ขอถามผู้รู้เรื่องการฝึก มโนมยิทธิ ครับ

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย hunterbidu, 16 ธันวาคม 2009.

  1. hunterbidu

    hunterbidu สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +10
    ครับ พอดีว่าแม่ของเพื่อนผมได้ไป นั่งวิปัสนา มโนมยิทธิ แล้วกลับมารู้สึกจะเปลี่ยนไป ผมก็ไม่ทราบว่าจะช่วยเพื่อนผมได้ยังไง แต่ผมขอลงบทสนทนาที่ได้คุยกับเพื่อน ขออญุญาติ ไม่โพสนะครับ แต่ใช้แทรกไฟล์แทนละกัน เพราะคุยกันตามประสาเพื่อนอาจจะไม่สุภาพเท่าไหร่ ไม่ทราบว่า อาการแบบนี้ คือเรื่องปรกติ หรือเปล่า หรือว่ามีอะไรผิดพลาดไป ขอบพระคุณล่วงหน้าครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. hunterbidu

    hunterbidu สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +10
    ไม่มีใครตอบเลยหรอเนี่ย
     
  3. choosake

    choosake เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    482
    ค่าพลัง:
    +647
    ผมก็ความรู้น้อยนะครับ
    อุปทานครับ
    อาจจะเป็นไปได้ว่า รับรู้ หรือเห็นอะไร ก็มองว่าจริง ทั้งหมด
    ซึ่งจริง ๆ อาจจะเป็นเพียง อุปทาน เท่าั้นั้น สติยังไม่ตั้งมั่นพอครับ

    ส่วนที่ทานข้าว 2 มื้อ ผมเข้าใจว่า คุณแม่อาจจะพยายามรักษา ศีลแปด หรือเปล่าแต่อาจจะเข้าใจอะไรผิดไปครับ
     
  4. พลรัฐ

    พลรัฐ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    610
    ค่าพลัง:
    +1,111
    ....มโมยิทธิ เป็นวิชชา ที่ทำให้มีฤทธิ์ทางใจ อาศัย พุทธานุสสติ(การระลึกถึงพระพุทธเจ้า)โดยตรง....เพื่อ กันอุปาทาน

    ...เป็นการเรียนรู้ ทางใจ โดยยึดหลักของครูใหญ่เสมอ ...และต้องตรวจสอบเสมอ ว่าการปรับอารมณ์ใจอย่างไรตรงจุด....อย่างไรไม่ตรงจุด.....ด้วยการทดลอง และพิสูจน์ เมื่อเข้าใจถึงจุดแล้ว ทำบ่อยจนคล่อง(อย่าทิ้งพุทธานุสสติเด็ดขาด)....เอาไว้ใช้เป็นเครื่องมือในการศึกษาธรรมะ ของพระพุทธเจ้า.....

    ...การฝึกไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องอาศัยความอดทนมุ่งมั่น ศรัทธา+ปัญญา

    ...ศรัทธามาก....ปัญญาน้อย ...ใช้ปัญญามาก...ขาดศรัทธา

    ...กรรมใคร กรรมมัน.....

    ...ยุคสมัยนี้ เขาฝึกคนที่เข้าใจ ทำได้แล้ว ..ให้ใช้วิชชานี้ เป็นเครื่องมือ ในการตัดกิเลส ตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า....ศีล สมาธิ ปัญญา
     
  5. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    อนุโมทนาสาธุค่ะ อ่านแล้วรู้สึก งง ๆ อ่ะ แต่คิดว่าแม่คุณน่าจะโดนมารแทรงนะระหว่างนั่งสมาธิอ่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มกราคม 2010
  6. อยู่ในความทุกข์

    อยู่ในความทุกข์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2009
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +132
    น่ากลัวจังเลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 27 มีนาคม 2010
  7. เวลานาที

    เวลานาที เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2010
    โพสต์:
    378
    ค่าพลัง:
    +1,349
    น่าจะขยายความเรื่องลาออก ด้วย บางทีอาจมีผลกระทบทางจิตใจก็ได้ ไม่ละเอียด
     
