ชีวิตก่อนหันมาสนใจธรรมะ สิ่งที่ได้จากการสวดมนต์

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย Bloodeagle, 22 เมษายน 2011.

  1. Bloodeagle

    Bloodeagle Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +49
    ก่อนสวดมนต์ ผมชอบเป็นผมชอบโดนคนอื่นแกล้งโดนคนอื่นคนดูถูก เพราะผมชอบทำไรไม่เหมือนชาวบ้าน เรียบร้อย ไม่ตั้งใจเรียนหนังสือ กวนตีนอีก เคยถูกคนอื่นขูดรีดเงิน โดนตีทุกวันไม่มีวันไหนที่แขนผมไม่ช้ำสมัยเรียนมัธยม แล้วก็เคยโดนเพื่อนผมชกแก้วหูฉีกไปข้างหนึ่ง ที่ผมเรียนอยู่ดรงเรียนหนึ่งผมไม่ขอเอ่ยชื่อน่ะครับ โดนมาราวๆ 9 ปี หลังจากขึ้นม.4 ย้ายโรงเรียนชีวิตดีขึ้น แต่เขาชอบมองผมเหมือนเด็กปัญญาอ่อน อาจเป็นเพราะทางบ้านเลี้ยงดูผมมาเป็นอย่างดีตลอด ช่วยเหลือผมตลอด จนผมดูเหมือนเป็นเด็กเกินไป อยู่เหมือนที่โรงเรียนเดิม แต่ไม่โดนแกล้ง เพราะผมขยันเรียนขึ้น เรียนเก่งขึ้นจาก 1.5 มาป็น 3 กว่า สูงสุด 3.6 สมัยประถม ยัน มัธยม ไม่รู้ เป็นกรรมรึเปล่าน่ะที่โดนแกล้ง ผมใฝ่ฝันจะเรียนคณะนิติศาสตร์มาตลอดผมสอบได้น่ะแต่ตอนแรกไม่ได้เรียน เหตุเนื่องจากตอนสัมภาษณ์ อ.ที่สอบสัมภาสณ์ ถามผมว่า คุณสมบัตินักกฎหมายมีอะไรบ้าง ผมตอบว่า กล้าแสดงความคิดเห็น กล้าแสดงออก แล้วฏ็อื่นๆ เขาถามว่าที่พูดมาน่ะมีไหม ผมตอบว่าไม่มี เขาก็เลยตอบผมว่าผมจะไม่รับผมน่ะ แล้ว บอกว่า ผมอาจเรียนได้แต่อาชีพไม่เหมาะกับ ผม แล้วก็บอกผมว่าไหนคุณลองขอร้องผมซิ เพื่อผมสงสารแล้วผมจะพิจารณารับคุณเข้า ผมก็เลยบอกเขาว่า ไม่รับไม่เป็นไร เดียวผมไปเรียนคณะมนุด ก็ได้ พูดจบเขาก็ยิ้ม แล้วบอกว่าสรุปถ้าไม่ได้แล้วก็จะไปเรียนคณะมนุดหรอ แน่น่ะครับ ผมตอบ ครับ แล้วเขาก็บอกว่าแล้วมาฟังวันประกาศผลล่ะกัน ผลออกมาเขารับผมเข้า แต่ไม่ได้เรียนเพราะมันเป็นภาคพิเศษค่าเทอมแพง แม่บอกไว้โตกว่านี้แล้วค่อยเรียนก็ได้ ตอนนี้ยังเด็กอยู่เลย
    แล้วผมก็ได้ไปเรียนคณะมนุษย์ ที่นั้นผมได้ฝึกการกล้าแสดงออกมากขึ้น ผมชอบคบพวกเด็ก้รียนเก่งก็เลยถูกเขาเยาะเย้ยประจำ ไม่รู้ทำไม อยู่ดีๆเวลาถูกเยาะเย้ยก็จะมีความคิดแบบนี้ขึ้น มาคืออยากฆ่า เคยคิดวางยาฆ่าไอ่คนที่เยาะเย้ยเรา ไอ่พวกที่มันเยาะเย้ยเรา หรือเวลาใครหัวเราะเวลาที่ผมทำอะไรผิด ผมก็จะเคียดแค้นอยู่ในใจ ไม่พอใจใครมากๆผมก็ไม่ทักไม่ทาย เป็นแบบนี้จนถึงปี 4
    คิดแบบนี้ทุกวัน แต่มีสิ่งหนึ่งที่ยั้บยั้งไม่ให้การกระทำเหล่านั้นสำเร็จก็คือ อาจารย์ท่านหนึ่ง พูดสอนธรรมะให้ผมฟังในชั้นเรียนบอก ใครทำอะไรกับ ใคร ตัวเองย่อมได้รับกรรม ผมเลยไม่ทำ ไม่รู้ที่ผมคิดไม่ดีผมจะได้รับผลกรรมอะไรรึเปล่าน่ะ หลังจากผมเรียนจบผมก็ได้เรียนคณะนิติศาสตร์ ตามความปราถนาของผม ผมอยากเป็น ผู้พิพากษา อัยการ ผมอยากช่วยเหลือสังคม เพราะผมอยากช่วยเหลือคนที่เขาทุกใจจริงๆ อาจจะเป็นเพราะฟ้าส่งผมมาด้านนี้จริงๆ ก็ได้ แต่ว่าไอ่ความเครียดแค้นที่มีต่อเพื่อนคนนั้นยังมีอยู่ผมไม่รู้จะทำยังไงก็มีบางอย่างดลใจมาให้สวดมนต์ไหว้พระเอมันจะหาย ผมสวดมนต์มาเป็นเวลา 6 เดือน ทุกวัน จนจิดใจผมสงบเย็น เหมือนไม่มีอะไรมารบกวนถึงบางที อาจมีคนพูดจาไม่เข้าหูผมก็เหอะแต่เหมือนมีอะไรมากั้นไม่ให้ผมโกรธ เวลาใครว่าอะไรผมผมปัดทิ้งเลย หรือไม่ก็ภาวนา พุทธโธ พุทธโธ จนกว่าจะหาย รู้สึกจิตผมเย็นมากทุกครั้งหลังสวดมนต์เสร็จ เดียวนี้ผมอ่านหนังสือธรรมะเยอะขึ้นทั้งที่เมื่อก่อนผมไม่คิดที่จะสนใจ ผมคิดว่ามันเป็นบุญเก่าผมน่ะ มีใครจะแนะนำอะไรผมก็เชิญเลยน่ะครับ
     
