่อให้เกิดพลังสนามแม่เหล็กรูปปิรามิดขึ้นมา (สามเหลี่ยม) อันจะสร้างคลื่นพลังงานจำนวนมหาศาลให้เกิดขึ้น โดยเฉพาะในเวลานั้นเป็นช่วงเวลาที่พลังงานแห่งความรัก และชัยชนะถึงจุดสูงสุด จะก่อให้เกิดพลังแห่งความรักมากมายมหาศาล และยิ่งมีคนปฏิบัติสมาธิด้วยวิธีการนี้มากขึ้นเท่าไร จะก่อให้เกิดพลังงานรูปสามเหลี่ยมปิรามิดมากมายขึ้นเท่านั้น (คือ 1 ท่านเมื่อเชื่อมพลังเข้ากับอีก 2 ท่าน จะก่อพลังรูปสามเหลี่ยมปิรามิด 1วง ถ้า 100 ท่าน คือ 100 วง หรือ 1000 ท่านก็คือ 1000 วง เช่น จินตวดีเชื่อมกับลิตเติ้ลดั๊กเชื่อมกับคุณ SU RA ก่อให้เกิดพลังงานรูปปิรามิ 1 วง คุณ SU RA เชื่อมต่อลิตเติ้ลดั๊ก เชื่อมต่อ MEAD ก่อให้เกิดอีก 1 วง ลิตเติ้ลดั๊กเชื่อมต่อจินตวดี เชื่อมต่อ ชยุต ก็ก่อให้เกิดอีก 1 วง เป็นต้น) และเมื่อเกิดพลังงานรูปปิรามิดซ้อนตัวกันหลาย ๆ วง และแต่ละวงจะสร้างพลังงานแห่งความรักและความเมตตาตามจิตปรารถนาของท่าน โดยพลังในรูปปิรามิดจะให้พลังงานมหาศาลกว่าปกติหลายเท่าตัว และยิ่งมีหลายวงมากขึ้นเท่าไรก็จะก่อตัวให้เกิดประจุไฟฟ้าบวกจำนวนมากมายมหาศาล แผ่เข้าสู่ชั้นบรรยากาศของโลกและจักรวาลมากขึ้นเท่านั้น


ดังนั้นช่วงเวลานี้จึงเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดของโลก ข้าพเจ้าขอร้องทุกท่านจากใจจริงที่ไม่ได้หวังผลตอบแทนใด ๆ ทั้งสิ้น ทุก ๆ ท่านได้โปรดหยุดการแบ่งแยกสาย และกลุ่มไว้ก่อน ขณะนี้ได้เวลารวมใจของพวกเราทุกคนให้เป็นหนึ่งเดียว การกระทำของทุกท่านในครั้งนี้จะเป็นการช่วยโลกให้พ้นจากหายนะได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ "การส่งความรักอันปราศจากเงื่อนไข และความเมตตาอันไม่มีประมาณออกสู่ชั้นบรรยากาศ พร้อม ๆกัน และ ในเวลาเดียวกัน"


"เวลาเหมาะสม และวิธีการเหมาะสม พลังจะถูกเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ"

พวกเราจะไม่ลองช่วยกันดูหรือ<!-- google_ad_section_end -->
</TD></TR></TBODY></TABLE>
​

 

รายนามผู้สมัครนักปฏิบัติธรรมและคนมีองค์รุ่นที่ 2 ประจำปี 2553

ยินดีต้อนรับ คุณบอลและเพื่อน

รับจำนวน: 15 ท่าน
1) คุณเอ๋
2) คุณบุญชนะ
3) คุณจิตรักษา
4) คุณ MIKE
5) คุณจีรา
6) คุณโบ
7) คุณบอล
8) คุณแจ็ค
9) เพื่อคุณแจ็ค

ยอดผู้สมัคร จำนวน 9 ท่าน
ยอดคงเหลือ จำนวน 6 ท่าน

ยังคงสมัครได้อยู่นะครับ

 

ขออนุโมทนากับคนดีของสังคมสุดใจ(kiss)

 

