ให้ความสว่างแก่วัด เสมือนให้ปทีปแห่งปัญญา

เนื่องจากวันอาทิตย์ที่ 15 สิงหาคม 2553 ที่ผ่านมานี้ น้าชายผมได้มีโอกาสไปทำบุญที่จังหวัด กาญจนบุรี เป็นวัดป่าสายพระอาจารย์มั่นครับ ท่านเป็นศิษย์ของหลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม แห่งวัดป่าบ้านข่า จ.นครพนม ท่านมีนามว่าหลวงพ่อประยุทธ์ ธัมยุตโต แห่งวัดป่าผาลาด ซึ่งท่านเป็นพระที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ท่านมีความอดทน และพยายามสูงมากตามประวัติ โดยย่อของท่าน ท่านเคยเป็นมหาโจร เพื่อช่วยในขบวนการเสรีไทย ในสมัยสงครามโลกครั้งที่2 ชีวิตของท่านผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมาย แต่สุดท้ายท่านคิดปลงในชีวิตฆราวาสอันไม่มีแก่นสารสาระ ท่านจึงได้ออกบวช โดยสละทรัพย์สมบัติของตนจนหมด และบวชอยู่กับพระหลวงปู่ทางภาคใต้ ร่ำเรียนวิชาสมาธิกรรมฐานและท่านยังได้ฝากตัวเป็นศิษย์ของหลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม ที่วัดป่าดาราภิรมย์ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ อีกด้วยพระอาจารย์ประยุทธ อยู่ในสำนักหลวงปู่ตื้อ ๓ ปีท่านจึงได้ธุดงค์ต่อไป ท่านได้ไปสร้างสำนักสงฆ์ที่ถ้าผาพุง อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลยและไปมรณภาพที่ วัดป่าผาลาด ตำบลวังด้ง อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๒ โดยท่านนั่งสมาธิภาวนาจนมรณะภาพในท่านั่งสมาธิ

