จะจัดการชีวิตอย่างไรดี ขอคำปรึกษาหน่อยค่ะ

ในห้อง 'ทุกข์และปัญหาชีวิต' ตั้งกระทู้โดย ฑีฆายุกร, 21 กันยายน 2010.

  1. ฑีฆายุกร

    ฑีฆายุกร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2010
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +15
    เบื่อชีวิตค่ะ ชีวิตนี้เหมือนเลือกทางเดินผิด มีใครให้คำปรึกษาได้ ช่วยทีค่ะ ตอนนี้เหมือนจะเป็นบ้าแล้ว คิดแล้วคิดอีก เครียด อยากจะฆ่าตัวตายให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย เรื่องคือ หนูเกิดมา ที่บ้านก็มีฐานะดี เรียนอยู่ในขั้นดีเลย พอจบจากมัธยม 6 ปี 39 สอบที่ไหนก็ติด ตั้งแต่ วิทยาลัยพยาบาล และมหาวิทยาลัย แต่ในขณะนั้นหนูเลือกที่จะเรียนในมหาวิทยาลัยมากกว่าการเป็นพยาบาล เพราะไม่ชอบ เพราะญาติมีแต่เป็นพยาบาล สอบได้สาขาที่คนกำลังนิยม คือคณะอุตสาหกรรมเกษตร พอเรียนจบ ก็มีบริษัทเรียกตัวไปทำงานเลย (ทำงานก่อนเพื่อน) แต่พอทำแล้ว ได้ 5 ปี เริ่มที่จะเบื่อการทำงานในโรงงานอาหาร เงินก็ได้เยอะ แต่งานหนักมาก ตามเงินเดือน จึงลาออก แล้วมาเรียนต่อ (สายสังคม) พอเรียนจบ ก็ทำงานกับอาจารย์ในมหาวิทยาลัย ก็ทำไปตามอัตภาพ พออยู่พอกิน แต่ตอนนี้แม่ที่อยู่ต่างจังหวัดไม่ค่อยสบาย(เจ็บออด ๆ แอดๆ) จึงอยากกลับไปอยู่บ้านต่างจังหวัดดูแลแม่ หาอาหารที่มีประโยชน์ให้แม่ ทำอาหารให้แม่กิน เพราะหนูคิดว่า แม่ไม่รู้จะอยู่กับเรานานแค่ไหน ตอนนี้แม่ก็อายุ 60 กว่าแล้ว ถ้าเราอยู่กับแม่ตอนนี้ ก็ดีกว่าไปดูแลท่านตอนที่ท่านแก่แล้ว แต่มีปัญหาเพราะ พ่อหนู ไม่อยากให้กลับไปอยู่บ้าน เพราะที่บ้านไม่มีงานทำ แต่หนูบอกกับพ่อว่า จะให้หนูทำการเกษตรก็ได้ ความรู้ทางการเกษตรหนูก็มี ทั้งๆ ที่บ้านมีที่ดินเกือบ 300 ไร่ ไม่มีใครดูแล แฟนหนูก็จบเกษตรมา แต่พ่อก็ไม่อยากให้ทำการเกษตร เพราะคิดว่าหนูกับแฟนจะเหนื่อย แต่หนูก็บอกพ่อว่า หนูทำได้ และไม่ได้ทำให้เหนื่อย เราต้องมีการจัดการ แต่เค้าก็ไม่อยากให้เราทำ พ่ออยากให้หนูเป็นข้าราชการ จะได้สบาย (คนบ้านนอกมักคิดว่า ข้าราชการ มีหน้ามีตาทางสังคม) แต่อายุปานนี้แล้ว (ตอนนี้อายุ 32 ) ที่ไหนก็ไม่ค่อยเปิดสอบข้าราชการ ตอนนี้ก้เป็นยาก หนูก็เลยเครียด ทำไมพ่อมาบอกเอาปานนี้ว่าอยากให้หนูเป็นข้าราชการ เมื่อก่อนที่หนูเรียนจบใหม่ๆ เค้าก็ไม่ว่าอย่างไร หนูก็เลยรู้สึกเสียดาย ตอนที่หนูสอบติดพยาบาล ว่าถ้าหนูเลือกเรียน ป่านนี้หนูคงได้อยู่บ้าน กับพ่อกับแม่แล้ว ไม่ต้องไปดิ้นรน ใช้ชีวิตอยู่ในเมือง ยิ่งตอนกลับบ้านเมื่อไหร่ หนูคุยกับพ่อเรื่องที่กลับมาอยู่บ้าน พ่อก็ไม่ให้กลับ เมื่อไหร่ก็ถามว่าจะไปสอบเป็นข้าราชการเมื่อไหร่ หนูก็เลยเบื่อชีวิต ว่าทำไมพ่อหนูไม่เข้าใจหนูเลย พ่อแม่คนอื่นอยากให้ลูกกลับไปสานต่อกิจการ อยากให้ไปดูแล แต่พ่อหนูกลับไม่ จะทำเอาเอง ตอนนี้อายุ เกือบ 70 ยังทำการเกษตรอยู่เลย แล้วจะให้หนูทำงานอยู่แต่ในเมือง ได้เงินเมื่อไหร่ไม่เคยได้เก็บ อยู่ไปเรื่อยๆ บางทีหนูอยากประชดชีวิต ให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย มักจะคิดว่าพ่อไม่รัก ถ้าพ่อรักเราทำไมไม่ให้เรากลับไปอยู่บ้าน ทั้งๆ ที่เราไม่ได้สร้างภาระให้กับเขา หนูจะทำยังไงดีค่ะ จะเป็นลูกกตัญญูแบบไหนดี แบบที่ไปอยู่บ้านเลี้ยงดูพ่อแม่ หรือว่าจะตอบแทนพ่อแม่ โดยการทำงานอยู่ในเมือง เหมือนที่พ่ออยากให้ทำ(ทั้งๆ ที่ไม่มีความสุขเลย)
     
