10 style ที่ผู้หญิงชอบทำจนผู้ชายร้องยี้

ถ้าอยากเป็น แม่ของลูก ใครสักคนในอนาคต นี่คือ 10 ข้อห้ามที่คุณต้องรู้​

​

1.ตามแฟชั่นจนไม่เป็นตัวของตัวเอง
การที่พอจะรู้เรื่องแฟชั่นบ้างก็เป็นเรื่องที่น่ายกย่องดี
แต่ถ้าเห็นเขาทำอะไรก็ตามจนท้ายที่สุดจบด้วยการเป็นเลดี้กาก้า
รับรองได้ว่าชายที่คุณน้องหมายตาจะผมร่วงกราว


2.ดูเหมือนคนติดยา

ก็เข้าใจว่าอยากเซอร์ อยากซูเปอร์โมเดล อยากมิลาน อยากชิค
แต่ถ้าคุณน้องพ่นควันปุ๋ยๆเยี่ยงคนในวงการ อันนี้ก็จะไม่งามนะจ้ะ
แถมไม่พออาจทำให้สุขภาพเสียป่วยเปลี้ยอัปลักษณ์อีกด้วย


3.ทำผิวแทนปลอมๆ
สาวไทยที่รู้ว่าไม่สามารถทำตัวให้เกี่ยวเนื่องไปกับกระแสเกาหลีได้
ก็อาจตัดช่องน้อยแต่พอตัวด้วยการอาบแดดไปด้วย หาสามีฝรั่งไปด้วย
ก็ต้องขอชมเชยในการอยากนำเงินเข้าประเทศ
แต่ไม่ได้แปลว่าผู้คนเขาจะชอบผิวบ่มแดดด้วยโลชั่นปลอมๆนะจ๊ะ พยายามสวยด้วยชาติกำเนิดตัวเองจะดูเจริญกว่า


4.รอยสัก
การเป็นสาวเท่ห์มีรอยสักคูลๆก็โอสำหรับชายแนวเดียวกัน
แต่ถ้าอยากเปิดตลาดให้กว้างกว่านี้ การสักเจาะหลากรูจะทำให้ชายบ้านๆขวัญผวาได้
คิดดูดีๆก่อนตัดสินใจนะ


5.ลายเสือดาว
ลึกๆแล้วผู้ชายก็อยากได้แฟนที่ดูเรียบร้อยหงุมหงิม
ถึงปากจะบอกว่ารักในความเป็นตัวเอง แต่ท้ายที่สุดแล้วผู้ชายก็ยังกดกะปิเพศหญิงดั่งเทียนไขที่ฉาบกลิ่นอายเคย เค็ม
ลายสิงห์สาราสัตว์อาจจะดูเก๋ในวงการแฟชั่น
แต่ในเรื่องความเป็นแม่ของลูก ต้องกดกะปิตัวเองไว้ให้มั่นอย่าให้ชายจับได้เชียว


6.ไม่ยอมโกนขนให้เรียบร้อย
ถึงแม้ว่าจะป่วยหนักหรือขี้เกียจขนาดไหน แต่ผู้ชายก็หวังที่จะเห็นเราในสภาพร่างที่งดงามที่สุด
เพราะฉะนั้นก็อย่ากลายร่างเป็นชะนีมีขนให้เขาตกใจ
ผู้ชายไม่ได้เป็นทาร์ซานทุกคนนะจ๊ะ


7.ไว้ผมสั้นมากๆ
ผมสั้นอาจดูดีสำหรับคนบางคนอย่างเช่นวิคตอเรีย เบคแฮม
หรือว่าก้อย รัชวิน แต่ถ้ารู้ว่าร่างที่สิงกับจิตวิญญาณที่อยากซอยสั้นไม่ได้ไปด้วยกัน
อาจจบท้ายด้วยการเป็นเลสเบียนขับสิบล้อ ฟังดูไม่เซ็กซี่ใช่ไหมล่ะ
ผู้ชายก็คิดแบบนั้นแหละ


