ตะลึง!!!!! อาการผีอำ หรือภาวะทางร่างกาย

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย big beet, 18 มกราคม 2011.

  1. big beet

    big beet Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +39
    เพื่อนๆเคยมั้ยครับ อาการนี้มักเกิดเวลานอนกลางวันหรือตอนเช้า ขณะที่เริ่มเคลิ้มๆจะได้ยินเสียงเหมือนดำน้ำอยู่ ดังผึ่งๆๆๆ แล้วร่างกายเราจะขยับไม่ได้ มองเห็นได้อย่างเดียว และที่น่ากลัวที่สุดคือเห็นผู้หญิงใส่ชุดสีขาวขุ่น ลักษณะเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งค่อยๆเดินมาหาเราที่โซฟาซึ่งเรารู้สึกตัวทุกอย่างแต่ไม่สามารถขยับได้เลยแม้แต่จะลุกขึ้นหนี สุดท้ายต้องรวบรวมพลังทั้งหมดเพื่อลุกจากที่ๆเรานอนตรงนั้น อาการนี้ผมเจอบ่อยมากจนบางที่ถ้าได้ยินเสียงแบบที่ว่า ผมก็จะไม่นอนต่อเลย ไม่ทราบว่าเป็นอาการทางร่างกายหรือทางจิตวิญญาณครับ
    จะแก้ไขยังไงดี รบกวนผู้รู้ตอบด้วยครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 17ex3.jpg
      17ex3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      24.2 KB
      เปิดดู:
      175
    • sleep+pralysis.jpg
      sleep+pralysis.jpg
      ขนาดไฟล์:
      20.6 KB
      เปิดดู:
      97
    • sleep.jpg
      sleep.jpg
      ขนาดไฟล์:
      20.2 KB
      เปิดดู:
      99
  2. Lastquarter

    Lastquarter เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    386
    ค่าพลัง:
    +272
    ก่อนโดนเสียงจะมาก่อนแล้วจากนั้นก็เรียบร้อย โดนบ่อยครับเอาจนชิน
     
  3. anubist

    anubist Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2007
    โพสต์:
    89
    ค่าพลัง:
    +73
    เคยเป็นจนต้องไปหาหมอได้ยากล่อมประสาทมากิน
    กินแล้วก็ปัญญาอ่อนสลึมสลือ สุดท้ายทนไม่ไหวเขวี้ยงยาทิ้ง แล้วตั้งจิตก่อนนอนว่ามาอีกมึงเจอกูแน่ ปรากฏว่ามันมาจริงๆ แต่คราวนี้เราไม่กลัว เลยจัดการด้วยท่า คอบบร้าทวิส มันวิ่งหนีไปเลย หลังจากนั้นก็ไม่เป็นอีกเลย
    วิเคราะห์ได้ว่ามันเกิดจากความกลัวในจิตลึกๆของเราหน่ะเอง แต่ไม่รู้ว่ากลัวอะไร ลองค้นหาให้ได้แล้วแก้ไขซ๊ะ ไม่ต้องไปหาหมอ อาการทางจิตดันรักษาโดยใช้ยา สุดยอดจริงๆ
     
  4. big beet

    big beet Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +39
    ไม่รู้ว่าเป็นกันหรือเปล่า เจอบ่อยจนต้องนอนเปิดเพลง เอาเสียงดนตรีเป็นเพื่อนอ่ะ เปลืองไฟก็ยอม
     
  5. ศุภกร_ไชยนา

    ศุภกร_ไชยนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    627
    ค่าพลัง:
    +1,122
    ทำบุญเท่าที่จะทำได้ ตั้งใจอุทิศส่วนกุศลให้เขา กรรมได้ที่ได้ล่วงเกิน ขออโหสิกรรม

    ผมก็ไม่แน่ใจว่าเป็นวิญญาณไหม เพราะไม่มีสัมผัสใดๆนอกเหนือมนุษย์ทั่วไป
    แต่ก็เคยโดยอำ มันจะเป็นหลายๆปัจจัย

    1. อยู่ในสถานที่วิญญาณเยอะ ตอนเรียน นอนโรงบาล
    2. ตอนนั้นไม่ค่อยมีศีลมีธรรม
    3. อ่อนเพลีย

    ตั้งแต่มาสนใจธรรมมะ อาการนั้นหายไปเลยคับ ลองพยายามแผ่เมตตาบ่อยๆ และขออโหสิกรรม ด้วยบทใดๆก็ได้ แต่เอาใจขอนะ แบบว่า กรรมใดที่เคยล่วงเกินไป ในชาติใดๆ จะด้วยกายกรรมก็ดี วจีกรรมก็ดี มโนกรรมก็ดี ขออโหสิกรรมนะชาตินี้ตราบจนเข้าสู่พระนิพพาน หากเป็นเนื้อคู่ หรือมี เคยปักใจรักกัน ขอตัดขาดจากกันด้วยก็ดีคับ
     
  6. Amantrai

    Amantrai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    273
    ค่าพลัง:
    +162
    ผมเคยเป็นบ่อยครับ พอขยับกายไม่ได้ก็จะสู้ด้วยลมปราณ ส่วนใหญ่เอาชนะได้

    มีอยู่ครั้งหนึ่งสูดลมปราณสู้ไม่ได้ เพราะหายใจไม่ได้เลย ก็เลยลืมตา แล้วพบว่าเสื้อนอนถูกดึงมาปิดหลอดลม คงเป็นเพราะพลิกตัวกลับมานอนทับเสื้อ

    ที่ลืมตานี่ก็ได้มาจากพี่คนหนึ่ง ถามเขาว่า เวลาโดนผีอำ ทำยังไงให้หาย เขาบอกว่าเขาลืมตา

    ครั้งนั้นในสภาพคล้ายฝัน ลมปราณก็หายใจไม่ได้ จะสู้กับมันยังไง ก็นึกถึงคำพูดของพี่คนนั้นขึ้นมาได้

    ลองแก้ด้วยวิธีลืมตาดู พอลืมตาเราก็ตื่น ทุกอย่างก็จะหายไป

    ;);)
     
  7. Phusaard

    Phusaard เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    436
    ค่าพลัง:
    +349
    มีทั้งเกิดจากกาย และเกิดจากจิต ตัวเองย่อมรู้ถึงความแตกต่างได้:cool:
     
  8. mamboo

    mamboo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,129
    ค่าพลัง:
    +1,973
    mamboo ขี้เกียจพิมพ์ใหม่ เลยเอาคำตอบที่เคยตอบกระทู้คุณ sukchai มาตอบให้นะคะ ^^


    mamboo ไม่ใช่ผู้รู้นะคะ.. แต่จากประสบการณ์และการศึกษาเรื่องของจิตวิญญาณและร่างกายเนื้อหนังนี้.. mamboo ก็พอจะมองเห็นอะไร.. บางอย่าง ..

