พระพุทธเจ้าที่เป็นผู้หญิง

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย จันทโค, 25 กุมภาพันธ์ 2010.

  1. แสงส่องทาง

    แสงส่องทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2010
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +223
    ถามได้ ก็เป็นคนนะสิ

    เอาอะไรถามครับ
    คิดหรือยัง
     
  2. คนนะ

    คนนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    76
    ค่าพลัง:
    +221
    ไม่รู้เหมือนกัน ว่า ทำไมถึงอยากให้พระพุทธเจ้าเป็นผู้หญิงไปได้ .....
    อยากรู้คำตอบแบบแจ่มๆจัง
     
  3. เมทิกา

    เมทิกา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    952
    ค่าพลัง:
    +2,393

    ให้ใช้ซีรีบรัมอันมีรอยหยักเพียงน้อยนิดของเราเดาแล้ว ที่ท่านกล่าวแบบนี้ท่านน่าจะมีเหตุผลของท่านนะ อย่ารีบร้อน ดูๆไป
     
  4. Nothing Eternal

    Nothing Eternal เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    117
    ค่าพลัง:
    +654
    แค่บำเพ็ญถึงชั้นพรหม สภาวะเพศก็ไม่มีความจำเป็น เพราะไม่ใช่สภาวะของผู้ครองเรือน

    ดังนั้น จึงไม่มีความเป็นเพศหญิง หรือ ชาย อย่างในภพภูมิที่หยาบอย่างมนุษย์

    ดูอย่าง พระพรหม ในพรหมโลก และ พระวิสุทธิเทพ ในนิพพาน
    แม้จะทรงมีพระวรกายเหมือนเทพบุตร แต่ท่านก็หาใช่บุรุษเพศ ทรงเป็นสิ่งที่สูงกว่านั้น
    คือสภาพที่พ้นไปแล้วซึ่งกิเลส ดังนั้น จึงไม่เนื่องด้วยการครองเรือน ไม่เสพกามคุณ
    ล่วงพ้นสภาวะของการถือเพศเป็น ชาย หรือ หญิง ในที่สุด

    อย่าเอาสภาวะหยาบๆแบบมนุษย์ ไปจำแนกเรื่อง บุรุษ หรือ สตรี ในพระมหาสัตว์เลย
    เพราะเมื่อท่านตรัสรู้แล้ว ท่านก็ล่วงพ้นสภาวะอันเนื่องด้วยเพศอยู่ดี

    ที่คนเราปรารถนาจะเห็นพระพุทธเจ้าเป็นสตรีเพศนั้น ถามใจตนเองให้ดีๆ
    ว่านั่นเป็นกิเลสของเราเองหรือเปล่า ที่เรายังคงหลงชื่นชมในภพภูมิหยาบอยู่


    ปล. ตามหลักปฏิจจสมุปบาทแล้ว ถ้าจิตยังรักในภพภูมิใดภพภูมิหนึ่งอยู่ วิบากก็จะนำชัก
    ให้ไปเกิดในภพภูมินั้นๆ ต่อเมื่อสิ้นอาสวกิเลสแล้ว จึงจะเข้านิพพานได้

    ก็เลือกเอาครับ ว่าชาตินี้จะเอาขั้นไหน กามาวจรสวรรค์ หรือ พรหม หรือ นิพพาน<!-- google_ad_section_end -->
     
  5. แสงส่องทาง

    แสงส่องทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2010
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +223
    พระพุทธเจ้าท่านบอกแล้วว่ามีแต่เป็นชายเท่านั้น

    ใครว่าอย่างอื่นอย่าไปเชื่อ

    เราต้องเชื่อพระพุทธเจ้า มีพระพุทธเจ้าเท่านั้นที่ไม่ผิด
     
  6. แสงส่องทาง

    แสงส่องทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2010
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +223

    ตอบได้เยี่ยมมากๆ

    ดีกว่าบางคนชอบมาพาคนหลงมั่ว รู้ได้อย่างไรว่าคนอื่นเขาพูดถูก ถ้าผิดพุทธพจน์ก็ถือว่าผิด
     
  7. J47

    J47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    500
    ค่าพลัง:
    +3,405
    ไม่ได้ถามสักหน่อย ว่าเป็นตัวอะไรรรรรรร
    อ่านภาษาไทยออกไหมเนี่ยยยยยยย
     
