การปรารถนาพุทธภูมินั้นง่าย....จริงหรือ??

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย phoenix, 18 พฤศจิกายน 2004.

  1. มหาพรหมราชา

    มหาพรหมราชา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    241
    ค่าพลัง:
    +903
    เป็ยธรรมดาของพระโพธิสัตว์ ถ้าไม่มีนางแก้วก็เป็นพระพุทธเจ้าไม่ได้
    และคนที่พระโพธิสัตว์รักมากที่สุดหรือรักมากกว่ารักตัวเองก็คือ ภรรยาและลูก แต่ในที่สุดก็ต้อง ให้ภรรยาและลูกเป็นทาน ซึ่งเป็นการให้ที่ยากที่สุด ให้ชีวิตตัวเองยังอาจจะง่ายกว่าเลย และความรักของนางแก้วกับพระโพะสัตง์ก็เป็นรักที่ยิ่งกว่ารักของคนทั่วๆไปเพราะ เมื่อนางแก้วถูกบริจาคไปแทนที่จะโกรธกลับเข้าใจว่าพระโพธิตว์กระทำไปเพื่อพระโพธิญาณ จึงยินดีที่จะช่วยพระโพธิสัตว์ให้ได้สร้างบารมีเพื่อเป็นพระพุทธเจ้า นางแก้วจึงเป็นบุคคลที่สำคัญที่สุดของพระโพธิสัตว์
    ส่านการสร้างบารมี นั้น คนที่จะกำหนดได้ว่าจะสร้างบารมีในข้อนั้นๆ ซึ่งเป็นั้นปรมัตถ์ ส่วนมากจะเป็นท่านที่บารมีใกล้จะเต็มหรืออยู่ช่วงปลายบารมีเหลืออีกไม่กี่ชาติ จึงรู้ระลึกได้ว่าตัวเองจะตั้งใจมาสร้างบารมีนี้ จึงเด่นเฉพาะบารมีในข้อนั้น แต่ข้ออื่นๆก็กระทำเหมือนกันไม่ได้ละทิ้ง
    พระโพธิสัตว์ในโลกทั้งสามนี้ มีบารมีแตกต่างกันไป บางท่านอาจจะเป็นชาติแรกที่ปรารถนา เรื่องบารมี 30 ทัศอาจจะยังไม่ค่อยรู้ เพราะถ้าสมมุติว่า เขาได้เห็นพระพุทธเจ้าแล้วเกิดใจศรัทธา แล้วปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าในชาติชาตินั้น แต่ก็เล่งทำบุญกุศลต่างๆ ซึ่งเป็น กุศลบุญในบารมีขั้นต้น คนอื่นอาจจะมองท่านว่าเหมือนกับไม่ค่อยได้สร้างบารมีเพราะไม่เป็นบารมีที่เด่นที่เข้มข้น บางท่านอยู่ในช่างสร้างอุปบารมี บารมีจะเด่นขึ้นมากว่าเดิมเยอะ เพราะกระทำสิ่งที่ทำได้ยากกว่าเดิม
    บางท่านอยู่ในช่วงปรมัตถบารมี จะเด่นมากในการสร้างบารมีเพราะกระทำจริงจัง กระทำด้วยชีวิตหรือสระชีวิตในการสร้างบารมี แต่ ที่ว่าเด่นนี้ไม่ใช่เด่นดังนะครับ แต่เด่นในตัวเองรู้ในตัวเองหรือรู้ในเฉพาะบุคคลที่ทราบแต่ก็ไม่ได้กระทำเพื่อความเด่นดัง
    แต่ไม่ว่าจะอยู่ในบารมีขั้นไหนถ้าหากโอกาสและกำลังใจเกิดขึ้นมาก ก็อาจจะกระทำปรมัตถบารมีได้ในชั่วพริบตาก็เป็นได้
    และที่สำคัญพระโพธิสัตว์ไม่ใช่จะเดินทางถูกในทุกๆชาติ บางชาติอาจพลาดทำสิ่งที่เป็นอกุศลก็มี หลงผิดแบบสุดๆก็มี แต่ในที่สุดกุศลบุญบารมีก็นำพาให้เดินถูกทาง พระโพธิสัตว์ทุกๆองค์ ท่านมีแนวทางการสร้างบารมีเฉพาะตัวแต่ไม่ออกนอกเขตบารมี 30 ทัศ แม้จะหยุดอยู่ก็ตามก็สามารถสร้างบารมีได้ จะมากหรือน้อยก็คือบารมี ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรสั่งสมใช่มั้ยครับ ที่แสดงความคิดเห็นมานี้ถ้าผิดพลาดประการใดก็ขอ อภัยด้วยนะครับ ผมต้องศึกษาความรู้กับทุกท่านอีกมากมาย ขออนุโมทนาครับ
     
