ความรักคืออะไร ? ^_^

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย ทองอยู่, 14 กันยายน 2010.

  1. ทองอยู่

    ทองอยู่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    346
    ค่าพลัง:
    +1,493
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  2. ทองอยู่

    ทองอยู่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    346
    ค่าพลัง:
    +1,493
    มีชายหนุ่มไฟแรง ที่มุมานะทำงานอย่างมุ่งมั่น
    เขามีความฝันจะสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์กับแฟนสาว
    เธอจะมารอ..ที่หน้าประตูบ้าน..ของเขา หลังจากที่เขาเลิกงาน
    เขาพบเธอ..ก็ยิ้มแย้ม ..ยินดีต้อนรับ.. สนทนากัน..แล้วเธอก็กลับไป
    วันนี้เขากลับถึงบ้าน ช้ากว่าปกติมาก
    แต่แปลกที่ยังเห็นเธอยืนรอที่หน้าบ้านเขา.. เช่นทุกวัน

    “ โทษทีนะที่รัก วันนี้มีงานด่วน เลยกลับมาช้าไปหน่อย ”

    เธอยังยิ้มให้เขา คุณทำงานจนมีรถ มีบ้านอย่างที่ตั้งใจแล้ว
    ทำไมยังทำงานหนักอีกล่ะ ?”

    ผมอยากมีบ้านที่มีบริเวณมากกว่านี้ มีรถที่ดูโอ่อ่ามากกว่านี้
    .. เพื่อคุณนะจ๊ะ ”

    [​IMG]

    เวลาผ่านไป 1 ปี
    หญิงสาวมาหาเขาบ้าง ไม่มาบ้าง แต่เขาไม่มีเวลามาใส่ใจกับเรื่องอย่างนี้

    วันหนึ่งเธอเอ่ยถามเขา

    คุณมีเงินมากพอจะซื้อบ้านหลังใหญ่รึยัง ?”

    ขอเวลาอีกสักหน่อย ผมอยากซื้อแหวนวงใหม่ มาเปลี่ยนให้คุณด้วย ”

    เขาจุมพิตมือที่สวมแหวนทองวงเล็กเบาๆ

    ฉันบอกหรือว่า ฉันอยากได้แหวนวงใหม่ ?”

    ผมอยากให้สิ่งที่ดีที่สุดเสมอ...ที่รัก ”

    [​IMG]
    3 เดือนแล้ว..ที่เขาไม่เห็นเธอที่หน้าประตูบ้าน วันนี้เขามีบ้านหลังใหญ่
    เขาจึงตัดสินใจลางาน 1 วัน เพื่อไปหาเธอ
    เขาขับรถคันหรู ผ่านเส้นทางที่ขรุขระ อย่างยากลำบาก

    เธอต้องใช้ทางเส้นนี้มาหาเราทุกวันเหรอเนี่ย ?’ เขารำพึง

    เมื่อมาถึง แม่ของเธอออกมาต้อนรับและมอบกล่องไม้ใบหนึ่งให้เขา
    และบอกเส้นทางที่เป็นสถานที่ ที่เธออยู่ ที่ซึ่งเขาจะพบเธอได้

    เนินเขาเล็ก ๆ รายล้อมไปด้วยดอกไม้ มีแท่นหินสลักชื่อหญิงสาว ตั้งอยู่กลางเนิน

    น้ำตาของลูกผู้ชายไหลรินออกมา มือสั่นเทาของเขา เปิดกล่องไม้อย่างช้า ๆ

    ข้างในกล่องอัดแน่นไปด้วยกระดาษแผ่นเล็ก ๆ

    เขาเริ่มอ่านข้อความ..ทีละใบ...ทีละใบ....

    วันนี้ ..คุณกลับมาช้า ..ฉันรอ 2 ชั่วโมง ..ไม่เป็นไร ..ฉันรักคุณ

    “ วันนี้ฝนตก ..ฉันยังรอ .. แต่ไม่เจอคุณ.. ไม่เป็นไร ..แต่ฉันยังรักคุณ

    ฉันเริ่มป่วย.. จนไปหาคุณไม่ได้ ..คุณคงไม่ทันได้สังเกต.. ไม่เป็นไร..
    แต่ฉันยังรักคุณ

    “ วันนี้ .. คุณบอกจะเปลี่ยนแหวนวงใหม่..
    คุณคงลืมว่า..ฉันตอบตกลง..จะแต่งงานกับคุณ .. เพราะแหวนวงนี้
    แต่ไม่เป็นไร..ฉันยังรักคุณ ”