ขออนุโมทนากับท่านภารดรภาพด้วยครับ... ที่มีความตั้งใจดีต่อสังคมและเพื่อนมนุษย์โดยเฉพาะคนมีองค์ ขอให้ความตั้งใจที่ดีจงสำเร็จผลด้วยนะครับ.... สำหรับเรื่องคนมีองค์คนที่พูดหรือเขียนได้ดีที่สุดก็คือคนที่สามารถสื่อญาณสัมผัสญาณเปิดญาณปิดญาณหรือเวียนญาณจนรู้แท้แห่งความมีอยู่จริงและเจตนาหรือโองการแห่งเบื้องบนเท่านั้น(ดีที่สุดนะครับ) แต่จะมีความหมายอะไรในเมื่อทั้งหมดผู้ที่รู้รู้ได้เฉพาะตน เมื่อแต่ละคนถึงรอบแห่งบารมีแห่งการเรียนรู้จึงจะมีโอกาสนั้น หลายสิ่งหลายอย่างเขียนและอธิบายเป็นคำพูดยากที่คนไม่ได้ยืนอยู่ด้วยจะเข้าใจและรับรู้ได้ แม้แต่สิ่งนั้นเป็นอมฤตสูงสุดก็คงเป็นได้แค่น้ำเน่าเท่านั้นในสายตาของผู้ไม่รู้ ถ้าหากเราสามารถทำให้ทุกคนปฏิบัติตามมรรควิถีแห่งพุทธะได้ก็คงไม่มีปัญหา แต่ปัจจุบันมีคนพูดถึงนิพพานกันมากขึ้นแต่การกระทำที่จะไปสู่นิพพานนั้นแม้แต่พระเองก็ทำตรงกันข้ามวัตถุสิ่งของสรรเสริญถูกพอกพูน และการตั้งมั่นที่จะละวางกิเลสกลับถูกลืมเลือน(ในที่นี้คือการปฏิบัตินะครับไม่ใช่คำพูด) เฮ้อ....

สุดท้ายขออนุโมทนากับท่านภารดรภาพ(ขุนพลสวรรค์)อย่างจริงใจครับ

 

ขอขอบคุณ pkawatr9 เป็นอย่างสูง ที่ได้แสดงความคิดเห็น และได้ให้กำลังใจ รวมถึงทุกๆ ท่านทั้งที่เคยร่วมกิจกรรมหรือกำลังจะเข้าร่วมกิจกรรมของชมรมฯ ที่ได้ให้กำลังใจตลอดมา


กำลังใจที่ท่านมอบให้กับเรา เราจะจำใส่ใจไว้ เราพร้อมที่จะสร้างสรรค์เพื่อสังคมต่อไป และะพร้อมที่จะเป็นผู้ให้ โดยไม่หวังในลาภสักการะหรือศรัทธาใดๆ


สำหรับตัวผมเองก็ไม่เคยปรารถนาที่จะเจริญตามรอยวิถีเยี่ยงนี้เลย แต่สิ่งที่ประสบพบกับตนองและคนมีองค์เหล่านี้ ที่ต้องเผชิญบททดสอบที่จะต้องแลกด้วยชีวิต ดังนั้น ประสบการณ์ ความรู้ และตัวรู้เท่านั้นที่จะช่วยเยียวยากับบุคคลเหล่านี้ได้

เหมือนกับที่ท่านได้กล่าว "แต่จะมีความหมายอะไรในเมื่อทั้งหมดผู้ที่รู้รู้ได้เฉพาะตน เมื่อแต่ละคนถึงรอบแห่งบารมีแห่งการเรียนรู้จึงจะมีโอกาสนั้น"


สิ่งที่ท่านกล่าวมาถูกต้องแล้ว หากไม่เกิดขึ้นกับตนเอง ก็จะไม่สามารถที่จะเข้าใจในสภาวะนั้นได้ มันเป็นปัจจัตตัง เมื่อถึงวาระสิ่งนี้จะมาเอง ดั่งเหมือนมะม่วงสุก แต่หากยังไม่สุก (ยังไม่ถึงวาระ) เร่งไปก็ไม่เกิดประโยชน์ หากจะเปรียบเหมือนบัวสี่เหล่าก็ได้เช่นกัน

