หลวงปู่ศรี มหาวีโร วัดป่ากุง จ.ร้อยเอ็ด

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย Specialized, 28 กรกฎาคม 2010.

  1. เส้นเล็ก

    เส้นเล็ก Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2010
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +96
  2. Agri_07

    Agri_07 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    1,000
    ค่าพลัง:
    +1,250

    สวยแจ่มครับท่าน :cool::cool::cool::cool::cool:
     
  3. Dragon_king

    Dragon_king เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2009
    โพสต์:
    730
    ค่าพลัง:
    +1,388
    [​IMG]

    รุ่นนี้ ออกเมื่อไร ที่ไหน ใครทราบบ้างครับ รุ่นนี้พระอาจารย์สมปอง ท่านให้ผมมา
     
  4. kennek

    kennek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,163
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +17,236
    เท่าที่ทราบมา รูปลักษณ์หลวงปู่ท่ายืนอุ้มบาตร ออกครั้งแรกรุ่นรวยรับทรัพย์ปี 2550 ครับ

    หลวงปู่บอกให้เอาบาตรไว้ด้านหน้า จะได้รับทรัพย์
     
  5. kennek

    kennek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,163
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +17,236

    หลวงปู่ศรีเทศน์สอนผีปู่หลุบเจ้าแห่งผี

    [​IMG]

    (ใต้หินเป็นที่ฉันจังหันของหลวงปู่ และทรมานยายเลิง)


    หลวงปู่ศรีท่านเมตตาเล่าเรื่องนี้ไว้ว่า..
    ...แถบภูเก้า อำเภอโนนสังข์ จังหวัดหนองบัวลำภู ผีปู่หลุบซึ่งเป็นเจ้าแห่งผี (ผีปู่หลุบ
    คือ ผีตาโบ๋ ดวงตาเท่ากับดวงไฟรถยนต์และตานั้นก็โบ๋เข้าข้างใน) เขามีอาณาเขตปกครองผี
    ทั้งหมดตั้งแต่ภูเก้าถึงภูพานคำ เมื่อมีพระกรรมฐานเที่ยวไปในแถบเมืองเขานี้ ผีปู่หลุบก็มัก

    จะทดลองภูมิจิตภูมิธรรมทันที

    ณ ถ้ำหามต่าง บ้านวังมนต์ พอพระเข้ามาอยู่ เขาก็มาทดลองทันที ถ้าจิตเราไม่ถึง
    เขาจะไล่หนีไม่ให้อยู่
    มีหญิงคนหนึ่งชื่อว่า "ยายเลิง" เป็นนางเทียม(ร่างทรง) ของผีปู่หลุบ
    ผีปู่หลุบเมื่อเข้าสิงแล้วทางเทียมพูดว่า "เฮ้ย! พระมาอยู่นั่นไม่ใช่พระหรอก ผ้าเหลืองห่อตอ
    เฉยๆ ไล่หนีซะอย่าไปใส่บาตรให้มันกินนะ"
    นางเทียมใช้วาจาเบียดเบียนพระอย่างนี้บ่อยๆ
    พระบางองค์ไม่ได้ฉันข้าว พระบางองค์ถูกไล่หนี เพราะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ บางองค์ถูก
    ยายเลิงที่ผีปู่หลุบเข้าสิง ออกปากจะเตะจะต่อย เพราะพระเหล่านั้นมีความไม่ดี ผีเขารู้
    จะไปคุยโม้ว่า ตัวดีไม่ได้ ผีเขารู้จิตใจหมดแล้ว นี่ต้องเอาพลังจิตสู้

    ถ้าเรามีพลังจิตจะมาแบบไหนไม่กลัว พอพระจะเทศน์เมื่อไหร่ เขา(ผีปู่หลุบ) จะเทศน์
    ก่อนทันที พระเทศน์บาลี เขาก็แปลไปได้เลย พระเทศน์สู่เขาไม่ได้สักที เลยมาอ้อนวอน
    เราว่า "ครูบาอาจารย์ครับ... ช่วยหน่อยเถอะ จะเทศน์ทีไรเขาเทศน์ก่อนทุกที"ตลอดพรรษา
    ไม่ได้เทศน์สักที อีกองค์หนึ่งสิบเอ็ดพรรษาก็เทศน์ไม่ได้ เขาเทศน์ก่อนทุกที