    [​IMG]

    ชายหนุ่มได้เรียนรู้แล้วว่า.......
    บางทีสิ่งที่เขาไขว่คว้ามาตลอดชีวิต
    อาจเทียบไม่ได้กับสิ่งเล็กน้อย ที่เขาเคยได้รับ จนเป็นเรื่องปกติของทุกวัน

    รถคันหรูแล่นไกลออกไป เหลือไว้เพียงกล่องแหวนเพชร ราคาแพง หน้าหลุมศพ
    ที่ดูไม่เหลือค่าอะไร .. สำหรับเขา..อีกต่อไป

    ผมมีบ้านหลังใหญ่..แต่คงกว้างไป สำหรับการที่จะต้องอยู่คนเดียว
    ผมมีรถราคาแพง แต่ไม่รู้จะขับไปรับใคร ให้มานั่งเคียงคู่ ..เพื่อไปที่ไหน ๆด้วยกัน

    ผมมีเวลาอยู่กับงานครึ่งชีวิต แต่ไม่เคยมีเวลา ที่จะได้อยู่กับคนที่..ผมรัก

    ตอนนี้ผมมีเงินมากมาย แต่ไม่อาจซื้อเวลาเพียง 1 นาที ที่จะบอกว่า ‘ รักเธอ ’..

    ผมมีทุกอย่างเพียบพร้อมตามที่ผมฝัน แต่ขาดส่วนที่สำคัญที่สุด ..ที่อยากให้ย้อนกลับมา...จะได้ไหม ?”

    [​IMG]

    ............ ......... ......... ......... ......... ......... ......... ......... .........

    ลองก้าวออกจากโต๊ะทำงานก่อนตะวันจะตกดินสักวันสองวันต่อสัปดาห์
    หันกลับไปเอาใจใส่คนที่รักเราบ้าง อาจจะไม่ใช่แค่แฟนหรือคนรัก
    บางที พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ก็เฝ้ารอ 1 นาทีจากเราเหมือนกัน

    ณ วันนี้...อย่างน้อยเราก็ยังมีเวลาเหลือมากกว่า 1 นาทีที่บางคนโหยหา...

    อย่าปล่อยให้อะไรๆ มันสายเกินไป...
    ชีวิตคน...ถึงมันจะไม่สั้นนัก...แต่มันก็ใช่ว่าจะยาวนานตลอดไป

    ............ .

    ****เงินทองที่มากมายจากการทำงานหักโหม บางทีอาจได้คืนกลับมาเพียงแค่โลงราคาแพงจากน้ำพักน้ำแรงในครึ่งชีวืตที่ผ่านมา***



    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤศจิกายน 2010
  3. Mantalay

    Mantalay เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    1,679
    ค่าพลัง:
    +5,065


    [​IMG]

    อยากไม่จบไม่สิ้น จนนางเอกตาย
     
  4. ทองอยู่

    ทองอยู่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    346
    ค่าพลัง:
    +1,493
    โสน้าหน้า อยากไม่จบไม่สิ้น จนนางเอกตาย (จริงๆ คิดอย่างงี้ ชิมิ)555555555555
     
  5. Mantalay

    Mantalay เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    1,679
    ค่าพลัง:
    +5,065
    [​IMG][​IMG][​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG]

    กระทู้เค้าหวาน แมลงสาบเข้ามาหาน้ำตาลกินเล้ย
     
  6. เจ้าจันทร์

    เจ้าจันทร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +431
    [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]
     
  7. Mantalay

    Mantalay เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    1,679
    ค่าพลัง:
    +5,065
    [​IMG]555ใครนะทำได้555

    แม่ทองอยู่ ไปตกหลุมรักสามีตัวเอง อยู่ที่ไหน วันนี้ไม่โผว่มาเลย
    แมลงสาบแทะกระทู้พังหมดแร้ว
     
  8. Samarnl

    Samarnl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,287
    ค่าพลัง:
    +4,704
    ความรักซ่อนเร้น

    นิทานชาวบ้าน - ลูกของแม่ยังไม่โต

    <!--Main-->
    นานมาแล้ว มีหญิงสาวชาวบ้านคนหนึ่งเป็นคนหน้าตาดี ทั้งยังเจียมเนื้อเจียมตัว ขยันทำงานบ้านเป็นอย่างยิ่ง จึงมีชายหนุ่มมาติดพันหลายราย พ่อแม่ของชายหนุ่มเหล่านั้น ก็ยินดีจะได้นางมาเป็นสะใภ้ ด้วยความพอใจในความเรียบร้อย และความสามารถในงานบ้านของนาง

