ถามมาสิจ๊ะ...แม่ชีณัฐทิพย์ ตนุพันธ์ ยินดีตอบจ้า...

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย DevilBitch, 14 สิงหาคม 2006.

  1. klu

    klu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,320
    "ทำไมพระพุทธเจ้าจึงกล่าวว่า เราไม่มีครูสอนให้ตรัสรู้?"


    เพราะอริยสัจ 4 เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ยากยิ่ง

    คงต้องย้อนกลับไปดูล่ะมั้งว่า ทำไมพระพุทธองค์ทรงออกบวช
    เพราะเห็นเทวทูตทั้ง 4 ใช่มั้ย เด็กที่เกิด คนเจ็บ คนตาย และสมณะ
    มองปั๊บ เห็นเลยว่า คนทุกคนต้องผ่านเรื่องเหล่านี้ทั้งสิ้น
    แล้วลองหันกลับมาถามตัวเราเองบ้างว่า
    ไอ้ที่เห็น ๆ กันอยู่ทุกวันเคยคิดได้บ้างมั้ย ไม่เคย
    พระพุทธเจ้าเห็นเพียงเท่านี้ เข้าใจในความจริง
    จึงมุ่งแสวงหาความหลุดพ้นจากการเกิด
    พระองค์ทรงคิดขึ้นมาเอง ไม่มีใครมาบอก
    การที่จะคิดแบบนี้ได้ ไม่ใช่เรื่องง่าย คือหลุดจากการเกิดไปเลย

    สำนักอาจารย์ต่าง ๆ ในสมัยนั้น เราไม่อาจทราบได้หรอกว่าสอนอะไรยังไงกันบ้าง
    ที่แน่ ๆ ไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อการหลุดพ้น
    จะเพื่อความสุขในชาติปัจจุบันนั้น หรือไม่ก็ เป็นไปในลักษณะที่ตนเองชอบ ชอบแบบไหนบูชาแบบนั้น
    แต่อย่างเรื่องกฎของกรรมก็อาจจะมี เรื่องสมาธิก็น่าจะมีบ้าง

    สิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงเข้าใจ
    คนทั่ว ๆ ไปจะมี อกุศลกรรม อุปาทาน ตัณหา แล้วก็อะไรไม่รู้อีกอย่างหนึ่ง บดบังอยู่
    มันก็เลยมองผ่านไป

    พอมันไม่มีคนสอน ไม่มีใครคิดได้อย่างพระองค์ ก็ต้องมานั่งคิดนั่งหาเอง
    ด้วยศรัทธาว่า สิ่งที่พระองค์แสวงหานั้นมีอยู่จริง
    ศึกษามาก็เยอะ เก่งไม่รู้จะเก่งอย่างไร

    แต่พระองค์กลับไม่คิดเลยว่า มันอาจจะไม่มีก็ได้นิ เพราะก็ไม่เห็นมีคนสอน

    พระองค์มีความมั่นคงในการที่จะแสวงหา
    ยากลำบากเพียงใดก็ยังเชื่อว่าสามารถที่จะหลุดพ้นได้
    ถ้าไม่เชื่อว่าจริงคงล้มเลิกไปนานแล้วใช่มั้ย

    สุดท้ายแล้ว พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้ได้ด้วยพระองค์เอง

    มันจักหาใครสอนได้เล่า
    ในเมื่อความจริงที่มองเห็น คนทั่ว ๆ ไปเขามองข้ามกันน่ะ
    แค่ความทุกข์ธรรมดา ๆ นี่แหละ เหตุของมันนี่แหละ
    มองเหมือนมันไกล จริง ๆ ก็อยู่ใกล้ ๆ ใกล้เกินไปมั้ง 555+
     