    ----

    อาการที่คุณ sakchai2001 เป็น .. กับเวลาที่เราอยู่ในโลกความฝัน .. กับเวลาที่เราถอดจิต และ.. อื่นๆอีกมากมาย ฯลฯ .. มันจะเป็นคนละแบบ แต่คล้ายๆกัน ..

    ร่างกายนี้.. มีจิตวิญญาณสิงอยู่ .. และทุกๆครั้งที่พวกเรา "หลับ" จิตวิญญาณก็จะออกไปโลดแล่นในโลกแห่งความฝัน ตามระดับของ สติสัมปชัญญะ .. ถ้าสติสัมปชัญญะน้อยๆ ส่วนมาก โลกความฝันจะเป็นไปตามข้อมูลที่บรรจุอยู่ในจิตใต้สำนึก..

    ความฝัน มีทั้ง มั่วซั่ว และ จริงใจ .. แล้วแต่ระดับของสติสัมปชัญญะในขณะที่ฝัน..

    จากการศึกษาของ mamboo และประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ..

    mamboo ได้รู้ว่า.. ตั้งแต่ เสี้ยววินาทีแรก ที่เราเริ่ม "หลับ" .. สติมันจะค่อยๆหายไป..

    คนเราเวลาเหนื่อยๆ ง่วงนอน จะปล่อยให้ความคิดและร่างกาย ล่องลอยไป สติก็เริ่มหายไป

    ตอนแรก มันจะยังเป็น background สีดำๆ(ของเปลือกตา) แต่มีภาพต่างๆลอยขึ้นมา เหมือนเรากำลังดูหนัง ดูภาพยนต์

    พอสติเริ่มหายแวบๆๆๆๆ มันก็จะดูดความรู้สึกจากร่างกายเนื้อหนังเราไปหมดเลย ไล่มาตั้งแต่ เท้า ขึ้นมาข้างบนเรื่อยๆ จนมาสุดอยู่ที่ จุดกึ่งกลางระหว่างคิ้ว

    แล้วเราก็จะโดนดูดเข้าในโลกของความฝัน

    ถ้าเราไม่ยอมให้โลกความฝันดูดเราเข้าไป.. เราลองชะงักอยู่ที่ ภาวะที่จิตเคลิ้มออกจากร่างแล้ว ... ถ้าเราสามารถมีสติในภาวะนี้ได้.. นั่นคือ กายทิพย์เรา กำลังผสาน(แบบไม่แนบสนิท)อยู่กับกายเนื้อ..

    คนเราเวลาเข้าไปในความฝัน จะไม่ค่อยมีสติ สติจะเริ่มๆหายตั้งแต่ตอนที่เริ่มๆเคลิ้มหลับ

    จากการศึกษาเรื่องนี้ mamboo พบว่า.. พวกเรามักจะจำความฝันได้เฉพาะเวลาที่ใกล้จะตื่น .. เพราะสมองส่วนที่ทำหน้าที่ในการจดจำ มันเริ่มจะกลับมาทำงาน และร่างกายส่วนต่างๆ ก็เริ่มกลับมาทำงานควบคู่ไปกับจิตวิญญาณ

    --------

    ส่วนเรื่องที่เห็นหลุมดำนั้น .. ถ้าเราไปแบบเร็วๆ มันจะลัดขั้นตอนของหลุมดำและจุดสว่างขาวๆไปเลย

    mamboo เคยหลับตาปุ๊บ ก็เข้าไปในความฝันปั๊บเลยก็มี ... เพราะมันไปเร็ว.. แต่ถ้ามันช้า .. ถ้าเรามีสตินิ่งๆ ค่อยๆไป.. มันก็จะเริ่มจาก .. หลุมดำหมุนติ้วๆ ถ้าเราเพ่งไปที่ปลายหลุมดำ ความรู้สึกที่อยู่กับร่างกายเนื้อหนัง จะเริ่มหายไป ไล่มาจากเท้า ..

    แล้วถ้าเราเพ่งไปที่จุดสว่างขาวๆที่ปลายหลุมดำ จุดนั้นจะขยายใหญ่ขึ้น และจะดูดเราเข้าไป

    เราจะยอมให้จุดนั้นดูดเราหรือไม่ก็ได้ แล้วแต่เรา(ที่พูดได้ เพราะ mamboo เคยเป็นมาแล้ว)

    อาการเช่นนี้ ส่วนมากจะเกิดกับคนที่.. ชอบคิดชอบทำอะไร จดจ่อๆในชีวิตประจำวัน และเป็นคนที่ คิดเยอะ มีเรื่องให้กังวลใจอยู่ตลอดเวลา

    ประมาณว่า .. จะนอนก็ไม่อยากนอน .. เพราะมันยังมีเรื่องที่ต้องทำ ต้องคิด

    แต่ร่างกาย มันอ่อนเพลีย มันไม่ไหวจะเคลียร์แล้ว ><

    ดังนั้น.. เราจึงเข้าไปในหลุมดำ โดยที่เรายังมีสติรู้ตัวว่า ร่างของเรา กำลังนอนอยู่ ><

    -----

    เรื่องนี้ สามารถอธิบายเรื่อง อาการของ "ผีอำ" ได้ด้วย (mamboo เคยเป็นมาหมดแล้ว เลยกล้าพูด)

    ผีอำ คือลักษณะที่ จิตไม่ประสานกับกาย .. สติของเรามันตื่นรู้แล้ว บางคนจะลืมตาได้ ขยับร่างกายส่วนอื่นๆไม่ได้ บางคนลืมตาก็ไม่ได้ แต่ได้ยินเสียง บางคนจะขยับร่างกายบางส่วนได้ แต่ขยับไม่ได้ทั้งหมด

    ที่เป็นเช่นนั้นเพราะ ร่างกายของคุณ กำลังต้องการการพักผ่อน(จากที่คุณหักโหมกับการใช้แรงมาทั้งวัน หรือหลายวัน ติดกัน นอนน้อย)

    ร่างกายกับจิต ไม่ผสานกัน .. มันเข้าล็อคกันแค่บางส่วน แต่ไม่ทั้งหมด .. แล้วที่ส่วนมากเราจะลืมตาได้ .. ก็เพราะว่า .. จุดเชื่อมต่อสุดท้ายของจิต อยู่ที่กึ่งกลางระหว่างคิ้ว ดังนั้น ส่วนที่มี percent ที่จะยังขยับได้ จึงเป็นแถวๆหัว เช่น ลืมตาได้ ได้ยินเสียง

