ทุกข์ใจมากครับ ปัญหาครอบครัว ขอคำแนะนำ

ในห้อง 'ทุกข์และปัญหาชีวิต' ตั้งกระทู้โดย thanakritkk, 21 พฤศจิกายน 2010.

  1. thanakritkk

    thanakritkk สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2008
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +14
    เรื่องมีอยู่ว่า บริษัทที่บ้านขาดทุนจนต้องปิดกิจการ จากพี่น้องทำงานด้วยกัน สามคน พี่คนโตก็แยกตัวออกไปทำงานตัวเอง จากนั้นพี่คนที่สองก็แยกไปทำงานของตัวเอง เหลือแต่เพียงตัวผมเอง (ผมอายุประมาณ30)ที่ต้องอยู่ช่วยแก้ไขปัญหาหนี้สินที่มากมายก่ายกอง ทั้งปัญหาภายในบริษัท ปัญหาเก่าๆที่ตกค้าง ทั้งปัญหาหนี้สิน แก้อยู่เกือบสองปีจนผ่านทุกอย่างไปได้ หมดทั้งเงินเก็บส่วนตัว เนื่องจากยกเงินเก็บให้แม่ไปใช้หนี้และบางส่วนเหลือไว้กินไว้ใช้ใช้ รถก็ยกให้พี่ชายไปไว้ทำงาน หลังจากที่เคลียร์หนี้สินจนหมด แม่ก็ยังพอมีเงินเหลือพอที่จะสร้างหอพักได้หอหนึ่ง และผมก็ได้ติดต่อและปล่อยเช่าสถานที่ของบริษัท ได้ค่าเช่ามาพอให้มีเงินไว้ให้แม่ไว้กินไว้ใช้แต่ละเดือน ก็บอกแม่ไว้ว่าผมช่วยแม่นะ หลังจากหอเสร็จแล้วเงินจะเหลือ ขอให้แม่ช่วยผมคืน แม่ก็ตอบตกลง พอถึงเวลาตอนนี้หอใกล้จะเสร็จแล้ว เงินที่เหลือจากการทำหอพัก พี่ชายคนรองก็จะเอาไปนำไปทำสินสอด พร้อมทำเรือนหอ ผมก็เลยพูดอะไรไม่ได้ (คบกัน 9 เดือนแต่งเพราะหมอดูบอกให้แต่งเลย เดี๋ยวไม่ได้แต่ง) พอผมรู้เรื่องเข้าก็คุยกับแม่ แม่ก็เครียดแล้วก็บอกว่าจะมากดดันแม่ทำไมแล้วจะให้แม่ทำยังงัย แฟนที่คบกันมาพอรู้เรื่องเข้าก็บอกว่า ทำไมผมไม่สนใจตัวเองเลย มัวแต่ไปช่วยคนอื่นสุดท้ายก็ไม่มีอะไรเป็นของตัวเองซักอย่าง เสียสละจนไม่เหลืออะไร โดนคนอื่นเอาไปหมด แม่แฟนก็มากดดันเพราะอยากให้แต่งงานปีหน้า แต่ผมยังไม่มีอะไรเลย อยากจะหนีไปทำงานสร้างฐานะก็ไม่ได้เพราะหอยังไม่เสร็จ (คาดว่าหอจะเสร็จประมาณเดือนมกราคม) ผมคุมสร้างหออยู่คนเดียวไม่มีใครมาช่วย แม่ผมก็บอกว่าคนที่เสียสละน่ะจะดี (ผมก็คิดว่าผมน่ะเสียสละได้ แต่แฟนผมที่เค้าต้องการให้ผมสร้างฐานะเค้าจะคิดให้ผมเสียสละด้วยหรือ) แล้วแม่ก็พูดอีกว่าถ้าหอเสร็จจะแบ่งกำไรให้ แต่แฟนก็พูดว่าถ้าหอเสร็จแล้วจะโดนเหมือนตอนที่พี่ชายมาเอาเงินลงทุนไปแต่งงานอีกรึเปล่า
    ตอนนี้พี่ชายแต่งงานแม่เสียสละห้องตัวเองให้แล้วจะไปนอนห้องเล็ก (เล็กมากประมาณ 2x2.5 เมตร) ผมก็สงสารจึงเสียสละห้องนอนให้แม่อีก ผมไม่รู้จะทำยังงัยดี เหมือนแม่เสียสละให้คนอื่นตลอด ส่วนผมก็สงสารแม่ก็ต้องมาเสียสละให้แม่อีกที
    วันนี้แฟนถามผมว่า ผมมัวแต่ห่วงคนอื่นผมไปสมัครงาน (ไปสมัครงานอาจารย์มหาลัยไว้ แต่เค้ารับแต่ ป เอก ต่างประเทศ ไว้ก็ไม่รู้จะได้รึเปล่า เพราะผมจบ ป โท ต่างประเทศ) แล้วมัวแต่มานั่งคุมช่างก่อสร้าง ทาสีเองมั่ง(ก็ช่างมันทาไม่เรียบร้อย) เก็บกวาดขยะมั่ง ติดต่อสั่งซื้อของเข้าหอมั่ง แล้วได้คิดแผนอื่นเผื่อมั๊ยหากที่ไปสมัครไว้เค้าไม่รับ
    พอต่อมา พี่ชายจะขอเงินแม่ไปลงทุนอีก แต่ผมไปขัดไว้ เพราะว่าเคยทำมาแล้วไปไม่รอด เลยบอกให้เริ่มทำเล็กๆก่อน ครั้งนั้นก็ทะเลาะกับแม่อีก แม่ว่าทำไมผมเห็นแก่ตัวกับพี่กับน้อง (ผมก็เศร้าอีก นึกถึงตอนที่เราเสียสละทั้งเงินเก็บทั้งรถให้คนอื่น) แม่บอกว่าพี่ชายมันเครียดจะตายไม่ได้ลงทุน ผมเองก็เครียดที่แม่ต้องไปคอยอุ้มคนอื่น ตอนลำบากไม่เห็นมีใครเคยคิดจะมาช่วยแม่ซักคน
    เรื่องก็มีอีกว่าวันก่อนแม่แฟนเค้าเสนองานให้เป็นการตลาดที่บริษัทที่กรุงเทพ แต่แฟนก็ไม่ให้ไปเพราะไม่อยากให้อยู่ไกล จากนั้นแม่แฟนจึงเสนอว่า ถ้าแถวละแวกนี้จะมีงานของวิศวกรไฟฟ้าเท่านั้น ผมจึงแค่บอกไปว่า ผมไม่ได้จบไฟฟ้าคับ ยังงี้ก็น่าจะฝากพี่ชายผมเข้าไปทำงานได้ เพราะพี่ชายจบไฟฟ้า เท่านั้นแหละคับ แม่แฟนโกรธมากมาบอกแฟนผมว่าตัวเองยังเอาตัวไม่รอด ยังจะไปสนคนอื่นอีก แฟนก็มาโกรธมากด้วยบอกว่า ไหนว่าจะไม่สนใจคนอื่น (คนในครอบครัว)แล้วงัย
    มีครั้งนึงเคยไปดูหมอดู หมอดูว่าผมโง่ อยากโง่ก็ช่วยต่อไป ทำไมไม่รีบทำอะไรของตัวเองซะที มัวแต่ช่วยคนอื่น (ก็แม่ผมนี่คับ) น่าจะตั้งตัวได้ตั้งนานแล้ว ไปลงทุนของตัวเองสิ (เงินให้แม่ไปหมดแล้ว) ไปสมัครงานทำงาน มันจะรวยมั๊ย
    ตอนนี้ผมเลยรู้สึกว่า ทั้งอยากช่วยแม่ทำหอพักให้เสร็จ เพราะรู้สึกว่านี่แม่เรา แต่ก็ไม่อยากหวังอะไรตอบแทนกลับแล้ว ทั้งอยากไปทำงานของตัวเอง เพราะก็รู้สึกว่าเราอายุมากแล้ว แฟนกับแม่แฟนก็กดดันเราตลอด เลยเครียดมาก
    ผมควรจะทำยังงัยดีกับชีวิตครับ แล้วผมน่ะทำกรรมไว้มากกับพี่ชายหรือครับเค้าถึงมาตามคืนแบบนี้
    ผมเกิดวันพุธที่ 8 ตค 2523 เวลาตี 1.00น
     