  8. พระศุภกิจ ปภัสสโร

    พระศุภกิจ ปภัสสโร เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    2,015
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +11,166
    กลายเป็นว่ามโนยิทธิเป็นสาเหตุไป....ได้ไง

    มีปัญหามาก่อนแล้วเข้าวัดเพื่อดับทุกข์ตามประสบการณ์การเรียนรู้ว่าเข้าวัดแล้วออกมาชีวิตจะดีขึ้น

    แต่เมื่อคาดหวังไม่ประกอบด้วยปัญญา ปัญหาจึงมาตกที่ทำไมฝึกมโนยิทธิแล้วเพี้ยน เพราะกิเลสมันหลอกเอา
    คนที่เขามีสติอยู่ในโลกความจริงจะไม่คิดหรือแสดงออกเช่นครอบครัวเพื่อนคุณ

    ถ้าเขาปฎิบัติถูก....คณะศิษย์วัดท่าซุงนับแสนรวมทั้งอาตมาคงเข้าโรงพยาบาลบ้าไปก่อนแล้วเพราะฝึกมโนยิทธิมาอยู่มาตั้งแต่ปีพศ.2527-28 จนปีนี้ก็ 53 ทำซ้ำ ๆมาเกิน 20 ปี
    ไม่เคยกินยาโรงพยาบาลประสาทเลยจ๊ะโยม

    เราฝึกมโนยิทธิทุกครั้งต้องพิจารณาเริ่มจากเจริญวิปัสนาพิจารณากายลดความพึงพอใจหลงใหลในกาม ความโลภความโกรธ และเห็นทุกข์ตามความเป็นจริง

    หลวงพ่อท่านสอนแบบนี้มาไม่เคยเปลี่ยนแปลงหรือใครจะหาได้บอกว่าฝึกมโนยิทธิแล้ว จะร่ำรวย สมหวัง ครอบครัวกลับมาคืนดีมีสุข ไม่เคยอยู่ในคำสอนหลวงพ่อฤษีหรือใครหาได้ก็ช้วยโพสยืนยัน


    สรุป..ก็เพื่อนคุณและแม่เขามีทุกข์ก่อนเข้ามาใช้วิธีฝึกมโนยิทธิแล้วและไม่เข้าใจ เข้าถึง จึงไม่ได้รับประโยชน์จากการปฎิบัติ
    ตามจริง

    เจริญพร
     
  9. พระศุภกิจ ปภัสสโร

    พระศุภกิจ ปภัสสโร เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    2,015
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +11,166
    อาตมาโพสให้เองไม่เป็นไร เป็นอุทาหรณ์

    ใช้ A แทน เพื่อน
    ใช้ B แทน ผม


    A: เขือน
    B: ว่า

    A: เคยได้ยิน การฝึกมโนมยิทธิปะ , แม่กูกลับมาแล้ว
    B: คุ้นๆ

    A: เป็นประสาทเข้าโรงบาลเลย
    B: อ่าวทำไมอ่ะ

    A: เป็นเพราะกูลาออก หรือ เพราะเขาเพลียด้วยมั้ง กินข้าว 2 มือ หลับน้อย ยาลดความดันลืมกิน , แถมที่โน้น อัด แต่เรื่องเหลือเชื่อ
    B: เห้อ

    B: แล้วตอนนี้เป็นไงมั่ง

    A: นึกว่าลาออกแล้วจะสบาย แมร่ง ทุกข์ใจกว่าอีก , ก็ออกมาแล้ว ให้พักผ่อน ซักหน่อย
    B: ก็แม่แกหวังว่ามีงาานทำแล้วจะได้สบายขึ้นไง , หรอ อืม , ไปครั้งแรกก็งี้แหล่ะ , ถ้าเขาไปถูกที่สอนดีมันก็ดี

    A: เขากลับมานึกเอง เออเองหมดเลย , มีเสียงกระซิบที่หูด้วย
    B: บอกยาก ต้องคุยกับแม่แกหว่ะ จะได้รู้สภาพ

