☼ การพึ่งพาตนเองยามเกิดภัยพิบัติ ◄► เอนไซม์ เพื่อชีวิต ☼

ขอนำกระทู้นี้ มาทบทวนศึกษาอีกครั้ง อยางเร่งด่วน

 

น้ำหมักพวกนี้ในขณะที่ยังไม่ได้เอามาเปิดเติมอากาศ หรือเทแบ่งเพื่อทำให้มากขึ้น
ขอแนะนำว่าให้ฝังดินที่ความลึกประมาณ50ซม.-1เมตร

แต่ถ้าคิดจะทำทีละเยอะๆขอให้ใช้ไหจะดีกว่าขวดนะครับ
อย่าใช้พลาสติกปิดปากนะครับ
ขอให้ทุกท่านโชคดี
สาธุ

 

ได้อ่านกระทู้นี้นึกขึ้นมาได้ว่า ทำน้ำหมักไว้เล่น ๆ โดยเอาเศษผัก ผลไม้ ใส่ น้ำEM และ กากน้ำตาล ใส่ถัง เอาถุงพลาสติกครอบ วางไว้ใต้ต้นไม้ประมาณ 1 ปีจนลืม เพราะดูเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ไปแล้ว ลองเปิดดู ผลออกมาอย่างในรูปค่ะ ไม่มีกลิ่นเหม็นเน่า แต่มีกลิ่นเหมือนแก๊สนิดหน่อย น้ำสีดำ เศษผักเน่าไปแล้วเหลือกากเหลว ๆ ไม่ทราบจะไปรดต้นไม้ดีหรือเปล่า ถ้ามีท่านผู้รู้ผ่านเข้ามากรุณาแนะนำด้วยค่ะ ภาพสุดท้ายเป็นผู้สังเกตุการณ์ค่ะ

 

ตักออกมากรองผ้าขาวซัก2-3ครั้ง
แล้วเอาน้ำเปล่ามาทำให้เจือจาง
ป้องกันคนธาตุเบากินแล้วจะมีอาการข้างเคียง
ถ้าจะเอาไปรดต้นไม้แนะนำให้หาดิน ฟาง เศษหญ้ามาผสมกัน
แล้วค่อยใส่น้ำที่หมักไว้ไปเร่งปฏิกิริยาจะช่วยเพิ่มสารอาหารให้ต้นไม้ได้มากกว่าปกติ
ถ้าจะเอามากินแนะนำใส่น้ำเพิ่ม+ใส่เกลือเล็กน้อย แต่ถ้าใครมั่นใจว่าธาตุหนัก
ก็ลองดูได้ อย่ากินเยอะ เวลาขาดแคลนน้ำใช้จิบเอาทีละนิดแก้กระหาย
ถ้าใครสามารถกินน้ำวันละเพียง 1 ลิตรได้ หรือน้อยกว่า
จะเป็นผู้มีความทุกข์น้อยเมื่อถึงคราวนั้น
น้ำหมักพวกนี้มีประโยชน์คือเมื่ออาหารขาดแคลน นำน้ำมาผสมกับดินโป่งพอประทังชีวิตได้
ขอให้ทุกท่านมีอินทรีย์แก่กล้าเพียงพอที่จะอยู่รอดในทุกสถานการณ์
ขอให้ทุกท่านโชคดี
สาธุ

 

ขอบคุณสำหรับทุกๆโพสต์นะคะ

ท่านใดที่เพิ่งได้เข้ามาอ่านกระทู้นี้ สามารถเริ่มต้นทำน้ำหมักชีวภาพไปพร้อมๆกับพวกเราได้
โดยที่กระทู้หน้าแรก ซันจะทำลิ้งกลับมาหาข้อมูลต่างๆในกระทู้ทั้งหมดให้นะคะ
เพื่อสะดวกต่อการค้นหา

หากลองทำแล้วมีสิ่งใดต้องการถาม/ตอบ กัน
หรือแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความคิดเห็น
เชิญโพสต์ได้เลยค่ะ


