คำอธิษฐาน ของ อาจารย์สุชีพ ปุญญานุภาพ

ในห้อง 'บทสวดมนต์ - คาถา' ตั้งกระทู้โดย rinnn, 27 กันยายน 2006.

  1. rinnn

    rinnn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    7,666
    ค่าพลัง:
    +24,025
    <table border="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody> <tr> <td><!--Last Update : 11 มกราคม 2549 20:31:11 น.--> คำอธิษฐาน ของ อาจารย์สุชีพ ปุญญานุภาพ
    <!-- Main -->[SIZE=-1]





    [​IMG]

    ".....ผู้ใดมีความมีศรัทธาตั้งมั่นในตถาคต ผู้นั้นย่อม
    ควรที่จะกล่าวว่า เราเป็นบุตร เป็นโอรสของพระผู้มี
    พระภาค เป็นผู้เกิดจากธรรม อันธรรมสร้างเป็นธรรมทายาท (ผู้รับมรดกธรรม) ทั้งนี้ เพราะคำว่า ธัมมกาย (กายธรรม) พรหมกาย (กายพรหม) และผู้เป็นธรรม
    ผู้เป็นพรหม นี้เป็นชื่อของตถาคต


    ("พระไตรปิฎกฉบับสำหรับประชาชน",สุชีพ ปุญญานุภาพ, มหามกุฏราชวิทยาลัยฯ )



    คำอธิษฐานของอาจารย์สุชีพ

    1. ขออย่าให้ข้าพเจ้าเป็นคนคิดได้ดีไม่คิดอะไร
    อย่างลอยๆ ไม่นั่งนอนคอยแต่โชควาสนา โดยไม่
    ลงมือทำความดี หรือไม่เพียรพยายามสร้างความ
    เจริญก้าวหน้าให้แก่ตน ถ้าข้าพเจ้าจะได้ดีอะไร ก็
    ขอให้ได้เพราะได้ทำความดีอย่างสมเหตุสมผลเถิด

    2. ขออย่าให้ข้าพเจ้าเป็นคนลืมตน ดูหมิ่นเหยียด
    หยามใครๆ ซึ่งอาจด้อยกว่าในทางตำแหน่ง ฐานะ
    การเงิน หรือในทางวิชาการความรู้ ขอให้ข้าพเจ้า
    มีความเห็นอกเห็นใจคนอื่น ให้เกียรติแก่เขาตาม
    ความเหมาะสมในทางติดต่อเกี่ยวข้องกันเถิด อย่า
    แสดงอาการข่มขู่เยาะเย้ยใครๆ ด้วยประการใดๆ เลย
    จะติดต่อเกี่ยวข้องกับใครๆ ก็ขอให้มีความอ่อนโยน
    นุ่มนวล สุภาพเรียบร้อยเถิด

    3. ถ้าใครพลาดพลั้งลงในการครองชีวิต หรือต้อง
    ประสบความทุกข์ความเดือดร้อน เพราะเหตุใดๆ
    ก็ตาม ขออย่าให้ข้าพเจ้าเหยียบย่ำซ้ำเติมคนเหล่านั้น
    แต่จงมีความกรุณาหาทางช่วยให้เขาลุกขึ้น ช่วยผ่อนคลายทุกข์ร้อนให้แก่เขาเท่าที่จะสามารถทำได้

    4. ใครก็ตามมีความรู้ความสามารถขึ้นมาเท่าเทียม
    หรือเกือบเท่าเทียมข้าพเจ้าก็ดี มีความรู้ความ
    สามารถหรือผลงานอันปรากฏดีเด่นสูงส่งอย่าง
    น่านิยมยกย่องยิ่งกว่าข้าพเจ้าก็ดี ขออย่าให้
    ข้าพเจ้ารู้สึกริษยาหรือกังวลใจในความเจริญของ
    ผู้นั้นเลยแม้แต่น้อย ขอให้ข้าพเจ้าพลอยยินดีใน
    ความดี ความรู้ ความสามารถของบุคคลเหล่านั้น
    ด้วยความจริงใจ ช่วยส่งเสริมสนับสนุนให้กำลัง
    ใจแก่คนเหล่านั้น อันเข้าลักษณะการมีมุทิตาจิต
    ในพระพุทธศาสนา ซึ่งตรงกันข้ามกับความริษยา
    ขออย่าให้เป็นอย่างบางคนที่เกรงนักหนาว่าคนอื่น
    จะดีเท่าเทียมหรือดียิ่งกว่าตน คอยหาทางพูดจาติ
    เตียน ใส่ไคล้ให้คนทั้งหลายเห็นว่าผู้นั้นยังบกพร่อง
    อย่างนั้นอย่างนี้ ขอให้ข้าพเจ้ามีน้ำใจสะอาด
    พูดส่งเสริมยกย่องผู้อื่นที่ควรยกย่องเถิด