    แต่ก็แล้วแต่คน บางคนจิตอาจจะเชื่อมไปที่ปลายนิ้วแล้ว แต่ส่วนอื่นของร่างกาย ยังผสานไม่แนบสนิท

    ------

    อาการผีอำนี้.. ถ้าใครฝืนขยับร่างกายแบบ แรงๆ(แบบสะบัดแรงๆทั้งตัว) บางคน กายทิพย์เด้งออกจากร่างก็มี .. (ส่วนมาก mamboo จะใช้วิธีขยับปลายนิ้วค่ะ พอขยับปลายนิ้วได้ ส่วนอื่นก็จะขยับได้หมด)

    ก่อนที่จะขยับปลายนิ้ว ต้องตั้งสติก่อน.. อย่าหายใจแรง (เวลาผีอำ บางคนหัวใจเต้นเร็วด้วย) ทำจิตให้นิ่งๆ จับลมหายใจเข้าออก พุทธ-โธ แล้วใช้สติ ทำให้ปลายนิ้วขยับ .. แค่นี้ก็ได้แล้วค่ะ ^^

    บางคนขยับได้แล้ว เป็นอีกก็มี ติดกัน ก็ทำแบบเดิม เด๋วก็หาย

    ---------

    ส่วนเรื่องที่ ทำไมเวลาเกิดอาการผีอำ ถึงได้ "เห็นผี" หรือ เห็นอะไรแปลกๆ ได้ยินเสียงแปลก ได้ยินนู่นนี่ เหมือนดังมาจากในหู เห็นวิญญาณอยู่ในห้องนอน..

    mamboo จะบอกว่า .. เวลาที่เราเกิดอาการผีอำ .. จิตวิญญาณของเรา ยังไม่ประสานกับร่างกายอย่างแนบสนิท เพราะฉะนั้น .. การทำงานของจิต(นอกร่างกาย) มันก็ยังคงทำงานอยู่

    แต่ก็แล้วแต่สถานการณ์ของใครของมันนะคะ

    (ที่ mamboo กล้าพูด เพราะเป็นบ่อย และเห็นมาหมดแล้ว)

    มันจะเป็นภาพของ คนอื่นๆ มาซ้อนกับโลกของความเป็นจริง

    ขณะที่จิตเรา สร้างโลกความฝัน จิตเราไม่ได้ทำงานร่วมกับร่างกายแล้ว แต่ในฝัน เราเดินไปจับโต๊ะ เราได้กลิ่น เราเจ็บ เรามองเห็น ได้เหมือนอย่างที่เราเป็นในโลกทางกายภาพ

    แต่พอเราตื่น จิตกลับเข้าร่าง จิตจะทำงานร่วมกับ ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของร่างกาย ทำให้เรามองไม่เห็นมิติอื่นๆ

    แต่ในขณะที่เราโดนผีอำ หรือเข้าอุโมงค์ดำๆ หรืออะไรก็ตามที่อยู่ในภาวะที่จิตกับกายยังไม่ประสานกันดี .. จิตก็ยังคง มีพลังที่จะ สร้างภาพ หรือบางทีอาจไม่ได้สร้างภาพ แต่เห็นสิ่งต่างๆที่อยู่อีกมิติหนึ่ง ได้ยินสิ่งต่างๆที่อยู่อีกมิติหนึ่ง หรือบางที อาจจะสร้างภาพ(สร้างมั่วๆ หรือสร้างจากจิตใต้สำนึก) ขึ้นมาซ้อนกับโลกความเป็นจริงเลยก็มี

    -------

    ส่วนเรื่องการนั่งสมาธิถอดจิตนี้.. จะคล้ายๆกับคนที่เจอหลุมดำ.. การนั่งสมาธิ คือการมีสติรู้ตัวอยู่ตลอดเวลา .. จะไม่เหมือนเวลาที่เราฝัน

    การทำสมาธิ คือการจับจิตไว้ที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย .. พอจิตเคลื่อนออกจากร่างกายแล้ว จิตก็ไม่ได้ไปสร้างโลกแห่งความฝัน หรือไปสร้างโลกอะไร เพราะคนที่ทำสมาธิ จะเอาจิตไว้กับตัว ไม่ให้ปล่อยไปไหน

    แล้วถ้าคนที่ทำสมาธิจนจิตเคลื่อนออกจากกายแล้ว .. ถ้าไม่ไปตามแสงขาวหรือไปอีกโลกหนึ่ง .. แต่ลุกออกจากปัจจุบัน(จากท่านั่งสมาธิ) ก็จะกลายเป็น ร่างทิพย์ ที่อยู่ในโลกทางกายภาพ(โลกสีน้ำเงิน) นี้แหละค่ะ ^^

    คนที่นั่งสมาธิแล้วถอดจิตได้ จึงไปได้ทั้งโลกทางกายภาพ และ โลกอื่นๆ .. เพราะมีสติรู้ตัวอยู่ตลอดเวลา (ไปอย่างช้าๆ ไม่ลัดวงจร)

    -------

    และนี่คือ สิ่งที่ mamboo ได้เจอมากับตัวเอง และ mamboo ชอบศึกษาเรื่อง จิตวิญญาณ และความเป็นจริง ของสรรพสิ่ง ในเอกภพ ค่ะ ^_^

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มกราคม 2011
  9. waterydis

    waterydis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    318
    ค่าพลัง:
    +1,995
    อาการขยับตัวไม่ได้ขณะกึ่งหลับกึ่งตื่นหรือจิตตื่นแต่กายยังหลับอยู่นี้ เป็นหัวข้อที่พูดกันไม่รู้จบว่าเป็นผีอำหรือแค่นอนทับเส้น

    ถ้าเกิดเป็นนอนทับเส้น ตื่นมาแล้วจะมีปวด มีชา แล้วแต่ว่าเรานอนทับตรงไหนมากไปทำให้เลือดหล่อเลี้ยงไม่ดี ทั้งหมดนี้กว่าจะรู้ก็สะดุ้งตื่นนอนชาทรมานอยู่บนเตียง มันเป็นระบบการป้องกันของร่างกายชนิดหนึ่ง เพราะถ้าอวัยวะมีเลือดหล่อเลี้ยงไม่พอเป็นเวลานานๆ เนื้อเยื่อตรงนั้นอาจตายได้ สมองก็สั่งให้ตื่น ตัวอย่างก็การเปลี่ยนท่านอนขณะนอนหลับ บางทีเราจะรู้สึกตัวแค่นิดเดียว สั้นๆ เปลี่ยนท่านอน แล้วหลับต่อ ไม่มีแสง สี เสียง อภินิหารใดๆ ทั้งสิ้น

