พระพุทธเจ้าที่เป็นผู้หญิง

Se. of life = เราเคยมีแต่พระพุทธเจ้าที่เป็นผู้ชาย เราจะมีโอกาสได้เห็นพระพุทธเจ้าที่เป็นผู้หญิงไหมคะ ?
หลวงแม่ ธัมมนันทา = เรามีความเชื่อว่าผู้หญิงเป็นพระพุทธเจ้าไม่ได้ เหมือนกับความเชื่อที่ว่า ผู้หญิงเป็นมารไม่ได้ ผู้หญิงเป็นพระอินทร์ พระพรหมไม่ได้ แต่โลกมันเปลี่ยนไป เดี๋ยวนี้ผู้หญิงเป็นนายกรัฐมนตรีได้ ผู้หญิงเป็นควีนก็ได้ ควีนที่ไม่ได้แปลว่าภรรยาของคิงนะ
ในอดีตเรามีพระพุทธเจ้าที่เป็นผู้ชายใช่ไหม แต่ไม่มีใครบอกได้ว่าในอนาคตจะไม่มีพระพุทธเจ้าที่เป็นผู้หญิง นี้ " องค์ทะไลลามะ " ตอบเองนะคะ

 

อันนี้ไม่อาจทราบได้

เคยทราบว่าในกามภูมิ ยังมีเพศชาย เพศหญิง

พ้นกามภูมิขึ้นไป คือ รูปภูมิ อรูปภูมิ (พรหมโลก) อเพศ หรือไม่มีเพศ

ส่วนโลกุตรภูมิ ไม่ทราบครับ

เพราะยังไม่ทราบข้อมูล ว่า ผู้ที่อยู่ในกามภูมิ (ยังมีเพศชายหญิง)ซึ่งมีลักษณะทางกายภาพเป็นเพศหญิง
เมื่อไปอยู่พรหมโลก และ โลกุตรภูมิ ท่านจะมีสภาวะเช่นไร

เคยทราบมาว่า พระนางสิริมหามายา(พุทธมารดา) ก่อนจุติลงมาจากดุสิตเทวโลก และ หลังจากที่สววรคต กลับไปเกิดยังเทวโลก
ท่านมีสภาวะเป็นเทพบุตรครับ

เรื่องเพศชายหรือหญิงนั้นผมว่ายังไม่สำคัญเท่า รู้และยอมรับว่าตอนนี้เรามีสภาวะเป็นอะไร ต้องแสดงบทบาทเช่นไร หมายถึง ยอมรับว่าเราเป็นหญิง หรือว่าเราเป็นชาย ตรงตามลักษณทางกายภาพในปัจจุบัน เพราะถ้าไม่สามารถยอมรับแล้ว ก็ไม่ผ่านเกณฑ์การเป็นพระอริยชั้นต้น
ในข้อสักกายทิฐิครับ

ส่วนเรื่องการบรรลุมรรคผลเป็นสาวกภูมินั้น ธรรมะไม่ได้จำกัดเพศมีทั้งพระอัครสาวก อัครสาวิกา เช่น พระแม่อุบลวรรณาเถรี
(แต่ก็ยังไม่ทราบว่าเมื่อท่านละสังขารแล้วกายทพย์ของท่านมีสภาวะเช่นไร)

ส่วนเรื่องที่ว่าพระศาสดาจะเป็นหญิงหรือไม่ ผมไม่สามาถตอบได้ครับเพราะปัญญาไม่ถึงจริง รอท่านผู้รู้ทั้งหลายมาตอบแล้วกัน

แต่ตอนนี้ขอเชื่อตามความในพระไตรปิฎก ของเถรวาทแล้วกันนะครับ

 

ที่ต้องเป็นเทพบุตร เพราะ ตอนที่อยู่โลกมนุษย์ พระองค์เป็นพุทธมารดา พอพระองค์หมดบุญ ไปอุุบัติที่ดุสิต เป็นเทพบุตรสิริมหามายา เพราะพระองค์ไม่เหมาะที่จะเป็นบริวารใคร และพระองค์อธิฐานให้เป็นพระมารดาของพระโพธิสัตว์ ( ๕ พระองค์ )เท่านั้น สัตว์อื่นไม่เหมาะที่จะมาอาศัยอยู่ในพระอุทร( พระครรภ์) ของพระองค์
" ทำไมหลังจากพระนางสิริมหามายาประสูติพระโอรสแล้วจึงมีพระชนชีพอยู่ต่อมาได้เพียง 7 วัน

