การที่เห็นภาพนิมิตในสมาธินั้นถือว่า เราอยู่ในณานไหมครับ ?

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย วิญญาณนิพพาน, 4 มีนาคม 2010.

  1. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,458
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,011
    คือ ถ้าเรานั่งสมาธิเเล้วเห็นนิมิตภาพต่างๆนี่ถือว่า เราอยู่ในณานไหมครับ ? ผมหมายถึงนิมิตที่ไม่ได้มาจากความฟุ้งซ่านนะ ผมหมายถึงนิมิตที่เราเห็นในสมาธิเวลาที่จิตเราสงบอยู่ เเนะด้วยครับ ที่ผมถามมาอย่างนี้เพราะว่า เคยได้ยินมาว่า บางครั้งถ้าเราฟุ้งซ่าน มีความคิดเเบบจิตตกเข้ามาอยู่เป็นระยะๆเเล้ว เราก็สามารถประสบกับนิมิตภาพขึ้นมาในสมาธิด้วยเช่นกัน ด้วยเหตุึนี้ผมจึงตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาถามครับ เพราะผมสงสัยอยู่เหมือนกันว่า ถ้าตอนไม่สงบเเล้วเห็นนิมิต เเละตอนที่ไม่สงบนั้น เราไม่น่าจะอยู่ในณานเเน่ๆ เเต่ทําไมถึงปรากฏภาพนิมิตขึ้นมาได้ ตามนี้ล่ะครับ เเนะด้วยครับทุกคน อนุโมทนาครับ
     
  2. s.orr

    s.orr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +327
    นิมิตทุกชนิดเห็นได้ในสามภาวะ
    คือเห็นได้ในอุปจารสมาธิ
    และเห็นได้ในฌานสี่
    อีกอย่างหนึ่ง นิมิตที่ไม่ได้อยู่ในสมาธิ
    คือนิมิตที่เกิดจากความฟุ้งซ่านของกิเลศ
    สามภาวะนี้เท่่านั้น
    ถ้านอกเหนือจากนี้ ไม่มีทางเห็น


     
  3. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    อุปจารสมาธินะ....

    ฌาน ๔ อุเบกขา นี่อารมณ์ตัด.....ไม่เอานิมิตนะ(เฉพาะในส่วนของกสิณที่ต้องใช้นิมิต).....

    เจ้าของกระทู้ค้างอยู่ที่อุปจารสมาธินานแล้วนะ.....จะไปสนใจอะไรมันกับนิมิต...หืม.....
     
  4. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,458
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,011
    เปล่าครับพี่ Phanudet ผมไม่ได้สนใจเเล้ว ผมสนใจจับภาพนิพพานกับพระพุทธเจ้ามากกว่า พอดีนั่งๆอยู่เเล้วมันอยากรู้นะว่า นิมิตนี่เกี่ยวกับณานตัวไหนบ้าง ผมจะได้ไม่ไปจําผิดๆครับ เดี๋ยวเข้าใจผิดไปมันไม่ดี ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาเเนะนําครับ อนุโมทนาครับ
     
  5. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    ถ้าจะเอาดีในกสิณกองใดกองหนึ่ง หรือ องค์บริกรรมใดองค์บริกรรมหนึ่ง
    เวลาเกิด นิมิตอื่นของกสิณกองอื่น หรือ องค์บริกรรมอื่นมาแทรก มาชัก
    ชวนให้ตามไป ก็ให้รู้ทันว่า โดนปุญญาภิสังขารชักชวนให้หลง

    ปุญญาภิสังขาร ก็คือพวก กรรมฐานก่อนเก่าที่เคยทำไว้มีทั้งพาไปติดขัด
    พาไปสงสัย หรือพาผ่าน แต่โดยมากพาไปติดขัด เพราะความขัดและสงสัย
    หรือ นิวรณ์นั้นเป็นเชื้อ จึงพาจิตแล่นไปเห็นนิมิตกองอื่น

    แต่.....ผู้ภาวนาจะต้องสังเกตเองว่า นิมิตไหนไปแล้วจิตสงบได้มากกว่า บางทีตัว
    นั้นอาจเป็นทางที่รอการกลับไปต่อ