  2. ราคุเรียวซาย

    ราคุเรียวซาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2,940
    ค่าพลัง:
    +8,515
    คุณเก่งมาก
    และมากด้วยน้ำใจ

    เงินทอง เขาเหล่านั้นแย่งคุณไปได้จนหมด
    แต่ขอให้คุณอย่าลืมว่า ทักษะ ความสามารถในการงานของคุณ พี่ๆเอาไปไม่ได้

    ทั้งคุณความดี ความกตัญญู ต่อมารดา คุณจะไม่มีวันตกต่ำ
    เรื่องคู่นั้น คุณจะได้เจอคนที่คู่ควรแก่ความดีของคุณแน่นอนค่า

    ขอให้รักษาจิตใจไว้อย่าให้ร้อนรนนะคะ
    คุณทำดีมากแล้ว
     
  3. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    น้องคะ อยากบอกว่าเห็นใจ แต่จะให้คำแนะนำงัยดีล่ะ
    ปัญหา เวลาเรามองว่าเป็นของเรา มันก็ดูใหญ่กว่าภูเขา
    แต่เวลามองว่ามันเป็นของคนอื่น มันก็เหลือแค่เส้นผม
    พี่แนะนำวิธีที่หนึ่ง ถ้ามีเพื่อนมาปรึกษาปัญหานี้กับน้อง
    น้องจะแนะนำว่ายังงัยคะ เพราะเวลาที่เรามองปัญหา
    อย่างไม่มีอคติ เหมือนมันไม่ใช่ของเรา เราอาจจะเห็น
    มันชัดขึ้น แล้วก็แก้มันได้

    พี่ขอแสดงทัศนะ และถามคำถาม จากเรื่องที่น้องเล่า
    หน่อยนะคะ คนที่ช่วยคนอื่น จะเรียกว่าคนโง่ได้งัย
    หมอดูนี่พูดแปลก แต่... การช่วยคนมันก็ต้องประกอบ
    ด้วยปัญญา ต้องเป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุด ไม่ใช่ถูกใจที่สุด

    มันเป็นไปได้งัย ที่น้องจะไม่สนใจคนในครอบครัวอีกต่อไป
    แม่แฟน กะแฟนน้องนี่ก็แปลก ถ้าน้องทำได้อย่างนั้นจริง
    น้องจะยังเป็นคนที่น่าคบหาอยู่อีกเหรอคะ

    คนในครอบครัวนี่เป็นอะไรที่เลือกไม่ได้ นี่แหละ เจ้ากรรม
    นายเวรตัวจริง อาจจะมีสิ่งที่ต้องชดใช้ เราจึงต้องมารับ
    ความอึกอัด ทุกข์ใจ แต่ถ้ามองในแง่ดี เค้าก็คงมาดัดนิสัย
    เพราะสิ่งที่เราเคยทำ มันก็คงทำให้เค้าทุกข์อย่างนี้เหมือนกัน

    พี่สงสัยอีกอย่าง ว่าแล้วทำไม น้องไม่ลองคิดที่จะลงทุน
    ทำอะไรเล็กๆน้อยๆ เหมือนที่น้องแนะนำพี่ชายน้องล่ะคะ
    แล้วก็ลองขอเงินแม่ดู

    จริงๆพี่ไม่รู้จะแนะนำอะไรดี อยากให้น้องใช่สติพิจารณาดีๆ
    ว่าจะแก้ไขได้ยังงัยบ้าง มันไม่ได้หมายความว่า น้องจะต้อง
    ยอมทุกคน หรือไม่สนใจใครอีกต่อไป มันอาจจะมีวิธีที่ผสม
    ผสานระหว่างนั้นได้