เพราะพระนางสิริมหามายา ได้อธิฐานไว้ว่า ขอเป็นมารดาพระพุทธเจ้าเมื่อประสูติ พระบรมโพธิสัตว์เจ้าได้ ๗ วันก็เสด็จทิวงคต เพระสงวนไว้สำหรับประสูติพระพุทธเจ้าองค์เดียว ไปบังเกิดเป็นเทพบุตรสถิตในดุสิตเทวโลกตามประเพณีพระพุทธมารดาไม่ได้เป็นหญิงอย่างเก่า ที่เกิดเป็นหญิงเพระอธิฐานขอเป็นมารดาพระพุทธเจ้า
และอีกประการหนึ่ง การที่พระมารดาของพระพุทธเจ้ามีอายุน้อยมีชีวิตอยู่ได้หลังประสูติเพียงแค่ 7 วัน นั้นเป็นประเพณีของพระมารดาของพระโพธิสัตว์ที่มาอุบัติเป็นพระพุทธเจ้า ดังมีการถาม-ตอบปัญหานี้ระหว่างพระอานนท์และพระพุทธเจ้าดังนี้...

“พระอานนท์กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ น่าอัศจรรย์ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ไม่เคยมีมาแล้ว พระมารดาของพระผู้มีพระภาคทรงมีพระชนมายุน้อยเหลือเกิน เมื่อพระผู้มีพระภาประสูติได้ ๗ วัน พระมารดาของพระผู้มีพระภาคก็เสด็จสวรรคต เข้าถึงเทพนิกายชั้นดุสิต

พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรอานนท์ ข้อนี้เป็นอย่างนั้น ดูกรอานนท์ข้อนี้เป็นอย่างนั้น ดูกรอานนท์ มารดาของพระโพธิสัตว์ทั้งหลายมีอายุน้อยเหลือเกิน เมื่อพระโพธิสัตว์ประสูติได้ ๗ วัน มารดาของพระโพธิสัตว์ย่อมทำกาละ เข้าถึงเทพนิกายชั้นดุสิต ฯ” (พระไตรปิฎกเล่มที่ 25 พระสุตตันตปิฎก เล่ม 17
ขุททกนิกาย อุทาน โสณเถรวรรค อัปปายุกาสูตร)


คัดมาจาก
http://www.dhammathai.org/buddha/g26.php
http://library.uru.ac.th/webdb/images/B01.htm
http://www.larnbuddhism.com/puttaprawat/prasut/
http://www.84000.org/ "

 

เคยได้ยินได้ฟังมาว่าคนที่จะบำเพ็ญบารมีเพื่อพระโพธิญาณถ้าเป็นหญิงต้องอธิฐานขอให้ได้เกิดเป็นชายก่อนจึงจะสามารถบำเพ็ญต่อไปได้ไม่ทราบว่าเหตุผลนี้ถูกหรือ ผิดอย่างไรแต่ไม่เคยได้ยินว่าพระพุทธเจ้าจะเป็นหญิง แต่ถ้าเป็นพระโพธิสัตว์จะต้องเป็นทุกอย่างไม่ว่า
หญิงหรือชายหรือกระเทยไม่เว้นแม้แต่เกิดเป็นสัตว์ต่างๆอันนี้ขอให้ผู้ที่รู้มาช่วยให้ความกระจ่างด้วยค่ะ

 

ไปกันใหญ่แล้ว. เรื่องทางธรรมจะเอาไปเปรียบเทียบให้เป็นเหมือนทางโลกได้ยังไง มันคนละทางกัน นี่ถ้าคิดอย่างนี้ต่อไปพวกตุ๊ดทอมดี้ออกมาท้วงแบบนี้จะว่าไง ต้องยอมรับด้วยไหมครับ บาปหนักจริงๆ นี่แค่2500กว่าปีพระพุทธศาสนาก็เป็นอย่างนี้เสียแล้ว พวกวัชรญานนี่แปลกแยกน่ากลัวจริงๆ

