พระศรีอารยเมตรัย จะลงมาอุบัติประกาศศาสนาพุทธ จะมาเมื่อใดครับนับจาก พ.ศ. ๒๕๕๓ ?

ก่อนท่านจะลงมาประกาศศาสนา พระศรีฯท่านจะลงมายกยอพระศาสนาของพระพุทธเจ้าโคดมวาระนึงก่อน ซึ่งถ้าคำนวณตามที่ผมทราบมาจากครูบาอาจารย์ ก็คือเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้น ไม่เกินปี พ.ศ. 2560 นี้ ที่สำคัญก็คือเราเองจะรอดพ้นไปถึงปี 2560 ได้หรือเปล่า


สำหรับยุคศาสนาของพระศรีฯนั้น ก็อีกยาวนานมากครับ เอาเป็นว่าเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมแหละ เมื่ออายุมนุษย์เจริญขึ้นจนยาวนานตายไม่เป็น จนเบื่อที่จะมีชีวิตอยู่อยู่ เทวดาจะมาย่นย่อมนุษย์ให้มีอายุแปดหมื่นปีแล้วก็อาราธนาพระศรีฯลงมาจุติเพื่อตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ท่านบอกว่าคนในยุคนี้จะไปเป็นคนในยุคพระศรีฯได้น้อยมาก

 

ครับ จะเล่านิทานให้ท่าน จขกท....อ่านนิดหน่อยนะครับ

ใน มหากัปป์นี้มีชื่อว่า ภัทรกัปป์(มี 256 กัปป์) มี พระพุทธเจ้าเสด็จมาอุบัติ ๕ พระองค์ คือ
ในกัปป์ที่ ๙ องค์พระทศพล กกุสันธพุทธเจ้ามาอุบัติ
ในกัปป์ที่ ๑๐ องค์พระทศพล โกนาคมพุทธเจ้ามาอุบัติ
ในกัปป์ที่ ๑๑ องค์พระทศพล กัสสปพุทธเจ้ามาอุบัติ
ในกัปป์ที่ ๑๒ องค์พระทศพล ศากยมุนีโคดมพุทธเจ้ามาอุบัติ
ในกัปป์ที่ ๑๓ องค์พระทศพล อริยเมตตรัยพุทธเจ้ามาอุบัติ

1 * 10(ยกกำลัง 140) ปี = 1 อันตรกัปป์หรือ 1 กัปป์
64 กัปป์ = 1 อสงไขย
4 อสงไขย = 1 มหากัปป์( 256 กัปป์ )

ลองนับดูนะครับ ว่านานแค่ไหน ผมเองก็นับไม่ค่อยไหวนะครับ

 

ขอขอบพระคุณเหล่าพุทธภูมิทุกท่านที่แสดงทัศนะขอรับ...

ท่านHeartsutraขอรับ... ขอให้ท่านแยบคายบ้างซักเล็กน้อย กลับไปดูกระทู้ที่ 12 นะขอรับ...แล้วเรืองไอน์สไตน์กับพระพุทธศาสนา ถ้าจะถกกันไว้เปิดกระทู้ใหม่เพราะเรื่องมันจะยาว...กระทู้นี้เอาคำถามนี้ก่อนขอรับ....
-----------------------------------------------------------------
ท่านSirichutขอรับ... เสื่อมได้ขอรับ จริงแท้และแน่นอน...(การดำรงอยู่ของพระศาสนาสมัยพระพุทธเจ้าโคมดม ๕,๐๐๐ ปี แต่ถ้าสมัยท่านไม่บังเกิดมีภิกษุณีการดำรงอยู่สมัยของพระองค์จะได้ ๑๐,๐๐๐ ปี...เพราะพระเมตตามหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้...ไปหาเอาเองนะขอรับว่าทำไม..?)
---------------------------------------------------------------------