    สู้ๆแล้วกันนะคะ เป็นกำลังใจให้
     
  4. WATSAPORN

    WATSAPORN Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2010
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +76
    ความกตัญญูเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด เคยมีครอบครัวหนึ่งพี่น้องทะเลาะกันเรื่องแย่งที่ดินซึ่งเป็นมรดกของพ่อแม่เพราะให้ไม่เท่ากัน ต่างคนต่างก็ไม่พอใจทำไมแม่ให้พี่มากกว่าน้อง เลยพากันไปหาหลวงพ่อที่วัดเพื่อความสบายใจหลวงพ่อท่านกลับบอกว่า ทรัพย์สินมรดกตายไปแล้วเอาไปได้มั๊ย ถ้าเอาไปได้ให้คนนั้นมาหาหลวงพ่อ..ซึ่งท้ายที่สุดแล้วก็ไม่มีใครเอาไปได้สักคน..พ่อแม่เรามีคนเดียวเป็นผู้ให้น้ำเลือด น้ำเหลืองให้ตัวตนให้ชีวิต พี่น้องเกิดจากท้องแม่เดียวกันจะดีจะชั่วเขาก็คือสายเลือดเดียวกันกับเราค่ะ..ความกตัญญูดีที่สุด เลิศที่สุด ประเสริฐที่สุด พ่อแม่มีคนเดียวเท่านั้นให้ชีวิตเราส่วนคนอื่น..เราสามารถเลือกได้ ถ้าเราเป็นคนดีแล้ว..คนที่ดีๆๆก็จะเข้ามาหาเราเองค่ะแม้กระทั่งคู่ชีวิตก็เช่นเดียวกัน สู้ สู้..
     
  5. Vatairat

    Vatairat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,294
    ทุกๆปัญหามีทางออกเสมอค่ะ อย่าเพิ่งเครียดค่ะ นู๋คิดว่าพี่รอสร้างหอพักเดือนมกราคมให้เสร็จก่อนดีกว่าไหมค่ะ เหลืออีกนิดส์ๆๆๆ ก็เสร็จแล้วนี่นา
    ค่อยๆทำไปทีละอย่างดีกว่าไหมค่ะ เดี๋ยวจะพังไปซะก่อน ในระหว่างที่รอสร้างหอพักให้เสร็จนี้ ลองหาธุรกิจอะไรทำไปเล็กๆๆน้อยๆๆก่อนดีกว่าไหมค่ะ จะได้ไ่ม่ว่างนะค่ะ แล้วพอหลังจากสร้างหอพักเสร็จค่อยคิดใหม่ ทำใหม่ค่ะ ว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี
    ความกตัญญูนี่แหละค่ะเป็นสิ่งมีค่าที่สุด ทำดีไว้กับพ่อแม่ค่ะ เพราะพ่อแม่เปรียบเสมือนพระอรหันต์ในบ้านค่ะ คิดถึงบุญคุณที่ท่านอุ้มท้องเรามาและเลี้ยงเรามาตั้งแต่เล็กสิค่ะ
    นู๋ว่าพี่ไม่ช้าเลยนะค่ะ ค่อยๆคิด ค่อยๆทำค่ะ ส่วนเรื่องแฟนนะค่ะ บอกให้พี่ผู้หญิงเค้าใจเย็นๆๆค่ะ จริงๆอยากบอกพี่ว่า ถ้าพี่ผู้หญิงเค้ารอพี่ไม่ไหวก็ปล่อยเค้าไปมีคนอื่นก็ได้นะค่ะ
    เพราะถ้าคนที่เค้ารักเราจริงเค้าย่อมรอเราได้ค่ะ ถ้าพี่ไม่รีบคิดถึงเรื่องแต่งงาน ก็ตั้งใจทำงานสร้างฐานะต่อไป จริงๆมันเป็นช่วงจังหวะของชีวิตค่ะ ถ้าคนที่ใช่เนื้อคู่เรา มันก็ใช่ค่ะ ถ้าไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ค่ะ เอาให้เราพร้อมก่อน ค่อยมาคิดถึงเรื่องแต่งงานค่ะ
    นู๋ก็เป็นแค่ความคิดเห็นส่วนนึงค่ะ พี่จะปฎิบัติหรือไม่นั่นอยู่ที่พี่นะค่ะ เจริญเมตตาพรหมวิหารสี่ให้เยอะๆค่ะกับเรื่องพี่น้องนะค่ะ เพราะยังไงเค้าก็เป้นพี่น้องกับเราค่ะ คงไม่มีใครเห็นพี่น้องตัวเองดีกว่าใครหรอกค่ะ เป็นพี่น้องกันก็ต้องช่วยเหลือกันธรรมดา ตามความเหมาะสมค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤศจิกายน 2010
  6. boobeebaa

    boobeebaa สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +11
    ปัญหาการสร้างครอบครัวตัวเองกับตอบแทนบุพการีนี้คุณไม่ได้เจออยู่คนเดียวหรอกค่ะ เป็นปัญหาหนักใจที่ไม่สามารถเลือกได้จริงๆ ตอนนี้ดิฉันกำลังตอบแทนบุพการีเพราะคิดว่าไม่รู้ว่าท่านจะอยู่กับเราไปอีกเท่าไหร่ ในขณะเดียวกันก็คิดว่าแล้วอนาคตที่เราต้องเดินต่อไปกับคู่ชีวิตที่เราเลือกนั้นจะเริ่มได้ตอนไหนที่ทั้งสองฝ่ายจะพอใจ ไม่ทราบว่าแฟนคุณทำงานอะไร แต่ถ้าแฟนคุณเค้ามีเวลาพอคุณอาจจะชวนเค้าเริ่มธุรกิจบางอย่างที่ให้เป็นชื่อของแฟนคุณดูสิคะ พี่ชายคุณจะได้ไม่ต้องมาเอาไปอีกและคุณก็ได้เริ่มต้นชีวิตกับคู่ของคุณไงคะ ยังไงก็เป็นกำลังใจให้คุณนะคะ
     