บุคคลที่จะสำเร็จพระสัมมาสัมโพธิญาณได้จะต้องดำรงค์อยู่ในเพศชายก่อนเท่านั้น เมื่อพระองค์ทรงบรรลุพระสัพพัญญุตญาณเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว เพศภาวะแบบทางโลกของท่านก็หมดไปด้วยรวมถึงความเป็นมนุษย์ด้วยครับ คนที่ไม่รู้อาจแย้งว่า อ้าวแล้วถ้าพระพุทธเจ้าไม่ใช่มนุษย์แล้วเป็นอะไรหละ คำตอบง่ายและชัด พระองค์ก็คือพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงอยู่เหนือความเป็นมนุษย์เทพพรหมและอรูปพรหมไง พระองค์ทรงตายจากความเป็นมนุษย์และอุบัติใหม่เป็นพระสัมมาสัพุทธเจ้าด้วยกายมหาบุรุษ (perfect form of being) เหมือนกับคนที่ตายจากความเป็นมนุษย์ไปเป็นเทวดาบ้างเป็นพรหมบ้าง เป็นเปรตเป็นสัตว์นรกบ้าง พวกเทวดา พรหม เปรต สัตว์นรก พวกเหล่านี้ไม่ใช่มนุษย์ แต่มาจากมนุษย์

 

เป็นไปไม่ได้ครับ มันขึ้นอยู่กับบุรพกรรม มิใช่ตำแหน่งหน้าที่
...
พระโพธิสัตว์ ไม่จำเป็นต้องเกิดเป็นหญิืง กระเทย หรือตืรัจฉานนะครับ
อันนั้นเป็นผลจากวิบากครับ (ยังอยู่ในวัฏฏะจะหนีเรื่องนี้พ้นได้ไงหละ)
...
นิรมานกายแห่งพระพุทธเจ้า เป็นมนุสสะครับ
แต่มีพระวรกายอันบริสุทธิ์เหนือมนุษย์ทั้งปวง
พูดง่ายๆคือผู้ไม่ข้องเกี่ยวในภพภูมิแล้ว
นับตั้งแต่พระโพธิสัตว์ตรัสรู้ด้วยพระสัมมาสัมโพธิญาณ...
...
อย่าเหมารวมวัชรญาณทั้งหมดสิครับ
จริงๆแล้ว วัชรญาณก็บอกอยู่แล้ว ว่าพระพุทธเจ้าทั้งอนันตจักรวาล
ทรงเป็นบุรุษเพศ ไม่มีัสตรีเพศใดเป็นพระพุทธเจ้า
ขนาดพระโพธิสัตว์บารมีสูงๆยังไม่มีหญิงเลย
ที่มีนับถือเทวีก็มีหลายพระองค์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคู่บารมีของพระโพธิสัตว์พระองค์ต่างๆ
...

 

สาธุค่ะ เป็นอันว่าผู้ที่จะเป็นพระโพธิสัตว์ไม่จำเป็นจะต้องเกิดเป็นทุกๆอย่าง แต่ที่ เป็นนั้นขึ้นอยู่กับวิบากกรรมที่ทำไว้ถูกต้องมั้ยค่ะแล้วที่เราฟังจากเรื่องที่พระโพธิสัตว์เกิดเป็นกระต่าย เป็นวานร เป็นสัตว์หลายๆอย่างอันนี้หมายถึงแบบไหนค่ะขอความรู้จากท่านที่ทั้งหลายที่รู้ค่ะ อนุโมทนาค่ะ ไม่มีเจตนาอื่นใดนอกจากต้องการศึกษาเรียนรู้เท่านั้นค่ะ

 

มันส์ดีครับแจมด้วยครับ ผมมีความคิดว่าการที่บรรลุอะไรสักอย่างต้องทำจิตให้บริสุทธิ์เข้าขั้นแก้วเลยครับ แค่ผ้าขาวยังไม่พอ แล้วต้องตัดทุกสิ่งทั้งกายและจิตไม่ให้เหลือเลย แต่ด้วยความเป็นผู้หญิงจะตัดได้ไม่ใช่ง่ายๆ ต้องให้ใสดังเพชร ใช้บารมีสูงกว่าผู้ชาย ถ้าว่าไม่อยากเสียเวลาที่จะรอให้เกิดเป็นผู้ชายก่อน เพราะไม่รู้อีกนานแค่ไหนกว่าจะได้มาเกิดอีก เพราะว่าผู้หญิงคือเพศผู้ให้กำเนิด ซึ่งตรงข้ามกับเพศชายผู้ประพฤติพรหมจรรย์ไปง่ายกว่า
...ยอมรับความขัดแย้งเพื่อดับโทสะ ทำให้เกิดปัญญา ตัดกายตัดจิตมุ่งสู่พระนิพพาน...

