หลวงพ่อสายทอง...แก้วชิงดวงยันต์หนุนดวงที่หลายคนยังไม่รู้ รอยจารหลังน9

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย pun-pun, 4 กุมภาพันธ์ 2010.

  1. คุณ พรีช

    คุณ พรีช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    127
    ค่าพลัง:
    +494

    ทั้งเหรียญเเละกริ่ง วัดสร้างเอง หล่อเอง ครับ
     
  2. คุณ พรีช

    คุณ พรีช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    127
    ค่าพลัง:
    +494

    ก็หลักๆๆคงเป็น เมตตา หนุนดวงเเหละครับ
     
  3. หนึ่ง1

    หนึ่ง1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,639
    วัดสร้างเอง คราวที่แล้วผมพลาดได้ไง ต้องไปใหม่ถึงจะเจอด่านลูกศิษย์ก็ไม่เป็นไร..ยึดที่ตัวหลวงพ่อพอ
     
  4. คุณ พรีช

    คุณ พรีช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    127
    ค่าพลัง:
    +494

    5555 รีบๆๆๆไปละครับ ได้ข่าวว่า พระกริ่งกับเหรียญหล่อ มีศูนย์พระมาทาบทามขอเหมาหมดเลย ร่วม3000กว่าองค์ ไปช้าอดได้ของ ต้องไปเสียเงินเพิ่ม ให้กับศูนย์นะคร๊าฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ
     
  5. กำธร นครปฐม

    กำธร นครปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,756
    ค่าพลัง:
    +7,205
    ถ้ารักหลวงพ่อไม่ต้องสนใจครับว่าใครจะพูดอะไร ผมเองก็ไปถี่ ๆ ครับพักนี้ พอดีวันนี้เจอพี่คนนึงเขาบูชาตะกรุดมหาปราบดอกใหญ่ ก็เลยถ่ายรูปมาให้สมาชิกได้ชมกันครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. puedpunon

    puedpunon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    7,130
    ค่าพลัง:
    +16,093
    ขอเล่าประสบการณ์หน่อยครับ ผมได้บูชาตะกรุดมหาระงับมา๑ดอก

    มาทำแท่นตั้งไว้ที่หน่วยงาน ตั้งแต่เอามาตั้ง(ไม่ค่อยได้บูชาด้วย)ปีที่แล้ว

    ไม่เกิดอุบัติเหตุเลย(อุบัติเหตุเป็นศูนย์) ตอนนี้ก็ผ่านมาจะครึ่งปีแล้วก็ยังไม่เกิด

    ปกติแล้วจะมีปีละเครสสองเครส แต่นี้ไม่มีเลย ได้รับรางวัลกันถ้วนหน้า

    น่าจะมาจากพุทธคุณของตะกรุดมหาระงับที่ระงับเรื่องร้ายๆแล้วอุบัติเหตุทั้งปวง

    ให้พ้นไป สาธุ
     
  7. คุณ พรีช

    คุณ พรีช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    127
    ค่าพลัง:
    +494

    เอ้....มหาระงับเเผ่นนี้ คุ้นๆๆนะครับ หลวงพ่อท่านทำเเช่น้ำมนต์ไว้เเผ่นเดียวนิ ผมขอยังไม่ได้เลย ท่านหวงมากๆๆๆๆๆๆๆ ใครได้ไปโชคดีมาก
     
  8. theeravut-ta

    theeravut-ta Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +62
    หลวงพ่อบวชปีไหนครับ
     
  9. คุณ พรีช

    คุณ พรีช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    127
    ค่าพลัง:
    +494
    ท่านบวชปี 2525 ก่อนที่ท่านจะบวช ท่านเป็นมือจารตะกรุดของหลวงพ่อจุลมาก่อน เเล้วท่านก็ได้ติดตามญาติไปทำไร้ฝ้าย ที่อ.ตาคลี เเต่ท่านเเพ้ยาฉีดฝ้าย ท่านจึงบนว่าถ้าหายจะบวช1พรรษา เเล้วท่านก็หายจากอาการเเพ้ยาฝ้ายจริงๆ ท่านมาบวชที่วัดของหลวงพ่อจุล คือวัดพรหมนิวาส วัดของอาจารย์ท่าน เเล้วท่านก็บวชเลื่อยมาจนปัจจุบัน