  7. Mantalay

    Mantalay เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    1,679
    ค่าพลัง:
    +5,065
    คนเป็นแม่ อยากจะช่วยลูกเสมอแหละค่ะ ยิ่งถ้าคนไหนดูแล้วลำบาก ยิ่งช่วยมาก เลยเป็นจุดอ่อนของแม่ ที่ลูกเห็นแก่ตัวบางคน ถือโอกาสกอบโกยไว้ให้มากกว่าพี่น้องคนอื่น เรียกว่า มือใครยาวสาวได้สาวเอาค่ะ มีกันทุกครอบครัวค่ะ ใครจิตใจดีย่อมทำแบบเค้าไม่ได้ ก็ต้องยอมรับความเสียเปรียบไปค่ะ ทำใจเถอะค่ะ คิดว่าทำเพื่อแม่ แม่ก็คงมองชื่นชมคุณอยู่ เพียงแต่ท่านไม่ได้เอ่ยออกมาค่ะ
     
  8. WATSAPORN

    WATSAPORN Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2010
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +76
    หลวงพ่อจรัญท่านกล่าวไว้ว่า "ยิ่งให้ยิ่งได้ ยิ่งหวงยิ่งอด หมดก็ไม่มา เราไม่หวงกัน เราก็ไม่อด หมดก็มาเรื่อยๆๆ" พอมาอ่านข้อความของพี่ ตรงที่ว่า แฟนที่คบกันมาพอรู้เรื่องเข้าก็บอกว่า ทำไมผมไม่สนใจตัวเองเลย มัวแต่ไปช่วยคนอื่นสุดท้ายก็ไม่มีอะไรเป็นของตัวเองซักอย่าง เสียสละจนไม่เหลืออะไร โดนคนอื่นเอาไปหมด มาสะดุดตรงที่ว่า มัวแต่ไปช่วยคนอื่น "คำว่าคนอื่น"..หมายถึง แม่พี่ พี่ชายพี่หรือเปล่า แฟนพี่ก็พูดแปลกนะค่ะ ถ้าแฟนพี่รักพี่ก็น่าจะรักครอบครัวของพี่ด้วยนะค่ะเพราะยังไงก็ต้องมาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวพี่ไม่ใช่หรือค่ะ อย่างน้อยวันแต่งงานพี่เขาก็ต้องมากราบเท้าแม่พี่ ไหว้พี่ชายพี่ด้วย และก็ต้องดูแลครอบครัวของกันและกันค่ะ มันน่าคิดนะค่ะ... ไม่ใช่หนีกันไปสร้างฐานะ..คนที่ทำแบบนี้ไม่เจริญหรอกนะค่ะ หนูว่าคำพูดของแฟนพี่ดูจะเห็นแก่ตัวไปหรือเปล่าค่ะ อย่าโกรธนะค่ะ อ่านตามข้อความที่พี่เขียนมานะค่ะ หนูคิดว่าน่าจะช่วยกันคิดแก้ไขปัญหาและให้กำลังใจซึ่งกันและกันและช่วยกันโอบอุ้มกันทั้งสองฝ่าย อีกฝ่ายไม่เร่งรัดเรื่องแต่งงานแต่ควรให้กำลังใจ อีกฝ่ายเมื่อได้กำลังใจก็มุ่งมั่นทำงานอย่างมีสติ จัดลำดับความสำคัญคิดเรื่องที่สำคัญๆๆก่อนค่ะ และถ้ารักกันจริงก็ไม่จำเป็นต้องรีบอะไร เหมือนกับคำว่าที่ว่า เมื่อเรารักและเข้าใจกัน ถึงจะมีเทวดารูปงามมายืนอยู่ตรงหน้าก็ไม่มีทางเปลี่ยนใจ ยกเว้นแต่ว่าไม่รักกันจริงค่ะ ..เอาใจช่วยนะค่ะ
     
  9. เยสเปอร

    เยสเปอร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +10
    ปัญหาของคุณ เหมือนกับปัญหาของเราเลย ต่างกันตรงที่ คุณเป็นคนมีการศึกษา เเละคนที่คุณช่วยก็เป็นคนในครอบครัว ส่วนเรานี้สิ การศึกษาก็ไม่มี(คือมีเเต่ก็เเค่ ป6 ) เเถมคนอื่นยังเอาปัญหามาให้อีก เเบบว่า เเม่เราเป็นหนี้เยอาะคือตอ้งหาเงินไปให้ สามีเเละลูกเลี้ยง ที่วันๆไม่ทำอะไร หาเเต่เรื่องให้เสียเงิน ไอเราจะไม่ช่วย ก็กลัวเจ้าหนี้จะมายึดบ้าน (บ้านเราเอง) คุณยังโชคดีกว่าเราเยอาะ คนมีการศึกษาอย่างคุณหางานหรือทำอะไรคงไม่ยากหรอก เเต่เรานี้สิ ยาก เเบบยากมากๆ อย่าพึงท้อ เรายังไม่ท้อเลย สู้ๆๆ
     
  10. Killeen

    Killeen Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2011
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +27
    ขอให้คุณทำเพื่อคุณแม่ต่อไป ใครจะทำอะไรปล่อยเขาไป ใครทำดีได้ดี วันหนึ่งกรรมดีจะสนองคุณเอง อย่างลืม แม่มีได้คนเดียวในหนึ่่งชีวิตนี้ เมียดี เก็บไว้ แต่ถ้าไม่ดีไม่รักแม่เราปล่อยเขาไปเลย เมียดีน่ะเราทุกข์ต้องปลอบใจ ไม่ใช่ทับถมกัน ทั้งทั้งที่คุณทำเพื่อคุณแม่คุณ เขาทำเหมือนกันตัวเองไม่มีแม่ หรือไม่รักแม่ตัวเอง แล้วยังมาขัดแฟนเรื่องช่วยแม่ คนแบบนี้ไม่มีดีกว่า ขอโทษด้วยที่กล่าวอย่างนี้เราผมรักแม่มากที่สุด คนอื่นผมไม่แคร์ ถ้าไม่ดีกับแม่เรา
     
  11. AF11

    AF11 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +31
    คุณเป็นคนดี และเก่งมาก ขอให้คุณเชื่อมั่นในความดีงามของคุณ และอยากให้คุณมีแฟนที่เป็นคนดี มีน้ำใจ ค่ะ
     