    เราก็เลยว่า "เออ!... แบบนี้อยากเจอเหมือนกัน" พอถึงวันพระมีคนมามาก พอฉันจังหัน
    แล้วเราก็เทศน์ทรมานหนักๆเลย เมื่อเทศน์เสร็จเราจึงถามยายเลิง(ร่างทรงผีปู่หลุบ)ว่า
    "องค์
    ที่นั่งอยู่ตรงนี้จิตใจเป็นยังไง?"
    (หมายถึง องค์หลวงปู่เอง) แกก็บอกว่า "องค์ที่นั่งอยู่นี่ดีมาก
    สมบูรณ์พูดผลไปเสียทุกสิ่งทุกอย่าง อยากได้อะไรก็ได้ อยากได้เงินได้ทอง ไหเงิน ไหทอง
    ทุกอย่างได้หมด ถ้าอยากได้ ฉันจะบอกวิธีให้"


    เราก็บอกว่า "ทรัพย์ในดินสินในน้ำซึ่งเป็นสมบัตินอกกายเหล่านั้น เราไม่ปรารถนาหรอก
    เพราะเรามีทรัพย์ภายใน คืออริยทรัพย์ที่พระพุทธเจ้าทรงอบรมสั่งสอน ซึ่งเป็นของที่ดีกว่า
    เลิศกว่า ประเสริฐกว่า โจรมารที่ไหน ก็ขโมยฉกลักเอาไปไม่ได้ ไม่ต้องเอามาขุดฝังซุก
    ซ่อนหรือฝากธนาคาร เป็นเปรตผีบ้าเฝ้าขุมทรัพย์นั้นเลย คนที่มีหลักใจเป็นหลักทรัพย์รวย
    สมบัติ คือความดีอยู่ทุกลมหายใจเข้าออก ไม่จนตรอกไม่มีจน ส่วนคนที่ถือมั่นยึดมั่นบ้าสมบัติว่า
    นั่นก็ของๆเรา นั่นก็สมบัติข้าวของ เงินทอง ลูกเมีย วัวควาย ที่ดิน ไร่นา กาไก่ อะไรๆ
    ในโลกนี้ทั้งหมดทั้งที่เป็นของตนและทั้งที่มิใช่ของตน ก็ตู่เอาว่าเป็นของๆเรา ใจมันร้อนอยู่
    อย่างนั้นตลอด

    โยมเอ๋ย... อย่าว่าแต่สิ่งเหล่านั้นมิใช่ของๆเราเลย ร่างกายเราแท้ๆ มันยังไม่ใช่ของๆ
    เรา สุดท้ายก็จำต้องทิ้งเป็นเถ้าถ่านไปด้วยกันทั้งนั้น กุศลธรรมคือความดีต่างหาก ที่เป็นที่
    พึ่งที่ถาวรแก่เราได้ อย่างอื่นหลอกลวงต้มตุ๋นเราให้เปลืองตัวเสียเวลา นอนเพ้อฝันบ้าบออยู่
    ในหม้อนรกทั้งนั้นแหละ สำหรับพระแล้วจะเคลื่อนที่สมบัติเงินทองข้าวของที่เป็นสมบัติของ
    แผ่นดินไม่ได้ มันผิดพระธรรมวินัย ท่านปรับอาบัติ"


    เมื่อยายเลิงได้ฟังธรรมเทศนาตั้งแต่สามโมงเช้าจนกระทั่งบ่ายนี้แล้ว ใจยอมสยบใน
    ธรรม แกลุกขึ้นนั่งท่าเทพพนมกราบแล้วกราบเล่า กราบไปมือข้างหนึ่งก็ปาดน้ำตาที่นอง
    หน้าไปร้องไห้ซิกๆ แล้วก็เป็นผู้สงบเสงี่ยมนั่งนิ่ง เหมือนสัตว์ร้ายถูกทรมานให้หายพยศ
    แถมยังถูกฝึกให้ใช้งานได้ตามปรารถนา มันจะดูและน่าสงสารสักปานใด

