พุทธบารมีฯ เหตุ๑ กรณีหลวงพ่อฯลาพุทธภูมิ และกิจหลังจากนั้นฯ

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย sravnane, 16 กุมภาพันธ์ 2006.

  1. ao.angsila

    ao.angsila เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    2,332
    ค่าพลัง:
    +26,683
    ถวายปัจจัย แผ่นทอง,แผ่นเงิน จารึกคุณพระรัตนตรัย คาถาเงินล้าน ร่วมหล่อพระสิวลี สิทธิโชคโภคทรัพย์ ขนาด 158 นิ้ว พร้อมทั้งร่วมทอดผ้าป่าสร้างซุ้มประตู ณ วัดธรรมปัญญา ต.พรหมณี อ.เมือง จ.นครนายก พร้อมทั้งโมทนาบุญทุกอย่างในพระศาสนานี้ น้อมถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา เพื่อความเจริญตั้งมั่นแห่งพระศาสนา และเพื่อพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ขอท่านทั้งหลายจงโปรดโมทนาบุญเพื่อประโยชน์และความสุขแก่ท่านทั้งหลายสิ้นกาลนานเทอญ​

    :cool: :cool: :cool: :cool: :cool: :cool: :cool:
    (verygood) (verygood) (verygood) (verygood)
    (b-oneeye) (bb-flower (b-oneeye)
    ขอเรียนเชิญทุกท่านร่วมพิธีเททองหล่อพระสิวลี สิทธิโชคโภคทรัพย์ ขนาน 158 นิ้ว และร่วมทอดผ้าป่าสร้างซุ้มประตูหน้าทางเข้าวัด ณ วัดธรรมปัญญา ต.พรหมณี อ.เมือง จ.นครนายก (ถนนสายนครนายก-องครักษ์-รังสิต) ในวันอังคาร ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา 19.17น.

    <!-- / message --><!-- attachments -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กุมภาพันธ์ 2007
  2. sravnane

    sravnane เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    695
    ค่าพลัง:
    +17,914
    ภูกระดึง(ในสมัยอดีตหลวงพ่อฯเกิดในพระศาสนพระโกนาคมฯ)5

    [​IMG]
    บวงสรวงอธิษฐานถวายฝนทองคำ(นำแผ่นทองคำเปลวเป่าให้ละเอียดด้วยลมแล้วให้ลอยลงสู่รอยพระบาทกลุ่มในธารน้ำตกฯ ถวายเป็นพุทธบูชาฯ
    นโมฯ3 จบ ขอขมาพระรัตนตรัย ขออารธนาบารมีพระพุทธเจ้าทุกพระองค์อันมีสมเด็จองค์ปฐมเป็นต้น พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหมด พระโพธิสัตว์ทุกพระองค์ตลอดจนพรหมเทพเทวาทั้งหลายที่ได้ปกปักรักษาพระศาสนาฯ ขอน้อมถวายแผ่นทองคำนี้เพื่อทำฝนทองคำโปรยลงบูชารอยพระบาทฯ ถวายเป็นพุทธบูชาฯ ขอพระทุกพระองค์ได้โปรดสงเคราะห์รับซึ่งแผ่นทองอันข้าพเจ้าผู้มีจิตเลื่อมใสในคุณพระรัตนตรัยได้ถวายแล้วนี้ เพื่อความเจริญรุ่งเรืองตั้งมั่นแห่งพระพุทธศาสนา และเพื่อประโยชน์เพื่อความสุขแก่ข้าพเจ้าทั้งหลายสิ้นกาลนานเทอญฯ
    ผลบุญใดที่ข้าพเจ้าทั้งหลายได้บำเพ็ญถวายเป็นพุทธบูชาฯแล้ว ณ โอกาสนี้ ขอบารมีพระทุกพระองค์ได้โปรดทรงสงเคราะห์ให้ทองคำทั้งหลายเหล่านี้ จงเป็นฝนโบกขรพัดแก้วมณีฯ ตกลงบูชาพระทุกพระองค์ในพระนิพพานตลอดกาลนานเทอญฯ อนึ่งเมื่อใดพระอริยเจ้าทั้งหลายก็ดี พระโพธิสัตว์เจ้าทั้งหลายก็ดี ในอนาคตกาลข้างหน้าได้ปฏิบัติสมณธรรม ได้บำเพ็ญโพธิสมภารอันยิ่ง หากฝนท่านปรารถนาจะตก เพื่อกิจและยังประโยชน์แห่งพระ,พระพุทธศาสนาฯก็จงตกลงเถิดฯ
    ปล.นับว่าเป็นบุญจริงๆที่ได้มีโอกาสเห็นฝนทองคำนี้ คงเป็นเพราะพระฯท่านสงเคราะห์ เสียดายมัวแต่ตื่นเต้นไม่มีใครถ่ายรูปเก็บไว้ ขอบารมีพระให้บุญนี้ประทับในดวงจิตของทุกท่านตลอดไปตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานเทอญฯ
    :cool: :cool: :cool: :cool: :cool: :cool: :cool:
     