    หลวงพ่อสายทอง ก่อนที่ท่านจะบวช ท่านเคยไปนมัสการหลวงพ่อเทียมอยู่หลายครั้ง ก็พอได้วิชามาอยู่บ้าง

    หลวงพ่อจุล ศิษย์เอกของหลวงพ่อเทียม ตัวจริง เสียงจริง เป็นอีก1อาจารย์องค์สำคัญของหลวงพ่อสายทอง

    หลวงพ่อโบ วัดโคก เจ้าตำรับน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ สอนการทำน้ำมนต์ชนิดต่างๆให้หลวงพ่อสายทอง โดดเด่นคือน้ำมนต์สะเดาะเคราะห์

    หลวงปู่สี วัดสะเเก สอนวิธีการสร้างวัตถุมงคล เครื่องรางของขลังต่างๆเช่น การสร้างพระพรหม สร้างเเพะมหาเสน่ห์ ให้หลวงพ่อสายทอง



    เมื่อ2-3 ปีก่อน มีงานพุทธาพิเศกที่วัดพรหมนิวาส ในงาน หลวงปู่คำบุ วัดกุดชุมพู ก็มาด้วย หลังจากเสร็จพิธี หลวงปู่คำบุ เเละหลวงพ่อสายทอง ท่านได้มีการเเลกเปลี่ยนวิชากัน โดยหลวงปู่คำบุ มอบวิชาจารเเผ่นหลัง ให้หลวงพ่อสายทอง ส่วนหลวงพ่อสายทอง มอบวิชาการทำตะกรุดมหาระงับให้หลวงปู่คำบุ



    วิธีการปลุกเสกตะกรุดมหาระงับของหลวงพ่อสายทอง

    เเรกเริ่มท่านจะ ลงสูตร ทวนให้ครบอักขระ ที่ลงในเเผ่นตะกั่ว ทวนทุกตัว
    เเล้วก็ เดินธาตุ หนุนธาตุ
    ลงอาการ 32
    สวดบูชาพระรัตนตรัย
    ต่อมา ท่านได้เชิญบารมีเเห่งพระรัตนตรัยเเละสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทพเทวา โดยเฉพาะ พระยายมราช ครูบาอาจารย์ เป็นสำคัญ
    เเละ บทอิติปิโส เดินหน้า -ถอยหลัง
    เเล้วจึงเสกด้วย บทบูชาเทวดา วันต่างๆๆๆ ตามกำลัง
    เเล้วต่อด้วย เเล้วสวดเสกด้วยมนต์มหาระงับ เเละคาถาบทต่างๆ ตามสมควร เช่นจินดามณี เมตตาใหญ่ ฯลฯ
    เเล้วท่านก็เพ่งกระเเสจิตสักครู่
    ยัดวิชา
    สำทับด้วย บท บังสุกุลตาย - เป็น
    เเล้วก็ เบิกเนตร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤษภาคม 2010
  10. hellotawan

    hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,156
    ค่าพลัง:
    +5,233
    อนุโมทนาครับ ถือว่าท่านมีความละเอียดมากทีเดียว
     
  11. กำธร นครปฐม

    กำธร นครปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,756
    ค่าพลัง:
    +7,205
    ขอบคุณ คุณ พรีช มากนะครับ วั้นนี้นำภาพมาให้ชมกันครับ ไปกราบหลวงพ่อมาในวันนี้ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. kiati_sak

    kiati_sak เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    7,379
    ค่าพลัง:
    +13,255
    สุดยอดครับ เจ็บมากไหมครับ
     
  13. kiati_sak

    kiati_sak เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    7,379
    ค่าพลัง:
    +13,255
    สวัสดีครับคุณพรีช เป็นกำลังใจให้ครับ ผมว่าแล้ว ผมอ่านมาหมดแล้วที่คุณพรีชพูดถึงทุกกระทู้เลย สงสัยตะหงิดๆในใจอยู่เหมือนกัน ยังนึกเลยว่าเขาต้องหมายถึงหลวงพ่อสายทองแน่ๆ แต่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางเท่านั้น จนมาอ่านของคุณพรีชนี่แหละครับ ยังไงผมก็ยังรักเคารพนับถือหลวงพ่อสายทองอยู่ครับ ถึงว่าทำไมเขาถึงขี้คุยน่าดู
     