    คนทั้งหลายเห็นแกนั่งนิ่งนานสองนานไม่กระดุกกระดิก เหมือนตอไม้ที่ตายแล้ว ต่าง
    พากันหามแกลงจากภูเขากลับบ้าน เพราะกลัวแกจะตาย

    ตั้งแต่นั้นมายายเลิงมาศึกษากับเราทุกๆวันพระ มาศึกษาเรื่องจิตเรื่องใจ แกจะคุยกับ
    ผีเจ้าที่ได้ และรู้เรื่องจิตใจของคนอื่นหมด พระองค์ไหนจิตใจเป็นอย่างไรแกรู้หมด

    หลังจากนั้นคนละแวกนั้นจึงเกิดศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างจริงจัง เปลี่ยนจากหน้า
    มือเป็นหลังมือ รู้จักทำบุญตักบาตร ไหว้พระสวดมนต์
    ซึ่งแต่ก่อนพระไปบิณฑบาตได้แต่
    ข้าวเปล่าๆ มาบัดนี้ บางวันก็ได้กล้วยลูกหนึ่งบ้าง ได้ปราร้าห่อหมกบ้าง ได้ห่อหมกเขียด
    ตะปาดบ้าง บางวันโชคดีหน่อย ก็ได้น้ำพริกแจ่วเข่อ ที่เรียกว่า "แจ่วเข่อ" คือเขาทำจากข่า
    แห้งหั่นโขกคลุกใส่พริก บางวันก็ได้ถั่วลิสง ได้น้ำอ้อยหนึ่งก้อน ได้กล้วยดิบ เรานั่ง
    พิจารณาฉันบนก้อนหิน ส่วนพระ(อาจารย์ทองอินทร์)นั่งข้างล่าง มีอะไรก็ฉันแค่นั้น อาหาร
    การฉันเพียงแค่นี้ก็ถือว่าบริบูรณ์มากแล้วในสายตาของธรรม

    แถบนี้ในสมัยนั้นยังเห็นช้างอยู่มาก ช้างมันจะมาเล่าน้ำ เวลาจะใช้น้ำก็ต้องรอจนน้ำใส
    บางทีฉันข้าวต้องปีนขึ้นไปฉันบนก้อนหิน เพราะช้างมันมาก่อกวน เราได้พักอยู่ที่ภูเก้านี้เป็น
    เวลา ๒ เดือนกว่า

    (เรียบเรียงจากหนังสือ พระศรี มหาวีโร พระผู้มากด้วยบุญบารมี)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • zux^js]6[.jpg
      zux^js]6[.jpg
      ขนาดไฟล์:
      90.6 KB
      เปิดดู:
      4,270
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กันยายน 2010
  6. 15 ค่ำ

    15 ค่ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,108
    ค่าพลัง:
    +10,575
    สวัสดียามสายๆครับคุณบอย สวัสดียามสายๆครับทุกท่าน ^ ^
     
  7. domeokung

    domeokung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    211
    ค่าพลัง:
    +704
    *** คุณพระช่วย! แต่ละคนมีแต่ แจ่มๆ งามๆ สวยๆ ชัดๆ และข้อมูลแน่นปึก ...มาโชว์กันทั้งน๊านนน สุดยอดจริงๆขอรับท่าน ***
    :cool::cool:;ปรบมือ
     
  8. 15 ค่ำ

    15 ค่ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,108
    ค่าพลัง:
    +10,575
    สวัสดียามสายๆครับคุณบอย สวัสดียามสายๆครับทุกท่าน ^ ^
     
  9. Norragate

    Norragate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    19,518
    ค่าพลัง:
    +37,735
    พระสวยๆทั้งนั้นเลยครับ..(^_^)
     
  10. Tomahawk4

    Tomahawk4 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +241
    ขอสวัสดีด้วยคนครับ.....น้องใหม่...
     
