จิต ของคนตาย กับ จิต ของ คนที่ถอดจิตไป เหมือนกันไหม ?

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย WebSnow, 8 ตุลาคม 2004.

  1. WebSnow

    WebSnow ผู้ก่อตั้งเว็บพลังจิต ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2003
    โพสต์:
    8,695
    กระทู้เรื่องเด่น:
    129
    ค่าพลัง:
    +64,019
    อันนี้ ผมรู้จากการที่ผม ถอดจิตไปเที่ยว แล้วผมถาม วิ__าณ ที่อยู่ อีกโลกหนึ่ง

    ผมถามเขาว่า เขารู้ไหมว่า ผมเป็นคน ถอดจิตมาเที่ยว ที่นี่
    เขาบอกว่ารู้ ว่าผมเป็นคน และผมถามเขาว่า แล้วเขาล่ะ
    เขา บอกว่าตอนนี้เขาไม่ไดเป็นคนแล้ว

    1 ) อยากทราบว่าเขารู้ได้อย่างไร


    -------------------------------------
    บนอีโลกนึง มีคนนับ ถือพระพุทธเจ้าด้วย
    ผมเคยถาม พราหม ว่า รู้ จัก พระพุทธเจ้า ไหม เขา บอกว่าน มีชื่อเสียง และ เขาบอกผมว่า พระพุทธเจ้า ลึกซึ้ง ในเรื่อง จิต มาก
     
  2. WebSnow

    WebSnow ผู้ก่อตั้งเว็บพลังจิต ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2003
    โพสต์:
    8,695
    กระทู้เรื่องเด่น:
    129
    ค่าพลัง:
    +64,019
    รับพลังจิต คลึ่นสีน้ำเงิน ครั้งแรก

    เมึ่อ 5-6 ปีที่แล้ว
    มีคลึ่นสีน้ำเงินไหลๆมาที่ผม เย็นๆสนุกๆ สบายๆ เหมือนตอนเป็นเด็กนั่งหัวเราะอยู่กับเพือน และรู้สึกคลิ้มๆ แบบมีความสุข และผมมีความรู้สึกว่ามีผู้ห_ิงที่เป็นผู้ให_่ในโลกวิ__าณส่งมาให้ มาจากที่ไกลๆ


    และรับพลังจิอีกครั้งเมื่อ กลางเดือน 05- ปี 2002

    หลังจากทำงานมาเหนื่อยมากแล้วเข้าสมาธิ แล้วถอดจิตออกไปเที่ยว แล้วไปพบ
    ผู้ชายในชุดขาวนั่งอยู่ แล้วผมก็เข้าไปกราบท่าน แล้วท่านบอกผมว่า เอาหน้าผมเข้าไปใกล้ๆท่าน
    แล้วท่านถามว่าทำไม หน้าผมไม่ผ่องใส ผมก็ตอบท่านตรงๆว่า "ผมจนครับ" ทำนองว่าคิดมาก

    พอผมตอบท่านเสร็จแล้ว ท่านก็ลอยขื้น ไป แล้วผมก็รู้สึกว่า มีอะไร มาสัมผัส ที่ปลายนิ้วมีอ ทั้ง สิบ แปล็บๆ รู้สึกเย็นแปล็บ
    แค่แป๊บเดียว แล้วผมก็รู้สึกว่าเป็นระบบ สัมผัส ทำให้ผมรู้สึกว่า ย้อนกลับไปเหมีอนระบบ สัมผัสเด่นชัด ดัง สถานที่ ที่เคยไป ในครั้งแรก
    ดังที่ผมเคยpost ไว้ในที่นี่
    ( ถอดกายทิพย์เต็มกำลังครั้งแรก, พบดินแดนความเร็วสูงในอีกมิติหนึ่ง )
    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?threadid=576


    แล้วท่านก็หายไป แล้วผมก็ ไปที่อี่นต่อ

    อยากถามว่า สิ่งที่ผมได้รับที่ปลายนิ้วมือ จาก ชายชุดขาว สิ่งนั้นจะมีผลต่อชิวิตได้ไหม
    แล้วสิ่งที่ผมได้รับจากท่านนัน ถ้าสมมุติว่าเป็นสิ่งดี แล้วพลังที่ผมได้รับจะอยู่กับผมตลอดไหม จะมีหมดไหม

    แล้วคิดว่าเห็น สิ่งที่ผมได้รับจากชายชุดขาว คืออะไร เป็นพลังจิตหรือเปล่า ?
     