  2. WATSAPORN

    WATSAPORN Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2010
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +76
    จากที่ได้อ่านก็รู้สึกเห็นใจ เราก็เป็นพยาบาลนะเรียนวิทยาลัยพยาบาลในกรุงเทพ จบมาก็อยากอยู่ที่กรุงเทพ อยากทำงานให้ได้เงินเยอะๆไม่อยากกลับไปอยู่ที่บ้าน ถึงขั้นไปเรียนพิเศษตั้งแต่ปี 2 เพราะอยากไปทำงานที่ต่างประเทศ ตอนแรกพ่อแม่ก็ไม่ได้ว่าอะไรส่งเงินให้ไปติวตลอดเสาร์อาทิตย์พอจบมาจะไปสอบแม่ไม่อยากให้ไป...ให้กลับไปอยู่ที่บ้านซึ่งก็ต้องกลับไปใช้ทุนที่บ้านเกิดอยู่แล้ว ตอนนั้นก็สับสนเหมือนกันว่าจะเลือกเงินหรือครอบครัว สุดท้ายก็ได้คำตอบ"เลือกที่จะดูแลพ่อกับแม่" เพราะตลอด 4 ปีที่เรียนอยู่ที่กรุงเทพ เป็นสังคมที่วุ่นวายมาก ถึงเงินเดือนเยอะแค่ไหนก็ไม่พอใช้...แต่อยู่ที่บ้านมีความสุขถึงไม่รวยแต่เราก็อยู่แบบพอเพียง ทำงานเป็นข้าราชการรับใช้พระเจ้าอยู่หัว ทดแทนบ้านเกิด...ความกตัญญูจะทำให้เราได้รับสิ่งดีๆตอบแทนเสมอจ๊ะ ถึงเราอาจจะไม่ได้เป็นพยาบาลที่ทำงานอยู่ที่ต่างประเทศ มีเงินเดือนสูงๆแต่ตอนนี้ที่รพ.ก็มีทุนให้ไปสอบเรียนต่อเป็นแพทย์พอจบกลับมาก็มาอยู่ที่บ้านเหมือนเดิม มันคุ้มกว่ากันมากเลย....
    "พ่อแม่อาจจะเป็นห่วงก็ได้นะค่ะ" ลองปรับความเข้าใจหันหน้าพูดคุยกันถึงข้อดี ข้อเสียไม่มีพ่อแม่คนไหนไม่อยากให้ลูกอยู่ำใกล้ๆนะค่ะ และพ่อกับแม่ก็อยู่กับเราได้ไม่นานตอนนี้เรายังมีโอกาสตอบแทนพระคุณท่าน รีบทำนะค่ะ เงินทองเป็นทรัพย์สมบัติภายนอกหาเมื่อไหร่ก็ได้ แต่พ่อแม่เรามีคนเดียว ซ่อมให้เหมือนเดิมก็ไม่ได้ ดูแลท่านให้ดีที่สุดค่ะ
     