  2. เงาเทวดา

    เงาเทวดา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +314
    สิ่งที่ได้จากการสวดมนต์

    [FONT=&quot]([/FONT][FONT=&quot]เริ่มต้นการสวดมนต์ด้วยการสวดนะโมสามจบ)[/FONT][FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot]นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ[/FONT][FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot]นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ[/FONT][FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot]นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ[/FONT][FONT=&quot]

    [/FONT]
    [FONT=&quot]พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ[/FONT][FONT=&quot]
    [/FONT][FONT=&quot]ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ[/FONT][FONT=&quot]
    [/FONT][FONT=&quot]สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ[/FONT][FONT=&quot]
    [/FONT][FONT=&quot]ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ[/FONT][FONT=&quot]
    [/FONT][FONT=&quot]ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ[/FONT][FONT=&quot]
    [/FONT][FONT=&quot]ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ[/FONT][FONT=&quot]
    [/FONT][FONT=&quot]ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ[/FONT][FONT=&quot]
    [/FONT][FONT=&quot]ตะติยัมปิ ธรรมมัง สะระณัง คัจฉามิ[/FONT][FONT=&quot]
    [/FONT][FONT=&quot]ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ[/FONT][FONT=&quot]

    [/FONT]
    [FONT=&quot]([/FONT][FONT=&quot]สมาทานศีลห้า)[/FONT]​
    [FONT=&quot]มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ[/FONT][FONT=&quot]
    [/FONT][FONT=&quot]ทุติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ[/FONT][FONT=&quot]
    [/FONT][FONT=&quot]ตะติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ[/FONT][FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot]([/FONT][FONT=&quot]ศีลห้า)[/FONT][FONT=&quot]
    [/FONT][FONT=&quot]ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ[/FONT][FONT=&quot]
    [/FONT][FONT=&quot]อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ[/FONT][FONT=&quot]
    [/FONT][FONT=&quot]กาเมสุ มิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ[/FONT][FONT=&quot]
    [/FONT][FONT=&quot]มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ[/FONT][FONT=&quot]
    [/FONT][FONT=&quot]สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ[/FONT][FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT][FONT=&quot]สวดถวายพรพระ (พุทธคุณ [/FONT][FONT=&quot]56 [/FONT][FONT=&quot]จบ)[/FONT]​
    [FONT=&quot]อิ[/FONT][FONT=&quot]ติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต[/FONT][FONT=&quot]โลกะวิทู[/FONT][FONT=&quot]อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ[/FONT][FONT=&quot]ภะคะวาติ[/FONT][FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot]([/FONT][FONT=&quot]ธรรมคุณ [/FONT][FONT=&quot]38 [/FONT][FONT=&quot]จบ)[/FONT]
    [FONT=&quot]สะวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูฮีติ[/FONT][FONT=&quot]
    ([/FONT]
    [FONT=&quot]สังฆคุณ [/FONT][FONT=&quot]14 [/FONT][FONT=&quot]จบ)[/FONT]
    [FONT=&quot]สุ[/FONT][FONT=&quot]ปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ[/FONT][FONT=&quot]ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ[/FONT][FONT=&quot]ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา เอสะ ภะคะวะโต[/FONT][FONT=&quot]สาวะกะสังโฆ อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเณยโย อัญชะลีกะระณีโย อะนุตตะรัง[/FONT][FONT=&quot]ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ[/FONT][FONT=&quot]
    ([/FONT][FONT=&quot]ตรงนี้ นั่งสมาธิเล็กน้อย หรือตั้งนะโมสามจบอีกครั้ง แล้วกรวดน้้ำ[/FONT][FONT=&quot]แผ่เมตตา[/FONT][FONT=&quot]ตั้งจิตอธิฐาน............)[/FONT][FONT=&quot]
    ([/FONT][FONT=&quot]ขอขมาพระรัตนตรัย)[/FONT][FONT=&quot]
    [/FONT][FONT=&quot]โยโทโส โมหะจิตเตนะ พุทธัสมิง ปาปะกะโต ขะมะถะเม ภันเต[/FONT][FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot]โยโทโส โมหะจิตเตนะ ธรรมมัสมิง ปาปะกะโต ขะมะถะเม ภันเต[/FONT][FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot]โยโทโส โมหะจิตเตนะ สังฆัสมิง ปาปะกะโต ขะมะถะเม ภันเต[/FONT][FONT=&quot]

    [/FONT]
    [FONT=&quot]อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ[/FONT][FONT=&quot] ([/FONT][FONT=&quot]กราบ)[/FONT][FONT=&quot]
    [/FONT][FONT=&quot]สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม ธัมมัง นะมัสสามิ[/FONT][FONT=&quot] ([/FONT][FONT=&quot]กราบ)[/FONT][FONT=&quot]
    [/FONT][FONT=&quot]สุปะฏิปันโน ภะคะวาโต สาวะกะสังโฆ สังฆัง นะมามิ[/FONT][FONT=&quot] ([/FONT][FONT=&quot]กราบ)[/FONT][FONT=&quot]
    ([/FONT][FONT=&quot]จบการสวดมนต์)[/FONT]​

