"ญาณหยั่งรู้" และ "เดจาวู" ปรากฏการณ์หลอนซ้อนมิติ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ped2011, 28 มิถุนายน 2011.

  1. มดส้ม1

    มดส้ม1 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2011
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +0
    แล้วการรู้สึกได้ว้าคนที่เรากำลังโทรนั้น
    กำลังออกจากบ้านซึ่งก็จริงโดยที่เราไม่ได้
    คาดคิดมาก่อนถือว่าเป็นเดจาวูมั๊ยคะ
     
  2. กัลกิ

    กัลกิ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +5
    มีสิ่งหนึ่งที่อยากจะบอกก็คือ เวลาที่เกิดปรากฏกาณ์นี้ของผมนั้น บอกได้เลยว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลยนะครับ แต่เหตุการณ์ที่กำลังเกิด ณ ขณะนั้นนะ มีความรู้สึกว่ามันเคยมาแล้ว............เพราะฉะนั้นทฤษฎีที่บอกว่าสมองจดจำเหตุการณ์ไว้นะใช้อธิบายไม่ได้หรอกนะครับ ยกเว้นเป็นเหตุการณ์ที่จิต (วิญญาณ) จดจำไว้แล้วมาเกิดใหม่ก็น่าจะเป็นไปได้มากกว่านะครับ
     
  3. ชุนชิว

    ชุนชิว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    722
    ค่าพลัง:
    +780
    เคยแต่ฝันแล้วเป็นจริง แต่ก็แยกไม่ออกว่า ฝันที่เป็นจริงกับฝันเรื่อยเปื่อยต่างกันยังไง จนกว่าเหตุการณ์นั้น มันจะเกิดขึ้นจริงๆ ถึงจะจำได้(แม่นบ้าง ไม่แม่นบ้าง) ช่วงหลังนี้ฝันว่าน้ำท่วมบ่อยมาก ก็ได้แต่หวังว่าคงจะเป็นแค่ความฝันเรื่อยเปื่อย
     
  4. นายเบทร์

    นายเบทร์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    882
    ค่าพลัง:
    +91
    ทำไมคนเราถึงจำได้แต่อดีตนะ ทำไมถึงจำอนาคตไม่ได้เลย........



    สตีเฟ่น ฮอร์กิ้ง
     
  5. CopperOxide

    CopperOxide เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    321
    ค่าพลัง:
    +289
    ละคร ทีวี ก็มี ... มักขึ้นขอบจอทีวีว่า "ตอนต่อไป"

    ข่าวเช้าช่องสาม ก็มี .... ชายอวบสวมแว่น มักพูดปิดท้ายก่อนเข้าโฆษณาว่า
    "เอาละครับ ช่วงหน้า เดี๋ยวกลับมาว่ากันต่อนะครับ เรื่อง ..."


    อย่างนี้เรียกว่า เดจาวู หรือเปล่า :)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กรกฎาคม 2011
  6. obs2553

    obs2553 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +176

    ขอความเห็น หรือช่วยอธิบายเพิ่มหน่อยสิจ๊ะ :)
     
  7. obs2553

    obs2553 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +176
    [FONT=&quot]เดจาวูเป็นภาษาฝรั่งเศส แปลว่า เคยได้พบเห็นมาแล้ว
    อาการเดจาวู คือรู้สึกว่าเหตุการณ์นั้นเคยพบมาแล้ว ทั้งๆที่เพิ่งพบครั้งแรก โดยเราอาจจะคิดว่าเราเพ้อฝันไป หรือรู้สึกว่า ตนเองเคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาแล้ว แต่จำไม่ได้[/FONT]

    [FONT=&quot]ถ้าดูจากนิยามด้านบน จากที่ยกตัวอย่างมา ก็ไม่น่าจะใช่เดจาวูนะคะ
    เพราะเป็นเรื่องที่เราพบเห็นอยู่เกือบทุกวัน จนเป็นความเคยชิน และเป็นเรื่องที่คาดการณ์ได้
    [/FONT]
     
  8. obs2553

    obs2553 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +176
    เอ..คุณเป็ด

    ตอนที่นีโอเห็นแมวดำในเดอะเมทริกซ์เนี่ย ใช่เดจาวูรึเปล่า?