8.บิ๊กอายส์
ก็อยากตาโต ก็อยากขนตายาว ก็อยากสวย
แต่ขอบอกว่าบรรทัดฐานในความงามของผู้ชายกับผู้หญิงไม่เท่ากัน
อย่าคิดว่าความงามแบบคอสเพลย์จะมีชายที่ไหนเข้าใจ
เก็บบิกอายส์ไว้ใส่กรี๊ดๆกับเพื่อนสาวดีกว่า


9.ลิปสติกสีแดง
ปัจจัยในการจะดูแย่กับลิปสติกสีแดงมีอยู่สามข้อ
หนึ่งดูเหมือนโสเภณีถ้าแต่งไม่เป็น สองลิปสติกชอบไปเลอะฟันหน้าโดยที่ไม่รู้ตัว
สามผู้ชายไม่กล้าจูบเพราะกลัวว่าจะกลายเป็นละเลงหน้าเค้กใส่กัน.. จบข่าว


10.ชุดโป๊ๆ
อันนี้ไม่ต้องอธิบายมาก แน่นอนว่าผู้ชายชอบ
แต่ว่าไม่มีผู้ชายที่ไหนอยากให้แฟนตัวเองแต่งตัวโป๊ๆ
(ก็เพราะรู้ว่าผู้ชายอื่นก็ชอบไง) แต่งสวยได้แต่ห้ามเซ็ก<!--end--end--end-->



ที่มา : www.dek-d.com/board/view.php?id=1903456]10 style

 

อุ่ย!!!!!!...


แบบนั้นก็จะกลายเป็นผู้หญิงใน อุดมอคติ ของผู้ชายนะสิค๊าา
:z1

บรึ๋ยยยยยยย ( น่ากัววววววว )

 

ไม่แน่นะคะน้องฮั้ว
อาจมีคุณผู้ชายบางท่านชอบของแปลกน่ะนะ
ว่ามั้ยคะคุณฟอร์ด​

 

ไม่จรี๊งงง ไม่จริงงงง สาวเศรษฐศาสตร์หยั่งอิชั้นขอค้านหลังชนฝา!!!!!!!!!!!!!!!!!!

<DD>อ่านดูแล้ว เราว่าข้อ 1 กับข้อ 2 เป็นเหตุผลที่ดีมากๆ เลยอ่ะ ก็สูบบุหรี่ก็ไม่ดีกับสุขภาพอยู่แล้ว อย่าทำๆ แล้วก็ตามแฟชั่นมากเกินไปก็เป็นการเพิ่มรายจ่ายโดยใช่เหตุด้วย เป็นการใช้เงินที่มีอยู่อย่างเกิดประโยชน์ต่ำสุดสุด (ไม่คุ้มค่าเงินที่เสียไปนี่หว่า!!!)

ข้อสุดท้าย แต่งตัวเซ็กซี่ ชุดโป๊ๆ อันนี้ดิฉันก้เหนด้วยค่ะ ว่าผู้หญิงเราไม่จำเป็นอย่าเปิดเผยเนื้อหนังมากเกินไปก็จะดีนะคะ ผู้หญิงที่มีเสน่ห์จริงๆ น่ะ เธอเลือกที่จะเปิดเผยเนื้อหนังบางส่วนหรือไม่ก็แต่งตัวมิดชิดไปเลย แล้วเธอก็จะสร้างเสน่ห์ด้วยภาษากาย รอยยิ้ม และคำพูดแทน ส่วนผู้หญิงสวยประเภทของเล่น เธอจะแหวกหน้าแหวกหลัง กระโปรงสั้นจู๋ ถอดแบบมาจากหนังปลุกใจเสือป่าเลยนะคะ (จากหนังสือ ผู้หญิงร้าย ผู้ชายรัก ของ Sheryl Argov แปลโดย กาละแมร์ พัชรศรี เบ็ญจมาศ)

แต่เราว่าตั้งแต่ข้อ 4 เป็นต้นไปนะ เราว่าเป็นการสนับสนุนให้ผู้หญิงทำตัวเป็นหมาพุดเดิ้ลกระโดดลอดบ่วงของผู้ชายมา กไปรึเปล่าา เราว่าถ้าผู้หญิงปฏิบัติตามนี้แล้วมันจะดูแบบว่าผู้ชายจะกลายเป็นเจ้าชีวิตผู้ห ญิงไปเลยอ่ะ เราว่ามันไม่ยุติธรรมกับผู้หญิงนะ อะ เราจะเจาะให้ดูเป็นข้อๆ เลย