  12. phank

    phank เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2008
    โพสต์:
    411
    ค่าพลัง:
    +1,278
    อ่านแล้วทั้งเครียด แล้วก็เห็นใจมากๆเลยครับ ผมไม่มีความสามารถดูกรรมอะไรให้ได้นะครับ แต่ชื่นชมในความกตัญญูของคุณมากๆเลยครับ ผมก็เป็นคนปกติ ทั่วๆไป ไม่ได้ดีเลิศประเสริฐศรีอะไรนะครับ ก็จะขอให้คำแนะนำตามคนธรรมดาๆนี่แหล่ะครับ ในการช่วยเหลือผู้อื่น เหมือนกับการให้ทาน ที่มีพรมวิหาร 4 เป็นที่ตั้ง ซึ่งหากเกินความสามารถเราก็ต้องวางเฉยในที่สุด นอกจากนี้ในการช่วยเหลือผู้อื่น จำเป็นที่จะต้อง เมตตา และกรุณาตัวเองด้วย อย่าทำจนเกินกำลัง ทุกๆอย่างต้องอยู่บนความพอดี ไม่ตึงหรือหย่อนจนเกินไป

    สิ่งที่คุณทำมาตลอดและควรจะทำต่อไปคือการตอบแทนคุณบิดามารดา ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีและเป็นหน้าที่ของลูก นั่นคือดูแลท่านอย่าให้ลำบาก สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยความปกติสุข ค่าใช้จ่ายที่ยังเกิดขึ้นในการสร้างหอพักที่ยังไม่เสร็จสิ้นนั้น คุณก็หาให้ใช้จ่ายตามจริงกับรายจ่ายที่เกิดขึ้นเป็นทางเลือกหนึ่ง ถ้าหากทำความเข้าใจกับแม่ได้ว่า มันเป็นการทำธุรกิจ ระหว่างคุณกับแม่ มันเป็นเงินก้อนสุดท้าย ถ้าไม่สำเร็จก็เท่ากับที่ลงทุนมาจะสูญเปล่า เราไม่มีโอกาสที่จะผิดพลาดอีกแล้ว ไม่มี

    และคุณจะต้องคุยกับแม่อย่างเป็นทางการ ว่าเงินทั้งหมดเหล่านั้นให้ใช้เพื่อในการสร้างหอพักและเลี้ยงดูแม่เท่านั้น ที่ไม่ให้พี่ชายในการลงทุนเพราะว่า เงินทุกบาททุกสตางค์ที่มีอยู่นี่เป็นเงินในส่วนที่คุณหามาเองและเป็นความมั่นคงในชีวิตของคุณเอง ซึ่งคุณเองอายุก็ไม่ได้น้อยแล้ว ควรจะต้องมีหลักประกันให้กับชีวิตบ้าง หากสิ่งเหล่านี้ไม่จำเป็น แม่ของคุณจะให้เงินกับพี่ชายคนที่สองเพื่อไปสู่ขอผู้หญิงแต่งงานหรือ และเงินในส่วนที่แม่กำลังจะให้พี่ชายไปลงทุน ระหว่างคนที่เครียดไม่ได้ใช้เงิน กับอีกคนที่เครียดเพราะเป็นเจ้าของเงิน มันต่างกันมากนะ การจะหาว่าใจจืดใจดำกับคนในครอบครัว ก็อาจจะใช่ แต่มันมีสาเหตุ สาเหตุที่ว่าก็คือช่วงเวลาที่ยากลำบาก พี่ชายของคุณไม่เคยคิดที่จะช่วยเหลือ แต่พอเวลาที่จะเอาเงินกลับนึกถึงคนในบ้านได้ มันเป็นแบบนี้คุณก็ต้อง ป้องกันตัวเองกับเงินก้อนสุดท้ายที่เหลืออยู่ เพราะถ้าผิดพลาดขึ้นมา แม่ พี่ชายคนโต หรือพี่ชายคนรองจะช่วยคุณได้มั้ย (ต้องถามจริงๆนะครับ)

    หากแม่ของคุณยังไม่เข้าใจ มันก็จะต้องเริ่มบทที่หนักขึ้น คุณอาจจะต้องวางเฉย ปล่อยให้หอสร้างไม่เสร็จอย่างนั้น แล้วดูซิว่าพี่ชายคนรองที่เอาเงินไปขอผู้หญิง ไปสร้างครอบครัว กับพี่ชายคนโตที่คิดจะขอเงินไปลงทุน จะมาช่วยออกเงินสร้างให้เสร็จมั้ย เมื่อแม่คุณได้เห็นความเป็นจริงว่าไม่มีใครเข้ามาช่วยเหลืออาจจะคิดอะไรได้บ้าง หากแน่ใจว่าแม่เข้าใจทุกอย่างดีแล้ว ค่อยกลับมาสร้างต่อให้เสร็จ แต่ต้องใจแข็งและแข็งใจจริงๆนะครับ บอกไปก็ได้ว่าคุณไม่มีกำลังที่จะช่วยเหลือแล้ว เงินต่างๆที่เคยมีก็ช่วยไปหมดแล้ว จากนี้คุณจะเริ่มหาใหม่(ไม่ได้โกหก แต่มันเป็นความจริง) ก่อนใช้ขั้นนี้ต้องทำใจให้ได้ก่อนจริงๆนะครับ ว่ายอมเสีย 90 ดีกว่าเสีย 100 วัดใจกันไปเลยครับ

    และอีกทางหนึ่ง แต่ไม่ค่อยอยากจะแนะนำ คือ ในเมื่อคุณเป็นคนหาเงิน เงินที่คุณเป็นคนหา คุณเป็นเจ้าของมัน เปลี่ยนสถานภาพตัวเองให้เป็นเจ้าของเงินอย่างแท้จริง บริหารเงินที่เป็นของของคุณด้วยตัวคุณเอง