  8. J47

    J47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    500
    ค่าพลัง:
    +3,405

    เจ่ง ++++++ จังเลยครัย
    :cool::cool::cool::cool::cool:(ให้ ๔ โป้งเลยครับ อิอิ)

    ตอบได้งามเหมือนรูป หญิง ชุดไทยย้อนยุคเลยครับ
    น่าโมทนากับ หลวงแม่ ท่านหลวงแม่ ธัมมนันทา ท่านองค์ทะไลลามะ และท่่าน จขกท...จังเลยครับ
     
  9. ตุ๊โต้ง

    ตุ๊โต้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    160
    ค่าพลัง:
    +223
    เคยได้ยินแต่พระโพธิสัตว์ที่มีเพศเป็นหญิงครับ(ได้แก่ เจ้่าแม่กวนอิมและอีกองค์นามว่าปัทมาปาณิผมรู้เท่านี้)
    เออ...งั้นจะมีลักษณะมหาบุรุษไว้ทำไม???
    ขอเพิ่มครับงั้นโบราณจะกำหนดไว้ทำไมว่ามหาบุรุษผู้นี้จะได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือพระเจ้าจักรพรรดิถ้าอิสตรีเป็นเยี่ยงเดียวกันได้
    เคยได้ยินความเชื่อของโบราณไหมครับให้หญิงนั่งคอช้างต้นความเป็นกาลากิณีจะบังเกิดแก่บ้านเมือง เหตุนี้แหละครับคนโบราณเขาเชื่อกันเพราะบางสิ่งผู้หญิงไม่ควรทำไม่ควรเป็นตำแหน่งนั้นไม่ใช่ว่าดูถูกเพศแม่นะครับ แม่ผมเป็นคนพูดให้ผมฟังด้วยซ้ำว่าตำแหน่งคอช้างต้นห้ามผู้หญิงนั่ง...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 10 พฤศจิกายน 2010
  10. yokey_up

    yokey_up เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    139
    ค่าพลัง:
    +160
    สงสัยในสิ่งที่ไม่สมควรสงสัย

    มีความลังเลสงสัย????
    สงสัยในสิ่งที่มีตัวตน?? สงสัยในสิ่งที่ไม่มีตัวตน??
    อย่าลืมนะครับสงสัยแบบไม่มีเหตุผลอาจทำให้ความโง่ครอบงำได้

    ที่ท่านค้นหาอะไรในศาสนาพุทธ ไม่ใช่ค้นหาในทางดับทุกข์มิใช่หรอ
     
  11. J47

    J47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    500
    ค่าพลัง:
    +3,405
    โมทนาครับ
    ลองอ่านดูดีๆๆนะครับ ว่าหลวงแม่ และองค์ทะไลฯฯ ท่านเทศน์นั้น ไม่ได้หมายถึง อย่างที่ท่านทั้งหลายเข้าใจกันเลยนะ คำตอบมันมีอยู่ในตัวอยู่แล้ว ว่า..เป็นไปไม่ได้นะครับ

    ส่วนเรื่องหญิงนั่งคอช้างต้นนั้น ลองอ่านประวัติพระสุริโยทัยดูนะครับ(จะเป็นกาา.......อย่างที่ท่านกล่าวไว้ไม่ใช่เลย)
    มัน คนละเรื่องกันกับ กระทู้ นะครับ
    ผู้หญิงนั้นเป็นได้เกือบทุกๆๆๆ อย่างเทียบเท่ากับชายเลย ยกเว้นที่หลวงแม่กล่าวมาข้างต้น ไม่เชื่อลองอ่านประวัติ ผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบที่สุดในพุทธกาลดูนะครับ
    ท่าน วิสาขา นะครับ เป็นต้นแบบของผู้หญิงเลย เป็นได้มากกว่าชายอีก(ยกเว้นที่หลวงแม่กล่าวมาข้างต้น)