    (เห็นคุณเป็ดเคยสนใจเรื่องเมทริกซ์อยู่)
     
  9. นายเบทร์

    นายเบทร์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    882
    ค่าพลัง:
    +91
    ไม่รู้ครับ เพราะไม่เข้าใจความคิดของเขา

    >_<""""
     
  10. ศิษย์ธรรมเทพ

    ศิษย์ธรรมเทพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +786
    หากอำนาจสติเบาบางไม่เข้มแข็งถึงรู้ก็จำไม่ได้หรอก
     
  11. ped2011

    ped2011 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,037
    ค่าพลัง:
    +1,096
    เพราะนาย สตีเฟ่น ฮอร์กิ้ง ไม่รูัจักคำว่าสมาธิภาวนา ถ้าเขานั่งจนเข้าฌาณได้เขาคงจะอ๋อ นี่หรือที่เมืองไทยเรียกตาทิพย์ เสร็จแล้วเขาคงทำหนังสือมาขายดีเป็นเทน้ำ รวยไปเลย

    แต่เมืองไทยเราออกมาพูดแบบนั้นไม่ได้ มันผิดแบบจากที่พระพุทธท่านพูดไว้
     
  12. ped2011

    ped2011 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,037
    ค่าพลัง:
    +1,096
    ชอบทฤษฏีแมตริกซ์นะ แต่สมองขี้เรื่อยไม่ค่อยจำอะไร ทุกวันยังสงสัยว่าเราอยู่โลกไหนกันแน่

    แต่มีความเชื่อเรื่องการดลใจของเทพเทวดา หลายครั้งเลยที่ผมรู้สึกได้ อย่างตอนที่ขับรถกลับจากบ้านนอกช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ช่วงเข้าโคราช ถนนเลนซ้ายทางจะขรุขระ รถกระและเก๋งจะขับเลนขวากันหมด จี้ตูดกันเร็วมาก
    ผมก็อย่าในกลุ่มมนั้นเช่นกัน ช่วงนาทีนั้นไม่รู้ผมคิดยังไง ผมกลับเข้าไปเลนซ้ายที่ทางไม่ค่อยดี ขับช้าธรรมดาๆ ประมาณ 60-80 วิ่งไปเรื่อยประมาณไม่ถึงกิโลได้ ปรากฏว่ากลุ่มรถที่วิ่งจี้ตูดกันมา 6-7 คัน ชนท้ายกันทั้งหมดเลย!

    พอผมขับผ่านจุดนั้นไปได้ ไม่แน่ใจว่ายกมือสาธุรึเปล่า จำได้แต่ใจหนุ่มน้อยเต้นตุบๆ นี่แหล่ะประสบการณ์คนหล่อล่ะ ว่าแต่อจ.มีอะไรมาเล่าให้ศิษย์ฟังบ้างล่ะก้ะ?..
     
  13. SpecDum

    SpecDum เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +489
    เรื่องปรากฏการณ์ เดจาวู ผมได้มีความสงสัยมานานแล้ว แล้วผมก็ได้เข้าไปถาม
    อาจารย์ ป.วิสุทธิปัญญา (อ.ปริญญา ตันสกุล) เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2554 เวลา 22:03 น
    และได้ให้คำตอบมาเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2554 ลองเข้าไปอ่านได้นะครับ เพราะอาจารย์
    ได้ให้คำตอบที่กระจ่างหายความสงสัยแล้ว
    เข้าไปอ่านได้นะครับ ที่...
    http://www.facebook.com/Visudhipunya/posts/166430466756120
    หรือ
    http://www.facebook.com/note.php?note_id=176979225697616
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 6 กรกฎาคม 2011
  14. ped2011