  2. hongsanart

    hongsanart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,332
    ค่าพลัง:
    +10,468
    เงินขวัญถุงค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC05951.JPG
      DSC05951.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.4 MB
      เปิดดู:
      114
  3. hongsanart

    hongsanart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,332
    ค่าพลัง:
    +10,468
    กราบนมัสการท่านอาจารย์ค่ะ
    ขอตอบบ้างได้ไหมคะ พระพุทธเจ้าท่านทรงแสวงหาทางหลุดพ้น แต่ที่ท่านได้ศึกษาเล่าเรียนมานั้น ทุกอาจารย์ที่สอนท่านไม่ได้สอนเรื่องเหล่านี้เลย
    พระพุทธองค์ทรงคิด,วิเคราะห์และแยกแยะหาทางหลุดพ้นด้วยตัวของท่านเอง
    อนุโมทนาสาธุค่ะท่านอาจารย์
     
  4. Navaroot

    Navaroot Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +88
    กราบนมัสการท่านอาจารย์แม่ชี และทุกๆท่าน
    คนหายให้ไปแจ้งตำรวจพร้อมกับสำรวจใจตัวเองว่าทำดีหรือยังเขาถึงเดินจากไป แล้วถ้าเป็นโรคใจหายบ่อยๆ รักษาอย่างไรก็ไม่หายซักที จะทำอย่างไรดีคะ? สาธุค่ะ:cool: (f)
     
  5. Navaroot

    Navaroot Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +88
    กราบนมัสการท่านอาจารย์แม่ชี และทุกๆท่าน
    ที่คุณโจโฉเสนอโครงการมา อ่านแล้วขนลุกทั้งต้วด้วยความปิติ ที่มีคนคิดดีและอยากทำประโยชน์สูงสุดให้เกิดแก่คนส่วนใหญ่ โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายที่เยาวชนซึ่งจะเติบโตไปเป็นอนาคตของชาติต่อไป จากการได้คลุกคลีอยู่กับกลุ่มวัยรุ่นรู้สึกเป็นห่วง เพราะตัวเองก็มีลูกอยู่ในช่วงวัยรุ่น และได้มีโอกาสช่วยท่านอาจารย์แม่ชีสอนธรรมในเด็กกลุ่มนี้ ทำให้ได้พบปัญหาว่า เด็กวัยรุนส่วนใหญ่ห่างไกลศาสนา เนื่องจากขาดผู้ชี้แนะที่ถูกต้อง ไม่สามารถนำความรู้ในวิชาพระพุทธศาสนาไปประยุกต์ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันทั้งๆที่เรียนวิชานี้ตั้งแต่ ม1-ม6 เด็กมองว่าเรื่องศาสนาเป็นเรื่องไกลตัว เป็นเรื่องของคนแก่ ไม่เข้าใจในเรื่องบาปบุญคุณโทษ นอกจากนี้วัยรุ่นส่วนใหญ่ขาดความรู้ความเข้าใจชีวิตตามความเป็นจริง เพราะขาดคนที่รู้จริงคอยสอน คิดว่าเป็นความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่ทุกฝ่ายน่าจะหันมาร่วมมือกันช่วยเหลือกันอย่างจริงจัง ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้
    สำหรับโครงการที่จะเสนอ สสส. จะรับเป็นผู้ติดต่อประสานงานให้คิดว่าคงไม่ยาก โครงการ TV on net ขอร่วมด้วยช่วยกันก็แล้วกัน คุณโจโฉ อย่า รันทด ระทวย อยู่นาน รีบๆ ดึงกำลังใจกลับมาแล้วบอกกับต้วเองว่าฉันต้องทำสำเร็จ ทุกอย่างคงไม่ไกลเกินฝัน ชื่นชมกับความคิดนะคะ ฝันให้ไกลไปให้ถึง เป็นกำลังใจให้นะคะ โมทนาสาธุนะเจ้าคะ ****
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 28 สิงหาคม 2006
  6. hongsanart

    hongsanart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,332
    ค่าพลัง:
    +10,468
    กราบนมัสการท่านอาจารย์และอนุโมทนาบุญกับศิษย์มือซ้ายด้วยค่ะ
    อยากจะบอกกับคุณโจโฉว่า ถ้าศิษย์มือซ้าย(Na-varoot) ท่านนี้รับปากจะประสานงานให้ รับรองได้เลยว่าสำเร็จแน่นอน..ชัวร์จ้ะ

