การทดสอบขันติบารมี ว่าบำเพ็ญได้ในระดับใด

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย rose2009, 2 มิถุนายน 2010.

  1. gamonwunmay

    gamonwunmay สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2010
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +15
    ถ้าโดนเขาด่า เขาว่า ก็คิดเป็นบวกว่า ดีแล้วจะได้สร้างขันติบารมี ถ้ามีงานเยอะๆ ให้เราทำมากๆ คนเดียว ก็คิดเป็นบวกว่าดีแล้วเราจะได้สร้างปัญญาบารมี ถ้าเจ้านายไม่ขึ้นเงินเดือนให้ ก็คิดเป็นบวกว่า ไม่เป็นไรคนที่เขาไม่มีงานทำ ตกงานถมไป ยังดีที่เรายังมีงานทำ หรือไม่ก็พยายามหางานใหม่ประมาณนี้ค่ะ ขออนุโมธนาสาธุนะคะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. maruko_k

    maruko_k เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    332
    ค่าพลัง:
    +1,318
    ขอบคุณมากค่ะสำหรับบทความดีๆ คำสอนดีๆ ที่นำมาเล่าสู่กันฟัง ให้มีกำลังใจในการปฏิบัติธรรม ปฏิบัติดียิ่งๆขึ้นไป อนุโมทนาค่ะ
     
  3. maruko_k

    maruko_k เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    332
    ค่าพลัง:
    +1,318
    เป็นลูกหลานเมือง กุกกุฎนคร ค่ะ ตำนานที่เล่าเป็นตำนานวัดพระแก้วดอนเต้า แต่ไม่ทราบว่ามีการสาบแช่งไว้ว่าอย่างไรนะคะ อาจมีการต่อเติมกันต่อๆมาก็ได้ค่ะ
     
  4. J47

    J47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    500
    ค่าพลัง:
    +3,405
    จ๊อบครับ จริงๆๆแล้วก็ต้องมีครบทั้ง ๑๐ เลยนะครับ ไม่ใช่จะมีแต่ที่จ๊อบกล่าวมานะครับ
    แล้วเรื่องยากง่าย ( ปลายกัปป์หรือต้นกัปป์นั้น ) คงจะไม่เกี่ยวกันมั้งครับ จ๊อบลองอ่านนี้ดูนะครับ ไปก็อปปี้มาให้อ่านนะครับ อิอิ

     
  5. warinton

    warinton สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +17
    ดีจังลองดูจิตตัวเองดู
     
  6. warinton

    warinton สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +17
    ความจริงเป็นสิ่งที่ดีมากนะพวกเรา
     
  7. ณัฐปพน

    ณัฐปพน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +416
    อนุโมนาด้วยค่ะ :cool:
     
  8. endoking

    endoking สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +5
    อนุโมทนาบุญกับทุกๆคนนะครับ จะต้องพยายามทามให้ได้ครับ สาธุๆ
     
  9. โป

    โป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    183
    ค่าพลัง:
    +256
    บางคนกระทบแล้ว โกรธ แต่พยายามอดกลั้นความขุ่นเคืองไว้ส่วนหนึ่ง ปล่อยให้แสดงออกมาเล็กน้อย อย่างหนึ่ง


    บางคนกระทบแล้ว โกรธ แต่ไม่แสดงออก เก็บไว้ภายในใจ อย่างหนึ่ง

    บางคนกระทบแล้ว ไม่โกรธ เพราะจิตไม่ปรุงตาม โดยมีกำลังสมาธิทำให้ใจผ่องใส อย่างหนึ่ง

    บางคนกระทบแล้ว จิตไหววูป รู้ตัว สติตามทัน ไม่ต้องตั้งท่า ไม่ต้องกำหนด จึงไม่โกรธ โดยไม่ต้องใช้สมาธิ ทำการกดข่มอารมณ์ อย่างหนึ่ง


    มีหลายอย่าง..หลายแบบ..แต่ที่ยกมานี้ เพราะมีความเห็นว่า กรรมฐานเป็นทางเดินแห่งมรรค

    เป็นพื้นฐานของพุทธภูมิที่ควรทำ หากไม่มีกรรมฐาน บารมีต่างๆ ทำได้ยากมากเพราะใจไม่คล้อยตาม

    สวัสดีครับ...
     
