กัณหาชาลี ชูชก และนางมัทรี กลับชาติมาเกิดเป็นใครครับ

คือว่าโรงเรียนผมติดกับวัด ผมและเพื่อน ๆ จึงมีโอกาสเรียนพระพุทธศาสนากับพระอาจารย์ พระอาจารย์ท่านก็สั่งการบ้านว่า ให้ไปหา กัณหาชาลี ชูชก และนางมัทรี กลับชาติมาเกิดเป็นใคร ท่านใดที่รู้ช่วยบอกด้วยครับ

คือผมพึ่งสมัครสมาชิกเป็นครั้งแรกครับ

 

ชูชก เกิดเป็น พระเทวท้ต (ด้วยอธิษฐานจองเวรพระพุทธเจ้ามานับชาติไม่ถ้วน)

กัณหา เกิดเป็น พระอุบลวรรณาเถรี (ภิกษุณี) และ เป็นอัครมหาสาวกฝ่ายภิกษุณีผู้มีฤทธิ์มาก

ชาติที่เป็นกัณหา พระเวสสันดรต้องการมอบกัณหาพระกุมารีนี้ให้แก่ชูชก กันหากับชารีรู้เข้าจึงหนีลงไปซ้อนในสระบัว ตอนนั้น กัณหาคิดว่าพ่อ พระเวสสันดรไม่รักถึงจะมอบตนให้กับชูชก จึงอธิษฐานจิตตอนที่ซ้อนอยู่สระบัวว่า ในเมื่อพ่อไม่รักจะไม่ขอเกิดเป็นลูกพ่ออีก ต่อมาในชาติสุดท้ายของทุกคน ท่านจึงไม่ได้เกิดเป็นพระกุมารีของเจ้าชายสิทธัตถะ ดังนั้นเจ้าชายสิทธัตถะจึงมีพระโอสรพระองค์เดียว คือ ชาลี

ชาลี เกิด เป็น พระราหุล ต่อมาได้ออกบวช และ สำเร็จเป็นพระอรหันต์

พระนางมัทรี เกิดเป็น พระนางพิมพา อัครมเหสีของเจ้าชายสิทธัตถะ

ปล ถึง น้องเจ้าของกระทู้

เราสามารถค้นข้อมูลต่าง ๆ ได้ โดยการค้นหาทางเน็ตด้วยการพิมพ์ข้อความที่ต้องการค้นหา ลงในช่อง search ของ google หรือ yahoo หรือ บนเว็บอื่น ๆ ก็จะเจอคำตอบนะครับ

 

ขอบคุณมาก ๆ ครับ

ปล คือผมก็คิดว่า ควรพึ่งตนเองก่อนที่จะพึ่งคนอื่น แต่ผมก็ลอง ค้นหาใน google แล้วครับ แต่หาไม่เจอครับ

แต่ก็ต้องขอบคุณ คุณ หาธรรมด้วยครับ

 

นั่นคงเป็นกุศลโลบายของพระอาจารย์ที่สอนต่างหากล่ะ
ที่ให้ศึกษาชาดกประวัติการบำเพ็ญบารมีของพระโพธิสัตว์ จนได้มาตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน

ที่เจ้าของกระทู้ตั้งคำถามนั้น มีอยู่ใน "มหาเวสสันดรชาดก" อยู่ในอรรถกถาจารย์

ก็ลองศึกษาดูในเวบ 84,000 พระธรรมขันธ์ มีอยู่ใน มหานิบาตชาดก​

 

น้องเจ้าของกระทู้ ถ้าสงสัยอะไรก็เข้ามาซักถามพี่ ๆ ในเว็บพลังจิตนี้ได้ พาเพื่อน ๆ มาสมัครเป็นสมาชิกด้วยก็ได้ จะได้ช่วยกันศึกษาจดจำพระธรรมคำสอน ช่วยกันสืบทอดและทำนุบำรุงพระศาสนาให้ยาวนานที่สุดเพื่อประโยชน์สุขของคนรุ่นหลัง ๆ ต่อไป