    ขอแนะนำตัวศิษย์มือซ้ายท่านนี้สักนิด... ปัจจุบันรับราชการ และใช้เวลาทุกวินาทีอย่างคุ้มค่า หนึ่งวันของท่านมีมากกว่า 24 ชั่วโมงค่ะ และเป็นวิทยากรร่วมกับท่านอาจารย์แม่ชี เกือบทุกโครงการที่เปิดอบรมที่วัดและตามหน่วยงาน,โรงเรียนหรือกลุ่มบุคคลต่างๆที่นิมนต์ให้ท่านอาจารย์ไปสอน ขออนุโมทนาสาธุด้วยค่ะ(f)
     
  7. hongsanart

    hongsanart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,332
    ค่าพลัง:
    +10,468
    รูปหลวงปู่สุภาและท่านอาจารย์แม่ชีค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. hongsanart

    hongsanart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,332
    ค่าพลัง:
    +10,468
    ลองทายกันดูเล่นๆนะคะ คนไหนมือซ้าย....คนไหนมือขวา.....
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC05346.JPG
      DSC05346.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.1 MB
      เปิดดู:
      95
  9. hongsanart

    hongsanart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,332
    ค่าพลัง:
    +10,468
    เจริญธรรม...ลูกศิษย์มือซ้าย สงสัยเจอและพบกับอาจารย์น้อยไปมั้ง? จึงต้องมาสวัสดีกันในกระทู้นี้...เอ้า...เป็นโรคใจหายบ่อยๆ ก็ระวังจะไม่หายใจนะ...เดี๋ยวจะสบายโดยไม่รู้ตัว...สาธุ
     
  10. momolittle

    momolittle Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +84
    หนูชื่อทัศนีย์ค่ะ เคยส่งจดหมายไปหาคุณแม่ชีทางอีเมลล์หรือข้อความส่วนตัวนี่ล่ะค่ะ แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับ หนูป่วยมาตั้งแต่เดือนกุมภาจนถึงณ ปัจจุบัน ตอนนี้อาการก็มีแค่ทรงกับทรุด คือต้องกินยาควบคุมตัวเอง แต่มีหลายคนให้หนูฝึกการทำบุญต่างๆ คือรู้จักแบ่งปันบุญ รู้จักการสวดมนต์ แต่ก่อนหนูบ้างานจนใช้ร่างกายหนักมาก หนูเพลียแล้วก็ท้อในช่วงแรกในการป่วย ไม่คิดว่าการแค่โดนยุงกัดจะทำให้เราป่วยถึงขนาดนี้ แต่ตอนนี้เอฟเฟคจากการป่วยเกิดขึ้นมากมาย แต่ก็พยายามคิดว่า ร่างกายไม่ได้อยู่กับเรานาน ถึงเวลาเราก็ต้องไป แต่ทำทุกวันให้ดีที่สุด จึงเรียนสอบถามเพื่อเป็นความสว่างกับชีวิต หากจะเริ่มการนั่งสมาธิ หนูจะเริ่มยังไงได้บ้าง ขอกราบขอบพระคุณแม่ชี มาณ.ที่นี้ค่ะ...ทัศนีย์
    <!-- / message -->
     