  10. Youzen

    Youzen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2007
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +159
    ยากมากเลยสำหรับเรา
    เพราะเพื่อนเกือบทุกคนที่ภาควิชาชอบแกล้งเราอ่ะ โดยเฉพาะเืพื่อนสนิทในกลุ่ม พูดพร่ำเพรื่อมากเลย น่าเบื่อหน่ายที่สุด เราหันหน้าหนีไปเลย (หลายครั้งก็เบะปากด้วยแหละ อดไม่ไหวอ่ะ) พยายามไม่พูดตอบ เพราะเรารู้สึกโง่มากที่ไปเถียงกับคนพวกนี้
     
  11. rose2009

    rose2009 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    68
    ค่าพลัง:
    +653
    ข้าพเจ้าคิดว่า...พื้นฐานสำคัญของ ขันติบารมี นอกจากการมีสติ และปัญญา ในการดูจิตตนแล้ว สิ่งที่สำคัญ คือ ความรัก...ความเมตตา-กรุณา ที่มีต่อผู้อื่น ...หากเราปราศจากซึ่งความรัก ความเมตตาต่อบุคคลเหล่านั้นแล้ว...เราจะอดทนได้ยาก ต่อการถูกดูหมิ่นใส่ร้าย และการเอารัดเอาเปรียบ...
    สังเกตุไหมว่า...พอเป็นบุคคลที่เรารักจากจิตอย่างแท้จริงแบบไร้เงื่อนไข
    เขาทำผิดสิ่งใด เราก็ถือเป็นเรื่องเล็กไปหมด...พร้อมให้อภัยตลอดเวลา
    แม้บางครั้งเขาจะทำผิดมาก ดื้อดึงเพียงใด...เราก็อดทน ให้โอกาสซ้ำๆซากๆ ไม่เคยสิ้นสุด...เห็นชัดๆ คือ พ่อ-แม่ ที่รักลูก...
    และตัวของท่านเอง...เพราะเราต่างรักตัวเอง..เราจึงเพิกเฉยต่อความผิดซ้ำๆของตนเอง...ให้เหตุผลต่างๆนาๆที่จะเข้าข้างตัวเอง...

    ศีล สมาธิ และสติปัญญาเพียงแค่นี้ มิอาจทำให้เรามีขันติ (อดทน) ต่อความทุกข์กายทุกใจ เพื่อผู้อื่นได้...
    สิ่งสำคัญมากที่สุด คือ ความรักอันปราศจากเงื่อนไข...
    เมื่อใดที่เรารู้จักการรักคนอื่น เหมือนที่เรารักตัวเอง...หรือรักราวกับเป็นลูกของเราแล้ว...
    เมื่อนั้นเราจะอดทนต่อทกสิ่งที่เขาเหล่านั้นทำกับเรา...ทั้งการถูกเอารัดเอาเปรียบ ดูหมิ่นเหยียบหยาม...ใส่ร้ายป้ายสี ...
    เพราะเรามีสติปัญญาและความรัก เราจึงรู้ว่า...เขาทำทุกสิ่งเพราะ "ความที่ไม่รู้แจ้ง" เราจึงให้อภัย...
    เมื่อจิตมิอาจรู้แจ้งถึงความรักและเมตตา...เราจึงพร่องขันติกับสิ่งที่มากระทบในชีวิตประจำวัน...
    การกำหนดรู้อย่างเดียว..มิอาจทำให้อดทนต่อสรรพสิ่งได้...มีแต่จะเบื่อหน่ายและถ่ายถอน...
    พาลเบื่อมนุษย์ เบื่อสังคม เบื่อผู้คน แม้แต่จิตของตนก็ยังเบื่อ...แล้วที่สุด เราก็อยากลาไป "นิพพาน" ...
    แต่เมื่อจิตตื่นรู้...มีความรักและเมตตากับสรรพสิ่ง...จิตนั้นจึงยอมอดทนรับทุกขเวทนา...
    ยอมอยู่ต่อไปในสังสารวัฏ...เพื่อบุคคลอันเป็นที่รักยิ่ง ผู้ซึ่งยังไม่รู้แจ้ง...

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มิถุนายน 2010
  12. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    เป็นคำแนะนำที่ดีมาก ๆ ค่ะ
     
  13. maythanu

    maythanu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    420
    ค่าพลัง:
    +2,069
    โดนอยู่บ่อยๆที่ทำงานปัจจุบันครับ ทนมาเกือบครึ่งปีแล้ว กะว่าจะทนต่อไปจนถึงที่สุดครับ ถัาไม่โดนไล่ออกซะก่อน8รับ อิอิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มิถุนายน 2010
  14. มหาพรหมราชา

    มหาพรหมราชา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    241
    ค่าพลัง:
    +903
    ขออนุโมทนาด้วยครับ :cool:
     