  11. Natthakorn

    Natthakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,003
    ค่าพลัง:
    +7,078
    กราบน้อมน้อมหลวงปู่ศรีด้วยความเคารพครับ

    แต่ละคนมีแต่เด็ดๆทั้งนั้นเลยนะครับ สงเคราะห์เด้กน้อยตาดำอย่างผมบ้างนะครับ
    หุหุ
    เคน หลังจากกลับมาจากทริป รู้สึกจะปลื้มหลวงปู่มากยิ่งกว่าเดิมนะครับ
     
  12. Natthakorn

    Natthakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,003
    ค่าพลัง:
    +7,078
    อนุโมทนากับทุกท่านที่ศรัทธาในองค์หลวงปู่ฯ
    ^^
     
  13. อาละดิน

    อาละดิน สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +20
    กราบนมัสการหลวงปู่ด้วยคน เคยได้ฟังหลวงปู่สรวง สิริปุณโญ เล่าเรื่องไปเมืองนรก สวรรค์ มีอยู่ตอนนึงกล่าวถึงวิมานหลังใหญ่ของหลวงปู่ศรีด้วยครับ
    ส่วนวัตถุมงคลที่มีอยู่ก็เท่านี้เอง ตอนแรกยังไม่มั่นใจว่าพระที่สร้างหลังจากปี50 นั้นหลวงปู่ท่านอฐิษฐานจิตหรือไม่ ตอนนี้ต้องหาเก็บบ้างแล้ว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1107.jpg
      IMG_1107.jpg
      ขนาดไฟล์:
      87.5 KB
      เปิดดู:
      237
    • IMG_1108.jpg
      IMG_1108.jpg
      ขนาดไฟล์:
      64.2 KB
      เปิดดู:
      239
    • IMG.JPG
      IMG.JPG
      ขนาดไฟล์:
      68.7 KB
      เปิดดู:
      218
    • IMGA.JPG
      IMGA.JPG
      ขนาดไฟล์:
      74.1 KB
      เปิดดู:
      220
  14. kennek

    kennek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,163
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +17,236
    อ้าวรุ่งพระขรรค์นี่เอง

    อย่างนี้ไม่ต้องสงเคราะห์หรอก ที่เก็บพระหลวงปู่ศรีจะไม่พออยู่แล้วมั้งเนี่ย หุหุ

    ปลื้มมากกว่าเดิมแน่นอน ได้ยิน ได้ฟัง ได้รับรู้เรื่องราวมา เล่าไปไม่จบไม่สิ้น
    ยิ่งตอนไป คนข้างๆเล่าให้ฟัง เรื่องหลังไมค์เพียบ 55555
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กันยายน 2010
  15. Natthakorn

    Natthakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,003
    ค่าพลัง:
    +7,078
    โห คุณเคนไม่เล่าให้ผมฟังบ้างนะครับ ผมมีไม่เยอะหรอกแค่หลักพัน (เกินไปแล้ว)พูดให้คนอยากได้ หุหุ
    ผมพูดเล่นนะครับ^^
     
  16. kennek

    kennek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,163
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +17,236
    เรื่องมีไม่ค่อยเยอะหรอก ส่วนมากรุ่งก็คงรู้หมดแล้วมั้ง มีข่าวคราวอะไรเกี่ยวกับหลวงปู่ อย่าลืมเจ้งกันบ้างเน้อ

    [​IMG] ดิสเพลรูปนี้เจ๋งจริง ถ่ายกับเจดีย์หิน วัดป่ากุง :cool:
     
  17. Dragon_king

    Dragon_king เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2009
    โพสต์:
    730
    ค่าพลัง:
    +1,388
    ทุกคน มีกันเยอะ แบ่งปันผม บ้างก็ได้ครับ ขอบคุณไว้ล่วงหน้าเลยครับ
     
  18. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,155
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,359
    ช่วงนี้กระทู้คึกคักดีจริงๆ
    ขอเชิญพี่ๆน้องๆที่ศรัทธาในองค์หลวงปู่มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ความรู้กันมากๆนะครับผม ^^"
     
  19. kennek

    kennek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,163
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +17,236

    เทพขอฟังธรรม




    [​IMG]

    (สระน้ำขนาดใหญ่ที่ผาน้ำย้อย)