    [FONT=&quot]แบบสวดมนต์มาตรฐาน ถ้าต้องการสวดยาว ก็สวดช่วงถวายพรพระ พุทธคุณ [/FONT][FONT=&quot]56 จบ ธรรมคุณ 38 จบ สังฆะคุณ 14 จบ รวมเป็น 108 จบ ถ้าไม่ขยันก็สวดรวดเดียว จบเดียว [/FONT][FONT=&quot]สิ่งที่จะได้จากการสวดมนต์นี้คือ คุณธรรมที่จะทำให้เป็นพระโสดาบัน ที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม เพียงแค่ลงมือสวดมนต์ แล้วพิจารณาธรรมในตนนิดหน่อย ก็จะช่วยตัดสังโยชน์เบื้องต้นของเราไปสองข้อ นั่นคือ คุณธรรมพระโสดาบานมีสาม 1 ศีลลพตปรามาส วิจิกิจฉา ที่เหลืออยู่ เหลือแค่พิจารณาสักกายะทิฏฐิด้วยตนเองเท่านั้น[/FONT]
    [FONT=&quot]
    1. ศีลลพตปรามาส คือต้องมีศีลห้า สิ่งนี้ต้องอาศัยการลงมือทำ(รักษาศีล) จึงจะสำเร็จได้

    2. วิจิกิจฉา คือมีความสงสัยในคำสอน สงสัยในคุณของพระรัตนตรัย สิ่งนี้ต้องอาศัยความศรัทธา(ความเชื่อมั่น) อย่างแรงกล้า จึงจะสำเร็จได้

    3. สักกายทิฏฐิ สิ่งนี้ต้องอาศัยการพิจรณา (คิดแล้วรู้แจ้ง) ในร่างกายตน ให้เห็นตามความเป็นจริงว่า ร่างกายนี้เป็นของธรรมชาติ อย่างไร จึงจะสำเร็จได้

    .......สำหรับเรื่องของกิเลส(ความเศร้าหมอง) ทั้งหลาย ถ้าไม่เคยทำกรรมหนักมา ก็ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงเลย ไม่ต้องไปจัดการกิเลสใดๆ ทั้งสิ้น ด้วยมันเป็นเรื่องของธรรมชาติ เรื่องของใจที่ต้องมีกิเลสบ้างเป็นธรรมดา เดี๋ยวธรรมชาติความไม่แน่นอน(อนิจจัง) ทนอยู่อย่างเดิมไม่ได้(ทุกขัง) ไม่ใช่ตัวตน บังคับไม่ได้(อนัตตา) จะช่วยจัดการให้เราเอง เพียงแค่ต้องอดทนดูตอนมันเกิดขึ้นในจิต เพียงนิดหน่อย เดี๋ยวกิเลสมันก็อยู่ไม่ได้เองเป็นธรรมดาถ้ามีความสุขก็เสพไป ไม่มีปัญหาขวางทางที่จะทำให้เป็นพระโสดาบันได้ ให้นึกถึงนางวิสาขา มีลูก มีบริวารเป็นพัน ยังไม่มีอุปสรรคใดๆ[/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT][FONT=&quot]สีเลนะ สุคะติง ยันติ[/FONT][FONT=&quot]
    [/FONT][FONT=&quot]ศีลเป็นปัจจัยให้มีความสุข[/FONT][FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT][FONT=&quot]สีเลนะ โภคะสัมปะทา[/FONT][FONT=&quot]
    [/FONT][FONT=&quot]ศีลเป็นปัจจัยให้มีโภคสมบัติ[/FONT][FONT=&quot]

    [/FONT][FONT=&quot]สีเลนะ นิพพุติง ยันติ[/FONT][FONT=&quot]
    [/FONT][FONT=&quot]ศีลเป็นปัจจัยให้เข้าถึงพระนิพพาน[/FONT][FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT][FONT=&quot]ตัสมา สีลัง วิโสธะเย ฯ[/FONT][FONT=&quot]
    [/FONT][FONT=&quot]ท่านทั้งหลาย จงทำจิตให้สะอาด หมดจดด้วยศีล [/FONT]
    [FONT=&quot]ในกาลทุกเมื่อเถิดฯ

