รักคนมีเจ้าของ

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมนำสุข, 10 ตุลาคม 2010.

  1. ธรรมนำสุข

    ธรรมนำสุข สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    คือมีเรื่องจะถามว่า......

    ตอนนี้หนูกำลังรักอยู่กับคนที่เขามีครอบครัวแล้ว และก็มีลูกแล้วถึงสองคน
    เขารักครอบครัวของเขามาก แต่ก็รักหนูมากพอๆกัน ซึ่งเราทั้งคู่ก็รู้ว่ามันผิดในสิ่งที่ทำอยู่ เราเคยคุยกันว่าจะรักกันไปแบบนี้โดยที่เขาเองก็มีครอบครัวเขาอยู่ หรือให้เขาเลิกกับหนูแล้วกลับไปหาครอบครัวเขา แต่สุดท้ายเราทั้งคู่ก็ทำไม่ได้ ต่างคนต่างยังรักกันอยู่ เราก็เลยกลับมาคบกันอีกครั้ง ซึ่งหนูรุ้สึกว่าหนุขาดเขาไม่ได้ แต่ก็ไม่อยากทำลายครอบครัวของใคร เลยขออยู่เป็นตัวสำรองแบบนี้ ได้รักกันแบบนี้ ซึ่งทางภรรยาของเขาเองก็รู้ แต่ว่าทุกครั้งที่เราอยุ่ต่อหน้าภรรยาของเขา เราทั้งคู่ก้จะทำเหมือนไม่ได้รักไม่ได้สนิทสนมอะไรกัน ทั้งที่ความจริงมันตรงกันข้าม
    หนูรู้สึกว่าหนูสสารเขาที่ต้องทำงานบ้าน แทนภรรยาวึ่งพี่เขาก็เป็นโรคหัวใจ
    เขาต้องรับผิดชอบทุกอย่างในบ้าน บ้างครั้งหนูเห็นเขาท้อ เขาเครียดหนูรู้สึกไม่สบายใจเลย อยากเข้าไปช่วยเขา อยากทำให้เขามีความสุข โดยที่หนูไม่ได้คิดจะไปแทนที่ภรรยาของเขาเลย แต่กลับมีความรู้สึกดีๆ ให้กับภรรยาของเขาแทนเสียมากกว่า

    หนูอยากถามว่า ...
    1.ถ้าหนูจะคบกับเขาไปแบบนี้ โดยที่หนู่ไม่ได้แย่งชิงเขามาจากภรรยาเขา
    หนุจะผิดมากไหมคะ?
    2.อยากรู้ว่าทำไมเราต้องมารักกันในสภาพแบบนี้คะ ชาติที่แล้วเราเคยทำอะไร
    ร่วมกันมาหรือเปล่า?
    3.แล้วจะมีวิธีใดที่จะช่วยลดบาปที่หนุก่อขึ้นในปัจจุบันนี้ให้เพลาๆ ลงบ้างคะ?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 ตุลาคม 2010
  2. ying_tuy

    ying_tuy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    277
    ค่าพลัง:
    +1,120
    ไม่รู้จะช่วยยังไงดี ทางแก้กรรมก็มีแต่ตัวคุณเองแหละคะ ยิ่งภรรยาหลวงเค้ามีปัญหาโรคหัวใจด้วย ยิ่งเท่ากับไปทำร้ายเค้าเพิ่มเติม พอดีไปเจอข้อความนี้อาจช่วยได้ไม่มาก เรื่องแบบนี้ตบมือข้างเดียวไม่ดังคะ แต่ก็ขอให้คุณตั้งสติผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้ด้วยดี เจริญในธรรม คะ

    ----

    เมื่อรู้แล้วว่าเรากำลังเกี่ยวข้องกับชายที่มีครอบครัวแล้ว ก็พึงเร่งรีบเลิกละจากเขาเสียโดยพลัน ไม่มัวรอให้เวรกรรมหมดไปเอง เพราะนอกจากบาปกรรมจะไม่หดหายไปเองแล้ว ยังเป็นการ"ทำบาปกรรม"เพิ่มหนักขึ้นไปอีก..".ใครจะทำตัวเราให้เข้าถึงทุกข์อันเผ็ดร้อนย่อมไม่มี มีแต่ตนเองเท่านั้นที่ทำเหตุเสียเอาไว้ จึงต้องมารับผลที่เป็นทุกข์เช่นนี้.....

    เพราะเคยล่วงศีลข้อกาเมฯมาก่อนในอดีต จะชาติใหนก็ตาม ผลคือความไม่สมหวังในรัก ถูกหลอกเรื่องรักถูกล่วงเกินทางเพศ เป็นเมียน้อย มีครอบครัวก็ต้องแตกแยกกันไป เกิดเป็นตุ๊ดแต๋ว วิปริตผิดเพศด้วยอาการต่างๆ เป็นที่รังเกียจของสังคม ฯลฯ..

    เหตุเก่าทำไว้แล้ว เห็นผลอันเป็นทุกข์แล้วในบัดนี้ .. ยังไม่เข็ดอีกหรือ?..เรายังต้องการเสพผลอันทุกข์ทรมานเช่นนี้ไปอีกพันหรือหมื่นชาติหรือ?..กรรมทำครั้งหนึ่ง ไม่ได้ให้ผลครั้งเดียวหรอกหนา เขาให้ผลเป็นร้อยพันหมื่นแสนหรือนับไม่ได้นั่นแหละ..จะไหวหรือ?? ...