    ส่วนผีอำนี้ ดุเดือด สนุกสนาน เฮฮา อย่างที่คุณ big beet เขียน อาการก็จะรู้สึกถูกปลุกให้ตื่น ตื่นแล้วมีสติดีแล้ว แต่ขยับไม่ได้แม้แต่กระดิกนิ้ว กระพริบตา ส่วนใหญ่จะมีภาพประกอบให้เห็นเพื่อความตื่นเต้นในลักษณะต่างๆ เป็นผีมายืนบนอกมั้ง มานั่งบนตัวเราซ้อนสามเหมือนขี่มอเตอร์ไซค์มั้ง มาบีบคอ มาดึงขา ดึงแขน สารพัดจะแสดงให้เห็น คนที่ถูกผีอำถ้ามีสติหน่อยก็จะเริ่มสวดมนตร์ ท่องคาถาต่างๆ จนกว่าอีกฝ่ายจะปล่อยให้ขยับได้อีก ส่วนมากแล้วหลังจากขยับได้ อาจมีอาการเหงื่อแตก เหนื่อย หายใจแรง ปอดแหก แล้วแต่ประสบการณ์และภูมิต้านทานของแต่ละคน
    เราแบ่งง่ายๆ อย่างนี้ตามประสบการณ์ (หากผิดตรงไหนขออภัย)
     
  10. Siani_3D

    Siani_3D เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    723
    ค่าพลัง:
    +607
  11. big beet

    big beet Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +39
    ขอบคุณมากครับคุณ mamboo ผมได้ความรู้เยอะเลย ผมคิดว่าส่วนหนึ่งเวลาผมนั่งสมาธิ ไม่ได้แผ่เมตตาด้วย และเวลาที่จะเป็น ร่างกายจะรู้สึกเพลียมากๆ
    ผมเป็นคนหนึ่งที่นั่งสมาธิเป็นประจำ อยากถามคุณ mamboo ครับ ว่าบางทีเวลาเรานั่งจนจิตเราสงบแล้ว มักมีอาการเห็นภาพใครทำอะไรที่ไหนก็ไม่รู้ คล้ายๆฝันครับแต่เรารู้ตัวตลอด ไม่รู้ว่าอาการแบบนี้คืออะไรแน่ ผมมักจะดึงจิตกลับมา พุทโธ ตลอด เวลาเป็นบางครั้งเหมือนเวลาหายไปเกือบ ครึ่งชั่วโมงเลย
    อยากรู้ว่าอาการแบบนี้คืออะไร แล้วมีอันตรายมั้ย
     
  12. big beet

    big beet Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +39
    ที่ต้องตะลึงเพราะ ตอนเจอ ตะะะะะะะ ลึงงงงงงงงง จิงๆๆ พูดไม่ออก บอกไม่ถูก ขยับไม่ได้ 555
     
  13. Siani_3D

    Siani_3D เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    723
    ค่าพลัง:
    +607
    ผมก็เคยโดนนะ 3 ครั้งติดกันเลย
    ตอนสมัยเรียน ช่วงฝึกงานพักห้องเช่า
    ครั้งแรกนั่งทับหน้าอก เห็นเป็นผู้หญิงผมยาวสีน้ำตาลแต่ไม่เห็นหน้า ผมพยามมองหน้าแต่ยิ่งมองก็ยิ่งหนีสายตา
    ครั้งที่สอง นั้งทับบนมือ ที่พาดอยู่บนหมอนเหนือหัว เห็นเป็นภาพเช่นกัน ว่ามีผู้หญิงนั่งทับอยู่ ตื่นมาแขนชาหมดเลย
    ครั้งที่สามอันนี้ค่อนข้างจะรุนแรง ผมตื่นขึ้นมาเข้าห้องน้ำช่วงกลางตึก ขณะยืนฉี่ คิดถึงเรื่องผีตนนั้น แต่จำไม่ได้ว่า ได้คิดอะไร หรือว่าอะไรผีตนนั้น
    จู่ๆก็หมดหน้ามืดสลบเหมือบอยู่ในห้องน้ำ...กว่าจะรู้สึกตัวก็เกือบสว่าง...
     
  14. mamboo

    mamboo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,129
    ค่าพลัง:
    +1,973
    mamboo ไม่ใช่ผู้รู้นะคะ ^^ ความรู้ของ mamboo มีเพียงน้อยนิด

    แต่อาการของคุณ big beet เนี่ย ถ้าให้ mamboo เดาก็คือ... จิตของคุณ เริ่มจะรวมเป็นหนึ่งแล้ว แล้วมันก็มีกำลัง มีพลัง ที่จะได้ยิน ที่จะมองเห็น(ถึงแม้เราจะหลับตา)

    ส่วนภาพที่ได้เห็น กับเสียงที่ได้ยิน นั้น.. ขึ้นอยู่กับ สติสัมปชัญญะ ณ ขณะนั้น และความตั้งใจ

    สมมติว่า เราไม่ได้ตั้งใจที่จะไปเห็นหรือได้ยินอะไร มันก็จะไปของมันตาม(อันนี้ไม่แน่ใจว่า ตามอะไรค่ะ อิอิ ^^)

    แต่ถ้า คุณ big beet อยากจะ ทำสมาธิให้ถึงขั้นสูงสุด.. คุณ big beet จะต้องไม่ปล่อยให้ใจ มันลอยไปกับ ภาพหรือเสียงเหล่านั้นนะคะ พยายามดึงมันกลับมาที่ พุทธ-โธ

    การทำสมาธิ ภาวนา พุทธ-โธ คือการ ฝึกสติ.. ให้เรามีสติอยู่ตลอดเวลา .. และให้จิตของเรา อยู่กับตัว.. บางที รวมไปที่ ปลายจมูก บางคนรวมไปที่ ท้องน้อย หรือ กระบังลม หรือจุดกึ่งกลางระหว่างคิ้ว(จุดนี้ ไม่เหมาะกับคนที่ต้องการหลุดพ้นนะคะ ... มันชอบดูด --') ที่ท้อง หรือที่กระบังลม น่าจะเหมาะที่สุด

    ถ้าเรา ไม่ปล่อยให้จิต มันออกไปสร้างภาพ หรือไปฟังเสียง(เพราะว่า จิตมันเริ่มมีกำลังแล้ว)

    ตอนนี้ ที่เรารู้ตัวว่า เรานั่งสมาธิอยู่ แต่เรามองเห็นนู่นนี่ เพราะการนั่งสมาธิ คือการ มีสติอยู่ตลอดเวลาไงคะ ^_^