ท่านAunyasit ขอรับ...ในสมัยที่ พระศรีอริยเมตตรัย ลงมาสร้างบารมีด้วยกับพระพุทธเจ้าโคตมะ(องค์ปัจจุบัน) ท่านคือ พระอชิตะ
พระพุทธเจ้าโคตมะ(องค์ปัจจุบัน)พระองค์ประสงค์จะประกาศให้สงฆ์รับทราบ แล้วถือเป็นโอกาสพยากรณ์ ตามธรรมปฏิบัติ จึงได้แสดงเรื่องราวอันปาฏิหารย์
หลังจากแสดงเรื่องราวอันปาฏิหารย์จบ พระพุทธเจ้าได้พยากรณ์ว่า
"พระอชิตะ ท่านสร้างบารมี วิริยะธิกะ ความเพียรอันกล้า ไว้แล้ว ๑๖ อสงไขยแสนมหากัป จะมาตรัสรู้ข้างหน้า ทรงพระนามว่า พระศรีอริยเมตตรัย บรมโพธิสัตว์ องค์เลิศประเสริฐแท้"
(เรื่องมันยาวคงต้องไปหาอ่านกันเอาเพิ่มเติมอีกนะขอรับ)
-----------------------------------------------------------------

ท่านต้นละ ขอรับ...ผมพอทราบนิทานมาบ้างแต่อาจแตกต่างกันบ้างขอรับ

พระพุทธเจ้าในภัทรกัปนี้ท่านสร้างบารมีมาด้วยกันเมื่อครั้งท่านร่วมกันสร้างสร้างเจดีย์ทราย บูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์สมัยพระพุทธเจ้ากอออ แล้วเริ่มปรารถนาจะเป็นพระพุทธเจ้ากันบ้างผู้ร่วมสร้างเจดีย์ทราย ไก่ , ตัวเห็น , เต่า ,โค ,นายพราน

ดังนั้นในมหากัปนี้...อสุญกัป(ภัทรกัป)จึงเป็นมหากัปที่มีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ ๕ พระองค์...(บางมหากัปไม่มีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้)

๑.กุกกุสันธพุทธเจ้า.........(ไก่)....... สร้างศรัทธาธิกะ ๘ อสงไขยแสนมหากัปปรารถนาอายุ ๗๐,๐๐๐ ปี
๒. โกนาคมนพุทธเจ้า.....(ตัวเห็น)..... สร้างศรัทธาธิกะ ๘อสงไขยแสนมหากัป ปรารถนาอายุ ๕๐,๐๐๐ ปี
๓.กัสสปพุทธเจ้า..........(เต่า)........ สร้างศรัทธาธิกะ ๘ อสงไขยแสนมหากัปปรารถนาอายุ ๒๐,๐๐๐ ปี
๔. โคตมพุทธเจ้า...........(โค)......... สร้างปัญญาธิกะ๔ อสงไขยแสนมหากัป ปรารถนาอายุ ๘๐ ปี
๕.อริยเมตตรัยพุทธเจ้า...(นายพราน)...สร้างวิริยะธิกะ ๑๖ อสงไขยแสนมหากัปปรารถนาอายุ ๘๐,๐๐๐ ปี

นำมาเพื่อให้ใช้ปัญญากันบ้างตามแต่กำลังปัญญาของแต่ละท่าน

...สุตตมยปัญญา จินตมยปัญญา ภวนามยปัญญา...


ผมยังรอความเห็นของผู้รู้ทั้งหลายพร้อมทั้งเหล่าพุทธภูมิที่บารมีเต็ม บารมีล้นท่านอื่นๆ มาร่วมแสดงความเห็นอีกขอรับ...



. ...POETIC INTUITION STILL WITH U...
...ขอปัญญาบารมีอันเป็นมงคลจงอุดมแด่ท่านทั้งหลาย...

 

คือท่านเคยลงมาเสวยพระชาติในสมัยพุทธกาลแล้วนะครับ เป็นพระอชิตะครองสมณเพศในบวรพุทธศาสนา และได้รับพุทธพยากรณ์ด้วย ถ้าท่านจะลงมาเป็นกรณีพิเศษในเวลาอันใกล้เคียงกันนี้ (ในกรณีที่ว่า) ก็คือท่านทำอธิมุตตกาลกิริยา จุติจากดุสิตเทวโลกลงมาในกรณีพิเศษ ซึ่งเป็นความพิเศษของพระนิตยโพธิสัตว์ที่สามารถจุติติดๆกันได้... แต่ว่าเทวดาไม่มีสิทธิ์ย่ออายุมนุษย์หรอกครับ มันเนื่อด้วยกรรมวาระ ตามเหตุปัจจัย... ก็เป็นไปตามผัง คืออายุขัยเพิ่ม(วิวัฏฏกัปป์) อายุขัยลด(สังวัฏฏกัปป์) คืออายุขัยของชาวชมพูทวีปหรือระแวงโลกเรานี้ที่แสนไม่คงที่ และน่าเบื่อหน่าย...

