เครียดเรื่องแม่ผัว / ลูกสะใภ้ ใครช่วยเมตตาแสดงความเห็นด้วยครับ

ในห้อง 'ทุกข์และปัญหาชีวิต' ตั้งกระทู้โดย kumjaijung, 26 กรกฎาคม 2010.

  1. kumjaijung

    kumjaijung สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +4
    เรื่องมีอยู่ว่า

    ผมอยู่กินกับแฟน ( ยังไม่ได้จดทะเบียนสมรส ) ถึงปัจจุบันประมาณ 11 ปีแล้ว

    พื้นฐานครอบครัว - พ่อผม มีงานประจำ
    แม่ผม เป็นแม่บ้าน ขายขายของเล็กๆ น้อยๆ ที่บ้าน
    น้องสาว เรียนหนังสือพึ่งจบ ป.โท
    ตัวผม - ทำธุรกิจส่วนตัว เปิดสำนักงานธุรกิจเล็กๆ
    แฟน - เป็น ผจก.โรงแรมย่านสีลมแห่งหนึ่ง

    ปีที่ 1. ผมกับแฟนเลือกที่แยกครอบครัวมาพักอยู่ข้างนอกบ้านเองตั้งแต่คบกัน
    ช่วงเวลาปีที่ 1-8 ครอบครัวเห็นด้วยกับแฟน ไปมาหาสู่กัน รักใคร่กันดี
    ญาติทั้งสองฝ่ายยอมรับ เข้าใจ ไม่ได้เร่งรัดให้แต่งงานกัน
    ไปเที่ยวร่วมกัน ไปมาหาสู่กัน แฟน / แม่ / น้องสาวผม
    สนิทสนมกันในขั้นดีมาก

    ปีที่ 8 (**เริ่มสำคัญ**) ออฟฟิสของผมเป็นตึกแถวสูง 6 ชั้น โดยผมทำงานเป็นที่ปรึกษาธุรกิจของบริษัทไต้หวันแห่งหนึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ตึกแถวที่ผมเช่าเปิดออฟฟิสเอง และเจ้านายไต้หวันให้ผมดูแลรักษาผลประโยชน์ตึกแถวคูหาข้างเคียงอีก 5 ห้อง สูง 6 ชั้น
    วันหนึ่ง พ่อ/แม่ ผมมาเยี่ยมที่ออฟฟิสพบว่าตึกแถวข้างเคียงยังโล่งอยู่ และที่สำคัญผมดูแลอยู่จึงอยากขอเช่าราคาถูกๆ
    พ่อ/แม่ - 1. ขอให้ผมช่วยติดต่อคุยกับเจ้านายไต้หวันเพื่อขอเช่ามาทำโรงแรมเล็กๆ ประมาณ 40 ห้อง โดยให้ผมขอราคาเช่าถูกๆ ผมคุยให้โดยอ้างว่าผมจะทำโรงแรมเอง เจ้านายก็ให้เช่าระยะยาวราคาถูกมากๆ พอได้ทำสัญญาก็นำมาให้แม่จัดการลงทุนปรับปรุงอาคารต่อ
    - 2. ขอให้ผมไปพูดกับแฟนให้ลาออกจากงานโรงแรมเดิม มาช่วยวางแผนเปิดโรงแรมของแม่ โดยยื่นข้อเสนอให้แฟนผมเป็นผู้จัดการดูแลทุกอย่าง
    - 3. พ่อ/แม่ ออกเงินทุนก่อสร้าง ตกแต่ง และให้ผมประสานงานวิ่งใบอนุญาตต่างๆ จากหน่วยราชการจนสำเร็จ
    - 4. พ่อ/แม่ เห็นว่าผมกับแฟนพักอยู่ชั้นบนออฟฟิส ซึ่งมีคูหาติดอยู่กับโรงแรมที่จะสร้าง จะได้สะดวกในการช่วยดูแลกิจการ