    แล้วจะดูอย่างไร ถึงจะรู้ว่า เป็นการก่อกวนชวนให้หลง หรือ เป็นการปรากฏของ
    ธรรมะ เพื่อชี้ทางเดินเก่าที่ควรเดิน อันนี้หากผู้ปฏิบัติไม่ละเลยการยกวิปัสสนา
    ญาณ เพราะไม่เอาแต่สำคัญผิดว่า ทำสมาธิก็คือทำวิปัสสนา ผู้ปฏิบัติก็จะมีสติอินทรีย์
    จากการฝึกสติปัฏฐานในหมวด นิวรณ์บรรพของธรรมานุปัสสนา เมื่อผู้ภาวนา
    ระลึกการปรากฏของนิวรณ์ได้ ก็จะจำแนกได้ว่า นิมิตที่ปรากฏมีอะไรเป็นเชื้อ
    สังขารขันธ์ที่ปรากฏมีนิวรณ์ใดเป็นตัวบงการให้เราเกิดโมหะหลงตามไปดูโดย
    มีอวิชชาปิดบังการเห็นกระบวนการทั้งหมดไว้

    วิธีสังเกตอีกอย่างหนึ่ง หากนิมิตที่ปรากฏเป็นข้างอวิชชาบงการแล้ว เมื่อตาม
    ไปดูจนใกล้จะแนบขึ้นเป็นอุคหนิมิต มันจะแกล้งเปลี่ยนเป็นนิมิตกสิณกอง
    อื่นทันที แบบนี้ให้รู้ทันลงไปเลยว่า โดนมันหลอกเอา

    ส่วนนิมิตที่ปรากฏแล้ว มักเป็นทางเก่า เวลาใกล้จะแนบขึ้นเป็นอุคหนิมิต มันก็
    ขึ้น หรือกำลังจะแนบขึ้นเป็นปฏิภาคนิมิตมันก็ขึ้น แต่ปรากฏว่าเกิดความเสียว
    ความเสียดแทง เกิดหนามแหลมแทงใจให้กระเพื้อม สั่นไหว หวั่นไหว แล้วหลุด
    ออกมาที่ความสว่างแบบนิ่งๆ ค้างๆ รู้ในใจว่าควรไต่ขึ้นไปมากกว่านี้ แต่มันก็
    ค้างๆไม่ไปไหน ตรงนี้ก็ให้ระวังด้วย มันจะมี อุปทานขึ้นมาหลอกว่า ความสว่าง
    ความสงบตรงนี้ สงสัยจะผ่านฌาณมาแล้ว จะทำให้เข้าใจผิด เกิดอัตตาหลอก
    ตัวเองขึ้น

    แต่หากรู้ทันว่า เรากำลังจะยึดรู้ ยึดประสบการณ์ล้มคว่ำเป็น ผล ก็ไม่ต้องกังวล
    อย่าให้กังวล แล สงสัยใดๆมันเกิด น้อมใจที่สงบขณะนั้นทำวิปัสสนาอย่างใด
    อย่างหนึ่งไป หากเป็นสายพระป่าก็จะพิจาณณาขน เล็บ ฟัน หนัง ฯ หรือ อสุภะ
    หรือ นวสีฯ ซึ่งจะเป็นกรรมฐานพี่เลี้ยงที่จะช่วยลดความเสียว ความเสียดแทง
    ในครั้งต่อไปได้

    แต่ถ้าต้องการเน้นวิปัสสนาขึ้นมาตรงๆ ก็ให้ลองยกพิจารณากายเป็นรูปอริยาบท
    บรรพ มองให้เห็นกายที่นั่ง ยืน เดิน นอน ขณะนั้นเป็นรูปที่ถูกดู โดยมีผู้ดู(จิตที่
    สงบเด่นดวงนั้น)แยกออกมาต่างหาก เสร็จแล้วเล็งให้เห็นว่า มีสภาวะ รูป-นาม
    คือ รูปอริยาบท กับ จิตผู้รู้ ถูกระลึกดูอยู่ทั้งคู่ แล้วสังเกตจิตที่จะไหลไปเกาะการ
    รู้ข้างใดข้างหนึ่ง เดี๋ยวก็จมไปข้างรูป เดี๋ยวก็จมมาข้างนาม(อรูป) พอจมลงไป
    อีกข้างก็เบลอไป หายไปจากการระลึกเห็น เมื่อไหร่ข้างใดข้างหนึ่งหายไปจาก
    การระลึกก็ให้รู้ว่า ขณะนั้นหลงจิตมีโมหะ เมื่อไหร่เห็นชัดทั้งสองข้างมีอยู่เห็นอยู่
    ก็ให้รู้ว่าจิตไม่มีโมหะ ดูไปแบบนั้น จะทำให้เห็นนิวรณ์บรรพง่ายขึ้น เมื่อออก
    จากสมาธิแล้วจะเกิดการทบทวนการเห็นชั่วขณะ ตรงนี้ก็ให้พยายามถามในใจ
    ในการทำสมาธิครั้งต่อไป ในการเห็นนิมิต ธรรมะมันจะบอกเองว่า เราหลงไป
    ด้วยกิเลสวะ ภวสวะ หรือ อาสวะ
     
