หุบเขาตายายสู่โพธิญาณ

ขบวนของเรามีพระครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้า มีโยมแม่เขียว พี่เพียร น้องเอ็กซ์ น้องเขาทราย พี่เสริฐ คุณบุญนุช อาจารย์แม่เจริญ เจน พี่เปิ้ล คุณอุทัยและศรีภรรยาพร้อมด้วยลูกชาย เพื่อนคุณอุทัยพร้อมภรรยาและลูกชาย เท่านี้ค่ะ 15 ชีวิตกับ 1 องค์พระครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้า

พอไปถึงคุณตาสมคิด วงษ์เอี่ยมตา และคุณยายจำปี ฉายประเทือง ท่านมีบุญมากและทำบุญมากค่ะ เมื่อก่อนคุณตาคุณยายเคยออกบวชเป็นชีปขาว เดินทางไปปฏิบัติทั่วสารทิศ ตามรอยพระปฏิบัติ ฤาษี ท้ายที่สุดเมื่อปี 2533 จึงได้สร้างสถานปฏิบัติธรรมหุบเขาตายายสู่โพธิญาณขึ้น บนเนื้อที่กว่า 300 ไร่ของตากับยายเอง ที่บ้านดงมะไฟ อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา สถานที่แห่งนี้มีพระสงฆ์ที่มีชื่อเสียงในทางปฏิบัติแวะเวียนไปเสมอ อาทิเช่นพระครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้า พระอาจารย์วรงคต วีริยะธโร(หลวงตาม้า) หลวงพ่อพุทธโชติ เป็นต้นค่ะ

 

สิ่งมหัศจรรย์เมฆคล้ายรูปพระโพธิสัตว์กวนอิม



สิ่งมหัศจรรย์เมฆคล้ายรูปพระโพธิสัตว์กวนอิม


ขณะที่พวกเราเดินตามพระครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้าขึ้นไปนเขา ซึ่งท่านครูบาเจ้าจะนำพวกเราไปชมโขดหินที่ท่านเคยใช้นั่งกรรมฐานที่นั่น และท่านบอกว่าชอบตรงนี้ ตรงโขดหินนี้ พอคณะเราเดินทางไปถึง สิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นก็ปรากฏแก่สายตาพวกเราอีกแล้ว พระครูบาเจ้าท่านชี้ไปที่ท้องฟ้า แค่เห็นก็รู้แน่ๆว่า คล้ายกับองค์พระแม่กวนอิมเป็นที่สุดถามพระครูบาเจ้าท่านก็ยิ้มและตอบว่าใช่ ท่านยังชี้ไปที่ก้อนเมฆให้ดูเลย คุณอุทัยถ่ายรูปไว้ทัน นำมาชมกันให้เป็นบุญตา สาธุ ไปที่ไหนๆ บารมีท่านพระครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้า เกือบจะทุกครั้งที่มีเรื่องเหลือเชื่อปรากฏให้ประจักษ์แก่สายตาเสมอ

 

กราบอนุโมทนา สาธุ ค่ะ ^_^

 

ภาพพระครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้า ท่านกำลังชี้ก่อนเมฆรูปร่างคล้ายองค์พระโพธิสัตว์กวนอิม

 

ส่วนภาพนี้ก้อนเมฆเริ่มคลายตัวแล้วค่ะ ปรากฏไม่กี่วินาที

 