  3. ao.angsila

    ao.angsila เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    2,332
    ค่าพลัง:
    +26,683
    คำอธิฐานสุดยอดจริงๆครับ
    ขอโมทนาบุญทั้งหมดถวายเป็นพุทธบูชาฯ ข้าพเจ้าขอน้อมถวายบุญทั้งหมดที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมาแล้วแด่พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
    ขอให้คำอธิฐานของคณะพระธาตุแก้วมณีโชติฯ จงเป็นผลสำเร็จ ด้วยบุญที่บูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อันหาประมาณมิได้นี้ด้วยเทอญ​
     
  4. ao.angsila

    ao.angsila เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    2,332
    ค่าพลัง:
    +26,683
    [​IMG]
    รอยพระพุทธบาทนี้สวยงามมาก ครับ
    ขอบูชารอยพระบาทด้วยดอกกล้วยไม้ที่ข้าพเจ้าได้บูชาขึ้นเอง ถวายเป็นพุทธบูชาฯ ครับ​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_3525.jpg
      IMG_3525.jpg
      ขนาดไฟล์:
      816.9 KB
      เปิดดู:
      50
    • IMG_3515.jpg
      IMG_3515.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1 MB
      เปิดดู:
      45
    • IMG_3514.jpg
      IMG_3514.jpg
      ขนาดไฟล์:
      935.1 KB
      เปิดดู:
      39
  5. เก้าฟ้า

    เก้าฟ้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +639
    ขอร่วมโมทนาเป็นอย่างสูงค่ะ

    [​IMG]
    ขอร่วมโมทนาเป็นอย่างสูงค่ะ โคมพุทธบูชางดงามด้วยพุทธบารมีและใจจริงๆค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ
    (f) (f) (f) (f) (f) (f) (f) (f) (f) ​
     
  6. ศิษโมกคัลลานะ

    ศิษโมกคัลลานะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    283
    ค่าพลัง:
    +4,317
    โมทนาด้วยครับ สาธุ
     
  7. ศิษโมกคัลลานะ

    ศิษโมกคัลลานะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    283
    ค่าพลัง:
    +4,317
    โททนาด้วยครับ สาธุๆ
     
  8. ศิษโมกคัลลานะ

    ศิษโมกคัลลานะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    283
    ค่าพลัง:
    +4,317
    โมทนาด้วยครับ สาธุ
     
  9. ศิษโมกคัลลานะ

    ศิษโมกคัลลานะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    283
    ค่าพลัง:
    +4,317
    โมทนาด้วยครับสาธุๆ
     
  10. leklek

    leklek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +1,014
    ร่วมโมทนาบุญด้วยกาย วาจา ใจ

    พุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา
    ด้วยอำนาจบุญบารมีของพระฯและบุญที่ข้าพเจ้าได้กระทำมาแล้วทั้งหมด ขอให้การดำเนินไปซึ่งความเจริญและตั้งมั่นแห่งพระพุทธศาสนา ของเหล่าผู้เจริญทั้งหลายเป็นผลสำเร็จลุล่วงได้โดยอัศจรรย์ด้วยเทอญ
     
  11. leklek

    leklek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +1,014
    ร่วมโมทนาบุญด้วยกาย วาจา ใจ

    เพิ่มเติมภาพทำบุญที่วัดบุญบาลค่ะ
    IMG_0283.JPG
    ภาพนี้ถวายมีดตัดลูกนิมิตค่ะ
    IMG_0284.JPG
    ภาพนี้ถวายกระเบื้องมุงหลังคาค่ะ

    ขอบุญทั้งหมดในพระศาสนาจงมารวมตัวกันส่งผลให้พระพุทธศาสนามีความเจริญรุ่งเรืองยิ่งๆขึ้นไป และดลบันดาลให้ผู้มีจิตเลื่อมใสในพระรัตนตรัยทั้งหลายประสบแต่ความสุข สำเร็จ สมหวัง สมความปรารถนาทุกท่านเทอญ
     
  12. sravnane

    sravnane เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    695
    ค่าพลัง:
    +17,914
    ภูกระดึง(ในอดีตสมัยหลวงพ่อฯเกิดในพระศาสนาพระโกนาคม) 6

    [​IMG]
    บริเวณน้ำตกเพ็ญพบ สำรวจคราวแรกไม่พบรอยพระบาทเลย จึงพากันนั่งพัก ทำสมาธิสวดมนต์บวงสรวงสร้างรอยพระบาทจากทรายขาว และได้นำใบเมเปิ้ลสีแดงมาทำเป็นพระธรรมจักรวางในใจกลางรอยพระบาทฯ ถวายเป็นพุทธบูชาฯ
    เมื่อสร้างเสร็จแล้วได้ทำการฉลองและจุดประทีปหอมถวายฯ ก็บังเอิญได้พบรอยพระบาทและรอยพระหัตถ์ขนาดเท่ากับรอยพระบาทที่สร้างถวายพอดีเลยพร้อมทั้งยังหันไปยังทิศเดียวกันโดยบังเอิญด้วยครับ นับว่าเป็นโชคดีจริงๆครับ
    ตรงช่วงน้ำตกวังกวางส่วนใหญ่ที่สำรวจพบจะเป็นรอยพระบาทของพระองค์ปัจจุบัน ส่วนที่น้ำตกนี้อยู่ถัดมาขนาดของรอยพระบาที่พบประมาณของพระพุทธกัสสปฯครับ เราคาดกันว่าน้ำตกข้างหน้าน่าจะพบรอยพระบาทของพระพุทธโกนาคมฯ อันเป็นสมัยที่หลวงพ่อฯท่านได้เกิดบนภูกระดึงและได้รับการตรัสพยากรณ์จากพระฯในสมัยนั้นครับ
    :cool: :cool: :cool: :cool: :cool: :cool: :cool:
     
