กรณี Sriaraya5 VS iofeast โต้แย้งกัน... ขอลบออกทุกโพสต์

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด, 28 กุมภาพันธ์ 2009.

?
  1. 1.ลบออกก่อน

    0 vote(s)
    0.0%
  2. 2.ไม่ต้องลบ

    0 vote(s)
    0.0%
  3. 3.ความเห็นอื่นๆ เชิญลงที่กระทู้นี้

    0 vote(s)
    0.0%
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,171
    ค่าพลัง:
    +7,815


    ฮ่าฮ่าฮ่า ท่านก็ยังมั่วได้ไม่เลิกราอยู่ดีอ่ะนะ ก็เมื่อลมระเอียดจนไม่รู้สึกถึงลมแล้ว คำภวนาหายไปแล้ว สภาวะนั้นเวนทนามันไม่เกิดหรอกเฟ้ย ใครไปบังคับลมให้หายไป ยิ่งกลั้นหายใจ ก็ไม่มีทางเข้าสู่สมาธิได้หรอกเฟ้ย ท่านหัดลงมือปฎิบัติให้รู้เห็นตามความเป็นจริงมั่งดิ๊ อย่าเอาแต่ลอก แต่ก๊อป แล้วก็มั่วเอา.........เข้าใจ๋ ฮ่าฮ่าฮ่า

    OK นะคะ นะคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤศจิกายน 2009
  2. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,171
    ค่าพลัง:
    +7,815

    ฮ่าฮ่าฮ่า ท่านก็ยังสอนแบบมั่วๆ ข้างๆคูๆ มีแต่ก๊อป มีแต่ลอก มาสอนชาวบ้านแบบคนไร้ประสบการณ์อยู่ดีอ่ะนะ ...................เค้าคงไม่ได้ไปนั่งตามผับ ตามเธคหรอกนะ เสียงจึงเป็นอุปสรรค์ขนาดนั้นได้น่ะ แม้เคลื่อนไหวร่างกายไปตามกิจวัตรประจำวันก็เถอะนะ หากจดจ่ออยู่ที่จุดเดียว ไม่ว่าจะลม หรือ คำภวนา อย่างมั่นคง จิตก็รวมลงสู่สมาธิได้ ทั้งที่ลืมตา ทำกิจวัตรเนี่ยแหละเฟ้ย เข้าใจ๋ ที่ลมหายใจละเอียดก็ด้วย จดจ่อที่จุดเดียวอย่างมั่นคง ที่จิตรวมลงสู่สมาธิได้ ก็ด้วยจดจ่อที่เดียวอย่างมั่นคง เมื่อจิตไม่ส่ายไปโน้น มานี้ ไม่ไปอาศัยมโนทวารทั้งเกิดเป็นความความคิดฟุ้งซ่านขึ้นมา ไม่ไปอาศัยกันและกันเกิดกับสรีระจนรู้สึกความเจ็บปวดขึ้นมา ฯลฯ เมื่อตัดการต่อยอดความคิดต่างๆ ฯลฯ ได้ เมื่อนั้นจิตก็รวมลงสู่สมาธิ แล้วคำบริกรรมจะหายไปเองโดยอัตโนมัติเฟ้ย ถึงจะอยากบริกรรม คำบริกรรมมันก็จะหายไปเอง เป็นธรรมชาติของจิต เหลือแต่ความสงบ โปร่ง โล่ง เบา สบาย ที่นั่งเป็นชั่วโมงๆ เป็นวันๆได้ ไม่ขยับ โดยไม่เจ็บปวดตามร่างกายเลยก็ด้วยเหตุนี้ เข้าใจ๋ เชี่ยวชาญแล้ว แค่กำหนดลมหายใจก็เข้าสู่สมาธิได้เกือบจะทัน ทีเลยเฟ้ย เข้าใจ๋....................เอาแต่ลอก แต่ก๊อป มาสอนชาวบ้านโดยขาดการลงมือปฎิบัติอย่างตั้งใจแบบท่านมันจะไปรู้อะไร ฮ่าฮ่าฮ่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤศจิกายน 2009
  3. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,171
    ค่าพลัง:
    +7,815

    ฮ่าฮ่าฮ่า แจ่มๆๆ ว่าแต่ลดกำลังฌาน ลดยังไงเหรอ? ลดแล้วสภาวะจิตจะเป็นยังไงเหรอ? เข้าสู่ฌาน3แล้วเจริญวิปัสนา จนเห็นไตรลักษณ์ด้วยปัญญาน่ะ เป็นยังไง? แล้วทำไมต้องฌาน3 ทรงฌาน3แล้วมีสภาวะอย่างไรเหรอ? คุณภาพจิตขณะที่ทรงฌาน3เป็นอย่างไร ? เข้าฌาน3แล้ว พิสูจน์ภพภูมิไหนได้บ้าง พิสูจน์อะไรได้บ้าง ? อธิบาย ขยายเป็นขั้นเป็นตอนมาแบบละเอียดจากประสบการณ์ที่ท่านเที่ยวโม้ทีซิจ๊ะ อธิบาย ขยายมาเป็นขั้นเป็นตอนตามกระบวนการที่ท่านได้เคยผ่านมาทีซิจ๊ะ อธิบายโดยตัวท่านเองซะทีเถอะ เอาแบบอ่านแล้วรู้ทันทีเลยว่าไม่ได้ไปลอก ไปก๊อปมาจากไหน เอาแบบอ่านแล้วรู้เลยว่าไม่ได้ไปตัดต่อบทความจากที่ไหนมาสอดไส้เป็นของตนน่ะ เอาแบบอ่านแล้วรู้ทันทีเลยว่าท่านแต่งเองน่ะ เข้าใจ๋ ฮ่าฮ่าฮ่า

    ป.ล. แต่คงจะยากอ่ะน่ะ ก็เรารู้ว่าปัญญาท่านมันน้อยด้วย อ่อนนิ่มด้วยอ่ะจ๊ะ ฮ่าฮ่าฮ่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤศจิกายน 2009
  4. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ขอให้ผู้เจริญกรรมฐานจงเป็นผู้ใช้สติปัญญาให้รู้เท่าทันนิมิตที่เกิดขึ้นนั้นด้วยปัญญา อย่าเพิ่งหลงเชื่อทันทีจะเป็นความงมงาย ให้ปล่อยวางนิมิตนั้นไปเสียอย่าไปสนใจให้เอาจิตทำความจดจ่ออยู่เฉพาะจิต
    เมื่อจิตสงบรวมตัว จิตถอนตัวออกมารับรู้นิมิตนั้นอีก หากปรากฏนิมิตอย่างนี้ซ้ำ ๆ ซาก ๆ หลายครั้งแสดงว่านิมิตนั้นเป็นของจริงเชื่อถือได้ แต่อย่างไรก็ตามนิมิตที่มาปรากฏนี้อยู่ในขั้นโลกียสมาธิ นิมิตต่าง ๆ จึงเป็นความจริงน้อย แต่ไม่จริงเสียมาก

    http://palungjit.org/threads/หลวงปู่เทสก์-สอนวิธีแก้วิปลาส-เมื่อจิตเข้าถึงฌาน.215291/
     
  5. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,171
    ค่าพลัง:
    +7,815


