มาดูสมเด็จกัน

ขอบคุณ คุณwasabi san และคุณ xlmen มากครับ ตอนแรก ผมคิดว่า ไม่ดี แน่ๆแล้ว แต่เห็นพิมพ์ สวยดี แต่ดูเนื้อไม่เคยเห็นแบบนี้ เนื้อแบบนี้เค้าเรียกว่าก้านมะลิ ได้ความรู้อีกแล้ว ครับ

 

โอ....คุณวาซาบิมาได้ทันเวลาจริงๆ ครับ...ช่วงเวลาที่ทัพหน้ากำลังแย่ทัพหลวงมาช่วยทันทุกทีสิครับ 555+
(หลายตาช่วยดูย่อมดีกว่าดูตาเดียวครับ...แต่ต้องราวังนะครับดูไปดูมาเดี๋ยวตาอยู่จะคว้าไปกินฉิบ 555+)

เรื่องพระหูไหเท่าที่ผมทราบก็คือ สมัยก่อนเขาจะนิยมนำพระหูไหไปคล้องคอช้าง เพื่อใช้ในการป้องกันช้างในการรบทัพจับศึก...
แต่จะเป็นพิมพ์คล้ายๆ หลวงพ่อโตวัดบางกระทิง แต่ด้านหลังมีรูเจาะแบบหูไห....

ส่วนกรณีพระพิมพ์แนวย้อนยุคสมัยลพบุรีก็มีเกจิอยู่หลายท่านอยู่เหมือนกันครับที่สร้างพิมพ์แนวนี้ออกมาเช่น...
ลป.บุญ วัดกลางบางแก้ว, ลพ.ถม วัดเชิงท่า ,ลพ.ถิร วัดป่าเลไลย์ เป็นต้น

ส่วนข้อเท็จจริงว่าใครสร้างกันแน่คงต้องค้นคว้ากันต่อไปแหละครับ...หุหุ

 

ขอบคุณคุณ xl men และ คุณ wasabi san มากนะคับ

งั้นมาดูองค์ต่อไปกันคับ

วัดระฆังพิมพ์ฐานแซม

อ้อ อยากรบกวนถามด้วยว่า ทำไงภาพถึงใหญ่ได้อะคับ ผมทำไม่เป็นจิงๆ

 

เรียนท่าน WSBS / XLMAN รบกวนพิจารณาให้ด้วยครับ..
จึงขอรบกวนวิเคาระห์ให้ด้วยครับ
[FONT=&quot]<o></o>[/FONT]

 

รบกวนคุณ wasabi อีกซักคนนะครับ
ขอบคุณคร๊าบ...

 

อูยยยยยย พึ่งจะสังเกตเห็น......ผมก็มีคล้ายๆแบบนี้ ผมก็ดูว่าเป็นบางขุนพรหม พิมพ์ที่4 แต่ของผมไม่มีคราบกรุ ใหม่อีกต่างหาก เลยไม่ได้สนใจ...เก็บบูชาอย่างเดียว....เห็นแบบนี้ ขอลุ้นด้วยคนครับ..
ขอรบกวนวิเคราห็ให้ด้วยนะครับ

 

คุณลูกเจี๊ยบ ลองดูครับ รูปอาจจะไม่ชัด ถ่ายจากกล้องมือถือ
"ลองส่งรูปไม่รู้ว่าจะไปรึเปล่า"

 

ก่อนล้าง...สีขององค์พระเป็น..(แบบนี้ครับ)...

 

โอ๊ยๆ....ดูหน้านี้ได้แค่โพส ท่าน Hammerฯ ใครเป็นเหมือนผมบ้าง

 

เนื้อหามวลสาร ความเก่าค่อนข้างดี เลยลงมาถามดูครับ

 

รบกวนพี่ๆครับ เห็นเนื้อหาเก่าดีมีเสน่ห์ชวนส่อง แต่เสียดายหักซ่อมมา น่าจะเป็นพิมพ์ยอดขุนพลแต่มีสองหน้าครับ รบกวนความเห็นด้วยครับ

 

มาอีกแล้วครับ ก็ต้องรบกวนคุณ wasabi และคุณ xlmen ครับ ช่วยกรุณาวิเคราะห์ให้ผมด้วยครับ ว่าทันยุคท่านไหม ถ้าแท้นะครับ ยินดีน้อมรับข้อคิดเห็นครับ