    ก็เป็นการไม่ยกย่องผู้หญิงงัยละครับ คนโบราณนะ
    ท่านเคยดูหนังที่ พี่จินตหราแสดงไหม(จำชื่อเรื่องไม่ได้นะ) อำแดงอะไรสักอย่างนี้ละ เห็นไหมละว่าผู้หญิงไม่มีสิทธิอะไรเลย เพราะเป็นความเชื่อของคนไทยโบราณมากๆๆๆๆๆๆๆ++++++ นะครับ
     
  12. ตุ๊โต้ง

    ตุ๊โต้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    160
    ค่าพลัง:
    +223
    งั้นลองมีประธานฯสภาหญิงดูไหมครับ คำโบราณหรือบางอย่างคนสมัยนี้อาจมองว่าล้าสมัย
    แต่ผมได้ยินคำใครไม่รู้นะท่านกล่าวไว้อันไหนเป็นสิ่งโบราณเป็นของดีเป็นของหายากถึงแม้จะล้าสมัยแต่ยังพอใช้การได้ให้รับและเก็บรักษาไว้อันไหนไม่ดีไม่ต้องไปรับหากจะเป็นการหมิ่นท่านก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย ผมไม่เคยคิดดูถูกพระศรีสุริโยทัย แต่นี้ก็เป็นเพียงตัวอย่างเบื้องต้น ผมบูชาท่านดุจเทพยาดา แต่ผมรับคำสอนนี้สืบต่อมาครับ และผมจะถือปฎิบัติอย่างนี้ ตลอดไปตราบที่ยังมีสติระลึกได้จนกว่าจะเข้าถึงซึ่งพระนิพพาน
     
  13. แสงส่องทาง

    แสงส่องทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2010
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +223
    อนาคตก็ไม่มีพระพุทธเจ้าที่เป็นผู้หญิง พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้แล้ว
    ท่านใดใจดีเอาพระไตรปิฎกมาให้พวกเขาดูหน่อย

    ใครจะพูดอย่างไรไม่สน แต่พระพุทธเจ้าท่านตรัสแล้วถูกที่สุด ไม่มีผิด
     
  14. J47

    J47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    500
    ค่าพลัง:
    +3,405
    เปงซะงั้น คนเราไปข้างๆๆซะแล้ว
    ลองดูสิครับ(เรื่องประธาน ญ. นะ)
    ผมเองเป็นอีกคนที่ไม่ค่อยเชื่อเรื่องโบราณนะครับ
    ผมเชื่อแต่เหตุผล ที่เป็นไปได้เท่านั้นนะ
    สรุปที่ผมพิมพ์มาครั้งก่อนก็ถูก อิอิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤศจิกายน 2010
  15. J47

    J47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    500
    ค่าพลัง:
    +3,405
    ว้า.......คนเราเปงเอามาก
    ยังไม่มีใครแย้ง พุทธดำรัสที่พระพุทธเจ้า ตรัสไว้เลย
    .....ไม่ไหวแล้วมั้ง คนเรา อิอิ สงสัยจะอ่านภาษาไทยไม่เข้าใจ อิอิ
     
  16. ดอกพุดซ้อน

    ดอกพุดซ้อน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +54
    องค์ทะไลลามะ คืออวตารของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร
    ผู้ครองตำแหน่งองค์ปัจจุบัน ตอบแบบนักการฑูต ไม่ตอบรับ และไม่ปฏิเสธ วิเคราำะห์คำตอบให้ดี
    เมื่อคิดได้ก็อมยิ้ม
    แต่เอามาตั้งกระทู้เพื่อจุดประสงค์อะไร อันนั้นไม่ทราบ
    ถ้าเป็นเถรวาทก็ปล่อย วัชรยานตอบแบบนั้นเถิด
    เถรวาทเรารักษาพระธรรมพระวินัยได้ เพราะเรารักษาของเราจริงๆ
    ขึ้นชื่อว่าหนึ่งไม่มีสอง
     
  17. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    ก่อนอื่นต้องขอโทษ ท่านทั้งหลายที่เข้ามาอ่านก่อนนะครับ

    กระทู้นี้ไม่มีจุดประสงค์อะไรเลยนะครับ
    เป็นการสนทนาระหว่าง นิตยสารซีเคร็ต กับ หลวงแม่ธัมมนันทา นะครับ
    ผมเห็นน่าอ่าน เลยนำมาให้อ่านเฉยๆๆ นะครับ