  11. hongsanart

    hongsanart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,332
    ค่าพลัง:
    +10,468
    เจริญธรรม คุณโจโฉ ไอเดียดีมาก แม่ชีเคยคิดที่จะทำแบบนี้ตามโรงเรียนที่สอนและอบรมเด็ก เพิ่งรู้ว่ายังมีคนที่มีความคิดเหมือนแม่ชีก็มีด้วย... ขออนุโมทนาบุญ...ถ้าสังคมมีคนแบบนี้มากหน่อยก็น่าจะดี ผู้ใหญ่น่าจะสนับสนุนให้มากกว่านี้ ดีกว่ามาขัดขวางนะ...วัยรุ่นตอนนี้น่าเป็นห่วงมาก ในฐานะที่แม่ชีก็เคยผ่านการเป็นวัยรุ่นตัวแสบมาพอสมควร จนที่บ้านส่ายหน้าและส่ายหัว...แต่สุดท้ายคนที่หลายคนเคยส่ายหน้าและส่ายหัว ไม่เห็นแววรุ่งเลยต้องมาพึ่งพาเราเกือบทุกคน เอาละ...อย่าท้อนะ เรื่องการทำทีวีบนเน็ตนั้น ทำได้เลยแม่ชีและลูกศิษย์รับเป็นผู้อุปภัมภ์เอง ติดต่อผ่านคุณหงสนาถได้เลยนะ...ส่วนเรื่องชื่อและ โหงวเห้งนั้นแล้วแต่ใจปรารถนา แต่อยากให้ข้อคิดสักนิดคงจะไม่ไปขวางเท้าใครนะ ดวงดาวทั้งหลายจักทำอะไรได้เล่า? เห็นไหมว่าดาวพลูโตยังตกไป ไม่อยู่ในหมู่ดาวเคราะห์อีกแล้ว ตำราโหราศาสตร์ก็ต้องเปลี่ยนใหม่ ถ้ามั่นใจตัวเองก็ลุยเถอะ แต่ต้องยืดอกยอมรับกับการตัดสินใจของตัวเองด้วยนะ ชื่อโจโฉ...ก็เหมือนกับทหารของจีนที่ห้าวหาญชาญชัย เก่งก็ตาย ไม่เก่งก็ตาย เลือกเอาแล้วกันว่าจะเก่งแบบไหนตาย? สำหรับคำตอบเรื่องพระพุทธเจ้านั้นตอบได้หลากหลายกันมาก ไม่มีใครผิดหรอก มันอยู่ที่แต่ละมุมมองของคน แม่ชีจะให้ลูกศิษย์จัดส่งของที่ระลึกและอาจจะเป็นมงคลแก่ตนได้บ้างนะ ไปโล๊ด...สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 28 สิงหาคม 2006
  12. hongsanart

    hongsanart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,332
    ค่าพลัง:
    +10,468
    เจริญธรรมคุณ yochan แหม! คนที่คุณโยมเพ้อถึงเขาจะรู้ไหมเนี่ย?...ทำไมไม่บอกเขาให้รู้ซะล่ะ? ดีกว่ามานอนเพ้ออยู่คนเดียวนะ บอกออกไปเขาจะรับรักหรือไม่ก็ช่างเขา แต่เราได้บอกแล้วว่าเราชอบ เรารัก เผื่อว่าเขาจะรับไว้พิจารณาบ้าง อย่ากลัวที่จะบอกรัก และอย่ากลัวกับการถูกปฏิเสธ นิยามแห่งความรักมีมากมาย แต่ความรักที่แท้จริงคือการให้ที่ไม่หวังผลประโยชน์แก่ตนฝ่ายเดียว นั่นคือความรักที่ยิ่งใหญ่ อยากจะทำสมาธินั้นทำที่ไหนก็ได้ เพียงแต่ทำจิตใจให้สบายๆ คลายความกังวลและสับสนชั่วขณะ หยุดคิดอะไรก่อน หลับตาเพื่อพักผ่อนสังขาร จะบริกรรมคำภาวนาอะไรก็ได้ หรือจะไม่ต้องท่องอะไรเลยก็ได้ จะนั่งท่าไหนก็ได้อีกนั่นแหละ ระงับความคิดได้นานแค่ไหน? ลองตั้งเวลาดูก็ได้ หลังจากนั้นความคิดต่างๆก็จะทะยอยเข้ามา ห้ามมันได้ไหม? ลองห้ามดูก่อน ถ้าห้ามไม่ได้ ห้ามไม่ไหว ก็คิดไปแบบสุดๆเลยนะ มันเหนื่อยมันก็หยุดคิดเอง ความนิ่งและสงบจะเข้ามาแทนที่ ทำจิตให้เป็นภวังค์เหมือนคนที่จะเคลิ้มหลับแต่ไม่หลับนะ รู้ตัวทั่วพร้อมเสมอ อย่างนี้เขาเรียกว่า"สงบ "แต่ถ้าเคลิ้มแบบไม่รู้ตัวอย่างนี้เขาเรียกว่า "สลบ" ขอให้ตั้งใจทำ อย่าทำเล่นๆ ทำเล่นก็จะได้ผลเป็นเล่น ทำจริงผลที่ได้ย่อมจริงเสมอ...ถ้าเพ้อถึงคนอื่นแล้วเป็นทุกข์ มาเพ้อถึงแม่ชีก็ได้ รับรองว่าไม่อกหักแน่นอนนะ...จะบอกให้ สาธุ
     