    ฮ่าฮ่าฮ่า ท่านก็ยังคงแถได้เรื่อยๆ ประหนึ่งคนไม่มียางอายอยู่ดีอ่ะนะ หรือว่าท่านอ่าน เขียนภาษาไทยได้แต่ไม่รู้ความหมายของภาษา รวมทั้งบริบทของมัน หรือ ว่าสมองท่านมันหยุดเจริญเติบโตไปตั้งแต่อายุ5ขวบกันแน่ ที่ถามไปน่ะชัดเจน ตรงไป ตรงมาที่สุดแล้ว ก็ยังจะแถอีกตามฟอร์มอ่ะนะ ก็ประกาศอยู่ปาวๆไม่ใช่เร้อ ว่า บรรลุธรรมแล้ว ตรัสรู้แล้ว เป็นพระศรีฯ รู้ทันพุทธวิสัยอีกตะหาก แต่ไม่รู้อะไรเฉยเลย หากไม่มีในกูเกิ้ล ซ้ำยังหน้าหนาไปลอก ก๊อป คำสอนของอริยะสาวกมาทั้งดุ้นแบบไร้ยางอาย ทั้งสิ่งที่ได้ประกาศไว้ว่า ตน บรรลุธรรมแล้ว ตนตรัสรู้แล้ว ตนคือพระศรีฯ ตนรู้ทันพุทธวิสัย..................ทำไม่ได้อย่างปากพูด ตีตนเสมอพระบรมครูผู้ควรกราบไหว้อย่างท่านเขาเรียกทะลึ่งไม่เข้าเรื่อง เข้าใจ๋...........................ท่านกลับไปกรี๊ดน้องแคทของท่านต่อเถิดนะจ๊ะ ฮ่าฮ่าฮ๋า


    ฮ่าฮ่าฮ่า ใครที่คิดว่าคำถามที่ข้าฯถามไปยังไม่ชัด จะด้วยเพราะโง่ ปัญญาไม่ถึง ปัญญามีจำกัด แต่คันปากอยากแสดงความคิดเห็นโง่ๆ แถมยังทะเล่อทะล่า แสดงความโง่ออกมา ด้วยคำพูด คำถามโง่ๆ ก็ควรกลับไปอ่านคำถามใหม่ พินิจ พิเคราะห์คำถามไม่กี่คำถามนี้ให้ดี ด้วยไม่มีอะไรที่จะตรงกว่าคำถามที่หมายความว่าอย่างนั้นไม่ได้มีอะไรซับซ้อนเลย เป็นเรื่องที่ผู้ที่เข้าถึงแล้ว(จริง)สามารถตอบได้ในทันที ไม่ต้องลอกจากที่ไหนเลย กรุณาใช้สมองที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เป็นประโยชน์ซะที หากยังไม่รู้ ไม่เข้าใจ ก็โปรดเข้าใจด้วยว่า โง่ก็ไปอยู่ส่วนโง่ กรุณาอย่ามาพาดพิง อย่ามาวางฟอร์มกับข้าฯ เสล่อไม่เข้าเรื่องจริงๆ ฮ่าฮ่าฮ่า
    และ เราก็ไม่ได้สงสัยในตัวตาบ๊อง แต่ไม่เคยเชื่อเลยว่า ตาบ๊องตนนี้จะ บรรลุธรรมแล้ว ตรัสรู้แล้ว เป็นพระศรีฯ รู้ทันพุทธวิสัยอีกตะหาก ถึงขนาดบังอาจตีตนเสมอพระพุทธเจ้า ตามที่เจ้าตัวประกาศไว้ และการที่ข้าฯตามถามตาบ๊องตนนี้มาเป็นปีตั้งแต่เขาใช้ชื่อเก่า เพื่อพิสูจน์สิ่งที่เขาได้ประกาศไว้เอง หรือไม่ก็สะกิดให้ตื่น หรือช่วยไม่ให้คนฉลาดคนอื่นๆเข้าใจผิดไปกับคำสอนคำแนะนำผิดๆ ด้วยมันมีแต่ลอก แต่ก๊อป บทความต่างๆมาใส่ชื่อตนเข้าไป พระพุทธพจน์ก็ไม่เว้น ไบเบิ้ลก็ไม่เว้น กระทำด้วยอาการแห่งขโมย.............. ก็ไม่ทราบว่า มันไปเพิ่มน้ำหนักบนศรีษะใครเข้า หรือมันไปรบกวนสมองส่วนสั่งการของญาติผู้ใหญ่ใครเข้าให้ หากไ่ม่ใช่ก็กรุณาอย่าสอด..... อย่ามาดัดจริตพาดพิงข้าฯอีก ...............นิมนต์ไปไกลๆเลย แล้วจะกรวดน้ำไปให้นะจ๊ะ ศาสนาเสื่อมเพระาคนประเภทนี้ไม่รู้เท่าไหร่แล้ว เข้าใจ๋ ฮ่าฮ่าฮ่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มีนาคม 2010
  6. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,171
    ค่าพลัง:
    +7,815

    ฮ่าฮ่าฮ่า ก็ท่านกำลังหลงมายาของจิตตนอยู่ไม่ใช่เร้อ หลงมาหลายปีแล้วด้วย แม้ปัญญาจะเข้าสู่สัมมาสติยังไม่มี ก็ด้วยสติป่ำๆเป๋อๆ เพ้อเจ้อไม่เลิก จึงเป็นมิจฉาสติไป และด้วยท่านมีมิจฉาสติจึงไม่สามารถเข้าสู่สัมมาสมาธิได้ จึงเป็นมิจฉาสมาธิไป อย่างไรก็ตามหากท่านต้องการเข้าสู่สัมมาทิฎฐิให้ได้ ก็ต้องเลิกบ้า รักษาอาการทางจิตประสาทให้หายขาดก่อน เข้าใจ๋ ฮ่าฮ่าฮ๋า
    และท่านอย่าได้เข้าใจผิด ญาณท่านไม่มีหรอก เท่าที่เห็นท่านมันมีแต่ยานโตงเตงจ๊ะ และความรู้ท่านล้วนลอกมาจากกูเกิ้ล ตำราต่างๆ(อ่านเล่มเดียวกันมาอีกตะหาก) และบทความของชาวบ้านทั้งสิ้น .......................... ท่านยังไม่ได้บรรลุธรรม ไม่ได้ตรัสรู้ ไม่ใช่พระศรีฯ ไม่ได้รู้ทันพุทธวิสัย (จะรู้ได้ไง ก็ท่านมันคนบ้าชัดๆ) .............อย่าหลงอีกเลย ฮ่าฮ่าฮ่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤศจิกายน 2009
  7. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852


    [​IMG]

    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.776806/[/MUSIC]

    การอุบัติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นของยาก
    แต่ผู้ทำตนให้มีนรกเป็นที่ไปได้ง่ายกว่าiofeast

    นั่นย่อมแสดงให้เห็นว่าจิตใจ iofeast คับแคบสกปรกแค่ไหนเบียดเบียนตัวเองและคนอื่น เอาอะไรมาวัดว่าคนนั้นเป็นคนนี้ไม่เป็นทั้งที่ iofeast ก็ยังขาดอาสวขยญาณ ที่ขจัดกิเลสทั้งมวลไปสู่ความหลุดพ้น(นิพพาน)ได้

    ถ้าจะว่าไป เธอเป็นคนโง่ที่สุดของที่สุดในโลก iofeast
    ที่รู้ช้ากว่าเรา เรามาไกลเกินว่าที่ iofeast จะค้นพบ