===============

ถือโอกาสนี้อัพเดทกระทู้ในส่วนของการทำขยะให้เป็นโอโซน
และนำมาฝากพี่กุ้ง รัตติธรรม
ถึงการนำน้ำหมัีกชีวภาพจากเศษอาหาร ไปใช้ประโยชน์ต่อไปด้วยเลยค่ะ

 

มีข้อมูลการหมักน้ำชีวภาพเพิ่มขึ้นอีกมากครับ
และท่านใด ต้องการ หัวเชื้อ อายุ 30 ปีจากครูบาก้อง ก็ขอเชิญมารับได้เวลามาเรียนสมาธิที่เมตตาภิรมณ์ครับ

จะต่อเชื้อเอาไว้ให้ เพื่อประโยชน์ของทุกๆท่านครับ

 

ขอบคุณทุก ๆ ท่านที่รวบรวมข้อมูลที่มีประโยชน์ไว้ในกระทู้นี้นะคะ ได้รวบรวมไว้ทดลองทำเรียบร้อยแล้วค่ะ

อนุโมทนาสาธุค่ะ

 

การทำน้ำหมักชีวภาพให้เกิดประสิทธิภาพสูงนั้น

ครูบาท่านสอนให้

รินผสมด้วยสมาธิด้วยจิตเมตตา

ระหว่างหมักรอเก็บในห้องที่เจริญสมาธิธรรม กำหนดจิตให้กระแสธรรมกระแสเมตตา ช่วยแตกผลึกเพชร ในทุกอณูของจุลินทรีย์ จนเกิดประจุไฟฟ้าที่มีพลังงานเชิงบวกสูง ในการเยียวยา ในการรักษา ในการบำบัด ทั้งร่างกายและธรรมชาติ

ระหว่างใช้ให้ รินรดด้วยเมตตา จากดวงจิตใสสะอาดของเราที่ ปรารถนาที่จะเยียวยา ช่วยชีวิตผู้อื่น

รินรดสู่ผืนดินด้วยหัวใจที่ปรารถนาจะเยียวยาผืนโลกให้ฟื้นคืนกลับสู่ความอุดมสมบูรณ์ร่มเย็น

เมื่อเมตตาอยู่ในทุกอณู แตกผลึกเพชรกระจาย ซึมซาบสู่ทั่วร่างกาย ทั่วผืนแผ่นดิน ยังความสุข ความบริบูรณ์ให้เกิดขึ้นครับ

ลองทำดู

เปิดเพลงธรรมมะให้ฟัง

ทำสมาธิแผ่เมตตาจิตให้

กำหนดผลึกเพชรในฌานสี่ให้

ติดภาพหรือข้อความเชิงบวกเชิงกุศล มงคล

ระหว่างหมักครับ

 

น้ำหมักชีวภาพ

ยามนี้

ใช้เพื่อปรับสมดุลร่างกาย

ใช้เพื่อเป็นปุ๋ยชีวภาพไร้สารเคมี เพื่อสร้างผลิตอาหารสะอาด

ใช้เพื่อบำบัดน้ำเสีย ฟื้นฟูดิน ฟื้นฟูแหล่งน้ำ ลำคลอง สร้างสารอาหารให้ดินให้สัตว์ตัวเล็กตัวน้อยในดิน

ยามเกิดภัยพิบัติ

ใช้เป็นยา ยามยาฝรั่งหายาก ตาม ตำราพระพุทธเจ้า เรื่องยาดองน้ำมูถเน่า

ใช้เพื่อฟื้นฟูผืนน้ำ ผืนโลก

ยามผู้คน สัตว์ ตายมากมาย คนรอดฝัง ราดน้ำหมักชีวภาพ ปลูกต้นไม้ต่อ เพื่อลดภาวะการเกิดโรคระบาดติดตามมาครับ

เรียนรู้เอาไว้ ทำเอาไว้

มีแจกที่เมตตาภิรมม์ครับ ไปต่อเชื้อไปทำต่อที่บ้านได้ครับ

ให้ด้วย "เมตตา"

 