    ขออธิบายนิดนะครับ

    ผู้ที่จะตรัสรู้เป็น พระพุทธเจ้า นั้น ต้องเป็น " มหาบุรุษ " เท่านั้น
    มหาบุรุษ แปลว่า บุรุษผู้ยิ่งใหญ่,ลูกผู้ชายผู้ยิ่งใหญ่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 12 พฤศจิกายน 2010
  18. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    ต่อ
    คำว่า "บุรุษ" เป็นคำสันสฤต มีความหมายตรงกับคำว่า "ปุริส" ในภาษาบาลี อย่างไรก็ตาม ความหมายของคำทั้งสองนี้เหมือนกัน คือ มีความหมายว่า "ผู้อยู่ในฐานะที่สูง"(หมายถึง ผู้ชาย)
    ที่ว่า ผู้ชายอยู่ในฐานะที่สูง นี้ หมายถึง สูงกว่าผู้หญิง
    เหตุที่กล่าวเช่นนี้ เพราะกำหนดเอา "พุทธภาวะ" (ความเป็นพระพุทธเจ้า) และ "จักกวัตติภาวะ" (ความเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์) เป็นเกณฑ์ตัดสิน
    เนื่องจากว่า หญิงแม้จะสามารถเป็นอะไรต่อมิอะไรได้เท่าเทียมชาย แต่เมื่อพูดถึงภาวะทั้งสองนี้แล้ว หญิงไม่สามารถเป็นได้เลย ตราบใดที่ยังไม่เปลี่ยนเพศมาเป็นชาย
    ทำไมหรือ?? หญิงจึงไม่สามารถเป็นพระพุทธเจ้าหรือเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์ได้???
    คำตอบง่ายๆๆๆ ก็คือว่า เพศไม่เหมาะสม
    และอย่าว่า แต่หญิงเลย แม้แต่ชาย ก็ใช่ว่าจะเป็นได้หมดทุกคน ถาวะทั้งสองงนี้เป็นภาวะสูงสุด พุทธภาวะเป็นภาวะสูงสุดในด้านศาสนจักร ส่วนจักกวัตติภาวะเป็นภาวะสูงสุดในด้านอาณาจักร
    คัดลอกมาจากหนังสือ " พระโพธิสัตว์ในนิกายเถรวาท"(ท่าน จรรจบ บรรณรุจิ แต่งครับ)

    ปล.ต้องขอโทษแทนรุ่นน้อง J47 ด้วยนะครับ น้องเขายังเด็กอยู่นะครับ (แต่ความรู้น้องเขาไม่เด็กเลย ครับ)
     
  19. AVATAAR

    AVATAAR เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    276
    ค่าพลัง:
    +603



    ขอรับทุกท่านถ้าได้อ่านตั้งแต่กระทู้ต้นๆมาก็จะพอให้สิ้นสงสัยได้บ้างนะขอรับดังเช่นกระทู้ที่ 11 ของท่านPhanudet

    จะยกอีกตัวอย่างหนึ่งจากพระไตรปิฎกนะขอรับ ซึ่งก็คล้ายคลึงกัน แต่กล่าวไว้ต่างวาระให้พิจารณาขอรับ

    พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๐ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒
    ทีฆนิกาย มหาวรรคหน้า ๑๕-๑๖<O:p</O:p

    ขอเดชะ ก็พระราชกุมารนี้ประกอบด้วยมหาปุริสลักษณะ ๓๒เหล่าไหน อันเป็นเหตุให้มีคติเป็นสองเท่านั้น ไม่เป็นอย่างอื่น คือ ถ้าครองเรือนจักได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิผู้ทรงธรรม เป็นพระราชาโดยธรรม เป็นใหญ่ในแผ่นดิน มีมหาสมุทร ๔ เป็นขอบเขต ทรงชนะแล้วมีพระราชอาณาจักรมั่นคงสมบูรณ์ด้วยแก้ว ๗ ประการ คือ จักรแก้ว ฯลฯ ครอบครองแผ่นดินมีสาคร ๔ เป็นขอบเขต ถ้าเสด็จออกผนวชเป็นบรรพชิต จะได้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า มีหลังคาคือกิเลสอันเปิดแล้วในโลก ฯ<O:p</O:p