    ในที่สุดเมื่อหญิงสาวอายุได้ 18 ปี ด้วยความเห็นของพ่อแม่ นางก็แต่งงานกับหนุ่มชาวบ้านคนหนึ่ง ผัวเมียหนุ่มช่วยกันทำมาหากิน สะสมเงินทอง จนพอซื้อที่ดินของตน และขยายที่นั้น ให้กว้างใหญ่ออกไปทุกทีๆ

    หนุ่มผู้สามีนั้น ลงได้จับงานทำแล้วก็จะไม่ยอมพัก หรือเลิกหากงานยังทำไม่เสร็จ เขาเป็นคนอย่างนั้น ใครจะเตือนให้หยุดพัก หรือให้กินข้าวกลางวันกลางคัน จะไม่สำเร็จเลยเป็นอันขาด

    วันหนึ่งขณะที่เมียท้องแก่ไปส่งข้าวกลางวัน สามีที่กำลังขุดดินทำไร่อยู่ แดดจัดจนเป็นตัวยิบๆ ทั้งเป็นเวลาหน้าร้อนอากาศอบอ้าวยิ่งนัก เมียจึงร้องตะโกนบอกผัว ด้วยวาจาอ่อนหวานว่า

    "พี่จ๋า เลิกขุดดินมาพักกินข้าวในร่มนี่เสียก่อนเถอะ เที่ยงกว่าแล้ว เดี๋ยวจะไม่สบาย"

    สามีก็ทำหูทวนลมเสีย คงขุดดินทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ความร้อนทำให้หน้าและตัวแดงกล่ำ เขาก็ไม่สนใจจนเกือบบ่าบ 2 โมง เขาจึงยกมือขึ้นปาดเหงื่อที่หน้า เอาจอบไปวางพิงไว้ที่โคนต้นไม้ใหญ่ แล้วก็เดินตรงมาที่อาหารซึ่งเมียจัดไว้ให้

    "เอาน้ำนี่ล้างหน้าเสียหน่อยจะดีไหมพี่" พลางนางก็รินน้ำออกจากกระบอกไม้ไผ่ ยื่นส่งให้สามี สามีก็รับมาลูบหน้า แล้วก็ยกขันขึ้นกิน ลงมือนั่งขัดสมาธิรอกินข้าว

    ปรากฎว่าเขาเปิบข้าวเข้าปากได้เพียงคำ 2 คำ เขาก็เกิดอาการตื้อ กินข้าวให้มากเหมือนทุกวันไม่ได้

    "เก็บข้าวเถอะ พี่อิ่มแล้ว"

    "แหมอะไรกัน วันนี้ทำไม่กินน้อยจริงๆ ไม่สบายหรือเปล่า" นางเมียถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง

    "ไม่ต้องห่วงพี่หรอก กลับก่อนเถิด ท้องยิ่งแก่อยู่ด้วย" เมียจึงรวบรวมเก็บข้าวของกระเดียดกลับบ้าน

    พอเมียลับตาไปแล้ว ชายหนุ่มก็กลับไปฟันดินต่อ เขารู้สึกปวดหัวแทบจะแตกเป็นเสี่ยง ตัวก็รู้สึกร้อนผ่าว เขาจึงรีบเก็บข้าวของ เดินออกจากไร่จะกลับบ้าน

    ครั้นถึงบ้าน เขาไม่สามารถจะยืนทรงตัวอยู่ได้ ต้องหย่อนก้นลงนั่งลงม้าไม้ที่หน้ากระท่อม พลางร้องเรียกเมีย

    "พี่รู้สึกไม่สบายมาก ลองละลายยาให้กินหน่อยซี" เมียก็ละลายยาให้กินตามมีตามเกิด แต่อาการไข้หนักเสียแล้ว สุดที่จะเยียวยา ต่อมาอีก 3 วัน ชายหนุ่มมีอาการเพ้อไข้ แล้วก็ตายไป ทิ้งเมียไว้ให้เป็นหม่ายตั้งแต่ยังสาว
    นางทุกข์โศกเป็นอันมาก พยายามทนุถนอมลูกในท้องจนครบ คลอดบุตรออกมาเป็นชาย พอเห็นหน้าลูก นางก็ตั้งสัตย์อธิฐานว่า จะขอเลี้ยงลูกไม่แต่งงานกับชายใดอีก