  3. ploy

    ploy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2005
    โพสต์:
    137
    ค่าพลัง:
    +113
    อืม..น่าคิดค่ะ
     
  4. ต้นตะขบ(ไม่ได้ log in)

    ต้นตะขบ(ไม่ได้ log in) บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ในโลกวิญญาณ รับรู้สิ่งต่างๆ ได้จากจิตที่ละเอียด สิ่งนี้คือญาณทัศนะ
    เข้าใจว่าในโลกวิญญาณนั้น จิตรับรู้การสื่อสาร และรับรู้สรรพสิ่งได้อย่างอัตโนมัติค่ะ
    เนื่องจากจิตว่องไวกว่ามนุษย์ที่อยู่ในกายหยาบ
    สังเกตได้ว่าเมื่อมนุษย์เราถอดจิตไปได้อย่างใสชัดเจน
    เราก็จะมีจิตว่องไว-ปัญญาว่องไวกว่าขณะที่จิตยังอยู่ในร่างเช่นกันค่ะ
     
  5. ต้นตะขบ(ไม่ได้ log in)

    ต้นตะขบ(ไม่ได้ log in) บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    จากคำบอกเล่าและคำถามข้างต้น
    ดิฉันเองไม่ทราบเหมือนกันว่าแสงสีน้ำเงินดังกล่าวนั้นคืออะไรแน่ แต่ทำให้นึกถึงการล้างหินด้วยออร่าสีม่วง
    ดิฉันเคยกำหนดปล่อยออร่าสีม่วงด้วยการทำจิตระดับอุปจารสมาธิ กำหนดจิตไปที่กลางกระหม่อม แล้วจะเห็นออร่าสีม่วงไหลผ่านปลายนิ้วและใจกลางมือ นั่นเป็นการtune คลื่นจักรวาลค่ะ
    (หากมองในแสงสลัวนะคะ ถ้าเป็นบรรยากาศแสงกลางวันจ้าๆ จะมองสีออร่ายากหน่อย)

    พลังงานออร่าก็เป็นพลังงานจากคลื่นจิตและจักรวาลอย่างหนึ่ง
    แสงสีม่วง สีคราม สีน้ำเงิน เป็นระดับคลื่นจิตระดับละเอียดปราณีตและเป็นคุณสูง
    อย่างคนที่มีออร่าพื้นฐานสีน้ำเงินขึ้นไปนี่คบได้อย่างสบายใจ หรือวางใจนะคะ (หนังสือดวงตาที่สามของ ลอบซัง รัมปาเคยกล่าวไว้ทำนองนี้)

    ขอเดาว่าพลังงานสีน้ำเงินอาจเป็นคลื่นจิต พลังงานจากจิตท่านนั้นส่งมาก็ได้ค่ะ
    แต่พลังงานนี้จะหมดไปไหม ตอบยากค่ะ
    น่าจะขึ้นอยู่กับว่าคุณWebSnowรักษาพลังงานฝ่ายดีไว้เพียงใดเป็นหลักนะคะ
    และสรรพสิ่งใดๆ ก็ตาม นอกเหนือจากสภาวธรรมที่เป็นอกาลิโกแล้ว ย่อมอยู่ภายใต้กฎไตรลักษณ์นะคะ
    ดังนั้น ดิฉันเข้าใจว่า หากผู้รับแสงพลังงานทิพย์มีคลื่นจิตที่ละเอียด พลังงานนี้น่าจะอยู่นานค่ะ
     
  6. NiNe

    NiNe เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2005
    โพสต์:
    4,780
    ค่าพลัง:
    +7,482
    จิตของคนตาย ... กับจิตที่คนถอดจิตไป....ไม่เหมือนกันอย่างแน่นอนครับ

    เพราะว่า .... คนที่มีชีวิต ยังคงมีสายใยแห่งพลังชีวิตหลงเหลืออยู่...
    และเป็นที่แน่นอนว่า ...จิตของคนที่ตายไปแล้วย่อมหมายถึงว่าไม่มีสายใยแห่งพลังชีวิต...
     