  13. sravnane

    sravnane เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    695
    ค่าพลัง:
    +17,914
    ขอร่วมโมทนาบุญทุกอย่าง ถวายเป็นพุทธบูชาฯ

    [​IMG]
    ขอร่วมโมทนาบุญทุกอย่าง ถวายเป็นพุทธบูชาฯ มีดตัดหวาย ถวายพุทธบูชาฯ ถวายไว้เพื่อตัดหวายให้ลูกนิมิตได้ทำหน้าที่บอกเขตสังฆกรรมฯ บุญพุทธบูชาฯอันใดที่เกิดจากการตัดด้วยมีดนี้มีนับไม่ได้ฉันใด ขอบุญอันนั้นจงตัดเสียซึ่งเคราะห์ภัยและบาปกรรมทั้งปวงตลอดจนกิเลสมลทินในใจของเราทั้งหลายให้ขาดหายไป ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด
    ปล.โมทนากันเลยนะครับ วาเลนไทน์พอดี เอาบุญนี้ไปเผื่อกันไว้ครับ นานๆจะได้ถวายมีดสวยๆ
    :cool: :cool: :cool: :cool: :cool: :cool: :cool:
     
  14. ศิษโมกคัลลานะ

    ศิษโมกคัลลานะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    283
    ค่าพลัง:
    +4,317
    ข้อความเดิมโยคุณNoOTa

    ความรักในทางพระพุทธศาสนา
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->
    [​IMG]

    ความรักในทางพระพุทธศาสนา



    ท่านได้จำแนกเรื่องความรักไว้เป็นสองประเภท คือ

    1. ความรักที่เกิดจาก กามฉันทะ คือ ความเร่าร้อน ความกระหาย ที่อยากจะได้ในสิ่งที่ตนพึงปรารถนา หากได้ตามใจปรารถนาแล้ว ผู้นั้นก็จะมีความชื่นชมยินดี มีความสุขทั้งกาย และใจ ถ้าต้องประสบกับความผิดหวัง จิตของผู้นั้นจะมีแต่ความโทมนัส เศร้าโศกเสียใจ บังเกิดเป็นความทุกข์กายติดตามมา กินไม่ได้ นอนไม่หลับ

    ร่างกายซูบซีดเศร้าหมอง เบื่อโลก เบื่อชีวิต เบื่องานเบื่อการ มีอารมณ์หงุดหงิด ฉุนเฉียวง่าย ขาดสติสัมปชัญญะ หาทางเบียดเบียนคู่ต่อสู้ด้วยวิธีการและรูปแบบต่างๆ ซึ่งเป็นการผิดศีล หากยังไม่สมปรารถนาอีก บางคนก็อาจจะคิดสั้นก่ออกุศลกรรม สร้างทุกข์โทษให้แก่ตัวเอง คือ การอัตวินิบาตกรรม และหรือ แก่ผู้อื่นด้วยวิธีการอื่นๆ เท่าที่อกุศลเจตนาจะพาไป

    2. ความรักที่เกิดจาก เมตตา ซึ่งมีอยู่ในจิตวิญญาณของมนุษย์โดยทั่วถ้วนหน้า โดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา ชนชั้น วัย เวลา สถานที่ และสามารถแผ่กระจายไปได้ทุกหนทุกแห่งอย่างไม่มีขอบเขต เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาพร้อมกับจิตวิญญาณของมนุษย์ตั้งแต่ต้น ยกเว้นผู้ที่มีความพิการทางสมองซึ่งไม่สามารถกระตุ้นจิตวิญญาณให้เกิดอารมณ์ในลักษณะ นี้ขึ้นได้

    นิยามของความรัก ที่เทียบธรรมในทางพุทธที่ใกล้เคียงที่สุดคือ พรหมวิหาร 4

    (พรหม = ที่พึ่ง, วิหาร = เครื่องอยู่) = ธรรมของความเป็นที่พึ่งพาได้คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา

    - เมตตา คือ ความรัก,ความปรารถนาให้เขามีความสุข, แผ่ไมตรีจิตคิดจะให้สัตว์ทั้งปวงเป็นสุขทั่วหน้า (ข้อ 1 ในพรหมวิหาร 4, ข้อ 2 ในอารักขกรรมฐาน 4)

    - กรุณา คือ ความสงสารคิดจะช่วยให้พ้นทุกข์,ความหวั่นใจ เมื่อเห็นผู้อื่นมีทุกข์ คิดหาทางช่วยเหลือปลดเปลื้องทุกข์ของเขา