ขอนำข้อมูลบางส่วนที่ได้รับฟังจากการบรรยายของ ดร.รสสุคนธ์มาให้ท่านได้รับทราบค่ะ

ประโยชน์ของน้ำหมักชีวภาพกับการช่วยลดโลกร้อน ​

ต้านภัยพิบัติ<O</O​

โดย ดร.รสสุคนธ์พุ่มพันธ์วงศ์ บรรยาย ณ บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร สวทช. วันที่ 11 ก.ค. 2553
(คัดมาเพียงบางส่วน)
ความหายนะจากการนำแร่ธาตุใต้พื้นดินมาใช้<O></O>
* ประเทศที่อยู่ริมฝั่งทะเลทั้งหมด รวมทั้ง ประเทศไทย (เป็นขวานที่ลอยอยู่บนน้ำทะเล ) การขุดเจาะน้ำบาดาล , น้ำมันขึ้นมา (ประเทศไทย –อ่าวไทย) หรือแร่ธาตุต่าง ๆ เช่นเหล็ก ถ่านหิน คือการดึงเอาของที่หนักใต้พื้นโลกขึ้นมาบนเปลือกโลกขึ้นมา ทำให้แกนกลางของโลกเบาขึ้น และ มนุษย์น้ำของเหล่านั้นมากระจายไปตามส่วนต่าง ๆ ของโลกนั่นคือการเหวี่ยงของคนบนโลก เมื่อถูกแรงเหวี่ยงของเปลือกโลก ทำให้องศาการหมุนของโลกเปลี่ยนไป สภาพแวดล้อม ภูมิอากาศ ฤดูกาลเปลี่ยน เกิดพายุหมุน โรคระบาด
เราไม่เคยคิดหาวิธีการนำน้ำ หรือแร่ธาตุต่าง ๆ ไปชดเชยของใต้ดินที่เรานำไปใช้
**อากาศในกรุงเพทฯ โดยเฉพาะ สีลม บริเวณศูนย์การค้า อากาศเต็มไปด้วย คาร์บอนโมน๊อกไซด์ แอมโมเนียจากห้องน้ำ ซัลเฟอร์ไดอ๊อกไซด์ในอากาศ ถ้าผู้ที่มีอายุเกิน 40 /50 ปีขึ้นไป ไปอยู่ในบริเวณนั้น มีโอกาสที่จะเป็นโรคอัลไซเมอร์, มะเร็งปากมดลูก และ กล้ามเนื้อเปลี้ยได้
***การที่บรรยากาศไม่ดี ยังเป็นเหตุให้เกิดความเหนี่ยวนำสิ่งไม่ดีให้เข้ามาบ้านเมือง ผู้คนเกิดความขุ่นมัวของอารมณ์
****ปัจจุบันมีการวิจัยว่า การยุบตัวของพื้นดินที่เกิดขึ้น เช่น ที่ คอสตาริกา จะสังเกตว่าการยุบตัวชองตึก ยุบจากตรงกลางตึกก่อน ซึ่งอาจเกิดจากสารแอมโมเนียในห้องส้วม ก็เป็นได้ ซึ่งกำลังอยู่การช่วงการวิจัยที่เจนีวา
น้ำหมักชีวภาพ คือ ผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะเป็นของเหลวสีน้ำตาล โดยการสกัดจากอินทรียวัตถุจากพืช ผัก และ ผลไม้ โดยวิธีธรรมชาติ และมีประโยชน์ต่อระบบนิเวศในดิน และ พืช
น้ำหมักชีวภาพ แบ่งเป็น 2 ประเภท คือใช้เพื่อการบริโภค และ เพื่อใช้กับพืช และสัตว์<O></O>
*****การใช้น้ำหมักชีวภาพ ในน้ำทำให้น้ำใส สะอาดขึ้น เทบนดินทำให้ชั้น พื้นดินทำให้ดินฟูขึ้น 1 มม /วัน ทำให้เกิดการดึงน้ำบนดินลงไปใต้ดิน ได้อย่างรวดเร็ว เพิ่ม ออกซิเจน และ ไนเตรด ซึ่งจะช่วยลดกรดแอมโมเนีย และ ซัลเฟอร์ไดอ๊อกไซด์ ฯลฯในอากาศ ลดแรงกดอากาศ ทำให้ลดการเกิดพายุได้ เพราะอากาศเย็นขึ้น ลดการเกิดภาวะสึนามิบริเวณชายฝั่งทะเล<O></O>
ประเทศไทยอยู่เขตศูนย์สูตร เป็นสะดือโลก และเป็นศูนย์กลางของโลก ถ้าประเทศไทยสามารถยกชั้นบรรยากาศชึ้น ช่วยลดโลกร้อนได้ จะช่วยประเทศเพื่อนบ้านได้ด้วย และประเทศเพื่อนบ้านก็จะช่วยประเทศไทย เพราะสภาพแวดล้อมของเขายังดี มีป่าไม้มาก เช่น ลาว พม่า เมื่อสภาพอากาศเย็น ก็จะช่วยลดการเกิดไฟป่า
ข้อมูล : http://www.siamhealthy.net/article/index.htm(ชมรมบ้านสุขภาพ)
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/it/science.htm(ไอที-นวัตกรรม: วิทยาศาสตร์ วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2553 04:00 เภสัช มช.ไขข้อข้องใจน้ำหมักชีวภาพ โดย : ไชยวัฒน์ ไชยสุต )<O></O>