  14. โจ้มารวิชัย

    โจ้มารวิชัย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +48
    ขออนุญาตร่วมแสดงความคิดเห็นด้วยคนนะครับ จิตเป็นกุศล ไม่โกรธกันนะครับ (อิ อิ ยืมพี่โน้ตอุดมกะพี่ตุ้ยเอ็กซ์เรย์มาพูด) ก่อนอื่นต้องบอกว่าไม่รู้จักทั้งคุณพรีซและคุณอีกคนนั้นเป็นการส่วนตัวครับ ไม่ค่อยได้โพสต์อะไรด้วยครับ ด้วยว่ารู้น้อย ด้อยปัญญา เลยอาศัยอ่านหาความรู้เอาจากพี่ๆ ดีกว่าจะได้ความรู้มากขึ้น รวมถึงกะทู้หลวงพ่อสายทองกะทู้นี้ด้วยครับและกะทู้นี้เองก็เป็นแรงบันดาลใจให้ผมดั้นดนไปกราบหลวงพ่อสายทองเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งต้องยอมรับครับว่าไปอยุธยาทีไร ไปถึงแค่วัดศาลาปูนไม่เคยเลยไปจนถึงหลวงพ่อสายทองเสียที และด้วยอุปนิสัยของเราคือหากจะนับถือกราบไหว้พระรูปใด เราต้องเข้าไปศึกษาพบปะตัวตนของท่านเสียก่อนจึงเลือกเอา ว่าจะเข้าหาหรือนับถือหรือไม่ ซึ่งได้มีโอกาสไปกราบและนั่งคุยพร้อมทั้งนั่งดูรอบๆ อะไรต่างๆ เกือบทั้งวัน จึงได้คำตอบว่าหลวงพ่อท่านเป็นอีกรูปหนึ่งที่น่านับถือเคารพ กราบไหว้ในสมณเพศครับ หลวงพ่อท่านไม่ได้พูดเรื่องวัตถุมงคลของขลังอย่างเดียว หากแต่เราพูดถึงเรื่องธรรมะ ท่านก็สามารถตอบโต้แนะนำเรื่องธรรมะด้วยเช่นกัน อีกหนึ่งพฤติกรรมที่ผมเห็นก็คือ ท่านไม่ยกตนข่มท่าน ไม่โอ้อวด อย่างเช่นตอนที่ลูกศิษย์ท่านพูดว่าหลวงปู่คำบุมาเรียนวิชาตะกรุดมหาระงับจากหลวงพ่อสายทอง พูดบ่อยมากกกก แต่หลวงพ่อท่านนิ่งเฉยมิได้ สนับสนุนหรือยินดี ยินร้าย เพียงแต่บอกว่าพ่อใหญ่ (ท่านเรียกหลวงปู่คำบุว่า พ่อใหญ่คำบุ) เคยเจอกัน และตลอดเวลาที่คุยกับท่านๆ ไม่ได้พูดเลยว่าท่านจารหลังได้ เราไม่พูดท่านก็ไม่พูด เราถามเรื่องใดท่านก็ตอบเรื่องนั้น เอาเป็นว่าผมอาจโชคดีเจอแบบนั้นก็ได้มั้งครับ แต่เท่าที่ไปเจอ 2-3 ครั้งก็เหมือนเดิมครับ ไม่มีเปลี่ยนแปลง อยากให้ลองไปกราบดูละกันครับ

    มาเข้าเรื่องที่อยากแสดงความคิดเห็นกันดีกว่าครับ เนื่องจากเรื่องที่คุณพรีซเขียนระบายมานั้น ผมก็ไม่รู้ที่มาที่ไปอย่างไร คงต้องวางตัวเป็นกลาง แต่อยากจะเพิ่มเติมข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องที่ว่า "รูปสูญ นามสูญ" สักหน่อยครับ ไอ้ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ารูปสูญ นามสูญนั้นเป็นอย่างไร แต่เคยไปกราบหลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม ท่านเคยพูดเสมอๆว่า "พระของท่านแม้เหลือเพียงแค่เม็ดข่้าวสารพุทธคุณก็เท่าเดิม"! ผมเลยเชื่อตามที่หลวงพ่อเอียด บอกครับ