    โองการพระศรีอาริยเมตไตรย/พระศรีอาร์ยบูชาพระเจดีย์ - Buddhism Audio
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,171
    ค่าพลัง:
    +7,815



    ฮ่าฮ่าฮ่า การอุบัติขึ้นของคนโง่ๆ สติป่ำๆเป๋อๆอย่างท่านก็เป็นของยาก ด้วยหมกหมุ่นอยู่กับการหลองตัวเองไปวันๆ ปัญญาก็เท่าหางอึ่ง ว้ำยังได้รับกรรมพันธุ์ที่ต่ำๆมาอีกตะหาก เอาอะไรเป็นตัววัดเหรอ? ก็เอาจิตแพทย์ที่เอ็งต้อไปหาอย่างเร่งด่วนเป็นตัววัดไง และท่านก็ไปไกลแล้วจริงๆ ชนิดที่จิตแพทย์บำบัดด้วยการเอาไฟฟ้าช็อตก็อาจไม่หายแล้วจ๊ะ ฮ่าฮ่าฮ่า
     
  9. ผู้มีสติ1

    ผู้มีสติ1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    750
    ค่าพลัง:
    +3,637
    กล้าดี กล้าทีจะรักษา....ธรรม
     
  10. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,171
    ค่าพลัง:
    +7,815


    ฮ่าฮ่าฮ่า เหรอ? ปักธูปกลางแจ้งแล้วอธิฐานเหรอ? ท่านซึ้งนำใจแล้วท่านจะมาเหรอ? ฮ่าฮ่าฮ่า กร๊ากกกกกกกกกๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เอิ๊กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ไอ้มั่ว ท่านก็ยังสอนชาวบ้านแบบมั่วๆอย่างหน้าด้านๆ ขาดซึ่งยางอายอยู่ดีอ่ะนะ ตัวท่านเองยังไม่เคยได้สัมผัส ได้เห็นหลวงปู่ท่านได้สักครั้งยังจะมีหน้ามาบอกมาสอนชาวบ้านเขาอีกนะ โง่เซ่อบ้าแล้วไม่เจียมจริงๆเลยนะเนี่ย
    คราวก่อนที่แอบอ้างเป็นศิษย์หลวงปู่ เราถามไปหลายอย่าง ตอบไม่ได้ใบ้รับประทานแล้วก็แถตามสันดานที่ถูกอบรมสั่งสอนและปลูกฝังมาไม่เปลี่ยนแปลงเลยนะ ฮ่าฮ่าฮ่า

    หากจะแอบอ้างหล่ะก็ เราจะถามเป็นครั้งที่ 10 ในระยะเวลา3เดือนนี้ ว่า ฉายาทางสงฆ์หลงปู่ท่านคืออะไร..........................แต่ก็คงจะตอบไม่ได้อีกตามฟอร์มอ่ะนะ(ก็ท่ารู้มันคงจะตอบไปนานแล้วหล่ะ) ก็มันไม่มีในกูเกิ้ลนี่นา ฮ่าฮ่าฮ่า


    ป.ล.ลูกศิษย์หลวงปู่เขารู้ฉายาทางสงฆ์หลวงปู่ท่านทุกคน หากใครที่แอบอ้างแล้วไม่รู้เนี่ย ให้รู้ไว้เลยว่าเป็นพวกมั่ว 18มงกุฎ ซี้ซั้วแอบอ้างนะจ๊ะ โดยเฉพาะไอ้ท่านบ๊องตนนี้นะจ๊ะ ท่านทั้งหลาย ฮ่าฮ่าฮ่า

    ป.ล.2 ใครเคยเกี่ยวข้องกันกับท่านมาตั้งแต่อดีต ถึงเวลาก็จะได้พบท่านเอง ท่านชอบสงเคราะห์นักปฎิบัติที่ติดปัญหา ทำความเพียรให้ถึง ถึงเวลาท่านจะมาสงเคระห์เอง แต่ก็น่าเสียดาย หลายคนพยายามตามหาท่าน ถึงเวลาได้พบท่านมายืนอยู่ตรงหน้า หลายๆคนก็ไม่รู้ว่าเป็นท่าน ...................... และท่านอยู่ในทุกที่ เพระฉะนั้นไอ้เพ้อเจ้อไอ้มั่วที่บอกให้จุดธูปกลางแจ้งเนี่ย มันมั่วเอาเพ้อเจ้อเอา ลำพังตัวมันเองจะเลิกบ้า รักษาอาการทางจิตประสาทให้หายยังไม่มีปัญญาเลยนะจ๊ะพี่น้องเอ๋ย ฮ่าฮ๋าฮ่า
     
  11. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,171
    ค่าพลัง:
    +7,815


    ฮ่าฮ่าฮ่า ท่านก็ยังบ้าไม่เลิกอยู่ดีอ่ะนะ วันนี้เราอารมณ์ดี จะสั่งสอนท่านเอาบุญแทนท่านจือ อาจารย์ท่านสักวันก็แล้วกัน

    1. เอ็งมันก็ไม่เคยเข้านิโรธสมาบัติได้ ก็ด้วยมีแต่พระอนาคามีขึ้นไปเท่านั้นที่สามารถ ส่วนท่าน ทานพูดเรื่องใกล้ๆตัว เช่นจะต้องเข้าโรงบาลบ้าไม่ควรน้อยก่วา7วันเถิดนะ ฮ่าฮ่าฮ่า

    2.ท่านก็ยังเพ้อเจ้อไม่เลิกราอยู่ดีอ่ะนะ ไม่ต้องถึงนิโรธสมาบัติหรอกนะ เอาแค่เข้าฌานเนี่ยก็ไม่มีใครมารบกวนได้แล้วเฟ้ย

    3.ผู้ที่เขาปฎิบัติ เขาไม่โง่เหมือนท่านหรอกนะ เขาจะเข้าสมาธิ เขาก็หาที่เงียบสงบ ปิดอุปกรณ์สื่อสารไว้ไม่ให้ใครมารบกวนอยู่แล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพระอริเจ้าระดับพระอนาคามี ท่านมีสติรู้ทันตามความเป็นจริง ท่านไม่ทำให้ใครมาเดือนร้อนเป็นบาปเพราะท่านดอกนะ โง่จริงๆไปลี่ยนแปลงเลยนะ

    4.ก่อนเข้าสมาธิแล้วเที่ยวป่าวประกาศไปทั่ว(เพื่อหวังผล) เห็นจะมีแต่ท่านเท่านั้นแหล่ะนะ อย่างที่ท่านเที่ยวป่าวประกาศไปทั่วในเว็ปนี้ แต่เป็นการป่าวประกาศในคุณธรรมที่ไม่เป็นจริง ไม่มีจริง ในท่าน หากเป็นเป็นพระท่านก็ปราชิกไปไม่รู้กี่รอบแล้ว ..............บ้าแล้วไม่ไปรักษาซะที