 

" องค์ทะไลลามะ " ไม่ได้เป็นพระพุทธเจ้านี่นา วิสัยของพระพุทธเจ้าไม่ใช่วิสัยที่คนธรรมดาจะเอาตัวเข้าไปเปรียบ เปรียบไปก็เหมือนมดกับช้าง เราคิดว่าเรารู้มาก แต่ปัญญาของเราก็ยังไม่ได้นำตัวเราให้หลุดพ้นเสียจากวัฏสงสารเสียที
สิ่งที่ควรสร้าง ควรทำคือความดี อย่าเอาความคิดเห็นส่วนตัวมาตู่พระพุทธเจ้าสิครับ เราเป็นปุถุชนกันอยู่ ไม่ได้ห้ามว่าผู้หญิงจะเป็นพระพุทธเจ้าไม่ได้นะครับ ในลักษณะของผู้ปรารถนาพุทธภูมิ ย่อมเวียนว่ายตายเกิดตามผลกรรม จนกว่าจะบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณ (ถ้าท่านได้รับพยากรณ์นะ) แต่ยังไงในชาติสุดท้ายไม่เคยมีปรากฏครับว่าพระพุทธเจ้าเป็นผู้หญิง หรือใครจะอาสาเป็นองค์แรก ขอนะครับอย่าปรามาสพระพุทธเจ้าครับ ขอนะครับ ความคิดอย่างนี้ไม่ควรมีในชาวพุทธที่ดีนะครับ ขอครับ

 

ขอให้เจริญในธรรมน่ะครับ...

 

ไม่มีการปรากฏของพระพุทธเจ้าที่มีลักษณะที่เป็นสตรีเพศ.....

ตามคัมภีร์.....ได้กล่าวถึงลักษณะของพระพุทธเจ้า....ไม่มีข้อใหนกล่าวว่าเป็นสตรีเพศครับ......

กล่าวแต่ว่าพระพุทธเจ้าต้องพร้อมไปด้วย มหาปุริสลักขณะ คือลักษณะของมหาบุรุษ ที่จะเป็นพระพุทธเจ้า.......ไม่มีคำกล่าวว่าเป็นมหาสตรี....


ยกอ้างอิง ลักขณสูตร

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๑ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๓
ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค​

​

๗. ลักขณสูตร (๓๐)​

๑๓๐] ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้-
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อารามของ
ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัส
เรียกภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเหล่านั้นทูลรับพระผู้มีพระภาคแล้ว
พระผู้มีพระภาคได้ตรัสพระพุทธพจน์นี้ว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย พระมหาบุรุษผู้
สมบูรณ์ด้วยมหาปุริสลักษณะ ๓๒ ประการเหล่านี้ ย่อมมีคติเป็นสองเท่านั้น​