  15. พระปองพล

    พระปองพล Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +56
    ขอเจริญพร การบำเพ็ญขันติบารมีเป็นสิ่งที่ดีแต่หากไม่รู้วิธีกำหนดจิตแล้วก็จะเกิดผลยาก เราไม่สามารถจะมาสร้างขันติว่าจะไม่โกรธใครๆ หรือแสดงความรักความเมตตาให้กับใครๆหรือกดอารมณ์ด้วยสมาธิใด้ตลอดเวลาหรอกนะโยม แต่การที่จะมีขันติใด้นั้นต้องเกิดจาก สติ และสัมปชัญญะ สติคือความระลึกได้ การนึกได้ก่อนที่จะคิด จะทำ หรือจะพูด สัมปชัญญะคือความรู้ตัว รู้สึกตัวอยู่ตลอดเวลาที่คิด ที่พูด ที่ทำ ท่านกล่าวว่าเป็นธรรมมีอุปการะมาก
    การที่คนเรานั้นจะอยู่ๆมาระงับอารมณ์โกรธ หรือจะให้รักเมตตากับทุกคนใด้นั้นเป็นไปโดยยากถ้าหากมิได้ฝึกมาก่อน ดังนั้นการฝึกมีสติ สัมปชัญญะจึงเป็นสิ่งที่ดี เมื่อสติ กับ สัมปชัญญะเกิดพร้อมกันก็จะเกิดปัญญา แต่สติที่เราใช้กันทุกวันนั้นยังไม่พอ ต้องสร้างให้เพิ่มมากขึ้นอีก ด้วยการกำหนดจิต เช่น เมื่อเราโกรธก็กำหนดจิตของเราไว้ที่ลิ้นปี่ว่าโกรธ เมื่อเกิดอารมณ์ใดๆ ก็ให้กำหนดรู้อารมณ์นั้นๆ ให้สติสัมปชัญญะมันเกิดเมื่อสติสัมปชัญญะเกิดขึ้นปัญญาที่แท้มันจะเกิดตามมาว่าเราจะไปโกรธกันทำไมมีอะไรที่หน้าให้โกรธกัน เขาเป็นเพียงแค่อายตนะ ธาตุ อินทรีย์ เราเองก็เป็นเพียงอายตนะธาตุอินทรีย์เขาไม่ใด้ด่าเรา
    แต่การหัดระยะแรกๆอาจทำไม่ได้ แต่จำไว้ ต้องหมั่นกำหนดจิตตลอดแล้วจะข้อยๆก้าวหน้าจากที่เคยถูกด่าแล้วโกรธ ก็จะมาเป็นเมื่อถูกด่าแล้วกำหนด๑๐นาทีหาย นานไปก็๕นาทีหาย นานไปกำหนดทีเดียวหาย นานไปก็ไม่ต้องกำหนด เพราะไม่โกรธ เพราะรู้ทันความโกรธ เพราะไม่อยากมีเวรต่อกันก็จะมีความรักความเมตตาต่อกัน เมตตาจะเกิดขึ้นใด้เพราะปัญญาเกิดขึ้นแล้วเห็นแล้วว่าความโกรธแค้นกันก่อให้เกิดเวรกรรม แต่จำไว้นะว่าต้องกำหนดจิตตลอด หมั่นรู้อารมณ์ตลอด แล้วจะรู้ใด้ว่าเราระงับอารมณ์ใด้ดีขึ้น
    อาตมาทดลองมาแล้วปีกว่ารู้สึกว่าอารมณ์เย็นกว่าตอนที่ไม่ฝึกมาก แม้จะยังไม่หมดสิ้นจนไม่เหลือความโกรธซะทีเดียวแต่ก็กำหนดจิตใด้ไวขึ้น จิงเจริญพรมาให้โยมทุกท่านพิจารณากันตามอัทยาศัยของแต่ละบุคคล อาจพอเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย เจริญพร
     
  16. rose2009

    rose2009 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    68
    ค่าพลัง:
    +653
    _/|\_ สาธุ อนุโมทนาพระคุณเจ้า... เป็นจริงตามนั้นค่ะ

     
  17. rose2009

    rose2009 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    68
    ค่าพลัง:
    +653
    _/|\_ สาธุ อนุโมทนามิค่ะ

     
  18. ballbeamboy2

    ballbeamboy2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,618
    สาธุ สาธุ สาธุ เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ แต่บางครั้ง ผมก็โดนด่าผม คนที่นินทาไม่มีในโลก ใจมันก็ โอเคสติช่วยประคับประครอง
     
  19. JolieAcidus

    JolieAcidus สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +20
    ตัวเองบกพร่องอย่่างมาก โดยเฉพาะเวลาขับรถ = ='
     
  20. suriyanvajra

    suriyanvajra Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    281
    ค่าพลัง:
    +67
    ขอบพระคุณสำหรับข้อเตือนใจค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...