    5. เราจะเรียกลำดับให้ท่านรู้ไว้ว่าหากเป็นพระ ท่านปราชิกไปหลายทีแล้วนะ

    5.1 ท่านเอาบทความต่างๆของหลวงปู่ หลวงตาทั้งหลาย สมาชิกเว็ปนี้ก็ไม่เว้น แม้ไบเบิ้ล คำภีร์ต่าง ท่านก็เอามาตัดต่อแล้วตู่เป็นของตน พระไตรปิฏกด้วย ท่านกระทำด้วยอาการแห่งขโมย ก็ไม่ปาน ซ้ำยังเอาสิ่งที่ลอก ที่ก๊อปมาจากพระพุทธองค์มาเที่ยวบอกชาวบ้าน แล้วตีตัวเสมอพระองค์อีกตะหาก นี่ หากเป็นพระ ท่านก็ขาดจากความเป็นพระไปแล้ว

    5.2 ท่านเที่ยวประกาศว่าตนบรรลุธรรมแล้ว ตรัสรู้แล้ว เป็นพระศรีฯ รู้ทันพุทธวิสัย เป็นพระสัพพัญญู ฯลฯ ทั้งที่โง่กว่าสัตว์ที่มีบุญคุณกับชาวนาแถมมีเขาด้วย วันดีคืนดี ก็ไปนั่งลอก นั่งก๊อป ความรู้ต่างๆจากกระทู้ผู้พัน แล้วมาหลอกชาวบ้านให้เข้าใจผิด เพียงต้องการคำเยินยอสรรเสริญ เพื่อจะกลบเกลื่อนปมด้อยที่ท่านโง่ ปัญญาอ่อน สมองน้อยกว่าลิงปัญญอ่อนหลาบเท่า
    นี่ ท่านอวดคุณธรรมที่ไม่มีในตนโดยตั้งใจ หากเป็นพระ ท่านก็ขาดจากความเป็นพระไปแล้ว

    5.3 ในครั้งที่บวชท่านทำจีวรเลอะเป็นดวงในตอน่ที่บวช ท่านกลัวความอับอายและความผิด แล้วแอบไปสาบปลี่ยนกับท่านจือ ใครๆเขาก็ว่าท่านก็ อาบัติปราชิกไปตั้งแต่ครั้งนั้นแล้วอ่ะจ๊ะ เข้าใจ๋ ฮ่าฮ่าฮ่า
     
  12. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,171
    ค่าพลัง:
    +7,815
    ฮ่าฮ่าฮ่า เอ่อ.......คือ นอกจากเที่ยวลอก เที่ยวก๊อป บทความต่างๆมาตู่เป็นของตนแล้วถูกจับได้ แล้วก็หน้าทนแถไปแถมา ท่านมันไม่มีดีเลยอ่ะจ๊ะ เพราะฉะนั้นถึงไม่มีใครว่าอะไร ท่านก็ยังโง๊โง่ไม่เปลี่ยนแปลงอยู่วันยังค่ำแหล่ะจ๊ะ ฮ่าฮ่าฮ่า


    ฮ่าฮ่าฮ่า ท่านก็ยังคงหน้าหนา นำเอาบางช่วงบางตอนของเหตุการณืในสมัยพุทธกาลและ พระพุทธพจน์มาตัดต่อ ดัดแปลง สอดไส้ ตู่เป็นของตนแบบหน้าด้านๆอยู่ดีอ่ะนะ ฮ่าฮ่าฮ่า

    เหตุการณ์ข้างต้นนี้ไอ้ท่านบ๊องตนนี้ไปลอกมา(อีกแล้ว) เป็นเหตุการณ์ในครั้งที่เดียร์ถีคนนอกศาสนา มาท้าพระพุทธเจ้าประลองฤทธิ์ด้วยคิดว่าหากพระองค์แสดงก็จะเสียคำพูด หากไม่แสดงพวกนี้ก็จะได้ทีใส่ไฟต่างๆนาๆเพื่อลาภสักกการะ หลังจากพระองค์สั่งให้ทำลายบาตรไม้จันทร์และประกาศห้ามพระสงฆ์ทั้งหลายแสดงฤทธิ์ไปแล้ว ในครั้งนั้นพระองค์ทรงแสดงฤทธิ์ให้เป็นที่อัศจรรย์แก่ชาวเมืองและเป็นที่มาของพระพุทธรูปปางแสดงฤทธิ์ ในครั้งนั้นเดียรถีผู้ท้าพระองค์ไม่สามารถแสดงอะไรได้เลย จึงคอตกกลับสำนักตนไป
    หลังจากนั้นมีผู้ทูลถามพระพุทธเจ้าถึงเรื่องที่พระองค์ทรงห้ามพระสงฆ์แสดงฤทธิ์ แต่พระองค์ทรงแสดงเอง พระองค์ทรงอุปมาดังที่ตาบ๊องตนนี้ลอก ก๊อปมาตัดต่อสอดไส้เป็นของตน เพียงแค่ตาบ๊องมันแก้จากสวนมะม่วงที่พระองค์ทรงอุปมาไว้ เป็นสวนมะขามหวานเท่านั้นเอง
    เพียงก๊อป แค่ลอก มาตัดต่อ สอดไส้แล้วตู่เป็นของตนแค่นี้ คนบ้ากลับคิดว่าตนมีปัญญา บรรลุธรรมแล้ว ตรัสรู้แล้ว เป็นพระศรีฯ รู้ทันพุทธวิสัย เป็นพระสัพพัญญู อีกตะหาก ......................แต่อนิจจา.........คนบ้าก็ยังเป็นคนบ้าวันยังค่ำอ่ะนะ ฮ่าฮ่าฮ่า 555 ห้าห้าห้า กร๊ากกกกกกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เอิ๊กกกกกกกกกกกกกกกกก ฮ่าฮ่าฮ๋า


    ป.ล.1 ขำซะจนน้ำลายกระเด็นติดหน้าจอเลอะไปหมดแล้วเจ้าค่ะ
    ป.ล.2 วันหลังท่านหาเรื่องกระตุกต่อมฮาแบบนี้มาให้ชาวเว็ปฮากระจายอีกนะจ๊ะ ฮ่าฮ่าฮ๋า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ธันวาคม 2009
  13. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,171
    ค่าพลัง:
    +7,815
    คนบ้าอาการกำเริบ เพ้อเจ้อเรื่อยเปื่อย หาดูไม่ได้แล้วจ๊ะ (กำลังฮาสุดๆ)


    ฮ่าฮ่าฮ่า ท่านก็ยังบ้า เพ้อเจ้อไม่เลิกอยู่ดีอ่ะนะ เป็นคนบ้าสติไม่ดีแท้ๆ จะมั่วนิ่มว่ารู้ทันพุทธวิสัยอีกแล้ว แถมหลงตัวเอง สัญญาวิปลาส เพ้อเจ้ออยากจะเป็นพระศรีฯอีกตะหาก...................อย่างท่านอ่ะนะลำพังจะเลิกบ้าเป็นคนดีๆ ยังไม่มีปัญญาเลย หัดพูดเรื่องใกล้ๆตัวท่านเช่นอเวจีดีกว่ามั้ย และหากอยากจะเป็นคนดีทำตัวดีๆขึ้นมาแต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง ก็ไปดูเจ้าดำ เจ้าด่างที่เกาขี้เรื้อนคุ้ยขยะหน้าปากซอยเป็นตัวอย่างซะ เพราะมันยังทำตัวดีกว่าท่านมากมายนักเข้าใจ๋ ฮ่าฮ่าฮ่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ธันวาคม 2009
  14. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852

    [​IMG]
     