  3. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,294
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    ปรางว่า พี่กับแฟนพี่น่าจะคุยให้คุณพ่อเข้าใจไปเลย อย่าเลือกในสิ่งที่คนอื่นบอกว่าดีสำหรับเรา แต่เราไม่มีความสุขเลยค่ะ(ถึงแม้คนๆนั้นจะเป็นพ่อเรา) และปรางอยากให้กำลังใจพี่ ว่าอย่าไปคิดถึงเรื่องอดีตที่ผ่านมาแล้วเลยนะคะ

    " ทำไมพ่อมาบอกเอาปานนี้ว่าอยากให้หนูเป็นข้าราชการ เมื่อก่อนที่หนูเรียนจบใหม่ๆ เค้าก็ไม่ว่าอย่างไร หนูก็เลยรู้สึกเสียดาย ตอนที่หนูสอบติดพยาบาล ว่าถ้าหนูเลือกเรียน ป่านนี้หนูคงได้อยู่บ้าน กับพ่อกับแม่แล้ว ไม่ต้องไปดิ้นรน ใช้ชีวิตอยู่ในเมือง "

    คิดย้อนไปก้อมีแต่จะทำให้เสียดายและสับสนเปล่าๆ ถึงคุณพ่อไม่เห็นด้วย แต่ถ้าพี่ตัดสินใจจริงๆ คุณพ่อก้อคงห้ามอะไรไม่ได้หรอกค่ะ ทำตัวเป็นเด็กดื้อบ้างก้อดี การเป็นเด็กอยู่ในโอวาทนี่มันเหนื่อยนะคะ แคร์ไปหมด พอพ่อ-แม่พูดอะไรที่ขัดกับความต้องการของตัวเอง แล้วก้อเครียด ปรางก้อเป็นบ่อยๆอ่ะค่ะ แต่หลังๆเริ่มคิดได้ว่าในชีวิตนี้ไม่มีใครมาสุขและทุกข์ไปกับเราหรอกค่ะ ถึงแม้จะเป็นคนในครอบครัวก้อตาม เราต้องรอบคอบและตัดสินใจด้วยตัวเองว่าจะดำเนินชีวิตในทางไหนแน่ที่จะทำให้เรามีความสุขได้อย่างยั่งยืน ถึงแม้ทางที่เลือกอาจจะทำให้ได้ผลตอบแทนเป็นเงินที่ไม่มากก้อตาม
     
  4. natna

    natna เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2010
    โพสต์:
    406
    ค่าพลัง:
    +1,290
    อย่าเครียดค่ะ ตั้งสติให้ดี ๆ อ่านที่ 2 ท่านแนะนำมา แล้วมาประกอบกับตัวเองเอาความตั้งใจของเราเป็นที่ตั้ง เมื่อเราตั้งใจจะทดแทนบุญคุณพ่อแม่ นี่เป็นสิ่งที่ดี สิ่งที่ประเสริฐสุด ๆ แล้วค่ะ ลองคุยกันใหม่พ่อแม่อายุมากแล้วเราเป็นลูกต้องดูแล เอาเหตุผลที่เราตั้งใจและชี้ให้เห็นถึงความเป็นไปได้ และไม่ได้ในการทำงานเพราะเราก็อายุมากขึ้น คุยกันอย่างเปิดใจ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะทำให้เครียดถึงขั้นคิดสั้นนะคะ ชีวิตข้างหน้ายังมีเรื่องอีกมากมายที่เราต้องฝ่าฟันและผ่านไปให้ได้ ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ สู้ ๆๆๆๆ ค่ะ
     