    [/FONT]
    [FONT=&quot]สทฺธายตรติ[/FONT][FONT=&quot] โอฆํ [/FONT]
    [FONT=&quot]จะข้ามโอฆะได้ด้วยศรัทธา[/FONT][FONT=&quot]
    [/FONT][FONT=&quot]
    [/FONT]
    [FONT=&quot]
    [/FONT][FONT=&quot]สัพเพ สังขารา อนิจจาติ ยะทา ปัญญายะ ปัสสะติ[/FONT]​
    [FONT=&quot]เมื่อใดพิจารณาเห็นด้วยปัญญาว่า สังขารทั้งปวงไม่ยั่งยืน[/FONT]
    [FONT=&quot]สัพเพ สังขารา ทุกขาติ ยะทา ปัญญายะ ปัสสะติ[/FONT]​
    [FONT=&quot]เมื่อใดพิจารณาเห็นด้วยปัญญาว่า สังขารทั้งปวงเป็นทุกข์ ทนอยู่ไม่ได้[/FONT]
    [FONT=&quot]สัพเพ ธัมมา อนัตตาต ยะทา ปัญญายะ ปัสสะติ[/FONT]​
    [FONT=&quot]เมื่อใดบุคคลพิจารณาเห็นด้วยปัญญาว่า ธรรมทั้งปวงไม่ใช่ตัวตน, บังคับบัญชาไม่ได้, ไม่เป็นอย่างใจปรารถนา[/FONT]
    [FONT=&quot]อะถะ นิพพิบทะติ ทุกเข เอสะ มัคโค วิสุทธิยา[/FONT]​
    [FONT=&quot]นั้นแล เป็นทางแห่งความบริสุทธิ์จากความทุกข์ทั้งหลาย ด้วยประการฉะนี้[/FONT]
     
  3. moshininja

    moshininja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    211
    ค่าพลัง:
    +103
    ดีแล้วครับ ดีแล้ว เป็นบุญอย่างยิ่งจริงๆ
     