ตอนค่ำ เจนไปนั่งหน้าศาลา อยู่คนเดียว ปลีกวิเวก เฉกเช่นทุกครั้ง ไปถึงศาลาปิด เลยได้นั่งสมาธิ แล้วสวดมนต์คาถาพระมหาจักรพรรดิ ของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ในใจ สวดอยู่หลายจบตามกำลังวัน พร้อมทั้งเสกพระเข้าตัว ที่ขึ้นต้นด้วย สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆา บทนี้แหล่ะค่ะ ยังไม่ทันจบ ได้ยินเสียงก๊อกแก๊กตรงประตู ลืมตาขึ้นเห็นคุณยายเปิดประตูศาลา เจนก็เลยเข้าไปข้างในคนเดียวและคนแรกเลยนะ ขอคุยโวซะหน่อย ตามเคยฮ่ะ! พอเข้าไปโอ้โห เห็นภาพหลวงปู่ดู่ รูปเบ้อเริ่มเลย เจนก็ขนลุกนะตอนนั้น ตอนนั้นที่สวดยังไม่รู้ว่าที่นี่มีรูปหลวงปู่ดู่ด้วยนะ จริงๆ แล้ว เจนเพิ่งเริ่มสวดบทพระมหาจักพรรดิได้ไม่ถึงสองอาทิตย์เลย เห็นว่าดี ก็เลยสวดบ้าง แล้วก็ดีจริงๆ สวดแล้วมีพลัง ขลัง ๆ ยังไงก็ไม่รู้

เห็นภาพหลวงปู่แล้วก้มกราบ เพิ่งมารู้ทีหลังว่าหลวงตาม้า ที่ท่านอยู่สายหลวงปู่ดู่ ท่านมาพิสูจน์ว่าเป็นรอยเท้าของพระพุทธเจ้าองค์ที่ 2 บนเขาตายายนี่แหล่ะค่ะ พระพุทธเจ้านาม โกนาคมนะ บนเขามีเจดีย์สร้างครอบองค์พระธาตุอยู่ด้วย พระครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้าท่านยืนยันด้วยอีกองค์ด้วยว่าใช่ ท่านพาพวกเราไปสวดมนต์และทำสมาธิในวันรุ่งขึ้น ครูบาเจ้าท่านบอกว่าที่เรามากราบรอยเท้าพระพุทธเจ้านี่ ให้กราบเพราะอะไร_________จุด จุด จุด จำไม่ได้ค่ะ แล้วจะกราบเรียนถามมาให้ค่ะ เพราะตอนนั้นหอบอยู่ฮ่ะ

 

ย้อนกลับไปที่ศาลาตอนค่ำอีกครั้ง วันนั้นพระครูบาเจ้าท่านนำสวดมนต์ ทำวัตรเย็นและนั่งสมาธิ พระครูบาเจ้าเคยบอกหลายครั้งค่ะว่า การที่จะได้ร่วมสวดมนต์ทำสมาธิกับท่านนั้น มีไม่บ่อยนะ ตัวเองนั้นถือว่าเป็นบุญเหลือเกิน เพราะมีโอกาสนั่งสมาธิ ร่วมกับพระครูบาเจ้าท่านบ่อยครั้ง คุยโวอีกแล้ว ถูกต้องแล้วคร้าบบบท่าน ดีใจฮ่ะ ดีใจ เกิน 5 ครั้ง ขอบอก วันนั้นนึกว่าจะมีแค่พวกเรา ที่ไหนได้พวกลูกศิษย์แห่มาจากไหนไม่รู้ คะเนด้วยสายตา น่าจะประมาณ 40-50 คนได้ เขาตายายไม่ได้ขึ้นง่ายๆ นะค่ะ ขออนุโมทนากับทุกคนด้วยที่ตั้งใจไปกราบพระครูบาเจ้าแล้วเลยโชคดีได้ไหว้พระ สวดมนต์ นั่งสมาธิ ร่วมกันอีก


จากนั้นมีช๊อตเด็ด คือการแสดงธรรมเทศนาของพระครูบาเจ้าค่ะ ตื่นเต้น เพราะน้อยครั้งที่ท่านจะแสดงอย่างเป็นทางการ ครั้งนี้ก็ทางการน้อยๆ ส่วนที่ไม่เป็นทางการนั้น ถ้าได้มีโอกาสติดตามท่านนั้น ท่านสอนเสมอ เป็นระยะระยะ จำได้ก็ดี จำไม่ได้ก็เกาหัวแก๊ก แก๊ก เหมือนดั่งอิฉันฮ่ะ จำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง จึงต้องมีสมุดหรือกระดาษ และก็ปากกาติดไปด้วย วันนั้นมิได้เตรียมตัว กระดาษเอาหนังสือที่ตาแจกนี่แหล่ะ ปากกานั้นได้จากโยมแม่อาจารย์เจริญ แฟนพันธ์แท้ของพระครูบาเจ้าจากเมืองคงที่มาด้วยกัน