 

คือกระผมอยากได้คำตอบเร็วๆอะครับ... คือว่าลุ้นเรื่องจำนวนตัวเลข... อิอิ

ส่วนเรื่องนั้นไม่ต้องถกหรอกครับ เรื่องมันยาว... อีกอย่างพวกเราก็ชาวพุทธเหมือนกันไม่รู้จะถกทำไม... แลกเปลี่ยนทัศนะเรื่องหลักธรรมกันดีกว่า ^^

ปล. ลุ้นนะเนี่ยครับ... เรื่องตัวเลขเนี่ย... แล้วแต่จะเห็นว่าเหมาะสม ^^

 

การที่ไม่รู้อะไรเลยนับว่าเป็นการดี

ถ้ารู้ไม่จริงไม่ตรงกับเจ้าของประวัติ

ก็เท่ากับท่านกำลังก้าวล่วงเกินในธรรม

จะเป็นการปิดทางนิพพานของเพื่อนๆ

ในสหาโลกธาตุใบนี้

 

...อะนะครับ.....นี้ถ้าไม่มีพระสูตรผมไม่ตอบนะเนี่ย....

ปัญญาบารมี(ที่ใหน).....

 

ไม่มีใครหรือผู้ใดทั้งสิ้นที่จะปิดทางสู่พระนิพพานสำหรับใครหรือผู้ใดได้...

ขอขอบพระคุณเหล่าพุทธภูมิทุกท่านที่แสดงทัศนะขอรับ...

นำมาเพื่อให้ใช้ปัญญากันบ้างตามกำลังปัญญาของแต่ละท่าน

...สุตตมยปัญญา จินตมยปัญญา ภวนามยปัญญา...


ยังรอความเห็นของผู้รู้ทั้งหลายพร้อมทั้งเหล่าพุทธภูมิที่บารมีเต็ม บารมีล้นท่านอื่นๆ มาร่วมแสดงความเห็นอีกขอรับ...



.....POETIC INTUITION STILL WITH U...
...ขอปัญญาบารมีอันเป็นมงคลจงอุดมแด่ท่านทั้งหลาย...

 

คนที่รู้ไปทุกเรื่องไม่มีหรอก

ยอมรับกันซะเถอะนะ

ไม่มีใครรู้อนาคต

มีแต่เดามั่วเรื่องของตัวไม่สนใจ

ไปคิดเรื่องพระพุทธเจ้า

 

ให้อายุแต่ละคนที่พิมพ์และคนที่อ่านกระทู้นี้ มากสุด....ต่อให้คนละร้อยปี(ร้อยปีนี่บางคนยังมากไป).....ก็อยู่ไม่ไหวกันแล้ว.....

จะไปพูดเรื่องกี่พันกี่ล้านปีข้างหน้า......

ไม่มีใครอยู่ถึงสักคน...ตายหมด...พูดเหมือนไม่พูดหนะ.....

ทุกวันนี้บางคนยังไม่รู้เลยว่าอยู่ไปทำไมอยู่ไปเพื่ออะไร.....เอาเวลาไปหาทางออกตัวเองในชีวิตปัจจุบัน....หาคำตอบในชีวิตตัวเอง...น้อมนำพระธรรมมาปฏิบัติเพื่อให้อยู่ในสังคมโลกแวดล้อมอย่างเป็นสุขที่สุด...ทุกข์ให้น้อยๆสุขให้มากๆ(อย่างเข้าใจธรรมชาติของชีวิต).....ผมว่าน่าจะดีกว่า...จะถามเรื่องที่ไกลตัวจนพิสูจน์อย่างไรก็ไม่ได้...

 

การทำสมาธิ และถ้าเผอิญเจ้าไปเจอพระพุทธเจ้า

ต้องฆ่าพระพุทธเจ้า ทั้งนี้ก็เพราะว่า

ถ้าขณะที่เรากำลังรวมจิตกับกายแล้ว

เผอิญไปเจอพระพุทธเจ้าในสมาธิ

เดี๋ยวจิตเราก็จะวิ่งตามพระพุทธเจ้าไปแล้ว ไม่ใส่ใจต่อตัวเอง

สมาธิแบบนี้จึงไม่ใช่สมาธิที่แท้จริง หาข้อยุติไม่ได้

มีแต่ความรู้ที่ใจเลื่อนลอยออกไปนอกกายไม่มียุติ

ที่ไม่มียุติก็เพราะมันเลื่อนลอยไปตามอารมณ์ที่จะชักพาฉุดกระชากลากถูผู้นั้น

ไปนั่นเอง

 