  4. แป้งรำ่

    แป้งรำ่ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2010
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +6
    แวะมาแบ่งปันประสบการณ์ เคยโดนกิเลส ตัวโทสะและพยาบาท(ผูกโกรธ)เล่นงานมานานเหลือเกิน พยายามแกะแซะให้มันหลุดไปที่ล่ะน้อยๆอย่างยากเย็น พอเราพยายามแกะมันแบบเอาจริงเอาจัง กิเลสก็เอาจริงกับเราเหมือนกัน ตัวเองเริ่มต้นจากการ พยายามเรียนรู้เรื่องของ เมตตาจิต เพราะอ่านหนังสือของสมเด็จพระสัฆราชที่ท่านเน้นนักหนาท่านว่า เมตตานั้นเป็นของชุ่มเย็นนัก พออ่านประโยคนี้แล้วมันสังสัยว่า มันชุ่มเย็นแบบไหน เพราะชีวิตเรามีแต่ร้อนผะผ่าวอยู่เสมอจากสันดานนักเลงโตทั้งที่ตัวไม่โต เกิดอยากรู้ว่า เมตตาดีอย่างไรหนอ ชุ่มเย็นอย่างไรหนอ ก็ค้นคว้าหาตำรามั่งคำสอนมั่งว่าเมตตานั้นจริงๆแล้วมันเป็นอย่างไร ลองผิดลองถูกหลายวิธี จนพบที่ถูกจริตของคนขี้โกรธ คือการดูจิต ที่หลวงปู่ดุลย์ อตุโล(ลูกศิษย์หลวงปู่มั่น)ท่านสอนแนวนี้ เป็นการเฝ้าสังเกตการณ์จิตใจตัวเอง ว่าความโกรธมันมาเมื่อไร่ให้รู้ตัวว่า เอาล่ะชักจะโกรธแล้วล่ะ พอรู้ทันปั๊บ ความโกรธมันก็ค่อยจางลงไปมั่งหรือจนหายมั่ง หรือเผลอตัวก็กลับมาคิดอีกแล้วโกรธอีกล่ะ ตอนแรกก็ฝึกลำบากเพราะมันไม่เคย เคยแต่พอโกรธปั๊บก็คิดแต่จะบีบคอคู่อริอย่างเดียว ไม่เคยย้อนมาดูจิตตัวเองเลยเพราะมันลืมตัวน่ะ แต่ก็ทนฝืนจริตเอา เพราะเราไม่ต้องการจะเป็นทาสเพลิงโทสะไปชั่วกัปป์ชั่วกัล วิธีนี้ได้ผลกับตัวเองมากจริงๆ เห็นผลได้ชัดเจน เพราะคนขี้โกรธมันก็มีความโกรธมาให้ดูบ่อยๆ เหมือนกับเราได้ทำข้อสอบบ่อยๆ เราก็ชำนาญขึ้นๆ ใจก็ยังโกรธบ่อยอยู่เท่าเดิมแต่ว่าหายเร็วขึ้น ไม่รุ่มร้อนกับความคิดอาฆาตพยาบาทแบบคิดแล้วคิดอีกวันแล้ววันเล่าเหมือนแต่ก่อน เหมือนกับเราเลิกจุดไฟเผาตัวเอง ก็รู้สึกค่อยสบายขึ้นมีความสุขขึ้น รู้สึกว่า ท่าจะถูกจริตก็เลยฝึกเรื่อยมา จนกระทั่งได้รับความชุ่มเย็นอย่างที่พระท่านสอนจริงๆ มีความสุขขึ้นมากเลย อันนี้อยากแนะนำให้ลองดูน่ะ บางที่คุณอาจจะพบหนทางใหม่ให้แก่ชีวิตที่เราเคยเดินซ้ำๆซากๆมานาน(โกรธแล้วโกรธเล่าเหมือนจะไม่มีวันหยุดลงได้เลย) เมื่อไร่ที่รู้ว่าเราโกรธ อย่าไปดูคู่กรณี แต่ให้ย้อนกลับมาดูที่ใจของเรา เพราะคนอื่นทำได้แค่ส่งคบเพลิงให้เราเท่านั้น แต่เรานี่แหล่ะเป็นผู้ยื่นมือไปรับไฟนั้นมาจากเค้าแล้ว เผาหัวตัวเอง ช่วงแรกๆจะลำบากหน่อยน่ะ เพราะกิเลสจะโหมเล่นงานเราผู้ที่ทำท่าว่าจะตีจากมันไป จะมีเรื่องมายั่วยุให้เราตบะแตกแบบรุนแรง สิ่งรอบตัวเรา คนที่เรารัก หรือคนที่รักเรา จะหันมาทำให้โกรธ ก็ขอให้รู้ทัน เผลอโกรธไปแล้วก็แล้วไป รู้ว่ามันพลาดโกรธเสียอีกแล้ว ให้อภัยตัวเองอย่าไปโกรธซ้อนโกรธ(คือโกรธตัวเองที่โกรธชาวบ้าน) ฟังดูงงหน่อยน่ะ ฝึกเข้าเถอะแล้วจะเข้าใจกระจ่างเอง ที่สำคัญเมื่อโกรธแล้ว รู้ทันแล้วก็อย่าไป อยากหาย(โกรธ)ถ้าอยากหายเมื่อไร่มันจะยิ่งเกาะเราแน่น แค่รู้ทันแล้วก็ปล่อยมันไปแบบช่างหัวมัน แค่รู้ทันก็ดีแล้ว หลังจากกิเลสมันรุมเล่นงานเราอย่างผิดปกติสักระยะหนึ่ง เมื่อเราไม่คล้อยตามมันอย่างแต่ก่อนมันก็จะค่อยๆจางหายไป น้อยลงๆเรื่อยๆ ที่นี้ก็ค่อยสบายขึ้นตามลำดับน่ะ อย่าท้อเสียก่อนช่วงที่โดนมันรุมล่ะ แค่บททดสอบว่าเราตั้งใจจริงรึป่าวเท่านั้นล่ะน่ะ ถ้าสนใจจะฝึกดูจิต ให้หาคำสอนของหลวงพ่อปราโมทย์ ปราโมทย์โช(ลูกศิษย์หลวงปู่ดุลย์) หรือหาเว็ป วิมุตติ ก็ได้จะมีคำสอนท่านอยู่ อ่านหนังสือของสมเด็จพระสังฆราชท่านก็สอนเรื่อง เมตตาและการให้อภัยซึ่งอ่านเข้าใจง่ายและได้ผลที่มีค่ามหาศาลกับตัวเอง บางทีเคยคิดว่า เราคงหมดวิบากกรรมทางนี้แล้วกระมัง จึงทำให้เราพบหนทางใหม่ที่เดินห่างไฟนรกในใจออกไปทุกทีๆ เพราะความสุขมันอยู่รอบๆตัวเรานี่เอง แต่เราจะเคยมองดูมันบ้างหรือป่าวเท่านั้นเองล่ะ หวังว่าประสบการณ์เล็กๆนี้คงช่วยบอกได้ว่า ไม่ใช่คุณคนเดียวที่เดินบนถนนสายนี้
     
