ไม่มีกาย ไม่มีจิต มีแต่~คิด~ไปเอง

นี่คุณ sevent heven ไม่เห็นมีอะไรมาก เอา น่า เย็น เย็น.......อย่าคิดมาก

 

ผมนึกว่า เกี่ยวกับผม ด้วย เคยโพส ในzenของคุณ เมเฆณฑ์ ครั้งหนึ่ง ก็แค่นั้น...........

 

อันดับแรก เราขออภัยคุณ sevent heaven ถ้าด้วยเหตุนั้นทำให้มันทำให้กระทู้ต้องถูกแบน ด้วยความที่เราโพสแบบไม่ได้คำนึงถึงสิ่งที่จะตามมา อันนี้ต้องขอกล่าวขอโทษเป็นอย่างมาก

และก็ประเด็นว่า เป็นการโพสบอกรัก อันนี้อาจจะเป็นที่หาเพลงที่โพสเนื่องจากเราเองเห็นว่าเนื้อหามันซึ้งพอๆและมันสามารถใช้ตอบโต้แทนความรู้สึกได้ก็เท่านั้น กับเพลงสัญญาที่หาดใหญ่ ไม่ได้มีเจตนาบอกรักอะไร ถ้าผู้ใดที่อ่านโพสแล้วเข้าใจผิดก็กรุณาอ่านดีๆ ก่อนสรุปแล้วก้นนะคะ

คือว่า...คุณเมเฆนทร์ ค่ะ อันที่จริง ลืมไปแล้วว่า....โพส (แหะๆ) ต้องย้อนไปหลายรอบมากถึงจะ หาต้นตอเจอ

และถ้ายังไงก็ขอให้ยุติเรื่องที่เกี่ยวกันกระทู้ Zen บนกระทู้นี้ด้วยแล้วกันค่ะ ถือว่าเป็นการให้เกียรติ กระทู้นี้ ล่ะกันค่ะ

ขอบคุณที่ทำตามคำแนะนำ

 

เนื้อหา ช่างเข้ากัน กะ จั่วกระทู้ จริงๆ
ไม่มีกาย ไม่มีจิต มีแต่คิดไปเอง
...
แต่ที่แน่แน่ จิตตินนท์ โพส ครับผม
มีจิต มีกาย
อันนี้ไม่ได้คิดเอาเอง

 

นี่แสดงว่ายังคิดอยู่
ถึงรู้ว่า "ไม่มี" ได้
ถ้าไม่คิด จะรู้ว่า "ไม่มี" เหรอ
ก็ต้ิองคิดว่า "ไม่มี" ถึงจะรู้ว่า "ไม่มี"

ถ้าไม่คิด จะ "มี" หรือ "ไม่มี" ก็ไม่ได้สนใจแล้ว
ก็คือไม่คิดไง ก็คือ ไม่มี ทั้ง "มี" และ "ไม่มี"

 

ผมมาสนทนาธรรมนะครับ
พี่หม้อเข้าใจผิด อะไรในตัวผมหรือเปล่า

ผมไม่อยากให้ใครเข้าใจผมผิด
เหมือนพี่หม้อเข้าใจผิด ในตัวผม

 

แค่อยากให้อ่าน....