    ped2011 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,037
    ค่าพลัง:
    +1,096
    Aun Rachawitposted toVisudhi Punya
    ลูกขอกราบแทบเท้าพระบิดาและท่าน<wbr>อาจารย์ป.วิสุทธิปัญญา ด้วยความเคารพอย่าสูง
    ลูกมีความสงสัยมานานแล้วว่า เวลาที่ลูกไป สถานที่ ที่ไหน ๆ ก็ตามแต่ ลูกก็จะเกิดความรู้สึก
    ว่าเคยมาที่ ๆ นี้แล้วนี่นา .. เหมือนกับลูกเคยมาสถานที่ ๆ แห่งเลยมาก่อน..
    ปรากฎการณ์เช่นนี้ทาง ฝรั่งตะวันตกเรียกว่า เดจาวู(Déjà vu) .... ลูกมีความสงสัยว่า
    เพราะเหตุอันใดถึงเกิดเหตุการณ์
    <wbr>เช่นนี้ครับ..


    <a href="http://www.facebook.com/aunrachawit/posts/166430466756120"><abbr title="30 มิถุนายน 2011 เวลา 22:03 น." data-date="Thu, 30 Jun 2011 08:03:52 -0700">30 มิถุนายนเวลา 22:03 น.</abbr>
    • 8 คนถูกใจสิ่งนี้
      • [​IMG]Visudhi Punya Answer:
        1.ปรากฏการณ์"เดจาวู" คือ การนำพาตนเองเข้าในสถานที่ สถานการณ์ หรือเหตุการณ์ใดๆในความเป็น<wbr>จริง ที่สอดคล้องกันกับความฝันล่<wbr>วงหน้าของตนเอง
        2.ปรากฏการณ์"เดจาวู" จึงเป็นเรื่องของการฝันล่วง<wbr>หน้าที่มาปรากฏเป็นความจริง<wbr>ในภายหลัง
        3.การฝันล่วงหน้านี้...ดูเพิ่มเติม
        <abbr title="6 กรกฎาคม 2011 เวลา 0:51 น." data-date="Tue, 05 Jul 2011 10:51:04 -0700" class="timestamp">20 ชั่วโมงที่แล้ว</abbr> · 2 คน
      • [​IMG]Aun Rachawit ลูกขอกราบขอบพระคุณพระบิดา
        ลูกขอกราบขอบพระคุณอาจารย์ป<wbr>.วิสุทธิปัญญา
        เป็นอย่างสูง ... มีเหตุ เหตุการณ์หนึึ่งที่ลูกรู้ว่<wbr>า...
        ลูกจะต้องทำอย่างนี้ พูดประโยคอย่างนี้..แต่ลูกไ<wbr>ม่ทำ
        ไม่ทราบว่าจะมีผลอะไรเกิดกั<wbr>บลูก หรือป่าวครับ<abbr title="6 กรกฎาคม 2011 เวลา 1:10 น." data-date="Tue, 05 Jul 2011 11:10:11 -0700" class="timestamp">20 ชั่วโมงที่แล้ว</abbr> · 1 คน
      • [​IMG]Visudhi Punya ถ้าการตัดสินใจกระทำของเธอ ด้วยการไม่กระทำตามนิมิตก่อ<wbr>นหน้านั้น เธอพิจารณาถ่องแท้แล้วว่าถู<wbr>กต้องกว่าอย่างแน่นอน นั่นเท่ากับว่าเธอสอบผ่านบท<wbr>เรียนกรรมและบททดสอบจิตสำนึ<wbr>กในกรณีนั้นๆได้แล้ว กรรมเก่าย่อมโมฆะ
        (ป.วิสุทธิปัญญา)<abbr title="6 กรกฎาคม 2011 เวลา 2:42 น." data-date="Tue, 05 Jul 2011 12:42:30 -0700" class="timestamp">19 ชั่วโมงที่แล้ว</abbr> · 1 คน