    สำหรับเรื่องนี้ที่ผมแสดงความเห็นแบบข้างบนออกมา เพราะผมรู้สึกแบบนี้
    1.)ยามลำบาก พี่ชายไม่เคยคิดจะช่วยเหลือ หรืออาจจะบอกว่าคิดก็ได้ แต่ไม่เคยเห็นทำ!
    2.)ขณะลำบาก พี่ชายคนรองไปขอผู้หญิงแต่งงานพร้อมกับสร้างเรือนหอ! กลับไม่ห่วงว่าแม่ ว่าน้องชาย จะมีสภาพยังไง
    3.)ถ้าคนที่รัก และห่วงครอบครัวตัวเอง ยามที่ในบ้านก็ขัดสนอยู่แล้ว มีคนดีๆที่ไหน กล้าบากหน้ามาขอเงิน ไม่ใช่เงินกินใช้จ่ายธรรมดา เอาไปลงทุนทั้งธุรกิจ และไปขอผู้หญิงแต่งงาน(ทำเรือนหอด้วย!) และพี่ชายคุณทั้งสองคนก็น่าจะต้องรู้ว่า แม่กำลังสร้างหอพัก มันก็จำเป็นต้องใช้เงินเยอะอยู่ และก็คงรู้อีกว่าสถานะการเงินที่บ้านเป็นอย่างไร
    4.)แม่ย่อมรักลูกทุกคน แต่รักไม่เท่ากัน ที่สำคัญกว่านั้น แม่คุณไม่รักษาคำพูด และไม่เห็นใจคุณ ที่เป็นคนหาเงิน ว่ามันเป็นเงินออมทั้งชีวิต และได้มาด้วยความยากลำบาก นอกจากนี้ผมก็คิดว่าแม่คุณไม่เคยลำบาก ตรากตรำ ทำงานหนักๆ จึงไม่เห็นค่าของเงินเท่าที่ควร ถ้าเงินยังเป็นเบี้ย เป็นเปลือกหอยไปเดินหาตามชายหาด ณ เวลานี้ยังหายากเลย นับประสาอะไรกับการหาเงิน ที่ไม่ได้งอกเงยโผล่ขึ้นมาเองตามธรรมชาติ

    ส่วนเรื่องแฟนคุณ คุณน่าจะรู้จักนิสัยพื้นฐานของเธอดี ที่เธอรบเร้าในเรื่องการช่วยเหลือ พวกนี้ ผมอ่านแล้วพอนึกออกนะครับ จากปกติที่แฟนเคยขับรถไปส่ง วันนี้กลายเป็นนั่งรถ Taxi รถเมลล์อะไรแบบนี้ ทั้งๆที่ตัวเองก็มีรถแท้ๆ แต่เอาไปให้พี่ขับ เงินทองเงินเก็บที่มีคุณก็เอาช่วยเหลือแม่หมด หนำซ้ำยังเอาเงินเก็บของคุณ ไปให้พี่ชายแต่งงาน ซึ่งแฟนคุณเองก็คงจะอยากแต่งงานอยู่ แต่สิ่งต่างๆที่คุณมี คุณเอาไปช่วยเหลือที่บ้านหมด แต่ในขณะเดียวกันพี่ชายทั้งสองคนทั้งที่โตกว่า กลับเพิกเฉย ในส่วนของแฟนคุณก็พอจะเข้าใจได้นะครับ แต่มีแต่ มันสะท้อนให้เห็นว่า ทางครอบครัวฝั่งแฟนคุณอาจจะหรือต้องการพึ่งพาคุณในด้านเงินทองอย่างจริงจัง ถ้าที่ผ่านมาคุณรู้จักแฟนคุณดีก็แล้วไป แต่ถ้าไม่ชัดเจนก็ยากหน่อย มามองที่แม่แฟนของคุณบ้าง ก็คิดจากความรู้สึกจริง พ่อแม่คนไหนก็อยากให้ลูกตัวเองแต่งงานไปกับผู้ชายที่ดี ดูแลลูกตัวเองได้ ไม่ลำบาก เป็นธรรมดาอยู่แล้ว แต่ทั้งหมดมันก็ดูออกว่าฝั่งตรงข้ามไม่ผูกพันธ์กับครอบครัวตัวคุณเองแบบลึกซึ้ง ความเห็นอกเห็นใจระหว่างกันยังไม่มากพอ

    หลายต่อหลายคน รักพี่น้องมาก ถามว่าดีมั้ย ก็ต้องตอบว่าดี แต่ถ้าเมื่อใดได้เลือกที่จะมีครอบครัวแล้ว มันหมายถึงความรับผิดชอบที่จะต้องมีและผูกพันธ์กันจนกว่าจะเลิกกันหรือตายจากกันไปข้างนึง ซึ่งบางคนที่ว่านี้มีพี่น้อง 3 คนเหมือนคุณ และทั้ง 3 คนของบางคนที่ว่านี้ ลักษณะความเป็นไปคล้ายๆกันกับของคุณอีกเช่นกัน เมื่อเวลาล่วงเลยไป น้องคนเล็กช่วยเหลือคนพี่ทั้ง 2 และ 1 , ส่วนคนกลางช่วยเหลือเฉพาะพี่คนที่ 1 , ส่วนคนพี่ไม่ช่วยเหลือใครเลย บทสรุปของการเอื้อเฟื้อให้กับคนที่ไม่รู้จักว่าดี คือการหักหลัง ใครช่วยคนไหน ก็โดนคนนั้นหักหลัง เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น บทเรียนนี้กินเวลาเกินครึ่งชีวิตของคนๆนึง มันอาจจะไม่เกี่ยวถ้าคุณไม่ได้เป็นคนแบบนั้น แต่มันอาจจะเกี่ยวถ้าคุณไม่รู้จักคำว่า "พอประมาณ" ต้องรู้นะครับว่าแค่ไหนที่เรียกว่ากำลังดี และก็ต้องรู้นะครับว่าคนไหนที่สมควรหรือไม่สมควร

    ขอเป็นอีกกำลังใจให้คุณเจ้าของกระทู้ได้ฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆไปได้ด้วยดีนะครับ

    *** หมายเหตุ ***
    ผมขอให้ความเห็นแบบตรงๆนะครับ ไม่อ้อม ไม่ค้อม อาจจะมีหลายๆคนคงไม่เห็นด้วยกับความคิดของผม แต่ผมเป็นคนนึงที่ขออยู่กับความเป็นจริง เอาแบบประเภทจับต้องได้เลยนะครับ ไม่เพ้อ ไม่ฝัน ไม่หวังลมๆแล้งๆ ลำบากก็คือลำบาก สบายก็คือสบาย ไม่ใช่ว่าลำบากแล้วยังทำตัวสบาย ชีวิตจริงไม่เหมือนในเกมส์ที่เริ่มต้นใหม่ได้ เจ็บจริง ตายจริง ไม่มีสแตนอิน ครับผม