ท่านผู้รู้แจ้งแห่งพระนิพพานนั้น
จะวางตนไว้ในลักษณะที่เข้าไปพัวพันก็ไม่ใช่
เฉยเมยก็ไม่ใช่ทั้งสองอย่าง
ท่านเหล่านั้น ย่อมรู้ว่า ขันธ์ทั้งห้าและสิ่งที่เรียกว่า"ตัวตน" อันเกิดจากการประชุมพร้อมของขันธ์ทั้งห้านั้น
รวมรูปธรรมและวัตถุภายนอกทุกชนิด
และปรากฏการณ์ต่างๆของศัพท์สำเนียง ล้วนแต่เป็นของเทียม
ดังเช่นความฝันและภาพมายาเสมอกันหมด
ท่านเหล่านั้นไม่เห็นอะไรแตกต่างระหว่าง มุนี กับคนธรรมดา
หรือจะมีความคิดในเรื่องนิพพานก็หาไม่
ท่านเหล่านี้ย่อมอยู่เหนือการตอบรับและปฏิเสธ
และท่านเหล่านี้ทำลายเครื่องกีดขวางทั้งที่เป็นอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
ผู้รู้เหล่านี้ ย่อมใช้อวัยวะเครื่องทำความรูสึกของท่านในเมื่อต้องใช้
แต่ว่าความรู้สึกยึดติดนั้นมิได้เกิดขึ้นเลย
ท่านเหล่านั้นอาจระบุเจาะจงสิ่งต่างๆได้ทุกชนิด
แต่ว่าความรู้สึกยึดถือในการระบุเจาะจงนั้นมิได้เกิดขึ้นเลย
แม้ขณะที่ไฟประลัยกัลป์ล้างโลกสันติสุขอันแท้จริงและยั่งยืนของความหยุดโดยสมบูรณ์
และความสิ้นสุดของความเปลี่ยนแปลงแห่งพระนิพพาน
ย่อมคงเดิมอยู่ในสภาพเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลง



ป.ล เข้าไปอ่านเจอที่กระทู้หนึ่งห้องวิทยาศาสตร์ ก็เลยขอยืม(เอาเอง)จขกท มาโพส....

 

แหะๆอกหักจนได้
นี่แหละน๊าาาาาาาาาาาาาาาาาา
ความรัก



สงกะสัยอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว
ที่ชวนเราเข้าไปเล่นที่ห้องกระทู้เซน
ที่แท้
ก็.........กิ๊ก กะเจ้าของกระทู้



ม่ะเป็นไร
ผู้หญิงไม่ไร้เท่าใบพุทรา


เออ
แล้วพรุ่งนี้
ไปทานข้าวเย็นด้วยกันอีกหรือเปล่า
จะให้เข้าไปรับกี่โมง


บอกพวกแฟนคลับทั้งหลายของเทอด้วย
ว่า
เราเป็นได้แค่คนรู้จัก






..................
..................
บอกเขาไปเลย
แค่เคยรู้จัก




55555555555555555
55555555555555555
55555555555555555

 

....................................................................


อาการหวงก้างน่ะ
มันบ่งบอกว่า
เป็น
ตาวะติงสา..................ของแท้
ถ้าใครบอกว่า อยู่สวรรค์ตาวะติงสะมา
แล้วหวงก้างม่ะเป็น
มันผู้นั้น มิใช่หน่อเนื้อ สักกะเทวราชหรอก



ท้าวสักกะเทวราช
ท่านหวงเมียท่านจะตาย(สุชาดาอสูรกัญญา)
มันถึงเกิด เทวาเทวะสงครามงัย
เพราะผู้หญิงอันเป็นที่รัก


เราได้กำพืดตรงนั้นมานิดหน่อย


เราเป็นเพื่อนกะเจ้าของกระทู้
วิ่งเล่นแก้ผ้าด้วยกันมาตั้งแต่เด็กๆ
เราม่ะได้เป็นอย่างที่ท่านคิด
เขาแค่.......มาแซวกันเล่นๆ







คุณหม้อ
คุณเก่ง เรื่องคิดแทนคนอื่น


คนเก่งเรื่องธรรมะแบบคุณ
ต้องอ่านข้อความข้างล่าง
เป็นอุทาหรณ์

อ่านหนุกๆน่ะ


คือมันเป็นเรื่องของ
เว่ยหล่าง
อรหันต์ 1000 กว่าปีมาแล้ว
ท่านสอนลูกศิษย์ผู้โง่เขลาของท่าน
ท่านบอกว่า
การปฏิบัติธรรม จะเป็นลำดับขั้นไปได้อย่างไร


แต่ของคุณหม้อ
กลับบอกว่า
การปฏิบัติธรรม
ต้อง
เป็นลำดับขั้น
เป็นขั้นเป็นตอนไป



หาก
พระสูตรเว่ยหล่าง
ไม่ดีจริง
ท่านพุทธทาส ภิกขุ
คงไม่แปลออกมาพิมพ์เป็นหนังสือ
ให้ชาวพุทธอ่านหรอกนะ


ไปฝึกมาใหม่ไป
คุณหม้อ


พวกอินทรีย์อ่อน เยอะ...! พึ่งแต่น้ำกระทกรก ต้องค่อยๆ อบรมตนเองไป

ข้อความที่ขีดเส้นใต้ดังกล่าวนี้
ของคุณหม้อเองนะ
ม่ะเกี่ยวกับผม




............................................