        1.ปรากฏการณ์"เดจาวู" คือ การนำพาตนเองเข้าในสถานที่ สถานการณ์ หรือเหตุการณ์ใดๆในความเป็นจริง ที่สอดคล้องกันกับควาฝันล่วงหน้าของตนเอง
        2.ปรากฏการณ์"เดจาวู" จึงเป็นเรื่องของการฝันล่วงหน้าที่มาปรากฏเป็นความจริงในภายหลัง
        3.การ ฝันล่วงหน้านี้ แท้จริงแล้วมิใช่การฝัน แต่เป็นการบันทึกประสบการณ์ของจิตวิญญาณไว้ในขณะที่เธอนอนหลับและใกล้จะตื่น แล้วอยู่นั่นเอง แต่ที่เธอสามารถจดจำประสบการณ์ของจิตวิญญาณของเธอเองได้ก็เพราะว่า มันเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นตอนที่สมองซีกซ้ายของเธอมันเริ่มตื่นตัวสู่การ มีสำนึกนั่นเอง
        4.เธอต้องรู้ว่า ชะตาชีวิตและชะตากรรมของมนุษย์อย่างพวกเธอนั้น ล้วนเป็นไปตามตัวบทกฎแห่งกรรมและเป็นไปตามบทละครที่เธอลิขิตมันมาเอง ซึ่งในมิติโลกทั้งหมดนั้นมันต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่างประกอบกัน ดังเช่น:
        >>คู่กรรมเป็นใคร?
        >>เหตุการณ์สถานการณ์นั้นเป็นแบบไหน?
        >>เธอทำอะไรกับใคร?
        >>ใครทำอะไรกับเธอ?
        >>ลงเอยกันอย่างไร?
        5.จิต วิญญาณผู้เป็นตัวตนแก่นแท้ของเธอ จะทำหน้าที่นำเอาปัจจัยเหล่านี้เหนี่ยวรั้งทุกอย่างมาให้เธอได้เผชิญ ตามบันทึกรหัสกรรมที่จิตวิญญาณของเธอถือติดตัวมาจากอดีตชาตินั่นล่ะ กระบวนการที่ว่านี้มีกันทุกคืน ทุกคน ว่าแต่ว่ามันเกิดขึ้นตอนไหน
        เท่านั้นแหละ
        (ป.วิสุทธิปัญญา)
        ถาม :ลูกขอกราบขอบพระคุณพระบิดา
        ลูกขอกราบขอบพระคุณอาจารย์ป.วิสุทธิปัญญา
        เป็นอย่างสูง ... มีเหตุ เหตุการณ์หนึึ่งที่ลูกรู้ว่า...ลูกจะต้องทำอย่างนี้ พูดประโยคอย่างนี้..แต่ลูกไม่ทำ
        ไม่ทราบว่าจะมีผลอะไรเกิดกับลูก หรือป่าวครับ
        ตอบ : ถ้าการตัดสินใจกระทำของเธอ ด้วยการไม่กระทำตามนิมิตก่อนหน้านั้น เธอพิจารณาถ่องแท้แล้วว่าถูกต้องกว่าอย่างแน่นอน นั่นเท่ากับว่าเธอสอบผ่านบทเรียนกรรมและบททดสอบจิตสำนึ
        กในกรณีนั้นๆได้แล้ว กรรมเก่าย่อมโมฆะ
        (ป.วิสุทธิปัญญา)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กรกฎาคม 2011
  15. เมทิกา

    เมทิกา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    952
    ค่าพลัง:
    +2,393
    เป็นเรื่องของพลังงาน เห็นได้ทั้งอดีต ปัจจุบัน อนาคต
     
  16. SpecDum

    SpecDum เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +489
    ขอบคุณ คุณ ped2011 ด้วยนะครับ..
    ที่นำบทสนทนาคำถาม มาลงให้
     
  17. Jeanius

    Jeanius สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +1
    เดจาวูและญาณหยั่งรู้???