    ส่วนคำถามที่ว่า.. อันตรายไหม ?? mamboo ค่อนข้างแน่ใจว่า.. ไม่อันตรายค่ะ ^^

    แต่ถ้าเราปล่อยให้จิตของเรา ล่องลอยไปตามภาพและเสียงเหล่านั้น.. มันก็จะไปไม่ถึงฝั่งนะคะ ^^ เห็นภาพสวยๆ(สวยกว่าตาเนื้อเห็นซะอีก) เสียงเพราะๆ.. บางคน ก็หลงไปกับสิ่งเหล่านั้นก็มี

    ถ้าเรามีสติสัมปชัญญะอย่างเต็มร้อย .. เราจะไม่เห็นภาพพวกนั้นหรอกค่ะ .. ภาพพวกนั้น ถูกกำลังของจิต สร้างขึ้นมา(คล้ายๆกับความฝัน .. เพียงแต่สร้างมาตอนที่เราทำสมาธิ)

    ถามว่า อันตราย ไหม.. mamboo ว่า .. "ไม่" ค่ะ..

    แล้วถ้าคุณ big beet นั่งสมาธิแบบนี้ไปเรื่อยๆ .. เป็นประจำ สักวันหนึ่ง คุณก็ถอดจิตได้ .. เชื่อสิ่ อิอิ ^^ (เพราะตอนนี้ เริ่มแล้วๆๆๆ ^_^)

    ส่วนเรื่อง เวลา ..

    เวลานี้.. ในโลกของความเป็นจริง(นอกเหนือไปจากโลกทางกายภาพ) เวลาจะมากหรือน้อยก็ได้ค่ะ ^^

    เวลานี้ ในโลกของ จิตวิญญาณ มันไม่มีอยู่นะคะ

    1 ชม.ของโลกมนุษย์ จะเป็นกี่ชม.ของโลกที่คุณไปเห็นก็ได้.. จะยาวนานหรือสั้นกว่านี้ ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น...

    เพราะฉะนั้น อย่าได้วิตกเรื่อง เวลา เลยค่ะ...

    บางที คุณนั่งสมาธิแค่ 1 ชม. แต่คุณรู้สึกว่า คุณไปเที่ยวในนิมิตมา 3 วัน 2 คืน ก็เป็นได้

    หรือนั่งไป 1 ชม. แต่รู้สึกไปเที่ยวในนิมิตมาแค่ แป๊บเดียว เหตุการณ์เกิดขึ้นไม่ถึง 10 นาที ก็เป็นไปได้..

    เพราะเวลา ในโลกของความเป็นจริงหลากมิติ(นอกเหนือไปจากโลกทางกายภาพ) มันไม่มีอยู่ และไม่จำกัด มันเป็นอิสระแหละยืดหยุ่นได้ อย่างเป็นอนันต์ ค่ะ ^^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มกราคม 2011
  15. big beet

    big beet Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +39
    ขอบคุณครับ ได้ความรู้เยอะเลย ต้องการหาคำตอบมานานแล้ว และที่สำคัญไม่มีในตำราด้วย ต้องคุยกับคนที่เจอเหมือน
     
  16. big beet

    big beet Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +39
    โดนหนักนะครับ กรณีที่สลบไปเลย
    ผมเคยเจอเหมือนกันลักษณะที่ เราอยากเห็นหน้าชัดๆแต่เหมือนหันหน้าหนีสัมผัสได้แต่เส้นผมที่ปิดหน้า ล่าสุดนี้มาเป็นมือกดผมไว้ แล้วหันหน้าหลบเหมือนไม่อยากให้เราจำหน้าได้ ผมเลยต้องปล่อยตามน้ำไป จนหลุด ลุกขึ้นมาตั้งสติแล้วคิดประมวลเหตุการณ์ที่เจอ แต่กรณีคุณ Siani_3D ผมว่าหนักมาก ไม่รู้ว่าถ้าเป็นผมเองจะรับไหวหรือเปล่า แต่ถึงยังไงถ้าเราทำดี เป็นคนดีซะอย่าง อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดครับ ต้องยอมรับมัน อาจจะเป็นกรรมเก่าเราก็ได้ หมั่นทำดีเข้าไว้แล้วจะดีเอง
     
  17. mamboo

    mamboo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,129
    ค่าพลัง:
    +1,973
    เรื่อง ผีผู้หญิงผมยาว ^^

    [​IMG]

    เมื่อก่อนนี้ ที่ mamboo ยังไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้. mamboo คิดว่า mamboo โดนผีหลอก..

    วันนั้น เมื่อ 3 ปีที่แล้ว mamboo เลิกเรียนมา กลับมาปูเบาะนอนที่ห้อง(ตอนนั้น หอพักยังไม่มีเตียงค่ะ ยังไม่ได้เอามา)

    นอนตั้งแต่ บ่าย 2 ตื่นมาประมาณ 4 โมงเย็น กว่าๆ...

    พอลืมตาขึ้นมา.. ก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่ง นอนคว่ำหน้าอยู่ ศีรษะของเธอ อยู่ตรงแถวๆก้นของ mamboo

    คล้ายๆตัว T อ่ะค่ะ .. ตัวที ภาษาอังกฤษอ่ะค่ะ .. mamboo นอนอยู่ เธอคนนี้ ผมยาวๆ ไม่ได้มานอนข้างๆ แต่มานอนลายขวาง เป็นรูปตัว T ศีรษะของเธอ อยู่แถวๆก้นของ mamboo พอจะนึกภาพออกไหมคะ ??? ^^

    แต่ถึงเธอจะนอนคว่ำ แต่เธอหันหน้าไปทาง เท้า ของ mamboo ไม่ได้หันหน้าลงพื้น และไม่ได้หันหน้ามาที่ mamboo

    mamboo ลืมตา ตื่นขึ้นมาตอน บ่าย 4 โมงกว่าๆของวันนั้น .. ก็ งง มาก ว่า .. "เอ๊ *-* ใครกัน มานอนในห้องกับเรา ?? >< "

    เสร็จแล้ว mamboo ก็หลับตาต่อ... เพราะว่า ยังรู้สึกเหนื่อยๆอยู่ .. ยังง่วงอยู่ อันนี้ไม่ได้ตื่น แค่รู้สึกตัว แล้วลืมตาดูเฉยๆ