แต่ถามว่า "มีมากน้อยเท่าไร ที่คนมีองค์ล้วนแล้วแต่ต้องประสบกับชะตาชีวิตเยี่ยงนี้" คงไม่มีใครอยากให้เกิดหรอก ผมเองก็เหมือนกัน คิดอยู่เสมอ ทำไมต้องมาเกิดกับเรา ในเมื่อเลี่ยงไม่ได้ ก็ต้องยอมมอบกายถวายชีวิตให้กับสิ่งนี้ แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานเหตุและผลที่ถูกต้อง ขอให้สิ่งที่พบพานเป็นสิ่งที่ดี และสามารถนำพาคนเหล่านี้ได้ไปถึงฝั่งหมายได้ในระดับที่สามารถปฏิบัติได้ตามศักยภาพที่จะเอื้ออำนวยไม่มากก็น้อย


สำหรับใครบางคน ที่ยังดูถูกดูแคลนคนมีองค์ก็ดี ร่างทรงที่ดีก็ดี ว่าเป็นเรื่องน้ำเน่า ไร้สาระ และไม่ใช่ทาง ก็ขอให้รับรู้ว่า หากสิ่งนี้ไม่เกิดขึ้นกับท่านก็แล้วไป แต่เมื่อเจอเมื่อไร ก็อย่าลืมคิดถึงผมในลำดับต้นๆ ก็แล้วกัน


แต่หากเขาเข้าใจและเรียนรู้ศาสตร์และศิลป์จากสิ่งเหล่านี้ได้อย่างถูกต้อง ก็นับว่าเป็นประโยชน์มิใช่น้อย แต่ส่วนใหญ่มักจะหลงกับความวิเศษเหนือมนุษย์ธรรมดา


วิถีการปฏิบัติของคนมีองค์ก็ไม่แตกต่างไปจากการปฏิบัติทั่วไป เพราะโดยพื้นฐานแล้ว ก็ต้องมาจากทาน ศีล ภาวนา เป็นเบื้องต้น เพียงแต่คนมีองค์นั้นยังมีวาระผูกพันธ์กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือการปฏิบัติจิตปฏิบัติบูชาอย่างเคร่งครัด ก็ย่อมที่จะสัมผัสกับสิ่งนี้ได้ ผมมั่นใจว่าคุณสามารถเข้าถึงจิตวิญญาณของสิ่งศักดิสิทธิ์ได้ในทุกๆ ระดับ หากคุณปฏิบัติอย่างถูกวิธี


ทุกวันนี้ผมเองก็ยังไม่เคยสัมผัสกับคำว่า นิพพาน เลย เพียงแต่หวังอยู่เสมอว่า สิ่งนี้คงไม่ใช่เป็นเพียงอุดมคติสำหรับนักปฏิบัติ และก็คิดเสมอว่า คงไม่มีใครมานั่งบอกว่าตัวเองได้สัมผัสกับสิ่งนี้แล้ว เพราะคำว่า สะอาดด้วยศีล สงบด้วยสมาธิ และสว่างด้วยปํญญานั่น ในระดับอ่อน กลาง กลางเป็นเยี่ยงใด อีกอย่างผมเองก็ไม่ใช่อริยะเจ้า เพียงแต่รู้มรรควิถีของการเป็นพระอริยะเจ้าเท่านั้น ทุกวันนี้ผมเพียรพยายามปฏิบัติจิตเยี่ยงพระโพธิสัตว์ โดยใช้แนวทางของพระอริยะเจ้า และได้ใช้แนวทางนี้ในการแนะนำให้แก่ผู้ปฏิบัติของชมรมฯ ตลอดมา


สิ่งสำคัญไม่ว่าคุณหรือผม หรือทุกๆ ท่าน คุณค่าของชีวิตไม่ได้อยู่ที่อื่นๆ ใดเลย มันอยู่กับตัวเรานี้แหละ เพียงแต่เราค้นพบมันแล้วหรือยัง? หากเราขจัดอวิชชาออกไป มันก็รับรู้ได้ใช่ไหมท่าน?