    สุดท้ายนี้ ผมอยากจะขอโทษในหลายๆความคิดเห็นของผมที่ส่งออกไป รวมทั้งกระทู้นี้ด้วย เพราะอันที่จริงเรื่องในครอบครัวโดยเฉพาะมีพ่อแม่เข้ามาเกี่ยวด้วย ส่วนมากมันมีอะไรมากมาย ทั้งเบื้องลึกเบื้องหลัง ต่างๆนาๆ ผมเป็นคนนอกย่อมไม่รู้อะไรได้ดีเท่าคนภายใน แต่ผมก็วิเคราะห์ทุกตัวอักษรที่ผู้เขียนพิมพ์ออกมา และเชื่อว่านั่นคือข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ในส่วนตัวผมอยากจะแบ่งปันความทุกข์และความสุขกับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่อยู่ในเว็บพลังจิตทุกๆคน หวังว่าคนที่ได้อ่านความเห็นของผมคงจะเข้าใจนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มกราคม 2011
  13. mamboo

    mamboo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,129
    ค่าพลัง:
    +1,973
    mamboo ว่า คุณ จขกท. กำลังสับสนนะคะ ^^

    คุณเป็นคนรักครอบครัว ... ความรักระหว่างพี่น้อง คือความห่วงใย .. แต่ความรักที่มีให้แม่ คือความรักที่ ยิ่งใหญ่มหาศาล

    คุณมีความสุข และพอใจ ที่ได้ทำให้แม่ของคุณมีความสุข .. คุณไม่สนใจเลยว่า แม่จะเอาเงินไปทำอะไร ขอแค่แม่มีความสุข ..

    ในขณะเดียวกัน .. คุณก็รู้ว่า พี่ชายของคุณ มีการบริหารเงินที่ เป็นไปในทางที่ ค่อนข้างจะเอาเปรียบคุณ และ ค่อนข้างจะเห็นแก่ตัว ..

    แต่คุณก็ยังไม่สามารถแก้ไขอะไรตรงนั้นได้ เพราะที่ทำไป คุณคิดว่า คุณทำเพื่อแม่(ไม่ได้ทำเพื่อพี่ชายซะโดยตรง)

    ----

    mamboo จะบอกให้นะคะ ^_^ คุณ ทำดีแล้ว ... คุณทำในสิ่งที่คุณรู้สึกว่า .. คุณมีความสุข ^^ และคุณ สบายใจ ที่ได้ทำเพื่อแม่ .. แต่คุณยังรู้สึกปะแล่มๆกับการกระทำของพี่ชายคุณ .. ซึ่ง .. ตรงนี้ คุณต้องไปทำความเข้าใจกับ "คุณแม่" ของคุณ ค่ะ ^^

    คุณอาจจะไปคุยกับพี่ชายคุณด้วย เพื่อให้ง่ายขึ้น .. แต่ mamboo คิดว่า ปัญหาของคุณ อยู่ที่ คุณ กับ แม่ .. เพราะปัญหาพี่ชายของคุณ ถูก support โดยแม่ของคุณ เพราะงั้นต้องแก้ที่ คุณกับแม่ ค่ะ ^^

    -----

    ส่วนเรื่อง แฟนของคุณ และแม่ของแฟนคุณ .. เป็นเหมือน บุคคลที่ 3 ที่เข้ามาทำให้คุณ ไขว้เขว

    คุณคิดว่า คุณรู้สึกดีที่ทำเพื่อแม่(ถึงแม้จะแอบเซ็งพี่ชายนิดๆก็เหอะ >< แต่คุณก็ยังทำต่อไป เพราะคุณคิดว่า คุณทำเพื่อแม่)

    แต่แฟน(และแม่แฟน) กลับมาบอกให้คุณ เลิกทำสิ่งเหล่านี้ >< (ซึ่งขัดกับความรู้สึกของคุณ)

    mamboo ว่า เรื่องของคุณ จขกท. ไม่ได้มีปัญหาเลยนะคะ

    คุณคุมหอพักไป (ระหว่างนี้ ก็ไปสมัครงานไปด้วยก็ได้) เพื่อความสบายใจ ยังไง คุณต้องเอาหอพักเป็นหลัก พอหอพักเสร็จแล้ว ค่อยไปหาสมัครงาน .. จะทำงานอะไรก็ว่าไป ..

    ส่วนเรื่อง งานไฟฟ้าจะแนะนำให้พี่ชาย mamboo ว่า อย่าเลย .. เพราะถ้าพี่ชายของคุณทำอะไรเสียหายให้กับแม่แฟน คุณจะพลอยทำตัวไม่ถูก ต้องรู้สึกอึดอัด เอา 2 ฝ่ายนี้ แยกออกจากกันไปเลยดีกว่า ><

    ส่วนเรื่อง เงินที่จะได้จากหอพัก .. คุณต้องตกลงกับแม่คุณ .. แสดงให้แม่คุณเห็นสิ่

    เช่น .. อาจจะเปรยๆ พูดเล่นๆกับแม่ว่า "อยากแต่งงานแล้วอ่าา >< แก่แล้ว.. แต่ผมไม่มีเงินแต่งอ่ะแม่ T-T"

    แม่คุณ อาจมองคุณเป็น ขุมทรัพย์ เห็นศีรษะของคุณ เป็นตู้ ATM

    คุณต้องเปลี่ยน ภาพพจน์ ที่แม่ของคุณ มาที่คุณ

    รู้จัก first impression ไหมคะ ??? ^^

    ถ้าคนๆหนึ่ง ถูกมองว่า เป็นคนที่สวย.. ผ่านไป 10 ปี ต่อให้คนๆนี้หน้าตาเปลี่ยนไปแค่ไหน แต่คนที่เคยมองคนๆนี้ว่าสวย ก็จะยังมองว่าเธอสวยอยู่อย่างนั้นแหละ ^^