  5. ฑีฆายุกร

    ฑีฆายุกร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2010
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +15
    ขอขอบคุณทุกความเห็นคะ ที่แนะนำในสิ่งที่ดีๆ ให้ ตอนนี้ก็คิดว่าจะกลับไปคุยกับพ่อที่บ้านค่ะ แต่ไม่รู้ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร ก็คงต้องดื้อกับท่านบ้าง เหมือนที่น้องปรางพูด ถ้าไม่ดื้อกับท่าน เราก็จะไม่ได้ทดแทนบุญคุณท่านอีกเลย คงเสียใจไปตลอดค่ะ
     
  6. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,480
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,012
    ไม่มีพ่อเเม่คนไหนที่ไม่รักลูกหรอกครับ เเต่จากที่อ่านเเล้ว ทางคุณพ่อของคุณ ฑีฆายุกร อาจจะมีความคิดที่เเตกต่างไปจากเรา ยังไงควาคิดคนนั้นไม่เหมือนกันอยู่เเล้วครับ ลองมองตัวเราดู เรายังคิดไม่เหมือนคนอื่นเลย เเต่อันนี้ไม่ได้ตําหนิว่าคุณ ฑีฆายุกร คิดไม่ถูกนะครับ เอาจริงๆ ผมสนับสนุนความคิดของคุณ ฑีฆายุกร มากกว่าด้วยซํ้า เเต่อย่างว่าครับ บางที ความหวังดีของผู้ใหญ่นั้นก็ไม่ตรงกับเราเสมอไป ยังไงใจเย็นๆ ตั้งสติก่อนครับ ก่อนอื่นเลย ผมอยากให้คุณ ฑีฆายุกร มาโหลดหนังสือชีวิตเป็นอย่างนี้ไปอ่านให้จบก่อนครับ ลองโหลดเเล้วอ่านให้จบ เผื่อจะคิดอะไรได้กว้างขึ้นกว่าเดิม เอาน่า ลองอ่านดูเเล้วกัน หนังสือเล่มนี้ดีจริงๆครับ เ้วลาผมตันๆทางความคิด อ่านหนังสือเล่มนี้ทีไรก็จะสว่างขึ้นมาทุกทีครับ ใจเย็นๆครับ อ่านให้จบเเล้วหลังจากนั้นคุณ ฑีฆายุกร คิดยังไงเเล้วค่อยปรึกษา่กันอีกทีครับ

    ชวน download หนังสือ "ชีวิตเป็นอย่างนี้" และ "ทำบ้านให้เป็นสุข ...


    ชวน download หนังสือ "ชีวิตเป็นอย่างนี้" และ "ทำบ้านให้เป็นสุข" - Numthang.org อ่านว่า 'นำทาง'

    หากเป็นไปได้ ถ้าทุกวันนี้คุณ ฑีฆายุกร ไม่ได้สวดมนต์ นั่งสมาธิทุกวัน ผมอยากให้คุณ ฑีฆายุกร หันมาปฏิบัติในสิ่งเหล่านี้ครับ เพราะการสวดมนต์เเละนั่งสมาธินั้นจะทําให้เราสงบ มีสติ พอมีสติ ปัญญาที่เเท้จริงก็จะเกิด เวลามีปัญหาเข้ามา เราจะได้รู้ทางเเก้ได้ครับ ปฏิบัติเสร็จก็เเผ่เมตตาไปให้ทุกคนรวมทั้งคุณพ่อของคุณ ฑีฆายุกร ครับ เเล้วทุกอย่างจะดีเองครับ ขอให้อดทนก็เเล้วกันครับ อนุโมทนาครับ
     
  7. @^น้ำใส^@

    @^น้ำใส^@ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    2,330
    ค่าพลัง:
    +4,674
    พ่อแม่มีแค่คนเดียว ดูแลท่านให้ดีที่สุดนะคะ ^^
     
  8. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,294
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    ใช่เลยค่ะคุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->วิิญญาณนิพพาน<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3833622", true); </SCRIPT>

    ก้อเพราะความเห็นต่างกันนี่แหละ ทำให้ไม่เข้าใจกันและไม่ยอมกัน พอคุยกันไม่รู้เรื่องก้อพาลจะทะเลาะกัน ยังไงก้อต้องใจเย็นๆค่อยๆอธิบายและโน้มน้าวให้ท่านเข้าใจก่อน....
     