  13. hongsanart

    hongsanart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,332
    ค่าพลัง:
    +10,468
    เจริญธรรมและสวัสดีทุกท่าน...ได้อ่านคำตอบเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาแล้วชื่นใจ ที่ทุกคนไม่ได้นับถือศาสนาแค่เพียงบัตรประชาชน เยี่ยมยอดมาก นับถือๆ เอาละ...โดยสรุป ที่พระพุทธเจ้ากล่าวว่า "เราไม่มีครูสอนในเรื่องของการตรัสรู้" ไม่ใช่พระองค์ถือตนว่าเก่งโดยไม่ต้องมีครูนะ พระองค์มีครูสอนแต่ให้เอา ให้เป็น ให้มีด้วยกิเลสและตัณหา แต่ครูที่สอนให้ลด ละ เลิก ลา นั้นไม่มี พระองค์คิด วิเคราะห์และแยกแยะกับมันได้ จนถึงกับทำให้ปล่อยวางจากความยึดถือยึดมั่นได้อย่างสิ้นเชิง" รู้กระจ่างจึงวางได้" แต่ถ้ารู้หมดแต่อดไม่ได้" นั้นแปลว่ายังรู้ไม่กระจ่างอย่างถ่องแท้ จึงทำให้แก้และอดไม่ได้...ขออนุโมทนาสาธุ และปรบมือดังๆให้กับทุกท่านที่ตอบเข้ามา มีสาระมาก จะให้คุณหงสนาถ (อ้อยศักดิ์)จัดส่งไปให้ทุกท่านที่ตอบเข้ามา...มีคำถามมาให้ใช้สมองทั้งสองซีกคิดอีกแล้ว (อยากให้ช่วยบอกลูกๆ น้องๆและคนรู้จักได้เข้ามาตอบบ้างจัง)...คำถามๆว่า "ทำไมพระพุทธเจ้าจึงไม่รับของถวายจากนางกีสาโคตรมี แต่ให้นางนำไปถวายให้กับพระที่บวชใหม่ที่นั่งอยู่อันดับสุดท้ายแทน" ซึ่งพระอันดับสุดท้ายนั้นคือพระอชิตะ ซึ่งจะมาอุบัติเป็นพระพุทธเจ้าในกาลต่อไป สาระสำคัญอยู่ที่การถวาย...(บอกใบ้ให้นะ) ลองช่วยกันตอบนะ คราวนี้มีเสื้อยืดจ๊าบมาก ข้างหน้าเสื้อเขียนคำว่า "สาธุ" เป็นภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ข้างหลังมียันต์ "นะ" แคล้วคลาดปลอดภัยและมีคนรักใคร่เมตตาตลอด ไม่ได้สอนให้งมงายแต่ใส่แล้วอบอุ่นเหมือนมีคนกอดเลยนะ...จะบอกให้ สาธุ!
     
  14. seelerdk

    seelerdk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +180
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    ขอเอาเรื่อง พระประนวัดสารนาถธรรมาราม ของอุบาสิกาบุญเรือน โตงบุญเติม มาเป็นการตอบคำถาม "ทำไมพระพุทธเจ้าจึงกล่าวว่า เราไม่มีครูสอนให้ตรัสรู้?" และขอขอบคุณและอนุโมทนาสาธุกับคุณเนาว์ผู้สร้างเว็บพุทธวงศ์และนำเรื่องนี้โพสต์เป็นกระทู้และผมนำมาขยายเป็นการตอบคำถามข้างบนด้วยครับ
    โมทนาสาธุครับ
     