    ปีที่ 9 ( โรงแรมก่อสร้างเสร็จ ) - 1. แม่ รับสมัครพนักงานต่างๆ โดยให้แฟนช่วยสัมภาษณ์ให้ แต่ต้องด้วยเห็นชอบของแม่จึงจะได้ทำงาน แต่ฝ่ายครัว / แม่บ้านประมาณ 12 คนเป็นชาวพม่าที่แม่ให้หัวหน้าแม่บ้าน (คนสนิทแม่) พาลูกหลานมาทำงานที่โรงแรม
    2. แม่ หาพนักงาน เช่น ฝ่ายบัญชี , ฝ่ายต้อนรับหลายคน ด้วยความสงสารว่าเขามัปัญหาครอบครัว ยากจน มีคนฝากแม่มา ทำงานไม่ได้หรือไม่เป็นแม่ก็ไม่ว่า แต่ขอให้แฟนผมช่วยแก้ไขจุดที่ผิดพลาดทางบัญชีให้ถูกต้อง มิฉะนั้น เดี๋ยวเวลาที่พ่อมาโรงแรมกลัวพ่อจะด่าพนักงานคนที่ทำงานไม่เรียบร้อย ( แม่ต้องปกป้องคนของแม่กลัวพ่อดุเอา แฟนผมก็เลยเป็นเบื้องหลังช่วยให้สำเร็จมาโดยตลอด ) โดยที่พ่อไม่เคยรู้
    3. แม่ เลือกผู้รับเหมาก่อสร้าง / ตกแต่งเป็นเครือญาติของแม่ พวกเขาใช้วัสดุไม่ดี ราคาถูกๆ แต่คิดราคารับจ้างตกแต่งแพงๆ แฟนผมทำงานโรงแรมมาก่อนจึงไปตำหนิผู้รับเหมา แต่ผู้รับเหมาเป็นญาติของแม่ๆ จึงพอว่าหยวนๆ ช่วยกันไปอย่าไปว่าเขา เดี๋ยวพ่อดุเอา แม่ไม่พอใจที่แฟนตำหนิการทำงานของญาติแม่
    4. พ่อ มีงานประจำจะเข้ามาที่โรงแรมในช่วงวันหยุด ไม่รู้ข้อเท็จจริงโดยตรง ส่วนน้องสาวผมก็เรียน ไม่ได้สนใจธุรกิจโรงแรม ส่วนตัวแม่ ก็ไม่มีความรู้เรื่องโรงแรม / พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แค่อยากทำเพราะคิดว่ากำไรดี
    5. วิสัยทัศน์ด้านการตกแต่งของพ่อแม่ไม่มี เอาช่างต่างจังหวัดมาตกแต่งเชยๆ แฟนให้ความเห็นว่าไม่กับสถานที่ พ่อแม่ก็บอกว่าเงินของเขา โรงแรมของเขา แฟนเป็นแค่ลูกจ้าง แม่เป็นเจ้าของ