  2. santosos

    santosos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +3,212
    ไม่ง่าย ไม่ยาก
     
  3. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    ถูกคร๊าฟๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆครับ
    ไม่ง่าย แต่....ไม่ยาก
     
  4. ถิ่นธรรม

    ถิ่นธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,824
    ค่าพลัง:
    +5,398
    พุทธภูมินี่คงเหมือนปลูกทั้งป่าเลยกระมัง
     
  5. adevathep

    adevathep เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +153

    ลบหลู่คุณธรรมพระพุทธเจ้าทั้งหลายว่าไม่ง่าย และไม่ยากซะงั้น

    เฮ้อ.... ปุถุชนผู้มืดบอด ตาบอด อวดอ้างว่าตาดี เดินเห็นทางที่ไปอย่างแน่ชัด
     
  6. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    ลูกศิษย์ อ.กร มาเยี่ยม อิอิ
    อ่านให้ละเอียดก่อนดีไหมครับ ?????
    ถ้าไม่เข้าใจก็อย่าตอบครับ เดี๋ยวเขาจะหาว่าฉลา....น้อย อิอิอิ
     
  7. ไหน่ฮวย

    ไหน่ฮวย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2010
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +237
    แล้วตาดีนี้เป็นแบบไหนล่ะคะ ช่วยอธิบายให้กระจ่างหน่อยเอาละเอียดๆนะคะ
     
  8. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,171
    ;hi2



    .
     
  9. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603

    ก็คนคนข้างล่าง และข้างบนงัยครับ ไหน่ฮวย อิอิ

     
  10. NikuSeed

    NikuSeed เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    336
    ค่าพลัง:
    +724
    อืม เป็นไปได้นะครับนี่ ^^
    แต่ผมกลัวๆว่าป่าที่จะปลูกมันจะมีขนาดใหญ่ประมาณเท่าทั้งดาว หรือเท่าทั้งเขา้พระสุเมรุนี่สิ
    (ทำนองเดียวกับว่ายน้ำข้ามมหาสมุึทรใหญ่เท่าจักรวาลล่ะนะ)

    ขอบคุณสำหรับเรื่องปลูกทั้งป่านะครับ คำเปรียบเปรยอันนี้ดูสมบูรณ์ขึ้นละครับ
     
  11. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ขออนุโมทนาบุญกับคุณ phoenix และพระอาจารย์ของคุณ phoenix ด้วยค่ะ

    เคยอ่านกระทู้นี้ เมื่อกว่า 3 ปีที่ผ่านมา ตอนนั้นยังไม่สมัครสมาชิกเว็บพลังจิต และเคยนำวิธีการนี้ไปใช้ ได้ผลค่ะ

    กระแสของพระพิมพายโสธราเย็นมาก คล้ายมีกระแสน้ำเย็นตลอดเวลาไหลผ่านกายเราตลอดเวลา

    ความเย็นจะแตกต่างจากกระแสของพระพุทธองค์ หรือพระโพธิสัตว์ ต้องสัมผัสด้วยตนเองจึงจะทราบค่ะ

    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

    Numsai
     
  12. ustharos

    ustharos Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2009
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +70
    อยากเป็นน่ะ "ง่าย" ทำให้ได้เหมือนที่อยากนั่น "ยาก"
     