    อีกประเด็นหนึ่งที่อ่านเจอแล้วน่าสนใจก็คือเรื่องจารตะกรุดเสร็จแล้วส่งให้ไม่ขลังต้องตั้งเครื่องบวงสรวงอะไรนั่น ตอบตามที่เห็นมานะครับ ผมว่าการตั้งเครื่องบวงสรวงก็น่าจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้การทำตะกรุดหรือการทำของมีพลานุภาพเข้มขลังขึ้นกว่าปกติ แต่ถ้าจะบอกว่าไม่ตั้งเครื่องบวงสรวงแล้วจารตะกรุดจะใช้ไม่ได้นั้นข้อนี้ไม่เห็นด้วยครับ เท่าที่เดยสัมผัสพระเกจิมาเคยเห็นแต่ว่าท่านจารเสร็จต้องนำมาบริกรรมคาถากำกับ จะเร็ว จะช้า จะกี่นาที หรือกี่ชั่วโมงก็แล้วแต่หลวงพ่อท่าน แต่ประเภทจารเสร็จปุ๊บ ม้วนส่งให้เลย เท่าที่เคยสัมผัสมายังไม่เคยเจอครับ หลวงพ่อสายทอง ก็เช่นกัน วันนั้นขอความเมตตาท่านทำตะกรุดสี่มหาอำนาจดอกพิเศษให้ ท่านก็จารให้เดี่ญวนั้นม้วนเดี่ยวนั้น ม้วนเสร็จ ยังต้องนำมาลงคาถากำกับอีกที ยกตัวอย่างอีกรูปหนึ่งก้แล้วกันนั่นก็คืออาจารย์ผม หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน ถ้านอกเหนือจากตะกรุดดอกไม้ทองที่ต้องตั้งเครื่องแล้ว เวลาขอความเมตตาให้ท่านทำตะกรุดอื่นๆ ท่านก็จารให้เดี่ยวนั้น พอจารเสร็จ ม้วนเสร็จ ท่านก็ยังต้องเสกอีกครั้งหนึ่งครับ อีกรูปหนึ่งก็คือหลวงพ่อใจ วัดพระยาญาติครับ องค์นี้จะเอากี่ดอกบอกมาจัดให้ จารเสณ็จก็ต้องเสกอีกรอบ ก็น่าจะสรุปได้ว่าเป็นเรื่องของจิตมากกว่านะครับ ถ้าตั้งเครื่องบวงสรวงถูกต้องก็น่าจะขลังขึ้น แต่ถ้ามีเวลาจำกัด หาเครื่องบวงสรวงยากแต่ถ้าจิตมั่น เจตนาดี ผมว่าน่าจะเข้มขลังไม่แพ้กัน ซึ่งสมมติฐานของผมอาจจะเป็นแบบตักน้ำใส่ตุ่มก็ได้ครับ คือไม่ว่าจะใช้วิธีใดตักน้ำ ใช้ภาชนะใดตักน้ำ แต่ผลที่ได้ก็เหมือนกันคือ "น้ำเต็มตุ่ม" นั่นเอง สรุปคือน่าจะมองที่ผลลัพธ์มากกว่าวิธีการหรือเปล่าครับ

    เรื่องการอธิษฐานจิตก็เช่นกัน เคยมีคนไปถามหลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้วว่า ทำไมบางวันหลวงพ่ออธิษฐานจิตพระนานมากๆ บางวันเป่าพ้วงเดียวก็ส่งให้ลูกศิษย์ แค่อึดใจก็ส่งกลับมาแล้ว ซึ่งหลวงพ่อเพิ่มท่านกล่าวว่า อยู่ที่สภาพร่างกาย ถ้าวันไหนสภาพร่างกายพร้อม จิตดี แป๊บเดียวก็สำเร็จ แต่ถ้าอ่อนแอ ไม่สบายจิตว่อกแว่กก็ต้องเสกนานหน่อย

    ท้ายที่สุดนี้ขอนอกเรื่องนิดนึงครับ คืออยากจะบอกว่าพระเกจิสายอยุธยานี้ท่านไม่สุกเอาเผากินครับ เท่าท่ีเคยสัมผัสมาทั้งหมด ถ้าทำได้บอกทำได้ ถ้าทำไม่ได้ก็พูดกันตรงๆ เลยว่าทำไม่ได้ ขอยกย่องจริงๆ