 

พระครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้าท่านเริ่มเทศน์ไปสักพักหนึ่ง ท่านหยุดนิดนึง แล้วหันมาทางพี่ญาติโยม ท่านหนึ่งว่า “ อัดเสียงหรือ” พี่คนนั้นไม่ได้ขออนุญาตก่อน นี่ท่านเมตตาบอกด้วยวาจานะค่ะ บางครั้งถึงแม้ท่านไม่ได้พูดออกมา และถ้าท่านไม่อนุญาตละก้อ อัดย่างไรก็ไม่ติดหรอกค่ะ การจะทำอะไรที่เกี่ยวข้องกับพระสุปฏิปัณโณ เฉกเช่นพระครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้านั้น ควรจะรู้ว่าอะไรควรทำและไม่ควรทำ ถ้าจะทำให้ขออนุญาตท่านก่อนนะค่ะ และที่สำคัญคือต้องสำรวมทั้งกาย วาจา และใจด้วยจะดีเป็นที่สุด บางครั้งก็เคยมีคนอัดไว้ที่ไม่ได้ขออนุญาต

มันมีอะไรที่ประกอบกันหลายๆ อย่าง อาทิเช่น ถ้าเป็นคนดี มีศีลธรรม นอบน้อม เคารพ สวดมนต์ ทำสมาธิ สำรวม ระวัง ตั้งใจปฏิบัติดีปฏิบัติชอบถึงไม่ได้ทางธรรมสักเท่าไหร่ ทางโลกนั้นก็อย่าให้ความดีหดหายไป สร้างแต่กรรมดีละกรรมชั่ว ทำบุญ ทำทาน ถือศีล กินเจบ้าง ถ้าเป็นอย่างนี้แล้วละก้อ ท่านพระครูบาเจ้าท่านคงจะเมตตาให้อย่างแน่นนอนค่ะ เห็นวันรุ่งขึ้นที่พระครูบาเจ้าท่านไปแสดงธรรม ที่เดอะมอลล์โคราช นั้น พี่ไปขอขมาท่านแล้ว ดีใจด้วยค่ะ สาธุ

 

ธรรมเทศนาบนเขาตายายของพระครูบ้าเจ้าหน่อแก้วฟ้า เท่าที่จำได้และจดทันนะค่ะ

* สิ่งที่เราเห็นไม่ใช่สิ่งที่เราเห็น สิ่งที่เรารู้ไม่ใช่สิ่งที่เรารู้ ต้องชนะใจตัวเองให้ได้ ยิ่งทุกวันนี้บ้านเมืองเดือดร้อน ให้ชนะใจตัวเอง แล้วบ้านเมืองจะสงบร่มเย็น

* พระแต่ละรูปบารมีไม่เหมือนกัน บางองค์มี บางองค์ไม่มี บางองค์ดูเหมือนจะมี ถ้าจิตโยมสัมผัสได้ จะรู้เอง อย่าให้ติดกายรูปลักษณ์ภายนอก อย่าได้เปรียบเทียบองค์นั้นดี องค์นี้ไม่ดี ถ้าทำไม่ได้หมายถึงแค่ธรรมะเบื้อง ต้นก็สอบไม่ผ่านแล้ว ให้หยิบยกข้อธรรมะของท่านมาประพฤติปฏิบัติ เป็นประโยชน์ ให้พิจารณาว่าครูอาจารย์ สอนอะไร เพื่ออะไร สอนเพื่อให้หลุดพ้นไหม หรือสอนให้ดึงเงินออกจากกระเป๋า