พระสังฆปรินายกกล่าวไว้ว่า “เมื่อภาวะที่แท้แห่งจิตของเราปราศจากมลทิน ปราศจากความโง่
และปราศจากความกระวนกระวาย เมื่อเราตรวจตราภายในจิตของเราด้วยปรัชญาอยู่ทุกขณะโดยไม่ว่างเว้น เมื่อเราไม่ยึดติดอยู่กับสิ่งทั้งหลาย และไม่ยึดติดอยู่กับวัตถุที่ปรากฏ เราก็เป็นอิสระและเสรี
เราจะวางหลักเกณฑ์ในธรรมไปทำไม เมื่อเราอาจบรรลุจุดประสงค์ได้โดยไม่มีปัญหา ไม่ว่าเราจะเหลียวซ้ายหรือแลขวา....... ทั้งนี้เนื่องจากความพยายามของเราเองที่เราตระหนักชัด
ถึงภาวะที่แท้แห่งจิต และ เนื่องจากการตระหนักชัดกับการปฎิบัติธรรม นั้น
เป็นสิ่งที่ต้อง ปฏิบัติพร้อมกันไป ไม่ใช่ค่อยทำค่อยไปทีละขั้น ............
การวางหลักเกณฑ์ในธรรมจึงไม่จำเป็น เพราะธรรมทั้งหลาย ย่อมมีลักษณะเป็นนิพพานอยู่แล้วในเนื้อหา........เราจะสามารถไปกำหนดเป็นขีดขั้นได้อย่างไร? “

 

................................................................














อุ๊ยยยยยยยสสสสสสสสสส์

สมาคมอารายยยยย หว่า

5555555555555555
5555555555555555





แซวหนุกๆ
อย่าคิดมาก

 

..เข้ามาเป็นกำลังเสริมให้พี่หม้อ..พี่เตช..เขาชอบคนเสียงดังแบบผม ฟังแล้วจริงใจ ไม่มีแอบแมน คิดถึงพี่เตช กลับมามีกำลัง คมเชียวครับ..!

 

...............ไม่มีสัตว์ ไม่มีบุคคล ไม่มีตัวตน มีแต่..สมมุติ........

 

สงกะสัย...........หม้อข้าว
กะลังเดือด
เดือด ปุ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดๆๆๆๆ


แวะมาให้กำลังใจเจ้าของกระทู้ครับ
จ๋วย ก๊าบบบบบบบบ จขกท.

เรียน โฟโต้ช้อป ไปถึงใหนแล้ว จ๊ะโอ๋............
โทรหาบ้างนะเวลาไม่มีใครให้คิดถึง



กะลังเปิด............................ตกผลึกแบบเซน
ในห้อง อภิญญา-สมาธิ

 

................................................


เป็นอะไรมากหรือเปล่าคร๊าฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ
เจ้าของกระทู้พึ่งชวนเข้ามาเล่นเมื่อวานนี้เอง
อารายยยยยยยยยยยยยยยย ว่ะเนี่ย
ไปหาหมอก็ได้นะคุณพี่ งง อ่ะครับ งง

 

ไม่มีกาย ไม่มีจิต มีแต่~คิด~ไปเอง

เก็ท แระ <!-- google_ad_section_end -->

 