  6. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    ถ้าฝึกกสิณ...นี่ต้องบอกได้เลยว่าไม่พ้นนิมิตหลอกนะ...ลำดับนั้นเป็นลักษณะใดหลวงพ่อบอกหมดแล้ว.....ไปดูเอา.....

    ส่วนไอ่ที่ลอยมาลอยไป....สีบ้างรูปบ้าง.....ไม่ใช่นิมิตที่เรากำหนดช่างหัวมัน.....ไม่ต้องไปสน......ถ้าชอบแวะก็ลองดูมันสิ....สังเกตตัวเองได้นะว่าสมาธิขั้นใหน......หลวงพ่อก็สอนไว้หมดแล้ว.....บางคนเขาก็เอาอารมณ์ในสมาธิพิจารณาธรรมนะ.....ถ้าสำเร็จอรหันต์เขาเรียกอะไรไม่รู้จะไม่ได้ อุปโตภาควิมุติ รึเปล่า ประมาณนี้.......ก็เลือกเอาจะเอาแบบใหน.....

    ความจริงอยากบอกว่าให้ตี ฌาน ๔ ให้ได้ไว้ก่อน แล้วค่อยสำรวจ พวกนี้เด็กมากเลยนะ....นิมิตนี่.....ฌาน ๔ กำลังสูง.....

    คำถามที่เราถามพี่เคยตอบไปแล้วนะในอดีต....เอาเป็นว่าไม่ตอบซ้ำ.....สงสัย...ทำเองรู้เองให้มันเข้าใจเอง....ตำหรับตำรา...พระธรรมเทศนามี...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2010
  7. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,458
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,011
    ขอบคุณครับพี่ Phanudet จริงๆ ตอนนี้ผมก็หวังให้ได้ณานสี่นะ เเต่ก็ไม่รู้จะมีบุญถึงกับเขาบ้างรึเปล่าชาตินี้ เเต่ยังไง ผมไม่ยึดให้เป็นกิเลสเเน่นอนครับ หลังจากที่นั่งสมาธิมาพอสมควรเเล้ว ตอนนี้ผมรู้เเล้วว่า กสิณที่ผมต้องการจริงๆคือกสิณสีขาว เพราะผมเป็นคนขี้โมโห ทุกวันนี้ ผมจึงใช้นึกภาพวัดร่องขุนเอา เพราะวัดร่องขุนมีโบสถ์สีขาว คือ นึกให้ทุกอย่างขาวหมด เเล้วก็มีพระพุทธรูปขาวใสรวมไปถึงศพใสของเราด้วยครับ อนุโมทนาครับทุกคน
     
  8. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    จับหลักให้ได้นะน้อง.....บางครั้งกรรมฐานมันเยอะมากนะ.....ศึกษามากจนไม่รู้จะเอาตัวใหนดี.....ก็เอามันหมด....ตกมาไม่ดีสักอย่าง...มีมากนะ
    น้อง....แบบนี้......

    ลองค้นหาตัวเองดูนะ.....แล้วพยายามเอาอันใดอันหนึ่งให้ดีก่อนหนึ่งกอง.....
    นอกนั้นก็แล้วแต่ว่าสภาวะให้ตรงกับสถาวะ....สำหรับการฝึกด้านกรรมฐาน ๔๐......หลวงพ่อสอนไว้หมดแล้ว.....