ขอบคุณอีกครั้งครับ

 

รายนามผู้สมัครนักปฏิบัติธรรมและคนมีองค์รุ่นที่ 2 ประจำปี 2553

ยินดีต้อนรับ คุณนก

รับจำนวน: 15 ท่าน
1) คุณเอ๋
2) คุณบุญชนะ
3) คุณจิตรักษา
4) คุณ MIKE
5) คุณจีรา
6) คุณโบ
7) คุณบอล
8) คุณแจ็ค
9) เพื่อนคุณแจ็ค
10) คุณนก

ยอดผู้สมัคร จำนวน 10 ท่าน
ยอดคงเหลือ จำนวน 5 ท่าน

ยังคงสมัครได้อยู่นะครับ<!-- google_ad_section_end -->

 

บทความนำเสนอที่น่าสนใจ (โปรดวิเคราะห์)

เรื่อง ภาษาโลก ภาษาธรรม ภาษาจิต ​

ภาษา คือ สมมุติอย่างหนึ่ง ที่ถูกมนุษย์บัญญัติขึ้นให้เข้าใจเหมือนๆ กันในแต่ละสังคม ของบางอย่างไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์บัญญัติขึ้นเช่นแตงโม มันเกิดขึ้นมาเองบนโลก แต่แตงโมที่เราเห็น เรายังเข้าใจได้เพียงระดับ “สมมุติ” ยังไม่เข้าใจถึงแก่นแท้หรือสัจธรรมภายในของมัน ความเข้าใจของเรานั้น ก็คือ สมมุติอย่างหนึ่ง เช่น เข้าใจว่ามี สัณฐานกลม สีเขียวเกือบดำ รสหวาน กินได้ อันนี้ คือ สมมุติของแตงโมตามความเข้าใจเบื้องต้นของเรา ยังไม่ใช่ส่วนที่เป็นสัจจะเที่ยงแท้สากลของสรรพสิ่ง ที่ซ่อนอยู่ในแตงโม อนึ่ง วิมุติธรรม หรือแก่นแท้ หรือสัจธรรมนั้น อยู่ในทุกสรรพสิ่ง ในแตงโมก็มีวิมุติธรรมนั้น แต่เราอาจยังไม่พบในครั้งแรกเห็น เราอยากสร้างคำเรียกคำหนึ่ง ให้คนในสังคมเข้าใจร่วมกัน ก็บัญญัติคำว่า “แตงโม” ขึ้นมาเรียก อันนี้เรียกว่า “บัญญัติ”

ดังนี้ สมมุติ กับ บัญญัติ มักคู่กันอย่างนี้ แต่ก็ไม่ใช่สิ่งเดียวกันเสียทีเดียว อันบัญญัตินั้นมักออกมาในรูปคำศัพท์ แต่ก็มีบัญญัติในรูปอื่นด้วยเช่น กริยาท่าทาง, การบอกใบ้, ภาษาใบ้, การแสดงสีหน้า เหล่านี้ เป็นบัญญัติอีกรูปแบบหนึ่ง ที่มีมาตรฐานน้อยกว่าคำพูด

นอกจากคำพูดแล้ว การเขียนอักษรและสัญลักษณ์ต่างๆ ก็นับเป็นบัญญัติได้ด้วย เช่น ขีดตรงลงมาหนึ่งขีด อันนี้ เป็นสมมุติ แต่ในประเทศไทย เราบัญญัติมันหมายความว่า “หนึ่ง” แต่ในประเทศฝรั่งบัญญัติมันว่าอักษร “ไอ” เป็นต้น เหล่านี้ นำมาซึ่ง “ภาษาโลก” หรือภาษาที่ใช้กันในทางโลก แต่ยังมีภาษาทางโลก ที่เราเอามาใช้เฉพาะทางอีก เรียกว่าศัพท์เฉพาะทาง (Technical term) เช่น ศัพท์เฉพาะทางวิทยาศาสตร์, ศัพท์เฉพาะทางการแพทย์, ศัพท์เฉพาะทางศาสนาเช่น คำว่า “นิพพาน” เป็นศัพท์ทางโลกแปลว่า “สูญ” แต่ในทางพระพุทธศาสนาหมายถึง ภาวะหลุดพ้นทุกข์ หลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด ซึ่งมีอยู่จริง และตรัสรู้ได้โดยพระพุทธเจ้า