<O</O

 

น้ำหมักชีวภาพช่วยต้านภัยพิบัติ

ดร.รสสุคนธ์ เล่าว่า ประเทศมาเลเซียได้นำขยะมาทิ้งบริเวณรอยต่อระหว่างพรมแดนประเทศไทยมาช้านานแล้ว ท่านได้พยายามเจรจาให้มาเลเซียทำน้ำหมักเพื่อบำบัดขยะ น้ำเสีย บริเวณนั้น โดยอ้างว่าจะช่วยป้องกันโรคติดต่อ แต่มีข้อที่น่าสนใจคือ ถ้ามาเลเซีย สิงคโปร์ ใช้น้ำหมักชีวภาพ บำบัดขยะ และ ฟื้นฟูสภาพแวดล้อมประเทศของเขา สภาพชั้นบรรยากาศจะดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีแก่ประเทศไทยคือ ทะเลบริเวณประเทศเหล่านี้จะดี สามารถเป็นแนวป้องกันสึนามิให้แก่ประเทศไทยได้ด้วย ท่านที่อยู่ภาคใต้ พยายามหาข้อมูล และ ควรเผยแพร่ให้ได้ใช้กันทั่วหน้า เพราะช่วยลดภัยพิบัติที่บ้านของท่านให้เบาบางลงได้ค่ะ

ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไปแล้วค่ะ

 

ได้เวลา เปิดกรุน้ำหมักออกมาช่วยชาติกันแล้วนะคะ

ได้ข่าวจากแหล่งข่าวของเราที่ไปลงพื้นที่จังหวัดลพบุรี ซึ่งประสบภาวะน้ำท่วมขัง

อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากอุทกภัยที่ผ่านมา

ขณะนี้น้ำที่ท่วมเริ่มนิ่งและเน่าส่งกลิ่นเหม็น

สิ่งที่ประชาชนในพื้นที่ต้องการด่วนเวลานี้คือ น้ำหมักเอนไซม์ ค่ะ

เพื่อนำมาเทราดให้ทั่วบริเวณพื้นที่น้ำท่วมขังอย่างต่อเนื่อง

ท่านใดสามารถติดต่อศูนย์หรือท่านใดมีน้ำเอนไซม์ที่หมักจากขยะสด

โปรดแจ้งกลับมาทางเราด้วยนะคะ

เพื่อจะได้ประสานงานช่วยเหลือท่านที่กำลังได้รับความลำบากอยู่ในเวลานี้กันค่ะ


หมายเหตุ

ขอให้เป็นน้ำหมักจากขยะสดที่หมักตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป
หากหมักด้วยกากน้ำตาล

และ 3 เดือนขึ้นไป กรณีที่หมักด้วยน้ำตาลทรายแดงค่ะ

 

ผู้ใดที่ได้ทำไว้นำมาร่วมกันนะคะ เพราะต้องการใช้จำนวนมากค่ะ

 