    - มุทิตา คือ ความพลอยยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดี,เห็นผู้อื่นอยู่ดีมีสุข ก็แช่มชื่นเบิกบานใจด้วย เห็นเขาประสบความสำเร็จเจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้นไป ก็พลอยยินดีบันเทิงใจ พร้อมที่จะส่งเสริมสนับสนุนไม่กีดกันริษยา

    - อุเบกขา คือ ความวางใจเป็นกลางไม่เอนเอียงด้วยชอบหรือชัง, ความวางใจเฉยได้ ไม่ยินดียินร้าย เมื่อใช้ปัญญาพิจารณาเห็นผลอันเกิดขึ้นโดยสมควรแก่เหตุ และรู้ว่าพึงปฏิบัติต่อไปตามธรรม หรือตามควรแก่เหตุนั้น

    (ข้อ 4 ในพรหมวิหาร4, ข้อ 7 ในโพชฌงค์ 7, ข้อ 10 ในบารมี 10, ข้อ 9 ในวิปัสสนูปกิเลส 10)

    เมื่อนิยามความรักแล้ว คำบรรยายความรักในทางโลกสำหรับผู้ยังมีกิเลส (กิเลส สิ่งที่ทำใจให้เศร้าหมอง, ความชั่วที่แฝงอยู่ในความรู้สึกนึกคิด ทำให้จิตใจขุ่นมัวไม่บริสุทธิ์) ยังไม่ใช่ความรักที่บริสุทธิ์ตามพรหมวิหารธรรมล้วน ๆ ยังเจือปนไปด้วยอุปกิเลส (คือโทษเครื่องเศร้าหมอง, สิ่งที่ทำจิตใจให้เศร้าหมองขุ่นมัว รับคุณธรรมได้ยาก

    ความสุขจากการกระทำกรรมดีร่วมกันมาจะส่งผลก่อน ดึงคนสองคนเข้ามาหากัน และหลังจากนั้นกรรมไม่ดีจะเริ่มแสดงตัวที่ทำให้เกิดความทุกข์ระหว่างกัน ทะเลาะกัน

    ความรักทุกชนิดของปุถุชน จะเจือปนด้วยกิเลสได้เสมอแม้แต่การรักลูก ตราบที่ยังมีลูกของเรา (ต้องดี ต้องเก่ง ต้องเยี่ยม ต้องสวย ต้องหล่อกว่าคนอื่น) จนความรักกลายเป็นการผลักดันลูกให้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้โดยอ้างความรัก

    ความ รักของปุถุชนหนุ่มสาวที่ยังมีกิเลส มีกามราคะ (ความพึงใจในรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส) เริ่มจากตาเห็นรูป แล้วจิตที่ยังมีอวิชชา มีความหลงครอบงำ เริ่มปรุงแต่งว่า เมื่อรูปข้างนอกสวย จิตใจข้างในต้องดีด้วยเป็นแน่ (คิดเอา คาดเอาเอง) จึงพยายามสร้างปัจจัยทุกทางเพื่อให้ได้ครอบครองเพื่อเสพสิ่งที่ตน (คิดเอาเอง) ว่าดีนั้น เริ่มจากการเสพรูป (ผ่านทางตา) เสพรส (ผ่านทางปากหรือลิ้น) เสพกลิ่น (ผ่านทางจมูกโดยการดมกลิ่น) เสพเสียง (ผ่านทางหู) สัมผัส (ผ่านทางกายโดยการจับมือถือแขน ลูบไล้ กอดรัด รวมถึงการร่วมประเวณี) นี่เป็นการบรรยายในมุมของการเสพ คือมองจากภายนอก

    ถ้าจะบรรยายจากมุมมองของสติและสัมปชัญญะที่เห็นภาพรวมจากภายในจิตออกไปภายนอกนั้น ต้องเริ่มจาก

    จิตที่มีอวิชชา - ความไม่รู้บังไม่ให้เห็นว่าจิตกำลังหลง เริ่มจากมีสิ่งกระทบ (ผัสสะ) มากระทบกับอายตนะ (เครื่องดึงดูดให้จิตส่งออกนอก มีตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ) ไม่ว่าจะเป็นรูปกระทบตา เสียงกระทบหู กลิ่นน้ำหอมหรือกลิ่นกายกระทบจมูก ได้ชิมรสต่าง ๆ (ในกรณีของอาหาร) ทางลิ้น ได้สัมผัสทางกาย (กายของเพศตรงข้าม หมอน เบาะหรือที่นอนนุ่มๆ ตลอดจนการปรุงแต่งของสังขารขันธ์หรือใจ ที่ทำการ amplify จนความยึดมั่นในคนหรือวัตถุที่จิตไปเกาะยึดอยู่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ)

    ส่งให้จิตปรุงแต่งหาวิธีครอบครองคนหรือจิตหรือวัตถุนั้น ๆ จนเกิดเป็นมโนกรรม วจีกรรม ตลอดจนกายกรรมต่อไป และถ้าบุคคลไม่มีศีลแล้ว ก็สามารถกระทำการที่ละเมิดบุคคลอื่นจนเกิดเป็นกรรมไม่ดีขึ้นมาได้ต่อไป
    ความรักจะเป็นพิษ เมื่อบุคคลยึดกับวัตถุสิ่งของหรือบุคคลอื่นมากจนขาดสติและสัมปชัญญะ ไม่ได้สำรวจตรวจสอบตนเองจนไปละเมิดบุคคลอื่น