วัดป่าผาลาดแห่งนี้เป็นวัดที่มีป่าเขารื่นรมย์มาก มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ เหมาะแก่การประพฤติปฏิบัติธรรมมาก โดยบางครั้งจะมีศิษย์ยานุศิษย์ และลูกหลานของหลวงพ่อประยุทธ์มาปฏิบัติธรรมกันเป็นระยะๆ โดยมีพระผู้ดูแลรักษาการเจ้าอาวาส ชื่อว่าหลวงตาเดช ปรกกโม ท่านเป็นพระที่มีอายุถึง 73 ปี ท่านมีจริยวัติสุขุม เรียบง่าย สบายๆ เป็นกันเอง ท่านเป็นพระอยู่ในวัดเพียงรูปเดียว และมีฆราวาสดูแลวัดประมาณ 2-3 คน แม่ชีอีก 2 ท่าน โดยแม่ชีและฆราวาสจะมาช่วยทำงานโรงครัวเท่านั้น โดยหลวงตาเดชท่านดูสมถะ มักน้อย และสันโดด น้าชายกระผมจึงได้กราบคารวะท่าน และถามประวัติท่าน รวมถึงสนทนาถึงที่วัดป่าผาลาด ว่าน้ำท่า ไฟฟ้ามาจากไหน ท่านถึงได้บอกเล่าให้น้าผมฟังว่า จริงๆแล้ววัดนี้ไม่มีไฟฟ้า ใช้แต่เทียนจุดในยามคำคืนเท่านั้น แต่ภายหลังมีลูกศิษย์ที่เคยมาบวชที่วัดป่าผาลาด เมื่อสึกหาลาเพศออกไปเป็นฆราวาสจึงได้ปวรนามาช่วยทางวัดติดตั้งไฟฟ้าแบบระบบ แผงโซล่าเซล โดยติดตั้งที่ศาลาพระประทาน ซึ่งศาลานี้เป็นศาลาไม้ 2 ชั้น ชั้นบนเป็นที่ประดิษฐ์ฐานพระประธานสมัยหลวงพ่อประยุทธ์ และยังเป็นที่สวดมนต์ไหว้พระของพระภิกษุสามเณร และฆราวาสญาติโยมอีกด้วย ส่วนชั้นล่างเป็นที่ประดิษฐ์ฐานอัฐบริขาน และเจดีย์อัฐิธาตุของหลวงพ่อประยุทธ์ ธัมมยุตโต แต่เนื่องจากว่า ณ เวลานี้ หม้อแบ็ตเตอรี่ ที่เป็นตัวแปลงและเก็บไฟฟ้า เกิดเสื่อมหมดอายุ ไม่สามารถเก็บกระแสไฟฟ้ามาใช้ได้ ศาลาวัดทั้งหลังในเวลาเย็นและค่ำคืนไม่สามารถเปิดใช้หลอดไฟได้ อีกทั้งหลวงตาเดชท่านก็พักอยู่ด้านล่างของศาลาเพียงลำพังรูปเดียว ท่านก็ต้องใช้เทียนจุดเพื่อให้เกิดความสว่าง ในปฏิบัติภารกิจ และปฏิบัติภาวนา อีกทั้งท่านก็มีวัยถึง 73 ปี และยังมีสังขารที่ลำบาก เนื่องจากองค์ท่านเคยประสบอุบัติเหตุรถคว่ำจนทำให้คลายๆเป็นอัมพึกซีกขวามือ น้าชายของข้าพเจ้าจึงอยากที่จะเป็นผู้นำข่าวนี้ มาบอกแก่ศิษย์ยานุศิษย์ ลูกๆหลานๆของหลวงพ่อประยุทธ์ ธัมยุตโต และผู้ที่เลื่อมศัยศรัทธา และอุปถัมย์พระผู้มั่นคงในศีล และปฏิบัติภาวนา ร่วมด้วยช่วยกันสละทรัพย์ตามกำลังเพื่อจัดซื้อหม้อแบ็ตเตอร์รี่ที่บรรจุไฟฟ้าสำหรับต่อกับแผงโซล่าเซล โดยมีจำนวนทั้งหมด 4 ลูก โดยลูกเล็ก ลูกล่ะประมาณ 5000 บ. มีจำนวน 2 ลูก และลูกใหญ่ ลูกล่ะประมาณ 8000 บ. มีจำนวน 2 ลูก
โดยท่านผู้ใจบุญสามารถติดต่อทำบุญโดยตรง โดยติดต่อที่หมายเลข 080-437-3988 หลวงตาเดช ปรกกโม วัดป่าผาลาด จ.กาญจนบุรี
หรือหากท่านมีเวลาที่จะไปพักภาวนาที่วัด หรืออยากไปทำบุญที่วัด ก็สามารถโทรถามทางได้กับทางหลวงตาเดช ปรกกโม ได้โดยตรงเลยครับ

บุญกุศลที่ท่านสร้างจะเป็นทางสว่างให้แก่ พระภิกษุ สามเณร ชีพราหมณ์ อีกทั้งฆราวาสญาติโยมจะได้มีไฟฟ้าใช้ในยามค่ำคืน นั่งสวดมนต์ภาวนารักษาศีลอุโบสถกันได้สะดวกทั่วหน้าเป็นการให้แสงสว่าง เสมือนให้ปัญญา ให้ปัญญา เสมือนประตูทางเข้าแดนแห่งพระนิพาน ครับ ขออนุโมทนากับทุกๆท่านด้วยครับ (ช่วยๆกันเผยแพร่ข่าวทางพระพุทธศาสนาเป็นบุญกุศลหลายๆเด้อ[/COLOR][/SIZE][/SIZE])

 

ดูภาพต่อนะครับ

ภาพหลวงตาเดช ปรกกโม อายุ 73 ปีครับ ส่วนภาพที่เหลือเป็นป่าบริเวณรอบๆวัดครั
น่าปฏิบัติธรรมมากๆเลยครับ

 

ธรรมชาติร่มรื่นดีแท้ ๆ ค่ะ

 

ไปกราบหลวงตาเดชมาแล้ว ได้ฟังธรรมะจากท่าน นับเป็นพระสุจิปฏิปันโนอย่างไม่ต้องสงสัย

 