  13. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    ทุกดวงจิตสามารถเป็นดวงจิตแห่งพุทธะได้ทุกดวง เมื่อถึงเวลา เพราะธรรม คือของกลางที่ทุกคนจะต้องได้รับเสมอภาคกัน ทัดเทียมกัน เพียงแต่รักษาดวงจิตอย่าให้ตกอยู่ในอบายภูมิ โดยเฉพาะนรกอเวจี นรกโลกันต์ และรักษาดวงจิตอย่าให้ตกอยู่ในอำนาจของมาร โดยเฉพาะพวกที่เล่นฌาน 4 หากไม่มีอาจารย์หรือผู้แนะนำคอยดูแล จะทำให้มารเข้าแทรกดวงจิตได้ เพราะขณะที่ดวงจิตแตกละเอียดใหม่ๆ โลกธาตุต่างๆ สามารถรับรู้ได้ ขณะเดียวกันมารก็สามารถรับรู้ได้เช่นกัน และจะมาทันที ไม่เพียงกี่นาที มาทำอะไร มาวางเชื้อแห่งมารเข้ามาในดวงจิต (จะกลายเป็นดวงจิตที่อิจฉา ความเป็นไปขององค์พระพุทธเจ้า) กลายเป็นดวงจิตที่เป็นบริวารของมารไป

    ดวงจิตที่ปกติเท่านั้นที่จะมีโอกาส การดับทุกข์ (การดับทุกข์ หมายถึง นิพพาน ) เมื่อเข้าถึงนิพพาน(ดับทุกข์สิ้นเชิง)แล้ว ย่อมจะสบาย เมื่อดับทุกข์ได้แล้ว เมื่อถึงเวลาดับขันธ์แล้วจึงจะได้ไปสวรรค์แห่งนิพพาน ทันทีโดยตรง แต่สำหรับบรรดาที่เล่นฌาน4 มาก่อน ยังไม่สามารถไปนิพพานได้ จะต้องผ่านแดน อนาคามีก่อน ทุกดวงจิต (เหตุผลจะไม่บอกตอนนี้ เพราะยังไม่ถึงเวลา)

    ทุกดวงจิต เมื่อเข้านิพพานแล้ว จะไม่สามารถพัฒนาตนเองต่อไปได้ เพราะภาวะของนิพพานที่เป็นอยู่คือการหยุดนิ่งของสภาวะจิต ไม่เปลี่ยนแปลงสภาวะจิต ต้องออกจากนิพพาน หรือพูดง่ายๆ เมื่อดับขันธ์แล้ว หากปรารถนาพุทธภูมิจริงๆ แล้วไซร์ ไม่ควรเข้านิพพาน ควรบำเพ็ญบารมีในสภาวะของโลกธาตุต่อไป เหมือนกับหลวงปู่ใหญ่ (หลวงปู่เทพอุดร) ได้ปฏิบัติคือยังไม่เข้าแดนนิพพานหลังจากดับขันธ์แล้ว การพัฒนาดวงจิตต่อไป จะต้องเข้าไปยังดินแดนพุทธเกษตร เป็น ดินแดนที่สำหรับเหล่าอรหันต์สาวก ได้พัฒนาดวงจิตเป็นดวงจิตแห่งพุทธะ ดังนั้น จึงเรียกว่าดินแดนผลิตดวงจิตแห่งพุทธะ ที่เรียกว่า แดนพุทธเกษตร การเข้าแดนนิพพานมีเงื่อนไขอยู่ (จะไม่ขอบอก ตอนนี้ ยังไม่ถึงเวลา)