  15. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,171
    ค่าพลัง:
    +7,815
    ดาศิษย์ท่านจือก็ยังคงสอนชาวบ้านแบบมั่วๆ ท่องมาแบบนกแก้วนกขุนทองไม่เคยพัฒนาเลย

    ที่เล่ามายังไม่ถึงไม่ใช่ฌานหรอกจ๊ะ เมื่อเข้าถึงฌานแล้ว ทรงอารมณ์ฌานไว้แล้ว เวทนาไม่เกิดหรอกจ๊ะ ก็เมื่อจิตจดจ่อที่จุดๆเดียวอย่างแน่วแน่ แนบแน่น จะเป็นลมหายใจก็ดี ฯลฯ เป็นต้น จนจิตรวมลงเป็นสมาธิในระดับคุณภาพจิตที่เรียกว่าฌานแล้ว เมื่อนั้น จิตเราก็จะไม่ไปสอดส่ายไปยังอารมณ์ต่างๆ จนเกิดเป็นความเจ็บปวดทางสรีระนะเจ้าค่ะ
    เคยทำสมาธิด้วยวิธีไหนแล้วถูกกับจริตของตน ทำแล้วเข้าสมาธิได้เร็ว ทำได้ดี ทำแล้วก้าวหน้าก็ทำตามวิธีนั้นต่อ แล้วก็อาศัยความเพียร ความเด็ดเดี่ยว ภวนาไปจนถึงที่สุด จะเจ็บจะปวดตรงไหนก็ อย่าไปสนใจ รู้ว่าเจ็บแล้ว ปวดแล้วก็พอ ละมันไป อย่าไปสนใจ เมื่อไปสนใจจิตที่จรดจ่อกับลมก็ดี ฯลฯ ก็จะเคลื่อนออก ไม่แนบแน่น ไม่แน่วแน่เป็นอารมณ์เดียว ก็จะไม่สามารถเข้าสู่"คุณภาพจิต"ที่เรียกว่าฌานได้ สมาธิจรดจ่อที่ตรงไหน ก็ให้อยู่ที่ตรงนั้น อาศัยความเพียรก้าวผ่านมัน เมื่อผ่านไปได้ก็จะเข้าถึงคำว่าฌานเองเจ้าค่ะ


    [​IMG]
    บักดา ศิษย์ท่านจือ

    1. อภิชฌาวิสมโลภะ ละโมบไม่สม่ำเสมอ คือความเพ่งเล็ง
    บักดาละโมบ ละโมบคำสรรเสริญเยินยอจากผู้อื่น

    2. โทสะ ร้ายกาจ
    ดามีโทสะร้ายกาจ ใครรู้ทันพูดแทงใจดำ ก็จะแต๋วแตก เที่ยวสาปแช่งชาวบ้าน

    3. โกธะ โกรธ
    ดามักโกรธอยู่เป็นประจำ ด้วยไม่ยอมรับความจริง

    4. อุปนาหะ ผูกโกรธไว้
    ดามักผูกโกรธไว้ด้วยเรื่องเล็กน้อย แม้เรื่องแค่นี้ยังวางไม่ลง แต่บอกว่าตนบรรลุธรรมแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า

    5. มักขะ ลบหลู่คุณท่าน
    ดามักลบหลู่คุณท่านจืออาจารย์ตนดังปรากำอยู่เนื่องๆ

    6. ปลาสะ ตีเสมอ คือยกตัวเทียมท่าน
    ดามักยกตนเสมอพระพุทธเจ้า พระอริยะเจ้า พระศรีฯ มันหลงจริงๆนะ

    7. อิสสา ริษยา คือเห็นเขาได้ดี ทนอยู่ไม่ได้
    ดามักริษยาผู้อื่น เห็นผู้มีปัญญามากกว่า มักทนอยู่เฉยไม่ได้ สุดท้ายโดยตอกกลับมาหน้าหงายนับครั้งไม่ถ้วน

    8. มัจฉริยะ ตระหนี่
    ดามักตระหนี่ อยากกรี๊ดน้องแคทแต่ไม่อยากเสียตังค่าตั๋ว จึงปลอมตัวเป็นเด็กเก็บขยะ เพื่อเข้าไปใกล้ชิดแบบฟรีๆ ฮ่าฮ๋า

    9. มายา มารยา คือเจ้าเล่ห์
    ดามารยาเจ้าเล่ห์สุดๆ มักตัดต่อคำพูด บทความต่างๆแล้วตู่เป็นของตนเพื่อให้ดูว่าตนนั้นมีปัญญา ทั้งที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย

    10. สาเถยยะ โอ้อวด
    11. ถัมภะ หัวดื้อ
    ดา ทั้งโอ้อวด ทั้งขี้โม้ ถูกต้อนจนมุม ก็จะแถไปเรื่อยๆ ถูกตักเตือนก็จะทำมึนๆ ช่างหัวดื้อจริงๆ

    12. สารัมภะ แข่งดี
    ดา มักจะแข่งดี แข่งเด่นกับชาวบ้าน ด้วยเข้าใจว่า ตนลอก ก๊อปปี้ ตัดต่อบทความมาสอดไส้เก่งที่สุด แต่ไม่มีปัญญาจะเข้าใจบทความต่างๆที่ลอกมาได้

    13. มานะ ถือตัว
    ดา มักถือตัว ว่าตนมีปัญญาเหนือชาวบ้าน แต่ความจริงปัญญาน้อยมากมาย ด้วยสมองหยุดการเจริญเติบโตมานานแล้ว

    14. อติมานะ ดูหมิ่นท่าน
    ดา มักดูหมิ่นผู้อื่น ไม่เว้นแม้แต่ ท่านจืออาจารย์ตน

    15. มทะ มัวเมา
    ดา มัวเมาสุดๆ ยกตัวอย่างตามกรี๊ดน้องแคทอย่างไม่อาจหักห้ามใจได้

    16. ปมาทะ เลินเล่อ หมายเหตุ ทำจิตของเราให้ว่างแล้วพิจารณาจิตของเราดูว่า มีสิ่งชั่วร้ายตัวใดบ้างที่เกาะกุมอยู่ในภายในจิตของเราแล้วค่อย ๆ ลบล้างให้หมดไปจากจิต หรือเมื่อวาระจิตของเรากระทบกับอะไรแล้วทำให้จิตเราเกิดอุปกิเลสใดใน
    ดา ประมาทเลินเล่อ ทำจิตตนให้ว่างยังไม่ได้ มีน้องแคทครอบครองอยู่เต็มจิต เต็มใจตน ยังมีหน้ามาบอกให้ชาวบ้านทำมันเพ้อจริงๆ
    ความจริง จะทำจิตให้ว่างด้วยอะไร ก็ยังไม่รู้ด้วซ้ำไป ฮ่าฮ่าฮ๋า

    16 ข้อแล้ว บังคับอย่าให้เกิดขึ้นกับจิตของเรา ทำบ่อย ๆ เมื่อเราทำได้ จิตของเราจะมีความสุข คือไม่เศร้าหมอง อุปกิเลสคือ ขยะของจิต และจิตคือถังขยะ ขยะให้กลิ่นเหม็น และทำให้ถังขยะเหม็น จิตที่ดองขยะเอาไว้ คือจิตที่เหม็นเน่า คือเศร้าหมอง