    5. ขอให้ข้าพเจ้าเป็นผู้มีน้ำใจเข้มแข็งอดทน
    อย่าเป็นคนขี้บ่นในเมื่อมีความยากลำบากอะไร
    เกิดขึ้น ขอให้มีกำลังใจต่อสู้กับความยากลำบากนั้นๆ
    โดยไม่ต้องอ้อนวอนให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์มาช่วย ขออย่า
    ให้เป็นคนอ่อนแอเหลียวหาที่พึ่ง เพราะไม่รู้จักทำตน
    ให้เป็นที่พึ่งของตนเลย ขออย่าให้ข้าพเจ้าเป็นคน
    ชอบได้อภิสิทธิ์คือสิทธิเหนือคนอื่น เช่นไปตรวจ
    ที่โรงพยาบาล ก็ขอให้พอใจนั่งคอยตามลำดับ
    อย่าวุ่นวายจะเข้าตรวจก่อนทั้งที่ตนไปถึงทีหลังเลย
    ในการสอบแข่งขันเพื่อคัดเลือกใดๆ ขออย่าให้ข้าพเจ้า
    คิดหาวิธีลัดหรือวิธีทุจริตใดๆ รวมทั้งขออย่าได้วิ่งเต้น
    เข้าหาคนนั้นคนนี้เพื่อให้เข้าช่วยให้ได้ผลดีกว่าคนอื่น
    ทั้งๆ ที่ข้าพเจ้าอาจมีคะแนนสู้คนอื่นไม่ได้เกิด

    6. ถ้าข้าพเจ้าทำงานในที่ใด ขออย่าให้ข้าพเจ้า
    คิดเอาเปรียบหรือคิดเอาแต่ได้ในทางส่วนตัว เช่น
    เถลไถลไม่ทำงาน รีบเลิกงานก่อนกำหนดเวลา
    ขอจงมีความขยันหมั่นเพียร พอใจในการทำงาน
    ให้ได้ผลดี ด้วยความตั้งใจและเต็มใจเสมือนหนึ่ง
    ทำงานให้แก่ตนเองเพื่อประโยชน์ของตนเองฉะนั้น
    เกิด อันเนื่องมาแต่ความไม่คิดเอาเปรียบในข้อนี้
    ถ้าข้าพเจ้าเผอิญก้ำเกินข้าวของที่ทำงานไปใน
    ทางส่วนตัวได้บ้าง เช่น กระดาษ ซอง หรือ
    เครื่องใช้ใดๆ ขอให้ข้าพเจ้าระลึกอยู่เสมอว่าเป็น
    หนี้อยู่ และพยายามใช้หนี้คืนด้วยการซื้อใช้หรือ
    ทำงานให้มากกว่าที่กำหนด เพื่อเป็นการชดเชย
    ความก้ำเกินนั้น ข้อนี้รวมทั้งขอให้ข้าพเจ้าจงอย่า
    เอาเปรียบบ้านเมือง เช่นในเรื่องการเสียภาษีอากร
    ถ้ารู้อยู่ว่ายังเสียน้อยไปกว่าที่ควร หรือที่กฎหมาย
    กำหนดไว้ ขอให้ข้าพเจ้ามีความตั้งใจที่จะชดใช้
    แก่ชาติบ้านเมืองอยู่เสมอ เมื่อมีโอกาสตอบแทน
    ได้เมื่อไรขอให้รีบตอบแทนโดยทันที เช่นในรูป
    แห่งการบริจาคบำรุงโรงพยาบาล บำรุงการศึกษา
    หรือบริจาคเพื่อสาธารณประโยชน์อื่นๆ แบบ
    บริจาคให้มากกว่าที่รู้สึกว่ายังเป็นหนี้ชาติบ้านเมือง
    อยู่เสมอ และในข้อนี้ ขอให้ข้าพเจ้าปฏิบัติแม้ต่อ
    เอกชนใดๆ ขออย่าให้ข้าพเจ้าคิดเอาเปรียบ หรือ
    โกงใครเลยแม้แต่น้อย แม้จะซื้อของถ้าเขาทอนเงิน
    เกินมา ก็ขอให้ข้าพเจ้ายินดีคืนให้เขากลับไปเถิด
    อย่ายินดีว่ามีลาภ เพราะเขาทอดเงินเกินมาให้เลย