    ทุกคนสามารถมี/เป็นดวงจิตแห่งพุทธะ ได้ทุกดวงจิต หากมีโอกาส ให้เร่งความเพียรได้เลย ดับสภาวะทุกข์ของจิต เป็นผู้บริสุทธิ์ ได้ในชาตินี้เลย ไม่จำเป็นต้องสะสมบารมี บารมีไม่เกี่ยวข้องใดๆ ปฎิบัติตนให้ปกติ อ่อนน้อมถ่อมตนให้มาก การปฏิบัติเบื้องต้น คือ การรู้สภาวะจิตของตนเองปัจจุบันขณะ ก็พอ ไม่ต้องไปเล่นฌาน ให้เสียเวลา ทุกอย่างจะเกิดขึ้นเอง แม้นแต่สติ และ ปัญญา
     
  14. baby dragon

    baby dragon สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +8



    ขอแก้หน่อย เฮ้อออออออออออ อย่าหาว่าเรา ยุ่งเรื่องคนอื่นเลยนะ

    แต่

    มันคงเป็นนิสัยมั้งที่ต้องเข้ามาแก้ความเข้าใจผิดทุกที


    ลูกศิษย์ของท่านนี่นิสัยเหมือนกันหมดรึเปล่านะ


    การที่เค้าบอกว่า ไม่ง่าย แต่ก็ ไม่ยากนั้น


    ไม่ได้แปลว่า เค้า ต้อง การ ลบหลู่ หรือ ว่า ดูหมิ่น พระสัทธรรมที่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้ หรือ คุณธรรมของพระพุทธองค์ ท่าน เลย

    เพียงแค่ต้องการบอกเท่านั้นว่า การบำเพ็ญบารมีเพื่อการตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ นั้น สามารถบำเพ็ญกันได้ โดย วิธีการบำเพ็ญนั้น

    ไม่ง่าย แต่ ก็ ไม่ได้ยากจนเกินไป ขึ้นอยู่กับตัวผู้กระทำ


    ที่ว่าไม่ง่ายนั้นคือ การบำเพ็ญบารมีให้ได้ครบทั้ง 30 ทัศ ไม่ใช่ของที่กระทำกันได้โดยง่ายสำหรับ ผู้ที่มีกำลังใจไม่ถึง

    แต่

    การบำเพ็ญบารมี ให้ครบทั้ง 30 ทัศ นั้นก็ไม่ได้มีความยากจนเกินกำลังของผู้ที่ถึงพร้อมแล้ว ด้วยวริยะ อุตสาหะ (คือ มีกำลังใจดีนั้นเอง)


    เปรียบเหมือนบุรุษผู้หนึ่งที่ต้องการจะปลูกต้นมะม่วงแต่ตนเองนั้นไม่มีความรู้จึงได้ท่องเที่ยวไปในโลกอันกว้างใหญ่ เพื่อหาวิธีการที่จะปลูกต้นมะม่วงนั่นเอง อาจมีถูกบ้างผิดบ้าง ปะปนกันไป แต่ก็ไม่มีการละความพยายามของตน จนทำให้ในที่สุดก็ได้รับผลแห่งความสำเร็จนั้น คือสามารถปลูกต้นมะม่วงได้สำเร็จ แถมต้นมะม่วงที่ตนเองปลูกนั้น ยังให้ผลกับตนเองให้ได้รับประทานอย่างเอร็ดอร่อยด้วย


    แต่

    อีกบุรุษหนึ่งเป็นผู้ฝันใฝ่มีความคิดอยากปลูกต้นมะม่วงเช่นกัน แต่ ไม่ได้มีความพยายามในการท่องเที่ยวแสวงหาแต่อย่างใด กลับ คิดเพียง ว่า "เฮ้อ....เราอยากจะปลูกมะม่วงบ้างจัง"
    เฝ้าแต่คิดแล้ว..... ดิดอีก....... คิดแล้ว...... ก็ ดิดอีก.....
    อยู่อย่างนี้ โดยไม่มีการ ลงมือทำ อาจจะมีทำบ้าง แต่ ก็ เป็นการทำไปอย่างขอไปที จนในที่สุด ก็ไม่สามารถปลูกต้นมะม่วงได้สำเร็จ อย่าได้คิดไปถึงผลมะม่วงเลย แค่ต้นมะม่วงยังไม่มี แล้วจะเอาผลมะม่วงจากไหนมากิน