ดังนั้น นิพพานในความหมายเฉพาะทางพุทธศาสนา จึงไม่ใช่ความสูญเปล่า แต่ทำไม พระพุทธเจ้าต้องเอาคำนี้มาใช้เรียกสภาวะธรรมชาติที่หลุดพ้นจากทุกข์และการเวียนว่ายตายเกิด คำตอบคือ เพราะไม่มีคำอื่นที่ตรงความหมายจะใช้ จึงนำคำที่ใกล้เคียงมาใช้เรียกแทน คำที่ใกล้เคียงที่สุด คือ “นิพพาน” ที่แปลกันทางโลกว่า “สูญ” เนื่องจากพระพุทธเจ้าทรงเล็งเห็นว่าการเลือกใช้คำนี้ เหมาะสมกับการดำเนินไปของจิตมากที่สุด ทำให้จิตตรงต่อภาวะความหลุดพ้นได้มากที่สุด ลักษณะนี้ เรียกว่า “ภาษาจิต” คือ ภาษาที่ใช้สื่อกับกริยาอาการของจิตโดยตรง

ดังนั้น คำว่า “นิพพาน” ถ้าแปลความตามภาษาโลก จะแปลว่า “สูญ” ถ้าแปลความตามภาษาจิต จะแปลว่า “ให้จิตตรงต่ออาการสูญไปของทุกๆ สิ่ง ไม่ว่าจิตจะรับรู้อะไร ก็ตรงไปรับรู้อาการสูญนั้น” นั่นเอง

นับเป็นการหลอกล่อให้ผู้ปรารถนาจะได้นิพพานนั้นเพ่งจิตไปที่ความสูญ เมื่อนั้น ก็เข้าสู่กระบวนการที่จะทำให้ได้นิพพานตามแบบพระพุทธศาสนาจริงๆ ซึ่งถ้าแปลตามภาษาธรรมแล้ว จะแปลว่าภาวะความหลุดพ้นจากทุกข์และการเวียนว่ายตายเกิด แต่ถ้าอยู่ร่วมกับคำอื่นก็แปลต่างไปอีก เช่น คำว่า “กิเลสนิพพาน” นิพพานในที่นี้แปลเพียงว่า “ดับสูญ” ก็พอ คือ หมายถึง “กิเลสดับสูญ” เท่านั้น ไม่ได้หมายรวมถึงหลุดพ้นจากการเกิดไปด้วย

การใช้ภาษาโลก เพื่อมาเป็นภาษาธรรม ทำให้ต้องอธิบายความหมายเฉพาะกันมากมาย เมื่อผู้คนเข้าใจความหมายเฉพาะทางธรรม ก็เข้าใจภาษาธรรม ที่เอามาใช้หมายความแคบลงเฉพาะในทางธรรมนั้น ในระดับต่อไป

ถ้าบุคคลจะฝึกจิต เขาจะต้องอาศัย “ภาษาจิต” การใช้ภาษาโลกจะช่วยปูพื้นได้เพียงตื้นๆ เท่านั้น การใช้ภาษาธรรมก็ไม่อาจอธิบาย กริยาอาการของจิตได้เต็มที่

สุดท้ายแล้ว จำต้องใช้ภาษาจิตหรือที่เรียกว่า “จิตสู่จิต” คือ ข้ามพ้นจากภาษาโลก, ภาษาธรรม แล้วพุ่งตรงที่จิตของผู้ฟัง เพื่อนำทางจิตของผู้ฟังไปตามประสงค์เช่น การพูดว่า “ไม่อาลัยกะอะไร อะไร ใดๆ อีก” อย่างนี้ เวลาฟังก็งงหน่อย พองงก็หยุดจะคิดก็คิดไม่ออก จะนึกก็นึกไม่ออกไม่เห็นภาพไม่มีนิมิตหมายอธิบายไม่ได้ แต่พอเข้าใจว่าไม่ไปอะไรกับอะไรสักอย่างหรือการพูดว่า “ไป ไป ไปให้พ้นไปจากความเพียรจม มาเพียรจมอะไรกัน ไป ไป” อย่างนี้ หากเรากำลังนั่งสมาธิยาวขณะนั้นพอดี เราอาจเอะใจ เอ อะไรมาไล่เราให้ไป ไปไหน แล้วเราเพียรจมอะไร กำลังพยายามทำสมาธิอยู่ มาว่าว่าเราเพียรจมอะไร สักพัก เราอาจ “ปิ้งแว้บ” ขึ้นมาก็ได้ นี่ก็คือ ภาษาจิต