    อสุภะกรรมฐาน....เขาไม่ฝึกแบบกสินนะ......ฌาน ๔ ในอสุภะกรรมฐาน ไม่ใช่ศพแก้วนะ.......ผิดนะ......

    ถ้าไม่อยากคิดก็กรรมฐานใน สติปัฏฐานสูตร หนะ.....ตัดตรง...ง่ายดี...กรรมฐาน ๔๐ มี กสิน เป็นต้น พวกนี้ก็ต้องดูอุปนิสัย....พุทธภูมิ เป็นต้น.....ต้องเก็บหมด....มันเป็นหน่วยกิตหนะ.....

    ทำต่อไปนะ.....ลองหาตัวเองให้เจอ.....เวียนมาก็หลายชาติแล้ว....เป็นกำลังใจให้นะ.....
     
  9. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    อสุภะกรรมฐาน เอาแบบ นวสี ๙ ของหลวงพ่อหนะ.....ฝึกตามนั้นนะ.....

    ศพแก้ว กสิน อยู่ดี...เพียงแค่นิมิตเป็นรูปศพ...อย่าเอามาชนกัน.....

    ฌาน ๔ ต้องทำแบบไม่หวังไม่อยาก.....เดี๋ยวมันได้เอง.....ไปอยาก....มันไม่ค่อยได้.....บางครั้งไม่ต้องไปรู้มันเลยว่าขั้นใหนอย่างไร.....ก็ดีเหมือนกัน......มันจะได้ไม่วิตก....หลวงพ่อพุธ ท่านสอนศิษย์ ไม่ให้ไปสนเลย....ตัดจบอย่างเดียว....ก็ง่ายดี...

    หลวงพ่อเราเป็นปราชญ์ ได้รับคำสั่ง ให้สอนหมด....ท่านจึงต้องละเอียดจบทุกขั้นตอน.....เพราะรุ่นหลังจำเป็นต้องใช้.....เราเอาอันเดียวของท่านมาทำก็จบแล้ว....ดูตัวเรานะ.....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2010
  10. lekin

    lekin Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +75
    ทำไมเวลานั่งทำสมาธิไม่เคยเห็นอะไรเลยนอกจากความเงียบ
    เหมือนหลับไปแต่ไม่ได้หลับรู้สึกตัวอีกทีตัวเบาลอยๆขนลุกไม่เคยทำ
    ได้มากกว่านี้เลยแต่ก็รู้สึกดีนะ
     
  11. su37berkut

    su37berkut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    422
    ค่าพลัง:
    +1,121
    ชัดเจนมากๆ ครับ
    ขอขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งครับ...
     
  12. ผู้เตือน warn

    ผู้เตือน warn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2010
    โพสต์:
    561
    ค่าพลัง:
    +688

    ท่านเริ่มจะดีแล้ว ก้าวต่อไป สาธุ อารมณ์ใจรักษาเข้าไว้
     
  13. o-sa-ma

    o-sa-ma สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    สงสัยครับ

    อยากทราบว่าผมมีองค์ปู่ฤาษีนาคราชจริงเหมือนที่ร่างทรงทักไม่ทราบว่าจะทำยังไงดีครับ
    [​IMG]
     
  14. Mr.Boy_jakkrit

    Mr.Boy_jakkrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    2,063
    ค่าพลัง:
    +2,676
    หลับตาสิครับ ..ผมขอใช้คำว่า "เหลือบหลับ" ไม่แน่ใจมีอยู่ในพจนานุกรมหรือเปล่านะครับ เอาตามความเข้าใจตัวเองไว้ก่อนก็แล้วกัน
    กล่าวคือ เหลือบชำเรือง+หลับ เหมือนจะปล่อยให้หลับแต่ไม่หลับ

    เหลือบหลับในที่นี้มีลักษณะเหมือนเวลาเราง่วงสุดขีดลูกตาเนื้อจะเหลือบขึ้นข้างบน คือตาดำจะเหลือกขึ้นจรดคิ้ว เป็นลักษณะของคนหลับทั่วๆไป
    แต่ถ้านั่งสมาธินี้ ส่วนใหญ่ลูกตาดำจะยังมองตรงในขณะหลับตาบ้างก็เพ่งจนปวดหว่างคิ้วก็มี ผมก็เคยไม่ใช่ดูแต่คนอื่นแต่เอาประสบการณ์ตัวเองมาพูดด้วย