    7. ขออย่าให้ข้าพเจ้ามักใหญ่ใฝ่สูง อยากมีหน้ามีตา
    อยากมีอำนาจอยากเป็นใหญ่เป็นโต ขอให้ข้าพเจ้า
    ใฝ่สงบ มีความเป็นอยู่อย่างง่ายๆ ไม่ต้องเดือดร้อน
    ในเรื่องการแข่งดีกับใครๆ ทั้งนี้ เพราะข้าพเจ้าพอจะ
    เดาได้ว่าความมักใหญ่ใฝ่สูง ความอยากมีหน้ามีตา
    ความอยากมีอำนาจและอยากเป็นใหญ่เป็นโตนั้น
    มันเผาให้เร่าร้อน ยิ่งต้องแข่งดีกับใครๆ ด้วย ก็ยิ่ง
    ทำให้เกิดความคิดริษยา คิดให้ร้ายคู่แข่งขัน ถ้าอยู่
    อย่างใฝ่สงบมีความเป็นอยู่อย่างง่ายๆ ก็จะเย็นอก
    เย็นใจ ไม่ต้องนอนก่ายหน้าผากถอนใจเพราะ
    ไม่สมหวัง ขอให้ข้าพเจ้ามีความเข้าใจซาบซึ่งใน
    พระพุทธภาษิตที่ว่า

    "ผู้ชนะย่อมก่อเวร ผู้แพ้ย่อมอยู่เป็นทุกข์
    ละความชนะความแพ้เสียได้ ย่อมเป็นสุข"

    ดังนี้เกิด แต่ทั้งนี้ มิได้หมายความว่าเมื่อใฝ่สงบ
    แล้ว ข้าพเจ้าจะต้องอยู่อย่างเกียจคร้าน ไม่สร้าง
    ความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรม ข้าพเจ้าทราบ
    ดีว่าพระพุทธศาสนามิได้สอนให้คนเกียจคร้าน งอมือ
    งอเท้า แต่สอนให้มีความบากบั่นก้าวหน้าในทางที่ดี
    ไม่ว่าทางโลกหรือธรรม และความบากบั่นก้าวหน้า
    ดังกล่าวนั้นไม่จำเป็นต้องผูกพันอยู่กับความทะยาน
    อยาก หรือความมักใหญ่ใฝ่สูงใดๆ คงทำงานไป
    ตามหน้าที่ให้ดีสุด ผลดีก็จะเกิดตามมาเอง

    8. ขอให้ข้าพเจ้าหมั่นปลูกฝังความรู้สึกมีเมตตา
    ปรารถนาดีต่อผู้อื่น และมีกรุณาคิดจะช่วยให้ผู้อื่น
    พ้นทุกข์ ซึ่งพระพุทธเจ้าแนะนำให้ปูพื้นจิตใจด้วย
    ความเมตตากรุณาดังกล่าวนี้อยู่เสมอ จนกระทั่ง
    ไม่รู้สึกว่ามีใครเป็นศัตรูที่จะต้องคิดกำจัดตัดรอน
    เขาให้ถึงความพินาศ ใครไม่ดี ใครทำชั่วทำผิด
    ขอให้คิดได้ กลับตัวได้เสียเกิด อย่าทำผิดทำชั่ว
    อีกเลย ถ้ายังขืนทำต่อไปก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้
    เขาจะต้องรับผลแห่งกรรมชั่วของเขาเอง เราไม่
    ต้องคิดแช่งชักให้เขาพินาศ เขาก็จะต้องถึงความ
    พินาศของเขาอยู่แล้ว จะต้องแช่งให้ใจเราเดือด
    ร้อนทำไม ขอให้ความเมตตาคิดจะให้เป็นสุขและ
    กรุณาคิดจะช่วยให้พ้นทุกข์ ซึ่งข้าพเจ้าปลูกฝังขึ้น
    ในจิตนั้น ขออย่าเป็นไปในวงแคบและวงจำกัด ขอ
    จงเป็นไปทั้งในมนุษย์และสัตว์ทุกประเภท รวมทั้ง
    สัตว์ดิรัจฉานด้วย เพราะไม่ว่ามนุษย์หรือสัตว์เหล่า
    นั้น ต่างก็รักสุขเกลียดทุกข์ รู้จักรักตนเอง ปรารถนา
    ดีต่อตนเองด้วยกันทั้งสิ้น