ข้อ 6 'ไม่ยอมโกนขนให้เรียบร้อย' เราว่าประโยคนี้มันดูเผด็จการกับผู้หญิงมากเลยนะรู้มั้ย บางคนก้มีเหตุผลส่วนตัวที่ผู้ชาย หรือคุณๆ คนอื่นในสังคมต้องรับฟังให้ขึ้น ลองนึกสภาพถ้าคุณคนเขียนเป็นไข้เลือดออก กำลังนอนรอให้เลือดอยู่ที่โรงพยาบาลงี้ จะลุกมาโกนไหวหรอขนน่ะ รึแขนหักเงี้ย หรือบางคนแพ้มีดโกน แพ้โลหะ มันมีนะจะบอกให้ หัดใช้ตรรกะคิดดูซะบ้าง งี้เกิดบางคนโดนไฟลวก ผิวหนังชั้นนอกไม่มี โกนขนไม่ได้ งี้ไม่เท่ากับสั่งประหารชีวิตเค้าด้วยบรรทัดฐานข้อนี้เลยเหรอ

ข้อที่เกี่ยวกับการแต่งตัวอย่าง 4 5 7 8 9 ดิฉันว่า มันช่างตรงข้ามกับหนังสือ "ผู้หญิงร้าย ผู้ชายรัก" ของ Sheryl Argov โดยสิ้นเชิงเลยนะคะ( หนังสือดีมากๆ แนะนำให้สาวๆ ไปหาอ่านดู เป็นถึง Best Seller เลยนะเนี่ย) คุณผู้หญิงทั้งหลายคะ ถ้าคุณชอบทาลิปสีแดง ชอบไว้รอยสัก ชอบใส่ลายเสือ บิ๊กอาย คุณอย่าได้ทำหัวอ่อนยอมศิโรราบ ทิ้งความเป็นตัวของตัวเองด้วยการ 'เลิก' ทำสิ่งที่คุณชอบเหล่านี้ เพียงเพื่อให้ผู้ชายปลื้ม มาค่ะ ดิฉันจะยกตัวอย่าง dialogue เด็ดๆ เหล่านี้ให้ฟังนะคะ สาวๆ อ่าน คงจะได้ข้อคิดดีๆ เพื่อเพิ่มรอยหยักใหตะเองบ้างนะคะ

บทที่ 1.

Guy : ผมว่าลิปสีแดงแบบนี้ มันดูยั่วไปนะ
Girl : งั้นเรา เลิกกันเลยดีกว่าค่ะ (พูดยิ้มๆ ทีเล่นทีจริง) ห้ามอะไรห้ามได้ แต่ห้ามปากแดงงี้ ต้องเลิกค่ะ ;P (โห.... แรงงงงงง...)

บทที่ 2.

Guy : ผมไม่ชอบเล็บสีนี้เลย คุณเลิกทาสีนี้เหอะ
Girl : (หัวเราะ) แผนกรับเรื่องร้องเรียนปิดทำการแล้วนะคะ ต่อไปนี้ถ้าจะร้องเรียนก็เชิญฝากไว้ที่นี่ค่ะ (ชี้นิ้วไปที่ถังขยะ)
**** แล้วสาวคนนั้นก็ยังทาเล็บสีเดิมต่อไป โดยที่หนุ่มของเธอก็ยังรักเธอ หัวปักหัวปำ อย่าง (ยิ่งกว่า) เดิม

เห็นมั้ยละคะคุณสาวๆ การที่คุณกล้าที่จะคงความเป็นตัวของตัวเองไว้นะคะ ทำให้ผู้ชายหลงรักคุณมากกว่าการที่คุณยอมถอนรากถอนโคนตัวเองเพื่อเค้าอีกนะคะ รู้ไว้ด้วย

ถ้าผู้ชายไม่ชอบอะไร แล้วคุณสาวๆ ก็จัดการ "ถอนรากถอนโคน" ตัวเองเพื่อเค้า แบบนี้เค้าก้อจาเหนคุนเป็นนางทาสที่สั่งได้ เค้าจะหมดความนับถือในตัวคุณ เค้าก็จะเข้ามาเป็นเจ้าชีวิตคุณทันที!!!!!!