  9. Vatairat

    Vatairat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,294
    ลองคุยๆกับท่านทั้งสองฝ่ายค่ะ แล้วคุณก็ลองทำธุรกิจอะไรสักอย่างนึงค่ะ คุณมีที่ดินตั้ง 300 ไร่ น่าจะทำฟาร์มหรือไม่ก็สวนผลไม้สักอย่างนะค่ะ ลองๆดูค่ะ
     
  10. ฑีฆายุกร

    ฑีฆายุกร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2010
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +15
    ขอบคุณทุกความเห็นค่ะ ตอนนี้หนูได้คุยกับพ่อเรียบร้อยแล้วค่ะ (ตอนแรกกะว่าจะไม่คุย และจะไม่กลับบ้านตลอดไปแล้ว) พ่ออนุญาตให้กลับไปอยู่ที่บ้านได้ ด้วยความเต็มใจ โดยท่านก็ให้สานต่อกิจการที่บ้าน แต่ช่วงแรกอาจไม่ลงตัว เพราะเพิ่งเริ่มและปรับตัว

    หนูรู้สึกว่า ถ้าหนูตัดสินใจผิดพลาดไป โดยความเห็นแก่ตัวของหนู (ทั้งๆ ที่ไม่ได้คุยกันและท่านไม่รู้เรื่องอะไร) หนูจะรู้สึกผิดมากๆ
    นี่แหละอารมณ์ชั่ววูบของคน ถ้ามีเวลาทันคิดสักนิด คนไม่มีใครเสียใจอยู่ข้างหลังเรา และคงจะเป็นบาปติดตัวเราไปตลอดชีวิต
    หนูเชื่อว่า พ่อแม่ ทุกคนย่อมเข้าใจลูก และหนูสัญญาว่าจะเป็นลูกที่กตัญญูต่อพ่อแม่ตลอดไปค่ะ
     
  11. cheterk

    cheterk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    512
    ค่าพลัง:
    +1,568
    ลองดูรูปสาเหตุและวิธีแก้ดังนี้ครับ
    สาเหตุดูรุป


    แก้กรรม-รู้ทันวิบากกรรม
    http://www.kalyanamitra.org/book/pdf/Rootun.pdf
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 ตุลาคม 2010
  12. Vatairat

    Vatairat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,294
    ดีใจกับคุณเจ้าของกระทู้ด้วยนะค่ะ ในที่สุดคุณก็แก้ปัญหาได้ค่ะ
     
  13. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    300 ไร่ ไปปลูกต้นกระดาษ AAA อะไรนั่นเลย แล้วให้คน หรือแฟนรดน้ำต้นไม้ คอยดูแล ส่วนตัวหนู ก็ย่องเข้า กทม. หางานที่รักทำ เสาร์-อาทิตย์ กลับบ้าน คอยหาเงินค่าจ้างคนรดน้ำช่วยแฟนของหนู แล้วรอเก็บเกี่ยวผลผลิต

    ดีมั้ยคะ

    รับปรึกษาปัญหาอยากฆ่าตัวตาย ด้วยวิธีพิสดาร (เหมือนได้ตายจริงๆ)ติดต่อเจ๊นะ
     
  14. washiravit

    washiravit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    284
    ค่าพลัง:
    +290
    ดีครับ

    มันไม่สำคัญเลยครับ ว่าคุณจะทำงานอะไร ที่ไหน เเต่มันสำคัญมากๆในฐานะมนุษย์คนหนึ่งที่จะปฏิบัติกับพ่อแม่ให้ได้อย่างี่คุณตั้งใจเอาไว้ ตอนนี้คุณคงกำลังหรือได้ไปอยู่บ้านเเล้ว ในเมื่อท่านอาจจะผิดหวังเกี่ยวกับงานของคุณ ก็ไม่เป็นไร คุณสามารถทดเเทนความรู้สึกของท่านได้ด้วยการดูเเลท่านอย่างที่คุณอยากจะทำครับ

    สู้ๆครับ คุณผู้หญิง
     
  15. กรรมพันธ์

    กรรมพันธ์ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    รู้ว่ามีปัญหา เครียด แต่ไม่เคยคิดอยากฆ่าตัวตาย..