* ภิกษุ หมายถึงผู้ขอ ผู้ขอในที่นี้หมายถึง ขอให้ญาติโยมทั้งหลายละชั่ว ทำดี ทำจิตเป็นอริยะผ่องใส

* พระสงฆ์ในระดับกลางๆ บอกบุญได้ ถ้าบอกบุญในระดับกลางๆ ได้นั้นเป็นการปฏิบัติที่ถูกต้อง แต่ถ้าญาติโยม คนไหนปวารณาตัวเองที่จะให้เองถามท่านว่าต้องการอะไร ภิกษุก็จะบอกให้ เราต้องปฏิบัติและรู้เท่าทัน

* ภิกษุสงฆ์ หมายถึงพระสงฆ์ทั่วไป
สมมุตติสงฆ์ หมายถึง จิตใจที่เป็นสงฆ์
อริยะสงฆ์ หมายถึงสงฆ์ที่หลุดพ้นแล้ว พิสูจน์ด้วยจิต ถึงที่สุดโดยไม่มักมากในลาภสัก
การะ

พระครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้าท่านพูดว่า “ ครูบาเป็นผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ครูบาเป็นพระสงฆ์ สงฆ์ของพระพุทธ องค์ ปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้น ให้มองคุณวิเศษในองค์ครูบา อดีตเป็นใครนั้นปล่อยให้เป็นอดีตไป “

* ทุกๆ คน มีเทพเทวดาประจำตัว เทวดาจะเป็นผู้เลือกครูบาอาจารย์ให้เรา บางคนเปรียบเทียบพระองค์นั้น องค์ นี้ ครูบาไม่เคยขอให้ใครมานับถือครูบา ให้พิจารณากันเอาเอง

* พุทธะ คือผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
รู้อะไร ให้รู้ในปัจจุบัน
ตื่น ตื่นจากอะไร ตื่นจากอวิชชาความโง่เขลา
เบิกบานคืออะไร เบิกบานคือจิตไม่ยึดมั่น ถือมั่น ให้หลุดพ้น

จบธรรมะเทศนาของพระครูบาเจ้า ในวันนั้นค่ะ จริงๆ แล้วรายละเอียดปลีกย่อยที่ท่านครูบาเจ้าเทศน์ขยายความมากกว่านี้ ประทับใจและได้รู้ในธรรมะของพระพุทธเจ้าได้ลึกซึ้งขึ้นอีกระดับ เพราะท่านพระครูบาเจ้าเมตตาเทศน์ให้ฟัง สาธุ สาธุ สาธุ กราบพระครูบาเจ้าค่ะ

 

หลังจากนั้นพระครูบาเจ้าได้เวลาแจกวัตถุมงคล ให้ส.ว (สูงวัย) และไม่ ส.ว ทั้งหลาย ได้นำไปเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ และตั้งใจทำความดีทั้งปวง และญาติโยมก็ได้ร่วมถวายปัจจัยด้วย มีอยู่คนหนึ่งได้กราบเรียนถามพระครูบาเจ้าว่า ท่านครูบาจำชื่อโยม ไม่ได้หรือเจ้าค่ะ โยมเคยถวายปัจจัยมากนะ 2-3 พัน (ตรงนี้ไม่แน่ใจจำนวนค่ะ) ท่านพระครูบาเจ้ามองหน้าผู้ถามท่านนี้ แล้วพูดว่า “ โยม ครูบามีลูกศิษย์เป็นหมื่นคน จะให้จำทุกคนนั้นคงไม่ได้หรอกนะ “ และพระครูบาก็เมตตาให้ของท่านผู้นี้ไปด้วย