    เริ่มจาก
    ปาณาติบาต (การตัดชีวิตสัตว์อื่นให้สิ้นไป) อทินนาทาน (ถือเอาของที่เจ้าของไม่ได้มอบให้มาเป็นของตน)
    กาเมสุมิจฉาจาร (ความประพฤติผิดในกามทั้งหลาย ผิดประเวณี คือไปแย่งของรัก ละเมิดคู่รักผู้อื่น)
    มุสาวาทา (พูดไม่จริงที่ทำให้เกิดความเคยชินกับการผิดศีล ทำให้ลดความรู้สึกผิดเวลาผิดศีลลงไปเรื่อย ๆ) หรือ สุราเมรัย (ดื่มสุราเกินพอดีจนทำให้ขาดสติ)



    โดย พญ.มณฑิรา พรศาลนุวัฒน์ จิตแพทย์
    Thaiclinic <!-- / message --><!-- attachments -->

    โมทนาครับสาธุๆ
     
  15. สุริยทรงศีล

    สุริยทรงศีล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    114
    ค่าพลัง:
    +1,873

    ขอร่วมโมทนบุญทุกอย่าง ถวายเป็นพุทธบูชาฯขอบารมีพระทุกพระองค์จงปกป้องคุ้มครองท่านและข้าพเจ้าทั้งหลายให้เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานเทอญฯ
    (f) (f) (f) ffice:eek:ffice" /><O:p></O:p>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2007
  16. ao.angsila

    ao.angsila เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    2,332
    ค่าพลัง:
    +26,683
    ขอโมทนาบุญทุกอย่างกวายเป็นพุทธบูชาฯ ครับ
     
  17. ao.angsila

    ao.angsila เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    2,332
    ค่าพลัง:
    +26,683
    ถวายปัจจัย แผ่นทองจารึกคุณพระรัตนตรัย คาถาเงินล้าน ร่วมหล่อพระประธาน(ด้วยเหล็กน้ำพี้) หลวงพ่อเชียงแสนพุทธชัยมงคล หน้าตัก 79 นิ้ว และร่วมทอดผ้าป่าสร้างพระอุโบสถ 2 ชั้น (แบบล้านนา)
    ณ วัดไชยมงคล ต.น้ำอ่าง อ.ตรอน จ.อุตรดิตถ์ พร้อมทั้งโมทนาบุญทุกอย่างในพระศาสนานี้ น้อมถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา เพื่อความเจริญตั้งมั่นแห่งพระศาสนา และเพื่อพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ขอท่านทั้งหลายจงโปรดโมทนาบุญเพื่อประโยชน์และความสุขแก่ท่านทั้งหลายสิ้นกาลนานเทอญ​


    :cool: :cool: :cool: :cool: :cool: :cool: :cool:
    (verygood) (verygood) (verygood) (verygood)
    (b-oneeye) (bb-flower (b-oneeye)
    ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาทุกท่านร่วมหล่อพระประธานหลวงพ่อเชียงแสนพระพุทธชัยมงคล หน้าตัก 79 นิ้ว (ด้วยเหล็กน้ำพี้) และร่วมทอดผ้าป่าสร้างพระอุโบสถล้านนา 2 ชั้น

    กำหนดการ
    วันอาทิตย์ ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2550
    เวลา 08.00 น. ทอดผ้าป่า ณ ศาลาการเปรียญวัดไชยมงคล
    เวลา 10.00-15.00น. พิธีเสริมสิริมงคล โดย พระครูบากฤษณะ อินทวัณโณ เจ้าสำนักเวฬุวัน อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา
    เวลา 17.09 น. ประกอบพิธีเททองหล่อพระประธาน (ด้วยเหล็กน้ำพี้) พิธีมหาพุทธาภิเษกวัตถุมงคลด้วยเหล็กน้ำพี้
    ประธานพิธี โดย สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2007
  18. สุริยทรงศีล

    สุริยทรงศีล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    114
    ค่าพลัง:
    +1,873
    ความรัก

    ความรักเป็นภัยอย่างยิ่ง เพราะความรักทำให้เกิดชาติภพมาแล้วมากมาย
    ความรักเป็นเหตุแห่งทุกข์ เพราะอะไรก็ตามที่เรารักมาก สิ่งนั้นก็จะยิ่งทำให้เราทุกข์มาก (ข้าพเจ้ารู้ดี) แต่ถึงกระนั้นเกิดมาชาตินี้ ข้าพเจ้าก็ยังมีความรักและยังเป็นความรักที่ไม่สมหวังเสียด้วย ข้าพเจ้าไม่รู้ว่าชีวิตของข้าพเจ้าจะสิ้นสุดลงเมื่อไร ก็ได้แต่หวังว่าชาตินี้จะสามารถทำให้ความรักของข้าพเจ้าบริสุทธิ์ได้ดังพรหมวิหาร๔ ที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้