  15. hongsanart

    hongsanart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,332
    ค่าพลัง:
    +10,468
    เจริญธรรม คุณ momolittle หรือคุณทัศนีย์ อนุโมทนาบุญที่กล้าหาญเข้ามาถามในกระทู้ตรงนี้ คำตอบจะได้เป็นธรรมวิทยาทานแก่สาธุชนทั่วไป ได้บุญทั้งผู้ถามและผู้ตอบด้วย...เวลาที่เหลือนั้น ช่างมันเถอะว่ามันจะมีแค่ไหน? ขอให้ตั้งใจและแน่วแน่ที่จะแก้ไขพฤติกรรมต่างๆให้ดีใหม่ เพื่อเป็นการแก้กรรมเสียให้เป็นกรรมดี ต่อไปเราจะได้รับและเสวยผลของกรรมดีสืบไป ร่างกายเสื่อมเป็นเรื่องธรรมดา แต่ต้องหมั่นดูแลรักษาต่อนะ อย่าปล่อยให้มันเสื่อมโทรมเร็วนัก หมั่นออกกำลังกายตามสถานภาพและบำรุงใจด้วยธรรมโอสถ เริ่มทำอย่างนี้นะ...สวดมนต์เพื่อเป็นยาทาแผลใจก่อน ชอบบทไหนก็สวดไปและต้องให้เข้าใจความหมายของมนต์บทที่สวดด้วยนะ (หาหนังสือสวดมนต์แปลมาสวด)สวดเสร็จก็ทำสมาธิทำจิตให้ผ่องใส คลายจากความกังวลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพ เรื่องการทำมาหากิน เรื่องหัวใจและเรื่องอะไรต่ออะไร หยุดคิดก่อน นั่งหลับตาเฉยๆหรือจะนอนก็ได้ ทำจิตให้ว่างชั่วขณะ จะนานแค่ไหนก็ได้ตามกำลังของตน แต่ถ้าอดทนให้นานได้มากก็อดทนไป ความเบากายและใจเบาจะเกิดขึ้น ความสว่างภายในจิตจะมีตามมา ความคิดสัพเพเหระไม่มี กายอยู่ในท่าที่ไม่เบียดเบียนใคร ปากไม่ล่วงละเมิดด่าว่าใคร นี่แหละที่ท่านเรียกว่า "บุญ" หรือความดีโดยแท้ และถ้าทนไม่ได้ใจมันคิดฟุ้งซ่านก็ให้มันคิดไป ตามรู้กับมันให้ได้ว่ามันคิดอะไร? คิดแล้วมีประโยชน์และทำได้ไหม? ถ้ามีประโยชน์ก็นำเอาไปกระทำตอนที่เลิกนั่งสมาธิแล้ว แต่ถ้าคิดแล้วไม่มีประโยชน์ทำไม่ได้ ก็ทิ้งมันไปเถอะ เก็บเอาไว้มันก็ทำความทุกข์ให้เปล่าๆ ลองทำดูนะ ไม่ยากถ้าทำ ยากแน่นอนถ้าไม่ทำและทำไม่ได้...ขอให้ประสบผลสำเร็จนะ แม่ชีเอาใจช่วยและเป็นกำลังใจให้ตลอดเวลา สาธุ... [​IMG][​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 28 สิงหาคม 2006
  16. momolittle

    momolittle Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +84
    ขอบพระคุณ คุณแม่ชีมากค่ะ ที่บอกทางสว่างแก่หนู หนูอาจจะไม่คนที่เคยอยู่ในของพระธรรม แต่ขอเดินเลียบขอบพระธรรมในช่วงเวลาที่เหลืออยู่เพื่อให้รู้ในสิ่งที่ควรจะรู้บ้าง สิ่งที่ได้แนะนำหนูจะน้อมรับไปปฏิบัติค่ะ ขอบพระคุณที่ตอบคำถามหนู หนูเริ่มรู้แนวทางแล้ว กราบขอบพระคุณค่ะ
     
  17. ลัก...ยิ้ม

    ลัก...ยิ้ม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    3,409
    ค่าพลัง:
    +15,762
    กราบท่านแม่ชีค่ะ

