ใช่นิมิตรหรือเปล่า

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย เวิ้งว้าง, 3 สิงหาคม 2010.

  1. เวิ้งว้าง

    เวิ้งว้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +177
    ขอถามผู้รู้หน่อยคะว่าถ้านั่งสมาธิแล้วจิตเรากำลังนึกถึงพระอยู่ และสักพักก็เห็นภาพ (เห็นแต่มือท่านกับมือเรา) ว่าท่านกำลังส่งของอะไรบางอย่างให้เราเป็นลูกกลม ๆ ใสๆ ขณะนั้นมีสติรู้ตัวอยู่ตลอดเวลา

    อยากเรียนถามว่า
    1. ภาพที่เห็นนี้คือนิมิตรใช่หรือไม่ และมีความหมายอะไรหรือเปล่า
    2. นิมิตรต่างกับความฝันอย่างไร

    รบกวนท่านผู้รู้ช่วยชี้แนะด้วยค่ะ
     
  2. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
  3. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,207
    ค่าพลัง:
    +3,123
    ไม่ใช่ผู้รู้ค่ะ ภาพที่เกิดในสมาธิ ถือว่าไม่ได้สำคัญอะไรเลย
    ไม่ได้ถือเป็นสาระสำคัญ การทำสมาธิก็เพื่อให้เราได้รู้กาย รู้ใจเราชัดค่ะ
    นิมิตร คือ สิ่งที่ถูกปรุงแต่ง
    ไม่ต่างอะไร กับความฝัน เท่าไรหรอก
    หากนั่งสมาธิแล้วหลับ ก็ฝันหรือเห็นนิมิตรได้

    เราอาจเข้าใจว่าเราได้สติตลอดเวลาใช่ไหมคะ ก็เวลาเรานอนหลับเราก็ฝันได้เหมือนกัน
    บางทีความฝัน ก็ชัดมากเลยเราแยกไม่ออกว่ากำลังฝัน
    จะพิศูนย์ได้ว่าเรามีสติไหม ก็คือ ลองบังคับมือเราดูมันเห็นไหม ร่างกายเราบังคับได้ไหม
     
  4. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    1. เป็น นิมิต

    2. ฝัน เอาไว้ พยากรณ์อื่นๆ เช่น ตัวเลข งานการ ความรัก ฯลฯ
    นิมิต เอาไว้ พยากรณ์ตัวเอง เช่น ตอนนี้หนูถึง....แล้วหรือยังค่ะ ตอนนี้หนูเป็น....แล้วไหมค่ะ ฯ

    แต่ทั้ง ฝัน และ นิมิต รวมแล้วเรียกว่า จิตยังมีโหรเอก คือ อาศัยความคิด
    ภายนอกมาเป็นที่พึ่ง

    หากจิตบริสุทธิก็จะไม่ต้องมีโหรเอก กล่าวคือ สามารถยืนยันสิ่งที่เห็นอยู่รู้อยู่ได้
    ด้วยตัวจิตโดดๆ ไม่ต้องบัญญติ อาศัยเครืองรู้(นิมิต)อื่นใด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 สิงหาคม 2010
  5. รู้รู้ไป

    รู้รู้ไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    951
    ค่าพลัง:
    +3,165
    ท่านทั้งหลายกล่าวมาถูกแล้ว
    1.ใช่เมื่อเรียกว่านิมิต มีความหมายว่า เมื่อนั้นมีนิมิตอยู่ เมื่อนี้ไม่มีนิมิต
    2.ต่างเมื่อเรียกว่านิมิต เมื่อเรียกว่าฝัน
    ผู้รู้ รู้อยู่ในกายในใจตน ในปัจจุบัน ผู้รู้ก็จะชี้แนะตนต่อไป
     
  6. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,458
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,011
    ฝากอันนี้ให้คุณ เวิ้งว้าง อ่านเเละฟัง เเล้วกัน ปฏิบัติตามได้ในสิ่งที่อ่านเเละฟังเลยครับเเล้วทุกอย่างจะดีเอง เจริญในธรรมครับ

    วิธีนั่งสมาธิขั้นเบื้องต้นของหลวงพ่อฤาษีลิงดํา

    http://www.palungjit.org/smati/books/index.php?cat=420

    อุปสรรคและวิธีแก้ไขในการทำสมาธิ

    http://www.buddhism-online.org/board...hp?topic=891.0

    ชั้นของสมาธิ ( ฟังกันหลงเรื่องนิมิตในสมาธิ )

    http://palungjit.org/threads/%E0%B...8%B4.1589/
     
  7. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    นิมิตนั้น มีสติ กำกับเต็มบริบูรณ์

    ส่วนความฝันนั้นสติไม่เต็ม ถ้าสติมากหน่อยก็จำความฝันได้แม่นยำ ถ้าสติน้อยลงมาก็จำไม่ได้เลย