    A: แม่บอกว่าไม่ได้บ้า
    B: คือ ถ้าฝึกแบบธรรมดา มีครูดีมันไม่มีอะไรหรอก , แต่ถ้าฝึกแบบฝืน หรือ มากไป มันจะหลุดง่าย

    A: แม่บอกว่า พ่อกูเข้ามาสิงกู ให้ลาออก พ่อจะเอากูเป็นคนชั่ว , แม่บอกว่าจะตายแล้ว (หมายถึงตัวแม่ของเพื่อนนะครับ) , ถามกูว่าอยากให้ตายรึเปล่า , มึงคิดดู กูต้องไม่ถูกเลยมึง
    B: กำ แต่ดวงแกยังไม่ตายเร็วๆนี่นิหว่า

    A: ขั้นบ้า , ต้องตอบว่าไม่อยากให้ตายซิ
    B: คืออาจะเป็นสภาวะจิต แประปรวน เห็นผิดเป็นดี อะไรทำนองนี้

    A: อันตัวกูเลี้ยงมาไม่เคยกอดแม่เลย ไม่นึกเลยว่าจะน้อยจะเก็บไปคิดเก็บกดจนบ้าขนาดนี้
    B: ก็เข้าไปกอดดิ แกต้องพยายามดึงสติกลับมาก่อน ปล่อยไว้ไม่ดี

    A: จะบอกให้ กูเกลียจ เขาอยู่เหมือนกัน , กูกำกึ่ง
    B: ก็ให้คิดแต่ด้านบวกเขาไว้ก่ะ มีแม่คนเดียวอะไรเงียะ

    B: ทำงาน ให้แกได้ใช้เงิน ได้เรียน แกต้องเติมจิตบวกให้แม่แกเยอะ
    B: แต่ถ้าแกบังเอิญมารแทรกจิตชั่วเข้า แม่แกก็อาจจะไม่ได้สติก็ได้นะ
    B: เรื่องจริงนะมิใช่ในการ์ตูน
    B: ฝึก มโนมยิทธิ มันเป็นดาบสองคมต้องเข้าใจ
    B: คนไม่ถึงเวลา มันจะกลับมาทิ่มแทงตัวเอง

    B: ไปครั้งแรกเจออันนี้เหมือนเรียนลัด
    B: แกก็ประคองจิตแกไว้ละกัน ใส่บวกเยอะๆ เดี๋ยวเรื่องร้ายๆมันก็ผ่านไป
     
  10. ธรรมดีได้ดี

    ธรรมดีได้ดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    241
    ค่าพลัง:
    +178
    ผมไม่ทราบว่าคุณแม่เพื่อนคุณท่านไปฝึกที่ไหนมา แล้วจากที่คุณเล่ามา ผมพูดตรงๆคือ ไม่ทราบรายละเอียดแน่ชัดว่าจริงๆแล้วคุณแม่เพื่อนคุณเป็นอย่างไรบ้าง เลยไม่สามารถบอกได้ แต่มีสิ่งนึงที่ยืนยันได้คือมโนมยิทธิคือของจริงถ้าจิตเราเป็นกุศลพอ คนที่ได้กันไปแล้วส่วนมากก็ปกติดี ปกติในเช่นนี้คือยังคงรักษาอารมณ์เอาไว้ได้ ใช้อยู่เรื่อยๆ พยายามทรงอารมณ์บ่อยๆ ถ้าคุณอยากรู้มากกว่านี้ ผมแนะนำให้คุณไปลองปฏิบัติดูเองครับ ของแบบนี้ต้องเจอกับตัว บางทีจะเข้าใจอะไรได้มากขึ้น สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นไม่เท่าปฏิบัติเองครับ
    อนุโมทนาครับ ขอให้ทุกท่านเจริญในธรรม ... สาธุ
     
  11. นายตถาตา

    นายตถาตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2010
    โพสต์:
    829
    ค่าพลัง:
    +705
    เอ้าใครฝึกมโนยิทธิลองส่องดูสิว่าความจริงมันเป็นยังไงกันแน่
     