    เด็กได้เจริญเติบโตล่ำสัน เป็นคนมีกตัญญูช่วยแม่ทำงานมาตั้งแต่เด็ก พอเป็นหนุ่มก็สามารถเลี้ยงดูแม่ได้ เป็นคนรักแม่ยิ่ง ไม่ค่อยจะสนใจหญิงในอายุเดียวกัน เกรงไปว่าหากเลือกเมียได้ไม่ดี ก็จะเข้ากับแม่ไม่ได้
    นางม่ายสังเกตุเห็นเช่นนั้นก็เป็นห่วง จึงมองหาสาวที่ขยันขันแข็ง และประพฤติดีเพื่อรับมาเป็นสะใภ้ จัดการแต่งงานให้ลูกชาย รับลูกสะใภ้เข้ามาอยู่ในบ้าน ลูกสะใภ้ก็เคารพนับถือแม่ผัว ช่วยกันทำมาหากิน ต่างก็มีความสุขยิ่งนัก

    ต่อมานางม่ายก็ได้หลานย่าเป็นชาย นางนึกยินดีกับโชคชะตาของนางยิ่งนัก นางมีความสุขด้วยการจะดูแลหลานชาย ปล่อยให้ลูกชายและลูกสะใภ้ ทำงานในไร่ได้เต็มที่ เด็กน้อยนั้นก็ว่านอนสอนง่าย ไม่ค่อยจะเจ็บป่วย ครอบครัวนี้แม้จะไม่ร่ำรวย แต่ก็มีความสุขไปตามสภาพ

    หน้าที่ของนางนั้นก็มีอยู่อีกอย่างหนึ่ง คือจัดหาข้าวปลาอาหารเพื่อไปส่งให้ลูกชาย ลูกสะใภ้กินตอนกลางวัน มือข้างหนึ่งถือตระกร้าอาหาร อีกมือหนึ่งจูงหลานไปไร่ทุกวัน

    วันหนึ่งนางก็ปฏบัติภาระกิจของนางตามปกติ อุ้มหลานไปส่งอาหาร วันนั้นแดดกล้าและร้อนจัด นางต้องเอาผ้าแถบของนางออกคลุมหัวหลานเอาไว้ ด้วยกลัวเด็กจะตัวร้อนไม่สบาย แล้วนางก็เดินดุ่มไปส่งข้าวน้ำ กับลูกชายลูกสะใภ้เหมือนอย่างเคย

    ความจริงบ้านของนางก็ไม่ใช่ว่าจะไกลจากไร่นัก ความร้อนระอุในวันนั้น ทำให้หลานย่าร้องไห้ขอกินน้ำ นางต้องวางหลานลงข้างนาง แล้วก็รินน้ำจากกระบอกไม้ไผ่ ให้หลานดื่มตัวนางเองก็รู้สึกคอแห้ง ต้องกินน้ำไปกับหลานด้วย

    กว่าจะไปถึงไร่ก็เกือบจะเที่ยงวัน พระอาทิตย์ส่องแสงเปรี้ยงอยู่ตรงศรีษะ นางก็กระวีกระวาดจัดอาหาร แล้วตะโกนเรียกลูกชายกับลูกสะใภ้
    "หยุดพักกินข้าวเถอะลูกเอ๋ย เดี๋ยวจะไม่สบาย เที่ยงแล้วนะลูกนะ" แล้วนางก็นึกถึงความหลัง เห็นภาพที่สามีของนางทำงานกลางแดด จนจับไข้ตาย แล้วก็ตะโกนเรียก ด้วยความเป็นห่วงอีกหลายครั้ง

    ลูกชายก็ตอบแม่ว่า "อีกเดี๋ยวเดียวน่าแม่ฟันอีกไม่กี่ฉับก็เสร็จ" แล้วเขาก็ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ทำงานต่อไปในเปลวแดด ไม่ยอมหยุดพักกินข้าว
    ฝ่ายแม่ไม่รู้จะทำอย่างไรกับลูก ใจก็แสนจะเป็นห่วง จะให้ลูกเข้าพักกินข้าวกลางวันในร่มให้ได้ ในที่สุดนางก็คิดออก นางอุ้มหลานชายน้อย ออกไปยืนใกล้ๆ พ่อแม่ของเด็ก ให้เด็กกรำแดดอยู่อย่างนั้น