    ๑. ขอเดชะ ก็ พระราชกุมารนี้มีพระบาทประดิษฐานเป็นอันดี(เรียบเสมอ) ข้าแต่สมมติเทพ การที่พระราชกุมารนี้มีพระบาทประดิษฐานเป็นอันดี นี้เป็นมหาปุริสลักษณะของมหาบุรุษนั้น ฯ
    ๒. ณ พื้นภายใต้ฝ่าพระบาททั้ง ๒ ของพระราชกุมารนี้ มีจักรเกิดขึ้นมีซี่กำข้างละพัน มีกง มีดุม บริบูรณ์ด้วยอาการทั้งปวง ข้าแต่สมมติเทพ แม้การที่พื้นภายใต้ฝ่าพระบาททั้ง ๒ ของพระราชกุมารนี้มีจักรเกิดขึ้น มีซี่กำข้างละพันมีกง มีดุม บริบูรณ์ด้วยอาการทั้งปวง นี้ก็เป็นมหาปุริสลักษณะของมหาบุรุษนั้น ฯ

    ๓. มีส้นพระบาทยาว ฯ<O:p</O:p
    ๔. มีพระองคุลียาว ฯ<O:p</O:p
    ๕. มีฝ่าพระหัตถ์และฝ่าพระบาทอ่อนนุ่ม ฯ<O:p</O:p
    ๖. มีฝ่าพระหัตถ์และฝ่าพระบาทมีลายดุจตาข่าย ฯ<O:p</O:p
    ๗. มีพระบาทเหมือนสังข์คว่ำ ฯ<O:p</O:p
    ๘. มีพระชงฆ์รีเรียวดุจแข้งเนื้อทราย ฯ<O:p</O:p
    ๙. เสด็จสถิตยืนอยู่มิได้น้อมลง เอาฝ่าพระหัตถ์ทั้งสองลูบคลำได้ถึงพระชาณุทั้งสอง ฯ<O:p</O:p
    ๑๐. มีพระคุยหะเร้นอยู่ในฝัก ฯ<O:p</O:p
    ๑๑. มีพระฉวีวรรณดุจวรรณแห่งทองคำ คือ มีพระตจะประดุจหุ้มด้วยทอง ฯ<O:p</O:p
    ๑๒. มีพระฉวีละเอียด เพราะพระฉวีละเอียด ธุลีละอองจึงมิติดอยู่ในพระกายได้ ฯ<O:p</O:p
    ๑๓. มีพระโลมชาติเส้นหนึ่งๆ เกิดในขุมละเส้นๆ ฯ<O:p</O:p
    ๑๔. มีพระโลมชาติที่มีปลายช้อยขึ้นข้างบน มีสีเขียว มีสีเหมือนดอกอัญชัญ ขดเป็นกุณฑลทักษิณาวัฏ ฯ
    ๑๕. มีพระกายตรงเหมือนกายพรหม ฯ<O:p
    ๑๖. มีพระมังสะเต็มในที่ ๗ สถาน ฯ <O:p
    ๑๗. มีกึ่งพระกายท่อนบนเหมือนกึ่งกายท่อนหน้าของสีหะ ฯ <O:p
    ๑๘. มีระหว่างพระอังสะเต็ม ฯ <O:p
    ๑๙. มีปริมณฑลดุจไม้นิโครธ วาของพระองค์เท่ากับพระกายของพระองค์ พระกายของพระองค์เท่ากับวาของพระองค์ ฯ <O:p
    ๒๐. มีลำพระศอกลมเท่ากัน ฯ <O:p
    ๒๑. มีปลายเส้นประสาทสำหรับนำรสอาหารอันดี ฯ <O:p
    ๒๒. มีพระหนุดุจคางราชสีห์ ฯ <O:p
    ๒๓. มีพระทนต์ ๔๐ ซี่ ฯ <O:p
    ๒๔. มีพระทนต์เรียบเสมอกัน ฯ <O:p
    ๒๕. มีพระทนต์ไม่ห่าง ฯ <O:p
    ๒๖. มีพระทาฐะขาวงาม ฯ <O:p
    ๒๗. มีพระชิวหาใหญ่ ฯ <O:p
    ๒๘. มีพระสุรเสียงดุจเสียงแห่งพรหม ตรัสมีสำเนียงดังนกการวิก ฯ <O:p
    ๒๙. มีพระเนตรดำสนิท (ดำคม) ฯ <O:p
    ๓๐. มีดวงพระเนตรดุจตาแห่งโค ฯ <O:p
    ๓๑. มีพระอุณาโลมบังเกิด ณ ระหว่างแห่งขนง มีสีขาวอ่อนควร เปรียบด้วยนุ่น ฯ
    ๓๒. มีพระเศียรดุจประดับด้วยกรอบพระพักตร์ ข้าแต่สมมติเทพ แม้การที่พระราชกุมารนี้ มีพระเศียรดุจประดับด้วยกรอบพระพักตร์นี้ ก็เป็นมหาปุริส ลักษณะของมหาบุรุษนั้น ฯ <O:p