  12. payu088

    payu088 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +1,190
    ผมขอแสดงความคิดเห็นในประเด็นนี้ ตามประสปการณ์ที่ได้พบมา
    เนื่องจากผมเป็นจิตแพทย์ และได้มีประสปการณ์ฝึกมโนมยิทธิแกรรมฐานอื่นๆพอประมาณ
    ในช่วงการเรียนจิตแพทย์และทำงานเป็นจิตแพทย์นั้น ได้เจอผู้ป่วยที่มีอาการประสาทหลอนจากการฝึกสมาธิ อยู่หลายราย แต่ละรายมีที่มาของการฝึกแตกต่างกัน มีทั้ง พุทโธ มโนมยิทธิ และ ยุบหนอพองหนอ ซึ่งไม่ว่าจะแบบไหนก็สามารถทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ หากฝึกไม่ถูกต้อง ผมพอจะสรุปสาเหตุโดยรวม จากการสัมภาษณ์ผู้ป่วย มาให้ท่านได้อ่าน เพื่อจะได้เป็นองค์ความรู้ โดยสรุปได้ว่า ผู้ที่ฝึกแล้วมีอาการทางจิตหลอนนั้นเกิดจาก
    1. มีความเครียดอย่างสูงก่อนไปฝึก เช่น การหย่าร้างที่ยังไม่สามรถทำใจได้ การสูญเสีย การถูกกดดัน
    2.ฝึกแบบเคร่งเครียด ไม่ยอมนอน เพ่งอย่างแรง
    3.มีความอยากมากเกินไป อยากยิ่งใหญ่ อยากมีอำนาจวิเศษ เหนือกว่ามนุษย์ เป็นต้น
    เพราะฉะนั้น ทุกวิธีการที่ครูบาอาจารย์สอนนั้น หากทำแต่พอดี พอประมาณ กับกำลังของตนเอง จะไม่เกิดผลเสียตามมา และที่สำคัญของการฝึก ควรมีสติ ความรู้สึกตัวในทุกกรณีที่ทำการฝึก เพราะความหลงในบางครั้งนั้น สามารถเกิดขึ้นได้ง่ายมาก เหมือนเรากำลังดูภาพยนต์ ก่อนดูเราบอกตัวเองว่า จะไม่หลง แต่พอดูไปแล้ว เราก็อยากดูไปเรื่อยๆ จนลืมวัน เวลา เป็นต้น เพราะฉะนั้น หากเราประคองสติในทุกขณะที่ฝึก โอกาสหลงทาง จะเกิดขึ้นยากมาก

    ขอทุกท่านจงเจริญในธรรมครับ
     
  13. gatsby_ut

    gatsby_ut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    821
    ค่าพลัง:
    +14,291
    ใช้ A แทน เพื่อน
    ใช้ B แทน ผม
    A: เป็นเพราะกูลาออก หรือ เพราะเขาเพลียด้วยมั้ง กินข้าว 2 มือ หลับน้อย ยาลดความดันลืมกิน , แถมที่โน้น อัด แต่เรื่องเหลือเชื่อ
    B: เห้อ


    ถ้าเรื่องนี้ เป็นเรื่องจริง นะครับ ขอถามนิดนะ ครับ ที่ไปน่ะ วัดใหน หรือสำนักใหน ไปมาเมื่อใหร่ ขอให้ พิจารณา ตัวหนังสือ ที่ผมเน้น เรื่องนี้มีผลมาก นะ เป็นเรื่องผิดปกติมาก ถ้าเรื่องยา ผมไม่มี ความรู้ และคุณเตรียมการ ถอดเสียง มาได้อย่างไร คุณอยู่ภาคเหนือ ใช่ไหม ? ตัวคุณเอง ก็ไม่เชื่อเรื่องนี้ ด้วย ใชไหม ? ขอบคุณ.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 26 มีนาคม 2010
  14. puvanut

    puvanut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +110
    เอ ทำไมไม่มีคำตอบ หรือว่าจริง ตามที่ท่าน อริยบุตร กล่าว
    ถ้าจริง ควรลบ ออกนะ เป็นการทำลายคำสอน จะได้ไม่เป็น
    อกุศลกรรม กับตนเอง
     