<table id="post3990041" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr valign="top"><td class="alt2" style="border-width: 0px 1px; border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255);" width="175">1535
สมาชิก



วันที่สมัคร: Dec 2009
ข้อความ: 148
Groans: 4
Groaned at 0 Times in 0 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 2,580
ได้รับอนุโมทนา 1,672 ครั้ง ใน 144 โพส
พลังการให้คะแนน: 109


</td> <td class="alt1" id="td_post_3990041" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <center>สถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดลพบุรี

</center>
<hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1">

วันนี้ได้โทรศัพท์คุยกับเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการท่านหนึ่งที่ดูแลพื้นที่ภัยพิบัติในจังหวัดลพบุรี
แจ้งข่าวว่าขณะนี้ยังท่วมอยู่ที่ อำเภอเมือง อำเภอบ้านหมี่ และ อำเภอท่าวุ้ง
สำหรับของบริจาคนั้นเรื่องอาหารแห้งมีเพียงพอแล้ว เพราะได้รับถุงยังชีพพระราชทาน
สิ่งที่ยังขาดอยู่คือ ถุงดำ และผ้าอนามัยสำหรับสุภาพสตรี
และที่สำคัญและต้องการมากตอนนี้คือ "น้ำ EM" เพราะน้ำที่ท่วมอยู่เริ่มเน่าเหม็น
จังหวัดลพบุรีมีสภาพภูมิประเทศเป็นแอ่งกระทะทำให้น้ำถ่ายเทออกได้ช้ากว่าที่อื่น
ตอนนี้สถานการณ์เริ่มดีขึ้น เพราะน้ำในแม่น้ำเริ่มลดลงบ้างทำให้สามารถสูบน้ำออกไปได้
แต่บางพื้นที่ชาวบ้านยังไม่สามารถกลับเข้าไปอยู่ในบ้านได้ บางคนต้องออกมานั่งนอนอยู่บนหลังคา
เห็นว่าที่วัดท่าแค อำเภอเมืองชาวบ้านได้อพยพไปอยู่กันจำนวนมาก
แต่ที่วัดนี้ต้องนั่งรถทหารเข้าไปเท่านั้น รถอื่นยังวิ่งเข้าไปไม่ได้

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับหลาย ๆ จังหวัดตอนนี้เป็นสิ่งสำคัญที่พวกเราจับตาดู
เพื่อวิเคราะห์ถึงความต้องการที่แท้จริงของผู้คนยามประสบภัยพิบัติ
สิ่งใดที่ใช้ได้ผลดี สิ่งใดที่ใช้ไม่ได้ผล เพราะเรายังอยู่ในช่วงลองผิดลองถูกกันอยู่ในทุก ๆ หน่วยงาน
ตัวอย่างเช่น อาหารสดที่นำไปแจก หากเป็นข้าวกล่องก็มักจะบูดเสียเร็ว
ถ้าหากเสียก็เท่ากับต้องอดกันไปหนึ่งมื้อ และคนส่งข้าวต้องวิ่งเข้าออกวันละหลายรอบ
อาหารประเภทไหนที่เหมาะสมที่สุด ตอนนี้ที่ดีกว่าข้าว
คือข้าวเหนียวหมูเค็ม ปลาเค็มปลาทอด หรือซาลาเปา ที่เสียยากและขนง่ายกว่า
แต่ที่ต่างประเทศมักใช้ Energy Bar ดูไปก็เหมือนกับกระยาสารทบ้านเราเพียงแต่ทำให้เป็นบาร์ห่อกระดาษฟอยล์แบบขนมทั่วไป
หรือคุ้กกี้บาร์ที่มีเมล็ดพืชข้างใน
อาจเป็นข้าว ข้าวโอ๊ด ช็อคโกแลต ผลไม้กวนข้างใน
อย่างนี้น้ำหนักเบาเก็บได้นาน
ทุกบ้านมีไว้บ้างก็ไม่ต้องทนอดเมื่อไม่มีคนมาแจกอาหาร อย่างนี้เป็นต้น