    เป็นเพียงความคิดเห็นเล็กๆ น้อยๆ ของ บุคคลเล็กๆ น้อยๆ ที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงเท่านั้นเอง


    หากทำให้ใครขุ่นข้อง หมองใจ ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย


    จาก มังกร ตัว น้อยๆ จิดริด น่ารัก(อันนี้ขอชมตัวเองนิสสสสนึงนะหวังว่าคงไม่ว่ากัน ชิมิ)
     
  15. Nuthsunti

    Nuthsunti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +328
    กราบ อนุโมทนาบุญ กับทุกท่านที่ ตั้งความปราถนา สร้างบารมีเพื่ิอ พุทธภูมิ ครับ สาธุ
    สร้างบารมี ไปเรื่อยๆ อย่าท้อถอย ครับ
     
  16. moshininja

    moshininja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    211
    ค่าพลัง:
    +103
    เวไนยสัตว์ทุกผู้ล้วนเป็นโพธิสัตว์

    ไม่ใช่ว่าแค่ยุคนี้หรอกครับที่มีคนปรารถนาพุทธภูมิมาก มันมีมาตลอดทุกยุคทุกสมัยครับ

    ในวันที่พระพุทธเจ้าเปิดสามโลกให้เห็นทั่วถึงกันนั้นมันมีความนัยคือต้องการให้สัตว์โลกทั้งสามภพได้เห็นถึงความทุกข์ของนรก ความสุขของสวรรค์ และเปรียบเทียบกับพระองค์ที่เปล่งแสงรัศมีเหนือสามโลก

    ในวินาทีนั้นแม้มดปลวก แมลงหรือสัตว์ทั้งหลายก็ต่างปรารถนาเป็นดั่งพระพุทธเจ้า นี่คือภารกิจในการเพาะหน่อแห่งพุทธภูมิในจิตใจของเหล่าสัตว์ ซึ่งเป็นภารกิจของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์

    จากวินาทีนั้นที่หน่อพุทธภูมิได้บังเกิดนับจำนวนประมาณมิได้ ทุกชีวิตก็เกิดการแข่งขันบำเพ็ญ เวลาผ่านพ้นไป บ้างย่อท้อ บ้างเลิกรา บ้างเปลี่ยนความตั้งใจ

    แต่จากจำนวนสัตว์ไม่มีประมาณ ย่อมมีสักหนึ่งหน่อที่สามารถหลุดพ้นเติบใหญ่เป็นพระพุทธเจ้าได้โปรดสัตว์ทั้งหลาย และเพื่อสืบเผ่าพันธุ์แห่งโพธิสัตว์สืบไป

    เป็นกำลังใจให้แก่ผู้มีความพยายามทุกท่านครับ อย่าได้กังวลว่าตนสะสมมาเท่าไร บำเพ็ญพอหรือยัง หรือกำลังเป็นอะไร แต่เหนืออื่นใดอยากให้อย่าเลิกล้มความตั้งใจ และตระหนักให้ได้อยู่เสมอว่า สิ่งที่เราทำนั้นดีพร้อมแล้วหรือยัง.....
     
  17. ชุนชิว

    ชุนชิว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    722
    ค่าพลัง:
    +780
    บุญน้อยคอยท่า ผู้มาช่วยเหลือ บุญมากเหลือเฟือ ลำพองใจ
     
  18. JIT_ISSARA

    JIT_ISSARA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    790
    ค่าพลัง:
    +1,163
    การบำเพ็ญบารมีเพื่อเป็นพระพุทธเจ้า นั้นไม่ง่าย และไม่ยาก
    เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง และ ไม่จริง
    การบำเพ็ญบารมีที่แท้จริง ไม่มีนาน หรือ ช้า ที่คิดว่านานหรือช้า เพราะเราเองนั้นแหละที่ไปปรุงแต่ง แต่ก่อนอื่นขอถามก่อนว่า ปราถนาเป็นพุทธเจ้ากันทำไม เพื่อต้องการถูกยกย่องว่าเป็นที่หนึ่ง เป็นผู้รู้แจ้งโลก และ โลกจะยกชู หรือ เพราะออกมาจากใจจริงๆ ว่าต้องการเห็นสรรพสัตว์ข้ามพ้นจากกองทุกข์ และมีความสุข

