บุคคลผู้พึงเป็นผู้ที่ชนะสงครามที่ชนะได้โดยยาก ธรรมะจากพระพุทธองค์

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย saturday_rainy, 27 เมษายน 2010.

  1. saturday_rainy

    saturday_rainy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2009
    โพสต์:
    335
    ค่าพลัง:
    +957
    สมัยหนึ่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงพักอยู่ในมหาวิหารชื่อว่า เวฬุวัน วิหารนี้สมัยนั้นเป็นสวน เป็นที่พระราชทานเหยื่อกระแตของพระเจ้าแผ่นดินมคธ ทรงพระนามว่า พระเจ้าพิมพิสาร
    มีพาหมณ์คนหนึ่งนามว่า ภาวทาชโคตร ท่านออกจากเรือนแล้ว ไปบวชเป็นบรรพชิตในสำนักขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    เพื่อนของท่านคนหนึ่งเป็นพราหมณ์เหมือนกันชื่อ อโคสกทวาชะ ได้ยินข่าวว่าเพื่อนไปบวชในสำนักของพระพุทธเจ้าก็โกรธ
    อโคสกทวาชะ จึงไปเข้าเฝ้าพระผู้มรพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ เข้าไปก็ตั้งใจจะไปด่าพระพุทธเจ้า ครั้นไปถึงแล้ว ก็ด่าพระบรมครูอย่างชาวบ้านเขาด่ากัน ท่านบอกว่าด่าแบบหยาบๆเหมือนกับคนที่ไม่ใช่คนเขาด่ากัน
    สมเด็จพระจอมไตรแก้ไขอย่างไร?
    พระพุทธเจ้าฟังเช่นนั้นแล้วก็ทรงตรัสกับอโคสกพราหหมณ์ว่า
    "ดูกร พราหมณ์ ท่านมีความสำคัญอย่างไร ในความข้อนั้นเป็นไฉน ถ้ามิตรและอำมาตย์ที่เป็นญาติสายโลหิตของท่านมาหาท่านบ้างไหม"
    อโคสกทวาชพราหมณ์ ก็กล่าวชื่อแบบแสดงอาการเหยียดหยาม "พระสมณโคดมผู้เจริญ"
    "มิตร อำมาตย์ ญาติสายโลหิตผู้เป็นแขกของข้าพระองค์ย่อมมาในกาลบางคราว"
    สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสถาม "ดูกร พรามณ์ ท่านมีความสำคัญในข้อนั้นเป็นไฉน ท่านจัดของเคี้ยว ของบริโภคหรือว่าของดื่มต้อนรับมิตรและอำมาตย์ญาติสายโลหิตผู้เป็นแขกเหล่านั้นบ้างหรือไม่"
    "มี!!! พระสมณโคดม ทำไมจะไม่มี เขามาก็ต้อนรับซี ในบางคราวถ้าแขกไกลหน่อยเราก็รับ ถ้าใกล้หน่อยเราก็ไม่รับ"
    พระพุทธเจ้าทรงรับ" พราหมณ์ ก็ถ้ามิตรและอำมาตย์หรือแขกที่มาหานั้น เขาไม่รับของเคี้ยว ของบริโภคและน้ำดื่มที่ท่านจัดไว้ให้นั้น"
    "ของทั้งหลายเหล่านั้นมันจะเป็นของใคร" พระพุทธองค์ตรัส
    พรามณ์ก็ตอบด้วยความฉุนเฉียว "ถ้าเขาไม่รับ ไอ้ของเหล่านั้นก็เป็นของผมตามเดิม จะเป็นของใครล่ะ"
    พระพุทธองค์ทรงตรัสด้วยน้ำเสียงแจ่มใส เปี่ยมเมตตา "ดูกร พราหมณ์ ข้อนี้ฉันใด ท่านด่าเราผู้ไม่ด่าอยู่ ท่านโกรธเราผู้ไม่โกรธอยู่ ท่านหมายมั่นอาฆาตมาดร้ายเราผู้ไม่อาฆาตอยู่ เราก็ไม่เคยคิดว่าจะรับ เรื่องการด่าของท่าน เป็นของท่านแต่ผู้เดียว"
    พระองค์ตรัส "ดูกร พราหมณ์ ผู้ใดด่าตอบ บุคคลผู้ด่าอยู่ โกรธตอบบุคคลที่โกรธอยู่ หมายมั่นหรือคิดอาฆาตมาดร้ายอยู่ ผู้นี้กล่าวว่าย่อมบริโภคด้วยกัน"
    ณ.วิหารนั้นทั้งบรรดาอำมาตย์ และชาวบ้านต่างก็ได้ฟังกันถ้วนทั่ว บางคนแอบหน้าชาไปเลยก็มี
    "ดูกร พราหมณ์ เรื่องมีการด่าเป็นต้น เป็นของท่านแต่ผู้เดียวเท่านั้นเป็นผู้รับไว้ เราไม่ได้รับ" พระพุทธองค์ตรัสต่ออีก
    อำมาตย์ที่ได้ฟังนึกในใจ พระพุทธองค์ทรงโต้ตอบได้อย่างเฉียบคม โดยที่พระองค์ไม่ทรงแสดงอาการหวั่นไหวใดๆเลย มีแต่พราหณ์ผู้นั้นที่มีท่าที อาการลุกลน เหมือนไสช้างเข้าชนกับภูภายังไงยังงั้น แต่พราหมณ์ อโคสกทวาชะ ยังไม่ยอมจึงรุกเร้าต่อ
    "นี่ พระสมณโคดม บริษัทของท่านมีพระราชาเป็นต้น ก็เมื่อท่านเป็นอรหันต์ เช่นนั้นทำไมท่านจึงโกรธเราอยู่ล่ะ"
    "พราหมณ์ ผู้ไม่โกรธฝึกฝนตนดีแล้ว มีความเป็นอยู่สม่ำเสมอ หลุดพ้นแล้ว เพราะรู้ชอบ สงบ คงที่ ความโกรธจะมีมาจากไหน คนใดโกรธตอบ บุคคลผู้โกรธแล้วนั้นเป็นผู้อาฆาตกว่าบุคคลนั้นเอง" ท่านยังตรัสตอบด้วยเมตตา แต่เหมือนคำด่าแบบผู้ดี