    ท้ายที่สุดเนื่องจากวันนี้เป็นวันวาเลนไทน์ ข้าพเจ้าก็ขอรวบรวมบุญที่ข้าพเจ้าบำเพ็ญมาทั้งหมด อันเป็นบุญที่เกิดจากความรักในอดีตชาติ ตลอดจนชาติปัจจุบัน ด้วยอานิสงฆ์ของบุญอันได้เกิดจากความรัก ข้าพเจ้าหวังว่าจะทำให้ข้าพเจ้ามีรักแท้ให้กับทุกคนทุกดวงจิต ให้ถึงที่สุดแห่งรักที่เคยมีมาหลายชาติหลายภพเสียที


    ด้วยอานิสงฆ์ผลบุญทั้งหมด ขอให้ข้าพเจ้าและท่านทั้งหลายได้ถึงซึ่งพระนิพพานด้วยเทอญ

    ขอมอบภาพนำตกที่ไหลจากรอยพระบาท (น้ำตกลงรู) เป็นรูปหัวใจ ให้ทุกท่านมีความสุขครับ
    SatJuly2006103610_P7080560-3.jpg
    (f) (f) (f) ​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กุมภาพันธ์ 2007
  19. ศิษโมกคัลลานะ

    ศิษโมกคัลลานะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    283
    ค่าพลัง:
    +4,317
    ข้อความเดิมโดยคุณ paang ครับ

    รักแท้...ดูแลได้
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->
    [​IMG]


    ใครๆ ก็ตามหารักแท้กัน บ้างก็หากันเกือบทั้งชีวิต แล้วก็ไม่เจอสักที อันที่จริงความรักที่มีอยู่ ทั้งคนรักเก่า (หมายถึงรักกันนานแล้ว) หรือเพิ่งรักกันหมาดๆ ก็ทำให้รักนั้นเป็นรักแท้ได้ เชื่อสิ!!!

    ภิกษุณี นิรามิสา นักบวชชาวไทย ลูกศิษย์ท่านติช นัท ฮันห์ หมู่บ้านพลัม ประเทศฝรั่งเศส ก็เคยตามหาความหมายของคำว่าความรัก แล้วก็ได้พบรักที่แท้จริงที่หมู่บ้านการปฏิบัติธรรมตามแนวทางนิกายเซนมหายานแห่งนั้น
    รักแท้แบบที่หลวงพี่นิรามิสาพบ มี 4 องค์ประกอบด้วยกัน ก็คือ เมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา ฟังแล้วคุ้นๆ เพราะเป็นองค์ประกอบเดียวกันกับหลักพรหมวิหาร 4 ที่พุทธศาสนิกชนคุ้นเคย บางคนละเลย ทำให้ชีวิตคู่หรือชีวิตเดี่ยวๆ ผ่านไปอย่างยากลำเค็ญ

    หมู่บ้านพลัมเรียกหลัก 4 ข้อนี้ว่า True love หรือ รักแท้ สูตรรัก 4 ข้อนี้ ใช้กับความสัมพันธ์แบบใดก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นคนรัก พ่อแม่ พี่น้อง เพื่อนร่วมงาน
    เมตตาและกรุณา - ความรักเป็นทั้งเมตตาและกรุณา รักแล้วก็อยากให้เขามีความสุข ถ้าเขาทุกข์ ก็อยากให้เขาพ้นความรู้สึกนั้นไปเร็วๆ (เพราะเขาทุกข์ เราก็ทุกข์ด้วย)

    การจะทำให้คนอื่นมีความสุขได้ ก็ต้องมีวิธีการและต้องมีความสามารถ ถ้ายังทำให้ตัวเองมีความสุขไม่เป็น แล้วจะทำให้คนอื่นมีความสุขได้ ก็เป็นเรื่องยาก
    หลวงพี่นิรามิสา ยกตัวอย่างพ่อแม่ที่อยากให้ลูกมีความสุข ขวนขวายซื้อของให้ลูกมากมาย แต่ลูกก็อาจไม่มีความสุขก็ได้ เพราะสิ่งที่เด็กบางคนต้องการคือ การที่พ่อแม่ได้อยู่กับเขาจริงๆ หรือระหว่างคนรัก บางครั้งอยู่ด้วยกัน แต่ก็เหมือนไม่ได้อยู่ด้วยกันจริงๆ

    "พ่อแม่บางคนอยู่กับลูกในวันหยุดก็อยู่ได้แต่ตัว ส่วนจิตใจก็ครุ่นคิดแต่เรื่องงาน หรือสาละวนอยู่กับการโทรศัพท์คุยงาน แต่ถ้าเรามีสติที่จะอยู่กับสถานการณ์ตรงหน้า การอยู่ตรงนั้นจริงๆ กับคนรัก เป็นของขวัญที่มีค่าที่สุดแล้ว"
    เราฝึกความสามารถที่จะทำให้คนรักของเรามีความสุขได้ ทักษะแรกที่จะทำให้องค์ประกอบทั้งหมดแห่งรักแท้เกิดขึ้นได้คือ การฟัง