–จบ-

อ้างอิงเจ้าของบทความ: www.oknation.net/blog/buddhabath/2010/01/19/entry-4

 

สำหรับใครที่สามารถสื่อสารด้วยภาษาเทพเทวัญได้ แปลได้ หรือมีความรู้และยุทธวิธีในการสื่อสารกับสิ่งนี้ได้ โปรดแชร์ประการณ์ให้ด้วยนะครับ

 

ขอตอบข้อซักถาม ของคุณกรรไกรรัตนะ ที่สอบถามผ่านทาง PM

{สาธุ...ในการฝึกปฏิบัติสมาธิภาวนา
แต่ขอพูดเรื่อง คนมีองค์หน่อยนะครับ พระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านตรัสเอาไว้ดีแล้ว เราควรศึกษาให้จบ ไม่ควรที่จะหลงไปกับเรื่องอื่น ควรมุ่งตรงต่อหนทางพระนิพพานเพียงอย่างเดียว การที่เราไปสนใจเรื่องอื่น คำสอนอื่น มันจะเสียเวลาและหลงทาง ติดอยู่กับความเชื่อที่ไม่ใช่ทางพ้นทุกข์ ถึงจะสั่งสมบุญมามากก็ไปได้ไม่สูง หลุดพ้นไม่ได้เพราะหลงทาง

ก็ขอฝากเอาไว้ให้พิจารณาด้วยนะครับ
ขอบคุณครับ}
<O>---------------------------------------------------------------------------------------- </O>
ถึง กรรไกรรัตนะ<O</O

ตัวผมไม่ยึดศาสนานะครับ มีความเป็นกลางพอสมควร และเคารพศาสนาทุกศาสนา ถือได้ว่าศาสนาเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจให้มนุษย์มีคุณธรรมสูงมากยิ่งขึ้น ผมเชื่อมั่นว่ามนุษย์ที่อาศัยอยู่บนโลกนี้ ย่อมมีเจตจำนงและอัตลักษณ์เฉพาะตน หนทางอันหลากหลายก็เปรียบได้เหมือนถนนที่ทุกๆ เส้นทางมุ่งไปยังจุดหมายเดียวกัน ต่างกันก็แค่วิถีปฏิบัติตนเท่านั้น การเคารพเทพเทวัญก็ดี พระเจ้าก็ดี พระพุทธเจ้าก็ดี บรรพบุรุษก็ดี หรือแม้แต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์สากลโลกก็ดี เป็นเพราะเราเคารพในคุณงามความดีต่างหาก

การมุ่งเน้นที่จุดหมายปลายทางเดียวกัน ไม่ว่าจะนิพพาน ไกรวัลย์ โมกษะ หรืออื่นๆ ที่มีความนัยว่าหลุดพ้น มันก็คือสิ่งเดียวกัน เราไปสมมติสิ่งเหล่านี้ขึ้นมาทั้งสิ้น สมมติแล้วได้อะไร คนที่ได้ ก็ไม่มาให้เห็น ให้พบ หรือเล่าสู่กันฟัง มันอาจเป็นอุดมคติสำหรับใครบ้างคน หรือเป็นสิ่งจริงแท้สำหรับใครบ้างคนก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าใครจะสามารถสัมผัสกับสิ่งนี้ได้เท่านั้น <O</O
<O</O

แต่สำหรับผม ผมคิดว่าผมได้ก้าวเข้ามาด้วยสิ่งๆ นี้ ในเรื่องของจิตวิญญาณของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในเมื่อเราได้รับรู้สัมผัสได้ คนอื่นๆ ก็สัมผัสได้เช่นกัน ซึ่งก็มีอยู่ไม่ใช่น้อย เพียงแต่เขาเหล่านั้นจะยอมรับหรือที่จะบอกเล่าต่อๆ กันหรือไม่ อันนี้ก็แล้วแต่สถานการณ์ ในเมื่อเราสัมผัสได้ พูดภาษาเทพเทวัญได้ ก็แสดงว่าพระเจ้าหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดๆ ก็ตาม ไม่ใช่เป็นสิ่งที่ไกลเกินเอื้อมอย่างที่คิดเลย แค่อยู่ที่จิตเรานี้แหละ เพียงแต่เรารับรู้มันแล้วยัง <O</O
<O</O