    ท่านเล่าว่าทุกครั้งที่มาเจริญวิปัสสนาที่เขาผาน้ำย้อยยังมีพวกกายทิพย์ เทพ พรหม
    อันเป็นภพภูมิเบื้องบนมาปรากฏให้เห็นเสมอ บางท่านมาขอฟังธรรม บางท่านมาแสดงฤทธิ์
    ให้เห็นประจักษ์ถึงบุญญาภิสมภาร และบางท่านแสดงการจุติคือการอุบัติเกิดและวิบัติ
    แห่งเทพยดา
    เป็นจุตินิมิต ให้ทราบล่วงหน้า เทพนั้นถึงคราวจะวิบัติ ย่อมมีเหตุอาเพศ
    วิปริตเป็นนิมิตเตือนล่วงหน้า คือ ย่อมเห็นดอกไม้ทิพย์เครื่องประดับสำหรับองค์อันอยู่ใน
    วิมานของตนเหี่ยวแห้งและไม่หอม ผ้าทิพย์ก็เศร้าหมอง ไม้รุ่งเรืองสดใส เมื่อถึงกาลวิบัติ
    เทพที่เคยสุขรื่นเริงบันเทิงใจด้วยการเสวยทิพยสมบัติ แต่เมื่อถึงคราวจะพลัดพราก ก็หา
    ความสุขทิพยสมบัติมิได้ อาสนะที่แท่นบรรทมอันแสนสุขก็ร้อนลุกเป็นไฟภายใน กอยของ
    เทพนั้น ย่อมเหี่ยวแห้งเศร้าหมองลง หารัศมีดังก่อนมิได้ ให้เหน็ดเหนื่อยเมื่อยเนื้อตัวตีนมือ
    มีความกระวนกระวายใจ

    เมื่อนิมิตปรากฏเตือนเทพที่หมดบุญที่จะเสวยดังนี้แล้ว เทพยดาทั้งหลายที่รักใคร่กัน
    เทพนารีที่เป็นบาทบริจาริกาสุดที่รักดังดวงใจทั้งใกล้ทั้งไกล ย่อมไปมาหาสู่ตลอดทั้ง ๗ วัน
    ให้เกิดความโศกศัลย์ทุกข์โทมนัสนักหนา ต่างร้องไห้ต่อหน้าแล้วสะอึกสะอื้นด้วยคำว่า
    "เมื่อท่านขุติไปแล้ว ขอจงได้กลับมาเกิดในวิมานอันแสนสำราญนี้เถิด" เมื่อเทพนั้นตายจากเทวโลก
    ไป แม้แต่เกศาสักเส้นหนึ่งก็ไม่เหลือปรากฏ หายวับไปหมดสิ้น และจักไปอุบัติบังเกิด
    ในถิ่นใดนั้น ก็สุดแต่บุญบาปกรรมของเทพยดานั้นจักชักนำไป นี้ แสดงให้เห็นถึงความ
    ไม่แน่นอนว่าแม้ในสรวงสวรรค์วิมานชั้นฟ้าที่ผู้คนปรารถนากันนักหนานั้น ก็ตกอยู่ในกฏ
    ไตรลักษณ์ คือไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มิใช่ตัวตน


    บางครั้งภพภูมิเบื้องต่ำมีภูตผี สัตว์นรก ชั้นนิรยภูมิ เปรต อสุรกาย เป็นต้น ก็มาปรากฏให้เห็น
    ด้วยการแสดงผลแห่งกรรมชั่วอันเผ็ดร้อนให้ปรากฏเสวยทุกขเวทนาอันร้ายกาจ ผ่านปีเดือนอัน
    ยาวนานเห็นแล้วก็ทำให้เข็ดหลาบในการทำความชั่ว อยากขยันหมั่นสร้างความดี เพราะมนุษย์
    มัวเมาบันเทิงสุขในโลกมนุษย์เพียงเล็กน้อย เผลอใจไปทำความชั่วนิดหน่อย เมื่อกายแตกดับ
    กลับไปตกนรกหมดไหม้นานแสนนาน


    (เรียบเรียงจากหนังสือ พระศรี มหาวีโร พระผู้มากด้วยบุญบารมี)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กันยายน 2010
  20. มหานอกวัด

    มหานอกวัด Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +51
    ผมเคยไปมาแล้วสองครั้งครับผม เป็นงานสร้างที่ยิ่งใหญ่มาก
     

แชร์หน้านี้

Loading...