ครับผม
ผมเคยอ่านเจอมานะครับ ที่ท่านพิมพ์มาให้อ่านนะ และไม่ต่างกันเลยนะครับ
ท่านจะสื่ออะไรให้ผมเข้าใจรึครับ อธิบายหน่อยครับ งง....
เพราะผมเองแค่บอกระยะเวลาที่องค์พระศรีอาริย์มาอุบัติ ตามกระทู้ที่ท่านถามนะครับ

 

ท่านครับ
เรื่องที่ท่านถามมานะ มันไม่จำเป็นต้องใช้ปัญญาในการตอบหรอกนะครับ
เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของ กาลเวลา(โลกาวิสัย)

 

ไม่ติดนิมิตรทั้งปวง...เพราะถ้าติดหลงในนิมิตร...ก็จะเข้าสู่วิปปสนูปกิเลสหนึ่งในสิบประการได้...การปฏิบัตินั้นคงไม่พ้นที่...กายนี้ ใจนี้ เท่านั้นขอรับ

อย่าไปซีเรียสกับคำถามมากขอรับ...ถ้าเห็นว่าไม่มีสาระก็อย่าไปสนใจใส่ใจขอรับ...เพราะมันเป็นคำถามสมมุติ ตามที่ผมบอกจะถูกหรือผิดอย่างไรก็ได้ เพราะไม่มีผู้ใดรับรอง...ที่ผมคำนวณเอาไว้ก็ไม่ใช่จะถูก...เพราะฉะนั้นไม่ต้องเชื่อหรอกครับ...เพียงผมมองเห็นประโยชน์บ้างเกี่ยวกับการคำนวณเรื่องนี้...ไม่เข้าข่าย อจินไตย และ ขัดแย้งกับพุทธศาสนาแต่ประการใดทั้งสิ้นขอรับ...

ที่ดีมากๆเลยคือมีบางท่านในกระทู้นี้เห็นประโยชน์...แล้วด้วย...ขออนุโมทนาเป็นอย่างยิ่งขอรับ...

ขอขอบพระคุณเหล่าพุทธภูมิทุกท่านที่แสดงทัศนะขอรับ...

นำมาเพื่อให้ใช้ปัญญากันบ้างตามกำลังปัญญาของแต่ละท่าน

...สุตตมยปัญญา จินตมยปัญญา ภวนามยปัญญา...


ยังรอความเห็นของผู้รู้ทั้งหลายพร้อมทั้งเหล่าพุทธภูมิที่บารมีเต็ม บารมีล้นท่านอื่นๆ มาร่วมแสดงความเห็นอีกขอรับ...



.....POETIC INTUITION STILL WITH U...
...ขอปัญญาบารมีอันเป็นมงคลจงอุดมแด่ท่านทั้งหลาย...

 

โอ้...มายก็อ.........เป็นซะงั้น
เอาไม่อยู่ละครับ อิอิ

 

ขอขอบพระคุณเหล่าพุทธภูมิทุกท่านที่แสดงทัศนะขอรับ...

นำมาเพื่อให้ใช้ปัญญากันบ้างตามกำลังปัญญาของแต่ละท่าน

...สุตตมยปัญญา จินตมยปัญญา ภวนามยปัญญา...


ยังรอความเห็นของผู้รู้ทั้งหลายพร้อมทั้งเหล่าพุทธภูมิที่บารมีเต็ม บารมีล้นท่านอื่นๆ มาร่วมแสดงความเห็นอีกขอรับ...

...Only change the way you think, your life may soon change...
...เพียงเปลี่ยนวิธีที่คุณคิด วิถีชีวิตของคุณก็จะเปลี่ยน...

 

นั้นไง ตรงนั้นแหละ ตรงนั้น ตัวคุณนั้นแหละ ถูกต้อง

 

ไปๆ แยกย้ายๆ ไปทำหน้าที่ได้แล้ว

 

แตกต่างแต่ไม่แตกแยก

ยังรอความเห็นของผู้รู้ทั้งหลายพร้อมทั้งเหล่าพุทธภูมิที่บารมีเต็ม บารมีล้นท่านอื่นๆ มาร่วมแสดงความเห็นอีกขอรับ...