  15. 26

    26 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +374
    พ่อเราสอนดีเเล้วครับ
     
  16. potisat

    potisat สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +6
    กรรมฐานกองใดก็ตามเป็นกรรฐานเพื่อ พิสูจน์ คำสอนของพระพุทธเจ้า
    เพื่อให้มนุษย์ หายสงสัย ไมได้มีไว้ ว่าให้ใครเชื่อหรือไม่
    พระพุทธเจ้า พรองค์ทานก็มีคำสอนให้คนเดินตาม ไม่ได้ กระชากหัวใครให้ไปรู้ไปเห็น
    หลวงพ่อฤษีลิงดำ ท่านก็เป็นบุคคลหนึ่ง ที่นำคำสอนมาช่วยบอก ช่วยสอน ให้คน ที่เขาอยากรุ้ได้หายยสงสัยในคำสอนของ พระศาสนา ให้คน หายโง่
    พวกปากบอกว่านับถือศาสนาพุทธ แต่ นัั่งสมาธิอย่างไงยังไม่รู้เรื่อง
    เกิดจากท้องพ่อท้องแม่มา ก็ถูกพาไปจดสูติบัตร ว่าศาสนาพุทธ โตมาก็ป่าวร้องว่าตนเองศาสนาพุทธ แต่พอพูดถึง นรกสวรรค์ บาปบุญกับไม่เข้าใจ
    เรื่องผี เรื่องภพ ก็ไม่สนใจ แบบนี้เรียกว่า ไม่ได้สะเก็ต ความดี ที่พระพุทธเจ้าสอนไว้ และมาเถียงแบบโง่ๆ ว่า ไม่มีจริง
    ก่อนจะบอกว่ามีหรือไม่มีให้ ทำอย่างพระพุทธเจ้าท่านสอน หรือ พระอริยะเจ้าท่านสอนไว้ อิทธบาท4 มีหรือป่าว

    การที่คนเราเห็นได้ ไม่ใช่เพราะมโนมยิทธิ กรรมฐานกองไดๆ เราก็เห็นได้ ถ้าบุคคลนั้นได้ ฌาณ สูงๆ ขึ้นไป เรียกว่า ของเก่าดี ก้คือชาติก่อนทำมาดี มาชาตินี้ ทำเลยได้เลย พวกทำแล้วไม่ได้ ไม่ดี ก้อบอกว่า ไม่เชื่อก็มันเป็นแบบนี้มาทุกชาติ โง่มาทุกชาติ มาชาตินี้ก็ยังโง่อีก

    คนเราจะดี จะชั่วจะบ้า ไม่ใช่กรรมฐาน คนเราจะดี จะชั่ว จะบ้า น้ัน เป็นเหตุแห่งตนทั้งนั้น จงโทษตัวเองก่อนสำคัญ ตนเองเท่านั้นที่จะรู้ จะทำ จะผิด ไม่มีใครยัดเยียดความผิดให้ได้

    คนเรา เมื่อถึงจุดๆนึงที่เรียกว่า วาระมาถึง ก็เห็นความจริงก็กลับกลายเป็นคนละคนได้ ไม่ใช่สรุปว่าบ้า คนเราทำดี จนผิดหูผิดตา ผิดจากสังคม คนส่วนใหญ่ มักเป็นแบบนี้ คนดี มีแค่ หนึ่งในพัน คนเลวเกลื่อนถนน สังคมคนเลว มักไม่มีช่องว่างให้ เพราะสังคมเราเหลวแหลก เลวทราม ขนาดนี้ กรรมฐานไม่มีสักกอง สมาธิไม่เคยนั่ง ยังห่างกับคำว่า ดี
    คนดีทำดี จึงไม่มีที่อยู่
     