    บัดนี้ เราควรจะรักตนให้มาก การเสพส้องกับชายที่ไร้ศีลธรรมเช่นนี้ ย่อมเป็นแต่ทางสู่ความเสื่อม เป็นความเสียเวลา เสียเกียรติของเรา เป็นการเบียดเบียนลูกเมียเขาหากเขารู้เข้า ย่อมเข้าถึงความทุกข์ทรมานเจ็บปวด เราเองไม่ต้องการความรู้สึกเช่นนี้ แต่กำลังทำสิ่งที่จะนำผลอันไม่น่าปรารถนานี้มาสู่ตนอยู่..แล้วจะพ้นจากความทุกข์บีบคั้นเช่นนี้ได้อย่างไร..?? แม้มารดาบิดาญาติพี่น้องของเราก็ย่อมเข้าถึงความทุกข์โทมนัสอย่างใหญ่หลวงหากทราบฐานะที่น่ารังเกียจนี้ของเรา ..โดยเฉพาะมารดาบิดาจะทุกข์โศกเพียงไรหากทราบว่าลูกที่ท่านเลี้ยงมาด้วยความรักทะนุถนอมปานดวงใจ บัดนี้กลับมาเกลือกกลั้วในสิ่งที่โลกติเตียน ผิดธรรมเสียแล้ว ..การทำให้ท่านเสียใจจะเป็นบุญได้ไฉน?..โอ้หนอ ใครจะทำบาปหนักเยี่ยงเราเห็นปานฉะนี้จะมีอีกหรือ..?

    การกล่าวอ้างว่าโมฆะบุรุษผู้ล่วงศีลไม่ยอมเลิกนั้น ดูเหมือนเป็นข้ออ้างที่นิยมกันมาก....ขอให้พิจารณาตามจริงว่า ข้ออ้างนี้ เราเองยกขึ้นมาด้วยอำนาจบงการของกิเลสคือตัณหาราคะที่ติดข้องในชายนั้นหรือไม่?..พาลบุรุษนั้น กักขังหรือล่ามโซ่ผูกมัดเราไว้มิให้หลบหนีหรืออย่างไร หากไม่ใช่ "อะไร"ทำให้เราต้องยังดำรงรักษาตำแหน่ง"เมียน้อย"นั้นไว้..?

    บางทีเราอาจไม่ทราบว่า กิเลสของเราเองต่างหากที่ลากจูงเราไปสู่สภาวะอันไม่น่ารื่นรมย์นี้เอง ...

    อย่าเกรงกลัวที่จะเปลี่ยนแปลงเพื่อทำในสิ่งที่ถูกต้อง เพื่อชีวิตที่ดีกว่า ทั้งในปัจจุบันและภพต่อๆไปเลยครับ..คนเราทำผิดกันได้ แต่เมื่อรู้ว่าผิดก็สำนึกได้และคิดแก้ไขนี้ย่อมเป็นวิสัยของบัณฑิต ย่อมเป็นที่น่ายกย่องชื่นชม ขอให้หันหน้าหาพระธรรมเป็นที่พึ่ง มีการถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะ รักษาศีล ศึกษาพระธรรม ย่อมได้เครื่องคุ้มครองป้องกันอันวิเศษยิ่งกว่าเครื่องป้องกันใดๆในโลก.. ย่อมสามารถพาตนพ้นทุกข์ที่มีในปัจจุบัน และเป็นปัจจัยแก่การพ้นทุกข์โดยสิ้นเชิงในกาลภายหน้าครับ

    ลองพิจารณาแล้วหาทางแก้ไขดูครับ.. [​IMG] [​IMG] [​IMG]
    .....................................................
    ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ
     
  3. ying_tuy

    ying_tuy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    277
    ค่าพลัง:
    +1,120
    กระทู้เกี่ยวกับเรื่องนี้นะคะ ลองอ่านโทษของการผิดศีลข้อ 3 ทางแก้มีขึ้นอยู่กับตัวคุณเองว่าจะ (หยุด) หรือ ดำเนิน (ต่อไป)ดี


    http://palungjit.org/threads/ผู้ที่...บใจได้จะมีวิธีบรรเทากรรมได้อย่างไรบ้าง.72116/
     
  4. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    ภรรยาเขารู้แต่ก็ไม่วิวาทก็ไม่เท่าไหร่นักหรอก ว่าแต่ว่าเราทนอยู่ในสภาพนี้ไหวหรือ หากทนได้ทนไป
     
  5. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,860
    ชีวิตที่เป็นแบบนี้มีมากในสังคม.....

    เป็นเพราะกรรมที่เคยกระทำกันมาก่อนในอดีต

    ทางแก้ไข

    ถ้ามั่นใจจริง ไปขอพี่เค้าเป็นตัวสำรองแบบเปิดเผย สิครับ
    ถ้าทุกฝ่ายยอมรับกันได้ ก็ไม่มีปัญหา อยู่กันไปช่วยเหลือกันไป ยอมรับและนับถือกัน

    ถ้าทำไม่ได้ก็ต้องตัดใจออกห่างเสีย เพราะยิ่งนานวันจะถอนตัวไม่ขึ้น

    เรื่องแบบนี้ ใครไม่โดนเข้ากับตัวเอง ไม่รู้สึกหรอก ครับ
    แต่ไม่ว่าจะผลออกมาเป็นอย่างไร สภาพแบบนี้ก็ยังคงดำเนินอยู่ในสังคม
     

แชร์หน้านี้

Loading...