    ผู้ที่เข้าถึงสัจจะคนเรียกและปรากาศธรรม เราจะเรียกว่าพระพุทธเจ้า
    ผู้ที่เห็นคุณของการเข้าถึงสัจจะ และปราถนาให้ดวงจิตเห็นคุณของการเข้าถึงสัจจะ หรือ พุทธสภาวะ แต่มิใช่ดวงจิตแรกที่ปรากาศธรรม เราจะเรียกว่า พระโพธิสัตว์
    ผู้ที่เข้าถึงสัจจะด้วยตนเอง ปราถนาบอกธรรมเฉพาะกลุ่ม เฉพาะดวงจิต ไม่ต้องการตั้งศาสนา เราให้ชื่อว่าพระปัจจเจก
    ผู้ที่ปฎิบัติคำสอนของผู้เข้าถึงสัจจะ หรือพุทธะ องค์แรก เรียกว่าสาวก

    ทุกดวงจิตนั้นมีสภาวะของพุทธะอยู่ทุกดวงจิตอยู่แล้ว มีความเท่าเทียมกัน ไม่แตกต่างกัน เป็นเนื้อเดียวกัน เพียงเป็นพุทธะระดับไหน เช่น พระอรหันต์ เป็น อนุพุทธะ พระพุทธเจ้า เป็นสภาวะ พุทธะที่สมบูรณ์ ผู้ไหนที่ปราถนาเป็นพุทธเจ้า ถ้าดำเนินวิถีทางถูก ปรากาศตนเป็นผู้ชี้ทาง เพื่อนำสรรพสัตว์ข้ามพ้นด้วยตัวของพวกเขาเอง ย่อมได้รับการคุ้มครอง และการสอนการปฎิบัติจากพระโพธิสัตว์รุ่นพี่ ว่าจะต้องทำอย่างไร แต่สิ่งนั้นจะต้องออกมาจากดวงจิตที่เป็นเมตตา กรุณาที่หาประมาณไม่ได้จริงๆ เป็นผู้ให้ตลอดเวลา เป็นผู้ปราถนาต่อตนเอง และดวงจิตอื่นตลอดเวลา ผู้เดินทางถูก มรรคถูก มีความตั้งใจพอประมาณ แม้เพียงชาติเดียว บารมีสามารถเต็มได้ แต่ผู้มีความเห็นผิด คิดผิด ปฎิบิตผิด ทางผิด เมื่อทุกอย่างผิดตั้งแต่ต้น แม้ 80 อสงขัย ย่อมไม่สามารถสำเร็จได้

    จะช้าหรือเร็ว ให้หันมามองที่มรรค ก่อน ว่า พระโพธิมรรคนั้นถูกต้องไหม ถ้าถูกแม้ชาติเดียว บารมีก้อเต็ม ถ้าไม่ถูก แม้ 80 อสงขัย ย่อมไม่สำเร็จ