ความเห็นของเจนคือมันสำคัญด้วยหรือที่ครูบาต้องจำให้ได้ว่าใครถวายปัจจัยให้มากถึงจะจำชื่อได้ ใครถวายน้อยไม่จำอย่างนั้นหรือ ทำไมบางคนถวายปัจจัยบ้าง บางครั้งไม่ถวายเพราะไม่มี แถมท่านยังให้อีกด้วย เจนนี่ไง ทำไมครูบาท่านยังเมตตาจำชื่อได้ อย่างเช่นการไปติดตามท่านพระครูบาครั้งล่าสุดที่โคราชและชัยภูมินี้ พระครูบาเจ้าท่านเมตตาเติมน้ำมันรถให้ตลอดทางเลย หลายพันบาทที่เดียว ต้องกราบขอบพระคุณพระครูบาเจ้าอย่างที่สุด หาไม่ได้อีกแล้วที่ท่านเมตตาอย่างนี้ บางคนถวายเป็นหมื่น เป็นแสน เค้ายังไม่เห็นเรียกร้องให้พระครูบาทำอะไร หรือให้จำอะไรเลย เพราะถือว่าการทำบุญกับพระอริยะสงฆ์ พระสุปฏิปัณโณ เฉกเช่นพระครูบาเจ้านี้ หายากมาก และได้บุญมาก ได้อานิสงส์มาก





พระสงฆ์ในประเทศไทยมีสองสามแสนรูป ให้ไปหากราบไหว้กันเอาเอง ตรงนี้จำได้ว่าพระครูบาท่านเคยพูดไว้ ถ้าโชคดีก็เจอพระอริยะที่หลุดพ้นและคอยชี้แนวทางสว่างดำเนินชีวิตให้ พระครูบาเจ้าท่านพูดไว้หลายครั้ง ย้ำเสมอว่า การได้ติดตามครูบา หรือมาในงานที่ครูบาจัดขึ้น อย่างเช่นกฐิน ผ้าป่า นิโรธกรรม หรืองานอื่นๆ ที่ครูบาเจ้าท่านเป็นประธาน หรือร่วมทำบุญแล้วแต่โอกาสจะอำนวยนั้น กรรมหนักจะได้เบา กรรมเบาจะได้หมด หรือกรรมตามไม่ทัน ให้เร่งทำบุญ ฉะนั้นอย่าหวังเพียงแต่แค่ให้ท่านพระครูบาเจ้าท่านจำชื่อให้ได้หมดทุกคนเลย หลายหมื่นคนเลยลูกศิษย์ ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงๆ เจนจะติดต่อกินเนสบุ๊คเรคคอร์ด (Guinness Book World Record) ให้มาทำสารคดีพระครูบาเจ้าให้เอง แค่พี่ทำบุญก็ได้บุญแล้วค่ะพี่ ขออนุโมทนากับพี่นะค่ะที่ร่วมทำบุญกับครูบาเจ้า

 

อีกเรื่องที่ครูบาเจ้าท่านพูดค่ำวันนั้นคือ ปกติครูบาเจ้าท่านจะเมตตาแจกวัตถุมงคลต่างๆ มีทั้ง สร้อยคอ สร้อยข้อมือ แหวน สายสิญจน์ ประคำ รูปภาพ และอื่นๆ อีกมากมาย จะสังเกตทุกครั้งที่ครูบาเจ้าท่านไปโปรดญาติโยม ทุกคนจะได้สิ่งหนึ่งสิ่งใดกลับไปเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ แจกให้ฟรีๆ แต่ของที่ทุกท่านได้ไปนั้น ส่วนใหญ่จะนำเข้านิโรธกรรมหลายครั้งที่ผ่านมา ถ้าไม่อย่างนั้นครูบาเจ้าท่านได้อธิษฐานจิตให้แล้ว ดังนั้นวัตถุมงคลทุกชิ้นถึงแม้จะชิ้นใหญ่ชิ้นเล็ก ก็มีค่าหาประมาณมิได้เหมือนๆ กัน ครูบาท่านเมตตาบอกว่า ทุกคนอาจจะได้ของไม่เหมือนกันนะ บางคนถวายปัจจัยมากไม่ใช่ว่าจะได้ของชิ้นใหญ่ บางคนถวายน้อยแต่ได้ของใหญ่กว่า อย่าคิดเปรียบเทียบกัน เพราะทุกคนได้รับแน่นอนขึ้นอยู่กับความเมตตาของครูบาเจ้าท่านจะเมตตาให้อะไรกับใคร ขอให้โปรดอย่าน้อยใจ อย่าเสียใจ ที่ได้ก็ถือว่าเป็นบุญของทุกคนแล้ว (ตรงนี้เจนเขียนเองค่ะ)