    ปีที่ 9-11 - ปัญหาภายในโรงแรมเริ่มเกิด ดังนี้
    1. หัวหน้าแม่บ้าน (พม่า) ทำตัวเป็นมาเฟีย กดดันพวกคนงานพม่าด้วยกันเอง โยนความผิดให้ลูกน้องเวลาทำผิดพลาด ตัวผม/แฟน ซักถามจนได้ความจริงรู้ว่าหัวหน้าแม้บ้านกลั่นแกล้งลูกน้อง จึงต่อว่า แล้วไปพูดให้แม่ฟัง แต่เนื่องจากหัวหน้าแม่บ้านปากหวานเอาใจแม่ และพูดว่ารักแม่มากๆ กว่าใคร จนแม่หลงคารม แม่ก็มาด่าผม บอกว่าแฟน กับตัวผมใส่ร้ายลูกน้องแม่ หลงแฟนจนไม่ดูความถูกต้อง
    2. พนักงานบัญชีที่แม่ฝากมาทำงานไม่ถูกต้อง ไม่ได้เรียนจบบัญชีมา (ทำงานไม่เป็น) แฟนต้องมาช่วยทำบัญชีก่อนส่งให้สำนักงานบัญชีเพราะกลัวพ่อดุ พอผม /แฟนตำหนิพนักงานบัญชีเรื่องทำงานผิดพลาด แม่ก็หาว่าแฟนมีอคติกับคนของแม่ ผมแกล้งไม่ช่วยคนของแม่
    3. หัวหน้าพ่อครัว (พม่า) และทีม 3 คน อู้งาน แอบกินของในตู้เย็นสต๊อก แอบหนีไปนอน กินเหล้าเวลาทำงาน
    แต่เวลาพ่อ/แม่มาที่โรงแรม เขาจะขยันเว่อร์ เอาใจพ่อแม่ ท่านครับๆๆๆ ช่วยปิด/ปิดประตูรถ , ท่านอยากทานอะไรไหมครับ , ปากหวานต่อหน้าพ่อแม่ แต่พอพ่อแม่กลับบ้านก็อู้ เอาเปรียบ กลั่นแกล้งพนักงานอื่นๆ ด้วยกัน ที่สำคัญแม่จะเข้ามาทำงานเวลา 12.00-16.00 น. พวกนี้เขารู้เวลาจึงมาเสนอหน้าช่วงที่แม่มา
    4. แฟนผมเป็นผู้จัดการ จึงพบปะลูกค้าจำนวนมาก แขกก็รัก มีขนม,ของใช้มาฝากจากต่างประเทศบ่อยมาก ภาษาดี ทักทายลูกค้าจนมีลูกค้าประจำมาก มาที่โรงแรมก็ถามหาแต่แฟน โดยไม่มีใครคุยกับแม่ แต่ทุกครั้งแฟนก็แนะนำว่าแม่คือเจ้าของกิจการ แฟนเป็นลูกสะใภ้/ผู้จัดการ แม่จึงไม่ค่อยพอใจที่ลูกค้าไม่เห็นความสำคัญของแม่ แม่เป็นเจ้าของโรงแรมนะ
    5. เวลาพนักงานมีปัญหา ทำอะไรไม่ถูกต้อง แฟนในฐานะผู้จัดการต้องว่ากล่าวตักเตือน แล้วเอาเรื่องมาเล่าให้ผมฟัง ผมก็ต้องโทรไปรายงานแม่ แต่แม่ไม่พอใจหาว่าผมขี้ฟ้อง กลั่นแกล้งพม่าหรือมีอคติกับคนของแม่ ฟังแฟนมากไป

    ปัจจุบัน ปีที่ 11 - 1. น้องสาวเรียนจบ แม่ให้มาทำงานที่โรงแรมเพื่อคานอำนาจกับแฟนผม โดยประกาศว่าน้องสาวคือเจ้าของโรงแรมมีอำนาจเท่ากับแม่ พนักงานทุกคนต้องเกรงใจ , ส่วนแฟนผมเป็นผู้จัดการเป็นแค่ลูกจ้าง , ตัวผมเป็นลูกชายเป็นที่ปรึกษาเท่านั้นไม่มีอำนาจบริหาร
    2. น้องสาวไม่เคยทำงาน แต่ให้มาบริหารโรงแรมก็ยังมีปัญหาบ้างเพราะ แม่/น้องสาว ถือตัวว่าเป็นเจ้านายไม่ลงมาสุงสิงพูดคุยกับพนักงานทั่วไป และไม่พูดจาทักทายกับลูกค้าเหมือนแฟน
    3. ผมเห็นแฟนเครียดมากจึงให้แฟนลาออกจากโรงแรมประมาณ 2 เดือนที่แล้ว แต่ผม/แฟนก็พักผ่อนอยู่บนออฟฟิสซึ่งอยู่ติดกับโรงแรม แม่/น้องสาวก็ระแวงกลัวแฟนผมมาพูดคุยกับพนักงาน เพื่อความสบายใจทั้งสองฝ่าย ผมจึงย้ายที่พักไปอยู่อพาร์ตเม้นท์ข้างนอก แต่กลางวันผมก็เข้ามาทำงานที่ออฟฟิสข้างโรงแรมตามเดิม
    4. แม่/น้องสาว ออกกฎในโรงแรมว่า ต่อไปจะไม่มีตำแหน่งผู้จัดการมีแต่เจ้าของกับลูกจ้างเท่านั้น พนักงานทุกคนไทย/พม่ามีสิทธิเท่าเทียมกัน ห้ามดุด่ากันเอง ใครมีปัญหาต้องมาบอกแม่ แล้วแม่จะไปต่อว่าเอง แต่ในความจริงแม่ก็ไม่ว่าพวกพม่าเพราะพวกนี้เชื่อฟังแม่
    5. แม่/น้องสาว พยายามบีบพนักงานที่แฟนรับสมัครมาให้ลาออก เพื่อจัดระบบใหม่ แต่คนที่รับมาใหม่ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ และไม่มีคนประเมินผลว่าทำงานในตำแหน่งที่รับมาได้หรือไม่ เช่น คนมาสมัครบัญชีก็ให้เป็นพนักงานต้อนรับ คนที่ทำงานตำแหน่งบัญชีก็มาช่วยทำครัว งงไปหมดเลย บริหารไม่ถูกต้อง
    6. ตอนนี้เลยเกิดมาเฟียคุมโรงแรม คือ หัวหน้าแม่บ้านหญิง (พม่า) และหัวหน้าพ่อครัว (พม่า) ใครว่าไม่ได้ และเป็นสายลับโทรรายงานความเคลื่อนไหวของ ผม/แฟน และพนักงานคนที่แอบเป็นกบฎมาพูดคุยกับแฟนผม ให้แม่ทราบทุกต้นชั่วโมง