 

k.wsbsครับ และเพื่อนๆสมาชิกช่วยพิจารณาวัดระฆังร้อยปีว่าใช่หรือเปล่า...ขอบคุณครับ

 

พระของคุณ justapierce<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3710554", true); </SCRIPT>
องค์นี้ภาพใหญ่แต่ไม่ชัด....ผมขอผ่านนะครับ



ต้องขออภัยด้วยครับ....คุณ HAMMERHEAD<!-- google_ad_section_end -->
ผมหาวัดลงให้ไม่ถูกจริงๆ ครับ.....ก็ขอผ่านอีกเช่นกันครับ.....<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3711120", true); </SCRIPT>

 

เอ...คุณวาซาบิได้ตอบคุณ Fox2008 ไปแล้วหนิครับ...ลองดูในกระทู้ที่ #2739 สิครับ....

แต่ถ้าถามผมว่าเนื้อที่มีคราบกลีเซอรีนแบบนี้ผมชอบไหม ?
ตอบ เมื่อหลายปีก่อนผิวเนื้อแบบนี้ผมจะไม่ค่อยชอบเอาซะเลยครับ....แต่พอหลังจากที่ผมได้มารู้จักกับน้ำมันตั่งอิ๋ว...ได้นำมาผสมกับมวลสารกดพระดู
(ผมกับเพื่อนค่อนข้างซนหนะครับ 555+)

ผมจึงได้คำตอบว่าน้ำมันตั่งอิ๋วนั้นถ้าผสมใหม่ๆ กลิ่นของมันจะฉุนแรงมาก (ทิ้งไว้ 2 - 3 ปีกลิ่นยังไม่หมดเลยครับ) แต่จะไม่ออกเหม็นหืน....และถ้าทิ้งไว้นานๆ น้ำมันตั่งอิ๋วจะจับตัวแข็งเป็นก้อน.....

และถ้าทิ้งฝังดินมายาวนานนับร้อยปีหละน้ำมันตั่งอิ๋วมันจะเป็นอย่างไรหละครับ ?
คำตอบมีให้เห็นอยู่แล้วครับในพระกรุเจดีย์เล็ก....น้ำมันตั่งอิ๋วในกรุนี้จะเกิดการลอยตัวขึ้นมาบนผิวพระเกิดเป็นคราบไขมัน และมีกลิ่นเหม็นหืนอันเป็นกลิ่นธรรมชาติของไขมันที่เก่าก็จะต้องเหม็นหืนเป็นธรรมดาครับ.....

ซึ่งต่างกับกลิ่นของสบู่กรดมาก....การเกาะยึดของตั่งอิ๋วถึงจะกลายเป็นไขขาวจับผิวพระก็ล้างออกยากมาก...ซึ่งต่างจากสบู่กรดอย่างเห็นได้ชัดเจน...

ผลที่ตามมาของพระกรุที่เกิดคราบไขขาวก็คือ...
ผิวเนื้อจะผุมากเนื่องจากน้ำมันตั่งอิ๋วได้สูญเสียประสิทธิภาพในการยึดเกาะมวลสารไปแล้ว....ดังนั้นผิวเนื้อพระชุดนี้จึงผุมาก...บางองค์ถึงกับระเบิดเองก็มีครับ....

ดังนั้น คุณ Fox2008 อย่าได้กังวลใจไปเลยครับ....พระไม่ว่าจะกรุไหนแท้หรือไม่มันไม่สำคัญหรอกครับ.....สำคัญคือ เราหนะชอบท่านหรือเปล่า ?

ถ้าเราชอบก็ห้อยคอ...แค่นี้เอง....ส่วนคำวินิจฉัยนั้นก็เป็นเพียงการแชร์ประสบการณ์ของแต่ละท่าน...
แต่คำตัดสินนั้นต้องอยู่ที่คุณ Fox2008 เองครับที่จะตัดสินใจห้อยท่านดี หรือไม่ห้อยท่านดี....หุหุหุ

-----------------------------------------------
ปล. ถ้าไม่ชอบยกให้ผมเถอะคร๊าบบบ.....อิอิ

 