    ชายหนุ่มผู้พ่อเห็นอย่างนั้น ก็บอกกับแม่ของตนว่า

    "แม่เอาหลานมาตากแดดทำไม เดี๋ยวเด็กก็จะตัวร้อนหรอก เอาหลานไปคอยฉันที่ใต้ต้นไม้โน่นจะดีกว่า"

    หญิงม่ายได้ทีจึงตอบลูกว่า "ทีลูกเอ็งๆ ห่วงกลัวว่าแดดจะทำให้ลูกไม่สบาย ไม่คิดมั่งดอกหรือลูก ว่าแม่ก็เป็นห่วงเจ้าอย่างนั้นเหมือนกัน ถ้าเอ็งไม่พักกินข้าวในร่ม แม่ก็จะอุ้มหลานอยู่อย่างนี้แหละ"

    แม่นั้นเคยเห็นลูกโตเสียเมื่อไร แล้วหญิงม่ายก็ชนะลูกชาย ด้วยความรักและเป็นห่วงของแม่



    ที่มา : นิทานชาวบ้าน<!--End Main-->


     
  9. Kama-Manas

    Kama-Manas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    5,351
    ค่าพลัง:
    +6,491
    "ลุงหมาน" มีแต่สิ่งดีๆนำมาเสนอ ขออนุโมทนาในจิตใจที่ดีงามของลุงด้วความจริงใจ อ่านแล้วซึ้งจริงๆ
     
  10. หมั่นเพียร

    หมั่นเพียร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    254
    ค่าพลัง:
    +708
    แวะมาเยี่ยม เลยโชคดีได้ฟังนิทานคุณลุงหมาน อนุโมทนากับคุณลุงนะคะ ที่ช่างสรรค์หานิทานมาเล่าให้พวกเราฟัง
     
  11. เจ้าจันทร์

    เจ้าจันทร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +431
    [​IMG]

    จขกท ไปไหน
     
  12. ทำเป็นงง

    ทำเป็นงง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +557
    สวัสดี ... ชาวโลกทุก ๆ ท่าน สบายดี นะครับ แวะมาเยี่ยมน่ะ


    [​IMG]
     
  13. ทองอยู่

    ทองอยู่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    346
    ค่าพลัง:
    +1,493
    มาแล้วจ้า เมื่อเช้าไปวัดสระเกศมา มีงานพิธีห่มผ้าแดง องค์พระเจดีย์
    ถึงวัดตี 5 ไอ้เราก้อจำพวกสวยพอไปวัดไปวา ตอนบ่าย ๆ อิอิอิ
    ยังบอกกะเพื่อนตอนนั่งรถไปว่า ตีห้า เช้าไปป่าว แต่พอถึงวัด โหๆๆๆๆๆ ผู้คน มาจากไหนกันนิ มากมาย นี่แหล่ะคือที่มาฉายาของเรา "คุนนายตื่นสาย" 5555
    copy เกี่ยวกับพิธีนี้มาให้เพื่อน ๆ อ่านกันค่ะ
    โดยส่วนตัวไม่เคยรู้ว่ามีพิธี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ไป เจ้าเพื่อนตัวดียังมีหน้าถามเรา คุน ๆ เคยเที่ยว งานวัดไหม? เรา ก้อ . . . ยิ้ม ๆ ไม่ตอบ เด๋วเสียฟอร์ม หากบอกว่า ม่ะเคยอ่ะ ตอบไปแค่ วัดน่ะ เคยไป นาน ๆถี่ 555555555

    [​IMG]
    [​IMG]

    การเฉลิมฉลอง พระบรมสารีริกธาตุที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาตั้งแต่โบราณนั้น มีพิธีที่ชาวพระนครให้ความสำคัญมากอีกอย่างหนึ่งได้แก่ พิธีห่มผ้าแดงองค์พระเจดีย์ ซึ่งจะมีขึ้นก่อนวันงาน ๓ วัน ประชาชนได้ร่วมกันจารึกชื่อของตนเอง ตลอดบุตรหลานและญาติมิตรบนผ้าแดง ก่อนอัญเชิญขึ้นห่มองค์พระเจดีย์