คุงพี่ขวัญฟ้า เล่นสเก็ทบอร์ด ไหลๆๆ ระวังลื่นปรืดๆ หัวขมำ แข้งขาหักเอานะครับ
คิดเอา ว่า คนรุ่นนี้ ขาก็คงจะแข็ง แต่แรงคงน้อยลงแล้ว
อย่าหักโหมมากนะครับ
คิดเป็นห่วง ขอรับ
ฝากถึงทั่นเจ้าของกระทู้ ชอบจัง ติดตาม ตลอดเลย

 

เจ๊ เก็ท เจตนาของ ท่าน Mind จขกท. เฉยๆ ง่ะ

ไม่ได้หมายถึง เก็ท ธรรม เนาะ โลกมันวุ่นวายเป็นเรื่องปกติ อิอิ

กรรมใคร กรรมมัน เนาะ

 

เจอแล้วสาวกวัดร่มโพธิ์ ฝากถามลูกพี่ด้วยนะภัยพิบัติเมื่อไรจะเกิด 555 บางคนเก็บมาม่า ปลากระป๋องไว้จะเน่าแล้วมั่ง

 

การแสวงหาของปวงสัตว์

<!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <o:shapedefaults v:ext="edit" spidmax="1026"/> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <o:shapelayout v:ext="edit"> <o:idmap v:ext="edit" data="1"/> </o:shapelayout></xml><![endif]--> การแสวงหามี 2 อย่างคือ การแสวงหาที่ไม่ประเสริฐอย่างหนึ่ง การแสวงหาที่ประเสริฐอย่างหนึ่ง

การแสวงหาที่ไม่ประเสริฐเป็นไฉน คนบางคนในโลกนี้ โดยตนเองเป็นผู้เกิดเป็นธรรมดา เป็นผู้มีความเสื่อมเป็นธรรมดา เป็นผู้มีความเจ็บเป็นธรรมดา เป็นผู้มีความตายเป็นธรรมดา เป็นผู้มีความโศกเป็นธรรมดา เป็นผู้มีเครื่องเศร้าเป็นธรรมดา ก็ยังแสวงหาสิ่งที่มีความเป็นธรรมดาเหล่านั้นอยู่นั่นแหละ

ก็อะไรเรียกว่า สิ่งที่มีความเกิดเป็นธรรมดา มีความเสื่อมเป็นธรรมดา มีความเจ็บเป็นธรรมดา มีความตายเป็นธรรมดา มีความโศกเป็นธรรมดา มีเครื่องเศร้าเป็นธรรมดา บุตร ภรรยา แพะ แกะ ไก่ สุกร ช้าง โค ม้า เงินทอง เรียกว่าสิ่งที่มีความเกิด ความเสื่อม ความเจ็บ ความตาย ความโศก ความเป็นเครื่องเศร้าเป็นธรรมดา สิ่งเหล่านั้นเป็นเครื่องมัด ผู้ที่ติดพันลุ่มหลง เกี่ยวข้องในสิ่งธรรมดาเหล่านั้น ชื่อว่าตนเองเป็นผู้มีทุกข์เป็นธรรมดา ยังแสวงหาสิ่งที่มีทุกข์เป็นธรรมดาอยู่นั่นแหละ

การแสวงหาที่ประเสริฐเป็นไฉน คนบางคนในโลกนี้ โดยตนเองเป็นผู้มีความเกิดเป็นธรรมดา เป็นผู้มีความเสื่อมเป็นธรรมดา เป็นผู้มีความเจ็บเป็นธรรมดา เป็นผู้มีความตายเป็นธรรมดา เป็นผู้มีความโศกเป็นธรรมดา เป็นผู้มีเครื่องเศร้าเป็นธรรมดา ทราบชัดโทษในสิ่งที่มีความเป็นธรรมดาสิ่งเหล่านั้น ย่อมแสวงหาพระนิพพานที่ไม่เกิด หาธรรมอื่นยิ่งกว่ามิได้ เกษมจากโยคะ นี่แหละคือการแสวงหาที่ประเสริฐ

 

จขกท คิดไปเองรึป่าว
พุทธศาสนาไม่ได้ สอนให้หยุดคิด แล้วจิตจะไม่มีซะเมื่อไหร่