พระของคุณ bikarn<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3715830", true); </SCRIPT>
องค์นี้ผมไม่ทราบจริงๆ ครับว่าออกวัดไหน ?.....
ผิวเนื้อดูเก่าดีเหมือนกันครับ....ติดตรงที่ด้านข้างออกจะบวมๆ ไปนิด....
ถ้าให้สันนิษฐานก็อาจจะเป็น ลป.นาค หรือไม่ก็เกจิท่านอื่นแหละครับ....หุหุหุ

 

พระของคุณอังคาร 99 องค์นี้ทีแรกที่มองระยะไกลเรียนตามตรงครับว่าผมเห็นแล้วยี้เลยครับ...หุหุหุ

แต่พอได้เปิดรูปเข้าไปยลโฉมแล้ว....บอกได้คำเดียวว่า "เนียนนนนน....มากกกกครับ"

เห็นแล้วผมกลัวขึ้นมาทันที....สาเหตุที่กลัวก็คือ....
กลัวว่าถ้าเป็นพระจำลองพิมพ์แล้วทำเนื้อได้แบบนี้ผมว่าน่ากลัวมากนะครับคุณอังคาร 555+

เริ่มจากพิมพ์เป็นพิมพ์ฐานแซมที่ผมยังไม่เคยเห็นมาก่อนครับ...
เส้นสังฆาฎิและเส้นจีวรรัดอกชัดมาก...ศิลปะการแกะพิมพ์เหมือนหลวงสิทธิ์มาก....

ส่วนเนื้อเป็นปูนเปลือกหอยดิบ...บดละเอียดมาก น่าจะผ่านการร่อนมาอย่างดี...ผิวหนึกนุ่ม ใส ซึ้งตาดีแท้....

มวลสารเกสรดอกไม้ตรึมเลยครับ...ผงดำมีผงพุทธคุณในเนื้อพระเยอะโคตรๆ.....
จะติดก็ตรงที่ทำไมเกสรดอกไม้ถึงยังดูสดอยู่เท่านั้นครับ....(หรือน้ำอ้อยเคี่ยวจะทำให้เกสรดอกไม้แลดูสดทนนานหนอ...หุหุหุ)

ตัวประสานเนื้อองค์นี้ใช้ปูนเปลือกหอย + ผงข้าวสุก + น้ำอ้อยเคี่ยว
ที่สำคัญมากก็คือ มีผงพุทธคุณผุดขึ้นมาใหม่บริเวณซุ้มผ่าหวายเกือบจะตลอดเส้น....แหมะดูเป็นธรรมชาติดีจริงๆ ครับ....

นี่ขนาดพระโดนล้างมาหนักมากผิวเนื้อยังหลงเหลือความเก่าให้เห็น...องค์นี้ถือว่าสุดยอดมากครับ......

ว่าแต่ไปจิ้กพระใครเขามาหรือครับคุณอังคาร 555+

 

ถ้าจะตีเป็นวัดระฆัง ๑๐๐ ปี ผมว่าองค์นี้ยังแปลกๆ ตาอยู่นะครับ....
แหมะเสียดายผมไม่สันทัดพิมพ์นี้ซะด้วย....เดี่ยวคงต้องรอคุณวาซาบิซังมาช่วยดูอีกเช่นเคยครับ...หุหุหุ

 

เรียรคุณ WSBS, คุณXLMAN

ขอรบกวนอีกองค์นะครับ
องค์นี้ผมดูมวลสารแล้วจะมีหนักไปทางมีเม็ดกล้วยเยอะอ่ะครับ...แต่ความเก่า ซุ้มหวายการม้วนพอใช้ได้ ส่วน พิมพ์ทรง ดูแปลกๆ ยิ่งด้านหลัง มีเม็ดขนาดเขื่องอีกและอีกหลายจุด
เช่นตรงฐานชั้นที่2 ฐานสิงห์ฝั่งซ้ายองค์พระรู้สึกจะคมและพริ้วไป พระเศียร และ คอ ท่าน ดูแปลกๆครับ ขอบด้านขวาองค์พระเหมือนจะมีรอยซ้อนกัน ไม่รู้แบบนี้จะแท้ไหมครับ

ขอรบกวนด้วยนะครับ

 

ตอบคุณอังคาร99

ผมว่าดูดีนะ....ส่วนอีกองค์นั้นมวลสารพวกเกสรยังดูแห้งกว่าองค์แรก.....
ถ้าจะให้ตีเป็น % ก็ต้องบอกว่า ดูดี 80% ส่วนอีก 20% คือ ความสงสัยครับ.....