 

ไม่เข้าใจว่าทำไมหลาย ๆ คนยังไปนับถือบูชารูปเหมือนชูชก

พระพุทธเจ้าท่านก็ได้ทรงอธิบายไว้แล้วในพระไตรปิฏกว่า ชูชกได้มาอุบัติเป็นพระเทวทัต ผู้ซึ่งอธิษฐานคอยตามอาฆาตจองล้างจองผลาญพระพุทธเจ้ามานานแล้ว ส่วนนางอมิตดา มาอุบัติเป็นนางจิญจมาณวิกา ผู้ซึ่งใส่ความว่าท้องกับพระพุทธเจ้าสุดท้ายความแตกถูกชาวเมืองสาบแช่ง ทั้งสองคนถูกธรณีสูบปัจจุบันเสวยกรรมอยู่ในอเวจีมหานรกอีกนานแสนนาน ทำไมชาวพุทธบางคนยังไปหลงไหลได้ปลื้มกับบางวัดบางสถานที่ที่มีการจัดทำรูปปั้น รูปเหมือนชูชกกัน แทนที่จะนับถือพระรัตนตรัยอันประกอบด้วย พระพุทธเจ้า พระธรรมและพระอริยสงฆ์ที่เป็นพระสุปฏิปันโน ผู้เป็นเนื้อนาบุญอันประเสริฐ ผู้ปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธองค์ (ส่วนที่เป็นโลกียธรรม พระพุทธองค์ไม่สรรเสริญ ไม่ควรทำ) ควรทำแต่กรรมดี เพื่อให้กรรมชั่วที่เคยสร้างไว้ ตามไม่ทัน ทำแต่สัมมาอาชีพขยันประหยัด ไม่หวังแต่โชคลาภ หวย เจ้าพ่อเจ้าแม่ (โครตพ่อ โครตแม่ มากกว่า) ไม่เข้าใจจริง ๆ.........................

 

อนุโมทนา สาธุ สาธุครับ กับ ความเป็นมาเรื่องการกลับชาติมาเกิด แรงอธิษฐานนั้นแรงจริงๆเลยครับ

 

ครับ ขอบคุณอีกรอบครับ

แต่ว่าพาเพื่อนมาเนี้ย ขอบอกนะครับ เพื่อนผมหลายคนไม่ข่อยสนใจพระพุทธสนาเลยครับ พอพระอาจารย์ท่านสอนก็คุยกัน บ้างก็ไม่สนใจ แต่ผมก็ยังฟังพระอาจารย์ท่านสอนอยู่ครับ
ผมเริ่มสนใจพระพุทธตอนที่ผมเข้าเว็ปหาข่าวอะไรอ่านและเจอความคิดเห็นที่บอกว่า ถ้าไม่ทำอย่างนั้นจะเป็นอย่างนี้ ผมก็กลัว และผมรู้สึกว่าขอสร้างบุญกุศล ก่อนที่จะเป็นอะไรไป ผมนั้น สมาธิ และนั้งทุกวันก่อนนอน ทำให้ผมมีสติ จากนั้น 3 นาที ก็ไป 5 นาที และไป 10 นาที ไม่น่าเชื่อว่า ผมจะเรียนเก่งขึ้น จากที่เกรด 2.5+ เป็น 3.5+ และโรงเรียนผมมีห้องสมุด ผมก็หาเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติอ่าน เป็นการ์ตูนสี่สี อ่านสนุก และมีคำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างชัดเจน บางทีผมอ่านและน้ำตาไหลไม่ใช้เพราะเศร่้านะครับ แต่รู้สึกปิติคำสอนของพระพุทธเจ้า และทำให้ผมสนใจมากขึ้นครับ และแต่ก่อนผมไม่ค่อยชอบเข้าวัด แต่ตอนนี้ผมรู้สึกว่าอยากเข้าเพราะอยากทำบุญครับ

ขอขอบคุณทุกท่านในเว็ปนะครับ

 