อ่ะ!!
สักแล้วไง!
ขนเยอะแล้วหนักหัวใคร!!
บิ๊กอาย ผิวแทน ปากแดง แล้วคุณสึกหรอเหรอพ่อตัวดี!!

ฉันเป็นของฉันแบบนี้ รับไม่ได้ ก็ เชิญ!!!!!!!

สิ่งที่ดิฉันอยากให้ผู้หญิงทุกคนเป็นก็คือ พึ่งพาตัวเองได้ ไม่ต้องง้อผู้ชาย คุณไม่ต้องทำงานเป็นซีอีโอเงินเดือนเป็นแสน บางทีคุณขายไข่ปิ้ง คุณก็พึ่งตัวเองได้!!!
ลูกผู้หญิงคะ ต่อแต่นี้ไป ไม่ต้องทำตัวเป็นหมาพุดเดิ้ลให้ผู้ชายหน้าไหนอีกแล้ว จงยืนหยัดขึ้นเพื่อตนเอง ทำสิ่งที่รัก ทำสิ่งที่สบายใจ แล้วคุณก็จะเป็นสาวในฝันของหนุ่มเริ่ดๆ ที่รักคุณจริง ได้ ซักวัน </DD>

 

กด likes


5555

( อุ๊บบ!! ลืมไปไม่ใช่ใน facebook )

 

หนังสือ ผู้หญิงร้าย ผู้ชายรัก ของ Sheryl Argov แปลโดย กาละแมร์ พัชรศรี เบ็ญจมาศ เป็นหนังสือที่อ่านแล้วสนุกมากเลยค่ะ ถึงปรางเป็นคนชอบอ่านหนังสือก้อจริง แต่ไม่ได้สนใจเล่มนี้เพราะมันติดBest Seller ตอนที่ปรางอ่าน ปรางยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเล่มนี้เป็นที่สนใจมาก ก้อตอนนั้นเพื่อนของปรางมานอนค้างที่บ้าน เพื่อนก้อดูทีวีไป แล้วปรางเห็นเค้าเอาหนังสือเล่มนี้มาด้วย ก้อเลยลองเปิดๆอ่านดู ไม่คิดว่าจะสนุกจนชอบ จนต้องไปซื้อมาอ่านเองอย่างละเอียดอีกครั้งนึง......

ถ้ามองเผินๆก้ออาจจะคิดว่าเป็นหนังสือHow to ทั่วไป ที่แนะนำการปฏิบัติตัวของผู้หญิงให้เป็นที่ต้องตาของผู้ชาย แต่ปรางคิดว่า หนังสือเล่มนี้มันสะท้อนความนับถือในตัวเองของผู้หญิง อ่านแล้วรู้เลยว่าคนเขียนเป็นคนมีหัวคิด และเชื่อมั่นในตัวเอง แถมยังแทรกอารมณ์ขันอีกต่างหาก อ่านแล้วนอกจากจะทำให้คิดได้ในหลายๆเรื่องแล้ว ยังคลายเครียดอีกด้วย


พอปรางอ่านจบแล้ว ก้อเลยแนะนำให้เพื่อนสนิทอ่าน แต่พอเค้าเอาไปอ่าน กลับบอกว่าอ่านไม่รู้เรื่อง เพราะมันออกแนวจิตวิทยา!!! ปรางก้อตกใจ แล้วก้อคิดในใจว่าของบางอย่าง มีค่าต่อคนๆนึงแต่กลับไร้ค่ากับอีกคนนึง

ต้องขอบคุณที่คุณสาวเสดสาด เตือนในสิ่งที่ปรางและผู้หญิงหลายๆคนลืมไปแล้ว ว่าในขณะที่เราอยากจะสวยและดูดีเพื่อให้ผู้ชายปลื้ม เราก้อไม่ควรมองข้ามความนับถือในตัวเองและเชื่อมั่นในสิ่งที่ตนเองเป็นและชอบที่จะเป็น ก้อความรักมันจะยั่งยืนได้ยังไง หากเค้าไม่สามารถอยู่กับตัวตนที่เราเป็นจริงๆได้ คนที่สวยและดูดีอยู่ตลอดเวลาน่ะ ไม่มีหรอกค่ะ ผู้หญิงต้องดูแลความงามและสุขภาพของตัวเอง เพราะรักตนเองก่อนเป็นอันดับแรก และเพื่อมารยาทในการเข้าสังคม แต่ต้องไม่ใช่เหตุผลเพราะอยากเป็นที่ชื่นชอบของผู้ชาย