    ภิกษุณีจากหมู่บ้านพลัม บอกว่า การฟังอย่างลึกซึ้งหรือการฟังอย่างประณีต ทำให้เรามองเห็นคนอื่นได้อย่างแท้จริง เมื่อมองเห็นก็สามารถที่จะทำให้คนนั้นเป็นสุขหรือพ้นทุกข์ก็ได้ทั้งนั้น

    การฟังอย่างลึกซึ้งไม่ใช่แบบที่ฟังในห้องประชุมที่มีแต่คนพูดๆ แต่ไม่มีคนฟัง การที่ใครคนหนึ่งในนั้นหยุดพูด ไม่ได้แปลว่าเขากำลังฟัง แต่เขากำลังรอให้อีกฝ่ายพูดจบ เพื่อจะพูดสิ่งที่ตัวเองคิดไว้

    "ฟังอย่างลึกซึ้งต้องเป็นเหมือนโถเปล่าๆ ที่รองรับน้ำได้ทุกหยด ต้องตั้งใจ ต้องมีสติฟังที่เขาพูดทุกอย่าง ถ้าฟังไม่ได้ ก็จะไม่รู้จักคำว่ากรุณา การได้ฟังจริงๆ จะทำให้เราได้เรียนรู้อะไรมากมาย ฟังที่เขาพูดก็ต้องสนใจเขา มองเขา สบสายตาเขา" หลวงพี่นิรามิสา ว่า บางครั้งการได้ฟังอย่างนี้ คนพูดก็มีความสุขแล้ว โดยที่คนฟังยังไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่นให้เลย

    นอกจากทำให้เป็นสุขแล้ว การฟังยังทำให้พ้นทุกข์ได้ เพราะเมื่อฟังกันแล้ว ก็จะเกิดความเข้าใจที่ลึกซึ้ง ทำให้เกิดความเอ็นดู ความสงสาร เหมือนได้เข้าไปอยู่ในเนื้อหนังมังสาของผู้พูด เมื่อเป็นเช่นนั้น ถ้าเขาทุกข์ก็อยากให้เขาพ้นทุกข์ ซึ่งก็คือความกรุณา

    ความอยากให้คนอื่นหลุดจากความทุกข์ ก็ต้องมีวิธีเช่นเดียวกับเรื่องอยากให้คนอื่นมีความสุข เริ่มต้นอย่างเดียวกันคือ ตัวเองต้องรู้จักวิธีขจัดทุกข์ของตัวเองก่อน อย่างง่ายๆ เมื่อรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา ก็ต้องรู้วิธีทำให้ตัวเองหายหงุดหงิด ไม่ใช่ปล่อยให้ตัวเองรู้สึกอย่างนั้นทั้งวัน พลอยทำให้คนอื่นรู้สึกหงุดหงิดรำคาญไปด้วย

    ที่หมู่บ้านพลัมฝึกฝนการแก้อาการหงุดหงิดด้วยการกลับมาอยู่กับลมหายใจของตัวเอง หายใจเข้าก็ผ่อนคลาย หายใจออกก็ผ่อนคลาย การกลับมาดูแลตัวเองก็ทำให้หายหงุดหงิดได้ ออกไปชมดอกไม้หรือไปยืนตรงหน้าต่าง ชมวิว รับอากาศบริสุทธิ์ อยู่กับลมหายใจ ความหงุดหงิดก็ผ่อนคลาย

    เมื่อแก้ความหงุดหงิดของตัวเองเป็น ก็ช่วยคนอื่นได้ เห็นคนอื่นหงุดหงิดก็จะเข้าใจ มีวิธีช่วยเขาได้ ชวนเขาออกไปเดินเล่นหรือนั่งดื่มกาแฟด้วยกัน เพราะเราเคยผ่านสิ่งเหล่านี้ด้วยตัวเอง แต่ถ้าไม่สัมผัสด้วยตัวเอง ก็จะไม่เข้าใจไปวิพากษ์วิจารณ์เขาว่า ทำไมเป็นอย่างนี้แย่จังเลย

    มุทิตาและอุเบกขา - มุทิตาคือ ความสามารถที่จะรู้สึกยินดีเมื่อคนอื่นมีความสุข ส่วนอุเบกขา ไม่ใช่อย่างที่มีคนเข้าใจว่าเป็นการอยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไรเลย ถ้าแปลดีๆ ก็คือ ความสามารถที่จะโอบรับสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นได้ คือขันติ คือความอดทน

    หลวงพี่นิรามิสา บอกว่า มีความรู้สึกยินดีเมื่อคนอื่นมีความสุข หรือรู้สึกว่าความสุขของคนรักคือความสุขของเรา ถ้ารู้สึกอย่างนั้นไม่ได้ ก็คือความอิจฉา

    "เมื่อใดที่คิดว่าเราเป็นอย่างนี้ เขาเป็นอย่างนี้ แม้จะยังไม่ได้คิดอิจฉา แต่มันจะเป็นจุดเริ่ม จิตจะทำงานทำการเปรียบเทียบ ถ้าเปรียบแล้วแย่กว่า ก็จะรู้สึกต่ำต้อย ถ้าดีกว่าก็รู้สึกว่าตัวเองแน่กว่าใครๆ ก็จะก่อความรู้สึกเรื่องตัวตนมากขึ้น มันก็เหนื่อย แต่ถ้าฝึกสติก็จะทัน เมื่อว่ามีความรู้สึกเปรียบเทียบขึ้นมา ต้องเห็นว่ามันไม่มีประโยชน์ เพราะมันเหนื่อย ก็หยุดมันเสีย"