    ทีนี้ ก็สงสัยมาก ว่า.. เธอคนนี้คือใคร.. เพราะว่าเธอไม่ได้หันหน้ามาทางหัวของ mamboo เธอนอนคว่ำ ศีรษะเธออยู่ตรงก้น mamboo แต่เธอหันหน้าไปทาง "เท้า" ของ mamboo

    mamboo ลุกขึ้นไปดูหน้าไม่ไหว เพราะยังรู้สึกง่วงอยู่ .. ก็เลยเอามือ ลูบๆผมเธอดู

    "อื้อหือ O_O!! ผมเธอคนนี้ นุ่มมากกกกกกกกก !! >.<"

    เสร็จแล้ว.. ก็ยังสงสัยอยู่ว่า เธอคือใคร ??? >< mamboo ลืมตาดู .. เธอก็ไม่หันหน้ามา หันมาแต่ศีรษะให้ ... ผมยาวๆ..

    mamboo ก็ลุกขึ้นดูไม่ไหว เพราะยังง่วงๆอยู่ .. เสร็จแล้ว .. ก็เลยเอามือเนี่ย.. ไปจับแก้มของเธอ เธอหันหน้าไปทาง เท้า ของ mamboo

    mamboo จับดูแก้ของเธอ พยายามคลำๆดูหน้าเธอ.. เผื่อจะรู้ว่าเป็นใคร

    พอจับแก้มเธอแล้ว.. รู้สึกได้เลยว่า.. "อื้อหือ.. ^__^ แก้มนุ่มมากๆๆๆๆๆ ^^"

    พอลูบผม จับแก้ม เสร็จแล้ว.. ก็ยิ่งสงสัยเข้าไปใหญ่ว่า.. เธอคือใคร ><

    แล้ว mamboo ลืมตาดู เธอก็ไม่หันหน้ามา ก็ไม่รู้ว่าเธอคือใคร ><

    แล้วจะให้ลุกขึ้นไปดูหน้า ก็เหนื่อย เพราะยังง่วงๆอยู่

    เสร็จแล้ว mamboo ก็หลับตา แล้วก็นอนนึกๆว่า.. "เอ๊.. ใครกัน มานอนกับเรา ?? >< หรือจะเป็นพี่พู่ (พี่ญาติ) แต่พี่พู่อยู่ขอนแก่นนี่นา >< ตอนนี้เราอยู่กรุงเทพฯนี่นา >< เอ๊ะ O_O!! หรือจะเป็นพี่นุช (พี่สาวแท้ๆ) แต่พี่นุชก็อยู่ขอนแก่นนี่นา ><"

    นึกไปนึกมา.. ก็ดันนึกขึ้นได้ว่า.. "เฮ้ย.. O_O!! ห้องนี้เราอยู่คนเดียวนี่นา O_O!!" (mamboo มีเพื่อนร่วมหอพัก เรียนที่เดียวกัน มาจากจังหวัดเดียวกัน แต่ว่าเช่าคนละห้อง เขาอยู่ชั้น 1 mamboo อยู่ชั้น 4)

    พอนึกได้ว่า.. "เราอยู่คนเดียว" เท่านั้นแหละ ><

    mamboo ลืมตาดูอีกที ... เห็นผู้หญิงคนนี้.. จากที่หันหน้าไปทาง เท้า ของ mamboo เธอเปลี่ยนมาหันหน้าก้มลงกับพื้น(mamboo ก็ยังไม่เห็นหน้าเธออยู่ดี)

    ตอนนั้น mamboo คิดในใจเลยว่า.. "ผี.. O_O!! นี่อ่ะ ผีชัดๆเลย.. เราอยู่คนเดียว ไม่มีใครมานอนด้วยหรอก.."

    เชื่อมั้ยคะ ??? ^^ เพิ่งรู้ว่า เวลาตัวเองเห็นผี แล้วมีอาการแบบนี้ ^^

    พี่น้องทั้งหลาย ไม่ทราบว่ามีใครเคยเจอผีแบบ"จะๆ"ไหมคะ อิอิ ^^ mamboo กลัวมากกกกกกกกกกกก !! ท่องคาถา ผิดๆถูกๆ.. แค่ อะระหัง สัมมา สัมพุทโธ ภะคะวา ยังท่องผิดท่องถูกเลยค่ะ 555555+ ^___^

    แล้วรู้มั้ยคะ .. ตอนที่ mamboo กลัวมากกกกก กลัวแบบ สุดขีดเลยอ่ะ เพราะรู้แล้วว่า เธอคนนี้คือผี ไม่ใช่คน.. แล้วในขณะที่ท่องคาถาผิดๆถูกๆอยู่นั้น.. เธอคนนี้ ก็เอามืออ่ะ สอดเข้ามาที่ใต้หลังของ mamboo

    โอ้ยยยยยยยยยย..T-T แม่เจ้าาาาาา T-T กลัวมากกกกกกกก ปากนี่สั่นหมดเลย.. ท่องคาถามแบบ ท่องไม่จบอ่ะ.. สักพัก แค่เสี้ยววินาทีเดียว mamboo มีสติขึ้นมา แค่เสี้ยววินาทีเดียว mamboo เปลี่ยนไปท่องพระคาถาชินบัญชร.. ท่องได้แค่ 2 บท.. (เดี๋ยวนี้ท่องได้จบ 14 บทแล้วค่ะ เมื่อก่อนท่องได้แค่ 2 บท อิอิ ^^)

    mamboo ท่องผิดๆถูกๆ ก็เอาใหม่ พยายามท่องให้ช้าลง ท่องให้ถูกทุกคำ

    เชื่อไหมคะ ?? ^^ ผีผู้หญิงคนนั้น หายไปเลย ^__^

    พอ mamboo รู้สึกว่า ไม่มีมือของผู้หญิงคนนั้นมาสอดที่ใต้หลังแล้ว.. mamboo ก็ลืมตาดู ก็ไม่มีใคร มองไปรอบๆห้อง ก็ไม่มีใครเลย .. ตอนนี้โล่งแล้ว

    mamboo เหลือบไปเห็นโทรศัพท์มือถือ รีบคว้าแล้วออกจากห้องไปโทรหาแม่เลยค่ะ 555555555+ ^___^

    โทรหาแม่เสร็จ ก็ลงไปอยู่ห้องเพื่อนที่ชั้น 1 แล้วพอตอนกลางคืนของวันนั้น ก็นอนห้องเพื่อนเลยค่ะ ไม่นอนห้องตัวเองเลย อิอิ