    พิธีห่มผ้าแดงในงานนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ เป็นพิธีที่ชาวพระนครให้ความสำคัญมาก เพราะเชื่อว่าอานุภาพแห่งการบูชาพระเจดีย์ที่พระบรมสารีริกธาตุจะทำให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุข มีความเจริญก้าวหน้าในชีวิต แคล้วคลาดปลอดภัย อันตรายนานาประการอันตรธานไปสิ้น เป็นความเชื่อที่สืบมาตั้งแต่ครั้งพุทธกาล ซึ่งปรากฏความว่า คราวหนึ่งหลังสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ได้ ๓ พรรษา เกิดความเดือดร้อนวุ่นวายแก่ชาวเมืองเวสาลี ผู้คนประสบภัยพิบัตินานาประการ เกิดโจรผู้ร้ายเข่นฆ่าชาวเมืองผู้บริสุทธิ์ ไม่เว้นแม้แต่สมณพราหมณ์ผู้ทรงศีล ทำให้ผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก เมื่อพระพุทธองค์เสด็จฯไปเท่านั้น ความทุกข์ความเดือดร้อนวุ่นวายก็พลันหายไปเป็นที่น่าอัศจรรย์ พระพุทธองค์ตรัสว่า ที่เป็นเช่นนี้มิใช่ความน่าอัศจรรย์ แต่เป็นเพราะอานุภาพแห่งบุญบารมีที่พระองค์เคยเอาผ้าประดับบูชาพระเจดีย์ในอดีตชาติ

    พิธีห่มผ้าแดงได้จัดให้มีขบวนแห่อย่างยิ่งใหญ่อลังการตามแบบอย่างประเพณีโบราณ เริ่มจากขบวนผู้แต่งกายด้วยชุดเทวดา สมณชีพราหมณ์ผู้ทรงศีล และตามด้วยประชาชนในชุดไทยโบราณ

    [​IMG]สำหรับพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่บนองค์บรมบรรพตภูเขาทอง สมัยราชกาลที่ ๕ นั้น เป็นส่วนที่ขุดค้นได้จากพระสถูปโบราณ อันเป็นที่ตั้งกรุงกบิลพัสดุ์ สมัยพุทธกาล รัฐบาลอินเดียถวายแด่รัชกาลที่ ๕ ซึ่งมีบันทึกไว้ในจดหมายเหตุว่า ในปี พ.ศ. ๒๔๔๑ นายวิลเลี่ยม แคลคัสตัน เปปเป ชาวอังกฤษซึ่งมีถิ่นพำนักอยู่ในประเทศอินเดีย ได้ขุดค้นเนินดินในที่ของตนพบสถูปโบราณหักพังจมอยู่ภายใต้เนินดินที่ปิปราห์ระหว่างทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองพัสติ อันเป็นที่ตั้งกรุงกบิลพัสดุ์สมัยพุทธกาล

    เมื่อนายวิลเลี่ยม แคลคัสตัน เปปเป ขุดรื้อพระสถูปโบราณนั้นก็พบกล่องศิลาแลงสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่เต็มไปด้วยข้าวของเงินทองเครื่องประดับมากมาย และภายในกล่องศิลามีผอบบรรจุอัฐิธาตุ และที่ผอบนั้นมีข้อความจารึกด้วยอักษรพราหมีโบราณ อันเป็นภาษาที่ใช้มาก่อนพุทธกาลนักศึกษาภาษาศาสตร์เชื่อว่ามีอายุเก่ากว่าภาษาที่ใช้จารึกในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ซึ่งใช้ในสมัยที่พระองค์ยังทรงพระชนม์อยู่ หรือหลังจากนั้นไม่นานเกินพุทธศตวรรษที่ ๒-๔ ข้อความจารึกที่ผอบบรรจุพระบรมสารีริกธาตุแปลความได้ว่า

    "ที่บรรจุพระบรมสารีรอกธาตุของพระเจ้านี้เป็นของตระกูลศากยราชผู้มีเกียรติงามกับพระภาดาพร้อมทั้งพระภคินี พระโอรส และพระชายา สร้างขึ้นอุทิศถวายไว้"

    จากจารึกและข้อสรุปของนักภาษาศาสตร์นั้นเป็นสิ่งยืนยันได้ว่า อัฐิธาตุที่บรรจุอยู่ภายในผอบนี้เป็นพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าซึ่งเป็น ๑ ใน ๘ ส่วนที่เจ้าศากยะที่ได้รับไปในคราวแบ่งพระบรมศพของพระพุทธเจ้าอย่างแท้จริง