  5. Kama-Manas

    Kama-Manas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    5,351
    ค่าพลัง:
    +6,491
    คงถึงเวลาของคุณนั่นเอง เมื่อถึงเวลาอะไรๆก็จะเข้ามาตามระบบ"กรรม"ที่ทำไว้ อยู่ที่ว่าจะเป็นกรรมส่วนไหนก่อน-หลังเท่านั้นเอง...
     
  6. mailgolf

    mailgolf เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    153
    ค่าพลัง:
    +306
    อย่าปล่อยสิ่งที่เจอไปนะครับ
     
  7. beverzone

    beverzone เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    589
    กระทู้เรื่องเด่น:
    4
    ค่าพลัง:
    +2,174
    อนุโมทนาสาธุ
    ทำต่อไปเรื่อยๆนะครับ จะดียิ่งๆขึ้นเรื่อยไป
     
  8. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,458
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,011
    ดีเเล้วครับคุณ Bloodeagle ขอให้คุณ Bloodeagle ตั้งใจปฎิบัติธรรมต่อไปนะครับ ขอให้หมั่นปฎิบัติลงไปในทุกๆวัน เเล้วทุกอย่างจะดีเองครับ หลังปฎิบัติเสร็จเเล้ว ก็อย่าลืมเเผ่เมตตาไปให้ทั่วทั้งจักรวาลด้วย จะเป็นการดีที่สุดครับ เป็นกําลังใจให้เสมอครับ อนุโมทนาครับ
     
  9. Bloodeagle

    Bloodeagle Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +49
    ขอบคุณทุกคนที่ตอบมากครับ

    ปัจจุบันที่ ผมสวดมี อิติปิโส พาหุง พาหุงมหากา ชินบัญชร กรณีเมตยสูตร สวดเป็นประจำสวดแล้วจิตใจสงบเร็ว
     
  10. ฝันนิมิต

    ฝันนิมิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    467
    ค่าพลัง:
    +547
    :cool::cool::cool::cool::cool::cool:
     
  11. oriental_beauty

    oriental_beauty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +117
    สาธุด้วยนะคะ
    ขอให้ชีวิตของน้องมีแต่ความดีงาม และแสงสว่างจากพระธรรมค่ะ
     
  12. kook1519

    kook1519 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    874
    ค่าพลัง:
    +3,159
    อนุโมทนา ด้วยค่ะ

    ขอให้ พรที่เจริญ เกิดขึ้นกับผู้แบ่งปันค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...