    กราบที่แม่ชีค่ะ หนู๋ยิ้มขอรบกวนหน่อยค่ะ รู้สึกว่าท่านแม่ชียังไม่ได้ชี้แนะให้นู๋ยิ้มเลยค่ะ หรือหนู๋ยิ้มเลินเล่อไม่ทันอ่านให้ละเอียด อย่างไรก็ขอขมาประทานอภัยด้วยนะค่ะ
     
  18. hongsanart

    hongsanart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,332
    ค่าพลัง:
    +10,468
    เจริญธรรม คุณลักยิ้ม...อาการที่เกิดขึ้นเวลาไปในสถานที่ต่างๆ แล้วมีอาการสั่นภายในนั้น เป็นอาการของจิตได้สัมผัสกับพลังชนิดหนึ่ง เรียกให้เข้าใจง่ายๆก็คือวิญญาณของผู้ที่ตายไปแล้ว มาทักทายเรา แต่เราไม่รู้และไม่เห็น รวมทั้งไม่เข้าใจ ถ้าอยากจะรู้และเห็นไวๆก็ต้องฝึกกรรมฐานแบบ "มโนมยิทธิ" คือนั่งกำหนด คิด เรียกอีกแบบหนึ่งก็คือจินตนาการนำก่อน แล้วจิตจะปรับไปโดยอัตโนมัติ การรู้ การเห็นจะเกิดขึ้นได้ในไม่ช้า... แต่ขอเตือนว่าอย่าหลง เพราะการทำสมาธิเมื่อจิตเริ่มใกล้จะสงบ มักจะมีกิเลสมาร เข้ามาล่อหลอกให้หลงมาก ต้องแยกแยะให้ได้ แต่ก็อย่าสงสัยและลังเลให้มากเกินควร คุณโยมเป็นคนที่สัมผัสกับสิ่งที่มองไม่เห็นได้ไว ลองนั่งหลับตาแล้วบริกรรมภาวนาคำว่า "ขอพบแสงสว่างๆๆๆ" ไปเรื่อยๆดูสิ พอจิตเริ่มจะสงบ คำบริกรรมจะหายไปก็ไม่ต้องตกใจ ทำใจให้ว่างจากการบริกรรมภาวนา เดี๋ยวภายในก็จะสว่างจ้าขึ้นเอง...เมื่อภายในสว่างจ้า ก็ให้อธิษฐานว่า "ถ้าท่านเป็นดวงมรรคดวงผลจริง ขอท่านจงเป็นดวงกลมๆ อธิษฐานจบก็ตั้งจิตให้แน่วแน่เพ่งมองที่แสงสว่างนั้น ถ้ากลมก็อธิษฐานต่อว่า" ขอให้ท่านเล็กลง" ถ้าเล็กลงตาม ก็อธิษฐานต่อขอให้ท่านใหญ่ ถ้าเป็นไปตามนั้นก็อธิษฐานต่อว่า"ขอให้ท่านเข้ามาอยู่ที่กลางหว่างคิ้วของข้าพเจ้า" แล้วเพ่งไปที่ดวงนั้น อย่ากลัวถ้าดวงนั้นวิ่งชนหน้าผาก จะรู้สึกเสียวที่หน้าผาก แล้วดวงสว่างนั้นจะหายไปในหว่างคิ้ว ความเจิดจ้าสว่างภายในจะเกิดขึ้น ทำให้เราเห็นอวัยวะภายในกายของเราทั้งหมด นี่แหละที่เรียกว่า "ตาเปิด เป็นตาทิพย์" ลองทำดูก็ได้ ทำสำเร็จแล้วส่งข่าวคราวบ้างนะ สาธุ...ขอให้เจริญในธรรม[​IMG]
     
