เชื่อหรือไม่ รถยนต์ ที่เราทุกคันขับมีผี (มาร) สิงอยู่

เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น กับ ทุกคนที่มี รถยนต์ขับ และ ขับเองเป็นประจำ

มันได้เกิดขึ้นแล้ว โดยที่หลายๆท่านไม่รู้ตัวเลยว่า โดนผีสิง ขณะขับรถยนต์

ไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นผู้ ใฝ่ธรรม - ใส่บาตรเป็นประจำ - สวดมนต์ชินบัญชร หรือ

บทอื่นๆที่ ตนนับถือ หรือ จะมีพระสมเด็จ - หลวงปู่ทวด ห้อยติดรถทุกครั้งหรือ

ห้อยติดที่ตัวก็ตาม หรือ หลายๆครั้งก็ยัง สิงร่างแม้นกระทั้ง

ผู้ที่ฝึกเจริญกรรมฐาน

ยิ่งถ้าผู้ใดได้ ขับรถยนต์ เป็นประจำด้วยแล้ว ผี-มาร ตนนี้

ยิ่งครอบงำได้ดีทีเดียว ครอบงำแม้นกระทั้งผู้นั้นไม่รู้ตัวเลย จนกว่า.......

จะลงจากรถยนต์ ที่ตนขับ และ มันจะค่อยๆอ่อนกำลังลงเมื่อเราไม่ได้

อยู่บนรถและเดินออกห่างจากตัวรถเป็นเวลานาน แต่เมื่อใดที่ท่านก้าว

ขึ้นไปขับรถยนต์ ผี-มาร ตนนี้ก็จะเริ่มยิ้มแล้ว สิงท่านทันที

ขอให้ทุกคน ระวังผี-มาร ที่อยู่กับ รถยนต์ ของท่านให้ดีนะครับ

เพราะ ผี-มาร ตนนี้ ได้ ฆ่าชีวิตของคนมาแล้วมากมายที่ได้ ขับรถ

แล้วก็กำลัง สิง-ร่าง ผู้คนที่ ขับรถอยู่แม้นกระทั้งทุกวันนี้

ปล.คนดีๆต้องมาตาย - ติดคุก เพราะผีตัวนี้มากเลย

 

ผีตนนี้ ชื่อ ความประมาท ใช่มั้ยคะ ^^
ขอบคุณที่มาเตือนค่ะ

อนุโมทนา สาธุ ค่ะ :'D

ปล.ถ้ามันคือความประมาทจริงๆ มันก็สิงได้แม้ไม่ได้อยู่บนรถ..

 

ไม่ใช่ผีหรอกครับ เค้าเรียกว่าความประมาทขาดสติขณะใช้รถ...อย่าเอาการกระทำของคนไปโยนให้กับสิ่งที่มองไม่เห็นนักเลยครับ เค้าออกมาตอบโต้ไม่ได้!!!

 

ยิ่งเมานะ ผีแทบสิงเรยหล่ะ

 

ไม่เชื่อว่ามีมาร หรือผี แต่เชื่อว่ามีแม่ยานางสถิตอยู่เพื่อคอยคุ้มครอง แต่ถึงอย่างไรจะมีแม่ย่านางเป้นพันตนแต่หากประมาทอุบัติเหตุก็เกิดขึ้นได้

 

ผีตนนั้น ไม่ใช้ ความประมาท อย่างที่หลายๆท่านเข้าใจ

ผีตนนั้น ทำคนดีให้กลายเป็นคนบ้า มาแล้ว

ทำคนยิ้มร่าเริง ก่อนขึ้นรถ กลายเป็นคน ดุร้ายเวลา ขับรถมามากมาย

ผี ตนนี้ สิงคุณ-ผมได้อย่างไร น่ากลัวจิงๆ

แต่ผมหาวิธีไม่ให้ มันสิงร่างผมตอนขับรถได้แล้ว

แต่เมื่อไร ประมาณ ลืมทำตามวิธี มันก็จะกลับมาสิงอีกทุกครั้งไป

ปล.หาผีตนนั้นให้เจอ แล้วก็ อย่าให้มันมาสิงบ่อยๆละ ประสาทจะกิน

 

อันนี้ถูกต้องที่สุด ถ้าเมาตอนขับรถ สบายผี สะดืดโบ๋

 

ผมเห็นต่างจาก จขกท. ผมไม่เชื่อเลยที่ท่านพูดมา

 

คุณเคยสังเกตุไหมว่า........

เวลาคุณขับรถแล้วเจอเหตุการณ์ดังนี้............

แสดงว่า คุณ โดนมันเล่นงานเข้าแล้ว.............


















* ยิ่งรีบๆอยู่ทำไม รถติดแบบนี้วะเนี้ย กุจะไปประชุมทันไหม (นั้งหัวเสียคนเดียวในรถ)

* รถข้างหน้าเสือกมีเสียอีก รถก็ติดอยู่แล้ว กุจะไปทำงานทันไหม (บีบแตร์ให้ 1ดอก)

* ขับรถช้า แล้ว เสือกอยู่ เลนขวาอีก เสียจังหวะหมดเลย (บีบแตร์ 2ดอก พร้อมไฟสูง2ที)

* รถออกจากซอยไม่ได้ มีรถข้างปากซอย ทั้งๆที่มีเส้นตารางเหลืองห้ามทับ

(นั้งหัวเสียคนเดียวในรถ)