งานนี้เจนและหลายคนได้แหวนพระพิฆเณศ ที่ท่านครูบาเจ้าท่านนำเข้านิโรธครั้งที่ 5 และ 6 ท่านครูบาเจ้าเมตตาบอกว่า ถึงแหวนจะไม่สวยแต่ดีมาก เพราะนำเข้านิโรธกรรมครั้งที่ 5 และ 6 ท่านครูบาพูดว่า มั่นหรือหมั้นไว้ก่อน หมายถึงที่ทุกคนได้แหวนพระพิฆเณศไป ครูบาขอหมั้นไว้ก่อน ครูบาท่านขยายความต่อว่า ให้มั่นคง ไม่คลอนแคลน ต่อพระรัตนตรัย ครูบาเจ้าท่านมักจะอารมณ์ดีและทำให้พวกเรายิ้มได้เสมอ งานเทศน์ที่เดอะมอลล์โคราชนั้น ตอนท่านเทศน์เจนหัวเราะอยู่หลายตอน ตลกแต่เป็นธรรมะทั้งนั้นเลย แล้วเจนจะเขียนเรื่องอีกค่ะ

 

สวดมนต์นั่งสมาธิบริเวณรอยพระบาทพระพุทธเจ้าโกนาคมนะ





สวดมนต์นั่งสมาธิบริเวณรอยพระบาทพระพุทธเจ้าโกนาคมนะ

เช้าวันรุ่งขึ้น ครูบานัดหมายว่าตีสี่ครึ่งเราจะไปสวดมนต์นั่งสมาธิ บนเขาที่มีรอยพระบาทพระพุทธเจ้าโกนาคมนะกัน ตื่นเช้าพระครูบาเลื่อนเป็น 6 โมง เจนเห็นว่ามีเวลาว่าง ก็เลยไปนั่งสวดมนต์ในศาลาคนเดียว ดูนาฬิกาอีก 5 นาที 6 โมง พอไปที่ลานรวมพล อุแม่เจ้า คนหายหมด เจนวิ่งถามทางเลิกลั่กว่า ไปทางไหนค่ะ พระเจดีย์ที่มีรอยพระบาท เจอคุณยายบอกไปทางนี้ เจนวิ่งจู๊ด ใน 1 นามีแรก นาทีหลังจากนั้นก็ขอเดินฮ่ะ และหลังจากนั้นอีกนาทีเกือบจะคลานไปทีเดียว ช่างแข็งแรงจริง ๆ เรา ไม่มีอะไรมาขวางทางบุญของเจนได้หรอก เขาที่ขึ้นยังไม่ชันเท่าไปกราบครูบาเจ้าบุญชุ่มเลย

 

ตอนเดินขึ้นไปมีจิตตกนิดหน่อย มีงอนหมู่คณะด้วยนะ ทำมายยย ไม่รอเรา หรือเรียกเราสักนิด เราหายไปหนึ่งคนนี้ จำไม่ได้เหรอ เราก็ตัวไม่เล็กนะ น้องๆ ช้างได้ ทำไมไม่มีใครมาเรียก ยอมรับว่าจิตตก เดินไปบ่นไป ครูบาเจ้าท่านคงได้ยิน ท่านมีพูดทีหลังงานอื่น วันนั้นท่านเทศน์ด้วยเล็กน้อย แต่ดีมากเลย เพราะว่าเหมือนงานใหญ่ ๆ ที่เทศน์เลย คือท่านจะไม่ค่อยเหมือนท่านสักเท่าไหร่ แววตา สีหน้า ท่าทางนั้น เจนขออนุญาตใช้ความเห็นของตนเองว่า คงเป็นพ่อแม่ครูบาอาจารย์องค์ใดองค์หนึ่งมาเทศน์เรา ใจเจนคิดว่าเป็นครูบาศรีวิชัย คิดแล้วก็ขนลุก สังเกตตอนที่ท่านเทศน์ท่านจะพูดช้า ส่วนใหญ่หลับตาเทศน์ และจะเปิดเปลือกตาขึ้นมามองบ้างแต่ก็น้อยครั้ง แล้วหลับตาลงไปแล้วเทศน์ต่อ เป็นอย่างนี้จนเทศน์จบ