    ปัญหาที่เกิดขึ้น

    1. แม่/น้องสาว ไม่ชอบแฟนผมแล้ว เพราะคิดว่าจะมาแย่งอำนาจกิจการ และระแวงที่ผมรักแฟนมากกว่าแม่
    2. ผม/แฟน ไม่ยอมย้ายไปอยู่บ้านเดียวกับพ่อแม่ที่ปลูกขึ้นใหม่
    3. พ่อ/แม่/น้องสาว เห็นผมรักแฟนมากจึงไม่พอใจ และไม่ชวนผมไปเที่ยว หรือทำกิจกรรมภายในครอบครัว
    4. ลูกค้าหลายคนที่สนิทกับแฟนโมโหไปพูดกับแม่/น้องสาว ว่าจะไม่กลับมาพักที่โรงแรม สูญเสียลูกค้าเดิมๆไปประมาณครึ่งหนึ่ง เพราะการบริการเดี๋ยวนี้เปลี่ยนแปลงไม่เหมือนเดิม แม่/น้องสาวก็ยิ่งเกลียดแฟนผมเข้าไปอีก
    5. เวลามีปัญหาภายในโรงแรม ลูกน้องก็ไปบอกแม่ให้ช่วยถามแฟนผม แม่ก็ยิ่งโกรธเข้าไปอีก
    6. แฟนผมเวลามาหาผมที่ออฟฟิส ซึ่งอยู่ติดกับโรงแรม ลูกน้องเก่าๆ ก็วิ่งมาทักทายเพราะคิดถึง แม่ก็จะไม่พอใจพนักงานคนนั้นอีกคิดว่าเป็นพวกกบฎ
    7. แม่เริ่มปรึกษาหมอไสยศาสตร์ เพราะความหวาดระแวง

    คำถามท่านผู้มีเมตตา

    1. ผมกับแฟนอยู่กินกันมา 11 ปีแล้ว ผมก็อยากแสดงความรับผิดชอบโดยการจดทะเบียนสมรส + แต่งงานให้ถูกต้อง ในภาวะวิกฤตเช่นนี้ ผมจึงไม่กล้าปรึกษาพ่อแม่ ควรทำอย่างไร
    2. ผมกับแฟนไม่ได้เสียดายเรื่องการงานหรืออำนาจ แต่เป็นห่วงพ่อแม่จะเสียใจจากการลงทุนทำธุรกิจขาดทุน เพราะวิสัยทัศน์เกี่ยวกับการโรงแรมผิดพลาด
    3. ทำอย่างไรจะประสานรอยร้าวในครอบครัวได้ดังเดิม
    4. ท่านผู้มีประสบการณ์ช่วยชี้แนะด้วยครับ