นอกจากช่วงภัยพิบัติที่เราต้องช่วยกันแล้ว สภาพจิตใจช่วงหลังน้ำลดเป็นอีกเรื่องที่ต้องดูแล
เพราะทุกคนต่างสูญเสีย และเสียกำลังใจไปบ้าง เราจะสามารถช่วยได้อย่างไร

กลุ่มของเราจะลงพื้นที่ที่ลพบุรีเพื่อนำของบริจาคไปให้ โดยมีน้ำหมักชีวภาพ EM ไปแจกชาวบ้านผู้ประสบภัย
(น้ำหมักชีวภาพต้องใช้เวลาในการหมัก 3 เดือนเป็นอย่างย้อย หากท่านยังไม่ได้ทำไว้ สามารถศึกษาได้จากกระทู้ข้างล่างนี้ค่ะ)

กระทู้วิธีทำน้ำหมักชีวภาพ EM

ท่านใดที่ได้หมักน้ำชีวภาพไว้สามารถนำมาบริจาคได้ที่ "เมตตาภิรมณ์"

แผนที่เมตตาภิรมณ์

ที่จังหวัดลพบุรี ยังมีน้อง ๆ ที่มีความบกพร่องทางสติปัญญาจากโรงเรียนลพบุรีปัญญานุกูล ที่ถูกน้ำท่วม
ตอนนี้กลับมาเรียนได้ตามเดิม ต้องการรับบริจาคข้าวของเครื่องใช้พื้นฐาน เพราะเด็กส่วนมากอยู่ประจำค่ะ
อย่างเช่น ของใช้ของเด็กตั้งแต่ปฐมวัย จนถึงม.4 รองเท้าแตะ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน สบู่ ยาสระผม ของเล่น เครื่องกีฬา

โรงเรียนลพบุรีปัญญานุกูล

เราจะเปิดรับบริจาคที่เมตตาภิรมณ์ หรือติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ PM หรืออีเมล์ clearmap@gmail.com
หรือโทรศัพท์ 086-014-3113​

</td> </tr> <tr> <td class="alt2" style="border-width: 0px 1px 1px; border-style: none solid solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255);"> </td> <td class="alt1" style="border-width: 0px 1px 1px 0px; border-style: none solid solid none; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color;" align="right"> </td></tr></tbody></table>

 

ชีวภาพมีประโยชน์มาก สองชั้นครับ

- ลดความเน่าเสียของน้ำที่ขัง น้ำท่วม

-ลดอัตราการเกิดโรคระบาด พวกท้องร่วง อหิวาตกโรค น้ำกัดเท้า ฮ่องกงฟุต

-รวมทั้งทำให้น้ำท่วมกลายเป็นปุ๋ยกลับมาสร้างความอุดมสมบูรณ์ ในยามน้ำท่วมลดหายไป น้ำที่ไหลต่อลงแหล่งน้ำ กลายเป็นคลองแม่น้ำที่สะอาดและมีสารอาหารหล่อเลี้ยงผืนดินพืชพันธุ์

ธรรมชาติบำบัดฟื้นฟูตัวเอง เราช่วยธรรมชาติในจุดในจังหวะที่เหมาะสม สอดคล้องประสานกัน ให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ ศานติสุขร่มเย็น ทั้งมนุษย์ และธรรมชาติครับ

 