    ทำไมเราจึงอิจฉา? ก่อนจะตอบได้ ก็ต้องตระหนักว่าในตัวของคนเรามีเมล็ดพันธุ์ต่างๆ ในตัวมากมายและพร้อมจะงอกงาม ขึ้นอยู่กับว่าเราหมั่นรดน้ำพรวนดินให้กับเมล็ดพันธุ์ใดบ้าง เมล็ดพันธุ์แห่งความเมตตาความกรุณา เมล็ดแห่งความโกรธเกลียด เมล็ดแห่งความอิจฉา

    ถ้าเห็นตัวเองแล้วไม่แก้ไข ไม่เฉพาะตัวเองที่เป็นทุกข์ ถูกไฟอิจฉาเผาใจ คนอื่นก็เป็นทุกข์ เพราะคนเราไม่ได้ทำดีแล้วได้ดีคนเดียว แต่เราทำดีคนอื่นก็ได้ดีด้วย สังคมก็ดีด้วย ทุกอย่างล้วนเชื่อมโยงกัน

    "ถ้าอิจฉาก็ให้ยิ้มให้กับความรู้สึกนั้น ยอมรับมันเสีย แล้วก็อยู่นิ่งๆ กับลมหายใจ บางทีมันก็ผุดขึ้นมาให้ระลึกได้ว่า อาการแบบนั้นมันมาจากไหน บางคนก็คลี่คลายได้ เพราะมองเห็นตัวเองตอนเด็กๆ ตอนที่แม่กำลังให้ของขวัญพี่สาว แต่ตัวเองไม่ได้ เราเปลี่ยนสิ่งที่เกิดขึ้นในวันก่อนๆ ไม่ได้ แต่เราเปลี่ยนวันนี้ได้ อนาคตของเราก็เปลี่ยน"

    ส่วนขันติหรือความอดทน อันเป็นความสามารถในการโอบรับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ขึ้นอยู่กับคุณภาพของจิตใจ ถ้าจิตใจดี เบิกบาน หากมีใครมาพูดอะไรก็ไม่รู้สึกโกรธ แต่ถ้าความรู้สึกกำลังลบอยู่ ด้วยคำพูดเดียวกัน กลับทำให้รู้สึกโกรธได้
    หลวงพี่มิรามิสา บอกว่า คนเราจัดการความคิดได้ ก็ดูแลการกระทำหรือวาจาของตัวเองได้ ถ้ารู้สึกดีแม้ไม่ได้พูด ก็ยังทำให้ยิ้มแย้มได้ แต่ถ้าคิดกับคนอื่นไม่ดี เมื่อเห็นหน้าเขา ก็ไม่กล้ายิ้มแล้ว แล้ววาจาที่พูดก็จะเป็นลักษณะปกป้องตัวเองหรือเสียดสี ฉะนั้นการดูแลความรู้สึกตัวเองเป็นเรื่องสำคัญ

    "บางครั้งเราไม่รู้ตัวว่าเราคิดอะไรอยู่ข้างใน พอเจอสถานการณ์อย่างนี้ ก็จะพูดไม่ดีออกมาเอง มันเหมือนเป็นโปรแกรมที่เซตไว้แล้ว กดปุ๊บอันนี้ขึ้นมาเลย เป็นพลังของนิสัย ซึ่งอาจจะตกทอดมาจากบรรพบุรุษ หรือตอนเด็กๆ เราถูกบ่มเพาะมาอย่างนี้ โตขึ้นก็พูดแบบนี้ น้ำเสียงจะเป็นแบบนี้ เวลาที่เราฝึกเราต้องกลับมามีสติอย่างมากๆ ต้องมีเพื่อนที่เปิดใจกัน ช่วยเตือน ถ้าเรากำลังแสดงพลังลบๆ ออกมาก ก็ให้ช่วยส่งสัญญาณเตือน"

    นอกจากสูตรรัก 4 ข้อนี้แล้ว ความรักจะอยู่ยืนยงได้ ก็ต้องหมั่นสร้างความสัมพันธ์ใหม่อยู่เสมอ การสื่อสารที่ดี ได้พูด ได้ฟังกันอย่างแท้จริง จะช่วยให้เกิดการหมุนเวียน เหมือนน้ำที่ถูกขังไว้นิ่งๆ ไม่นานก็จะเน่าเสีย แต่ถ้าทำระบบให้ไหลหมุนเวียนดี ก็จะทำให้ทุกอย่างสดชื่นขึ้นได้


    ............................
    หมายเหตุ : จากงานเสวนา ภาวนาว่าด้วย...รัก โดยภิกษุณี นิรามิสา จัดโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
    <!-- / message --><!-- sig -->

    ____________________________________________________________
     
  20. JIP77

    JIP77 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +225
    โมทนาสาธุ..........
     

แชร์หน้านี้

Loading...