  17. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ญาณเครื่องรู้ที่เป็นสัมมาทิฐินั้น รู้เพื่อละ รู้เพื่อวาง รู้เพื่อให้เห็นวิปัสนาญาณในกฏไตรลักษณ์การเกิดขึ้น การตั้งอยู่ การดับไปไม่เที่ยงให้เห็นชัดเจนครับ

    ไปดู ไปรู้ แล้วยึด ไปเกาะ ไปหลง เป็นมิจฉาสมาธิ

    เราจะต้องมี ปัญญาพิจารณาประกอบในการปฏิบัติ

    รู้อะไรมา ก็พักตัวรู้เอาไว้ ในอุเบกขารมม์ก่อน

    จากนั้นใช้ปัญญาพิจารณา ว่า

    ธรรมนั้น

    ญาณเครื่องรู้นั้น

    ประกอบไปด้วย คุณ เมื่อน้อมนำไปปฏิบัติ แล้ว กิเลสเบาบางลง จิตเบา จิตสะอาด จิตสงบ มีผลมีอานิสงค์แห่งการปฏิบัติจริง

    จึงค่อยน้อมนำไปสู่ภายในจิต ในใจของเรา

    อุปมาดั่งเรารับ น้ำมาจากบุคคลใดก็ตาม

    เราพักน้ำในแก้วก่อน พิจารณาก่อนว่า น้ำนั้นสะอาด หรือสกปรก

    หากสะอาดจึงค่อยดื่ม

    หากพิจารณาเห็นแล้วว่าน้ำสกปรก เราก็เททิ้งเสีย

    ธรรมที่ได้ฟังก็ดี

    สรรพวิชาทั้งปวงก็ดี

    ญาณเครื่องรู้ทั้งหลายก็ดี

    เราหยุด ตั้งสติสัมปชัญญะ พิจารณา ในอุเบกขารมณ์ก่อน

    ใช้ธรรมวิจัยยะ มาตรึก มาตรอง มาพิจารณา มาจำแนกแยกแยะก่อน

    พิจารณา โดยลำดับไปจนสุดสายแห่งการพิจารณา โดยอนุโลม

    พิจารณา ย้อนกลับ หาที่มา หาเหตุ โดยปฏิโลมให้เห็นธรรม โดยถ้วนทั่ว ครอบคลุม

    เป็นการพิจารณาโดยแยบคาย แล้วจึงค่อยเชื่อ

    ดั่งนี้ ญาณที่ปรากฏจึงเป็นญาณทัศนะอันวิสุทธิ์เป็นไป เพื่อสละสิ้นในกิเลส ตัดสังโยชน์สิบ เห็นทุกข์ เห็นอริยสัจจ์ เห็นสังสารวัฏฏ์

    จนพบพระนิพพานในที่สุด
     
  18. octavian

    octavian เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +485
    ผม สนับสนุนความคิดเห็นของคุณหมอที่บอกว่า
    1.มีความเครียดอย่างสูงก่อนไปฝึก
    ถ้าจะให้ช่วยแนะนำคือ คำสอนหลวงพ่อก่อนฝึกมโนยิทธิ หนะครับ ท่านกล่าวไว้ดีแล้ว
    จุดมุงหมายที่แท้จริงก็คือ นิพพาน
    ไหนๆก็ไหนๆแล้วลองพาคุณแม่เพื่อนของคุณไปที่วัดอีกรอบนะครับ เพราะท่านอาจจะเข้าใจอะไรผิดไปบ้าง


    อย่างที่คุณ kananun บอกไว้
    "ญาณเครื่องรู้ที่เป็นสัมมาทิฐินั้น รู้เพื่อละ รู้เพื่อวาง รู้เพื่อให้เห็นวิปัสนาญาณในกฏไตรลักษณ์การเกิดขึ้น การตั้งอยู่ การดับไปไม่เที่ยงให้เห็นชัดเจนครับ
    ไปดู ไปรู้ แล้วยึด ไปเกาะ ไปหลง เป็นมิจฉาสมาธิ "
     

แชร์หน้านี้

Loading...