    จบแล้วค่ะ ^_^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มกราคม 2011
  18. big beet

    big beet Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +39
    สยองมากครับ เข้าใจเลยความรู้สึกก่อนจะรู้ว่าไม่ใช่คน ส่วนใหญที่ผมเจอก็จะงงๆอยู่พักนึง กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็โดนหลอกไปแล้ว แต่ที่สำคัญจากที่ได้อ่านประสบการณ์ ของเพื่อนๆและตัวเองแล้ว ส่วนใหญ่วัญญาณที่เราเจอจะไม่ให้เรสเห็นหน้าเลย เป็นเพราะอะไรครับ เป็นกฎของเขาหรือเปล่า กฎของวิญญาณอะไรประมาณนี้อ่ะ แต่เรื่องของ MAMPOO นี่สยองจริงๆ ผมเคยเจออย่างมากก็กำลังเดินเข้ามาหาเสื้อขาดเหมือนขอทานไม่เห็นหน้าผมปิดหมด จำได้แม่นยำเลย

    รบกวนคุณ MAMPOO สอนการนั่งสมาธิแบบถอดจิตด้วยครับ ผมอยากมีประสบการณ์แบบนี้บ้าง
     
  19. mamboo

    mamboo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,129
    ค่าพลัง:
    +1,973

    คุณ big beet คะ ^^

    mamboo ก็คงจะ สอนคุณ big beet ไม่ได้หรอกค่ะ ... เพราะว่า mamboo ก็ยังทำไม่ได้เลย อิอิ ^^ ก็เลย ให้ท่านผู้อื่นสอนดีกว่านะคะ ^^

    แต่ถ้า คุณ big beet อยากจะถอดจิตได้จริงๆ (คือ ไม่เน้นว่าหลุดพ้นอ่ะ)

    mamboo ว่า คุณ big beet นั่งสมาธิ แล้วเพ่งไปที่จุดกึ่งกลางระหว่างคิ้ว อ่ะค่ะ .. (คือ แทนที่จะจับลมหายใจ แล้วเพ่งไปที่ท้องน้อย ก็เปลี่ยนมาเพ่งที่จุดกึ่งกลางระหว่างคิ้วแทนอ่ะค่ะ ^^)

    แล้วก็.. ก่อนจะนอน อย่าให้เสียเวลา.. แทนที่เราจะนอนหลับตาเฉยๆแล้วปล่อยให้ตัวเองหลับ.. ก็เปลี่ยนใหม่ เป็น นอนสมาธิ จับลมหายใจเข้า-ออก พุทธ-โธ แต่ให้เพ่งไปที่ จุดกึ่งกลางระหว่างคิ้ว นะคะ ^^ ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหลับ..

    mamboo ว่า .. ดีกว่า ปล่อยให้ตัวเองหลับไปเฉยๆ (เพราะ mamboo เคยจับผิด สภาวะ ตอนที่ เรากำลังจะหลับ.. จริงๆแล้ว ที่พวกเราจำไม่ได้ว่า เราหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ... มันก็เป็นเพราะว่า.. เราปล่อยให้ สติมันค่อยๆๆๆๆ หายไป... คือ เคลิ้มๆหลับอ่ะแหละค่ะ.. ไอ้ตอนที่ สติค่อยๆหายไปนี่ ก็จะจำไม่ได้แล้วแหละว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง.. แต่ที่ mamboo สามารถจับภาวะนี้ได้ เพราะ mamboo ดันมีสติขึ้นมากระทันหันว่า.. เฮ้ย O_O!! ทำไมมีรูป >< (เหมือนเราดูภาพยนต์อ่ะค่ะ ^^) .. พอมีสติ ภาพพวกนั้น ก็หายไปเลย.. )

    เมื่อก่อน(เดี๋ยวนี้ ไม่ค่อยได้ทำแล้วค่ะ) mamboo ขี้สงสัย ก็จะนั่งสมาธิทุกวัน ได้ 5 นาที 10 นาที ก็เอา ก็ยังดี อิอิ ^^ (ก็อยากจะนั่งนานๆนะคะ แต่ทำย๊ากกกก ยาก!! ><)

    mamboo พยายามนั่งให้นานๆ ได้นานสุดก็แค่ 30 นาที .. เสร็จแล้ว mamboo ก็ไปอ่านมา เขาบอกว่า นอนสมาธิก็ได้

    พอว่างๆ mamboo ก็นอนสมาธิ.. (ได้นานกว่านั่ง... )

    แต่ก็ทำๆสลับกันค่ะ ^_^ นั่งๆ นอนๆ ..

    แล้ว mamboo จะชอบเพ่งไปที่ จุดกึ่งกลางระหว่างคิ้ว .. ตอนจะนอน(กลางคืน) ก็ไม่ให้เสียเปล่า >< แทนที่จะนอนหลับตาแล้วให้ตัวเองหลับเฉยๆ เราก็นอนสมาธิไปเลยแล้วกัน ><

    ก็เนี่ยแหละค่ะ.. แล้วมันก็เจอ หลุมดำ แสงขาว ผีอำ รู้ตัวในฝัน เห็นมือทิพย์ตัวเองด้วย รู้สึกว่ากายทิพย์เราออกจากร่างด้วย..

    แต่เห็นผู้ใหญ่เขาบอกว่า การเพ่งไปที่จุดกึ่งกลางระหว่างคิ้ว มันจะทำให้ จิตของเราออกจากกายได้เร็ว เพราะจุดกึ่งกลางระหว่างคิ้ว คือจุดเชื่อมต่อของจิตกับกาย(อันนี้ mamboo สัมผัสมาเองแล้ว ตอนที่โดนดูด แล้วโลกมันเหมือน เรากลับทางลูกบอล เอาผิวด้านในของลูกบอลออกมาเป็นผิวด้านนอก แล้วก่อนจะเข้าไปในจุดขาวๆ นึกอยากไปไหน มันก็ไปที่นั่น)

    แต่ว่า การทำสมาธิ อย่างเช่น ยุบหนอ-พองหนอ คือการเอาจิตไว้ที่กาย ไม่ให้มันออกไป

    mamboo อยากให้คุณ big beet ปรึกษาท่านผู้รู้หรือ พระอาจารย์ดีกว่านะคะ ^^

    แต่ถ้าถาม mamboo ด้วยความรู้อันน้อยนิด.. ถ้าคุณอยากถอดจิตได้ ก็ให้นั่งสมาธิ แล้วเพ่งไปที่จุดกึ่งกลางระหว่างคิ้ว(เพราะมันไปเร็วมากๆค่ะ ^^ เห็นผลเร็ว ^__^ อิอิ)
     
  20. mamboo

    mamboo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,129
    ค่าพลัง:
    +1,973
    เรื่อง หลานของเพื่อน

    เรื่องนี้ ไม่มีภาพประกอบละกันนะคะ อิอิ ^^

    จริงๆแล้ว mamboo คิดว่า นี่ไม่ใช่ผีหรอกค่ะ .. แต่ว่า อยากจะเล่าให้ฟังเฉยๆ อิอิ ^^

    --------------

    วันนั้น mamboo เข้ากรุงเทพฯมา กับเพื่อนสนิท 1 คน.. เพื่อนชื่อว่า "หนึ่ง"

    แล้ว mamboo กับเพื่อน ก็ไปนอนหอพักของเพื่อนของหนึ่ง..