คณะที่เชื่อแบบนี้มีอยู่ทั่วโลกที่เข้าใจอะไรผิดไปรึป่าว ว่าไม่มีเพราะพระอริยเจ้าที่บรรลุอรหันต์แล้วในเพศฆราวาสถ้าไม่บวชต้องตายในวันนั้นทันที


ผมไม่เห็นด้วยกับคำสั่งสอนแบบนี้มาดู กัน
เพราะมีผู้สอนผิด ว่าพระอรหันต์จะต้องตายภายในเจ็ดวัน
ความจริงเมื่อท่านสำเร็จแล้วท่านมีสิทธิ์เลือกได้ด้วยตัวท่านเอง จะบวชจนตายในผ้าเหลือง หรือ จะสึก ภูมิพระอรหันต์ไม่ใช่เพชฆาตจะได้เมื่อถึงแล้วจะต้องตายไปทุกๆคน
<!-- google_ad_section_end -->

 

เรียนท่าน Sriaraya5

สำหรับความเห็นที่ว่า..คณะที่เชื่อแบบนี้มีอยู่ทั่วโลกที่เข้าใจอะไรผิดไปรึป่าว ว่าไม่มีเพราะพระอริยเจ้าที่บรรลุอรหันต์แล้วในเพศฆราวาสถ้าไม่บวชต้องตายในวันนั้นทันที

น่าสนใจมากขอรับ...เรื่องนี้นั้นผมศึกษาจากพระไตรปิฎกเรื่องฆราวาสถ้าได้บรรลุธรรมขั้นสูงสุดแล้วคือได้อรหันต์ จะใช้ชีวิตอยู่กับทางโลกลำบาก บางตัวอย่างในพระไตรปิฏก จะตายภายใน ๑ วัน ถ้าไม่ได้บวช...จำ(สัญญา)ไม่ผิด พาหิยทารุจิริยา...ท่านโดนวัวขวิดตายระหว่างไปหาผ้าจีวรและบาตรมาบวช,พระเจ้าสุทโธทนะ บรรลุอรหันต์แล้วดับขันธ์เลยเนื่องจากพระองค์ป่วยเป็นโรคร้ายอยู่ก่อนแล้ว,พระนางเขมา หลังจากที่พระนางได้บรรลุอรหัตผลแล้ว ได้พิจารณาเห็นว่ายังพอมีเวลาที่จะไปทูลลาพระเจ้าพิมพิสารเพื่อขออนุญาตบวชในพระพุทธศาสนา หลังจากที่พระนางได้รับการบวชเป็นภิกษุณีในพระพุทธศาสนาแล้ว ก็สามารถดำรงชีวิตอยู่ในเพศของภิกษุณีและมีบทบาทช่วยเหลือพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก("ยังพอมีเวลา" ก็ไม่ทราบว่าภายในวันนั้นเลยหรือเปล่า)


ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่ามีตัวอย่างในพระไตรปิฏกบ้างหรือไม่ว่า ฆราวาสถ้าได้บรรลุธรรมขั้นสูงสุดแล้วคือได้อรหันต์ มีชีวิตอยู่ได้เกิน ๑ วัน โดยที่ไม่ต้องบวช

เรื่องนี้น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งขอรับ...เอาไว้เปิดกระทู้ใหม่ถามหลายๆความคิดเห็นจะดีไหมขอรับ...ตอนนี้เอาคำถามหัวข้อกระทู้นี้ก่อนนะขอรับ

จุดประสงค์ของคำถามหัวข้อกระทู้นี้คือ...
คำถามมิใช่เพื่ออวดอ้างตน อวดรู้ รู้ดี หรือเพื่ออวดตนว่ามีปัญญาเหนือผู้อื่นแต่อย่างใดทั้งสิ้น แต่พอเห็นว่าจะมีประโยชน์ในทางธรรมได้บ้างถ้าเราใช้โยนิโสมนสิการแล้วอย่างแยบคาย...

สำหรับประโยชน์นั้น...เมื่อผมเฉลยแล้ว(เป็นตัวเลขและคำพูด) ผมจะชี้แจงให้ทราบต่อไปขอรับ...

และบางท่านที่เล็งเห็นประโยชน์ไปบ้างแล้ว...ขออนุโมทนาทุกท่านด้วยความบริสุทธิ์และจริงใจขอรับ...