ไม่เป็นอย่างอื่น คือ ถ้าครองเรือน

จะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิผู้ทรงธรรม เป็น

พระราชาโดยธรรม เป็นใหญ่ในแผ่นดินมีมหาสมุทร ๔ เป็นขอบเขต ทรงชนะ
แล้ว มีราชอาณาจักรมั่นคง สมบูรณ์ด้วยแก้ว ๗ ประการ คือ จักรแก้ว ช้าง
แก้ว ม้าแก้ว แก้วมณี นางแก้ว คฤหบดีแก้ว ปริณายกแก้วเป็นที่ ๗
พระราชบุตรของพระองค์มีกว่าพัน ล้วนกล้าหาญ มีรูปทรงสมเป็นวีรกษัตริย์
สามารถย่ำยีเสนาของข้าศึกได้ พระองค์ทรงชำนะโดยธรรม โดยเสมอ มิต้องใช้
ศัสตรา มิต้องใช้อาชญา มิได้มีเสนียด ครอบครองแผ่นดิน มีสาครเป็น
ขอบเขต มิได้มีเสาเขื่อน มิได้มีนิมิต ไม่มีเสี้ยนหนาม สำเร็จ แพร่หลาย
มีความเกษม สำราญ ถ้าเสด็จออกผนวชเป็นบรรพชิต จะได้เป็นพระอรหันต-
*สัมมาสัมพุทธเจ้า มีหลังคา คือ กิเลสอันเปิดแล้วในโลก ดูกรภิกษุทั้งหลาย
มหาปุริสลักษณะ ๓๒ ประการนั้น เป็นไฉน ซึ่งพระมหาบุรุษประกอบแล้วย่อม
มีคติเป็นสองเท่านั้น ไม่เป็นอย่างอื่น คือ ถ้าครองเรือนจะได้เป็นพระเจ้า-
*จักรพรรดิ ฯลฯ อนึ่ง ถ้าพระมหาบุรุษนั้น เสด็จออกผนวชเป็นบรรพชิต จะ
ได้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า มีหลังคาคือกิเลสอันเปิดแล้วในโลก ดูกร
ภิกษุทั้งหลาย พระมหาบุรุษในโลกนี้
๑. มีพระบาทประดิษฐานเป็นอันดี ภิกษุทั้งหลาย การที่พระมหาบุรุษ
มีพระบาทประดิษฐานเป็นอันดี นี้เป็นมหาปุริสลักษณะของมหาบุรุษ ฯ
๒. ณ พื้นภายใต้ฝ่าพระบาท ๒ ของพระมหาบุรุษ มีจักรเกิดขึ้น มีซี่กำ
ข้างละพัน มีกง มีดุม บริบูรณ์ด้วยอาการทั้งปวง ภิกษุทั้งหลาย แม้การที่พื้น
ภายใต้ฝ่าพระบาททั้ง ๒ ของพระมหาบุรุษ มีจักรเกิดขึ้น มีซี่กำข้างละพัน มีกง
มีดุม บริบูรณ์ด้วยอาการทั้งปวง นี้ก็มหาปุริสลักษณะของพระมหาบุรุษ ฯ
๓. มีส้นพระบาทยาว ฯ
๔. มีพระองคุลียาว ฯ
๕. มีฝ่าพระหัตถ์และฝ่าพระบาทอ่อนนุ่ม ฯ
๖. มีฝ่าพระหัตถ์และฝ่าพระบาทมีลายดุจตาข่าย ฯ
๗. มีพระบาทเหมือนสังข์คว่ำ ฯ
๘. มีพระชงฆ์รีเรียวดุจแข้งเนื้อทราย ฯ
๙. เสด็จสถิตยืนอยู่มิได้น้อมลง เอาฝ่าพระหัตถ์ทั้งสองลูบคลำได้ถึง
พระชาณุทั้งสอง ฯ
๑๐. มีพระคุยหะเร้นอยู่ในฝัก ฯ
๑๑. มีพระฉวีวรรณดุจวรรณะแห่งทองคำ คือ มีพระตจะ ประดุจหุ้ม
ด้วยทอง ฯ
๑๒. มีพระฉวีละเอียด เพราะพระฉวีละเอียด ธุลีละอองจึงมิติดอยู่ใน
พระกายได้ ฯ
๑๓. มีพระโลมชาติเส้นหนึ่งๆ เกิดในขุมละเส้นๆ ฯ