    เดจาวูและญาณหยั่งรู้??? เคยเป็นเหมือนกัน นึกว่าเป็น ความสามารถSuperSpecialส่วนตัวนะนี่ ก๊งงเหมือนกัน เหมือนเคยเจอ มาเเล้ว เเต่ ไม่ร้ตอนไหน อืมอืม Thank You หลายๆ
     
  18. obs2553

    obs2553 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +176
    อย่างที่บอกแหละค่ะคุณเป็ด เคยรู้สึกเหมือนเราได้ผ่านลักษณะเหตุการณ์นั้นๆมาแล้ว แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นเมื่อไหร่! และจะเป็นเหตุการณ์ทั่วๆไปในชีวิตประจำวัน ไม่มีอะไรพิเศษ

    ส่วนที่คุณเป็ดเล่ามา ดิฉันว่าน่าจะเรียกว่า สัมผัสที่ 6 มากกว่านะ
    เคยได้ดูรายการสัมผัสที่ 6 ไม๊คะ? ที่เขาบอกว่า "ระวัง! อย่ามองข้ามความปลอดภัย มิฉะนั้นอาจเป็นเช่นนี้............"

    เมื่อก่อนจะมีรายการนี้เตือนให้คนไม่ประมาท เป็นลักษณะคล้ายๆ โฆษณาอ่ะ
     
  19. obs2553

    obs2553 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +176
    เอ..แล้วเดจาวูกับสัมผัสที่ 6 นี่ มันต่างกันไม๊อ่ะ?

    ดิฉันว่า น่าจะต่างกันนะ
     
  20. obs2553

    obs2553 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +176
    เครดิต : Yahoo! รู้รอบ - แดจาวูต่างจากสัมผัสที่ 6 อย่างไร เอาแบบวิทยาศาสตร์นะ?

    เดจาวู คือ รอยต่อระหว่างช่องว่างเวลากับความรู้สึก คือ เหมือนเราเคยเห็น เคยพบ เคยรู้สึกมาก่อน คุ้นเคย เคยทำ หรือเคยไป

    เดจาวูไม่ใช่ความฝันเพราะมันอาจเกิดได้แม้ในยามที่เราลืมตาอยู่
    Emile Boirac นักจิตวิทยาชาวฝรั่งเศส ให้ความหมายของเดจาวูไว้ว่า...เป็นความรู้สึกเหมือนเคยพบเหตุการณ์นั้นมา แล้วทั้งที่เพิ่งเคยพบครั้งแรก...หรืออาจเป็นการนิมิต การฝัน การเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้า

    เดจาวู...จึงเป็นประสบการณ์ทางจิต เป็นมิติทับซ้อนทางความรู้สึก อาจเป็นโลกคู่ขนาน โลกที่ทับซ้อนกันอยู่ระหว่างจริง-ลวง เป็นความลวงตา หรือแม้แต่อาการของจิตที่คิดไปเอง

    สัมผัสที่ 6 (six sense) สัมผัสธรรมดาที่ไม่ธรรมดา
    สัมผัสที่ 6 (six sense) ฟังดูเหมือนไม่ธรรมดา ใครมีซิกเซ็นส์เขาถือว่าคนนั้นมีความสามารถพิเศษไม่ธรรมดาเลย แต่ความเป็นจริงแล้ว สัมผัสที่ 6 ก็คือ อายตนะที่ 6 คือใจที่ทำหน้าที่รับรู้อารมณ์ เรียกว่า ธรรมารมณ์ อายตนะ แปลว่า เครื่องสืบต่อ มีอยู่ทั้งหมด 6 ทาง คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจนี่เอง