  19. hongsanart

    hongsanart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,332
    ค่าพลัง:
    +10,468
    เจริญธรรมทุกท่าน ได้มีคุณโยมจากกรุงเทพฯโทรมาหา บอกว่าเหนื่อยเหลือเกินที่ต้องวิ่งหนีพวกที่ชอบกอปปี้สินค้า แล้วเอาไปขายตัดราคาต้นฉบับ...อันนี้ต้องขอบอกว่า จงภูมิใจเถอะที่เราได้เป็นผู้นำทางด้านความคิดและผลิตสิ่งดีๆและใหม่ๆตลอดเวลา ทำให้สมองได้พัฒนาไปในทิศทางบวกคือทิศทางดี ส่วนคนที่กอปปี้นั้นอย่าไปโกรธและโมโหเขาเลย สมองเขามีแค่นั้น คือตามกอปปี้ความคิดของคนอื่นอยู่ร่ำไป ทำให้สมองพัฒนาน้อย เพราะคอยแต่ไล่ตามความคิดของผู้อื่นอยู่ร่ำไป และสุดท้ายเขาก็โดนผู้อื่นมากอปปี้ต่อๆไป ถ้าไม่มีอะไรออกมาใหม่ การกอปปี้ก็ไม่เกิด มันเป็นกงกำกงเกวียน ช่างหัวมันบ่อยๆนะ ดีออก...เราจะได้พัฒนามันสมองของเรา ได้ใช้มันอย่างคุ้มค่าในทิศทางที่ดี สาธุ...ขอให้สินค้าของคุณโยมขายดีๆเหมือนเทน้ำเทท่า แต่ว่าได้เงินนะ เจริญธรรม
     
  20. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    นมัสการเจ้าค่ะแม่ชี และทุกท่าน

    อิอิ...เพิ่งรู้ค่ะว่าการเข้ากระทู้ที่ฮอตสุดฮิตติดอันดับและยาวๆ (ไม่ได้มาเข้าทุกวันนี่จ๊ะ) เลยเข้าใจแล้วว่าคนที่ตามอ่านกระทู้ของยายผีป่าขวัญหนีดีฝ่อกันไปจนขยาดไม่กล้าตามอ่านอีกเลย แต่กระทู้นี้สมควรนะคะที่ต้องติดตามอ่านอย่าละเอียด เพราะทุกคำทุกอย่าง ดีหมด

    อนุโมทนาจ๊ะทุกท่าน

    ไม่มีโอกาสคุยทางสายกับแม่ชีเลย ค่าโทมันบังคับไม่ให้โทออกหาใครง่ายๆ กลัวลูกๆ ลงแดงไม่ได้กินขนมจ๊ะ อาสัยใช้แบบฟรี(โทรจิต) แต่ไม่ไหวจ๊ะช่วงนี้
    แค่จัดการลูกสาวก็หมดแรงแล้วจ๊ะ

    พ่อของลูกสาวเค้ายึดห้องพระเป็นไปรเวทแล้วจ๊ะ ห้ามยายผีป่ากล้ำกลาย เค้าบอก วุ่น เสียสมาธิ เอาเป็นว่า จากผู้ชายที่เคยตกปลา ล่าสัตว์ ทำอะไรที่ขัดยายผีป่าทุกอย่าง คุยเรื่องบาปนะอย่าตีไก่ บาปนะอย่าตกปลาถ้าเรายังมีปัญญาหากินอย่างอื่นได้ ตอนนี้นะคะ เค้ามาบ่นยายผีป่าเองแล้วค่ะ สอนเราเองแระ

    อย่างตอนเช้าก่อนพาลูกออกมาหาหมอ เขาขึ้นไปทำสมาธิขณะที่ยายนั่งหายใจไม่ปกติไปจิบชาล้างพิษที่น้องแม่บ้านฯ แอดมินเวบส่งมาให้จากอเมริกาไป ฟังชินบัญชรไป เขาบอกว่า

    นี่หนอคนเรา ยามทุกข์กายพึ่งยา ทุกข์ใจพึ่งธรรมะ

    ยายก็ยกมือ สาธุ๊...

    แล้วเขาก้อเปลี่ยนแผ่นบทสวดที่จบไปมาเป็นแผ่นบรรยายธรรมของแม่ชี เรื่อง โครตกรรม เขาบอกว่า แม่ชีพูดดี แต่เธอพูดมาก คนพูดดีกับพูดมากมันต่างกัน

    ยายเลยยั๊วว่าไปว่า...

    ไปหาเมียใบ้สิ!!!
     

แชร์หน้านี้

Loading...