    :':)':)':)':)':)':)':)':)':)':)'(
     
  2. kim_potter

    kim_potter เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    131
    ค่าพลัง:
    +137
    อ่านแล้วนึกถึงละครหลังข่าวเลยอ่ะ

    ใช้ธรรมะเข้าช่วยสิคะ

    พาครอบครัว คุณพ่อ คุณแม่ พี่น้อง แฟน ไปทำบุญร่วมกันบ้าง

    เวลาทำบุญอะไรก็ให้คุณและแฟน อุทิศส่วนกุศลให้แม่ให้น้อง ให้เทวดาที่รักษาแม่และน้อง

    แผ่เมตตาให้ท่านด้วยนะคะ ทำเป็นประจำก็อาจจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นได้นะคะ

    ฉันเป็นเพียงแค่เด็กน้อยที่อยากแนะนำท่านตามที่เคยได้ยินมาในเรื่องอย่างนี้อ่ะค่ะ

    ขอให้ท่านบรรลุสิ่งที่ดีที่สุดค่ะ​
     
  3. ชัชชฎา

    ชัชชฎา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    101
    ค่าพลัง:
    +64
    เป็นเพราะรัก โลภ โกรธ หลง แผ่เมตตาให้เขาบ่อยๆ แล้วก็จะดีขึ้นเองค่ะ
    ของอย่างนี้ต้องใช้เวลา เอาใจช่วยให้เข้าใจกันไวๆนะคะ
     
  4. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    1. ผมกับแฟนอยู่กินกันมา 11 ปีแล้ว ผมก็อยากแสดงความรับผิดชอบโดยการจดทะเบียนสมรส + แต่งงานให้ถูกต้อง ในภาวะวิกฤตเช่นนี้ ผมจึงไม่กล้าปรึกษาพ่อแม่ ควรทำอย่างไร

    ควรจดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฏหมายค่ะ ยังไงก็คู่ชีวิตค่ะ แม้ใครจะคัดค้านหรือไม่เห็นด้วย แต่ในฐานะสามีที่ดีอย่ารีรอต่อไปเลยค่ะ

    2. ผมกับแฟนไม่ได้เสียดายเรื่องการงานหรืออำนาจ แต่เป็นห่วงพ่อแม่จะเสียใจจากการลงทุนทำธุรกิจขาดทุน เพราะวิสัยทัศน์เกี่ยวกับการโรงแรมผิดพลาด

    ไม้ล้มข้ามได้ คนล้มอย่าข้าม คนเรามีผิดมีพลาดกันได้ค่ะ เริ่มต้นใหม่ เข้าหาพ่อแม่แล้วอธิบายให้ท่านฟัง ขอโอกาสอีกสักครั้งค่ะ

    3. ทำอย่างไรจะประสานรอยร้าวในครอบครัวได้ดังเดิม

    ตัดไม่ตาย ขายไม่ขาดค่ะ แม้วันนี้อาจไม่เข้าใจกัน แต่ใช่วันข้างหน้าจะโกรธเกลียดกันไปตลอดชาติเสียเมื่อไร รอจังหวะเวลาที่ดีแล้วเข้าไปพูดคุยปรับความเข้าใจกันใหม่ค่ะ


    ปัญหาทุกอย่างย่อมมีหนทางออกเสมอ อยู่ที่ว่าตัวเราจะยอมโอนอ่อนบ้างเพื่อความสงบสุขของครอบครัว และความเข้าใจในฐานพ่อแม่ลูกที่ดี ค่อย ๆ พูดจากันด้วยดี เชื่อว่าสักวันเรื่องทุกอย่างต้องลงเอยในทางที่ดีค่ะ
     