    ผู้ใดรู้อยู่แล้วว่าผู้อื่นโกรธ แล้วมีสติ สงบเสียได้ ผู้นั้นชื่อว่าย่อมประพฤติประโยชน์ทั้ง 2ฝ่าย คือแก่ตนและบุคคลอื่น เมื่อผู้นั้นรักษาประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย คือของตนและบุคคลอื่น คนทั้งหลายที่มีความโง่ ไม่มีความฉลาดในธรรม ย่อมมีความสำคัญว่าบุคคลนั้นเป็นผู้เขลา
    (พระสุตตันตปิฎก สังยุตนิกายสัคคทวรรค เล่มที่ 15 ฉบับสยามรัฐ หน้า 224)

    ถ้าเขาด่าเราแล้ว เราไม่ด่าตอบ เขาก็จะคิดว่าเรานี่กลัวเขา เราโง่กว่าเขา เราควรจะด่าตอบ แต่พระพุทธเจ้าท่านไม่คิดอย่างนั้น ท่านคิดว่าถ้าใครโกรธเรา เราไม่โกรธตอบ เราเป็นผู้ที่ชนะสงครามที่ชนะได้โดยยาก (คัดมาจากธรรมมะจากองค์หลวงพ่อ พระราชพรหมญาณ "พรหมวิหาร4")
    เป็นธรรมะที่น่าสนใจดี ก็หวังว่าจะได้ข้อคิดเตือนใจบ้างไม่มากก็น้อย ในสังคมที่มีการขัดแย้งกันแบบนี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 เมษายน 2010
  2. march_troy

    march_troy สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +23
    อนุโมทนาสาธุครับ เป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้จักการควบคุมอารมณ์ชั้นยอดจริงๆ
     
  3. saturday_rainy

    saturday_rainy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2009
    โพสต์:
    335
    ค่าพลัง:
    +957
    เป็นวาทะที่ผมชอบมาก คมบาดลึกดีจริงๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...