    ถือว่าเล่าสู่กันฟังก็แล้วกันนะครับ อย่าไปซีเรียส ขอบคุณครับ

    ปล.อาทิตย์นี้ว่าจะไปกราบหลวงพ่อสายทอง ขอความเมตตาท่านจารตะกรุดปถมังดอกครูให้ครับ
     
  15. hellotawan

    hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,156
    ค่าพลัง:
    +5,233
    ตามที่ผมพอทราบ การตั้งเครื่องบูชา คือการบวงสรวงครูบาอาจารย์ ซึ่งการทำของวัตถุมงคลก็ต้องอาศัยแรงครู แต่ครูอาจารย์ท่านก็อนุโลมถ้าไม่สะดวก แต่ของเหล่านี้ขึ้นอยู่กับจิตเป็นหลัก ทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยจิต จะเห็นจากครูบาอาจารย์หลายท่าน เวลาเสกของใช้เวลาแป๊บเดียว บางองค์แตะแล้วส่งกลับยังไม่เสก เพราะท่านเหลานั้นเข้ากรรมฐานตลอดทุกอิริยาบท อ่างหลวงพ่ออุดมนี่ท่านก้เข้าตลอดเท่าที่ร่างกายท่านอำนวย สิ่งอื่นๆ จึงเหมือนแค่กระพี้เท่านั้น แต่แก่นอยู่ที่จิตครับ ถ้าจิตไม่ละเอียด ต่อให้ตั้งเครื่องครูชุดใหญ่แค่ไหน ก็สำเร็จได้ด้วยแรงครูเท่านั้น แต่ถ้าจิตดีไม่ต้องตั้ง แค่สื่อถึงครูบาอาจารย์ท่าน จิตท่ละเอียดก็จะทำให้สำเร็จได้เช่นกัน สำเร็จทั้งแรงครู และจิตผู้เสกที่ละเอียด ของแบบนี้ขึ้นอยู่กับสายวิชา และจิตผู้เสก อย่างอื่นเป็นแค่องคืประกอบ ตราบใดที่เรายังไม่ถึงซึ่งทพจุกษุญาณ ก็ไม่สามารถทราบได้ว่าจิตครูบาอาจารย์ท่านเป็นเช่นไร และก็ไม่ทราบถึงจุดมุ่งหมายด้วย เพราะเราไม่ใช่ศิษย์สืบวิชา เคล็ดเหล่านี้เรา ท่านก็มักไม่ทราบ จะทราบกันก็เฉพาะแต่ผู้สืบวิชา สรุป คือ แต่ละสายวิชาก็มีทางดำเนินมาต่างกัน สุดท้ายจิตตัวเดียวที่สำคัญ
     
  16. คุณ พรีช

    คุณ พรีช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    127
    ค่าพลัง:
    +494


    คือว่า ไอ้คน คนเนี้ย มันเคยเป็นลูกศิษย์ที่นับถือ หลวงพ่อสายทองมาก่อน เเต่ตอนหลังมันเปลี่ยนไป เเล้วยังกลับมาเหยียบย่ำหลวงพ่ออีก

    ลองเข้าไปอ่านกระทู้ ที่มันตั่งไว้ มันตั่งชื่อกระทู้มันว่า"ฝากไว้เป็นข้อคิดครับ" ลองเข้าไปอ่านกันละกัน
     
  17. puedpunon

    puedpunon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    7,130
    ค่าพลัง:
    +16,093
    ความคิดส่วนตัวผมน่ะ...ถ้ากล่าวอ้างคำพูดครูบาอาจารย์ทุกองค์มาในที่นี้ "ตีกันตายครับ"

    เพราะอะไร? บางองค์บอกป่นได้ บางองค์บอกป่นไม่ได้ บางองค์บอกว่าป่นพระเท่ากับ

    ทำลายพระพุทธ บางองค์บอกว่าถ้าทำให้ดีกว่าเดิมก็ไม่บาป เรื่องตะกรุดก็เหมือนกัน

    บางองค์บอกว่าจารเสร็จแล้วต้องเสกซ้ำเข้าไปอีก บางองค์บอกว่าใช้ได้แล้วจะเสกเพิ่มก็

    ได้ไม่เสกก็ได้(ท่านบอกว่าทำมาดีแล้ว) แม้แต่เรียกสุตรเรียกนาม บางองค์ให้ลูกศิษย์

    จารให้ แล้วท่านไปเรียกของท่านทีหลังก็มีมาแล้ว(ท่านบอกว่าท่านทำได้ แล้วเราๆจะ

    ท่านๆเถียงหรือ?)