เคยเห็นในโทรทัศน์ มีการผลิตตามชุมชนคิดน่าจะประกาศทางโทรทัศน์/วิทยุ ขอความร่วมมือ หรือขอรับบริจาค ผมจำชื่อหมู่บ้านไม่ได้ แต่ที่ระยองมีแหล่งผลิตขายขนาดขวดน้ำดื่ม 1.5 ลิตรราคา 28 บาทใช้ผสมน้ำใช้ได้ แต่ถ้าเป็นแบบก้อนกลม ๆก้อนละ 8 บาทขนาดลูกเทนนิส (แบบก้อน กองทัพภาค 2 หรือ 4 มีการส่งเสริมประชาชนทำใช้เอง ) ทั้ง 2 แบบ มีขายที่สหกรณ์ทหารบก สถานีรถไฟสามเสน ตรงข้าม รพ.วิชัยยุทธ
อาหารกินได้เลยและเก็บ 2-3 วัน มี ข้าเหนียว หมูทอด เนื้อเค็มทอด ไก่ทอด ไข่ต้ม ปลาทูทอด ปลากระป๋อง (แถมพริกขี้หนู) และจะไปจ.ลพบุรี ในวันใด และไปตรงพื้นที่จุดใด เพราะเพื่อนแฟน เขาจะเอายาไปถวายวัดแห่งหนึ่งใน จ.ลพบุรี ผมกับแฟนก็สมทบทำบุญไปกับเขาด้วย และที่ผมจะซื้อเชื้อชีวภาพแบบเป็นก้อนไปให้ (ขว้างให้สนุกไปเลย)

 

สถานการณ์อย่างนี้ต้องใช้วิชาการทหารเข้าช่วยจริง ๆ ค่ะ

ชีวภาพแบบเป็นก้อนกลม ๆ น่าจะขนได้สะดวกกว่านะคะ

แต่ใช้งานแบบเดียวกับอย่างน้ำหรือเปล่าค่ะ

น่าจะลงไปวันธรรมดาค่ะ อยากจะไปที่วัดท่าแค อำเภอเมือง

เป็นจุดที่รถเข้าไม่ถึง ต้องอาศัยรถทหารเข้าไป


เพราะต้องการเข้าไปดูว่าเวลาที่ปรับวัดเพื่อรองรับภัยพิบัตินั้นมีอะไรบ้าง

ที่ต้องตระเตรียมน่ะค่ะ เพื่อจะได้เตรียมการไว้ก่อน ยามที่มีภัยพิบัติระลอกใหม่น่ะค่ะ​

 

ที่บ้านมีน้ำหมักค้างปี 1 ถัง จะขนไปยังไง คงต้องใช้เป็นแบบก้อน อย่างที่คุณMarine บอกค่ะ

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="98%"><TBODY><TR><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 width=770 bgColor=#fcfcfc><TBODY><TR><TD>น้ำหมักดินระเบิด(1)สูตรช่วยย่อยสลายตอซังในนาข้าวหลังการเก็บเกี่ยว
น้ำหมักดินระเบิด(2)ศึกษาข้อมูลวิธีการทำได้แล้ววันนี้ที่ rakbankerd.com

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=800 bgColor=#ffffff align=center><TBODY><TR><TD style="TEXT-ALIGN: justify">การใช้น้ำหมักสูตรดินระเบิดย่อยสลายตอซังในนาข้าว
นำดินที่ขุดมาบดให้ละเอียด แล้วนำมาผสมคลุกเคล้าให้เข้ากันกับส่วนผสมทั้งหมด แล้วค่อยๆราดน้ำลงไปจนสามารถปั้นก้อนดินเป็นก้อนขนาดเท่ากำมือได้ - จากนั้นนำกระดาษมาห่อก้อนดินที่ปั้นแล้ว เก็บไว้ในที่ร่ม ประมาณ 15 วัน จะเกิดเชื้อราสีขาวทั่วทั้งก้อน นำไปใช้ประโยชน์ได้ แต่ก่อนใช้ต้องขยายหัวเชื้อก่อน

<HR>

</TD></TR><TR><TD align=middle> </TD></TR><TR><TD style="TEXT-ALIGN: justify" vAlign=top>
1.การทำหัวเชื้อน้ำหมักดินระเบิด
วัตถุดิบ
1.ดินดี คือ ดินที่อยู่ได้ร่มไม้หรือในป่า เมื่อขุดขึ้นมาจะมีเชื้อราสีขาวติดอยู่ด้วย และมีสีดำ โดยหาได้ในป่ามีดินทับถมกันมานาน จำนวน 1 กิโลกรัม
2.รำอ่อน จำนวน 1 กิโลกรัม
3.น้ำตาลทรายแดง จำนวน 2 ช้อนโต๊ะ
4.น้ำเปล่าประมาณที่เหมาะสม