  7. wisarn

    wisarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    741
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +2,505
    9786164742611.jpg

     
  8. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,268
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,110
    ค่าพลัง:
    +70,450
    คนที่บ้านพังแล้วต้องออกไป กับคนที่ออกมาเที่ยว แล้วกลับเข้าบ้าน
     
  9. Lord deva

    Lord deva สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2022
    โพสต์:
    350
    ค่าพลัง:
    +27
    ขอโอกาสท่าน WebSnow

    เมื่อมีผู้ให้ ผู้รับ ย่อมมีเหตุและปัจจัย ที่เป็นจริง และต้อง มีสภาพธรรม เป็น นีตัถถะและเนยยัถถะ หรือ สภาพธรรมคือความเป็นจริงโดยปรมัตถตรงๆ และสภาพธรรมที่จะต้องไขความ ในตอนนี้เมื่อญานเครื่องหยั่งรู้ ไม่ปรากฎ
    ยังไม่ทราบแน่ชัด ก็เป็นเพราะว่าด้วยเหตุและปัจจัย ยังเกิดขึ้นไม่พร้อม แต่ว่า เป็นเรื่องที่ดี จนกว่าจะสามารถไขปริศนาได้ สิ่งหนึ่งสิ่งใดที่ได้รับมานั้น จะคงอยู่เสมอไป ในกรณีที่ไม่ปรากฎการเคลื่อนไปครับ “โดยสภาพรู้ชัดว่า ขณะนั่นกำลังเคลื่อนออกไป”

    “ท่านWebSnow น่าจะลืม รอยต่อของเรื่องราวเพราะเนิ่นนาน ! หลายภพชาติ ผันผ่านครับ”

    {พระพุทธเจ้าท่านทรงตรัสว่า” ความหลงลืม “ เพราะกิจกรรม สงเคราะห์เหตุ ปัจจัย อื่นๆ เกิดขึ้นมากเกินไป แม้เทพเทวา ผู้ได้เข้าถึงบทธรรม ก็ยังลืมครับ}


    ส่วนนี่เป็นเรื่องราวประสบการณ์ของผมครับ

    จากประสบการณ์จากกายทิพย์ จิตหรือญาน ของข้าพเจ้าที่สงเคราะห์มาตามเหตุและปัจจัย

    ๑.ว่าด้วยดวงสุญญตธรรม มีดวงสุญญตโปร่งใส เป็นที่ห่อหุ้มร่างกายทิพย์ นำไป มีรู้สึกตัวโดยตลอด มีสัญญาสามารถควบคุมร่างได้ทั้ง ๒ ร่างมีความรู้สึกนึกคิด มีความตื่นตัว มีสัญญา ความจำได้หมายรู้ ร่างต้นหากปรารถนาจะได้ยินหรือไม่ปรารถนาจะได้ยิน ในขณะที่กายทิพย์แยกออกไป ร่างกายทิพย์ ก็มีความคิด พินิจพิจารณา ความปรารถนาพร้อม ที่จะทำกิจแห่งการความเจริญเบื้องหน้าในพระสัทธรรม (สมัยยังเป็นภิกษุ)

    ๒.ว่าด้วยการปรากฎการณ์ในมหาวิปัสสนาญาน เคลื่อนร่างหลักและจิตว่าด้วยญานหายไป เพียง๑ เดียว มีสัญญา สู่อนาคตกาล หายไปจากกาลเวลา จะไม่มีความรู้สึกสัมพันธ์กับร่างต้น ไม่อยู่ในสภาวะกายทิพย์ จิตหรือญานมีความรู้ มีปัญญาในพิจารณา รับรู้ สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นเบื้องหน้า อากาศธาตุ บรรยากาศ ลมหายใจเข้าออก ปรากฎ ณ เบื่องหน้า และปรากฎเวทนา เมื่อพิจารณาโดยรวมครุ่นคิดเสร็จกิจ จิตและร่างจะเคลื่อนตัดกลับที่เดิม และลืมตาขึ้นมา เพื่อจดจำและใคร่ครวญ(ลาสิกขามาแล้วใหม่ ปฎิบัติต่อเนื่อง)

    ๓.ว่าด้วยการทำสมาธิถอดกายทิพย์ โดยมิตั้งใจว่าจะไปที่ใด เพียง มีสัญญาจิตรู้ว่า ตนออกไปจากร่าง ไป ปรากฎในสถานที่ภพภูมิอื่น มีสติความนึกคิด พิจารณา มีความสงสัย มีความปรารถนาเพื่อที่จะให้แน่ใจ ในสิ่งที่พบเห็น และจะทำการสำรวจ พิจารณายังเหตุและปัจจัยที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า ( กลับไปที่ปราสาทมุกสวรรค์ สมัยบวชเป็นภิกษุ)