 

10.ชุดโป๊ๆ
อันนี้ไม่ต้องอธิบายมาก แน่นอนว่าผู้ชายชอบ
แต่ว่าไม่มีผู้ชายที่ไหนอยากให้แฟนตัวเองแต่งตัวโป๊ๆ
(ก็เพราะรู้ว่าผู้ชายอื่นก็ชอบไง) แต่งสวยได้แต่ห้ามเซ็ก

ชอบซะด้วยแต่งตัวแบบนี้

 

10 ข้อนี่ ผมว่า โอเคเลยน่ะ ใช่ ๆๆๆๆ

 

ดีใจจังเลยพี่ชยาเห็นด้วยกะนู๋แล้วววววววว
^__________^

 

ไม่โกนก็ได้นะ...แต่"เล็ม"ออกหน่อยก็ยังดี

 

<DD>บทที่ 1.

Guy : ผมว่าลิปสีแดงแบบนี้ มันดูยั่วไปนะ
Girl : งั้นเรา เลิกกันเลยดีกว่าค่ะ (พูดยิ้มๆ ทีเล่นทีจริง) ห้ามอะไรห้ามได้ แต่ห้ามปากแดงงี้ ต้องเลิกค่ะ ;P (โห.... แรงงงงงง...)

บทที่ 2.

Guy : ผมไม่ชอบเล็บสีนี้เลย คุณเลิกทาสีนี้เหอะ
Girl : (หัวเราะ) แผนกรับเรื่องร้องเรียนปิดทำการแล้วนะคะ ต่อไปนี้ถ้าจะร้องเรียนก็เชิญฝากไว้ที่นี่ค่ะ (ชี้นิ้วไปที่ถังขยะ)
**** แล้วสาวคนนั้นก็ยังทาเล็บสีเดิมต่อไป โดยที่หนุ่มของเธอก็ยังรักเธอ หัวปักหัวปำ อย่าง (ยิ่งกว่า) เดิม
</DD>

 

5 5 5 5 5 5 5

..
ชวนคิดถึงส่วนนั้นมากก



อันนี้ถือเป็น case study ค้า .. มันก็ไม่ค่อยน่ามองสักเท่าไหร่อ่ะเนอะ

 

<DD> บทที่ 1.1</DD>

Guy : ผมว่าลิปสีแดงแบบนี้ มันดูยั่วไปนะ
Girl(สวย) : งั้นเรา เลิกกันเลยดีกว่าค่ะ (พูดยิ้มๆ ทีเล่นทีจริง) ห้ามอะไรห้ามได้ แต่ห้ามปากแดงงี้ ต้องเลิกค่ะ ;P (โห.... แรงงงงงง...)
Guy : เอ๊ะแต่จริงๆ ก็ดูน่ารักดีนะ


<DD> บทที่ 1.2</DD>

Guy : ผมว่าลิปสีแดงแบบนี้ มันดูยั่วไปนะ
Girl : งั้นเรา เลิกกันเลยดีกว่าค่ะ (พูดยิ้มๆ ทีเล่นทีจริง) ห้ามอะไรห้ามได้ แต่ห้ามปากแดงงี้ ต้องเลิกค่ะ ;P (โห.... แรงงงงงง...)
Guy : เออ!!! คำก็เลิกสองคำก็เลิก เลิกก็เลิกว่ะ

 

ขอขอบคุณ คุณ ที่คาดผม เจ้าของกระทู้มากคร่า.... n_n อิอิ

 

ขอขอบคุณคุณ Jubb คุณที่คาดผม คุณนวลปรางค์ ที่ร่วมอนุโมทนาบุญให้น้องใหม่อย่างอิชั้นค่ะ n_n

 

ปรางว่าจริงๆแล้วทำไปได้ทุกข้อเลยนะ ยกเวันข้อ6

เพราะข้อ6 มันบ่งบอกถึงความสะอาดและสุขลักษณะที่ดี แต่หากจำเป็นจริงๆ

ก้อใส่เสื้อแขนยาวซะสิไม่เห็นจะยากเลยอ่ะ จะใส่เกาะอก-เปิดแขน โชว์คนอื่นทำไมล่ะ

จริงมั้ย?