    ขอเดชะ พระราชกุมารนี้ประกอบด้วยมหาปุริสลักษณะ ๓๒เหล่านี้ ซึ่งมีคติเป็นสองเท่านั้น ไม่เป็นอย่างอื่น คือ ถ้าครองเรือนจะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิผู้ทรงธรรม เป็นพระราชาโดยธรรม เป็นใหญ่ในแผ่นดินมีมหาสมุทร ๔ เป็นขอบเขต ทรงชำนะแล้ว มีราชอาณาจักรมั่นคง สมบูรณ์ด้วยแก้ว ๗ ประการคือ จักรแก้ว ช้างแก้ว ม้าแก้ว แก้วมณี นางแก้ว คฤหบดีแก้ว ปริณายาแก้วเป็นที่ ๗

    พระราชบุตรของพระองค์มีกว่าพัน ล้วนกล้าหาญ มีรูปทรงสมเป็น วีรกษัตริย์ สามารถย่ำยีเสนาของข้าศึกได้ พระองค์ทรงชำนะโดยธรรม มิต้อง ใช้อาชญา มิต้องใช้ศาตรา ครอบครองแผ่นดินมีสาครเป็นขอบเขต ถ้าเสด็จออกผนวชเป็นบรรพชิต จะได้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า มีหลังคาคือกิเลส อันเปิดแล้วในโลก ฯ <O:p

    --------------------------------------------------------------------------------------------

    สำหรับท่านใดที่ศึกษาคัมภีร์ของทางมหายานที่บ่งชี้คุณลักษณะของผู้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่มีอ้างว่าไว้ในคัมภีร์มหายานเล่มใดบ้างก็กรุณานำมาให้เพื่อนๆได้ชมกันเป็นธรรมทานบ้างนะขอรับ...สำหรับผมนั้นก็ยังหาไม่เจอขอรับ...

    --------------------------------------------------------------------------------------------











    </PRE>บำเพ็ญบารมี 10 ทัศน์ให้เต็ม ก็จะได้เกิดเป็นบุรุษ

    บำเพ็ญบารมี 30 ทัศน์ให้เต็มเปี่ยม ก็จะได้มหาปุริสลักษณะของมหาบุรุษครบทั้ง 32 ประการขอรับ…

    สำหรับการบำเพ็ญบารมี 30 ทัศน์ให้เต็มเปี่ยมนั้นก็ต้องบำเพ็ญกันยาวนานเป็นหลายอสงไขยกับอีกแสนมหากัป....ใจเย็นๆกันนะขอรับ...งานแบบนี้เป็นงาน ละเอียด ละเมียด และประณีตอย่างที่สุดจนเหนือคำบรรยายขอรับ...
     
  20. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    สาธุ อนุโมทนาครับ
    ผมเองคิดว่า ท่านองค์ทะไลและท่านหลวงแม่ธัมมานันทา คงรู้ลักษณะดีนะครับ เพราะท่านทั้งสองนี้ก็เป็นลูกศิษย์ ขององค์พระทศพล

    แต่ในทางตรงกันข้ามกับมี ลูกศิษย์ขององค์พระทศพลบางองค์ ชอบสอนในทางที่ไม่ใช่ แล้วชอบบอกว่าตัวเองสร้างมีบารมี มามาก
     

แชร์หน้านี้

Loading...