    อายตนะที่ 6 แท้จริงแล้วมีการทำงานอยู่ตลอดเวลา แต่เพราะความที่มันเป็นของที่ละเอียดมากเป็นนามธรรมนั้นเอง การจะรู้จักหน้าที่การทำงานของเขาอย่างแท้จริง จึงต้องอาศัยความสงบ มีสติสัมปชัญญะที่ต่อเนื่องและการรู้จักสังเกตจึงจะรับรู้และเข้าใจใน หน้าที่ของเขาได้ นั่นหมายความว่า เราต้องรู้จักฝึกสติสัมปชัญญะ หรือฝึกความรู้สึกตัวที่ต่อเนื่องขึ้นมา อาศัยความตั้งมั่นจากความต่อเนื่องตรงนั้น ความจำสภาวะได้ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เกิดขึ้น เราจึงจะได้เห็นได้สัมผัสสภาพที่เป็นธรรมารมณ์ที่แตกต่างออกไปจากเดิมนั้นได้อย่างชัดเจน

    การรับรู้ตรงนี้จึงกลายเป็นเรื่องปกติของผู้ฝึกเจริญสติสร้างความรู้สึกตัวจนชำนิชำนาญและรู้จักการสังเกตได้ดีแล้วนั่นเอง

    สรุปแล้ว สัมผัสที่ 6 ของเราทุกคนเขาทำงานของเขาอยู่ตลอดเวลาเป็นปกตินั่นแหละ เราเองต่างหากที่ไม่มีสติสัมปชัญญะพอที่จะไปรู้สึกรับรู้ตรงนั้นเองต่างหาก เราไม่ปกติเอง เพราะจิตเราไม่ตั้งมั่น สติเราไม่ต่อเนื่องพอ เราขาดการสังเกต ขาดการน้อมเข้ามาดูกายดูใจของตนเอง เรามีแต่หลงส่งจิตออกนอก หลงความคิดความปรุงแต่ง จินตนาการไปต่าง ๆ นานา ไม่มีเวลาให้กับจิตกับใจตัวเองจริง ๆ เลยสักที จนกลายเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว แล้วเราก็กลับไปมองคนที่เขามีสติสัมปชัญญะ สามารถสัมผัสรับรู้ธรรมารมณ์เหล่านี้ได้อย่างต่อเนื่องเป็นปกติว่า เป็นคนที่มีความสามารถพิเศษ ไม่ธรรมดา

    เรื่องของ six sense หรือสัมผัสที่ 6 เป็นเรื่องของการทำหน้าที่รับสัมผัสตามธรรมชาติของจิต อาศัยการมีสติต่อเนื่อง มีความสงบภายในพอจึงจะสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงภายในได้ชัดเจน เหมือนการรู้ร้อนรู้หนาวที่กายนี่เอง ต่างจาก sense ในเรื่องของการทำนายทายทัก ลางสังหรณ์ต่าง ๆ ตรงนั้นไม่ใช่การสัมผัส แต่เป็นความรู้แขนงหนึ่ง อาจจะใช้อำนาจของสมาธิ หรืออำนาจของสิ่งลี้ลับที่เรียกว่า เทพนิมิตก็ได้ หรือจะเป็นเรื่องของไสยศาสตร์เวทมนต์อะไรในทำนองนั้น เป็นศาสตร์แขนงหนึ่งที่ต้องมีการร่ำเรียนเอา ไม่ใช่การมีอยู่เองโดยธรรมชาติตามหน้าที่ดังที่กล่าวมา ศาสตร์พวกนี้บางคนก็ทำได้เลย ขึ้นอยู่กับนิสัยวาสนาที่มีมาแต่เก่าก่อน หรือจะเรียกว่า พรสวรรค์ก็ไม่ผิดอะไร แต่จริง ๆ เป็นของเก่าที่ตัวเองเคยศึกษามาแล้วทั้งนั้นครับ

    ที่มา:


    http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=kawaka&month=02-2008&date=19&group=53&gblog=42

    http://wimuttidhamma.blogspot.com/2009/01/6-six-sense.html
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กรกฎาคม 2011

แชร์หน้านี้

Loading...