    9. ขอให้ข้าพเจ้าอย่าเป็นคนโกรธง่าย ต่างว่าจะโกรธ
    บ้าง ก็ขอให้มีสติรู้ตัวโดยเร็วว่ากำลังโกรธ จะได้สอน
    ใจตัวเองให้บรรเทาความโกรธลง หรือถ้าห้ามใจให้โ
    กรธไม่ได้ ก็ขออย่าให้ถึงกับคิดประทุษร้ายผู้อื่น
    หรือคิดอยากให้เขาถึงความพินาศ ซึ่งนับเป็น
    มโนทุจริตเลย ขอจงสามารถควบคุมจิตใจให้เป็น
    ปกติได้โดยเร็วเมื่อมีความไม่พอใจหรือความโกรธ
    เกิดขึ้นเถิด และเนื่องมาจากความปรารถนาข้อนี้
    ขอให้ข้าพเจ้าอย่าเป็นคนผูกโกรธ ให้รู้จักให้อภัย
    ทำใจให้ปลอดโปร่งจากการผูกอาฆาตจองเวร ขอ
    ให้มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น โดยรู้จักเปรียบเทียบ
    กับข้าพเจ้าเองว่าข้าพเจ้าเองก็อาจก็อาจทำผิด พูดผิด
    คิดผิด หรืออาจล่วงเกินผู้อื่นได้ ทั้งโดยมีเจตนาและ
    ไม่เจตนา ก็ถ้าข้าพเจ้าเองยังทำผิดได้ เมื่อผู้อื่นทำ
    อะไรผิดพลาดล่วงเกินไปบ้าง ก็จงให้อภัยแก่เขา
    เสียเถิด อย่าผูกใจเจ็บ หรือเก็บความรู้สึกไม่พอใจ
    นั้นมาขังอยู่ใจจิตใจให้เป็นพิษเป็นภัยแก่ตัวเองเลย


    10. ขอให้ข้าพเจ้ามีความรู้ความเข้าใจ และสอนใจ
    ตัวเองได้ เกี่ยวกับคำสอนของพระพุทธศาสนาทั้ง
    ทางโลกและทางธรรม กล่าวคือ พระพุทธศาสนา
    สอนให้รู้จักสร้างความเจริญแก่ตนในทางโลก และ
    สอนให้ประพฤติปฏิบัติยกระดับจิตใจให้สูงขึ้น ให้มี
    ปัญญาเข้าใจปัญหาแห่งชีวิตเพื่อจะได้ไม่ติดไม่ยึด
    ถือ มีจิตใจเบาสบายอันเป็นความเจริญในทางธรรม
    ซึ่งรวมแล้วสอนให้ให้เข้ากับโลกได้ดี ไม่เป็นภัย
    อันตรายแก่ใครๆ แต่กลับเป็นประโยชน์แก่สังคม
    และประเทศชาติ แต่ก็ได้สอนไปในทางธรรมให้
    เข้ากับธรรมได้ดี คือ ให้รู้จักโลก รู้เท่าโลก และ
    ขัดเกลานิสัยใจคอให้ดีขึ้นกว่าเดิม เพื่อบรรลุ
    ความดับทุกข์ พ้นทุกข์ ขอให้ข้าพเจ้ามีความ
    เข้าใจดีทั้งทางโลกทางธรรม และปฏิบัติตนให้
    ถูกต้องได้ทั้งสองทาง รวมทั้งสามารถหาความ
    สงบใจได้เอง และสามารถแนะนำชักชวนเพื่อน
    ร่วมชาติ ร่วมโลก ให้ได้ประสบความสุขสงบได้
    ตามสมควรเถิด

    ความปรารถนาหรือคำอธิษฐานรวม 10 ประการ
    ของข้าพเจ้านี้ ข้าพเจ้าตั้งไว้เพื่อเป็นแนวทางเตือนใจ
    หรือสั่งสอนตัวเอง เพราะปรากฏว่าตัวข้าพเจ้าเอง ยัง
    มีข้อบกพร่อง ซึ่งจะต้องว่ากล่าวตักเตือน คอยตำหนิ
    ตัวเองอยู่เสมอ ข้าพเจ้าจึงคิดว่าถ้าได้วางแนวสอนตัว
    เองขึ้นไว้เช่นนี้ เมื่อประพฤติผิดพลาด ก็อาจระลึกได้
    หรือมีหลักเตือนตนได้ง่ายกว่าการที่จะนึกว่า ข้าพเจ้า
    ดีพร้อมแล้ว หรือเป็นบุคคลที่สมบูรณ์แล้ว ซึ่งนับว่าเป็นความประมาทหรือลืมตัวอย่างยิ่ง





    [​IMG]
    [/SIZE]<!-- End main-->
    </td></tr></tbody></table>
     
  2. ง้วนดิน

    ง้วนดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    2,362
    ค่าพลัง:
    +11,047
    ดีจังจ้าหนูรินนน

    (verygood)(verygood)(verygood)
     
  3. dj-up

    dj-up เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2006
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +112
    แล้วจะนำไปใช่ครับ
     
  4. pong-sit

    pong-sit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,626
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +17,781
    ขอบคุณครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...