    16 ข้อ ที่พูดมา ดา เป็นเองหมดทั้งสิ้นเลย จิตของดาจึงเหมือนถังขยะใบใหญ่ส่งกลิ่นตุๆอย่างรุนแรงอยู่เป็นนิจจ๊ะ ฮ่าฮ่าฮ่า เอิ๊กกกก ๆๆๆๆๆๆๆ ฮ่าฮ่าฮ๋า



    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ vantana [​IMG]
    เมื่อก่อนดิฉัน นั่งสมาธิได้สงบ บ่อยๆ คือเข้าฌานนะคะ ตามลำดับขั้นของฌานแต่ไม่รู้ถึงฌาน 4 หรือเปล่า รู้ว่ามีปิติ คือ เกิดอาการซาบซ่าที่กายใจ และบางครั้งมีเหมือนตัวลอยขึ้นๆลงๆ หลายครั้ง และจิตก็รวมวูบเบากายใจ และนิ่งอย่างนั้นประมาณ 20 นาที แต่มาระยะหลังนี้ พอท่องคำภาวนาสักพัก รู้สึกจิตสงบแล้วดิฉันจะปล่อยคำภาวนา แล้วจะเปลี่ยนเป็นดูจิตที่นิ่งแทน จิตมันก็สงบนิ่ง ไม่ฟุ้งซ่านและนิ่งอย่างนั้นนาน โดยไม่มีปิติเลย
    จิตนิ่ง แต่กายก็ยังรู้อยู่ว่ามีกาย ลมหายใจก็ยังมีอยู่แต่เบา ๆ เดี๋ยวนี้กลับมีอาการปวดขาด้านขวา ที่ทับขาซ้ายอยู่ ยิ่งนิ่งนานยิ่งปวดมาก
    แล้วก็จะทนไม่ได้ต้องออกจากสมาธิทุกครั้งไป แต่พอออกแล้วหายปวดทันที เป็นอย่างนี้ทุกครั้งที่จิตสงบ แต่ดิฉันไม่แน่ใจว่าเข้าฌานหรือเปล่า รู้ว่าจิตมันนิ่งอย่างเดียว
    แต่ตอนหลัง ๆนี้ ดิฉันมีท้อใจนิดๆนะคะ เพราะรู้สึกว่าตัวเองได้แต่สงบอย่างเดียว ไม่เกิดปัญญา คือวิปัสนาไม่เป็น รบกวนท่านผู้รู้ ช่วยแนะนำด้วยคะ

    </TD></TR></TBODY></TABLE></B>

    นักปฏิบัติวิปัสสนาในขณะที่เวทนาเกิดอย่าอยากให้หาย
    ยิ่งอยากให้หายมากเท่าไรก็ จะกลับเป็นเวทนาทวีคูณขึ้น
    จนนักปฏิบัติธรรม ทนไม่ได้และจะล้มเลิกออกจากบัลลังก์สมาธิไปในที่สุด

    ทางแก้ไขของคุณ vantana ให้อยากรู้ที่สุดของทุกข์ เพราะความอยากแบบนี้ประกอบไปด้วย สัมมาทิฏฐิ
    แล้วใช้จิตค้นหาสมมติฐานของอาการปวดขาที่เวลาคุณ vantana นั่งทับทุกข์นานๆ เมื่อรู้หน้าตาดั้งเดิมของตนแล้ว

    ก็ให้ทำลายสมมติฐานของการที่จิตไปยึดด้วยความหลงสำคัญผิดไปว่าเป็นตัวตนของเรา<!-- google_ad_section_end -->




    ฮ่าฮ่าฮ่า

    สัญชัยเวลัฏฐบุตร (Sanjaya Velatthaputra)

    ท่านสัญชัยเป็นคณาจารย์ที่มีชื่อเสียงท่านหนึ่งในสมัยพุทธกาล พระอัครสาวกคือพระโมคคัลลานะและพระสารีบุต รก็เคยอยู่กับท่าน เป็นเจ้าลัทธิของพวกปริพพาชกตั้งสำนักเผยแพร่ที่เมืองราชคฤห์ แคว้นมคธชาวมคธเป็นจำนวนมากต่างนับถือในเจ้าลัทธินี้
    แต่เมื่อพระอัครสาวกทั้งสองผละหนีไปพร้อมลูกศิษย์เป็นจำนวนมากจึงกระอักเลือดจนถึงมรณกรรม ท่านสัญชัยมีแนวคำสอนกลับกลอก เอาแน่นอนไม่ได้ไม่สามารถบัญญัติอะไรตายตัวอะไรออกไปได้ เพราะกลัวผิดบ้าง ไม่รู้บ้าง โดยคำสอนว่า"ผลของกรรมดีกรรมชั่วไม่มี จะว่าไม่มีก็ไม่ใช่ มีก็ไม่ใช่ไม่ใช่ทั้งสองอย่าง โลกนี้โลกหน้าไม่มีจะว่าไม่มีก็ไม่ใช่ จะว่ามีก็ไม่ใช่ไม่มีทั้งสองอย่าง วิญญาณไม่มี จะว่าไม่มีก็ไม่ใช่ มีก็ไม่ใช่ไม่ใช้ทั้งสองอย่าง"

    ทฤษฎีของท่านสัญชัยจึงฟังยากจะเอาแน่ เอานอนไม่ได้พูดซัดส่ายเหมือนปลาไหล ในกรตังคสูตร จึงกล่าวประณามว่า เป็นลัทธิคนตาบอดไม่สามารถนำตนและผู้อื่นให้เข้าถึงความจริงได้ มีปัญญาทรามโง่เขลาไม่กล้าตัดสินใจใด ๆ ได้อย่างเด็ดขาดเนื่องจากไม่รู้จริงอย่างถ่องแท้


    ในปัจจุบัน ลูกหลานของเขาได้มาเกิดในรูปแบบต่างๆ บางคนก็แอบแฝงในพระพุทธศาสนา ขอท่านทั้งหลายจงระวังให้มาก ฮ่าฮ่าฮ่า<!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กุมภาพันธ์ 2010
  16. ผู้เตือน warn

    ผู้เตือน warn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2010
    โพสต์:
    561
    ค่าพลัง:
    +688

    แค่อรูปฌาณ กับอัปปนาสมาธิ ก็ตอบผิดแล้ว

    พ.ณ.ท่าน ศรีธัญญา มั่วได้เก่งมาก

    พ.ณ.ท่าน มั่วไปวันๆ คนไม่รู้ก็คิดว่า พ.ณ.ท่าน สุดยอด

    ที่ไหนได้ แหกตาประชาชน

    เราเตือนคุณแล้ว.................
     