    นิมิตกับความฝัน จึงแตกต่างกันที่ความเต็มของสติ
     
  8. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ปรกติ เมื่อ สติ เต็มบริบูรณ์

    ย่อมไม่มีผู้อื่นเข้ามาชี้นำให้เราเห็น นิมิต อย่างใจเขา

    มันก็เหมือน คุณไสย หาก เรามี สติ บริบูรณ์ สติจะเป็นเครื่องกั้น
    ไม่ให้โดนบังคับบัญชาไปตามคำสั่งของเขา

    ดังนั้น

    นิมิต ของบุคคลบางจำพวก จะปรารภว่า มีสติ บริบูรณ์ไม่ได้

    * * * *

    กรณี ความฝัน หลวงตามหาบัวเคยปรารภว่า อรหันต์ก็ยังมีความฝัน

    ดังนั้น

    คนมีความฝัน จะปรารภว่า คนนั้น สติพร่องอยู่ ก็ไม่ได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 สิงหาคม 2010
  9. เทพสำราญ

    เทพสำราญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    308
    ค่าพลัง:
    +888
    หากเทพเจ้าหรือเทวดาต่างๆจะบอกลางดีหรือลางร้า้ย(สื่อสารกับมนุษย์) ท่านมักใช้ วิธีการหลากหลายและวิเศษเหนือใจเราคาดหมายเสมอ นิมิตและความฝันการดลใจ เป็นอีกวิธีหนึ่ง
    ที่ท่านทรงใช้ติดต่อให้พรและบอกให้ทราบถึงสิ่งต่างๆกับมนุษย์ หากนิมิตว่าได้เห็นดวงแก้วแสดงว่าสิ่งที่ท่านนึกฝัน
    จะเป็นจริงได้ในไม่ช้านั่นเอง.........
     
  10. เต้าเจี้ยว

    เต้าเจี้ยว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2008
    โพสต์:
    956
    ค่าพลัง:
    +1,697
    อยากเรียนถามว่า

    1. ภาพที่เห็นนี้คือนิมิตรใช่หรือไม่ และมีความหมายอะไรหรือเปล่า
    อาจเป็นนิมิต หรือคิดไปเองก็ได้ค่ะ เช่นเวลาเราคิดเรื่องอะไรอยู่สักเรื่องหรือคิดนิยาย เราก็ต้องคิดภาพคิดอะไรขึ้นมาด้วย เป็นนิมิตที่สร้างเองซึ่งต้องใช้สมาธิระดับหนึ่ง

    2. นิมิตรต่างกับความฝันอย่างไร
    นิมิตรที่เกิดจากฌานสมาธิ ต่างจากความฝัน
    ความฝันแม้นกายหลับแต่จิตยังทำงานอาจเก็บเอาสัญญาความจำไปปรุงเป็นเรื่องเป็นราวฟุ้งไป บางทีก็จำอะไรไม่ได้ตอนตื่น
    แต่นิมิตที่เกิดในสมาธินั้น เกิดเพราะแม้นจะมีสมาธิแต่ยังมีสติไม่สมบูรณ์ เวลาได้ยินสติไม่สมบูรณ์ไม่ใช่สติน้อยนะ เพราะที่จริงคนเราตอนที่ตื่นอยู่ก็ใช่ว่ามีสติสมบูรณ์ คนส่วนใหญ่ขาดสติ เวลาถูกกระทบทางอารมณ์ก็จะเกิดโลภะโทสะโมหะอย่างรวดเร็ว คนที่หมั่นเจริญสติเสมอๆ จึงต่างจากคนทั่วไป คือมีความระลึกรู้ตัวมากกว่า รับรู้สิ่งที่มากระทบได้ตามจริงมากกว่า ไม่อคติหรือเอาแต่ปรุงคิดไปเอง มีความจดจำระลึกรู้ได้ดีกว่า
    .. ในนิมิตนั้น แม้นจะอยู่ในสมาธิแต่ยังขาดสติอยู่บ้างจึงมีนิมิตเกิดขึ้น จะเป็นเพราะจิตเข้าไปรู้เห็นอะไรหรือเตลิดไปในสัญญาที่ยังมีอยู่ภายในจิตเองเช่นอดีตอนาคต ถามว่าทำไมรู้อนาคต ก็อาจจะเพราะกรรมส่วนหนึ่งพร้อมที่จะเกิดขึ้นแล้ว หรือเป็นวิถีจิตอื่นหลุดเข้ามากระทบติดต่อ ฯลฯ ..
    ซึ่งนิมิตแบบนี้จะชัดเจนและส่วนใหญ่จะมีความหมาย แต่พวกอุปาทานมาก จิตก็ยังเข้าไปปรุงแต่งมาก ก็จะเป็นนิมิตฟุ้งไปด้วยแม้นภาพจะชัดเพราะกำลังสมาธิแต่ก็เชื่อถือไม่ค่อยได้ค่ะ

    :boo:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 สิงหาคม 2010

แชร์หน้านี้

Loading...