    กรณีของคุณ จขกท. ก็เช่นเดียวกัน

    แม่ของคุณ(อาจรวมถึงพี่ชายด้วย) มองมาที่คุณ ในลักษณะที่เห็นว่า คุณคือแหล่งขุมทรัพย์ เป็นตัวเงินตัวทอง

    และต่อให้ คุณจะมีเงินในธนาคารไม่ถึง 10,000 บาท ไม่มีรถขับ .. แต่แม่ของคุณ ก็จะยังมามาที่คุณ .. ว่า.. เดี๋ยวคุณก็มีเงิน ><

    พวกเขาเหล่านี้ จะไม่ได้มาคิดแบบเป็นเหตุเป็นผลว่า .. คุณเอาเงินมาจากไหน ต้องลงทุนลงแรงอะไรบ้างถึงได้เงินมา

    แต่เขาเหล่านี้จะมองโดยภาพรวมว่า .. "ประเดี๋ยวคุณก็มีเงิน >< จะได้มาจากไหนก็ช่างเหอะ ><"

    mamboo แนะนำให้คุณ จขกท. ต้องเปลี่ยนมุมมองของแม่คุณให้ได้ค่ะ ^^

    แฟนของคุณ เป็นคนรู้ใจและเข้าใจคุณ เธอจึงมองมาที่คุณอย่างเป็นเหตุเป็นผล

    เธอมองเห็นว่า คุณอยู่ในสถานะไหน วันหนึ่งๆคุณทำอะไรบ้าง ??/ ตอนนี้การงานการเงินของคุณเป็นเช่นไร ??

    แต่คุณแม่ของคุณ ไม่ได้มองมาที่คุณเช่นนั้น .. ท่านมองมาที่คุณเป็นภาพรวมๆว่า คุณคือ ตัวเงินตัวทอง

    เพราะงั้น คุณต้อง . เปลี่ยนภาพพจน์ของคุณในสายตาของแม่คุณค่ะ ^^

    อย่าบอกท่านตรงๆ (เพราะท่านไม่เชื่อหรอก)

    แต่ให้ ค่อยๆแสดงออก.. ทุกๆวัน ทำให้ท่าน ได้เข้าใจและเห็นเอง

    อย่าใช้คำพูดตรงๆ เช่น "ผมไม่มีเงินแล้วนะครับ" แต่ให้แสดงออกแบบอ้อมๆ(ให้ท่านเก็บไปคิดเอง) แล้วท่านจะเปลี่ยนความเชื่อ เป็น ความเข้าใจ

    เมื่อท่านเข้าใจว่า สถานะของคุณตอนนี้ เป็นเช่นไร คุณกำลังคิดอะไร รู้สึกเช่นไร, ไอ้ภาพพจน์ "ตัวเงินตัวทอง" ที่อยู่บนหน้าคุณ ก็จะหายไปในทันทีเลยค่ะ ^^

    ขอให้โชคดีนะคะ ^_^
     
  14. Namwan002

    Namwan002 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +1
    พ่อ..เจ้าชู้...

    สมัยก่อน พ่อกับแม่หย่ากัน แต่พ่อก็มาหาช่วงกลางคืนทุกๆวัน และชวนให้ไปอยู่ด้วย... พ่อสัญญา จะไม่เจ้าชู้...หนูมีความสุขมากค่ะที่ได้เห็นพ่อพูดอย่างนี้ แต่ ความสุขพังทลายลง...ตอนนั้น พ่อไม่ให้หนูดูโทรศัพท์ แต่หนูแอบเห็น..รูปพ่อ ถ่ายคู่ักับผู้หญิงที่ไม่รู้จัก ทำไม พ่อมีคนไม่ได้หรือไง ตอนนั้นผู้หญิงคนนั้นโทรมา (เห็นเนื่องจากโทรศัพท์มันมีรูปขึ้นมาพร้อมเบอร์)พ่อก็วางสายและพยายามไม่ให้หนูเห็น... พ่อหนู เคยไปกับผู้หญิงอีกคน ที่ท้องแล้ว เธอท้องแล้ว ตอนนั้นขับรถเจอพ่อกำลังประคองเธอขึ้นรถด้วยความเป็นห่วง ทั้งๆที่ไม่เคยทำให้แม่...แม่ก็ขับรถไล่ตาม แม่เสียใจมาก แต่พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้หนูเห็น หนูรู้ แม่ตาแดงวไปหมด หนูจะทำยังไงเรื่้องรูปนั้น แม่ที่ไม่รู้เรื่องเข้ามายิ้มแย้มอยู่กับพ่อ ซึ่งไม่รู้สว่าพ่อก็แอบมีใครอีกหลายคน หนูเสียใจ อยากไปให้พ้นหน้าพ่อ หนูไม่อยากเห้นหน้าพ่อ เห็นแล้วโกรธ โกรธมาก โกรธที่ทำให้แม่เสียใจ ยิ่งเห็นแม่ที่ไม่รู้เรื่องยิ้มแย้มคุยกับพ่อ ยิ่งโกรธพ่อ ไม่รู้จะบอกแม่ดีไหม แต่ตอนนี้ยังไม่บอกค่ะ เห็นว่าเป็นเรื่องผู้ใหญ่...แต่หนูก็เป็นห่่วงแม่จริงๆ พ่อเคยสัญญา แต่ไม่เคยทำได้ พ่อจะสัญญาทำไม หนูอยาก...อยากตาย..แต่หนูไม่ทำหรอก เพราะนั้นจะทำให้แม่เสียใจ หนูไม่อยากให้แม่เสียใจ แค่นี้ก็เสียใจพอแล้ว หนูโกรธพ่อมาก ช่วยบอกที หนูควรทำยังไง!! พ่อไม่ยอมเลิกเจ้าชู้ บาปกรรมช่วยลงโทษที ลูกคนนี้ทนพ่อไม่ไหวแล้ว!!!!!
     
  15. โอกระบี่

    โอกระบี่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,477
    ค่าพลัง:
    +1,651
    เป็นกำลังใจให้ครับอดทนและเข้มแข็งเข้าไว้ครับ ทั้งสองเรื่องในกระทู้
     

แชร์หน้านี้

Loading...