๑๔. มีพระโลมชาติมีปลายขึ้นช้อยขึ้นข้างบน มีสีเขียว มีสีเหมือนดอก
อัญชัญ ขดเป็นกุณฑลทักษิณาวัฏ ฯ
๑๕. มีพระกายตรงเหมือนกายพรหม ฯ
๑๖. มีพระมังสะเต็มในที่ ๗ สถาน ฯ
๑๗. มีกึ่งพระกายท่อนบนเหมือนกึ่งกายท่อนหน้าของสีหะ ฯ
๑๘. มีระหว่างพระอังสะเต็ม ฯ
๑๙. มีปริมณฑลดุจไม้นิโครธ วาของพระองค์เท่ากับพระกายของพระองค์
พระกายของพระองค์ก็เท่ากับวาของพระองค์ ฯ
๒๐. มีลำพระศอกลมเท่ากัน ฯ
๒๑. มีปลายเส้นประสาทสำหรับนำรสอาหารอันดี ฯ
๒๒. มีพระหนุดุจคางราชสีห์ ฯ
๒๓. มีพระทนต์ ๔๐ ซี่ ฯ
๒๔. มีพระทนต์เรียบเสมอกัน ฯ
๒๕. มีพระทนต์ไม่ห่าง ฯ
๒๖. มีพระทาฐะขาวงาม ฯ
๒๗. มีพระชิวหาใหญ่ ฯ
๒๘. มีพระสุรเสียงดุจเสียงแห่งพรหม ตรัสมีสำเนียงดังนกกรวิก ฯ
๒๙. มีพระเนตรดำสนิท [ดำคม] ฯ
๓๐. มีดวงพระเนตรดุจตาแห่งโค ฯ
๓๑. มีพระอุณณาโลมบังเกิด ณ ระหว่างพระขนง มีสีขาวอ่อน ควร
เปรียบด้วยนุ่น ฯ
๓๒. มีพระเศียรดุจประดับด้วยกรอบพระพักตร์ ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้การที่พระมหาบุรุษ มีพระเศียรดุจประดับด้วยกรอบ
พระพักตร์นี้ ก็เป็นมหาปุริสลักษณะของพระมหาบุรุษนั้น ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย มหาปุริสลักษณะ ๓๒ ประการเหล่านี้แล ที่มหาบุรุษ
ประกอบแล้ว ย่อมเป็นเหตุให้มีคติเป็นสองเท่านั้น ไม่เป็นอย่างอื่น คือ ถ้าครอง
เรือนจะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์ ฯลฯ อนึ่งถ้าพระมหาบุรุษนั้นออกจากเรือนทรง
ผนวชเป็นบรรพชิต จะเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า มีหลังคาคือกิเลสอัน
เปิดแล้วในโลก ภิกษุทั้งหลาย พวกฤาษีแม้เป็นภายนอก ย่อมทรงจำมหาปุริส-
*ลักษณะของพระมหาบุรุษ ๓๒ เหล่านี้ได้ แต่ฤาษีทั้งหลายนั้น ย่อมไม่ทราบว่า
เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก สัตว์ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เพราะกรรมนี้
อันตนทำสั่งสมพอกพูนไพบูลย์ สัตว์ที่บำเพ็ญกุศลกรรมนั้น ย่อมครอบงำเทวดา
ทั้งหลายอื่นในโลกสวรรค์ โดยสถาน ๑๐ คือ อายุทิพย์ วรรณทิพย์ ความสุข
ทิพย์ ยศทิพย์ ความเป็นอธิบดีทิพย์ รูปทิพย์ เสียงทิพย์ กลิ่นทิพย์ รสทิพย์
และโผฏฐัพพทิพย์ ครั้นจุติจากโลกสวรรค์นั้นแล้ว มาสู่ความเป็นอย่างนี้ ย่อม
ได้เฉพาะ ซึ่งมหาปุริสลักษณะนี้ ฯ​