  5. meephoo

    meephoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,240
    ค่าพลัง:
    +2,133
    ขอให้มีเมตตาต่อกันทุกฝ่าย เหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ ต้องดับที่เหตุ ลูกจ้างพม่าที่ขยันมีมาก ที่สอพอมีเยอะ ทำไมต้องให้ต่างชาติมาเป็นเหตุให้ไม่เข้าใจกัน ตามที่อ่านเขียนเล่าให้ฟังนั้น ยังไม่ทราบว่าข้อมูลแม่นยำถูกต้องหรือไม่ แต่หากไม่หนักเกินไป ความเป็นลูกคงไม่ระบายขอความช่วยเหลือมาทางสื่อนี้ ผมมั่นใจฐานข้อมูลในระดับหนึ่ง บิดา-มารดา เป็นผู้ให้กำเนิดเรา เป็นพระอรหันต์ของเรา เราต้องเถิดทูลไว้ อย่าทำให้เสียใจ ต้องมีการพิสูจน์ให้เห็น หลักฐานทางเทคโนโลยีทันสมัยช่วยท่านได้ แต่ท่านอาจจะมองข้าม วงจรปิด-เปิด นำเป็นหลักฐานได้ วีดีโอ บันทึกเสียงก็ได้ หากท่านไม่เชื่อด้วยหลักฐานก็เป็นเรื่องของคุณไสย์หรือสิ่งลึกลับแล้ว ในเรื่องหลังนี้ ให้โทร ปรึกษา อาจารย์สมบูรณ์ได้ครับ เพียงบอกชื่อ นามสกุลให้ถูกต้อง แล้วสอบถามท่าน ท่านสามารถช่วยได้ ไม่เสียค่าครูใด ๆ ทั้งสิ้น ที่เบอร์ 08-3370-7994 สายอาจแน่นไปนะครับ ของฟรี มีปัญหาใด ๆ สอบถามได้เลย ทำง่าย ๆ จนคนไม่เชื่อ ผู้ที่มีประสบการณ์จากท่านแล้ว ติดต่อแนะนำมาตลอดครับ สำหรับผม เป็นเพียงกระบอกข่าวสำหรับการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่ทุกข์ร้อนใจเท่านั้นครับ (08-5017-8198 ) สาธุ สาธุ สาธุ
     
  6. Mr.Lawrence

    Mr.Lawrence เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,520
    ค่าพลัง:
    +3,542
    อ่านแล้วเห็นใจพี่จังเลย
    พี่คงเครียดมากมากแน่นอน...
    แต่ว่ามันก็เป็นความไม่เข้าใจสั่งสม ๆ มานานๆๆ
    อีกอย่างคนงานเหล่านั้นก็เอาใจแม่พี่เก่งจัง ( ผู้ใหญ่ก็ชอบคนเอาใจซะด้วย )
    อันที่จริงปัญหาสั่งสมมาตั้งแต่การใช้ระบบอุปถัมป์รับคนเข้ามาทำงานแล้วนะค่ะ
    แล้วจะดูแลกันยังไงละทีนี้ วุ่นวายไปใหญ่
    อีกทั้งยังวางใจคนผิดอีก

    แฮ่...

    แต่ๆๆๆพี่อย่าคิดมากเลยน๊า
    แม้เราจะกังวลไป แต่หากแก้ไขด้วยตัวเราเองไม่ได้ก็คงต้องปล่อย

    ความคิดเห็นส่วนตัว เวลาที่ผ่านมา11ปีเพียงพอที่จะทำให้พี่มั่นใจในตัวแฟนแล้วว่า
    จะอยู่เคียงข้างกันและช่วยงานกันต่อไป ๆๆๆ
    เค้าเห็นด้วยหากพี่จะแต่งงาน/จดทะเบียนสมรส
    แม้จะไม่ได้ถามความคิดเห็นจากแม่ก็ตามเพราะถ้าถามแม่ก็คงไม่ยอมแน่เลย
    เท่าที่อ่านมา
    ดูเหมือนคุณพ่อจะไม่ทราบปัญหาที่เกิดขึ้น
    ลองเอาไปคุยกับคุณพ่อดูดีไหม๊คะ ??