ร่วมด้วยช่วยกันครับ

สวัสดีคีครับพี่ๆน้องๆชาวเว็ปพลังจิต เมื่อวันอังคารที่ 15 กุมภาพันธ์ 2554 เวลาประมาณ 19.00 น. หลวงตาเดชท่านได้โทรศัพย์มาพูดคุย ถามสารทุกข์สุขต่างๆ
กระผมจึงได้ไต่ถามถึงสภาพทางวัดที่หลวงตาอยู่ว่า ท่านได้พัฒนาวัดเป็นไปอย่างไรบ้างครับ หลวงตาจึงได้เล่าให้กระผมฟังว่า ในเวลานี้ ท่านได้สร้างที่เก็บของทั้งหมดภายในวัด เช่นข้าวของเครื่องใช้ต่างๆที่จำเป็น เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในวัด สังฆทานที่ฆราวาสญาติโยมนำมาถวาย ร่วมไปถึงผ้าห่ม และจีวรต่างๆที่พระสงฆ์จำเป็นต้องใช้ครับ และเครื่องมือวัสดุช่างทุกๆอย่าง โดยท่านจะเก็บให้เป็นที่เป็นทางเป็นห้องเก็บของประจำภายในวัดครับ
เพราะคราวก่อนนี้ กระผมได้ขออนุญาติหลวงตาเดช นอนพักที่วัดป่าผาลาด 1 คืน เมื่อหลายเดือนก่อน ท่านได้เมตตาอนุญาติให้กระผมนอนพักที่ห้องของท่านเลย โดยปูเสื่อ และนำผ้าห่มมาปูลงที่เสื่ออีกที โดยผมนอนพื้นที่ต่ำกว่าที่นอนขององค์หลวงตาเดชนิดหน๋อย
กระผมสังเกตุห้องหลวงตาเดช ท่านพักที่ห้องเก็บของใช้ภายในวัด โดยอาศัยมุมซ้ายมือของห้องเป็นที่พัก ลักษณะจะมีเตียงเล็กๆ แทบพอดีตัวของท่านเลยโดยท่านนำไม้กระดานมาปูลงบนแผงเหล็กอะไรสักอย่าง ซึ่งเล็กพอดีกับองค์หลวงตาเดชเลย
และบนหัวเตียงท่าน ท่านจะมีหิ้งพระเล็กๆ ซึ่งมีพระพุทธรูป หน้าตักสัก 3-5 นิ้วไม่แน่ใจ มีเพียง 1 องค์ และข้างๆขวามือของพระพุทธรูปจะมีหนังสือธรรมะสายพระอาจารย์มั่น อยู่ประมาณ 4-5 เล่มหนามากๆ หนักด้วย เท่าที่ขอหลวงตาเดชดูหนังสือจะมีประวัติพระอาจารย์มั่น และหนังสือขององค์หลวงตามหาบัว หลวงปู่เทศ เป็นต้น วางอยู่บนหิ้งที่หัวเตียงของท่าน โดยใช้ไม้แผ่นเล็กๆ เป็นตัวลองหนังสือ ซึ่งผมได้บอกหลวงตาเดชว่า อันตรายมากๆ เพราะถ้าไม้แผ่นนี้รับน้ำหนักหนังสือไม่ดี ก็จะหล่นลงมาโดนศรีษะองค์หลวงตาเดช ซึ่งกำลังจำวัดอยู่ ถ้าโชคดีก็แค่ศรีษะแตก แต่ถ้าโชคไม่เข้าข้างก็อาจจะสลบเหมือดก็ได้ เพราะหนักมากๆแต่ท่านกลับบอกว่าไม่เป็นไรหลอกท่านอยู่อย่างนี้มานานแล้ว
และที่เสียวไส้ไปกว่านั้นคือ มุมขวามือของห้องๆนี้ ซึ้งเก็บข้าวของเครื่องใช้ภายในวัดมากมาย เช่น พานทองที่ใส่ดอกไม้ ธูป เทียนใหญ่ หมอน เสื่อ ผ้าห่ม ผ้าจีวร เครื่องหยูกเครื่องยา รวมไปถึงอะไรต่อมิอะไรมากมาย ซึ่งวางหนักมากอยู่บนชั้นวางของซึ่งเป็นโครงเหล็ก โดยที่น่าหวาดเสียวมากก็เพราะโครงเหล็กชั้นขนาดใหญ่นี้ ทั้งแอ่น ทั้งเอนไปข้างซ้ายขวาบ้าง ดูเหมือนจะล้มลงมาทับผมซึ่งนอนหวาดเสียวอยู่ หลวงตาเดชท่านได้เมตตาบอกกระผมในคืนนั้นเลยว่า ไม่ต้องกลัวมันล้มลงมาหลอก เพราะมันแอ่นเซจนได้ที่ของมันแล้ว ถ้าเราไม่ไปโยกเยกมันมันก็คงไม่ล้มลงมาหรอก