    สำหรับเวลานั่งสมาธิเราก็ปล่อยอารมณ์ไปตามสบายๆ คอยมีสติไว้ตอดๆ ตบๆ หากจะหลงจะเผลอไปกับกระแสความคิดใดๆ เมื่อวาระเข้าณานแล้วปล่อยไปอย่างเบาๆไม่ต้องเรียกสติมากนักเหมือนเหลือบเข้าไปเห็นภาพในสมองอะไรประมาณนั้น อันนี้อีกแบบนะครับ
    คือดูหนังในสมองจะฉายไปเรื่อยจบอันนี้เดี๋ยวมีอันใหม่ต่อไป หรือไม่ก็วกวนกลับมาฉายเรื่องเดิม คราวนี้พอจะเข้าใจคำว่าเห็นด้วยใจขึ้นมาบ้างนะครับนี่คือการตั้งใจเข้าไปเห็น
    ส่วนการเห็นอีกแบบคือ สาร ในที่นี้หมายถึงนิมิต ชนิดนี้เข้ามาเองเกิดขึ้นเองและดับไปเองจะเกิดในขณะมีสติต่างจากหลับ เวลาจะออกจากสิ่งเหล่าต้องดึงสติกลับมา แต่ถ้าจะเข้าไปชมภาพยนต์ต้องปล่อยไหลแบบเหลือบๆชำเรืองๆ อย่าไปเต็มตัวไม่งั้นจะขาดสติ ผมขอเรียกสภาวะนี้ว่าฝันแบบมีสติก็แล้วกันนะครับ เพราะไม่รู้ว่าเขาเรียกว่าอะไร (อ่อนปริยัติมากๆ)
    อาการดังกล่าวอาจจะเกิดอาจจะไม่เกิดกับบุคคลใดๆก็ได้เช่นกัน การนั่งสมาธิไม่จำเป็นต้องเห็นหรือไม่ต้องให้เห็น จุดประสงค์ของสมาธิคือความสงบ เงียบ เป็นหนึ่งเดียวนี่คือสมาธิ

    สาธุครับ
     
  15. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    กสิน 10

    อสุภะ 10

    อานาปานสติ 1

    กายคตาสติ 1

    อาหาเรปฏิกูลสัญญา 1

    จตุธาตุววัฏฐาน 4

    27 กอง นี้เป็น กรรมฐาน ที่ เข้าถึงฌาน 4 ด้วยรูปนิมิตร หรือ ภาพนิมิตร จะเห็นใน ฌาน ตลอด
     
  16. Mr.Boy_jakkrit

    Mr.Boy_jakkrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    2,063
    ค่าพลัง:
    +2,676
    อ้าว..เจอกันอีกแล้ว คราวก่อนเจอคุณขันธ์ และคุณนิวรณ์ คุณภานุเดช ฯลผมก็นึกอยู่พักใหญ่ว่ามีใครอีกคนนี่นา..จำได้แล้ว คุณวิษณุ12 นี่เอง

    สวัสดีครับ ไม่เจอกันนาน
    สบายกายสบายใจหรือเปล่าครับ ? (^^)
     
  17. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    สวัสดีครับ พี่บอย จักร & กริช

    เฮ้อ .. ทุกข์ จริง จริ๊ง ( เสียงสูง ) ...dencee
     
  18. ผู้มีสติ1

    ผู้มีสติ1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    750
    ค่าพลัง:
    +3,637
    ก็ว่ากันไป................
     
  19. Mr.Boy_jakkrit

    Mr.Boy_jakkrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    2,063
    ค่าพลัง:
    +2,676

    เป็นยังไงเหรอครับ อาการทุกข์ที่ว่า..??
    อากาศร้อนน่าดูเลยปีนี้ สงสัยต่อไปพายุจะกระหน่ำ และจะหนาวมาก
     
  20. lekin

    lekin Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +75
    เคยเป็นแบบตามองขึ้นบนเหมือตานมันจะลืม....บางครั้งนั่งเสร็จแล้วปวดหัวปวดตาอยากจะอ้วกไม่รู้เป็นไร...เวลานั่งก็ทำตัวสบายๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...