ส่วนข้ออื่นๆน่ะมันเป็นเรื่องรสนิยมส่วนบุคคลมากกว่านะ ผู้ชายส่วนใหญ่เค้าจะคิดเล็กคิดน้อยกันขนาดนี้เลยหรอ?
นู่นก้อไม่ได้นี่ก้อไม่ได้ งั้นคงต้องให้ผู้ชายเลี้ยงเด็กผู้หญิงไว้สักคนนึงแล้วล่ะ จะได้ปั้นให้เป็นไปในแบบที่ตัวเองต้องการได้

 

ข้อ6 นี่เป็นสัญญาลักษณ์ ของสาวนักอนุรักษ์นิยม GreenPeace

ไม่ทําลายธรรมชาติ ถูกใจหนุ่มน้อยบางคน

 

ว๊า...
แย่แล้ว เราทำลายธรรมชาติแล้วว
ฮือออ ...

 

ไม่ช่าย ไม่ช่าย กลุ่มนี้เป็นกลุ่มใหม่เป็นพวก BlackPeace

 

เหะเหะเหะ แหม ลืมไปจริงๆ ค่ะคุณนวลปราง หนูก็ลืมไปเรื่องขนตรงนั้น คงหมายถึงขนรักแร้สินะคะ ใช่ค่ะ หนูเห็นด้วยค่ะ เพราะการไว้ขนมากๆ จะเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค ไม่ถูกสุขลักษณะที่ดี ไม่มีอนามัยส่วนบุคคล แล้วถ้าใส่เสื้อแขนกุดด้วยก็คงอุจาดตาค่ะ อันนี้เห็นด้วยค่ะ

พอดีว่า หนูเคยอ่านในนิตยาสารเล่มนึง มันมีเรื่องของนางแบบในเมืองนอก ที่มีสื่อถ่ายรูปเค้าตอนใส่ชุดว่ายน้ำแล้วเป็นแบบโกนขนกับไม่โกนขน (อันนี้หมายถึงขนหน้าแข้งกับขนแขนน่ะค่ะ ไม่ใช่ขนรักแร้ คนส่วนใหญ่คงไม่มายกับขนหน้าแข้ง ขนแขนเท่าขนรักแร้ใช่มั้ยคะ) แล้วทีนี้ สื่อมวลชนก็บอกว่าตอนโกนขนแขนขนขาออกแล้วดูดีกว่า แถมยังวิจารณ์นางแบบคนนั้นว่าตอนไว้ขนน่ะดูเป็นผู้หญิงวางอำนาจ ไม่แคร์สังคม แต่พอดีนางแบบคนนั้นเค้าแพ้มีดโกนน่ะค่ะ ถ้าโกนใกล้ผิวมากๆ เค้าจะตุ่มขึ้น เค้าก็เลยโกนไม่ค่อยได้มาก อันนี้นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสตรีในเมืองนอกก็เอาเรื่องสิทธิมนุษยชนเข้ามาจับ บอกว่าการตำหนิเช่นนี้เป็นเรื่องไม่เหมาะสม มันเท่ากับ humiliate นะค่ะ (ขอโทษด้วยจริงๆ นะคะที่นึกคำไทยไม่ออก ขออภัยด้วยค่ะที่หนูไม่ค่อยเก่งภาษาไทย ถ้าใครทราบว่าคำนี้เรียกว่าอย่างไรในภาษาไทยช่วยบอกด้วยก็ดีนะคะ ^-^")

ขอบคุณจริงๆ ค่ะคุณนวลปราง คุณช่วยเปิดมุมมองหนูให้กว้างขึ้นโขเลยค่ะ คุยกับคุณแล้วได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น สนุกมากค่ะ