    อยากเขียน และระบายก็เท่านั้นเอง เผื่อจะทำให้รู้สึกสบายใจขึ้น...
    ไม่รู้ช่วงนี้มีอะไรหลายๆๆอย่างเกิดขึ้นกับชีวิตมากมาย ก็หมั่นทำบุญ ไหว้พระ อยากให้มันผ่านไปด้วยดี... เพราะไม่รู้จะพึ่งอะไรดี หมอดูก็ไปดูหลายสำนักแล้วยิ่งดูก็กลับมาเราก็ต้องเผชิญกับชีวิตจริงที่เป็นอยู่ บอกตรงๆนะ ไม่อยากเป็นแบบนี้เลย
    ใครมั้ยเวลาทุกข์ และเครียดไม่อยากทำอะไรเลย อยากอยู่แบบสงบๆๆ อยากอยู่คนเดียว ยิ่งเราเล่าให้คนอื่นฟังมันไม่จบไม่สิ้น จึงทำให้เราคิดว่าต่อไปนี้เราจะไม่เล่าระบายให้ใครฟังอีกแล้ว เราเขียนแล้วก็จบดีกว่า
    เข้าเรื่องเครียดของเราดีกว่า เราเป็นเจ้าของโรงงานขนาดเล็ก... เราไม่ชำนาญการในการทำเท่าไรนัก เพราะเราทำต่อจากแม่ เมื่อไม่นานมานี้เอง เราได้ซื้อวัตถุดิบเข้ามาทำในราคาเกือบล้าน เราก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าเรากล้าขนาดนั้นเลยหรือ ทั้งๆๆที่เรายังอ่านเกมไม่ขาด เรากลัวไม่มีของทำ และพอเค้าตกลงขายให้เรา เรามาดูสินค้าอีกที ปรากฎว่าสินค้ามันไม่สมกับราคาที่เราซื้อไป ดูเหมือนมันจะ..... เราไม่อยากพูดคำนั้นเลยเราไม่กล้าพูด ไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้นเลย เราเครียดมากเลย การทำธุรกิจมันเสี่ยงมากจริงๆๆนะ หลังจากนั้นเราก็คิดกับตัวเราว่า ต่อไปนี้เราจะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว เราจะทำพอดีตัว. อ้อแล้ววันนี้ลูกน้องก็ลาออกไม่ทำอีกแล้ว เราเครียดมากๆๆเลยตอนนี้
    เรื่องที่สองก็คงหนีไม่พ้นเรื่องหนี้ที่ตามมา เพราะตอนนี้เราเป็นหนี้แม่เกือบ 2 ล้าน โดยไม่รู้ชะตาชีวิตว่าเราจะขายของได้เท่าไหร่ เครียดมากๆๆๆ
    เรื่องที่สามก็เป็นเรื่องการเงิน เราไม่มีเงินเหลือในบัญชีเลย เราไม่เคยไม่มีเงินแบบนี้เลย จะหยิบจะจับอะไรก็ไม่ได้
    เรื่องที่สี่เรื่องครอบครัว เรามีลูกชาย 1 คน เราเลี้ยงเค้าไปด้วยและก็ทำงานไปด้วย เราเป็นหัวหน้าครอบครัวใช่มั้ย? เพราะแฟนเราไม่เคยช่วยอะไราในครอบครัวเลย มีแต่เราเพียงผู้เดียว ค่าเทอมลูก ค่าหมอเวลาลูกป่วย ค่าขนม ค่าอาหาร ค่าเสื้อผ้า ค่าซักผ้า เงินฝากลูก ประกันลูก แถมมียืมเงินเราด้วย กรรมจริงๆๆ ทุกครั้งที่เรามีปัญหาเรื่องเงินเค้าไม่สามารถช่วยเหลือเราได้เลย ไม่เคยแบ่งเบาภาระเลย และก็มีเรื่องเข้ามาอีกคือรถเค้าจะโดนยึด เค้าต้องหาเงิน ห้าหมื่นเพื่อไปจ่ายค่างวดรถ โทรมาให้เราหาให้ เราไม่อยากช่วยแล้ว เราเบื่อมาก อย่าว่าเราใจดำเลยนะเป็นผัวเมียกันทำมัยไม่ช่วยกัน ครั้งแรกก็จะโดนยึดแบบนี้และ เราก็ช่วยไปนะ แต่เราอ้างว่าเป็นของเพื่อนเรา อีก 2 เดือนก็ไปหาคืนเค้านะ แต่ก็ไม่เป็นแบบนั้นกว่าจะคืนก็ปาเข้าไป 5 เดือน กว่าจะครบ ครั้งที่2 ตกงานมาอยู่กับเราที่บ้าน คชจ.ท่วมหัวเราเลยเพราะต้องผ่อนรถให้เค้าแถมยังคชจ.