*มอไซค์ขับปาดด้านข้างทำให้เกือบชน ขับเสียจังหวะ

(นั้งหัวเสียคนเดียวในรถ บีบแตร์ให้ 1-2ดอก)

*ขับรถดีๆมา ปาดหน้า เบียด และ ชน ใน ขณะรีบๆ ไปธุระ

(ออกมาจากรถแล้ว ออกหมัดกันตรงนั้นเลย หรือ ให้ตะกั่วไป 2เม็ด)

* จ่ายบัตรทางด่วนรถติดยาว คันข้างหน้าดันถามทาง พนง.เก็บเงิน

(นั้งหัวเสียคนเดียวในรถ)

* ขับรถขึ้นห้างสูงๆแล้วรถข้างหน้าไหลมาชนเต็มๆ พร้อมทั้งข้างหลังก็มี
รถติดต่อท้าย
(หงุดหงิดอย่างแรง ออกมาจากรถพร้อมสีหน้าบอกบุญ ก็ไม่รับ แถมเซงอย่างแรง เพราะรถหมดประกัน (ทั้งคู่)

***นี้คือบางส่วนของตัวอย่าง ***

***ของผู้ที่ใช้รถแล้วจะต้องเจอกัน ไม่วันนี้ ก็วันหน้า ***

***คุณอาจจะเป็นได้ ทั้ง ฝ่ายถูก และ ฝ่ายผิด***

***แต่สิ่งที่คุณจะต้องเจอมันทำให้ คนดีๆหลายๆคนกลายเป็นคนดุร้าย***

***คนที่ไม่เคยด่าใครก็ ด่าชาวบ้าน พรึมพรำบนรถตนเอง***

***คนที่ไม่เคยตอบโต้ใคร ก็บีบแตร์ ไล่รถคนอื่นเพราะหัวเสีย***

***แล้วถ้าเรื่องเกิดกับคนที่เป็น คนพาล อยู่แล้วละ***

***เรื่องน่าเศร้าก็จะเกิดขึ้นเช่นนี้ได้ทุกวัน และรุนแรงได้เรื่อยๆ***

***ผี-มาร ตนนี้ มันมาได้ไงเวลาเรา ขับรถ***

 

โทสะ และโมหะ ถ้าตามจิตไม่ทันตายตอนนั้นก้อลงอบาย

จึงต้องดำรงค์ด้วยสติ รู้เท่าทันโทสะและโมหะที่เกิดขึ้นกับตัวแล้วก้อ

ระวังกาย วาจา ใจ เพราะคนที่ด่าอยู่นั้นอาจมีศีลสูงกว่าเราก็ได้ บอกได้คำเดียวว่าบาปค่ะ

 

ผีที่ติดมากะรถมือ2รึป้าวครับบบ:boo:

 

ขับรถต้องมีสติค่ะ ไม่ว่าผีอะไรก็เข้าสิงไม่ได้ ขอเพียงมีสติอยู่ตลอดเวลา

 

ท่านเจ้าของกระทู้ชี้ให้เห็นพฤติกรรมที่แปรเปลี่ยนไปเมื่อนั่งจับพวงมาลัย บางท่านชอบสบถ ชอบด่า ชอบแช่งชักหักกระัดูกรถที่เข้ามาปาด ด่าตำรวจ ด่าไฟแดง หมูหมากาไก่ จริงๆแล้วไม่ได้เกิดจากผีหรือมาร แต่เกิดจากเอาใจไปไว้นอกตัว เมื่อเอาใจไว้นอกตัว กิเลสที่หมักดองในใจก็ได้โอกาสสำแดงง่ายกว่า ตัวเราเองแหละที่กลายเป็นผีเป็นมารอย่างที่ท่านเจ้าของกระทู้ว่า

 

สาธุที่เห็นตรงกัน

การขับรถของคน คือการเอาจิตออกนอก เอาจิตไปสัมผัสกับสิ่งรอบตัว

อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้และ ต้องเอาจิตออกสัมผัสอยู่ตลอดเวลา

เป็นเหตุให้กิเลสในใจเรา สำแดงแรงฤทธิ์ ได้ง่ายขึ้น

เป็นเหตุให้ กิเลสในใจเราแสดงตัวตนได้ง่าย

การใช้สติในการขับรถ ก็เป็นเพียง

สติภายนอก ที่ไปจับสิ่งรู้ภายนอก

ว่าจะเลี้ยงมองรถ ซ้าย-ขวา หรือ สติตัวระวังอุบัติเหตุนั้นเอง

แต่มันไม่พอ สำหรับผู้คนที่ขับรถต้องมี..........

สติภายใน ที่ไปจับสิ่งรู้ภายในของอารมณ์ ให้รู้ตัวว่า โกรษ รู้ตัวว่าหงุดหงิด

ไม่เช่นนั้นก็จะมีตัว มารในคราบนักบุญ ขับรถอยู่เต็มถนน

วิธีแก้ส่วนตัวของผม

ผมจะท่องบทพุทธคุณ ครอบผู้คนที่อยู่รอบๆตัวที่เรา

ที่มองเห็น และ ไม่เห็น

คนที่เรารัก และ เรา เกรียจ

ใจเราจะชื้นขึ้นมาทันที

ทำให้ สติภายในยังคงมั่นคงไม่ ผูกโกรษคนได้ง่าย

แต่ว่า เมื่อใดที่ ผลันเผอ ก็เป็น ผี เป็น มาร เหมือนเดิม น่ากลัวจริงๆ