    ครั้นต่อมา มาร์ควิสเคอร์ซัน ผู้ดำรงตำแหน่งอุปราชครองประเทศอินเดีย ซึ่งเคยเข้ามารับราชการในกรุงเทพฯ และมีสัมพันธไมตรีใกล้ชิดกับราชกาลที่ ๕ มาก่อน เห็นว่าพระบรมสารีริกธาตุนั้นเป็นสมบัติอันล้ำค่าของชาวพุทธ จึงควรมอบคืนให้แก่ชาวพุทธ และมาร์ควิสเคอร์ซัน พิจารณาว่า กษัตริย์ที่นับถือพระพุทธศาสนาสมัยนั้นก็ยังมีแต่พระเจ้ากรุงสยามเท่านั้น รัฐบาลอินเดียจึงมีประสงค์ ทูลเกล้าฯถวายพระบรมสารีริกธาตุแด่รัชกาลที่ ๕ พร้องให้ฝ่ายไทยส่งทูตผู้แทนไปรับ และกราบบังคมทูลขอให้รัชกาลที่ ๕ แบ่งพระบรมสารีริกธาตุแก่ประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนาต่างๆ เช่น พม่า ลังกา ญี่ปุ่น ไชบีเรีย เป็นต้น

    พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๕ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระยาสุขุมนัยวินิต (ปั้น สุขุม) ข้าหลวงเทศาภิบาลมณฑลนครศรี[​IMG]ธรรมราช เป็นผู้ออกไปรับพระบรมสารีริกธาตุ ณ ประเทศอินเดีย โดยเริ่มเดินทางออกจากกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๔๔๑ และเดินทางกลับในวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ในปีเดียวกัน และได้อัญเชิญ พระบรมสารีริกธาตุผ่านเมืองตรัง พัทลุง สงขลา แต่ละเมืองที่ผ่านมา มีประชาชนเข้าร่วมขบวนแห่พระบรมสารีริกธาตุและสักการบูชาด้วยดอกไม้ ธูปเทียน แก้วแหวนเงินทองมากมาย แสดงให้เห็นถึงความเลื่อมใสศรัทธาของประชาชนในแต่ละเมืองได้เป็นอย่างดี ครั้นถึงเมืองสมุทรปราการ รัชกาลที่ ๕ ทรงโปรดเกล้าฯ ให้นำไปประดิษฐานในพระวิหาร เกาะพระสมุทรเจดีย์ ทำการฉลอง ๓ วัน ๓ คืน วันที่ ๒๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๔๒ ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุถึงกรุงเทพฯ และโปรดเกล้าฯ ให้บรรจุประดิษฐานที่เจดีย์บรมบรรพตภูเขาทองวัดสระเกศ

    ผ้าแดงที่ผูกติดกันเป็นสายยาวหลายสิบเมตรให้คนจับเป็นแนวยาวเดินวนขวาไปรอบองค์พระเจดีย์อย่างพร้องเพรียงนี้เปรียบเสมือนจีวรของพระพุทธเจ้า การได้จับผ้าแดงขึ้นไปห่มองค์พระเจดีย์ซึ่งมีพระบรมสารีริกธาตุอยู่ข้างใน จึงเหมือนกับการได้ถวายจีวรแด่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั่นเอง

    สีแดงเป็นสีแห่งมงคล เป็นสีแห่งการเจริญรุ่งเรืองของชีวิตนอกจากนั้นสีแดงของผ้ายังเป็นสัญญาลักษณ์ของการเฉลิมฉลองอันยิ่งใหญ่การได้มาร่วมพิธีห่มผ้าแดง เพื่อสักการะบูชาพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งประดิษฐานอยู่ภายในพระเจดีย์ภูเขาทองนี้ย่องเกิดเป็นผลานิสงส์ บันดลความร่มเย็นเป็นสุขแก่ตน ครอบครัว ตลอดจนประเทศชาติ บ้านเมือง จึงเป็นประเพณีที่ปฏิบัติสืบทอดกันมายาวนาน ตราบจนปัจจุบัน

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 พฤศจิกายน 2010
  14. ทองอยู่

    ทองอยู่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    346
    ค่าพลัง:
    +1,493

    โห หายไปแปร๊ปเดียว คุนมังฉาบ (เรียกตามเจ้าลูกชายตัวแสบ) อื้อเลยอ่ะ ง้านรอเด๋ว

    [​IMG] [​IMG]

    [​IMG]
     
  15. ทองอยู่

    ทองอยู่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    346
    ค่าพลัง:
    +1,493

    ขอบคุนทุกท่านนะคะ โดยเฉพาะลุงหมาน ขวัญใจสาว ๆคนใหม่

    คุนลุงเอานิทานมาให้อ่านอีกนะคะ สนุกดี
     
  16. อรชร

    อรชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,768
    ค่าพลัง:
    +11,465

    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
     
  17. Kama-Manas

    Kama-Manas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    5,351
    ค่าพลัง:
    +6,491
    "ให้เชื่อ ตามความคิดแรก หรือ ความรู้สึกครั้งแรกเสมอ" ใครเป็นจขกท.นี้?คะ..
     