วิธีการ
นำดินที่ขุดมาบดให้ละเอียด แล้วนำมาผสมคลุกเคล้าให้เข้ากันกับส่วนผสมทั้งหมด แล้วค่อยๆราดน้ำลงไปจนสามารถปั้นก้อนดินเป็นก้อนขนาดเท่ากำมือได้
- จากนั้นนำกระดาษมาห่อก้อนดินที่ปั้นแล้ว เก็บไว้ในที่ร่ม ประมาณ 15 วัน จะเกิดเชื้อราสีขาวทั่วทั้งก้อน นำไปใช้ประโยชน์ได้ แต่ก่อนใช้ต้องขยายหัวเชื้อก่อน

2.การขยายหัวเชื้อดินระเบิดเป็นน้ำหมัก
วัตถุดิบ
1.น้ำเปล่า จำนวน 10 ลิตร
2.กากน้ำตาล จำนวน 3 ลิตร
3.ดินระเบิด จำนวน 1-3 ก้อน

วิธีการ
- ผสมน้ำกับกากน้ำตาล คนให้เข้ากันใส่ภาชนะ
- หย่อนก้อนดินระเบิดลงไปทั้งหมด จะเกิดปฏิกิริยา คือ น้ำจะเดือดเหมือนกำลังต้มด้วยไฟ แต่ไม่เป็นอันตราย
- ปิดฝาให้สนิท ตั้งไว้ในที่ร่มประมาณ 15 วัน จะได้น้ำหมักดินระเบิดนำไปใช้ประโยชน์ได้

3.ประโยชน์ของน้ำหมักดินระเบิด
- เป็นหัวเชื้อใช้ย่อยสลายซากอินทรียวัตถุต่างๆได้ดี
- เหมาะสำหรับใช้ในแปลงนาข้าว เพื่อช่วยเร่งการย่อยสลายอินทรียวัตถุ วัชพืช และตอซัง โดยใช้น้ำหมักเข้มข้น 5 ลิตร/ไร่ ราดให้ทั่วตอซังในแปลงนาก่อนไถกลบ
- ใช้สำหรับการทำปุ๋ยหมักอินทรีย์ชีวภาพอัดเม็ด
- สำหรับพืชผักสวนครัว / ไม้ยืนต้น ให้ใช้ที่ความเจือจาง น้ำหมักดินระเบิด 1 ลิตร ต่อ น้ำ 100 – 500 ลิตร ขึ้นอยู่กับขนาดของต้นไม้และพืชผัก


ที่มา : ศูนย์ทางด่วนข้อมูลทางการเกษตร*1677
สถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกันจ.อุบลราชธานี



</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ขอบพระคุณค่ะพี่กุ้ง

ขอบคุณทุกๆไอเดียเพื่อส่วนรวมที่นำเสนอกันมาค่ะ

น้ำหมักแบบก้อนๆ แบบดินระเบิด (ชื่อนี้เพิ่งเคยได้ยินเนี่ยค่ะ !!)

หรืออีกชื่อหนึ่งที่นิยมเรียกกันว่า "โบกาฉิ" ชื่อนี้ได้รับคำแนะนำจาก อ.คณานันท์ นี่ละคะ

แรกๆฟังเพี้ยนไปเป็นบัวกะฉีก ..แหะๆ งงอยู๋ตั้งนาน



ส่วนเรื่องที่ว่าควรใช้แบบใดดีระหว่าง เท แบบที่ยังเป็นน้ำหมักของเหลว หรือแบบโบกาฉิ ดีนั้น

ได้กราบเรียนสอบถามจากครูบาก้อง เรื่องว่า สถานการณ์น้ำ่ท่วมขังอย่างนี้ควรใช้แบบเทโดยตรง จะได้ผลเร็วกว่าค่ะ

ในอัตราส่วน 1 : 10,000

คือ น้ำหมักจากขยะสด 1 ส่วน ต่อ น้ำท่วมขัง 10,000 ส่วน กะเอาโดยประมาณนะคะ

ควรเทซ้ำทุกๆ 3 วัน จึงจะเห็นผลต่อเนื่องกันไปค่ะ