    เอาเป็นว่า ท่านๆนับถือองค์ใหนก็เจริญรอยตามองค์นั้น เอามาโพสเปรียบเทียบกันทีแต่

    จะทำให้เกิดความแตกแยกซะป่าวๆ เรื่องพวกนี้มันอยู่เหนือความสามารถที่จะหยั่งรู้สำหรับ

    เราๆท่านๆอีกหลายคน ท่านที่รู้ที่ศึกษามาก็แนะนำในแนวของท่านไป ยกย่องเชิดชู

    ครูบาอาจารย์ของท่านได้ไม่ผิด แต่อย่าเหยียบย่ำครูบาอาจารย์ของผู้อื่น อาจารย์ท่าน

    ท่านก็รักฉันใด ผู้อื่นก็รักครูบาอาจารย์ของเขาเหล่านั้นฉันนั้น...
     
  18. magictao

    magictao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,118
    ค่าพลัง:
    +3,523

    เห็นด้วยครับของจริงนิ่งเป็นใบ้ ของพูดได้นั้นไม่จริง ขอบคุณครับ
     
  19. theeravut-ta

    theeravut-ta Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +62
    แตกต่างแต่ไม่แตกแยกครับ ชาวพุทธทุกท่านครับ
     
  20. กำธร นครปฐม

    กำธร นครปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,756
    ค่าพลัง:
    +7,205
    มีหลวงพี่ของผมองค์นึงเคยเตือนผมว่า เวลาไปสำนัก (วัด) ไหน ก็อย่าไปกล่าวอ้างถึงอีกสำนัก(วัด) นึง ว่า สำนัก(วัด) นี้ไม่เห็นทำอย่างนี้เลย ทำไมไม่ทำอย่างสำนัก (วัด) นั้นบ้าง อะไรทำนองนี้ ทุกวันนี้ผมไปที่ไหน ผมก็จะปฏิบัติตามที่หลวงพี่ผมสอนครับ และได้ยินข่าวมาอีกว่า อาจารย์ฆราวาสสักท่าหนึ่ง ชอบคุยทับสำนักอื่นว่า ของตนแน่มีดีกว่า แล้วว่าทับถมอาจารย์สักของสำนักนั้นที่เป็นพระสงฆ์ที่ล่วงลับไปแล้ว แถมไปคุยที่เมืองนอกอีก คราวนี้พอลูกศิษย์ลูกหาของหลวงพ่อ.......รู้เข้าและเจอตัวอาจารย์สักนั้นเข้าพอดีในวันหนึ่ง ก็ถึงกับโกรธ และร้องบอกว่า "เฮ้ย ไอ้.......ได้ข่าวว่ามึงว่าอาจารย์กู มึงแน่นักใช่มั้ย มึงกับกู มีดคนละเล่ม แล้วแทงกันเลยมั้ย กูอยากจะดูว่ามึงแน่เหมือนที่คุยหรือเปล่า ไอ้สั...." ไอ้อาจารย์นั้น ได้ยินเข้าถึงกับอึ้งและเดินหนีไปเลยครับ จ๋อย งานนี้จ๋อย อย่าแตกแยกกันเลยครับ ครูบาอาจารย์แต่ละท่านก็มีดีของท่านครับ ใครนับถืออย่างไรก็แล้วแต่จิตใจของแต่ละคนดีกว่าครับ ส่วนที่ว่าใครเคยเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อองค์นั้น องค์นี้แล้วต่อมา มาโจมตีครูบาอาจารย์ของตัวเอง ก็ปล่อยครับ กรรมใครกรรมมัน ส่วนที่คุณพรีช บอกมาก็ดีนะครับ เราจะได้ฟังหลาย ๆ ด้าน เพราะที่บ้านเมืองพังพินาศ ทุกวันนี้ก็เพราะเราฟังข่าวสารด้านเดียวครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...