    เพราะแม่กับน้องก็ต้องฟังพ่อแม่นอน
    (คิดว่างั้นนะ )
    :z1

    สุดท้ายเป็นกำลังใจให้พี่ค่ะ
    สู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
     
  7. ยอดยาหยี

    ยอดยาหยี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    576
    ค่าพลัง:
    +2,697
    ควรจะจดทะเบียนสมรสให้ถูกต้องค่ะ

    ส่วนพ่อแม่น้องสาวก้อควรดูอยู่ห่าง ๆ อย่างเป็นห่วง

    ตอนนี้ให้อยู่เงียบอย่าได้ไปยุ่งวุ่นวายเลยค่ะ เดี๋ยวท่านจะคิดมากเพิ่มขึ้นอีก

    เมื่อถึงเวลาท่านมาขอให้ช่วยเราก้อช่วยตามที่เราช่วยได้ค่ะ

    แนะนำได้แค่นี้ค่ะ ไม่รุ้จะดีหรือป่าว
     
  8. noolegza

    noolegza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    1,032
    ค่าพลัง:
    +3,844
    ที่่อ่านมาเห็นชอบกับ เคส พี่หมีพู เรื่อง ใช้เทคโนโลยี เข้าช่วย เช่นกล้องวงจรปิด ซึ่งคาดว่าน่าจะมีอยู่แล้ว แต่เพิ่มในบางจุด พวกมุมอับ ตู้อาหาร หรือจุดที่คาดว่าพวกลูกจ้างจะไปมั่วสุมกันในเวลางาน

    ------------------------------------------------------------
    กับของคุณที่คาดผม - คือ บอกคุณพ่อคุณให้ทราบเรื่องต่างๆด้วยครับ แต่ต้องทำใจว่า
    บ้านแทบแตกแน่ๆ เพราะแม่คุณต้องคิดว่าคุณกับแฟน ไปฟ้องแน่ๆ แต่ต้องทำคับ
    ดีกว่ามาให้ธุรกิจเจ๊ง

    ------------------------------------------------------------------------
    1. สมควรรีบดำเนินการจดทะเบียนอย่างยิ่ง เป็นการให้เกียรติแฟนคุณ และครอบครัว เขาด้วยนะ การจดทะเบียน ไปจดก่อนแล้วค่อยมาบอกคับ คุณโตแล้วนะ เป็นหัวหน้า
    ครอบครัวด้วย เรื่องแค่นี้ไม่ต้องถามพ่อ แม่หรอก ยิ่งอยู่กันมานานแล้วด้วย ถ้าเป็น
    จัดงานแต่งก็ว่าไปอย่าง

    2. เรื่องธุรกิจ มี 2 กรณี
    - หักดิบ บอกคุณพ่อ ให้จัดการขั้นเด็ดขาด เพราะคุณกับแฟน ทำไม่ได้แน่ เดี๋ยว
    โดนลูกหลงอีก ต้องยอมคับ ลงทุนมาเยอะแล้ว ตัดเลือดเสียออกคับ
    - ปล่อยไปตามกรรม ในกรณีที่คุณบอกทุกอย่างแล้ว และไม่มีใครเชื่อ ก็ทำไรไม่ได้
    แล้วคับ กรรมจัดสรรคับ คุณทำหน้าที่บุตรที่ดีที่สุดแล้ว เจ๊งก็ดีคับ กลับบ้านไปพักผ่อน
    จะให้ผู้ใหญ่ยอมรับผิด ยากคับ

    3. การประสานรอยร้าว
    สวดมนต์ นั่งสมาธิ อุทิศบุญให้ท่านคับ เรื่องจะชวนกันไปทำบุญ ตักบาตร ด้วยกันนี่
    แทบเป็นไปไม่ได้ ขนาดแค่หน้ายังไม่อยากจะมองกันเลย ถ้าเขาไม่ไว้ใจลูก ลองแนะนำ
    คนอื่นที่มีความสามารถให้แทนสิคับ ( แต่ท่าจะยาก )

    4. ทำใจ ทำใจ และทำใจคับ
    ทุกสิ่งย่อมมีเหตุของมันเอง ใครก่อคนนั้นรับคับ รับแทนกันไม่ได้ ตอนนี้คุณก็คอยดู
    อยู่ห่างๆ ช่วยเท่าที่พอช่วยได้ ลองดำเนินการตามนั้นดูก่อน
    หวังว่าคุณและครอบครัวคงผ่านวันเวลาเหล่านี้ไปได้คับ โชคดี
     

แชร์หน้านี้

Loading...