  17. ผู้เตือน warn

    ผู้เตือน warn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2010
    โพสต์:
    561
    ค่าพลัง:
    +688
    สุดยอดครับ นี่แหละ ของจริง

    โมทนา ครับผม:cool:
     
  18. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ตนของตนเตือนตนให้พ้นผิด ตนเตือนจิตตนได้ใครจะเหมือน ตนเตือนตน<WBR>ไม่ได้ใครจะเตือน ตนแชเชือนใครจะเตือนให้พ้นภัย

    ถือเสียแต่ว่า เป็นแต่แขกภายนอกมาสอบอารมณ์

    โกรธก็โง่ โมโหก็บ้า ไม่โกรธไม่โมโห ก็ไม่บ้าไม่โง่<!-- google_ad_section_end -->
     
  19. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    [​IMG]



    1. อภิชฌาวิสมโลภะ ละโมบไม่สม่ำเสมอ คือความเพ่งเล็ง
    บักดาละโมบ ละโมบคำสรรเสริญเยินยอจากผู้อื่น
    ตอบ เชิงฌานหนั้งแค่พรหมสัมโพชงนิ่งไวร์หยั้งเฉลย
    2. โทสะ ร้ายกาจ
    ดามีโทสะร้ายกาจ ใครรู้ทันพูดแทงใจดำ ก็จะแต๋วแตก เที่ยวสาปแช่งชาวบ้าน
    ตอบ ทำบาปเองก็ย่อมศร้าหมองเอง

    3. โกธะ โกรธ
    ดามักโกรธอยู่เป็นประจำ ด้วยไม่ยอมรับความจริง
    ตอบ ถือเสียแต่ว่า เป็นแต่แขกภายนอกมาสอบอารมณ์
    โกรธก็โง่ โมโหก็บ้า ไม่โกรธไม่โมโห ก็จะได้ไม่บ้าไม่โง่<!-- google_ad_section_end -->

    4. อุปนาหะ ผูกโกรธไว้
    ดามักผูกโกรธไว้ด้วยเรื่องเล็กน้อย แม้เรื่องแค่นี้ยังวางไม่ลง แต่บอกว่าตนบรรลุธรรมแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า
    ตอบ พระนิพพานไม่ได้มาพูดด้วย

    5. มักขะ ลบหลู่คุณท่าน
    ดามักลบหลู่คุณท่านจืออาจารย์ตนดังปรากำอยู่เนื่องๆ
    ตอบ หมู่หงส์จะก้มกราบกาดำ" ซึ่งนักปราชญ์ท่านแปลไว้ว่าพระอริยเจ้าทั้งหลายตนเองจะถูก<WBR>พวกลวงโลกหลอกให้ก้มกราบหลงนับถือเขาเป็นอาจารย์แต่คุณธรรมเขาต่ำ
    แยกทางกันแล้วก็เลิกกันแล้วให้มันจบๆไป
    6. ปลาสะ ตีเสมอ คือยกตัวเทียมท่าน
    ดามักยกตนเสมอพระพุทธเจ้า พระอริยะเจ้า พระศรีฯ มันหลงจริงๆนะ
    ตอบในการประชุมครั้งหนึ่ง ณ เชตวันมหาวิหาร องค์สมณโคดมตั้งจิตอธิษฐานว่า “เมื่อสิ้นพุทธกัปป์แห่งการเป็นพระพุทธเจ้าของเราแล้ว ใครหนอจะมีบารมีแข็งแกร่งพอที่จะสืบศาสนา เผยแพร่สัจธรรมให้แก่โลกต่อไปได้” พระองค์เพียงแต่แค่ดำริอยู่ในพระทัยเท่านั้น พระอรหันต์ชลาตา นามสกุล กัจจายนะ นั่งอยู่ไกลจากองค์สมณโคดมมาก สามารถรู้เข้าใจพระดำริ จึงเปล่งรัศมีในกายตอบไปว่า “ข้าฯนี่แหละ จะเป็นผู้เสียสละ ที่จะสืบต่อศาสนาของพระองค์” ด้วยความเข้าใจกันทางกระแสจิตเช่นนี้ องค์สมณโคดมจึงขว้างดอกบัวออกไปท่ามกลางที่ประชุมสงฆ์ ด้วยอำนาจแห่งญาณ ดอกบัวนั้นลอยผ่านเศียรเกล้าพระอรหันต์ทั้งหลายไปสู่อรหันต์ชลาตา อรหันต์ชลาตาจึงรับดอกบัวไว้ได้
    7. อิสสา ริษยา คือเห็นเขาได้ดี ทนอยู่ไม่ได้
    ดามักริษยาผู้อื่น เห็นผู้มีปัญญามากกว่า มักทนอยู่เฉยไม่ได้ สุดท้ายโดยตอกกลับมาหน้าหงายนับครั้งไม่ถ้วน
    ตอบ ฝึกตนดีแล้วจึงฝึกผู้อื่นขึ้นชื่อว่าทำตามคำสังสอนของพุทธะทั้งหลายขึ้นชื่อว่าได้ที่พึ่งอันได้ยาก
    8. มัจฉริยะ ตระหนี่
    ดามักตระหนี่ อยากกรี๊ดน้องแคทแต่ไม่อยากเสียตังค่าตั๋ว จึงปลอมตัวเป็นเด็กเก็บขยะ เพื่อเข้าไปใกล้ชิดแบบฟรีๆ ฮ่าฮ๋า
    ตอบ การให้ธรรมะชนะซึ่งการให้ทั้งปวง

    9. มายา มารยา คือเจ้าเล่ห์
    ดามารยาเจ้าเล่ห์สุดๆ มักตัดต่อคำพูด บทความต่างๆแล้วตู่เป็นของตนเพื่อให้ดูว่าตนนั้นมีปัญญา ทั้งที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย
    ตอบ ผมไม่ได้คิดมาเปลี่ยนแปงแต่ทำให้สิ่งที่ไม่สมบูรณ์ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

    10. สาเถยยะ โอ้อวด
    ตอบ แสดงเท่าที่ตนทำได้ จะได้ไม่เป็นคนเก้อในเวลาเพื่อนนักปฏิบัติด้วยกันถามในการเป็นขึ้นมาภายหลัง

    11. ถัมภะ หัวดื้อ
    ดา ทั้งโอ้อวด ทั้งขี้โม้ ถูกต้อนจนมุม ก็จะแถไปเรื่อยๆ ถูกตักเตือนก็จะทำมึนๆ ช่างหัวดื้อจริงๆ
    ตอบ การไม่รู้อะไรเลยทั้งหมดนับว่าเป็นการดี การรู้อะไรแล้วรู้แจ้งแทงตลอดนับได้ว่าเป็นการตรัสรู้แล้ว การรู้อะไรครึ่งๆกลางๆยังไม่จัดว่ารู้ เรียกว่าความรู้ท่วมหัวแต่เอาตัวไม่รอดวัฏฏ<WBR>สงสาร
    12. สารัมภะ แข่งดี
    ดา มักจะแข่งดี แข่งเด่นกับชาวบ้าน ด้วยเข้าใจว่า ตนลอก ก๊อปปี้ ตัดต่อบทความมาสอดไส้เก่งที่สุด แต่ไม่มีปัญญาจะเข้าใจบทความต่างๆที่ลอกมาได้
    ตอบ แข่งเรือแข่งพายแข่งได้ แข่งวาสนาแข่งไม่ได้ข้อนี้บัณฑิตทางธรรมะที่แท้จริงจะรู้กัน
    13. มานะ ถือตัว
    ดา มักถือตัว ว่าตนมีปัญญาเหนือชาวบ้าน แต่ความจริงปัญญาน้อยมากมาย ด้วยสมองหยุดการเจริญเติบโตมานานแล้ว
    ตอบ
    14. อติมานะ ดูหมิ่นท่าน
    ดา มักดูหมิ่นผู้อื่น ไม่เว้นแม้แต่ ท่านจืออาจารย์ตน
    ตอบ ผู้มีกำลังมากกว่า มีในตาดีกว่า ผู้มีฌานสูงกว่า การกระทำย่อมสำคัญกว่าคำพูด เนื่องด้วยผู้ที่อ้างเป็นอาจารย์คนยังทำไม่ได้ ก็ฟังได้ แต่ไม่ขอยึดเป็นสระณะและทำตาม
    15. มทะ มัวเมา
    ดา มัวเมาสุดๆ ยกตัวอย่างตามกรี๊ดน้องแคทอย่างไม่อาจหักห้ามใจได้
    ตอบ มันเรื่องส่วนตัว กิจที่ทำได้ทำหมดแล้ว กิจอื่นเพื่อหาอุบายมาละกิเลสไม่มี
    16. ปมาทะ เลินเล่อ หมายเหตุ ทำจิตของเราให้ว่างแล้วพิจารณาจิตของเราดูว่า มีสิ่งชั่วร้ายตัวใดบ้างที่เกาะกุมอยู่ในภายในจิตของเราแล้วค่อย ๆ ลบล้างให้หมดไปจากจิต หรือเมื่อวาระจิตของเรากระทบกับอะไรแล้วทำให้จิตเราเกิดอุปกิเลสใดใน
    ตอบ ว่างในจิต กับ สลายวิญาณ ดับ ไปทำให้มันถูกต้อง
    การทำกิเลสให้สิ้น ย่อมดีกว่าเลี้ยงกิเลสไว้ใช้งานเป็นแน่แท้
    ดา ประมาทเลินเล่อ ทำจิตตนให้ว่างยังไม่ได้ มีน้องแคทครอบครองอยู่เต็มจิต เต็มใจตน ยังมีหน้ามาบอกให้ชาวบ้านทำมันเพ้อจริงๆ
    ความจริง จะทำจิตให้ว่างด้วยอะไร ก็ยังไม่รู้ด้วซ้ำไป ฮ่าฮ่าฮ๋า