บางคนกราบรูปเคารพทุกวีวัน แต่ก็ยังไม่สามารถสัมผัสกับสิ่งนี้ได้เลย ก็แสดงให้เห็นว่าสิ่งนี้มันไกลเกินเอื้อมสำหรับคนเหล่านั้น แต่สำหรับผมแล้วสิ่งนี้อยู่กับผมตลอดเวลา และมีผลต่อชะตาชีวิตผมเช่นกัน ดั่งคำที่ว่า ฟ้ากำหนดชีวิตข้า แต่ข้านี้ขอลิขิตชะตาข้าเอง ในเมื่อฟ้ากำหนดและเลี่ยงไม่ได้ ก็ขอให้มันไปสุดๆ ไปเลย จะไปถึงไหนๆ ก็ไม่ว่า ขอให้ไต่เพดานบินไปเรื่อยๆ เลี้ยวลดบ้างก็ไม่เป็นไร ดีกว่ามานั่งรดหายใจไปวันๆ<O

สำหรับความหวังอันสูงสุด คงไม่หวัง ขอให้เป็นไปตามสภาวธรรม หากจะได้ตามวาระ ก็คงพรั่งพรูมาเอง แทบจะเรียกว่าไม่ต้องหนหาเสียด้วยซ้ำ คนที่ใฝ่ฝันว่าจะไปให้ตรงถึงฝั่งหมายในโดยไว หวังไปเถอะ ถ้าบารมีไม่ถึง ก็อย่าได้หวัง เพราะสิ่งที่หวังนั้น ย่อมต้องแลกด้วยบททดสอบชนิดตั้งหลักไม่ทันเลยทีเดียว และจะมีสักกี่คนที่สามารถบรรลุถึงสิ่งนี้ได้ บอกคำเดียวว่า แทบจะหาไม่เลย ก็ว่าได้ ดังนั้น ก็ขอให้จงเดินทางไปด้วยความมั่นใจ ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสม ด้วยความดีงามของท่าน สิ่งที่ว่านี้มันก็ไม่ได้ไกลเกินเอื้อมเลย มันก็แค่อยู่ที่จิตของทุกๆ ท่านนั้นแหละ <O</O
<O</O

[ควรมุ่งตรงต่อหนทางพระนิพพานเพียงอย่างเดียว การที่เราไปสนใจเรื่องอื่น คำสอนอื่น มันจะเสียเวลาและหลงทาง ติดอยู่กับความเชื่อที่ไม่ใช่ทางพ้นทุกข์ ถึงจะสั่งสมบุญมามากก็ไปได้ไม่สูง หลุดพ้นไม่ได้เพราะหลงทาง]<O</O

สิ่งที่ท่านกล่าวมา ไม่ควรสรุปเยี่ยงนี้ ผมเองก็ไม่เคยสัมผัสก็สิ่งนี้เลย และผมก็เชื่อว่าคุณเองก็ไม่เคยสัมผัสกับสิ่งนี้ด้วยเช่นกัน คำสอนมีมากมายล้วนแล้วแต่มาจากธรรมชาติ เป็นเรื่องธรรมดา ทุกข์ สุข ก็ดี เฉยๆ ก็ดี พระพุทธองค์มิได้สอนวิธีการดับทุกข์เพื่อให้พ้นทุกข์เพียงอย่างเดียว แต่สอนให้รู้ว่า ทุกข์สุขเป็นเรื่องธรรมดา ธรรมชาติ ทั้งนี้ ย่อมเกิดขึ้นคงอยู่แล้วก็ดับไป และก็อย่าลืมว่ากว่าคุณจะไปถึงสิ่งสูงสุดที่ได้ ก็ต้องผ่านสิ่งนี้ด้วยกันทั้งสิ้น สะอาดด้วยศีล สงบด้วยสมาธิ สว่างด้วยปัญญา คงไม่ไกลเกินฝันที่จะเอื้อมถึง
<O</O

ขอขอบคุณอีกครั้งกับคำชี้แนะที่มีประโยชน์<O</O
ก็ขอให้ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณ<O</O
<O</O

 

อนุโมทนาครับ.....สุดๆ ไปเลย

 