  18. ทองอยู่

    ทองอยู่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    346
    ค่าพลัง:
    +1,493
    ค่ะ สวัสดีค่ะ ชาวนอกโลก ขอบพระคุนอย่างสูงนะคะที่แวะมาเยี่ยม (บุญคุณนี้ 100 ปีก้อไม่ลืม)
    แล้วทำไมต้องมาแบบมึ่ดตึ๊ดตื๋ออย่างนั้นล่ะคะ ทำป็นEแอบไปด้าย ไม่ต้องแอบจิตเจ้าค่ะ ทู้นี้ มาคุยแบบตรง ๆ จริงใจ สว่างจิต เพราะเจ้าของกระทู้ใจดีค่ะ

    ถามว่าสบายดีไหม ? ก้อ . . ดีค่ะ อาการยังอยู่ครบ 32 ไม่ขาดไม่เกิน โดยเฉพาะ [​IMG] แข็งแรงขึ้นมากๆๆๆๆๆๆๆ เพราะได้กำลังใจจาก เพื่อน ๆในกระทู้

    ตนแล เป็นที่พึ่งแห่งตน จงยืนขึ้นด้วยตัวของเราเอง ความรักคือบ่อเกิดของความทุกข์ .. ทุกข์ เกิดมาจาก การที่เราเอาใจ ไปยึดมั่นถือมั่นกับมัน

    ประโยคนี้แหล่ะค่ะ ยารักษาใจขนานดี

    ถูกต้องที่ซู้ดดดดดดดดดดด หัวใจของเราก้อต้องเก็บเอาไว้กับตัว อย่าเอาไปฝากไว้กับใคร แรก ๆเค้าอาจจะยินดีที่รับฝาก ช่วยถือ ช่วยเก็บ เพราะมันเป็นของใหม่น่าตื่นเต้น เค้าก้อจะหยิบจับอย่างทะนุถนอม ใส่ใจ take care ต่อเมื่อเค้า "เบื่อ" เค้าก้อจะทิ้งขว้าง ไม่ใยดีแยแส ว่าเจ้าของหัวใจจะร้าวราน ขนาดไหน เหมือนเด็ก ๆที่ได้ของเล่นใหม่ จะไม่ยอมให้ใครแตะของเล่นชิ้นนั้น ครั้นเบื่อแล้ว หรือมีของเล่นชิ้นใหม่ ไอ้ของชิ้นเดิม ก้อจะถูกทิ้งขว้างโดยไม่สนใจใยดี

    ขอบคุนหลาย ๆ ที่ยังแวะมาดูใจ ตอนนี้ [​IMG] เสริมใยเหล็กแล้วจร้า
     
  19. ทองอยู่

    ทองอยู่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    346
    ค่าพลัง:
    +1,493

    [​IMG] นู๋เองคร่ะ พี่ . . . .มีรัยชี้แนะเจ้าคะ [​IMG] รักน๊า จู๊ฟ จู๊ฟ
     
  20. Mantalay

    Mantalay เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    1,679
    ค่าพลัง:
    +5,065
    ตนแล เป็นที่พึ่งแห่งตน จงยืนขึ้นด้วยตัวของเราเอง ความรักคือบ่อเกิดของความทุกข์ .. ทุกข์ เกิดมาจาก การที่เราเอาใจ ไปยึดมั่นถือมั่นกับมัน

    ประโยคนี้แหล่ะค่ะ ยารักษาใจขนานดี

    M เพิ่งรู้ว่าประโยคนี้ ครั้งต่อไปเราจะไม่พิมพ์อะไรเลย จะพิมพ์แต่ประโยคนี้ เอาใจเจ้าของกระทู้ อะๆๆๆๆๆ

    "ให้เชื่อ ตามความคิดแรก หรือ ความรู้สึกครั้งแรกเสมอ" ใครเป็นจขกท.นี้?คะ..

    M อย่างงี้ ความคิดแรกเลยนะ มีคนอวตาล มาเกิดวันนี้ เห็นๆ 2 หน่วย อยากรู้จังว่าใครหว่า
     

แชร์หน้านี้

Loading...