    แล้วเพื่อนของหนึ่ง เธออยู่กับพี่สาว .. วันนั้น รวมกันเป็น 4 คน ในห้องๆเดียว ^^

    ห้องเพื่อน ไม่มีเตียงนะคะ เพราะว่าห้องแคบมาก เขาเลยไม่นอนเตียง เขาปูเบาะนอนกับพี่สาว พอ mamboo กับหนึ่งไปพักด้วย เลยกลายเป็น 4 คน ><

    เสร็จแล้ว... ตกกลางคืนมา ทุกคนก็นอน .. ปกติ

    ตกดึกมา mamboo ปวดฉี่มากกกกกกกกก !!

    mamboo ลืมตาขึ้นมา แต่ยังไม่ได้ลุก แค่ลืมตาเฉยๆ แล้ว mamboo ก็เห็นผู้หญิงเดินผ่านไป แล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ

    แล้วก็ตามมาด้วย เสียงการทำธุระในห้องน้ำ ก็คือ เสียงน้ำ เสียงขัน เสียงฝักบัว อะไรประมาณนี้แหละค่ะ มีเสียงปิดประตู ก็คือ เสียงปกติของคนเข้าห้องน้ำอ่ะแหละ

    mamboo ก็นอนรอ.. รอ.. ร๊อออออออ.. รอ....... ผู้หญิงคนนั้น ก็ไม่ออกมาจากห้องน้ำสักที --' (ตอนนั้น mamboo เข้าใจว่า ผู้หญิงคนนั้นคือ พี่สาวของเพื่อนของหนึ่ง .. เพราะผู้หญิงคนนั้นเดินผ่าน mamboo กับหนึ่งและเพื่อนด้วย.. เพราะฉะนั้น ก็น่าจะเป็น พี่สาวของเพื่อนอ่ะแหละ)

    mamboo หลับตารอ .. รอฟังเสียงเปิดประตูออกจากห้องน้ำ.. ก็ไม่มเสียง --'

    รอแล้วววววววว รออีก ก็ไม่ออกมาสักกะที.. ก็เลยว่าจะลุกไปดูที่ห้องน้ำ ว่าพี่แกเป็นอะไรหรือเปล่า

    แล้วพอลืมตา ยังไม่ได้ลุกจากที่นอนเลย.. ก็มองไปเห็น เด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชาย 2 คน .. กำลังนั่งเขียนอะไรก็ไม่รู้อยู่บนโต๊ะเขียนหนังสือในห้องนั้นแหละ

    mamboo ก็งงว่า "เฮ้ย O_O!! เด็กมาจากไหน ??? >.<"

    ก็เลยถามเด็กๆว่า .. มาจากไหน.. เด็กก็บอกว่า ก็เป็นหลานของพี่สาวเพื่อน mamboo อ่ะแหละ ><

    mamboo ก็เลยพูดกับเด็กว่า "เอ๊า O_O!! จะเอาหลานมาก็ไม่บอก มาดึกๆไม่ยอมบอก.. แค่ 4 คนเนี่ยก็อึดอัดจะแย่แล้ว >< นี่เอาหลานมาอีก >< ห้องแคบมากๆเลย T-T"

    เด็กสองคนนั้น ก็นั่งเขียนหนังสือตามประสาเด็กต่อ..

    พอคุยกับเด็กเสร็จ mamboo ก็รอต่อ.. รอว่า เมื่อไหร่ จะมีคนเดินออกมาจากห้องน้ำสักที เราจะได้ไปเข้าบ้างงงง...

    เชื่อมั้ยคะ ?? >< mamboo รอจนเช้า .. จนหลับไปอีก.. คราวนี้ ตื่นมา.. ตอนเช้า เพื่อนที่นอนข้างๆก็ลุกไปเข้าห้องน้ำ mamboo เลยถามเพื่อนว่า.. "อ้าว พี่สาวของนุสเค้าออกมาแล้วหรอ ?? ><"

    นุสก็เลยตอบแทนพี่สาวว่า.. "เมื่อคืน ไม่มีคนเข้าห้องน้ำนิ่ ><"

    แล้วพี่สาวของนุสก็เลยบอกว่า "เมื่อคืน พี่หลับสนิทเลย ^^ ไม่ได้เข้าห้องน้ำเลย ^^"

    mamboo ก็.. งง "เอ๊า O_O!! แล้วเมื่อคืน ใครเข้าห้องน้ำ เข้าน๊านนนนนนนนน นาน mamboo รอให้ออกมา ก็ไม่ออกมาซะที อั้นจนจะฉี่รดที่นอนแล้วเนี่ย ><"

    แล้ว mamboo ก็นึกได้ถึง เรื่องเด็กสองคนนั้น.. ก็เลยถามพี่สาวของนุสว่า.. "แล้วเด็ก 2 คนนั้นล่ะคะ ?? ><"

    เพื่อนๆ งงหมด ทั้ง 4 คน O_O!! "เด็กที่ไหน ??? >< "

    mamboo เลยบอกว่า "ก็เด็กเขาบอกว่า เขาเป็นหลานของพี่อ่ะแหละ >< แล้วเขามาเมื่อคืนนี้ ตอนนี้ไปไหนแล้ว ?? "

    พี่สาวนุส กับ นุส ก็เลยบอกว่า "ไม่มีเลย O_O!! เด็กที่ไหน.. ไม่มีใครมาที่ห้องเลย !! "

    mamboo ก็ "เอ๊า O_O!! งงอีก --' "

    แล้ว mamboo กลัวว่า พวกเพื่อนๆเขาจะตกใจ mamboo เลยพูดปัดๆไปว่า.. "สงสัย mamboo ฝันอ่ะ ^^"

    แต่ mamboo มั่นใจว่า .. ไม่ได้ฝันค่ะ อิอิ ^^

    ก็รออ่ะ รอพี่คนนั้นออกจากห้องน้ำ ก็ไม่ออกมาสักที.. เด็ก 2 คนนั้น ก็ไม่ได้เห็นเฉยๆนะ mamboo คุยกับเด็ก 2 คนนั้นด้วย ><

    อิอิ ^^ จบแล้วค่ะ ^___^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มกราคม 2011

แชร์หน้านี้

Loading...