    ๔.ว่าด้วยการทำสมาธิ โดยมิได้ตั้งใจและกำหนดว่าจะไปสถานที่ใด มีสัญญา สามารถเป็นไปด้วยตนเอง และโดยมากจะมีสารถีเป็นผู้พาเดินทางข้ามไป โดยใช้ญาน พาหนะชนิดต่างๆ วิ่งด้วยความเร็วสูงสุด ข้ามมิติ พาไปทัศนศึกษา บางครั้งคราว เมื่อพอไปถึงก็หายไป

    ๕.ว่าด้วยบุพเพนิวาสานุสติญาน มีลักษณะ เหมือนกับข้อ ที่ ๓ แต่ มีสัญญา มีการรับรู้ เวทนา สัญญา อันปรากฎ ที่รุนแรงทางความคิด ความรู้สึก เป็น กายเก่า ขันธ์เก่า มีเรื่องมีราว ที่ตัดออกจากภพปัจจุบัน โดยสิ้นเชิง มีผัสสะ อายตนะ รู้ชัดรับรู้ทุกข์ สุข แห่งธรรมารมณ์ สิ่งที่มากระทบ และหากเป็นเรื่องที่แย่ๆกระทบกับความรู้สึก ก็จะเห็นภัยของการระลึกชาติ ทันที จนไม่ปรารถนาจะระลึกสิ่งใดๆในอดีตชาติได้อีก เพราะมีสัญญาแห่งความสุขทุกข์ เจ็บปวดและทรมาน (ลาสิกขามาใหม่แล้วปฎิบัติต่อ ในเวลาใกล้เคียงกันกับข้อ ๒ “อดีตพระราชปาล”)

    ๖.ว่าด้วย นิมิต ที่มักจะเกิดขึ้นหลังจากการทำสมาธิ รู้สึกตัวบ้าง ไม่รู้สึกตัวบ้าง แต่ว่ามี สัญญา ความจำได้ หมายรู้ แบ่งเป็น เรื่องราว ภาพความทรงจำในอดีต ประกอบเวทนาในอดีตชาติก็ดี ในปัจจุบันชาติก็ดี ในอนาคตกาลก็ดี แต่เป็นไปด้วยกิจแห่ง ญาน คือเครื่องรู้ ในกรณีนี้ ไม่เกี่ยวพันกับร่างหลัก

    ๗.ว่าด้วยสัญญาและสัญญาวิปลาส เป็นการฝันทั่วๆไป เป็นเรื่องที่รู้สึกตัวว่าฝันบ้าง ไม่รู้ตัวบ้าง เป็นผู้ควบคุมสถานการณ์ในความฝันบ้าง(ห้วงจิตแข็ง การปฎิบัติดี) เป็นเหยื่อในความฝันบ้าง บอกเหตุบ้าง เพ้อเจ้อบ้าง อยู่ในระดับปกติที่คนทั่วไป ที่สามารถเข้าถึง

    ๘.ว่าด้วยสัญชาตญาณ เครื่องกำหนดรู้ ไม่มีกายทิพย์ ไม่มีความฝัน อยู่ในสถานการณ์ การเผชิญหน้ากับความเป็นจริง เป็นไปด้วยกิจแห่งญานและคุณวิเศษ (อ้างอิงจาก การกำหนดจุด การจับ การติดตาม การดัก กำหนดทิศทาง ซุ่มโจมตีในจุดที่แม่นยำ )

    ๙. ว่าด้วยการตั้งใจว่าจะถอดจิต หรือกายทิพย์ จะไปสถานที่ใด ก็ถอดไปได้ ตามใจปรารถนา (อยากทำได้ แต่ยังไม่สามารถทำให้ปรากฎ)

    D8CC89E9-AFE6-41D8-92E1-1F2F2A0BB1E1.jpeg 568C506B-E499-4221-AC23-3B5D03674A57.jpeg

    #กราบสวัสดีครับคุณแม่ ^_^

    9427E1A1-8071-4565-93B1-D8C17865CB84.jpeg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤศจิกายน 2023

แชร์หน้านี้

Loading...