บัดนี้ หลวงตาท่านเล่าว่าท่านกำลังสร้างโรงเก็บของประจำวัด กระผมเห็นเป็นประโยชน์ทั้งโดยความปลอดภัยขององค์หลวงตาเองด้วย และยังเป็นที่เป็นทางอีกด้วย จะได้เป็นระเบียบหาง่ายไม่อันตรายแก่บุคคลภายในวัดอีกด้วย
โดยท่านได้นำปัจจัยที่เหลือจากการพัฒนาวัดที่พี่ๆน้องๆชาวอุดร 108และชาวเว็ปพลังจิต ร่วมด้วยช่วยกันสร้าง เช่นทาสีกุฎี ศาลา ห้องนำ้ำวัดใหม่ ส่วนถนนทางขึ้นวัดบางช่วงมีหน่วยงานของหลวงร่วมกับองค์หลวงตาเดชได้พยายามเท พื้นเพื่อให้รถกระบะ หรือรถยนต์ ขึ้นมาถึงวัดได้บ้าง แต่เนื่องจากงบประมาณมากเหลือเกิน ก็อาจจะดี ร้ายเป็นบางช่วงๆครับ เพราะงบประมาณของหน่วยงานราชการก็มีไม่เพียงพอครับ
ตอนนี้ องค์หลวงตา้เดชท่านได้ซื้อวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ เตรียมไว้เรียบร้อยแล้วครับ โดยท่านเล่าว่า ท่านได้เทพื้นตั้งเสา และกำลังจะก่ออิฐ รวมไปถึงมุงกระเบื้อง ซึ้งซื้อไว้เรียบร้อยแล้ว กระเบื้องท่านบอกมี 105 แผ่น ความกว้างยาวของห้องเก็บของ คือ กว้าง 4.2 เมตร ยาว 4.8 เมตร หิน เหล็ก ปูน เสา และพื้น รวมไปถึงกระเบื้องท่านมีพร้อมหมดแล้วครับ
แต่ที่ท่านขาดท่านบอกว่า คือค่าแรงช่าง ซึ่งท่านคงจะหมดงบประมาณจริงๆครับ ท่านบอกกระผมว่างบมันไม่พอค่าแรงช่าง กระผมจึงขออนุญาติองค์หลวงตาเดช นำข่าวงานบุญนี้ มาช่วยสร้างห้องเก็บของให้องค์หลวงตาเดชอีกครั้งครับ
กระผมได้ถามองค์หลวงตาเดชว่าใช้งบประมาณค่าแรงเท่าไร ท่านบอกกระผมว่า หมื่อนกว่าๆเกือบๆ 2หมื่นบาทครับ ถ้าท่านใดที่ต้องการและสนใจในข่าวงานบุญครั้งนี้ จะทำบุญร่วมสร้างห้องเก็บของให้กับทางวัดป่าผาลาด จ.กาญจนบุรี สามารถติดต่อได้กับองค์หลวงตาเดชได้โดยตรงเลยนะครับ โดยโทรสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 080-4373988 ครับ
กระผมได้บอกองค์หลวงตาเดชว่า ให้ฆราวาสที่วัด ช่วยถ่ายรูปห้องที่กำลังสร้าง ไว้นำมาลงบอกบุญให้พี่ๆน้องๆชาวอุดร เว็ปพลังจิตดูกัน เพื่อจะได้เห็นภาพในการพัฒนาเสนาสนะภายในวัดขององค์หลวงตาเดช ท่านก็ตอบรับและจะให้ลูกศิษย์ส่งภาพลงมาให้ดูกันครับ คงเป็นเร็วๆนี้แหล่ะครับ อย่างไรช่วยๆกันด้วยนะครับสาธุอนุโมทามิครับ