ที่มา...
�����ûԮ�������� �� - ����ص�ѹ��Ԯ�������� �​

​

 

ไม่ใช่อะไร....ก็จะต้องเอาหลักสิทธิสตรีเข้ามาได้ทั้งหมดนะครับ.....

ถ้าจะดิ้นรนเพื่อการทัดเทียมของสตรีกับบุรุษในสังคมในปัจจุบันก็ไม่ได้ว่าอะไร...

หลักสิทธิสตรีมีได้....แต่อะไรที่ไม่ได้....ก็อย่าไปแต่งให้มันได้เลย.....

 

ขอนอบนอมต่อพระสัจธรรมของพระพุทธเจ้า ผู้ทรงคุณอันประเสริฐ พระองค์นั้น....

 

อนุโมทนากับท่านทั้งหลายนะครับ
อ่านให้สนุกและเป็นความรู้เพิ่มก็พอนะครับ อย่าซีเรียสกันเลย
อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นนั้นละครับ ว่า.....
" ผู้หญิงเป็นมารไม่ได้ ผู้หญิงเป็นพระอินทร์ พระพรหมไม่ได้ " และ " แต่ไม่มีใครบอกได้ว่าในอนาคตจะไม่มีพระพุทธเจ้าที่เป็นผู้หญิง "
ผมเองก็ได้อ่านเจออยู่ประโยคหนึ่งนะครับ " องค์พระทศพลทรงตรัสว่า บ้านไหนที่มีลูกหญิงเยอะ บ้านนั้นตระกูลนั้นก็จะหายไปเร็ว จะเสื่อมเร็ว "

 

ถ้าพระพุทธเจ้าเป็นผู้หญิงคงทำให้คนจำนวนไม่น้อยไม่ศรัทธา หรือศรัทธาไม่เท่าผู้ชาย

 

ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นนะครับ ถ้าใครที่พอจะรู้เรื่องมหาปุริสลักษณะทั้ง 32 ประการแล้ว ลองไปดูในลักษณะที่ 10 นะครับ คือ มีพระคุยหะฐานเร้นอยู่ในฝัก ซึ่งลักษณะนี้คงมีได้แต่เฉพาะเพศชายเท่านั้นนะครับ

และถ้าลองดูจาก อนุพยัญชนะ 80 ประการแล้ว
ในข้อ 15 ท่านกล่าวไว้ว่า มีบุรุษพยัญชนะครบบริบูรณ์

ซึ่งมหาบุรุษใดก็ตามประกอบด้วยมหาปุริสลักษณะทั้ง 32 ประการแล้ว
มีคติได้เป็น 2 เท่านั้นคือ พระเจ้าจักรพรรดิ์ และพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า

 

ขันธ์ เป็น สมมติครับ....

 

วะฮะฮ่า ผู้นำด้านจิตวิญญาณ อยากจะหัวเราะ

 

กฎถูกตั้งไว้ ว่า เมื่อใดพี่พระพุทธเจ้าจะนิพพาน ชาตินั้นจะต้องเกิดเป็นชาย

การที่กฎตั้ง ว่า ลูกบ้านไหนหญิงเยอะ จะเสื่อมเร็ว ก็ อย่างที่รู้ ๆ ว่า

สมัยก่อนคนจีนไม่ชอบลูกผู้หญิงเพราะถือว่า เลี้ยงให้คนอื่น เหตุผลแค่นั้น

ขันธ์ เป็นสมมุติ แต่ขันธ์สำหรับ พระพุทธเจ้า ในชาตินั้น ต้องเป็นชายเท่านั้น

และตลอดกาล ก็ต้องเป็นชาย เพราะผู้หญิงสามารถเข้านิพพานได้

แต่ไม่สามารถตรัสรู้ในชาตินั้นได้ พระพุทธเจ้า กับ ผู้ที่ถูกตั้งมาให้ทำหน้าที่แทนพระเจ้า

ต่างกันนะคับ ไม่ได้เกิดมาพร้อม อนุพยัญชนะ 80 ประการ แล้ว ที่สำคัญคือถูกเลือกมา

ด้วยมนุษย์ ไม่ใช่ถูก คัดสรรด้วย บุญบารมี และระดับ ก็ห่างกันด้วย สูงสุดคือ

ปรินิพพาน กับ นิพพาน

 

ขอแนะนำซักนิด โดยไม่ใช่ประโยคที่เหมือนในพระไตรปิฏก แต่ความหมายใกล้เคียงกัน เริ่มจากการที่ได้เป็นพระโพธิสัตย์ คือได้รับการพยากรณ์ว่าจะได้สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า เป็นนิตยโพธิสัตย์ มีข้อหนึ่งที่ระบุไว้ชัดเจนว่า ในระหว่างที่พระโพธิสัตย์สร้างบารมีนั้น จะไม่บังเกิดเป็นสตรีเพศเด็ดขาด แม้จะเกิดเป็นเทวดา มนุษย์ คนธรรพ์ อากาศเทวดา หรือแม้แต่จะเกิดเป็นสัตย์ก็จะเป็นบุรุษเพศเท่านั้น หาอ่านได้จากพระเจ้า 550 ชาติ....และอีกข้อแม้พระโพธิสัตย์จะเกิดเป็นสัตว์ได้ แต่จะไม่ต้อยต่ำกว่านั้น คือไม่เกิดในอสูรกาย เปรต นรก ...ธรรมที่พระพุทธองค์ตรัสแล้วเป็นหนึ่งไม่มีสอง...