 

เจดีย์ครอบรอยพระพุทธบาทพระพุทธเจ้าโกนาคมานะ

เจดีย์ครอบรอยพระพุทธบาทพระพุทธเจ้าโกนาคมานะ

 

รอยพระบาทพระพุทธเจ้าโกนาคมนะ

รอยพระบาทพระพุทธเจ้าโกนาคมนะ

 

ท่านเมตตาเทศน์ให้พวกเราที่มีจำนวนเบาบางลงไปมากนั้น เป็นกลุ่มผู้มีวาสนาอย่างแท้จริง (คุยอีกแล้ว) ครูบาเจ้าท่านยังพูดเลยว่าคนมาน้อยนะเช้านี้ เจนคิดว่าพวกเรานี่มีวาสนานะ เพราะว่าเราได้นั่งสวดมนต์ ทำสมาธิ พร้อมพระครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้า พร้อมกับมีรอยพระบาทของพระพุทธเจ้าโกนาคมนะ อยู่ตรงหน้าเราไม่เกิน 10 เมตรได้ หรือคุณคิดว่าอย่างไร โอกาสอย่างนี้หาไม่ได้มาก แต่ก็ได้มาแล้ว ดีใจจริง ๆ เรามันคนมีบุญ มีวาสนา เอิ๊ก เอิ๊ก (deejai)

 

ภาพนี้เป็นบริเวณที่พระครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้าชอบที่จะนั่งปฎิบัติตรงบริเวณโขดหินนี้แหล่ะค่ะ

 

ภาพถ่านตอนกลางคืน ขณะท่านพระครูบาเจ้านั่งสมาธิ หายากมากรูปนี้ ต้องยกเครดิตให้คุณอุทัยค่ะ ที่ได้ถ่ายเก็บไว้และที่สำคัญถ่ายติดด้วย

 

ขอเชิญทำบุญยกยอดพระมหาธาตุเจดีย์คงคนครพิทักษ์ (หลวงปู่คง)

ขอเชิญทำบุญยกยอดพระมหาธาตุเจดีย์คงคนครพิทักษ์ (หลวงปู่คง) พระครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้าท่านจะไปร่วมในพิธีค่ะ

ขอเชิญบำเพ็ญบุญกุศล ยกยอดพระมหาธาตุเจดีย์คงคนครพิทักษ์ บรรจุวัตถุมงคลรุ่นประวัติศาสตร์ พระพุทธชินเมตตาบารมี พระกริ่งชนะมารพุทธเมตตาบารมี และอัญเชิญสรีระพระครูคงคนครพิทักษ์ (หลวงปู่คง ฐิติปญโญ ป.ธ.4) ขึ้นประดิษฐานในเจดีย์

 

ในวันศุกร์ที่ 4 มิถุนายน 2553 ตรงกับวันธงไชย แรม 7 ค่ำ เดือน 7 (วันประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษก - ปลุกเสกวัตถุมงคล)

วันที่ 5 มิถุนายน 2553 วันประกอบพิธีตอกหมุดยอดพระมหาธาตุเจดีย์

วันที่ 6 มิถุนายน 2553 ประกอบพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ วัตถุมงคล ยกยอดพระมหาธาตุเจดีย์