    16 ข้อแล้ว บังคับอย่าให้เกิดขึ้นกับจิตของเรา ทำบ่อย ๆ เมื่อเราทำได้ จิตของเราจะมีความสุข คือไม่เศร้าหมอง อุปกิเลสคือ ขยะของจิต และจิตคือถังขยะ ขยะให้กลิ่นเหม็น และทำให้ถังขยะเหม็น จิตที่ดองขยะเอาไว้ คือจิตที่เหม็นเน่า คือเศร้าหมอง
    ตอบ กลับไปสอนตนให้ดีก่อนฝึกตนดีแล้วจึงฝึกผู้อื่นขึ้นชื่อว่าทำตามคำสังสอนของพุทธะทั้งหลายขึ้นชื่อว่าได้ที่พึ่งอันได้ยาก

    16 ข้อ ที่พูดมา ดา เป็นเองหมดทั้งสิ้นเลย จิตของดาจึงเหมือนถังขยะใบใหญ่ส่งกลิ่นตุๆอย่างรุนแรงอยู่เป็นนิจจ๊ะ ฮ่าฮ่าฮ่า เอิ๊กกกก ๆๆๆๆๆๆๆ ฮ่าฮ่าฮ๋า
    ตอบ มีคำพูดที่กินใจอยู่ว่า บุคคลย่องย่องผู้อื่น ก็คือยกย่องตนเอง

    ถ้าคิดว่าเป็นอุปปาทานก็ไช่ แต่ผมไม่คิดว่าเป็นอุปปาทาน

    หลวงปู่เทพโลกอุดรพระโสณเถระเจ้า ท่านมาเมตตาพาเหาะขึ้นไปบนฟ้าท่านอุ้มผมลอยไปยังกับขนนกที่ปลิวไปตามลม

    ท่านยังแสดงความรักในฐานะที่ผม อยู่ในความอุปถัมภ์ของท่านพระอาจารย์ ท่านบอกว่ากลิ่นกายหลวงปู่หอมและถ้าใครอยู่ไกล้ชิดชีวิตที่ติดสนิทในหลวงปู่กลิ่นกายก็จะพลอยหอมตามไปด้วย[​IMG]

    การปรากฎกายของท่านหลวงปู่เทพโลกอุดรพระโสณเถระเจ้า วันที่ 28 /6/52 เวลากลางคืน
     
  20. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,171
    ค่าพลัง:
    +7,815
    โอว......ท่านกล่าวชอบแล้ว
    ท่านทั้งหลายสังเกตุง่ายๆ เวลาใครถามอะไรคนบ้าจะไปลอก ไปก๊อปมาตอบ มักจะลอกมาแบบให้อ่านยากเข้าไว้ กำกวมเข้าไว้ เพื่อให้ตนดูเหมือนว่ามีปัญญา ใครรู้ทันพูดแทงใจดำ คนบ้าก็จะแต๋วแตกเที่ยวแช่งชาวบ้าน พอถูกถาม ถูกไล่หนักๆถึงสิ่งที่ตนเพิ่งไปลอก ไปก๊อปมากับมือก็ไม่เคยตอบได้สักครั้งไม่สามารถเข้าถึง เข้าใจสิ่งที่ตนเพิ่งลอกมาได้เลยสักครั้ง แล้วคนบ้าตนนี้ก็จะแถตามถนัดนะเจ้าค่ะ ฮ่าฮ่าฮ๋า



    ฮ่าฮ่าฮ่า โปรดสังเกตุดูง่ายๆ คนบ้าตนนี้ ที่เที่ยวประกาศว่าตน ตรัสรู้แล้ว บรรลุธรรมแล้ว รู้ทันพุทธวิสัย เป็นพระศรีฯอีกตะหากเนี่ย แต่เราไม่เคยเห็นเขาสามารถแสดงธรรมได้เอง โดยที่ไม่ต้องไปลอก ไปก๊อปโอวาทต่างๆของครูบาอาจารย์ทั้งหลาย(ผู้เป็นสาวกภูมิ)มาได้เลยสักครั้ง ข้อความต่างๆของสมาชิกในเว็ปนี้ก็ไม่เว้น ไบเบิ้ลก็ไม่เว้น นอสตราดามูสก็ไม่เว้น พระพุทธพจน์ก็ไม่เว้น นำมาตัดต่อ สอดไส้แล้วตู่เป็นของตน ถูกจับได้หลายครั้งก็ทำมึนๆไถไปแถมาตลอด .............. วันไหนกูเกิ้ลล่ม คนบ้าถึงกับแสดงธรรมไม่ออกเลยนะจ๊ะท่านทั้งหลาย ฮ่าฮ๋าฮ๋า


    ป.ล.1 หากวันไหนคนบ้าถูกจี้ ถูกถามหนักๆแล้วตอบไม่ได้ ใบ้รับประทาน แล้วจะบอกว่า "เรารู้แต่ว่าชั่วขณะจิตเดียว เรารู้ว่าเราถึงวิมุตติแล้ว" ก็อย่าต๊กกะใจนะท่านทั้งหลาย ก็มุกนี้คนบ้าเขาใช้เป็นประจำนะเจ้าค่ะ ฮ่าฮ๋าฮ๋า

    ป.ล.2 คนที่ประกาศว่าตน ตรัสรู้แล้ว ตนบรรลุธรรมแล้ว เป็นพระศรีฯอีกตะหาก แต่วันๆเอาแต่เฝ้ากรี๊ดน้องแคท ชนิดคลั่งไคล้สุดๆวางไม่ลงเนี่ย เป็นคนประเภทไหนกัน พิจรณากันเอาเถิด ฮ่าฮ๋าฮ่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กุมภาพันธ์ 2010
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...