ส่วนตัวอีกเกือบ 30000 บาท เกือบ 1 ปี ทุกว่านี้สักบาทก็ไม่ใช้คืนเลย และครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่ 3 เราก็เลยบอกว่าให้ไปยืมแม่เราดูนะ ไปคุยกับเค้าเอง เพราะเราไม่มีแล้ว ทำมัยเราต้องมาเจอผู้ชายแบบนี้ด้วยนะ ไม่มีความรับผิดชอบเลย ถ้าเป็นเรานะถ้ารถจะโดนยึดเราไม่ปล่อยให้เป็นแบบนี้หลอก หรือว่าเค้าคิดว่ามีเราอยู่เค้าถึงทำแบบนี้ ยังงัยเราก็ต้องช่วยเค้า แต่โชคดีที่เราต่างคนต่างทำงานเจอกันอาทิตย์ละครั้ง ถ้าอยู่ด้วยกันเราคงปราสาทตายแน่เลย เราไม่อยากมีสามีแบบนี้เลย มีแต่ความเห็นแก่ตัว พูดจาดีทุกอย่างว่าจะให้เมียให้ลูกมีแต่คำพูด ไม่เคยทำเลย เราไม่รู้ว่าครับครัวอืนเค้าเป็นแบบเราหรือเปล่า ผู้หญิงรับผิดชอบครอบครัวหน่ะ ตัวเค้าก็มีงานทำนะ แต่ไม่เคยมีเงินมาจุนเจือเลยอ้างแต่ว่าทำงานกรุงเทพได้หมื่นกว่าบาท...แต่สำหรับเราแล้วขอแค่100 บาทเราก็ชื่นใจแล้ว ถ้าคนคิดจะให้อ่ะ เท่าไร่ก็ดีใจแล้ว ปล. เรามีปมด้วยเรื่องพ่อ พ่อเราไม่ทำงาน แม่เราเป็นผู้นำครอบครัว แม่ก็จะด่าพ่อให้ฟังทุกครั้งที่เค้าเหนื่อย ไม่คิดว่าจะมาตกทอดถึงเราด้วย.... เครียดมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เรื่องนี้
    เรื่องสุดท้ายเราออกรถป้ายแดงมาได้ 2 เดือนวันนี้โดนรถสิบล้อมาชนข้างหลังบุบ แต่โชคดีที่คนไม่เป็นไร แม่เรา กับลูกเรา แต่ทำมั้ยชีวิตมันซวยจัง อือเรื่องหมอดูที่บอกว่าเราไปดูมาเค้าก็บอกว่าเราจะเจอแต่ปัญหา และจะมีคนมาโกงเงินเราอีก แต่ตอนนี้ยังไม่มี แต่เรื่องยุ่งๆๆๆ เค้ามากเยอะแล้ว อย่ามีคนมาโกงเงินเลย เพราะเรามั่นใจว่าเราเป็นคนซื่อสัตย์สุจริต เงินของเราก็บริสุทธิ์ หามาด้วยน้ำพักน้ำแรง สามีคนที่เราอยู่ด้วยคนนี้เราก็คบมาตั้ง 16 ปีโดยที่เราไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับใครเลย นี้แหล่ะคือความซื่อสัตย์สุดยอดของเรา ขออย่าได้มีเรื่องอย่างหลังอีกเลย แค่นี้เราก็เหนื่อยและท้อแท้มากพอแล้ว
    ขอโทษนะที่เขียนยาวมากก็แค่อยากระบายเท่านั้นเอง คงไม่ได้มี
    โอกาสเขียนบ่อยมากนัก เพราะหลังจากนี้ก็ต้องกลับไปแก้ปัญหาชีวิตที่มีอยู่เหมือนเดิม คงหนีมันไม่พ้นเช่นเคย (คิดอีกด้านกับการแก้ปัญหาด้านลบเล่นๆๆเนาะ ของที่ทำอยู่เวลาทำเสร็จแล้วก็ขายตามหน้าของไปเลย ขาดทุนช่างแม่งมัน เงินที่ติดแม่ก็ไว้ก่อนเพราะเป็นของแม่เค้าไม่ทวงนี้เนาะ ส่วนสามีก็เลิกแม่งไปเลยไม่ช่วยทำมาหากิน เอาตัวเองรอดอยู่คนเดียว เวลาเดือดร้อนขอความช่วยเหลือจากเรา แต่เวลาเราเดือนร้อนบอกคำเดียวว่าไม่มี โครตแมนๆๆ อยากเป็นคนแบบนี้จังไม่ต้องคิดไรมาก) โอ้ยเครียดจนหัวแทบระเบิด เมื่อวานก็กินยานอนหลับไปแล้ว... อยากมีใครสักคนคอยให้กำลังใจ ไม่เอาเปรียบกัน พร้อมแ่บ่งปันทุกข์และสุข เราอยากได้คำพูดดีๆๆๆ ความคิดดีๆๆๆ เชื่อมั้ยเราเป็นคนมีเพื่อนน้อยมากเพราะเราเป็นคนตรง พูดจาไม่ค่อยคิด ขี้หงุดหงิด ขี้รำคาญ เราเลยไม่อยากคบเพื่อนมากๆ เพราะเราไม่ชอบความวุ่นวาย แต่ถ้าเราคบเพื่อนคนไหนเราก็จะคบนานๆๆๆ ตอนนี้เรามีเพื่อนสนิทอยู่ 2 คน คบกันมา 30 ปีและ
    ใครที่ได้อ่านเรื่องของเราอาจจะยาวสักหน่อย มีความคิดอะไรอยากบอกเราก็บอกเราได้นะ ขอบคุณล่วงหน้า เราอยากได้ความคิดดีๆๆๆ จากใครสักคน ในยามที่เราทุกข์ สำหรับคำเม้นที่เราได้รับ เราถือว่าคุณคือกัลยาณมิตรที่ดีของเรา ขอบคุณจริงๆๆนะ เมื่อใดที่คุณทุกข์เรายินดีรับฟัง อย่าลืมนึกเราเป็นคนแรกนะ....
     