รายนามผู้สมัครนักปฏิบัติธรรมและคนมีองค์รุ่นที่ 2 ประจำปี 2553

ยินดีต้อนรับ คุณพีและเพื่อน

รับจำนวน: 15 ท่าน
1) คุณเอ๋
2) คุณบุญชนะ
3) คุณจิตรักษา
4) คุณ MIKE
5) คุณจีรา
6) คุณโบ
7) คุณบอล
8) คุณแจ็ค
9) เพื่อนคุณแจ็ค
10) คุณนก
11) คุณพี
12) เพื่อนคุณพี

ยอดผู้สมัคร จำนวน 12 ท่าน
ยอดคงเหลือ จำนวน 3 ท่าน

ยังคงสมัครได้อยู่นะครับ<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

รายนามผู้สมัครนักปฏิบัติธรรมและคนมีองค์รุ่นที่ 2 ประจำปี 2553

ยินดีต้อนรับ เพื่อนคุณบุญชนะ

รับจำนวน: 15 ท่าน
1) คุณเอ๋
2) คุณบุญชนะ
3) คุณจิตรักษา
4) คุณ MIKE
5) คุณจีรา
6) คุณโบ
7) คุณบอล
8) คุณแจ็ค
9) เพื่อนคุณแจ็ค
10) คุณนก
11) คุณพี
12) เพื่อนคุณพี
13) เพื่อนคุณบุญชนะ

ยอดผู้สมัคร จำนวน 13 ท่าน
ยอดคงเหลือ จำนวน 2 ท่าน

ยังคงสมัครได้อยู่นะครับ<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

รบกวนสมัคร 1 ที่ค่ะ
ชื่อ ปอนด์นะคะ จะโทรไปถามรายละเอียดและแผนที่อีกทีนะคะ
ขอบคุณมากค่ะ

 

รายนามผู้สมัครนักปฏิบัติธรรมและคนมีองค์รุ่นที่ 2 ประจำปี 2553

ยินดีต้อนรับ คุณปอนด์

รับจำนวน: 15 ท่าน
1) คุณเอ๋
2) คุณบุญชนะ
3) คุณจิตรักษา
4) คุณ MIKE
5) คุณจีรา
6) คุณโบ
7) คุณบอล
8) คุณแจ็ค
9) เพื่อนคุณแจ็ค
10) คุณนก
11) คุณพี
12) เพื่อนคุณพี
13) เพื่อนคุณบุญชนะ
14) คุณปอนด์

ยอดผู้สมัคร จำนวน 14 ท่าน
ยอดคงเหลือ จำนวน 1 ท่าน

ยังคงสมัครได้อยู่นะครับ

 

ผมขอสมัครเป็นลำดับที่ ๑๕ ครับ ผมชื่อ ดุสิต ครับ

 

รายนามผู้สมัครนักปฏิบัติธรรมและคนมีองค์รุ่นที่ 2 ประจำปี 2553

ยินดีต้อนรับ คุณปอนด์

รับจำนวน: 15 ท่าน
1) คุณเอ๋
2) คุณบุญชนะ
3) คุณจิตรักษา
4) คุณ MIKE
5) คุณจีรา
6) คุณโบ
7) คุณบอล
8) คุณแจ็ค
9) เพื่อนคุณแจ็ค
10) คุณนก
11) คุณพี
12) เพื่อนคุณพี
13) เพื่อนคุณบุญชนะ
14) คุณปอนด์
15) คุณดุสิต

ยอดผู้สมัคร จำนวน 15 ท่าน
ยอดคงเหลือ จำนวน - ท่าน

สมัครครบแล้วครับ ขอปิดการรับสมัคร
สำหรับผู้พลาดในโอกาสนี้ สามารถสมัครในรอบต่อไปครับ
แล้วจะประกาศแจ้งให้ทราบโดยทั่วกัน

 

รบกวนคุณปอนด์ และคุณดุสิต ติดต่อผมด้วยนะขอรับ โทร 081-8086695
เพื่อสอบถามข้อถามเบื้องต้น สำหรับคุณปอนด์ รบกวนติดต่อผมอีกครั้ง
ผมลืมเบอร์โทรของคุณนะครับ พอดีต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

 

rat_wtingsleeping_rbrabbit_sleepy

 

;aa8;aa28;aa51;aa53