สาธุ สาธุ สาธุ ของเก่านะน้อง เคยทำมาในกาลก่อน เพราะการใฝ่ในสมาธิไม่ใช่ของที่เป็นโดยง่าย เกิดมาทำต่อ สักวันหนึ่งเมื่อจิตรวมเป็นสมาธิตั้งมั่น ได้ชิมสรของปิติ ละปิติ รู้แต่สุข เมื่อนั้นรสนี้จะประทับลงจิตแบบไม่รู้ลืมไปทุกภพชาติ เหมือนคนเคยดื่มน้ำอำมฤต ชีวิตนี้หรือชาติไหน ๆ มันจะหวนละลึก และหาทางมาที่บ่อน้ำนี้เพื่อดื่มด่ำรสทิพย์นี้อีก

นี่แหละที่เรียกว่าบุญมากกว่าการถวายโบสถ์วิหารหรือถวายสังฆทานโดยมีพระพุทธเจ้าเป็นประทานเสียอีก

จิตรวมแค่ชั่วเวลาไก่กระพือปีกมีอานิสงส์มากกว่าบวชพระตลอดชีวิตโดยที่รักษาศีล ๒๒๗ ข้อไม่ให้ขาด

แต่การเข้าสมาธิจนจิตรวม (เข้าฌาน) ตลอดชีวิต ยังได้อานิสงส์ไม่เท่ากับรู้เห็นสิ่งต่าง ๆ ตามความเป็นจริง (บรรลุธรรม)

เมื่อรู้วิธีที่ทำสมาธิให้ยิ่งขึ้นไป คราวนี้แหละ มันจะเข้าร่องของทางการปฏิบัติไปสู่มรรคผล

คุณของสมาธิมีอย่างหาประมาณมิได้ เช่น

จิตเป็นสมาธิ สงบร่มเย็น มีสติ เรียนรู้ จดจำ เข้าใจสิ่งต่าง ๆ ได้ง่ายและเร็ว นี่คือเหตุผลที่คนจำนวนไม่น้อยที่ผลการเรียนดีขึ้นแบบก้าวกระโดดหลังจากการฝึกสมาธิเป็นประจำ

สมาธิระดับฌาน (แบบสมาถะ) ทำให้ได้อภิญญา ๕ ได้ฤทธิ์ ตาทิพย์ ระลึกชาติได้ หูทิพย์ รู้จิตคนและสัตว์ มีตาทิพย์รู้เห็นการเกิดการตายของสัตว์ภพต่าง ๆ

ส่วนวิปัสสนาสมาธิ ทำให้เกิดปัญญาญาณรู้เห็นสิ่งต่าง ๆ ตามความเป็นจริง (บรรลุธรรม) เจโตวิมุติ (บรรลุธรรด้วยสมาธิ) และ ปัญญาวิมุติ (บรรลุธรรมด้วยปัญญา) ถึงตรงนี้ก็ถึงที่สุดแล้ว ๆ ก็บรรลุทั้งสองอย่าง

 

ขออนุโมทนากับน้องเจ้าของกระทู้ด้วยนะคะ
ชีวิตมีไว้ให้เราเรียนรู้..เพื่อค้นหาสัจจธรรมแห่งความเป็นตัวตน
และก็ขออนุโมทนากับคำตอบและคำแนะนำของคุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->หาธรรม<!-- google_ad_section_end --> และ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->หัสดี<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3662115", true); </SCRIPT> ด้วยนะคะ
ที่ช่วยกรุณาชี้แนะแนวทางให้กับน้องเจ้าของกระทู้ และบุคคลอื่นที่ยังไม่รู้
ได้เข้าใจได้ศึกษาเรียนรู้เพื่อหนทางที่หลุดพ้นอย่างแท้จริงค่ะ
ขออนุโมทนาสาธุการ สาธุ สาธุ สาธุ

 

ขอขอบพระคุณ คุณหาธรรม นะครับ ที่ช่วยชี้แนะอะไรดีดี ให้กับผม