  16. ชูนุ่น

    ชูนุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    520
    ค่าพลัง:
    +699
    รู้ว่ามีปัญหา เครียด แต่ไม่เคยคิดอยากฆ่าตัวตาย..:cool:

    อ่านแรกๆนึกว่าคุณเป็นผู้ชาย(เข้มแข็งมาก)ความรับผิดชอบสูง ทำงานอย่างกะผู้ชาย สุดยอดมาก :cool:
    อ่านเรื่องราวของคุณ..คล้ายครอบครัวพี่สาวเราเลย ต่างกันตรงที่ สามีเค้าไม่ยอมไปไหนเลย..ไม่ทำงานทำการ มีแต่เพื่อนๆมาคุยโม้โอ้อวดกันทั้งวันที่บ้าน แถมพูดจาหยาบคาย..พี่สาวเรามีลูก3คนเลี้ยงดูเองทั้งหมดทั้งคชจ.ในบ้าน นอกบ้าน..มีเราและแม่เราที่คอยช่วยเหลือ แต่ก็ได้ไม่มาก เพราะเราก็เอาตัวเองไม่ค่อยรอด..ขอเป็นกำลังใจให้คุณกรรมพันธ์นะคะ..เราเข้าใจคุณ ขอให้คุณผ่านปัญหาไปด้วยดี..

    <!-- google_ad_section_end --><HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1>
     

แชร์หน้านี้

Loading...