    ใครปราถนาพระโพธิญาณให้ตรวจสอบมรรคแห่งพระโพธิญาณนะครับ
    1 มีเมตตากรุณาออกจากจิตจริงว่าต้องการปราถนาให้ผู้อื่นพบความสุขที่แท้จริง
    2 มีความรักแบบไม่มีเงื่อนไข
    3 มีการตระหนักรู้อยู่ในปัจจุบัน เรียนรู้สภาวะธรรมของตนเอง 84000 พระธรรมขันธ์คือการเรียนรู้ตนเอง เมื่อเข้าใจจนเองอย่างท่องแท้แล้ว ย่อมเข้าใจสรรพสัตว์อื่นอย่างถ่องแท้เช่นเดียวกัน เนื่องจากเราจากธาตุเดียวกัน
    4 ไม่ตัดสินใจสิ่งทั้งปวง ว่า ถูก ผิด , บุญ บาป , สุข ทุกข์ มอง หรือตระหนักรู้ทุกสิ่งตามสภาวะธรรมที่เป็นจริง
    5 การบำเพ็ญบารมี นั้นคือการเห็นว่าสิ่งไหนมีประโยชน์ มีสาระในปัจจุบัน จึงทำสิ่งนั้น สิ่งใด ไม่มีประโยชน์ ไม่มีสาระไม่ทำ มองประโยชน์อันใหญ่ มากกว่าประโยชน์อันน้อย ทำบ่อยๆ จนจิตเป็นผู้บำเพ็ญประโยชน์ตลอดเวลา ถึงแม้จะไม่มีเรื่องใดต้องทำ บารทีทั้ง 30 ทัศน์อยู่ที่ปัจจุบัน หนึ่งเสี้ยวขณะจิตนั้นคือ หนึ่งชาติแล้ว จิตนั้นไม่เคยตาย เขายังคงอยู่อย่างนั้น
    6 ผู้ที่เป็นพระโพธิสัตว์ที่ได้รับพยาการณ์แล้ว คือผู้ที่เข้าใจในหัวข้อต่างๆเหล่านี้ ไม่ต้องกากรปราถนาจะเป็นพระเจ้าจักวพรรด์ หรือ พระราชา หรือ ผู้ร่ำรวย เพียงแค่ทำเหตุปัจจุบันที่ถูกต้อง และคอยชี้นำผู้หลงทางให้เห็นแสงแห่งปัญญา

    ดังนั้นการปราถนานั้น วันนี้ เดี่ยวนี้ปราถนา ท่านย่อมเป็นพระโพธิสัตว์ แต่ท่านจะได้รับสิทธ์เป็นพระโพธิสัตว์ที่ได้รับการอนุมัติให้ประกาศศาสนานั้น ท่านจะต้องดำเนินโพธิมรรคที่ถูกต้อง และมีความเห็นถูกเท่านั้น
     
  19. JIT_ISSARA

    JIT_ISSARA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    790
    ค่าพลัง:
    +1,163
    รหัสของพระโพธิมรรคของผมคือ
    การเรียนรู้เพื่อสู่ความเป็นหนึ่งเดียวกับทุกสรรพสิ่งจากพระมหาโพธิสัตว์ และ เป็นตัวเชื่อม ให้หน่อแห่งพระโพธิสิตวืที่ลงมาเกิดกันทั้งโลกขณะนี้เข้าใจมรรคที่ถูกต้อง พระโพธิสัตว์หน่อไหนที่อ่านแล้วว่าใช่ แล้วเกิดความทราบซึ้งในหน้าที่ของท่านที่ลงมา ขอให้มีความเข้าใจว่าในชาตินี้เรามาเชื่อมสู่ความเป็นหนึ่งแห่งทุกสรรพสิ่ง ลายแทงฉบับนี้จะอยู่ไม่นาน เมื่อถึงเวลาที่ใช่ ท่านจะเจอข้อความนี้เอง
     
  20. baby dragon

    baby dragon สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +8

    ดีแล้ว ถูกแล้ว ท่านกล่าวถูกต้องแล้ว

    เราแค่ขอเป็นส่วนหนึ่งในการบอกกล่าวสิ่งที่เป็นสัจธรรมเท่านั้น

    เราไม่ได้เป็นใคร หรือเป็นอะไร เราก็เพียงแค่รู้อะไรมาก็นำมาบอกต่อเท่านั้น

    หรือ สงสัยอะไรก็ถาม เพราะ

    เราก็เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาคนนึง ไม่ได้มีชื่อเสียงไม่ได้มีลาภ ยศ ไม่ได้ปรารถนาอะไร

    ธรรมที่ท่านกล่าวถูกต้องแล้ว และท่านกล่าวได้ดีทีเดียว


    อนุโมทนาสาธุ ขอให้เจริญในธรรม
     

แชร์หน้านี้

Loading...